“เสี่ยตา” ซาบซึ้ง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระราชทานช่อดอกไม้อวยพรลูกสาว “ปานวาด” ที่ควงทายาทเจ้าของรีสอร์ทดังจ.ตราด วิวาห์หวาน คุยโวสินสอดมหาศาลเหยียบร้อยล้าน พร้อมเผยตื้นตันจนน้ำตาร่วงขณะทำพิธี ด้านเจ้าบ่าวบอกกลัวพ่อตามาก ต้องเข้าทางแม่แฟนสาวถึงชนะใจจนได้แต่งงาน ส่วนสินสอดเป็นของโบราณของบรรพบุรุษ
ถือว่าเป็นงานมงคลสมรสใหญ่บิ๊กระดับช้างชนช้าง สำหรับงานวิวาห์ของ “น้ำตาล ปานวาด นิรันดร์กุล” ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตสุดรักสุดหวงของ “เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล” กับแฟนหนุ่มทายาทนักธุรกิจเจ้าของอ่าวน้อยรีสอร์ทที่เกาะกูด จ.ตราด และกิจการอู่ต่อเรือ “แอ้ม อมรฤทธิ์ พูลสวัสดิ์” ที่จัดขึ้น ณ ห้องลอนดอน โรงแรมพลาซ่า แอทธินี
โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (3 ส.ค) บรรยากาศภายในงานวิวาห์หวานสุดอลังการงานสร้างนี้ เต็มไปด้วยแขกเหรื่อทั้งในแวดวงนักธุรกิจและบันเทิง โดยคนบันเทิงที่ทยอยตบเท้าเข้าร่วมงานมีทั้งเจ้าแม่ 7 สี แดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์, บอสใหญ่วิก 3 ประวิทย์ มาลีนนท์ และภรรยา, มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ, นิด อรพรรณ วัชรพล, ชาลอต โทณวณิก, วิลลี่-เยลหลี แมคอินทอช
หม่ำ จ๊กมกและภรรยา, เท่ง เถิดเทิงและภรรยา, โหน่ง ชะชะช่า, ไก่ วรายุทธ มิลินทจินดา, แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์, ม้า อรนภา, หน่อง อรุโณชา, เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, เศรษฐา ศิระฉายา, แอ๊ด สมบัติ เมทะนีและภรรยา, ตั้ว ศรัณยู และเปิ้ล หัทยา, เจมส์ เรืองศักดิ์ กับเอ๊ะ ศศิกานต์, กบ สุวนันท์ คงยิ่ง มาพร้อมกับคุณแม่สามี ดาริกา ปุณณกันต์ และครอบครัว, บัวชมพู ฟอร์ด กับสามี ช้าง สมประสงค์ ฯลฯ
ก่อนที่งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสจะเริ่มขึ้น คู่บ่าว-สาวพร้อม “เสี่ยตา ปัญญา” ได้จูงมือกันมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเจ้าบ่าวได้กล่าวถึงความรู้สึกว่า รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากนั้นเจ้าสาวจึงเล่าถึงเส้นทางแห่งความรัก จนกระทั่งได้ควงคู่เข้าสู่ประตูวิวาห์
น้ำตาล : “เรารู้จักกันได้ เพราะเขาเป็นเพื่อนของเพื่อน ก็เลยมีการแนะนำให้รู้จักกันมาประมาณ 5 ปีแล้ว ก็ประทับใจตรงที่เป็นคนสม่ำเสมอ วันแรกที่รู้จักกันยังไง ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่"
แอ้ม : “แต่เราเพิ่งมาเป็นแฟนกันได้ 2 ปี จะมีเรื่องให้ช็อคอยู่ตลอดเวลา ปกติเราจะพากันไปทำบุญให้อาหารปลา ปล่อยปลา คนอื่นอาจจะปล่อยแค่ 3-4 ตัว แต่นี่ล่อทั้งโอ่งเลย (หัวเราะ) จะเป็นแบบนี้บ่อยๆ ก็เลยทำให้เราประทับใจเขามาตั้งแต่ช่วงแรกๆ เลย (หัวเราะ)"
เจ้าบ่าวเผยถึงเซอร์ไพร์สขอแฟนสาวแต่งงาน ชนิดทำให้อึ้งและช็อค พร้อมหวานถ้าไม่แต่งกับคนนี้ ก็ไม่รู้จะเป็นใครอีกแล้ว
น้ำตาล : “วันที่เค้าขอก็ตกใจเล็กน้อย”
แอ้ม : “ผมก็หลอกเค้าขึ้นไปบนห้อง บอกให้ไปดูคอมพิวเตอร์ใหม่ที่เพิ่งซื้อมา แต่เราได้เตรียมแหวน และมีดอกไม้พิเศษๆ ให้เค้า ตอนนั้นก็ไม่ถึงขนาดโรแมนติกเหมือนที่ฝรั่งทำ ที่จะต้องคุกเข่าก้มลงไปขอแต่งงาน แต่เรามีดอกไม้เป็นการเซอร์ไพร์สแล้วตามด้วยแหวน จากนั้นก็พูดอะไรซึ้งๆ ผมจำได้ว่าเค้าไม่ได้ฟังเลยครับ (หัวเราะ)”
น้ำตาล : “เราช็อคและตกใจมาก มันหูอื้อไปหมดตอนที่เห็นดอกไม้กับแหวน เราก็เลยไม่ได้รับดอกไม้กับแหวน จนแอ้มถามว่าตกลงจะแต่งงานมั้ย (หัวเราะ) หลังจากนั้นเราก็ตอบตกลง เพราะเค้าเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ซึ่งความสบายใจนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเราไม่เคยมีปัญหาอะไรแลย สามารถเข้ากันได้ดีและเข้าใจกัน”
แอ้ม : “ถ้าพูดตรงๆ เราจะรู้จักกันมาเรื่อยๆ ก็คิดว่าถ้าไม่ใช่คนนี้ก็ไม่รู้จะเป็นใครอีกแล้ว (เรียกเสียงฮือฮาจากนักข่าว)”
ถามถึงพ่อตา “ปัญญา” ว่าอย่างไรบ้างขณะไปพูดสู่ขอแฟนสาว เจ้าบ่าวกล่าวว่า
แอ้ม : "ช่วงแรกๆ พ่อตา (ปัญญา นิรันดร์กุล) จะน่ากลัวนิดหนึ่ง (หัวเราะ) ยอมรับว่ากลัวมากครับ (หัวเราะ) คือสายตาท่านอาจจะแหลมคมหน่อยหนึ่ง แต่ก็เป็นคนดีครับ ท่านก็เมตตา หลังๆ ท่านก็เอ็นดูผมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งวิธีการชนะใจส่วนใหญ่แม่เค้าจะช่วยเยอะ (หัวเราะ)”
"ตอนมาคุยจริงๆ จะเป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่ที่จะคุยกัน ผมไม่ได้เข้าไปอยู่ข้างในเลย ส่วนสินสอดจะเป็นแหวนกับต่างหูของโบราณ ซึ่งเป็นของบรรพบุรุษทางฝั่งแม่ เป็นแหวนคนละวงกับวันที่ผมขอเค้าแต่งงาน สำหรับวงนี้จะหนักประมาณ 3 กะรัต เรื่องฮันนีมูนเร็วๆ นี้คงไปสมุย ส่วนเกาะกูดต้องไปอยู่แล้ว (หัวเราะ)”
ส่วนโครงการมีทายาทเจ้าสาวเผยว่า ยังไม่คิดมีเนื่องจากยังติดเรียนปริญญาโท
น้ำตาล : “เรื่องลูกยังไม่คิดมีค่ะ เพราะตอนนี้น้ำตาลกำลังเรียนปริญญาโทอยู่ คงต้องรออีกสักพักเลยค่ะ”
ด้านเจ้าของเวิร์คพอยท์ฯ ปัญญา นิรันดร์กุล ที่ยิ้มแก้มปริตลอดงานแย้มว่า วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุด จากนั้นได้เล่าถึงพิธีหมั้นในช่วงเช้าที่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหารว่า จัดแบบกึ่งไทยโบราณทำเอาตนน้ำตาร่วง พร้อมคุยฟุ้งได้สินสอดมหาศาลเหยียบร้อยล้าน
ปัญญา : “วันนี้ก็มีความสุขมาก เพราะเป็นความสุขของลูก ได้เห็นถึงความรักที่เค้ามีต่อกัน เราก็ยินดีกับเค้า เหมือนในชีวิตเราตอนที่มีครอบครัวก็เช่นเดียวกัน นี่ก็จะเป็นครอบครัวใหม่เราก็ต้องให้กำลังใจเค้า ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี”
“เมื่อเช้าเราได้มีพิธีการทำบุญที่วัดสระเกศ พระสงฆ์ที่มีสมณะสูงสุดที่มีชีวิตอยู่ ท่านก็เมตตาทำพิธีให้ และให้ใช้พื้นที่ที่อุโบสถด้านในในการทำพิธี เป็นกึ่งๆ พิธีไทยโบราณเต็มที่ ทางฝ่ายเจ้าบ่าวจัดพิธีสู่ขอโดยแห่ขบวนขันหมาก แต่กว่าจะผ่านด่านประตูมาได้ ต้องฝ่าถึง 9 ด่าน”
“ตอนทำพิธีน้ำตาไม่ซึมครับแต่ร่วงเลย (หัวเราะ) ร่วงเป็นก้อนไม่รู้เท่าไหร่ เพราะเราดีใจและชื่นใจกับเค้า เราไม่เคยเห็นพิธีที่เป็นอย่างนี้มาก่อน วันนี้เราได้มาทำให้ลูกๆ เราก็เลยรู้สึกชื่นใจแทนเค้า มันอดไม่ได้เลยน้ำตาร่วงเพราะมีความสุข”
“ส่วนสินสอดทองหมั้นก็มหาศาลทั้งทองและเงินเป็นก้อนๆ ไม่ได้เป็นใบๆ (ยิ้ม) เป็นก้อนๆ นั่นก็แปลว่าเยอะ ถามว่าถึงร้อยล้านมั้ย (หัวเราะ) ไม่ถึงขาดอีกนิดหน่อย แต่ทั้งหมดเราก็ได้มอบคืนกลับไปให้ทั้งคู่ เพื่อให้เค้าไปใช้ชีวิตของเค้ากันเองต่อไป ซึ่งพิธีทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นด้วยดี ถือว่าเป็นเรื่องมงคลที่ดีสำหรับคู่บ่าวสาว”
“ตอนกลางคืนนี้เป็นพิธีเลี้ยง ซึ่งรูปแบบงานจะเป็นสไตล์โฮมดูแล้วอบอุ่น และถือว่าเป็นสิริมงคลกับคู่บ่าวสาวและทั้งสองครอบครัวด้วย ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ท่านได้พระราชทานช่อดอกไม้อวยพรให้คู่บ่าวสาว ก็ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของท่านที่เมตตาต่อเรา”
ชมลูกเขยมาถูกทาง เข้าทางภรรยาก่อนฝ่าด่านตนสำเร็จจนได้วิวาห์กับลูกสาวสมใจ
ปัญญา : “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีเวลาเป๊ะๆ โดยตรง มันต้องดูไปให้ชัดเจน ความชัดเจนหลายๆ รูปแบบ มองซ้ายมองขวา มองบนมองล่าง มองตรงและมองข้าง มองให้รอบๆ ทุกอย่าง เหมือนกับไม่ได้มองแต่จริงๆ แล้วเรามองเค้าอยู่ตลอดเวลา แต่เค้าก็เข้าถูกทางแล้วที่เข้าไปทางแม่ (หัวเราะ)”
“เค้ามาถูกทางแล้ว เพราะฝั่งเราเป็นฝั่งดุ แต่ฝั่งแม่เป็นฝั่งช่วยเหลือเกิน เค้าทำทุกรูปแบบเพื่อเป็นการบอกข้อมูล เราเป็นคนตั้งโจทย์ตั้งข้อสอบ คุณแม่เค้าก็เป็นคนกลางแอบไปเอาข้อสอบ ข้อสอบก็เลยรั่ว (หัวเราะ) คอยบอกคำตอบเฉลยตลอดเลย ก็น่ารักดี”
“สุดท้ายวันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี คือชีวิตเราไม่เคยผ่านพิธีแต่งงาน นี่พูดจริงๆ ไม่ได้ประชด หรือเป็นมุกอะไรเลย วันนี้ได้มีโอกาสทำให้ลูกก็จะทำ เราก็ทำเต็มที่ ทางแอ้มเป็นคนแรกของครอบครัว ปานวาดเองก็เป็นคนแรกเหมือนกัน ทุกคนเลยตื้นตัน ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาร่วงกันไปตามระเบียบ ระเบียบนำเราก็เลยตามระเบียบ (หัวเราะ)”
ลั่นไม่ใจหายที่ลูกแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา พร้อมอวยพรขอให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่
ปัญญา : “เรียกว่าไปแล้วหรือได้มาก็ได้แล้วแต่จะมอง ถือว่าไม่ใจหาย คิดว่าน่าจะมีสิ่งที่ดีๆ เกิดขึ้นมากกว่า เพราะชีวิตคู่ของทุกคนจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ก็น่าจะเป็นความมงคลความยินดี มีแต่เรื่องดีๆ มากกว่า”
“เรื่องคำแนะนำในการใช้ชีวิตคู่ เรายังไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเลย เมื่อช่วงเช้าเป็นเรื่องของการให้พรที่วิเศษที่สุด ทุกรูปแบบเท่าที่จะนึกได้ในช่วงขณะนั้น ก็ให้ไปหมดเลย แต่ถ้าหากว่ามีโอกาสก็อยากจะบอกว่า ชีวิตคู่มันเป็นเรื่องราวของสิ่งที่ได้นำคนสองคน ต่างที่ต่างครอบครัวได้เข้ามาอยู่ร่วมกัน มันจะเจอและประสานเพื่อเป็นครอบครัวต่อไป”
“เราต้องนึกถึงสิ่งที่ดีงามในวันที่เราเจอะเจอกันว่า ทำไมถึงมีความรักใคร่ต่อกัน จนมาประสานเป็นครอบครัวเดียวกัน ในอนาคตอาจจะต้องไปเจออะไรอีกเยอะแยะมากมาย จะมีอุปสรรคอะไรก็แล้วแต่ จะมีความเข้าใจผิดหรือถูกอะไรก็แล้วแต่ ก็ขอให้นำสิ่งที่ดีๆ ที่เราได้รู้จักกันในช่วงเวลานั้น มาใช้ในการให้อภัยซึ่งกันและกัน”
“ก็ขอให้แอ้มได้รับความสำเร็จ ขอให้มีชีวิตคู่ที่ดี ขอให้มีการงานและครอบครัวที่ดี เจออุปสรรคน่ะเจออยู่แล้ วแต่ก็ขอให้ชนะอุปสรรคต่างๆ และก็มีกำลังใจที่จะนำพาครอบครัวที่กำลังจะเป็นครอบครัวใหม่นี้ ไปสู่สิ่งที่ทั้งคู่ปรารถนา และต้องการทุกประการ”
ฟุ้งเรือนหอมีหลายหลังจนเลือกให้อยู่ไม่ถูก ด้านเจ้าสาวขอเลือกบ้านหลังแรกของครอบครัวเป็นเรือนหอ
ปัญญา : “เรือนหอก็ให้ทั้งสองคนคิดเอา เพราะมีอยู่หลายที่ (หัวเราะ) สวยสั่งได้ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็มีกันหลายหลังเหลือเกิน นี่ก็ยังมีบ้านของแอ้ม ไหนจะมีที่ทางตราดอีก”
แอ้ม : “ของแอ้มเองก็มีเหมือนกันครับ เป็นบ้านตรงไทรน้อย (หัวเราะ)"
น้ำตาล : “ตอนนี้คงจะอยู่ที่บ้านหลังเก่า”
ปัญญา : “เป็นบ้านหลังแรกของครอบครัวเราที่อยู่ตรงมหานคร แถวๆ หลักสี่ ตอนนี้ไม่มีผู้ใดใช้อยู่ ก็เลยให้ทั้งคู่ไปอยู่ก่อนได้ เค้าก็ดูแลตกแต่งเพิ่มเติม และไปจัดแจงกันเรียบร้อยแล้ว”
น้ำตาล : “แต่เดี๋ยวคงจะกลับมาอยู่กับคุณพ่อ เพราะที่บ้านกำลังทำอยู่”
ลั่นหลานคนแรกจะเป็นหญิงหรือชายก็ได้ ขอให้ได้อุ้มก็พอ โบ้ยถามบ่าว-สาวเอาเอง
ปัญญา : “โอ้โห...เรื่องนี้คงต้องแล้วแต่เค้า อย่างงานวันนี้เค้าทั้งคู่ก็ช่วยกันดูแลว่าจะทำยังไง ออกมารูปแบบไหน โดยทั่วไปแล้วทั้งคู่จะเป็นคนที่กำหนดทั้งหมด ส่วนเราจะคอยประคองเค้าว่าขาดเหลืออะไรมากกว่า”
“ถามว่าหลานคนแรกอยากได้ผู้ชายหรือผู้หญิง อันนี้เอาไว้ให้เป็นเรื่องของเค้าละกัน ต้องถามทั้งคู่ส่วนคุณพ่อนี่ยังไงก็ได้ ขอแค่ให้ได้อุ้ม แต่ตอนนี้ลูกสาวกำลังเรียนอยู่ ก็คงต้องแล้วแต่เค้า เพราะแต่งงานไปแล้วก็จะเป็นชีวิตของเค้าแล้วล่ะว่าจะกำหนดกันยังไง เราจะคอยเป็นกำลังใจ และคอยช่วยให้เค้าประสบความสำเร็จต่างๆ ไปเรื่อยๆ มากกว่า”
