“สิรวิชญ์” สมุนแม้วบินเดี่ยวเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาขึ้นเวทีปราศรัยระหว่างประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนหัวหน้าโจรแดง “วีระ” อ้างป่วยไม่สบาย ด้าน “เหวง-ณัฐวุฒิ” ยังไม่ชัดเจนจะเข้าพบ จนท.วันใด บอกเพียงติดภารกิจให้ปากคำคดีอื่น
วันนี้ (19 พ.ค.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเป็นคดีระหว่างประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า เนื่องจากกรณีที่คดีอยู่ระหว่างการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว แกนนำบางคนขึ้นเวทีซึ่งผิดเล็กน้อย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีหนังสือให้มาทราบข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งนัดพร้อมกันวันนี้ เวลา 10.00 น. ที่ บช.น.
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อไปว่า สำหรับคดีที่มีการมอบตัวทั้ง 14 คน หลังจากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว แต่ก็มีหลักฐานที่ขึ้นเวทีอยู่ก็มีความผิดเล็กๆ ตาม พ.ร.ก.ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยมีความผิดตามมาตรา 9 อนุ 2 ซึ่งหากตรงนั้นทำไว้ก็จะมีความผิดอีกส่วนหนึ่งด้วย เรียกว่ากรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ซึ่งเป็นคดีเล็กๆ
“ก็มีปัญหาทางข้อกฎหมายเหมือนกันว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เลิกแล้วจะยกเลิกหรือไม่ ซึ่งคดีที่ฟ้องไปศาลรับฟ้องไว้ เราจึงจำเป็นที่ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับแกนนำบางท่าน ทั้งนายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และอีกหลายคน” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง หนึ่งในแนวร่วม นปช.ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้ทำหนังสือเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้เดินทางมาพร้อมกับนายเรืองเดช เหลืองบริบูรณ์ ทนายความ เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม ภายหลังที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังแกนนำ นปช.4 คน ให้เข้าพบพนักงานสอบสวน รับทราบข้อกล่าวหากรณีมั่วสุมขึ้นเวทีปราศรัยระหว่างออกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้แก่ นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายแพทย์เหวง โตจิราการ
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นายสิรวิชญ์เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวเพียงคนเดียว ส่วนอีก 3 คนนั้น นายสิรวิชญ์กล่าวว่า นายวีระป่วยไม่สบาย ส่วนนายณัฐวุฒิ และนพ.เหวง ติดภารกิจให้ปากคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบการสลายการชุมนุม จึงไม่สามารถเดินทางมาในวันนี้ได้ ซึ่งตนและทนายความจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งให้ทราบ และทั้ง 3 คนจะเดินทางมาได้วันไหนต้องดูอีกครั้ง
วันนี้ (19 พ.ค.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเป็นคดีระหว่างประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า เนื่องจากกรณีที่คดีอยู่ระหว่างการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว แกนนำบางคนขึ้นเวทีซึ่งผิดเล็กน้อย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีหนังสือให้มาทราบข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งนัดพร้อมกันวันนี้ เวลา 10.00 น. ที่ บช.น.
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อไปว่า สำหรับคดีที่มีการมอบตัวทั้ง 14 คน หลังจากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว แต่ก็มีหลักฐานที่ขึ้นเวทีอยู่ก็มีความผิดเล็กๆ ตาม พ.ร.ก.ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยมีความผิดตามมาตรา 9 อนุ 2 ซึ่งหากตรงนั้นทำไว้ก็จะมีความผิดอีกส่วนหนึ่งด้วย เรียกว่ากรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ซึ่งเป็นคดีเล็กๆ
“ก็มีปัญหาทางข้อกฎหมายเหมือนกันว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เลิกแล้วจะยกเลิกหรือไม่ ซึ่งคดีที่ฟ้องไปศาลรับฟ้องไว้ เราจึงจำเป็นที่ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับแกนนำบางท่าน ทั้งนายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และอีกหลายคน” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง หนึ่งในแนวร่วม นปช.ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้ทำหนังสือเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้เดินทางมาพร้อมกับนายเรืองเดช เหลืองบริบูรณ์ ทนายความ เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม ภายหลังที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังแกนนำ นปช.4 คน ให้เข้าพบพนักงานสอบสวน รับทราบข้อกล่าวหากรณีมั่วสุมขึ้นเวทีปราศรัยระหว่างออกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้แก่ นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายแพทย์เหวง โตจิราการ
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นายสิรวิชญ์เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวเพียงคนเดียว ส่วนอีก 3 คนนั้น นายสิรวิชญ์กล่าวว่า นายวีระป่วยไม่สบาย ส่วนนายณัฐวุฒิ และนพ.เหวง ติดภารกิจให้ปากคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบการสลายการชุมนุม จึงไม่สามารถเดินทางมาในวันนี้ได้ ซึ่งตนและทนายความจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งให้ทราบ และทั้ง 3 คนจะเดินทางมาได้วันไหนต้องดูอีกครั้ง
