รางวัลม้าทองคำครั้งที่ 46 ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อค่ำคืนของวันที่ 28 เป็นชัยชนะของคนทำหนังตัวเล็กๆ เมื่อหนังอินดี้จากไต้หวัน "No Puedo Vivir Sin Ti" กลายเป็นหนังที่ได้รับรางวัลสูงสุดไปครอง นับว่าเป็นหนังไต้หวันเรื่องแรกๆ ในรอบหลายปี ที่สามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ของเวทีม้าทองคำไปครองได้สำเร็จ
No Puedo Vivir Sin Ti งานของผู้กำกับหน้าใหม่ ลีออน ไต้ หนังทุนต่ำเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวในไทเป กลายเป็นหนังที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และรางวัลต่างๆ รวม 4 รางวัล เป็นดาวเด่นของงานม้าทองคำ งานแจกรางวัลที่มีฐานะเป็น ออสการ์ของหนังภาษาจีน ครั้งล่าสุด
"ผมอยากจะขอบคุณพ่อกับแม่, คุณ เอ็ดเวิร์ด หยาง อาจารย์ของผม และนักแสดงทุกคนในหนังเรื่องนี้ครับ" ลีออน ไต้ แสดงความรู้สึกของเขาในความสำเร็จครั้งล่าสุด No Puedo Vivir Sin Ti สร้างมาจากเรื่องจริง เป็นชีวิตของชายชนชั้นล่าง ที่ต้องต่อสู้เพื่อสิทธิในการเลี้ยงดูลูกสาว หนังถ่ายทำด้วยฟิล์มขาวดำ สร้างแบบหนังอิสระแท้ๆ ด้วยเงินทุนเพียง หกล้านเหรียญไต้หวัน
"หนังเรื่องนี้ได้รับการดูแลจากชาวไต้หวันเป็นอย่างดี" ลีออน ไต้ กล่าวขอบคุณในความสำเร็จที่ได้รับ ที่ไม่ใช่เพียงในค่ำคืนที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านี้ No Puedo Vivir Sin Ti เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศ ในการประกวดรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมของออสการ์มาแล้ว
อาจจะเรียกได้ว่างานม้าทองคำปีล่าสุดเป็นปีของคนทำหนังตัวเล็กๆ เพราะหนังอีก 3 เรื่องที่ถูกเสนอชื่อรางวัลสูงสุดล้วนเป็นงานประเภทขายยาก และไม่ตลาดด้วยกันทั้งสิ้น ตั้งแต่ Face ของผู้กำกับเชื้อสายมาเลเซีย ไช่หมิงเหลียง, Live A Dream ผลงานใหม่ของผู้กำกับหญิงชาวฮ่องกง คลาร่า ลอว์และ Cow ของ กวนหู จากจีนแผ่นดินใหญ่
แต่สิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับหลายๆ คนมากที่สุดในการแจกรางวัลครั้งนี้ก็คือ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 46 ปีของม้าทองคำ ที่ดารานำชายมีผู้ชนะถึงสองคน หลังกรรมการไม่สามารถตัดใจเลือกใครคนใดคนหนึ่งระหว่าง หวงเป่า จากหนังตลกร้ายเรื่อง Cow และ จางเจียฮุย ในหนังแอ็กชั่นฮ่องกง The Beast Stalker จนเลือกให้ทั้งคู่ครองรางวัลร่วมกัน
หนังสายลับยุคสงครามโลก The Message กลายเป็นตัวเต็งในรางวัลดารานำหญิง ซึ่งนักแสดงนำหญิงสองคนของเรื่องได้เข้าชิงรางวัลนี้ด้วยกันทั้งคู่ และเป็น หลี่ปิงปิง ที่เอาชนะ โจวซุน ไปได้ในท้ายที่สุด "ฉันไม่เคยคาดหวัง ว่าจะได้รับรางวัล เลยไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะพูดอะไรดี ... ฉันรู้สึกโชคดีมากๆ ค่ะที่ได้มาอยู่ตรงนี้" หลี่ปิงปิงกล่าวพร้อมด้วยน้ำตาแห่งความปิติ
สำหรับรางวัลดาราประกอบชาย ตกเป็นของดาราอาวุโสจากแผ่นดินใหญ่ หวังซูฉี ในบทดารางิ้วผู้โด่งดัง ใน Forever Enthralled ขณะเดียวกัน หยูเชาฉิน ในเรื่องเดียวกัน ก็ได้รับรางวัลดาราหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในบท เหมยหลันฟาง ในวัยหนุ่ม
Face ของ ผู้กำกับหนังอาร์ท ไช่หมิงเหลียง ที่ได้รับการสนับสนุนจาก พิพิธภัณฑ์ Louvre ได้รับรางวัลสาขากำกับศิลป์ และเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม จากฝีมือของดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส คริสเตียน ลาครัวซ์
ผู้กำกับหญิงชาวฮ่องกง คลาร่า ลอว์ ได้ชิงรางวัลม้าทองคำเป็นครั้งที่ 4 แล้ว และผลลัพธ์ก็ออกมาเช่นเดิม เมื่อหนังอาร์ทเรื่อง Like A Dream ของเธอกลับบ้านมือเปล่าแม้จะเข้าชิงถึง 9 สาขา แตกต่างจากเพื่อนร่วมชาติหลายๆ คน ที่ได้รับรางวัลในงาน รวมถึงอดีตดาราบู๊หญิงชื่อดังในอดีต ฮุ้ยอิงหง กับบทดาราสมทบหญิง, จางคิงไวได้รับรางวัลสารคดียอดเยี่ยม และดาราชื่อดังชาวฮ่องกง หงจินเป่า ได้รับรางวัลการออกแบบฉากแอ็กชั่นในหนังสุดฮิตเรื่อง Ip Man
รางวัลม้าทองคำ เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลหนังม้าทองคำ ที่จัดให้มีการมอบรางวัลให้ภาพยนตร์ภาษาจีนจากทั้งฮ่องกง, จีนแผ่นดินใหญ่ และทางไต้หวันเอง โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1962 จนมาถึงปัจจุบัน และถูกเรียกว่าเป็นออสการ์ของหนังภาษาจีน
ผลรางวัลทั้งหมด
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม:
No Puedo Vivir Sin Ti
ผู้กำกับยอดเยี่ยม:
Leon Dai (No Puedo Vivir Sin Ti)
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม:
Nick Cheung (The Beast Stalker)/ Huang Bo (Cow)
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม:
Li Bingbing (The Message)
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม:
Wang Xueqi (Forever Enthralled)
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม:
Wai Ying-hung (At the End of Daybreak)
นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม:
Yu Shaoqun (Forever Enthralled)
บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม:
Leon Dai, Chen Wen-pin (No Puedo Vivir Sin Ti)
บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม:
Guan Hu (Cow)
ถ่ายภาพยอดเยี่ยม:
Cao Yu (City of Life and Death)
เทคนิคพิเศษทางภาพยอดเยี่ยม:
Wang Jianxiong, Jimmy Chen, Li Liping (Crazy Racer)
กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม:
Lee Tian-jue, Patrick Dechesne, Alain-Pascal Housiaux (Face)
แต่งหน้า และออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม:
Christian Lacroix, Wang Chia-hui, Anne Dunsford (Face)
ออกแบบฉากแอ็กชั่นยอดเยี่ยม:
Sammo Hung, Tony Leung Siu-hung (Ip Man)
ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม:
Dou Wei, Bi Xiaodi (The Equation of Love and Death)
เพลงประกอบยอดเยี่ยม:
For My Heart (Death Dowry)
ตัดต่อยอดเยี่ยม:
Cheung King-wai (KJ: music and life)
ออกแบบเสียงประกอบยอดเยี่ยม:
Cheung King-wai (KJ: music and life)
สารคดียอดเยี่ยม:
KJ: music and life
ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม:
Sleeping With Her
ภาพยนตร์ไต้หวันโดดเด่นแห่งปี:
No Puedo Vivir Sin Ti
นักทำหนังไต้หวันโดดเด่นแห่งปี:
Lee Lung-yue
รางวัลความสำเร็จสูงสุดตลอดชีวิตการทำงาน:
Ming Ji
รางวัลพิเศษ:
George Wang