"โนล กัลลาเกอร์" ลาออกจาก Oasis หลังต่อยกับน้องชายหลังเวที

ความบาดหมางอันยาวนานของสองพี่น้องตระกูลกัลลาเกอร์แห่งวง Oasis มาถึงจุดสิ้นสุดในการลงไม้ลงมือครั้งล่าสุดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งให้ผู้พี่อย่าง "โนล กัลลาเกอร์" ประกาศลาออกจากวงผ่านทางเว็บไซต์ทันที ขณะที่ตัวน้องชายอย่าง "เลียม กัลลาเกอร์" เผยว่าจะยังคงรักษาวง Oasis เอาไว้ต่อไป

Oasis วงร็อกอังกฤษชื่อดังแห่งยุค 90 อาจจะถึงเวลาที่ต้องปิดฉากตัวเองเสียแล้ว หลังจากมือกีตาร์และนักแต่งเพลงหลักของวงอย่าง โนล กัลลาเกอร์ ตัดสินใจลาออกจากวงหลังมีปากมีเสียงถึงขั้นลงมือกับน้องชายจอมแสบของเขานั่นเอง

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่เทศกาลดนตรี Rock en Seine festival ที่นครปาริสเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่วง Oasis จะขึ้นไปเปิดการแสดงไม่กี่นาที การทะเลาะเบาะแวงอีกครั้งของสองพี่น้องจุดเดือดต่ำก็เริ่มขึ้น

"มันเริ่มด้วยการถากถางกันไปมาของทั้งสองคน จากนั้นอยู่ๆ ก็บานปลายอย่างไม่มีใครคาดคิด และระเบิดออกมาในที่สุด ปกติที่แล้วๆ มาโนลจะเป็นคนที่ใจเย็นกว่าเพื่อน แต่ใครๆ ก็มีจุดเดือดด้วยกันทั้งนั้น การชกต่อยกันของทั้งคู่ถูกจับแยกกันอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทันที่จะหยุดเลียมจากการพังกีตาร์ตัวหนึ่งของโนลไปได้ ตรงนั้นเอง ที่ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่โนลจะทนรับได้ เขาไม่อยากจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแวงแบบนี้อีกแล้ว" ผู้อยู่ในเหตุการณ์หลังเวทีแจง

จากนั้นอีกสองชั่วโมงต่อมา ก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ไม่นาน โนลได้เปิดใจผ่านทางเว็บไซต์ของวงว่าเขาจะไม่อยู่ในวงนี้อีกต่อไป

"ด้วยความเศร้าอย่างสุดซึ้ง ผมขอประกาศกับพวกคุณว่าผมลาออกจากวง Oasis ในคืนนี้ ผู้คนจะเขียนถึงมันอย่างไรก็ช่าง แต่ผมไม่สามารถร่วมงานกับเลียมได้ต่อไปแม้แต่วันเดียว ขอฝากความเสียใจไปยังแฟนเพลงที่ซื้อตั๋วสำหรับการแสดงที่ปาริส, คอนสแตนซ์ และมิลาน"

หลังจากนั้นเขาก็แถลงกาณณ์เปิดใจถึงความรู้สึกที่อยู่เบื้องหลังการลาออกครั้งนี้ต่อแฟนเพลง

"ถึงมิตรรักแฟนเพลงทุกๆ คน สิ่งที่ผมจะบอกพวกคุณในเช้าวันนี้มาจากความเศร้าในหัวใจของผม ว่าในวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาผมถูกจำยอมให้ต้องลาออกจากวงแมนเชสเตอร์ ร็อก แอนด์ โรล ป็อป กรุ๊ป Oasis"

"รายละเอียดทั้งหลายคงไม่จำเป็นและคงมีมากเกินกว่าจะแจกแจงได้หมด แต่ผมรู้สึกว่าพวกคุณมีสิทธ์ที่จะได้รับรู้ว่าระดับการถูกข่มขู่ทั้งทางวาจาและความรุนแรงที่ผม, ครอบครัวของผม, มิตรสหายของผม ได้รับมันสุดที่จะทนได้แล้ว ประกอบกับการไม่ได้รับการสนับสนุนและความเข้าใจทั้งจากทีมบริหารจัดการและเพื่อนร่วมวงของผมเอง ที่ทำให้ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะหาหนทางใหม่ๆ ให้กับชีวิต"

"คนแรกที่ผมต้องฝากขอโทษก็คือแฟนเพลงที่ปาริสที่จ่ายค่าตั๋วและรอเราขึ้นเวทีอยู่ทั้งวัน เพียงเพื่อจะต้องผิดหวัง "อีกครั้ง" กับวงๆ นี้ การขอขมาดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ผมรู้ดี แต่เกรงว่ามันจะเป็นสิ่งเดียวที่ผมมีในตอนนี้"

"ขณะที่ผมตกเป็นประเด็นอยู่ในเวลานี้ ผมอยากจะพูดถึงทีมงานที่แสนดีจากเทศกาลดนตรี V Festival ที่ต้องมาเผชิญปัญหาแบบเดียวกัน อีกครั้งที่ผมให้ได้เพียงคำขอโทษ แม้ผมจะไม่รู้ว่าทำไม เพราะมันไม่ใช่ความผิดของผม ผมมีความพร้อมที่จะขึ้นแสดงอย่างสมบูรณ์แบบ แต่อนิจจา คนอื่นๆ ในวงไม่เห็นความสำคัญของมัน"

"ในการลงท้ายนี้ ผมขอกล่าวขอบคุณต่อแฟนเพลง Oasis ที่อยู่ทั่วโลก 18 ปีที่ผ่านมาถือเป็นประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์เหลือเกิน (ผมเกลียดคำนี้ แต่วันนี้ถือเป็นครั้งเดียวที่ผมจะได้ใช้มันอย่างเหมาะสม) มันคือฝันที่เป็นจริง ผมขอรักษามันไว้ในความทรงจำที่ยิ่งใหญ่"

"ตอนนี้ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมยังมีครอบครัวและทีมฟุตบอลสุดโปรดเอาไว้ให้ใส่ใจ ผมคงได้เจอพวกคุณตามท้องถนนที่ไหนซักแห่ง ด้วยความยินดีอย่างสุดซึ้ง ขอบคุณมากๆ ลาก่อน เอ็น.จี."

การลาออกของผู้ที่เป็นเหมือนหัวหน้าวงอย่างโนลทำให้หลายคนสันนิฐานว่าอนาคตของวงร็อกสุดดังวงนี้คงจะจบลง แต่ทางน้องชายคู่กรณีอย่าง เลียม กัลลาเกอร์ ได้ยืนยันต่อคนใกล้ชิดของเขาว่าจะยังคงรักษาวงเอาไว้ต่อไป แม้ไม่มีพี่ชายของเขาอยู่ในวงอีกแล้ว

ทางด้าน อลัน แม็คกี ผู้ที่ค้นพบ Oasis และเซ็นสัญญากับพวกเขาเป็นครั้งแรก เผยว่าทั้งโนลและเลียมยังจะมีอนาคตที่สดใสในวงการต่อไป และกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างการแยกวงของสองพี่น้องไปถึงการเสียชีวิตของราชาเพลงป็อป ไมเคิล แจ็กสัน เมื่อไม่นานมานี้ด้วย

"เมื่อคุณได้ดูโนลเล่นกีตาร์โปร่งร้องเพลงที่แมนเชสเตอร์เมื่อสองปีก่อน ที่แฟนเพลง 17,000 คนร่วมใจกันร้อง Don't Look Back In Anger ไปพร้อมๆ กับเขา คุณจะรับรู้ว่ามันมีพลังซักเพียงไหน และโนลก็รู้ตัวดีว่าเขายิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น"

"เลียมก็มีพลังถึงระดับนั้น พวกเขาสามารถสร้างมันได้โดยลำพัง"

"มันเป็นช่วงเวลาที่ Oasis แยกวงและ ไมเคิล แจ็กสันจากเราไป แม้ว่าทั้งสองเหตุการณ์จะไม่สัมพันธ์กัน แต่มันถือเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย"

"และมันคงจะไม่ทำให้ผมแปลกใจถ้าพวกเขาจะกลับมารวมกันอีกครั้งในอีกซัก 5 ปีข้างหน้า สำหรับการออกทัวร์ตามสเตเดียมใหญ่ๆ แต่แน่นอนว่าตอนนี้วงคงต้องหยุดไปอีกยาว"

ก่อนหน้านี้มีรายงานเผยว่าทั้งสองพี่น้องคิดเรื่องการเป็นศิลปินเดี่ยวมาได้ซักพักแล้ว ซึ่งแต่เดิมมีความเชื่อกันว่าโนลผู้พี่นั้นเป็นนักแต่งเพลงหลักของวง และน่าจะไปได้รุ่งกว่าถ้าต้องการจะบินเดี่ยว

แต่เพื่อนสนิทของเลียมเผยว่าเลียมก็มีเพลงเยี่ยมๆ ที่พร้อมจะออกผลงานของตัวเองได้แล้วเหมือนกัน "คนส่วนใหญ่มักประเมินเลียมต่ำไป เขาถือเป็นนักแต่งเพลงมานานแล้ว ตอนนี้เขามีเพลงเจ๋งๆ ที่พร้อมจะออกอัลบั้มเต็มได้แล้ว"

เพ็กกี กัลลาเกอร์ แม่ของสองพี่น้องเปิดใจต่อสื่อว่าเธอยังหวังจะให้ทั้งสองกลับมารวมวงกันเหมือนเดิม

"ฉันเชื่อว่าวงจะต้องกลับมาร่วมกันอีกครั้ง เพราะจริงๆ แล้วสองคนนั้นเขารักกันมาก แต่ทั้งคู่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรื่องตลกก็คือตอนเด็กๆ เขาไม่เคยมีเรื่องกันเลย พวกเขาไม่เคยทะเลาะกันจนกระทั้งมาอยู่วงเดียวกัน ฉันหวังว่านี่จะไม่ใช่จุดจบของ Oasis พวกเขาแค่เหนื่อยจากการทัวร์ พวกเขาเคยสู้กันแบบนี้แล้วก็คืนดีกันได้"