โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
“...เกิดเป็นผู้ชายต้องมีใจอดทน กี่ครั้งกี่หนทนเก็บเอาไว้
จะคอยทำร้ายใจกันอีกนานถึงไหน หรือผู้ชายเสียใจไม่เป็น”
เพลง “เกิดเป็นผู้ชาย” : วงแกรนด์เอ็กซ์
..........................
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันใดก็ฉันเพล ที่วงดนตรีก็ย่อมมีวันแยกวง
สำหรับวงแกรนด์เอ็กซ์ก็เป็นหนึ่งในวงที่หนีไม่พ้นจากวัฏจักรนี้
หลังพวกเขาสร้างชื่อทำยอดขายถล่มทลายเกินล้านตลับตั้งแต่ชุดแรก“ลูกทุ่งดิสโก้ 1”(2522) แล้วต่อด้วย “แกรนด์เอ็กซ์โอ(2524)ที่ทำสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของวง ร่วมกับการฝากฝีไม้ลายมือไว้ในยุครุ่งโรจน์สุดๆของวงทั้งฝีไม้ลายมือและการทำเพลง ในชุด“เพชร”(2526) และ“บริสุทธิ์”(2527)ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 2 ผลงานเพลงที่ดีที่สุดของวงดนตรีวงนี้ โดยเฉพาะกับอัลบั้มเพชรนั้นถือเป็นเพชรยอดมงกุฎประดับวงการเพลงไทยเลยทีเดียว
วงแกรนด์เอ็กซ์ยุคทองก็เดินมาถึงจุดอิ่มตัว สมาชิก 5 คน ขอแยกวงไปด้วยแนวคิดและเหตุผลที่เห็นต่างกัน นำโดย “พี่อ็อด -ศรายุทธ สุปัญโญ” มือคีย์บอร์ดและซินธิไซเซอร์ ที่ชิงลาออกไปคนแรก จากนั้นตามด้วย 4 จอมยุทธ์ คือ พี่แอ๊ด-ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ : เบส,พี่ตี๋-วสันต์ สิริสุขพิสัย : คีย์บอร์ด,พี่รัก-พนัส หิรัญกสิ : แซ็กโซโฟน และ พี่แดง-เสน่ห์ ศุภรัตน์ มือทรัมเป็ต ที่พร้อมใจกันลาออกไปร่วมกับนักดนตรีจำนวนหนึ่งก่อตั้งวง“เพื่อน”ขึ้นมา
แกรนด์เอ็กซ์ในช่วงนี้ถือว่าระส่ำระสายพอตัว แต่ท้ายที่สุด 4 สมาชิกที่เหลืออยู่ คือ พี่ต้อง-นคร เวชสุภาพร : กีตาร-หัวหน้าวง, พี่แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ : ร้องนำ,พี่เบิ้ม-ประสิทธิ์ ไชยะโท : กลอง และ พี่เต๊ะ-โชคดี พักภู่ : ทรอมโบน ก็ไม่ได้ถอดใจ ยังคงยืนหยัดสานต่อความเป็นแกรนด์เอ็กซ์ เดินหน้าสร้างตำนานเพลงต่อไป
แกรนด์เอ็กซ์ยุคผลัดใบ
แกรนด์เอ็กซ์ในยุคหลังการแตกตัวครั้งใหญ่ ได้ปรับเปลี่ยนชื่อเป็น “แกรนด์เอ็กซ์-แฟมิลี่” พร้อมกับส่งอัลบั้มชุดที่ 15 “หัวใจสีชมพู” ออกมาในปี 2528
อัลบั้มนี้ ชื่อชั้นของแกรนด์เอ็กซ์ยังขายได้ มีเพลงดังๆที่ไม่ตายนำโดย “หัวใจสีชมพู” ที่ฟังแล้วคล้ายเป็นภาคต่อของหัวใจมีปีก เพลงนี้มาแบบมันๆ พี่แจ้ร้องถ่ายทอดออกมาได้สนุกๆถึงอารมณ์ ขณะที่ท่อนฮุคของเพลงนี้ก็ถือว่าติดหูใช้ได้ไม่เลวเลย
ตามกันด้วย “ระฆังใจ” ที่มาในอารมณ์โรแมนติ๊ก โรแมนติก โดยพี่ต้อง-นคร เป็นผู้ขับขานแบบเท่เหลือใจ ชนิดลูกโต๋ก็ลูกโต๋เถอะ เจอพ่อต้องสมัยหนุ่มๆเข้าไปอาจจะกระเจิงเอาได้ง่ายๆ
ในอัลบั้มหัวใจสีชมพู ยังมีอีก 3 เพลงเด่น คือ “หนทางสู่รัก” “หัวใจที่ถอดวาง”และ“ขอใจให้พี่” บัลลาดช้าๆที่มาในอารมณ์เศร้าซึ้งกับน้ำเสียงกระเส่าขยี้ใจอันเป็นเอกลักษณ์ของพี่แจ้ ร่วมด้วยเพลง“ลุงเชย”ที่ขับร้องโดย พี่เต๊ะ-โชคดี ลุงเชยมาในอารมณ์สนุกๆกวนๆคล้ายกับป้าแช่ม ซึ่งก็สร้างให้นี่เป็นอีกหนึ่งเพลงประจำตัวของพี่เต๊ะคู่กับป้าแช่มที่กลายเป็นเพลงลายเซ็นตลอดกาลของเขา
เรียกได้ว่าแกรนด์เอ็กซ์ในชุดหัวใจสีชมพู ยังคงรักษามาตรฐานและรสเพลงแบบแกรนด์เอ็กซ์เอาไว้ได้ในระดับที่ดีทีเดียว
หลังจากอัลบั้มนี้มีข่าวการลาออกของพี่แจ้ร่ำๆมาอยู่เรื่อยๆ แต่ท้ายที่สุดทางวงก็ส่งอัลบั้มชุดที่ 16 “สายใย“(2528)ออกมา พร้อมกับการเปิดตัวสมาชิกใหม่ “โอ๋ : ไอศูรย์ วาทยานนท์” หนุ่มฮอตแห่งยุค(นั้น) ซึ่งก็มีข่าวลือหนาหูว่าทางวงแกรนด์เอ็กซ์และค่ายต้นสังกัดคือนิธิทัศน์ได้พูดคุยกับพี่แจ้ว่าอย่าเพิ่งรีบลาออก ขอให้ช่วยประคองแกรนเอ็กซ์ไปอีกสักหนึ่งชุด เพื่อเฟ้นหานักร้องนำคนใหม่ ซึ่งก็ได้หนุ่มโอ๋เข้ามา
อัลบั้มสายใยนี้แม้ไม่ฮอตฮิตโด่งดังเทียบมาตรฐานเดิมของแกรนด์เอ็กซ์ แต่ก็ยังคงมีเพลงฮิตที่เป็นตำนานมาถึงทุกวันนี้ อย่าง “คนธรรพ์รำพัน” อีกเพลงสนุกสไตล์พี่แจ้กับ“สายัณห์รัญจวน” ที่นอกจากจะเพราะกินใจแล้ว เสียงร้อง แฮะแฮ ในเพลงนี้ ก็กลายเป็นสิ่งคู่กันที่ผมฟังเพลงนี้ทีไรก็ต้องอดร้อง แฮะแฮ ตามไปด้วยไม่ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเพลง“ยังคอย”และ“ยอม” เป็นอีก 2 เพลงเด่น ที่พี่แจ้ยังคงเอกลักษณ์เสียงนุ่มหล่อปานระฆังทองในเพลงบัลลาดช้าๆได้อย่างยอดเยี่ยม
และอย่างที่บอกไปว่าเมื่อแกรนด์เอ็กซ์ได้ โอ๋-ไอศูรย์ มา พวกเขาก็พรีเซ้นต์ให้พี่โอ๋ดูเด่นสุดในภาพหน้าปก กับการสวมใส่เสื้อสีขาวเด่นตัดกับ 4 สมาชิกเดิมที่มาในชุดเสื้อสีดำล้วน
อย่างไรก็ตามหากพูดกันถึงเรื่องของความเด่นในน้ำเสียง ลีลา และสไตล์การร้องเพลงแล้ว ต้องยอมรับว่า เขายังไม่ถึงขั้นถึงชั้นพี่แจ้ แต่กระนั้นโอ๋-ไอศูรย์ก็มี“สายใย”เป็นเพลงเอก สร้างชื่อให้กับเขา ด้วยเนื้อหาชวนฝันหวานซึ้ง ซึ่งไปได้ดีกับน้ำเสียงนุ่มๆเนิบๆของเขา จนกลายมาเป็นหนึ่งในเพลงเทรดมาร์คของโอ๋-ไอศูรย์ มาจนทุกวันนี้
แกรนด์เอ็กซ์ขาลง
วงการเพลงไทยในช่วงปี 27-30 ถือเป็น ยุคทองของวงดนตรีเพื่อชีวิตอย่าง “คาราบาว” ที่ยึดหัวหาดแฟนเพลงไว้ได้ทั่วฟ้าเมืองไทย ขณะที่วงดนตรีที่เคยเกรียงไกรอย่างแกรนด์เอ็กซ์นั้น การลาออกไปของพี่แจ้หลังชุดสายใย ส่งผลให้พวกเขาเดินเข้าสู่ยุคขาลงอย่างเต็มตัว
แกรนด์เอ็กซ์ในยุคนี้แม้แสงแห่งความเจิดจรัสจะลดความแรงจ้าลงไปมาก แต่พวกเขาก็ยังคงสู้และเดินหน้าต่อด้วยการดึง “จอนนี่-จอนนี่ แอนโฟเน่” “เอ-อริชัย อรัญนารถ” และไก่-สุธี แสงเสรีชน เข้ามาเสริมทีม ออกอัลบั้มชุด“ขวดโหล 1-2” ตามติดกันมา
ในขวดโหล 1 มีเพลง “ทรายกับทะเล” เป็นเพลงเด่นที่ในยุคนั้นถือว่าโด่งดังพอตัวในระดับหนึ่ง แต่ด้วยความไพเราะและความสวยงามของเพลง ทำให้นักร้องบางคนในยุคหลังได้นำเพลงนี้กลับมาร้องคัพเวอร์ใหม่ กลายเป็นเพลงสุดโรแมนติก ที่เด็กรุ่นใหม่หลายคนอาจไม่รู้ว่านี่คือเพลงของวงแกรนด์เอ็กซ์อันลือลั่น
“...หวังอีกครั้งคงยังไม่สาย พี่หวังเป็นทราย น้องเป็นทะเล ถึงเมฆฝนคลื่นลมเกเร ทรายกับทะเลไม่เคยห่างกัน”
ขณะที่ในชุดขวดโหล 2(ขอภาพไว้คั่นตำรา)นั้นก็มีเพลง “ขอภาพไว้คั่นตำรา” เป็นอีกหนึ่งเพลงเจ๋งที่ยังไม่ตายมาจนถึงวันนี้
เพลงนี้เป็นบัลลาดช้าๆ มีเสียงกีตาร์ใสๆเล่นคลอไปกับเสียงร้องนุ่มๆที่ผมฟังทีไรก็ยังคงหวนคิดถึงความโรแมนติกในยุคนั้นอยู่ไม่เสื่อมคลาย
“...ขอภาพเธอเท่านั้น ฉันจะเอาไว้คั่นตำรา เห็นครั้งใด ได้เตือนใจว่า เร่งเรียนอย่าช้า เพราะเธอคอยดู สอบเมื่อไรต้องเด่น ฉันมีเธอเป็นน้ำทิพย์ชื่นชู หากครูถาม จะตอบให้รู้ เกรดดีเพราะครู สอบได้เพราะเธอ”
ขอภาพไว้คั่นตำรา เป็นเพลงที่สะท้อนวิถีของวัยรุ่นในยุคนั้นที่แตกต่างไปจากวิถีของเด็กในยุคนี้ได้อย่างเด่นชัดไม่น้อยเลย ซึ่งแน่นอนว่าคนเกิดร่วมสมัยในยุคสมัยชาตรี แกรนด์เอ็กซ์ คาราบาว อินโนเซ้นท์ อย่างผมก็ต้องบอกว่าหลายสิ่งหลายอย่างในยุคนั้น มันมีความคลาสสิคและทรงคุณค่าชนิดที่หวนรำลึกนึกถึงคราใดเป็นต้องอิ่มเอิบใจทุกทีไป
กลับมาที่เรื่องราวของแกรนด์เอ็กซ์กันต่อ ด้วยทิศทางของแนวเพลงไทยที่เปลี่ยนไป รสนิยมของแฟนเพลงไทยที่เปลี่ยนไป รวมถึงการผ่านจุดสูงสุดของสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์รุ่นใหญ่มาแล้ว ทำให้ผลงานเพลงของวงนี้เกิดสภาวะตีบตันทางไอเดีย บทเพลงของแกรนด์เอ็กซ์ในยุคขาลงจึงไม่เปรี้ยงปร้างโด่งดังเหมือนก่อน ซึ่งแม้แต่ความหล่อของ 2 หนุ่มอย่าง โอ๋-ไอศูรย์ และจอนนี่ก็ช่วยกระตุ้นชื่อเสียงให้กับทางวงไม่ได้มากมาย
อย่างไรก็ตามแม้แกรนด์เอ็กซ์จะแผ่วพลังลง แต่ดนตรีของเขาก็ไม่ได้ทำออกมาขี้เหร่และแบบสุกเอาเผากินเหมือนเพลงอิงกระแสตลาดหลายๆวงในสมัยนี้ โดยในปี พ.ศ. 2529 แกรนด์เอ็กซ์ส่งอัลบั้มที่ 17 “นิรัดร์กาล”ออกมาแบบหงอยๆ ตามด้วยอัลบั้มชุด “อยากให้ความรัก(แด่คนทั้งโลก)” ในปี 2530 ที่เพลงนำอัลบั้มคือ “อยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก” เป็นการนำเพลงเก่าของ “วงน้ำค้าง” ที่มีชื่อขึ้นมาจากการร้องของ “วงคีตาญชลี” มาร้องใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่านี่เป็นการพยายามปรับแนวทางของแกรนด์เอ็กซ์เพื่ออิงกับกระแสเพื่อชีวิตนิยมในยุคนั้นหรือเปล่า
จากนั้นแกรนด์เอ็กซ์ออกอัลบั้มชุดพิเศษ “ดวงใจกับความรัก” ที่เป็นการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาขับร้องใหม่ ในปลายปี 2530 ก่อนส่งอัลบั้มชุดสุดท้ายชุดที่ 19 ออกมาในชื่อชุด “ได้ไหม” ในปลายปี 2531 ซึ่งพี่ต้อง-นคร ได้ถ่ายน้ำหนักการทำเพลงไปให้กับพี่ไก่-สุธี ที่ถือเป็นคลื่นลูกใหม่แห่งวงการเพลงในยุคนั้น
และเขาเป็นคลื่นที่ยังมีความแรงคู่วงการเพลงมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะกับตำแหน่งคอมเม้นต์เตเตอร์ที่คนรู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง ชนิดที่เด็กรุ่นใหม่จำนวนมากต่างรู้จักเขาดีในฐานะคอมเม้นต์เตเตอร์ มากกว่าจะรู้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นอดีตสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ผู้เคยฝากผลงานเพลงอมตะอย่าง “เกิดเป็นผู้ชาย” เอาไว้คู่กับวงการเพลงไทย
เกิดเป็นผู้ชาย เป็นเพลงดังโดดๆจากอัลบั้มชุดได้ไหมที่คงความคลาสสิคและกลายเป็นลายเซ็นของพี่ไก่มาจนถึงทุกวันนี้ เพลงนี้ในอินโทรขึ้นเพลงมีเสียงร้อง“ฮ้า”ประกอบนำมา ก่อนส่งเข้าเพลงท่อนแรกด้วยเสียงร้องคลอไปกับเปียโน แล้วตามด้วยกลอง เบส กีตาร์ เพิ่มความหนักที่ตามมาในท่อนสองที่เป็นไปตามสูตรสำเร็จของเพลงบัลลาดร็อคในยุคนั้น
สำหรับเพลงนี้ เนื้อหานอกจากจะโดนใจหนุ่มๆทั้งหลายแล้ว มิวสิควีดีโอของเพลงนี้ที่ได้ พี่เอ็ม-สุรศักดิ์ วงศ์ไทย ตอนยังเท่ ไว้ผมยาวเซอร์ๆปนเถื่อนนิดๆ มาเล่นเป็นพระเอกมิวสิค ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดโดนที่ ทั้งเพลง ทั้งพระเอก ทั้งมิวสิค มันช่างเข้ากั๊น เข้ากันดีเหลือเกิน ชนิดใครและใครหลายคนต่างพูดเป็นเสียงกันว่า เพลงนี้มันช่าง “แมนโคตร” “โคตรแมน” หรือ “แมนสุดๆ” เหลือเกิน
หลังความพยายามยื้อลมหายใจในช่วงขาลงมาจนถึงอัลบั้มชุดสุดท้าย“ได้ไหม” วงแกรนด์เอ็กซ์ก็ถึงจุดที่ต้องประกาศยุติวงอย่างเป็นทางการ ปิดฉากวงอดีตดนตรีอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร ทิ้งไว้เพียงตำนานความยิ่งใหญ่ และผลงานเพลงดีๆของพวกเขาที่ยังคงความอมตะเคียงคู่วงการเพลงไทยมาจนถึงทุกวันนี้
*****************************************
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
- ปี พ.ศ. 2545 สมาชิกแกรนด์เอ็กซุ์คสุดยอดกลับมารวมตัวกันเล่นคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้ง ท่ามกลางการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งของแฟนเพลง ทำให้หลังจากนั้นพวกเขาได้มีการรวมตัวกันในแบบเฉพาะกิจอีกบ้าง ตามแต่วาระอันสมควร
- ข้อมูลส่วนหนึ่งอ้างอิงจาก เว็บไซต์แกรนด์เอกซ์ แฟนคลับ
- ขอจบเรื่องราวของวงแกรนด์เอ็กซ์แต่เพียงเท่านี้
*****************************************
บทความแนะนำเพลงน่าสนใจย้อนยุค จะนำเสนอสัปดาห์เว้นสัปดาห์ สลับกับบทความแนะนำเพลงน่าสนใจในสมัยนิยม
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : รวมศิลปินผู้หญิง
อัลบั้ม : Songbird
นอกจากกระแสผู้หญิงในบ้านเราจะมาแรงรับ(ว่าที่)นายกฯหญิงคนแรกของเมืองไทยแล้ว กระแสผู้หญิงในยุทธจักรดนตรีก็ยังคงแรงดีไม่มีสร่าง นั่นจึงทำให้ทางค่าย “Warner Music”ได้รวบรวมเพลงเพราะๆ 36 เพลง จาก 36 ศิลปินหญิงแถวหน้า ไม่ว่าจะเป็น Lady Antebellum,Norah Jones,Adele,Sarah McLachlan,Lisa Ono และ ฯลฯ พร้อมด้วย 2 เพลงพิเศษ “Love Love Love” จากสาว “Hope” กับเพลง “Before It Explodes” ของสาวน้อยมหัศจรรย์ “Charice” ที่ยังไม่เคยรวมไว้ในอัลบั้มไหนมาก่อน ซึ่งนี่นับเป็นอีกหนึ่งผลงานรวมเพลงที่ไม่ได้เหมาะสำหรับผู้หญิงอย่างเดียว แต่ยังเหมาะสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบเพลงเพราะๆอีกด้วย
“...เกิดเป็นผู้ชายต้องมีใจอดทน กี่ครั้งกี่หนทนเก็บเอาไว้
จะคอยทำร้ายใจกันอีกนานถึงไหน หรือผู้ชายเสียใจไม่เป็น”
เพลง “เกิดเป็นผู้ชาย” : วงแกรนด์เอ็กซ์
..........................
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันใดก็ฉันเพล ที่วงดนตรีก็ย่อมมีวันแยกวง
สำหรับวงแกรนด์เอ็กซ์ก็เป็นหนึ่งในวงที่หนีไม่พ้นจากวัฏจักรนี้
หลังพวกเขาสร้างชื่อทำยอดขายถล่มทลายเกินล้านตลับตั้งแต่ชุดแรก“ลูกทุ่งดิสโก้ 1”(2522) แล้วต่อด้วย “แกรนด์เอ็กซ์โอ(2524)ที่ทำสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของวง ร่วมกับการฝากฝีไม้ลายมือไว้ในยุครุ่งโรจน์สุดๆของวงทั้งฝีไม้ลายมือและการทำเพลง ในชุด“เพชร”(2526) และ“บริสุทธิ์”(2527)ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 2 ผลงานเพลงที่ดีที่สุดของวงดนตรีวงนี้ โดยเฉพาะกับอัลบั้มเพชรนั้นถือเป็นเพชรยอดมงกุฎประดับวงการเพลงไทยเลยทีเดียว
วงแกรนด์เอ็กซ์ยุคทองก็เดินมาถึงจุดอิ่มตัว สมาชิก 5 คน ขอแยกวงไปด้วยแนวคิดและเหตุผลที่เห็นต่างกัน นำโดย “พี่อ็อด -ศรายุทธ สุปัญโญ” มือคีย์บอร์ดและซินธิไซเซอร์ ที่ชิงลาออกไปคนแรก จากนั้นตามด้วย 4 จอมยุทธ์ คือ พี่แอ๊ด-ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ : เบส,พี่ตี๋-วสันต์ สิริสุขพิสัย : คีย์บอร์ด,พี่รัก-พนัส หิรัญกสิ : แซ็กโซโฟน และ พี่แดง-เสน่ห์ ศุภรัตน์ มือทรัมเป็ต ที่พร้อมใจกันลาออกไปร่วมกับนักดนตรีจำนวนหนึ่งก่อตั้งวง“เพื่อน”ขึ้นมา
แกรนด์เอ็กซ์ในช่วงนี้ถือว่าระส่ำระสายพอตัว แต่ท้ายที่สุด 4 สมาชิกที่เหลืออยู่ คือ พี่ต้อง-นคร เวชสุภาพร : กีตาร-หัวหน้าวง, พี่แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ : ร้องนำ,พี่เบิ้ม-ประสิทธิ์ ไชยะโท : กลอง และ พี่เต๊ะ-โชคดี พักภู่ : ทรอมโบน ก็ไม่ได้ถอดใจ ยังคงยืนหยัดสานต่อความเป็นแกรนด์เอ็กซ์ เดินหน้าสร้างตำนานเพลงต่อไป
แกรนด์เอ็กซ์ยุคผลัดใบ
แกรนด์เอ็กซ์ในยุคหลังการแตกตัวครั้งใหญ่ ได้ปรับเปลี่ยนชื่อเป็น “แกรนด์เอ็กซ์-แฟมิลี่” พร้อมกับส่งอัลบั้มชุดที่ 15 “หัวใจสีชมพู” ออกมาในปี 2528
อัลบั้มนี้ ชื่อชั้นของแกรนด์เอ็กซ์ยังขายได้ มีเพลงดังๆที่ไม่ตายนำโดย “หัวใจสีชมพู” ที่ฟังแล้วคล้ายเป็นภาคต่อของหัวใจมีปีก เพลงนี้มาแบบมันๆ พี่แจ้ร้องถ่ายทอดออกมาได้สนุกๆถึงอารมณ์ ขณะที่ท่อนฮุคของเพลงนี้ก็ถือว่าติดหูใช้ได้ไม่เลวเลย
ตามกันด้วย “ระฆังใจ” ที่มาในอารมณ์โรแมนติ๊ก โรแมนติก โดยพี่ต้อง-นคร เป็นผู้ขับขานแบบเท่เหลือใจ ชนิดลูกโต๋ก็ลูกโต๋เถอะ เจอพ่อต้องสมัยหนุ่มๆเข้าไปอาจจะกระเจิงเอาได้ง่ายๆ
ในอัลบั้มหัวใจสีชมพู ยังมีอีก 3 เพลงเด่น คือ “หนทางสู่รัก” “หัวใจที่ถอดวาง”และ“ขอใจให้พี่” บัลลาดช้าๆที่มาในอารมณ์เศร้าซึ้งกับน้ำเสียงกระเส่าขยี้ใจอันเป็นเอกลักษณ์ของพี่แจ้ ร่วมด้วยเพลง“ลุงเชย”ที่ขับร้องโดย พี่เต๊ะ-โชคดี ลุงเชยมาในอารมณ์สนุกๆกวนๆคล้ายกับป้าแช่ม ซึ่งก็สร้างให้นี่เป็นอีกหนึ่งเพลงประจำตัวของพี่เต๊ะคู่กับป้าแช่มที่กลายเป็นเพลงลายเซ็นตลอดกาลของเขา
เรียกได้ว่าแกรนด์เอ็กซ์ในชุดหัวใจสีชมพู ยังคงรักษามาตรฐานและรสเพลงแบบแกรนด์เอ็กซ์เอาไว้ได้ในระดับที่ดีทีเดียว
หลังจากอัลบั้มนี้มีข่าวการลาออกของพี่แจ้ร่ำๆมาอยู่เรื่อยๆ แต่ท้ายที่สุดทางวงก็ส่งอัลบั้มชุดที่ 16 “สายใย“(2528)ออกมา พร้อมกับการเปิดตัวสมาชิกใหม่ “โอ๋ : ไอศูรย์ วาทยานนท์” หนุ่มฮอตแห่งยุค(นั้น) ซึ่งก็มีข่าวลือหนาหูว่าทางวงแกรนด์เอ็กซ์และค่ายต้นสังกัดคือนิธิทัศน์ได้พูดคุยกับพี่แจ้ว่าอย่าเพิ่งรีบลาออก ขอให้ช่วยประคองแกรนเอ็กซ์ไปอีกสักหนึ่งชุด เพื่อเฟ้นหานักร้องนำคนใหม่ ซึ่งก็ได้หนุ่มโอ๋เข้ามา
อัลบั้มสายใยนี้แม้ไม่ฮอตฮิตโด่งดังเทียบมาตรฐานเดิมของแกรนด์เอ็กซ์ แต่ก็ยังคงมีเพลงฮิตที่เป็นตำนานมาถึงทุกวันนี้ อย่าง “คนธรรพ์รำพัน” อีกเพลงสนุกสไตล์พี่แจ้กับ“สายัณห์รัญจวน” ที่นอกจากจะเพราะกินใจแล้ว เสียงร้อง แฮะแฮ ในเพลงนี้ ก็กลายเป็นสิ่งคู่กันที่ผมฟังเพลงนี้ทีไรก็ต้องอดร้อง แฮะแฮ ตามไปด้วยไม่ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเพลง“ยังคอย”และ“ยอม” เป็นอีก 2 เพลงเด่น ที่พี่แจ้ยังคงเอกลักษณ์เสียงนุ่มหล่อปานระฆังทองในเพลงบัลลาดช้าๆได้อย่างยอดเยี่ยม
และอย่างที่บอกไปว่าเมื่อแกรนด์เอ็กซ์ได้ โอ๋-ไอศูรย์ มา พวกเขาก็พรีเซ้นต์ให้พี่โอ๋ดูเด่นสุดในภาพหน้าปก กับการสวมใส่เสื้อสีขาวเด่นตัดกับ 4 สมาชิกเดิมที่มาในชุดเสื้อสีดำล้วน
อย่างไรก็ตามหากพูดกันถึงเรื่องของความเด่นในน้ำเสียง ลีลา และสไตล์การร้องเพลงแล้ว ต้องยอมรับว่า เขายังไม่ถึงขั้นถึงชั้นพี่แจ้ แต่กระนั้นโอ๋-ไอศูรย์ก็มี“สายใย”เป็นเพลงเอก สร้างชื่อให้กับเขา ด้วยเนื้อหาชวนฝันหวานซึ้ง ซึ่งไปได้ดีกับน้ำเสียงนุ่มๆเนิบๆของเขา จนกลายมาเป็นหนึ่งในเพลงเทรดมาร์คของโอ๋-ไอศูรย์ มาจนทุกวันนี้
แกรนด์เอ็กซ์ขาลง
วงการเพลงไทยในช่วงปี 27-30 ถือเป็น ยุคทองของวงดนตรีเพื่อชีวิตอย่าง “คาราบาว” ที่ยึดหัวหาดแฟนเพลงไว้ได้ทั่วฟ้าเมืองไทย ขณะที่วงดนตรีที่เคยเกรียงไกรอย่างแกรนด์เอ็กซ์นั้น การลาออกไปของพี่แจ้หลังชุดสายใย ส่งผลให้พวกเขาเดินเข้าสู่ยุคขาลงอย่างเต็มตัว
แกรนด์เอ็กซ์ในยุคนี้แม้แสงแห่งความเจิดจรัสจะลดความแรงจ้าลงไปมาก แต่พวกเขาก็ยังคงสู้และเดินหน้าต่อด้วยการดึง “จอนนี่-จอนนี่ แอนโฟเน่” “เอ-อริชัย อรัญนารถ” และไก่-สุธี แสงเสรีชน เข้ามาเสริมทีม ออกอัลบั้มชุด“ขวดโหล 1-2” ตามติดกันมา
ในขวดโหล 1 มีเพลง “ทรายกับทะเล” เป็นเพลงเด่นที่ในยุคนั้นถือว่าโด่งดังพอตัวในระดับหนึ่ง แต่ด้วยความไพเราะและความสวยงามของเพลง ทำให้นักร้องบางคนในยุคหลังได้นำเพลงนี้กลับมาร้องคัพเวอร์ใหม่ กลายเป็นเพลงสุดโรแมนติก ที่เด็กรุ่นใหม่หลายคนอาจไม่รู้ว่านี่คือเพลงของวงแกรนด์เอ็กซ์อันลือลั่น
“...หวังอีกครั้งคงยังไม่สาย พี่หวังเป็นทราย น้องเป็นทะเล ถึงเมฆฝนคลื่นลมเกเร ทรายกับทะเลไม่เคยห่างกัน”
ขณะที่ในชุดขวดโหล 2(ขอภาพไว้คั่นตำรา)นั้นก็มีเพลง “ขอภาพไว้คั่นตำรา” เป็นอีกหนึ่งเพลงเจ๋งที่ยังไม่ตายมาจนถึงวันนี้
เพลงนี้เป็นบัลลาดช้าๆ มีเสียงกีตาร์ใสๆเล่นคลอไปกับเสียงร้องนุ่มๆที่ผมฟังทีไรก็ยังคงหวนคิดถึงความโรแมนติกในยุคนั้นอยู่ไม่เสื่อมคลาย
“...ขอภาพเธอเท่านั้น ฉันจะเอาไว้คั่นตำรา เห็นครั้งใด ได้เตือนใจว่า เร่งเรียนอย่าช้า เพราะเธอคอยดู สอบเมื่อไรต้องเด่น ฉันมีเธอเป็นน้ำทิพย์ชื่นชู หากครูถาม จะตอบให้รู้ เกรดดีเพราะครู สอบได้เพราะเธอ”
ขอภาพไว้คั่นตำรา เป็นเพลงที่สะท้อนวิถีของวัยรุ่นในยุคนั้นที่แตกต่างไปจากวิถีของเด็กในยุคนี้ได้อย่างเด่นชัดไม่น้อยเลย ซึ่งแน่นอนว่าคนเกิดร่วมสมัยในยุคสมัยชาตรี แกรนด์เอ็กซ์ คาราบาว อินโนเซ้นท์ อย่างผมก็ต้องบอกว่าหลายสิ่งหลายอย่างในยุคนั้น มันมีความคลาสสิคและทรงคุณค่าชนิดที่หวนรำลึกนึกถึงคราใดเป็นต้องอิ่มเอิบใจทุกทีไป
กลับมาที่เรื่องราวของแกรนด์เอ็กซ์กันต่อ ด้วยทิศทางของแนวเพลงไทยที่เปลี่ยนไป รสนิยมของแฟนเพลงไทยที่เปลี่ยนไป รวมถึงการผ่านจุดสูงสุดของสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์รุ่นใหญ่มาแล้ว ทำให้ผลงานเพลงของวงนี้เกิดสภาวะตีบตันทางไอเดีย บทเพลงของแกรนด์เอ็กซ์ในยุคขาลงจึงไม่เปรี้ยงปร้างโด่งดังเหมือนก่อน ซึ่งแม้แต่ความหล่อของ 2 หนุ่มอย่าง โอ๋-ไอศูรย์ และจอนนี่ก็ช่วยกระตุ้นชื่อเสียงให้กับทางวงไม่ได้มากมาย
อย่างไรก็ตามแม้แกรนด์เอ็กซ์จะแผ่วพลังลง แต่ดนตรีของเขาก็ไม่ได้ทำออกมาขี้เหร่และแบบสุกเอาเผากินเหมือนเพลงอิงกระแสตลาดหลายๆวงในสมัยนี้ โดยในปี พ.ศ. 2529 แกรนด์เอ็กซ์ส่งอัลบั้มที่ 17 “นิรัดร์กาล”ออกมาแบบหงอยๆ ตามด้วยอัลบั้มชุด “อยากให้ความรัก(แด่คนทั้งโลก)” ในปี 2530 ที่เพลงนำอัลบั้มคือ “อยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก” เป็นการนำเพลงเก่าของ “วงน้ำค้าง” ที่มีชื่อขึ้นมาจากการร้องของ “วงคีตาญชลี” มาร้องใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่านี่เป็นการพยายามปรับแนวทางของแกรนด์เอ็กซ์เพื่ออิงกับกระแสเพื่อชีวิตนิยมในยุคนั้นหรือเปล่า
จากนั้นแกรนด์เอ็กซ์ออกอัลบั้มชุดพิเศษ “ดวงใจกับความรัก” ที่เป็นการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาขับร้องใหม่ ในปลายปี 2530 ก่อนส่งอัลบั้มชุดสุดท้ายชุดที่ 19 ออกมาในชื่อชุด “ได้ไหม” ในปลายปี 2531 ซึ่งพี่ต้อง-นคร ได้ถ่ายน้ำหนักการทำเพลงไปให้กับพี่ไก่-สุธี ที่ถือเป็นคลื่นลูกใหม่แห่งวงการเพลงในยุคนั้น
และเขาเป็นคลื่นที่ยังมีความแรงคู่วงการเพลงมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะกับตำแหน่งคอมเม้นต์เตเตอร์ที่คนรู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง ชนิดที่เด็กรุ่นใหม่จำนวนมากต่างรู้จักเขาดีในฐานะคอมเม้นต์เตเตอร์ มากกว่าจะรู้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นอดีตสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ผู้เคยฝากผลงานเพลงอมตะอย่าง “เกิดเป็นผู้ชาย” เอาไว้คู่กับวงการเพลงไทย
เกิดเป็นผู้ชาย เป็นเพลงดังโดดๆจากอัลบั้มชุดได้ไหมที่คงความคลาสสิคและกลายเป็นลายเซ็นของพี่ไก่มาจนถึงทุกวันนี้ เพลงนี้ในอินโทรขึ้นเพลงมีเสียงร้อง“ฮ้า”ประกอบนำมา ก่อนส่งเข้าเพลงท่อนแรกด้วยเสียงร้องคลอไปกับเปียโน แล้วตามด้วยกลอง เบส กีตาร์ เพิ่มความหนักที่ตามมาในท่อนสองที่เป็นไปตามสูตรสำเร็จของเพลงบัลลาดร็อคในยุคนั้น
สำหรับเพลงนี้ เนื้อหานอกจากจะโดนใจหนุ่มๆทั้งหลายแล้ว มิวสิควีดีโอของเพลงนี้ที่ได้ พี่เอ็ม-สุรศักดิ์ วงศ์ไทย ตอนยังเท่ ไว้ผมยาวเซอร์ๆปนเถื่อนนิดๆ มาเล่นเป็นพระเอกมิวสิค ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดโดนที่ ทั้งเพลง ทั้งพระเอก ทั้งมิวสิค มันช่างเข้ากั๊น เข้ากันดีเหลือเกิน ชนิดใครและใครหลายคนต่างพูดเป็นเสียงกันว่า เพลงนี้มันช่าง “แมนโคตร” “โคตรแมน” หรือ “แมนสุดๆ” เหลือเกิน
หลังความพยายามยื้อลมหายใจในช่วงขาลงมาจนถึงอัลบั้มชุดสุดท้าย“ได้ไหม” วงแกรนด์เอ็กซ์ก็ถึงจุดที่ต้องประกาศยุติวงอย่างเป็นทางการ ปิดฉากวงอดีตดนตรีอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร ทิ้งไว้เพียงตำนานความยิ่งใหญ่ และผลงานเพลงดีๆของพวกเขาที่ยังคงความอมตะเคียงคู่วงการเพลงไทยมาจนถึงทุกวันนี้
*****************************************
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
- ปี พ.ศ. 2545 สมาชิกแกรนด์เอ็กซุ์คสุดยอดกลับมารวมตัวกันเล่นคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้ง ท่ามกลางการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งของแฟนเพลง ทำให้หลังจากนั้นพวกเขาได้มีการรวมตัวกันในแบบเฉพาะกิจอีกบ้าง ตามแต่วาระอันสมควร
- ข้อมูลส่วนหนึ่งอ้างอิงจาก เว็บไซต์แกรนด์เอกซ์ แฟนคลับ
- ขอจบเรื่องราวของวงแกรนด์เอ็กซ์แต่เพียงเท่านี้
*****************************************
บทความแนะนำเพลงน่าสนใจย้อนยุค จะนำเสนอสัปดาห์เว้นสัปดาห์ สลับกับบทความแนะนำเพลงน่าสนใจในสมัยนิยม
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : รวมศิลปินผู้หญิง
อัลบั้ม : Songbird
นอกจากกระแสผู้หญิงในบ้านเราจะมาแรงรับ(ว่าที่)นายกฯหญิงคนแรกของเมืองไทยแล้ว กระแสผู้หญิงในยุทธจักรดนตรีก็ยังคงแรงดีไม่มีสร่าง นั่นจึงทำให้ทางค่าย “Warner Music”ได้รวบรวมเพลงเพราะๆ 36 เพลง จาก 36 ศิลปินหญิงแถวหน้า ไม่ว่าจะเป็น Lady Antebellum,Norah Jones,Adele,Sarah McLachlan,Lisa Ono และ ฯลฯ พร้อมด้วย 2 เพลงพิเศษ “Love Love Love” จากสาว “Hope” กับเพลง “Before It Explodes” ของสาวน้อยมหัศจรรย์ “Charice” ที่ยังไม่เคยรวมไว้ในอัลบั้มไหนมาก่อน ซึ่งนี่นับเป็นอีกหนึ่งผลงานรวมเพลงที่ไม่ได้เหมาะสำหรับผู้หญิงอย่างเดียว แต่ยังเหมาะสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบเพลงเพราะๆอีกด้วย