"จริงๆแล้วตัวผมเองก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร เพียงแต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนรักหนังชอบหนัง ก็พยายามทำในสิ่งที่เรารักเราชอบออกมาให้ดีที่สุด โดยทำทุกอย่างออกมาจากความรู้สึก จากความตั้งใจที่เรามีให้แก่หนังแต่ละเรื่องที่ทำ ก็รู้สึกดีใจที่สิ่งที่เราทำเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม..."
คำพูดหนึ่งของหม่ำ จ๊กมก ดาราตลก นักแสดง ผู้กำกับหนัง กล่าวไว้หลังจากที่หนังของเขาเรื่องล่าสุดที่เข้าฉายอย่าง "วงษ์คำเหลา" ที่เรื่องนี้เขาทั้งกำกับเองเล่นเองอีก รายได้ทะยานสู่ 100 ล้าน นั่นทำให้เราต้องกลับมาทบทวนว่าหลากหลายคำวิจารณ์ของหนังที่ตลกหรือดาราสร้าง มักโดนวิจารณ์ในเรื่องของเนื้อหา แต่หากมองกลับไปในแง่ของรายได้ ไฉนจึงพุ่งสูงเมื่อเทียบกับหนังทุนสูง บทเยี่ยม อีกหลายต่อหลายเรื่องในบ้านเรา
หนังไทยเปลี่ยนไปตามกาลเวลา หนังผี ตลก เข้าครองอย่างจัง เพราะหากว่ากันจริงๆแล้วหนังฟอร์มดีบางเรื่อง ไม่ได้ทั้งกล่องไม่ได้ทั้งเงิน ก็ยังมีให้เห็น ดาราที่เคยแสดงก็หันมากำกับเองเสียหลายคน ได้รับการตอบรับทั้งรางวัลและเงิน ในช่วงปีนี้ คงต้องยกให้ผลงานการกำกับของ "ออฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง" กับเรื่อง “แฮปปี้เบิร์ธเดย์”
นอกจากหนังรักเศร้าเรื่องนี้แล้ว อดีตที่ผ่านมา “ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” เองก็เคยทำหนังเรื่องของเขา ที่ออกแนวฆาตกรรมไล่ล่าโรคจิตอย่าง "อำมหิต พิศวาส" (The passion) ที่ตั้ว ศรัณยู และตั๊ก บงกช นำแสดง เรื่องรายได้เรื่องนี้ไม่เป็นที่ฮืออาในบ้านเรานัก แต่ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่ ในแง่ของการผลิตถือว่าได้ความแปลกใหม่ หลากหลายนอกไปจากหนังผี ตลก ที่เหล่าบรรดาตลกทั่วฟ้าเมืองไทยจ้องผลิตแบบไม่ลืมหูลืมตา
ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยอย่างสหมงคลฟิล์ม ของเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ มักให้โอกาสนักศึกษาและผู้กำกับหน้าใหม่เข้ามามีบทบาทและขอทุนทำหนังซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่ดี รวมไปถึงดาราที่เข้ามาร่วมทุนกับเสี่ยเจียง อย่างหม่ำ หรือทีมสาระแนเองก็ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ค่ายใบโพธิ์ไม่น้อย เพราะทั้งสองเรื่อง กวาดรายได้ไปหลักชนร้อยล้านทั้งคู่
แม้แต่ค่ายหนังอย่างจีทีเอช (GTH) ค่ายหนังที่มีแบรนด์ของผู้กำกับแฟนฉัน แต่แล้วก็ต้อนรับผู้กำกับหน้าใหม่ให้ได้มีโอกาสเขียนบทเพื่อสร้างหนัง และทำให้ชื่อของตลกอย่างจตุรงค์ มกจ๊ก ขึ้นแทนเป็นผู้กำกับค่ายจีทีเอช และต้องบอกว่าหนังของตลก ที่ค่ายไม่เจ็บตัว
พระนครฟิลม์ เป็นอีกค่ายที่ให้ทุนคนทำหนังแก่นักแสดงตลกค่อนข้างบ่อย ทั้งโน้ต เชิญยิ้ม ที่กำกับเรื่องหลวงที่เท่งภาคแรก ได้ไป 100 กว่าล้าน ภาค 2 ได้ไปกว่า 80 ล้าน จะด้วยความฟลุค หรือมุกที่โดนใจ ที่แน่ๆ นี่คือเครดิตที่ทำให้ โน้ต ได้กำกับหนังของค่ายพระนครฟิลม์เรื่องต่อมา ไม่ว่าจะครอบครัวตัวดำ ลูกตลกตกไม่ไกลต้น มาถึงอีส้มสมหวัง และอีส้มสมหวังชะชะช่า ที่กำลังจะเข้าฉายกลางเดือนสิงหาคม ที่ได้นางเอกช่อง7 อย่างกบ สุวนันท์ มาเป็นนางเอก โก๊ะตี๋ อารามบอย ตลกที่เล่นหนังแทบทุกค่ายก็มีผันตัวเองมากำกับหนัง ในเรื่อง "หัวหลุดแฟมิลี่"
ส่วนค่ายไฟว์สตาร์ยังไม่นิยมดาราหรือตลก แต่ให้โอกาสคนทำหนังมือใหม่ได้ส่งบทหากเข้าตาก็สามารถไฟเขียวให้ทำหนังได้ นอกจากนั้นยังมีตลกเด๋อ ดอกสะเดา หรือ เทพ โพธิ์งาม ,เป็ด เชิญยิ้ม ,เท่ง ,โหน่ง,จตุรงค์ ฯลฯ รวมไปถึงล่าสุดการจะก้าวลงมาทำหนังอีโรติกครั้งแรกของนางเอกทรงโต "ตั๊ก บงกช คงมาลัย" และการทำหนังทุนต่ำที่ไม่ใช่การขอทุน100 ล้านจาก "ทักษิณ ชินวัตร" ของ "ใหม่ เจริญปุระ" ทำให้ต้องกลับมาทบทวนว่าทุกวันนี้คนดูหนังไทย จะได้บริโภคแต่หนังตลก ผี จากฝีมือผู้กำกับดารา-และตลก รวมไปถึงดาราที่มีความต้องการสร้างหนัง
"ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์" 1ในผู้กำกับแฟนฉัน และกำลังจะมีผลงานจากหนังผี 5 แพร่ง ในเดือนกันยายนนี้ของค่ายจีทีเอช กล่าวว่าสำหรับในมุมของผู้กำกับ ยอมรับเคยติดตามผลงานของผู้กำกับที่มาจากทั้งตลก และดารา ยอมรับหนังไทยตลกพาณิชย์นำ และขึ้นอยู่กับรสนิยมคนดูที่เลือกบริโภคและส่วนใหญ่บันเทิงกับหนังตลกมากกว่าหนังดราม่า
"โดยส่วนตัวผมไม่ได้มองพวกพี่ๆเขาเป็นตลก หรือดารานะครับ ก็มองว่าเป็นผู้กำกับเหมือนกัน พูดตรงๆผมชอบหนังหลายเรื่องจากหนังที่มีผู้กำกับกลุ่มนี้นะครับ แต่ว่าก็มีอีกหลายเรื่อง ที่ไม่ชอบแต่ว่าอย่างแหยมยโสธรของพี่หม่ำเนี่ยผมชอบ เพราะมีความเป็นหนัง เรารู้ว่าเราอยากได้อะไรแล้วเข้าไปแล้วได้สิ่งนั้น มันคือภาพยนตร์ไม่ใช่หนังที่เกิดจากการเอามุกมาเรียงร้อยต่อๆกัน แต่ที่คนชอบคิดว่าตลอกทำชอบออกมาแบบนั้น ซึ่งผมว่าบางเรื่องมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ก็มีแหละครับ บอกตามตรงว่าหนังพี่หม่ำเนี่ยพี่ชอบแหยมฯภาคแรกมาก แต่ก็ไม่ชอบบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 มันอยู่ที่จังหวะหนังแต่ละเรื่องที่มันแปรเปลี่ยนไป"
"หนังตลกส่วนใหญ่ก็เป็นเหมือนที่เขาว่าๆกัน มันจะมีแบบมุกชนมุก แล้วก็จริงๆเรื่องตลก ที่เป็นอยู่ในหนังไทยที่มีมันอิงอยู่กับเรื่องรสนิยมครับ คนบางคนอาจจะตลกมุกนี้ ไม่ตลกมุกนี้ดังนั้นมันตอบไม่ได้ว่า ผมไม่อยากเอาตัวเองไปตัดสินว่าหนังเขาไม่ดี เพราะว่าชาวบ้านเขาก็ตลกกัน มันอาจจะเป็นเรื่องของรสนิยม"
ส่วนรายได้หนังของบรรดาตลก หรือ ดารา ไม่ว่าจะเรื่องวงษ์คำเหลา หรือสาระแนห้าวเป้ง หรือหนังเรื่องอื่นๆ ย้งบอกกับเราว่า โทษใครไม่ได้ถ้าคนดูชอบหนังตลกแล้วรายได้สูง สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือต้องใช้เวลาและสร้างหนังที่มีลำดับบันไดจากง่ายไปหายากเพื่อให้ได้ความหลากหลายของหนังในสังคมนั้นๆ
"ผู้คนในวงการพูดๆกันว่ามันมีอารมณ์แบบน้อยใจก็มีนะครับ หนังดรามา คนดูกลับไม่ดู แต่หนังตลกกลับทำให้คนดูไปดูกันเยอะ หนังดรามาให้ทุนสูงกว่า และทำยากกว่า หนังตลกมันคือหนังพฤติกรรมมนุษย์ การลงทุนมันอาจไม่สูงมาก แต่ว่ารายได้มันกลับสูง มันไม่ใช่ความผิดของใครมันคือเรื่องของรสนิยมของคนในประเทศนี้ที่มาในแนวทางนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะครับ คนไทยดูหนังเพื่อความบันเทิง ถ้าเราจะปลูกฝังอยากจะชักชวนที่หลากหลายมากขึ้นต้องค่อยๆก้าว ค่อยเป็นค่อยไป จะให้เขามาชอบความบันเทิงแนวพี่ต้อม เป็นเอก พี่เจ้ย อภิชาติพงศ์ คิดว่ามันคงยาก อาจต้องมีบันไดขึ้น1 หรือ 2 ขยับไปเรื่อยๆ"
ก่อนที่เขาจะทิ้งท้ายว่าแท้ที่จริงแล้ว คนที่จะมาทำงานกำกับภาพยนตร์ในทรรศนะของเขานั้นไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่จบมาสายนี้โดยตรง หากแต่มีทักษะบวกประสบการณ์ ในจุดที่ลงตัวก็จะสามารถทำหนังออกมาได้ดี
"ผมว่าจริงๆแล้วการทำหนังมันเป็นเรื่องประสบการณ์ คนที่เรียนมาถ้าไม่มีประสบการณ์มันก็ไม่ช่วยอะไร หนังมันคือเรื่องทักษะ ยิ่งทำบ่อยๆ ดูบ่อยมันยิ่งช่วยในการทำงาน ทฤษฎีมันแค่การเรียนมา มันคือพื้นฐานที่ว่าเราควรจะทำอย่างไร มันต้องพึ่งประสบการณ์ทักษะเท่านั้น"
