“แซน-เก๋” ฉลองสมรสพระราชทานสุดชื่นมื่น เผยรอมานาน 16ปี ได้วิวาห์สมใจตามฤกษ์มงคลของเจ้าบ่าว ฝ่ายชายหยอดเจ้าสาวเป็นรักครั้งแรกและรักครั้งสุดท้าย ซุ่มเซอร์ไพร์สทำแหวนแต่งงานคู่ ที่ดีไซน์มาโดยเฉพาะ แพลนฮันนีมูนมัลดีฟส์ ขอใช้ชีวิตคู่ 2 ปีก่อนมีลูก ด้านเจ้าสาวให้คำสัญญาจะเอาใจใส่สามีมากกว่าเดิม
หลังเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ดาราหนุ่ม “แซน พนมกร ตังทัตสวัสดิ์” และแฟนสาว “เก๋ สิริกันย์ ปิยไกรวุฒิ” ก็ได้จัดพิธีมงคลสมรส ยกน้ำชาตามแบบประเพณีจีน พร้อมจัดงานเลี้ยงฉลองสมรสพระราชทานขึ้น ณ ห้องเลิศวนาลัย บอลรูม รร.สวิส โฮเต็ลปาร์คนายเลิศ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (9 ก.ย.) โดยมีนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมพ่อค้าทองคำแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธี
ซึ่งบรรยากาศในงานวิวาห์เต็มไปด้วยความชื่นมื่นและอบอุ่น มีแขกเหรื่อทั้งในและนอกวงการมาร่วมงานคับคั่ง โดยคนบันเทิงที่แห่กันมาร่วมแสดงความยินดีมี แมน ศุภกิจ และภรรยา เมจิ อโณมา, ใหม่ เจริญปุระ, ฟลุค เกริกพล, ไมค์ กิ่งโพยม, แหม่ม วิชุดา, ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, เมย์ พิชญ์นาฎ สาขากร, กบ พิมลรัตน์ ฯลฯ
ทั้งนี้ก่อนที่พิธีการต่างๆ จะเริ่มขึ้น คู่บ่าว-สาวได้จูงมือกันมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยได้เปิดใจเล่าย้อนไปถึงวันแรกที่ทั้งคู่เจอกัน ซึ่งเจ้าบ่าวบอกว่าปิ๊งเจ้าสาวตั้งแต่แรกเห็น ต้องใช้เวลาตามจีบอยู่นานหลายเดือน กว่าฝ่ายหญิงจะใจอ่อนยอมเปิดปากคุยด้วย
แซน : “เราเจอกันครั้งแรกเมื่อประมาณ 16-17 ปีที่แล้ว สมัยนั้นผมยังเรียนรด.อยู่ม.4 ผมไม่ได้ยาวๆ แต่ก็ยังจะใส่เจลให้มันหล่อ เพื่อที่จะได้มาเจอสาว พอดีกลุ่มเพื่อนของเขามาเจอกับกลุ่มเพื่อนของผม แล้วผมก็รู้ว่าคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของเขามาชอบ"
"พอมาถึงปุ๊บผมก็พยายามมองและสังเกตว่าคนไหนชอบเราวะ แต่เราก็ดันไปสะดุดตาผู้หญิงคนนี้ ก็คือคนนี้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาชอบเราหรือเปล่า เพราะผมก็ไม่รู้ว่าใครที่แอบมาชอบผม หลังจากนั้นเพิ่งมารู้อีกทีว่า คนที่มาชอบผมไม่ใช่เขา แต่เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของเขา”
“หลังจากนั้นผมก็พยายามให้เพื่อนเขากับเพื่อนเราช่วยกัน ผมเลยได้คุยกับเขา แต่กว่าเขาจะคุยกับผมได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะสมัยก่อนเขาเป็นคนขี้อายมาก ตอนนั้นเขาไม่คุยกับผมเลย เวลาคุยโทรศัพท์กัน กว่าจะเอ่ยปากออกมาแต่ละทีนานมาก เพราะเขาเงียบมาก ผมถึงกับต้องพยายามลิสต์ว่า เราจะถามอะไร ถ้าเกิดเขาไม่ตอบเราจะถามอะไรต่อ”
เก๋ : “ตอนเด็กๆเก๋ขี้อายมาก เพราะเรียนโรงเรียนผู้หญิงล้วนมาตลอด เราไม่เคยคุยกับผู้ชายเลย แซนเป็นคนแรกที่โทรมาหา เก๋ก็จำไม่ได้แล้วว่า นานแค่ไหนเก๋ถึงจะคุยยอมคุยกับเขา”
แซน : “ก็ประมาณ 4-5 เดือน แต่พอหลังจากได้คุยแล้ว เขาก็คุยไม่หยุดเลย (ยิ้ม) ยอมรับว่าเขาเป็นรักครั้งแรกของผม และนี่ก็แต่งงานกันแล้ว ก็คงเป็นรักครั้งสุดท้ายด้วย”
เผยตลอด 16 ปีที่เป็นแฟน ประทับใจฝ่ายหญิงที่เป็นคนง่ายๆ และให้คำปรึกษาที่ดีมาตลอด ด้านเจ้าสาวแย้มรู้ตัวมานานแล้ว ต้องแต่งงานกันวันนี้ และโรงแรมนี้ เพราะเป็นเลขมงคลที่เจ้าบ่าวชอบ ส่วนโรงแรมก็เป็นสถานที่ที่ทั้งคู่เจอกันครั้งแรก
แซน : “เขาเป็นคนที่น่ารัก เป็นคนซื่อ มีอะไรก็คอยปรึกษา ให้กำลังใจเราได้ตลอดเวลา อย่างเวลาที่ผมทำงาน หรือไปเจออะไรข้างนอกมาที่มันปวดหัว รู้สึกเครียด ก็ไปปรึกษาเขา เขาก็จะทำให้เราอารมณ์ดี และมีคำปรึกษาที่ดีๆ ให้กับเราตลอด แล้วเขาเป็นคนที่ไม่เรื่องเยอะ เป็นคนง่ายๆ สบายๆ”
เก๋ : “จริงๆ ที่เราคบกันก็รู้มาตลอดว่า เขาหวังดีกับเก๋ที่สุด เขาทำทุกอย่างเพื่อเก๋ อย่างบางทีที่เก๋ทำอะไรผิดพลาด หรือทำอะไรไม่ถูก ทำอะไรที่มันนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่จริงๆ เก๋ก็รู้สึกว่าเขาแคร์เก๋ที่สุด”
“เรื่องแต่งงานจริงๆ แซนพูดมาเป็นปีแล้วว่า อยากแต่งงานวันนี้ เขาก็ไม่ได้มาขอแต่งงานหรืออะไร ที่มันดูเป็นเรื่องโรแมนติก ก็เหมือนกับคุยกันแล้วปรึกษากันว่าจะเอายังไงมากกว่า แต่เราสองคนก็รู้ตัวกันมานานแล้ว”
แซน : “คือเราคบกันมานานจนมันเป็นเพื่อนกันไปแล้ว ผมก็ถามเก๋ว่า เราแต่งงานกันหรือยังเนี่ย อ๋อ...ยังเหรอ งั้นแต่งเลยสิ แล้วที่เลือกแต่งวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เพราะมันเป็นเลขมงคลที่ผมชอบ ก็เลยบอกเขาว่าแต่งงานกันวันนี้เถอะ ส่วนโรงแรมเราก็รู้กันอยู่แล้วว่า ถ้าจะจัดงานแต่งงานก็ต้องเป็นโรงแรมนี้ เพราะเป็นโรงแรมที่เราได้เจอกันครั้งแรก”
คอนเซ็ปต์งานวิวาห์ตั้งใจจัดย้อน ให้เหมือนตอนพบรักกันสมัยเรียนหนังสือ ส่วนสินสอดขออุบมูลค่า ทำเซอร์ไพร์สเจ้าสาวด้วยการซุ่มทำแหวนแต่งงานคู่ ที่ออกแบบดีไซน์มาโดยเฉพาะ
แซน : “คอนเซ็ปต์งานในวันนี้จะเป็นประตูโรงเรียน เหมือนเราได้เจอกันตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ แล้วก็จะมีบอร์ดเป็นกระดานดำให้แขกเซ็นอวยพร หลังเสร็จพิธีการเรียบร้อย เราอาจจะให้เพื่อนๆมาสนุกกัน ด้วยการใส่ชุดนักเรียน ถ้าคนไหนไม่ได้เตรียมชุดมา เราก็จะแจกเสื้อยืดให้ ซึ่งจะมีลายสกรีนเป็นชุดนักเรียน”
“เรื่องสินสอดก็ประมาณหนึ่ง ไม่ได้เยอะมาก ตัวเลขงานวันนี้งามกว่า สินสอดที่ให้เจ้าสาวก็มีทุกอย่างครบ ทั้งเพชรและทอง เป็นชุดสร้อยเพชร ทองรูปพรรณและเงินสด ส่วนมูลค่าเท่าไหร่นั้นไม่รู้จริงๆ เราไม่ได้ถามมาก่อนเพราะผู้ใหญ่เตรียมมา ส่วนแหวนเพชรเป็นของขวัญพิเศษที่ผมตั้งใจทำให้เขา”
เก๋ : “อันนี้ถือว่าเซอร์ไพร์สมาก แหวนวงนี้เก๋ไม่ได้เป็นคนเลือก ไม่ได้เป็นคนทำอะไรเลย ทุกสิ่งทุกอย่างในงานเขาเป็นคนจัดการหมดทุกอย่าง”
แซน : “ผมเลือกทำเป็นแหวนคู่ ตัวแหวนจะมีดีไซน์หน่อย มันเป็นเทคนิคการทำ โดยเอาทองคำขาว พิ้งค์โกล์ด และทองคำมารวมกัน แล้วใช้วิธีการทำเหมือนตีเหล็กทำดาบ เพื่อให้ลายของแหวนออกมา เหมือนกับลายเสือ ซึ่งผมเป็นคนเลือกลายเอง พอดีไปเห็นแล้วชอบเลย ก็เลยให้เขาดีไซน์ออกมาโดยเฉพาะในแบบที่เราสองคนชอบ ถามว่าแหวนกี่กะรัตผมไม่รู้ ก็เอาประมาณหนึ่งไม่เยอะละกัน”
ตั้งใจไปฮันนีมูนที่เกาะมัลดีฟส์ แต่เร็วๆนี้ขอซ้อมไปเที่ยวภูเก็ตก่อน ส่วนแพลนมีทายาท ขอใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก่อน 2 ปีค่อยมี
แซน : “ถ้าจะมีไปเร็วๆ นี้ก็คงไปภูเก็ต ถือว่าเป็นการฮันนีมูนเล็กๆ ไปก่อน แต่ในใจตั้งใจไว้แล้วว่า อยากจะไปมัลดีฟส์ แต่ไม่เป็นไร เราเที่ยวไทยไปก่อนก็ได้”
เก๋ : “เก๋ไม่มีฝันว่าจะไปไหน จริงๆ อยากไปหลายที่ ตัวเก๋ชอบไปญี่ปุ่น แต่ไปมัลดีฟส์ก็ได้ เพราะแซนอยากไปมาตั้งนานแล้ว”
แซน : “ส่วนเรือนหอเป็นคอนโดอยู่ที่ทองหล่อ เพราะเราทำงานด้วยกันทั้งคู่ เดินทางไปไหนมาไหนมันจะสะดวก เรื่องมีลูกคงต้องถามเจ้าสาวด้วย ตอนนี้เราก็ปรึกษากันอยู่ว่า อาจจะยังใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกสักพัก สักประมาณ 2 ปีแล้วค่อยมี เราไม่ได้รีบร้อนอะไร ยังอยากใช้ชีวิตอย่างนี้กันไปก่อน แต่ถ้ามันจะมีไปตามธรรมชาติก็โอเค ถ้ามีจริงๆผมอยากได้ลูกผู้ชายก่อน”
ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ซึ่งเจ้าสาวขอให้เจ้าบ่าวทำตัวเหมือนเดิมอย่าเปลี่ยนแปลง ด้านหนุ่มแซนขอให้ฝ่ายหญิงเอาใจใส่ตนมากขึ้นกว่าเดิม และหลังแต่งยินดีอยู่ชมรมคนเกรงใจภรรยา
เก๋ : “เรายังไม่ได้จดทะเบียนสมรส คิดว่าคงอีกสักพักหนึ่ง หรือรอให้มีน้องก่อน เพราะเราคิดว่ามันยังไม่ใช่เรื่องสำคัญ และมันก็ต้องยุ่งยากที่จะต้องไปเปลี่ยนอะไรตามทะเบียน”
“เรื่องคำมั่นสัญญาหลังแต่งงาน ก็ไม่มีอะไร จริงๆ แล้วก็ขอให้เป็นเหมือนเดิม แค่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็โอเคแล้ว ไม่ต้องดีกว่านี้ เก๋พอใจแล้ว แต่แซนขอให้เก๋เอาใจเขามากขึ้นนิดหนึ่ง เขาก็ขอแค่นี้เอง”
แซน : “คือที่ขอให้เป็นเหมือนเดิม เพราะก่อนหน้าที่เราจะแต่งงาน เป็นยังไง ก็ขอให้มันเป็นอยู่อย่างนั้น ไม่อยากให้มันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ผมอยากให้เขาเพิ่มเรื่องของความใส่ใจดูแลกันมากขึ้นนิดหนึ่ง เพราะว่าสถานะของเราก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว แล้วถ้ามีลูกมีอะไรกันขึ้นมา เราก็ต้องดูแลกันเพื่อสร้างครอบครัวให้มันดีขึ้น”
เก๋ : “ซึ่งเก๋เองก็กำลังพยายามอยู่ (หัวเราะ) เรื่องเป็นแม่บ้านเก๋ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่คิดว่าเดี๋ยวอาจไปเรียน”
แซน : “ไม่เป็นไร ซื้อกับข้าวมาให้กินก็ได้ แต่อาจจะมีการเอาใจ ตักให้เทให้ เรื่องเข้าชมรมเกรงใจภรรยา ผมก็เกรงใจเขาเป็นปกติอยู่แล้ว แต่บางครั้งอาจมีเกเรบ้างนิดหน่อย เป็นบางเวลา (หัวเราะ)”