xs
xsm
sm
md
lg

“ออม” ชื่นมื่นวิวาห์นักการตลาด “นัท” ประทับใจที่ต่างกันสุดขั้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ออม” ซุ่มวิวาห์หนุ่มการตลาด “นัท” หลังคบหาดูใจ 2 ปี บอกประทับใจฝ่ายชายที่เป็นคนเนี้ยบเจ้าระเบียบ ซึ่งต่างจากตนโดยสิ้นเชิง ยังไม่มีแผนฮันนีมูนเพราะติดงานด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเรื่องมีทายาทพร้อมมีทันที

หลังจากซุ่มเงียบใช้ชีวิตคู่กันตั้งแต่เดือนเมษายนโดยผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ “ออม นวดี โมกขะเวช” ก็ได้ฤกษ์ควง “นัท ชินทัต ศิริชนะชัย” หนุ่มการตลาดตัวแทนจัดจำหน่ายนาฬิกานำเข้าต่างประเทศยี่ห้อ Pendulum เข้าพิธีวิวาห์ที่ โรงแรมพลาซ่าแอทธินี รอยัลเมอริเดียน ในช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากคบหาดูใจเกือบ 2 ปี โดยมีพิธีการแบบเรียบง่าย และจัดเลี้ยงฉลองสมรสต่อทันที ซึ่งออมและเจ้าบ่าวก็ได้เปิดใจถึงกันและกันว่า

ออม “ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้แจ้งล้วงหน้า จริงๆแล้วออมก็ค่อนข้างที่จะเหมือนห่างจากตรงนี้ออกมา ก็เลยไม่แน่ใจว่ายังจะได้รับความสนใจจากตรงนี้อยู่หรือเปล่า คือจริงๆ แล้วต้องการที่จะทำให้เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ภายในครอบครัวเฉยๆ แต่ว่าในเมื่อวันนี้พี่ๆ สื่อมวลชนมาให้กำลังใจมาแสดงความยินดีกับออมก็ต้องขอบคุณมากๆ”

“จริงๆ แล้วผู้ใหญ่เขาคุยกันไปแล้วอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์เมษายนที่ผ่านมา เป็นแค่พิธีเล็กๆ ที่มีแต่พ่อแม่ออมแล้วก็พ่อแม่พี่นัท แต่ถ้าเป็นพิธีที่สวยงามก็จะเป็นวันนี้ก็เป็นแค่งานเลี้ยงตอนเช้าที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณผู้ใหญ่ เพราะว่าพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายก็เหมือนทำงานที่ต้องเจอผู้ใหญ่เยอะก็เลยอยากจะขอบคุณ แล้วก็จะได้เจอญาติพี่น้องก่อนที่จะมีงานเลี้ยงอีกตอนกลางวัน”

“อย่างคู่เราก็จะไม่มีพิธีเหมือนคู่อื่นที่จริงจัง คู่เราอะไรที่สวยงามผู้ใหญ่อยากจะให้ทำอะไรก็ทำกันในวันนี้ เหมือนพ่อแม่อยากให้ไหว้ผู้ใหญ่ก็ไหว้วันนี้ พ่อแม่อยากให้มีพิธีรดน้ำก็มีวันนี้”

“เรื่องเรือนหอเองเราก็เหมือนไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนไม่อยู่บ้านออมก็อยู่บ้านพี่นัทสลับกัน บางครั้งก็แล้วแต่แยกกันอยู่บ้างเพราะบางครั้งด้วยงานด้วยอะไรหลายๆ อย่างเราอาจจะไม่ได้มีเวลาที่จะมาอยู่รวมกันตลอดเวลา พี่นัทเองเขาก็ทำงานประจำที่เดี๋ยวไปนู่นไปนี่ เดี๋ยวก็ไปต่างประเทศตลอด คือตัวออมเองออมอยู่บ้านก็ไม่เหงาด้วย”

นัท “คือเราก็คงจะไม่ได้แยกกันอยู่ คงต้องหาที่อยู่สักที่หนึ่ง”

ออม “ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ คือออมยังชินกับการที่เราอยู่กับแม่ คือไม่ว่าจะไปไหนถึงเราจะย้ายไปอยู่บ้านใหม่ก็ต้องมีแม่ไปด้วยอยู่ดี เราก็เลยยังคิดกันอยู่ว่าจะเอายังไง”

บอกพิธีจัดแบบเรียบง่ายธรรมดาทั่วไป ส่วนเรื่องฮันนีมูนยังพักไว้ก่อนเพราะติดงาน
ออม “เป็นพิธีทั่วไปธรรมดาไม่ได้มีอะไรมาก หลักคือจักเพื่อไหว้ผู้ใหญ่มากกว่า เรื่องของการจดทะเบียนสมรสเรื่องนี้เขาไม่อยากให้เน้น ขออนุญาตไม่แจ้งรายละเอียดเรื่องนี้”

นัท “พิธีก็ไม่ได้มีอะไรมาก ไม่ได้มีพิธียกน้ำชา เป็นแบบไทยๆไหว้ผู้ใหญ่แล้วก็รดน้ำธรรมดา”

“เรื่องฮันนีมูนเผอิญว่าด้วยเรื่องของการงานมันค่อนข้างยากมากช่วงนี้ เพราะเดี๋ยวน้องออมเองเขาก็ค่อนข้างมี่จะมีงาน ช่วงนี้ก็ทำลังจะเข้าช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่ผมทำอยู่มันก็ค่อนข้างที่จะลำบากที่จะไปไหน หลังจากนี้สักพักหนึ่งปลายปีค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ขอปั๊มเงินก่อน”

ออม “ด้วยความที่พี่นัทเขาเป็นคนทำงานประจำเวลาที่เราจะไปไหนไกลๆ ต้องลางาน อย่างช่วงที่จะถึงนี้จะเป็นวันหยุดยาว พอเราคิดจะไปมันก็เต็มแล้ว คือเราต้องวางแผนเลยยังไม่ได้คิดที่จะไปไหนไกลๆ เพราะจริงๆ แล้วออมกับพี่นัทเป็นคนชอบท่องเที่ยวถ้าเกิดเรามีโอกาสเราก็จะหาเวลาไป แต่ที่ๆ มันเป็นคำว่าฮันนีมูนมันยังเป็นความรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นที่ๆ สวยงาม ต้องมีเวลาเราก็เลยคิดกันว่า เอาเป็นวันที่เราพร้อมและก็ว่างจริงๆ ดีกว่า”

เล่ารายละเอียดที่มารู้จักกันเพราะเป็นเพื่อของเพื่อนที่โรงเรียนเก่า ปฏิเสธข่าว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” เป็นแม่ให้
ออม “เรื่องนี้ขออนุญาตแก้ตัวแทนเจนี่ก่อนเลย เพราะว่าจริงๆ แล้วเจนี่เป็นเพื่อนออมไม่ได้เป็นเพื่อนพี่นัทเลย ที่พี่นัทกับเจนี่สนิทกันเพราะว่าเจนี่เป็นเพื่อนออมเท่านั้นเองไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย”

นัท “จริงๆ กับน้องออมเจอกันก่อนหน้านี้นานแล้ว เพราะว่าเพื่อนของน้องออมที่เป็นเพื่อนเรียนหนังสือด้วยกันมาก็เป็นรุ่นน้องผมที่สนิทกัน ก็ได้มีโอกาสเจอกันอยู่หลายครั้ง แต่ช่วงนั้นอาจจะเป็นช่วงที่ต่างคนต่างยังไม่พร้อมที่จะมาคบกัน ช่วงนั้นแต่ละคนก็มีสิ่งที่ตัวเองโฟกัสอยู่ จนกระทั้งวันที่ต่างคนต่างพร้อมแล้วผมก็มีโอกาสได้เจอน้องเขาอีกพอมีโอกาสได้ทราบว่าน้องเขาโสดเราก็เลยเข้าใส่ เจอเพชรเม็ดงามก็ต้องเข้าไปทันที”

“ชอบเขาในทุกๆ อย่างเลย คือตอนแรกเราก็ไม่ทราบว่าลึกๆ แล้วเขาเป็นยังไง แรกๆ เราก็รู้จักกันแบบผิวเผินจนมาถึงลึกๆ แล้วเราก็รู้สึกถูกใจทุกอย่างที่เป็นตัวน้องออม มันอาจจะมีข้อดีข้อเสียต่างๆ กันไป แต่ว่าพอเขย่ารวมๆ กันเป็นน้องออมมันก็ใช่แล้ว”

“ออม” เผยสิ่งที่ประทับใจฝ่ายชายจนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเพราะความต่าง เนื่องจากฝ่ายชายเป็นคนมีระเบียบในชีวิตมากซึ่งต่างจากตน หลังจากใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้วทั้งคู่ต่างให้คำมั่นสัญญากันว่าจะให้อภัยและพร้อมที่จะปรับตัวเข้าหากัน

ออม “จริงๆก็คือมีการพูดคุยเรื่องนี้กันมาตลอดเวลาแล้ว ออมว่าจริงๆ แล้วช่วงเวลาอายุของออมกับพี่นัทมันถึงเวลาแล้ว คือเพื่อนๆ รอบตัวก็คือแต่งงานมีลูกกันไปหมดแล้ว พอเรามีโอกาสได้มานั่งคุยกันพอพี่นัทพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเราก็เลยโอเค เพราะถ้าเราไม่ได้ทำอะไรอย่างถ่ายละคร เพราะหนังออมก็ถ่ายจบแล้ว ออมก็เลยคิดว่าเราน่าจะพร้อมแล้ว ผู้ใหญ่ของเราก็เลยคุยกัน ตอนแรกคิดว่าจะใช้ชีวิตสบายๆ ทั่วไป แต่ว่าพอเหมือนกำหนังกำลังจะออกก็เลยอยากจะทำทุกอย่างให้มันจบสิ้นไปก่อนเพราะเราเองก็ยังไม่รู้ว่าพอหนังออกแล้วเราต้องไปโปรโมตหนังอะไรอีกหรือเปล่า ซึ่งตรงนั้นมันต้องใช้เวลาอีกนาน เราก็ทำพิธีแค่ไหว้ผู้ใหญ่แล้วก็ทำทุกอย่างให้มันจบเรียบร้อยดีกว่า”

อย่างหนึ่งเลยที่เลือกพี่นัทก็คือออมเป็นคนที่ขาดระเบียบวินัยมาก เป็นผู้หญิงที่เหมือนทั่วๆไปซึ่งเราไม่รู้สึกว่าเราจะแตกต่างจนมาเจอพี่นัท คือทุกอย่างเขาเนี๊ยบมากคือวางอะไรก็จะถูกที่ ทุกอย่างจะเช็ดพับผ้ารีดผ้าเองทุกอย่าง ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ ซึ่งออมก็ชอบเพราะออมคิดว่าคนที่มีความแตกต่างกัน ถ้าออมเป็นเขาแล้วเขาเป็นออม ออมก็จะไม่อยู่ด้วยแล้วก็คงทนไม่ได้ แต่ว่าพี่นัทเขาจะไม่ตำหนิคนอื่นแต่เลือกที่จะก็ทำๆ แต่ปากไม่บ่น เขาไม่ชอบเขาก็ทำเอง แล้วเราก็สบายทุกอย่าง ชีวิตเราก็เป็นระเบียบขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปทะเลาะเบาะแว้ง”

“คือจริงๆ แล้วออมไม่เคยเจอคนแบบนี้ ออมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง แล้วเพื่อนสนิทออมก็เป็นคนที่ตลกตลอดเวลา เหมือนใครอยู่ด้วยแล้วก็จะต้องตลกกับเขา คือออมโตมากับคนแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วออมไม่ได้ชอบ แต่กับพี่นัทเขาก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าเป็นกับเพื่อนเขา ด้วยความที่มันซึมซับเข้ามาเราก็ขำไปกับเขาตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัวว่าเขาก็ค่อยๆ เข้ามาสนิทกับเราเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องใช้ระยะเวลานานมาก อย่างเพื่อนออมคบกันมาตั้งแต่ 6 ขวบพวกนี้โตมาด้วยกันเลย แต่พี่นัทเพิ่งเข้ามาได้ปีสองปีแต่เขาสามารถเข้ากับเพื่อนออมได้ทุกคนเพราะว่าด้วยความที่เขาเป็นคนที่กับคนง่าย อารมณ์ดี ซึ่งต่างกับออมที่เป็นคนเฉยๆ มากๆ”

“คือความต่างที่ว่านี่ทำให้ออมรู้สึกแหมือนว่าออมมีความเป็นคนมากขึ้น เหมือนแบบจากใจร้อนก็เย็นขึ้น จากแบบเป็นคนรกๆ ก็มีระเบียบมากขึ้นโดยที่เราไม่รู้สึกว่าเราโดนดุหรือเราต้องปรับเปลี่ยนอะไร มันเป็นไปแบบสนุกมากกว่า”

เจ้าบ่าวเผยช็อตขอแต่งงาน
นัท “จริงๆ แล้วชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้เหมือนละครทุกคน อย่างละครก็อาจจะมีนั่งเฮลีคอปเตอร์ไปขอสาวที่ยอดตึก ของเราอาจจะไม่ใช่ คือของเราคุยกันในลักษณะที่ว่ามันอยู่ในวัยที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ไม่ได้มีการมาคุกเขาขอกันเป็นกิจจะลักษณะอย่างนั้น เป็นการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา สุดท้ายก็เลยดึงผู้ใหญ่เข้ามาคุยกันดีกว่า เพราะเราคุยกันเองก็อาจจะไม่เพียงพอในการใช้ชีวิตคู่ต่อไปในอนาคต พอผู้ใหญ่ของทั้งคู่คุยกันก็เป็นอันจบ”

ออม “เราก็มีการพูดคุยกันอยู่เรื่อยๆ ที่อยากจะตกลงเพราะว่าตอนนี้พ่อกับแม่ออมค่อนข้างที่จะอายุมาก ทางด้านบ้านพี่นัทเองก็อายุมากแล้วเหมือนกัน ออมว่าจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องว่าด้วยจังหวะและอายุ เหมือนกับว่าทุกคนบอกว่ารีบแต่งงานเถอะจะได้มีลูก แม่ออมเขาก็เป็นหมอเด็ก เขาก็อยากจะเลี้ยงให้ทันตอนที่เขายังเลี้ยงไหวในขณะที่เขายังเป็นหมอ ไม่ใช่รอให้ออมพร้อม คือไม่มีคำว่าพร้อมอยู่แล้วสำหรับออม เมื่อไหร่ที่พร้อมต้องเป็นเราที่เป็นคนโอเค ถ้ารอพร้อมมันก็จะต้องรอนับไปอีกเรื่อยๆ ซึ่งมันก็จะไม่พร้อมสักที”

นัท “คำมั่นสัญญาเราคุยกันมาตลอดมันเป็นเรื่องของการคุยกันเรื่องการใช่ชีวิตตั้งแต่วันที่เริ่มคบกัน อย่างวันนี้เราก็มีการเจอผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย การคุยกันก่อนหน้านี้ซึ่งมันก็ค่อยๆ เข้มข้นขึ้นในเรื่องของการใช้ชีวิต สิ่งที่เราลองคบกันมาตลอดมีดีบ้างมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าทั้งหมดที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการให้อภัยกันและเข้าใจกันไม่ว่าจะทะเลาะกันขนาดไหนก็แล้วแต่ สุดท้ายเราก็ปรับความเข้าใจแล้วก็จูนเข้าหากันได้ สิ่งสำคัญคือเรื่องของการปรับเข้าหากันมากกว่า ส่วนอนาคตมันอาจจะมีบทเรียนใหม่ๆ เกิดขึ้นมันก็คงหาวิธีปรับกันแล้วก็ต้องใจเย็นกันมุ่งไปในจุดหมายเดียวกันนั้นก็คือทำให้ครอบครัวของเราออกมาดีที่สุด”

ออม “ออมย้ำอยู่ตลอดว่าคืออมรู้ตัวเองว่าเป็นคนที่ขึ้นๆ ลงๆ บ่อย ออมก็จะพยายามพูดในเวลาที่ออมรู้สึกขึ้นไปแล้ว พอออมค่อยๆ ลดลงออมก็จะอยู่ด้วยกันนะ เหมือนพูดกลางๆ เพราะออมไม่ได้เป็นผู้หญิงที่กุ๊กกิ๊กมาก”

ซึ่งหลังจากนี้ทั้งคู่ก็พร้อมที่จะมีทายาทเลยทันที
ออม “ก็จะพยายามค่ะก็ถ้าเกิดมีได้ก็จะมีเลย สำหรับออมมีคนเดียวก็น่าจะพอแล้ว เพราะออมว่าคนที่เกิดเป็นลูกออมน่าสงสาร(หัวเราะ) แต่อาจจะโชคดีที่มีแม่เป็นหมอเด็ก แต่ออมอาจจะไม่ใช่เป็นคนที่รักเด็กมาก แล้วโดยส่วนตัวออมอยากได้ผู้ชายเพราะว่าเด็กผู้ชายเลี้ยงง่าย ผู้หญิงต้องมานั่งเป็นห่วง อย่างผู้ชายก็จะดูลุยๆ ดีอาจจะทิ้งขว้างได้บ้าง แต่พี่นัทเขาอยากได้ผู้หญิง”

นัท “ส่วนตัวผมอยากมีมากกว่า 1 แล้วผมก็อยากได้ผู้หญิงแล้วผมก็ไม่อยากทิ้งขว้าง อยากให้อยู่กับเราตลอด”














กำลังโหลดความคิดเห็น