xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนรอยอดีต “เด็จพี่” เล่นบทโจรขนปืนบุกบาร์ญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันวาน
ความคิดเห็นที่ 13
...search google “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” เจอแต่ข่าวซ้อมเมีย กับพกอาวุธปืน...

แม้จะฟังดูโอเวอร์ แต่การแสดงความคิดเห็น(ที่ 13) โดย “เสด็จพี่ พร้อมพงศ์ เพคะ” จากข่าว“เด็จพี่” เห็นแวว “ไอ้ตู่” ปากพล่อยติดคุก วอน “มาร์ค” ถอนคดีตีตนเสมอเจ้าในเว็บไซต์เมเนเจอร์ออนไลน์ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา แต่ถ้าหากใครลองทำตามดูก็จะพบว่ามันมิได้เป็นคำพูดที่ไม่มีความจริงเอาเสียเลย

ย้อนไปในอดีตก่อนที่จะเข้าสู่ถนนเส้นทางสายการเมือง บนถนนสายบันเทิง “เก๋า” หรือ “ตั้ม พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” (16 มกราคม พ.ศ.2504) เริ่มต้นชีวิตบนถนนสายบันเทิงจากการเป็นนายแบบ (ตอนนั้นเจ้าตัวใช้ชื่อว่า “นพพร”) ก่อนจะมีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องอาทิ เลดี้ฝรั่งดอง (2527) คู่กับ จารุณี สุขสวัสดิ์, วัยรักเพี้ยนรัก (2528), เจ้าสาวมะลิซ้อน (2529), ตัณหาเถื่อน (2531), นางกลางไฟ (2531), ดอกไม้ร่วงที่สันทราย (2535) ฯลฯ
ในช่วงเวลาดังกล่าวหนุ่มหล่อจากปักษ์ใต้คนนี้มีงานชุกจนจัดได้ว่าเป็นดาราระดับพระเอกชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว

ทั้งนี้ เว็บไซต์วิกิพีเดียได้ให้ข้อมูลว่าเขาผ่านงานแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์กว่า 100 เรื่อง รวมถึงได้รับรางวัลเมขลา นักแสดงชายดีเด่น พ.ศ.2534 (ไม่มีข้อมูลบอกว่าจากภาพยนตร์เรื่องอะไร)

ในช่วงปลายของการเป็นนักแสดง พร้อมพงษ์หันมารับงานละครในแนวจักรๆ วงศ์ๆ และภาพยนตร์วีซีดีในแนวอีโรติก โดยที่หวิวสยิวได้ใจคอหนังแผ่นเป็นอย่างมากก็คือ ภาพยนตร์วีซีดีเรื่อง “บุญเพ็ง หีบเหล็ก” ประกบสามสาวเซ็กซี่ ทั้ง ชโลมจิต จันทร์เกตุ แอน มรกต มณีฉาย และ ทัดทรวง มณีจันทร์

เรื่องนี้เจ้าตัวรับบทเป็น "บุญเพ็ง" พระนอกรีตที่ถูกจับสึกเพราะทำผิดวินัยสงฆ์ ต่อมาก็ตั้งตนเป็นอาจารย์ มีคาถาอาคมทำเสน่ห์เมตตามหานิยมให้กับผู้ที่เชื่อในเรื่องเรื่องของคุณไสย และลงมือสังหารเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคนแล้วคนเล่าเพียงเพื่อต้องการทรัพย์สมบัติมาเป็นของตนเอง แล้วอำพรางคดีด้วยการหั่นศพใส่หีบเหล็ก..(*ข้อมูลและภาพจาก http://www.thailand-cd.com)

นอกจากงานแสดงภาพยนตร์แล้วเจ้าตัวยังเคยเป็นนักจัดรายการวิทยุ-โทรทัศน์, ทำธุรกิจประตูอัลลอย รวมไปถึงค่ายเพลง “แสงตะวันโปรโมชั่น” โดยมีศิลปินในสังกัด เช่น ปู ปรีชา ก่อนที่จะปิดตัวลงในปี 2550 เมื่อครั้งเจ้าตัวตัดสินใจเข้าสู่ถนนการเมือง

ว่ากันว่านอกจากปัญหาในเรื่องของการเมืองแล้ว สาเหตุของการปิดค่ายนั้นยังมาจาก “*ปัญหาส่วนตัว” ของเขาอีกด้วย (จากคอลัมน์ “ทั่วแคว้นแดนลูกทุ่ง” นสพ. ข่าวสด วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2550)

ชีวิตบนถนนนักการเมืองของพร้อมพงศ์ไม่ได้สวยงามเหมือนกับสายบันเทิงที่เขาเคยเจอะเจอมา เพราะการลงสมัครเลือกตั้งครั้งแรกของเขาในปี พ.ศ.2550 จังหวัดพังงา เขต 1 ในนามพรรคพลังประชาชน ปรากฏว่าเขาสอบตก

ทว่า โชคยังดีที่พรรคพลังประชาชนได้จัดตั้งรัฐบาลนั่นทำให้เขาได้มีโอกาสนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม และอีกหลายๆ ตำแหน่ง อาทิ ที่ปรึกษากรรมาธิการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประธานคณะทำงานประชาสัมพันธ์กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการตามลำดับ

กระทั่งปัจจุบันกับตำแหน่งโฆษกพรรคเพื่อไทย

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการทำงานของเขานั้นค่อนข้างจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่หลายคนคงจำได้ดีก็คือในกรณีการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้นำภาพการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่มีสุภาพสตรีคนหนึ่งถูกชายแต่งตัวคล้ายทหารจิกลากผม มาอภิปรายในสภาฯ โดยบอกว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวถูกทหารรุมทำร้าย ก่อนจะถูกรัฐบาลสวนกลับด้วยข้อมูลความจริงที่ว่า ชายคนดังกล่าวไม่ใช่ทหาร และที่เจ้าตัวต้องทำเช่นนั้นก็เพราะรู้สึกโมโห ที่ถูกสุภาพสตรีคนดังกล่าวด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคายอย่างไม่ยอมที่จะฟังเหตุผล และถ่มน้ำลายใส่ ขณะที่ทหารเองได้เป็นผู้มาเข้าห้ามเหตุเสียด้วยซ้ำไป

แต่ถึงแม้จะกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ แทนที่อดีตพระเอกดังคนนี้จะยอมรับผิด กลับไปให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุว่า ไม่ใช่ความผิดของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และคิดว่า ส.ส.ถูกวางยา จาการที่มีคนไปโพสข้อมูลเท็จไว้ในเว็บไซต์ เช่น Dek-d ราชดำเนิน Pantip เพื่อหลอกให้ ส.ส. ฝ่ายค้านนำข้อมูลเท็จมาใช้ ...

จากการที่เจ้าตัวมักจะทำงานที่ออกไปในแนว “รำมากกว่าร้อง” ประกอบกับการเคยแสดงละครจักรๆ วงศ์ๆ มาก่อนนี้เองที่ทำให้นักข่าวสายทำเนียบบางส่วนเรียกโฆษกพรรคเพื่อไทยคนนี้ว่า “เด็จพี่”

สำหรับในส่วนของคดีความที่เกิดจากความเลือดร้อนของ "เด็จพี่" คนนี้นั้น หลายคนอาจจะจำได้เพียงกรณีที่เจ้าตัวตกเป็นข่าวเมื่อวันที่ 11 เดือนเมษายน 2550 เมื่อถูก น.ส.พรพรรณ เชาวลิต อดีตภรรยาแจ้งความจับกุม หลังพยายามตามง้อคืนดี แล้วบันดาลโทสะทุบกระจกรถเก๋งเพื่อนชายจนแตกเสียหาย

โดยในรายละเอียดนั้น น.ส.พรพรรณ เล่าว่า *ก่อนเกิดเหตุนั่งรถยนต์คันดังกล่าวมากับเพื่อนอีก 3 คน เพื่อไปรับประทานอาหารที่ร้านสโมสรเรือใบ ชายหาดดงตาล ม.2 ต.สัตหีบ มีนายกมล เจ้าของรถเป็นคนขับ ขณะที่ขับมาถึงหน้าร้านดังกล่าว นายพร้อมพงษ์ขับรถยนต์ฟอร์ด สีดำ ทะเบียน ษล 8827 กทม. ปาดหน้าไปมาจนต้องหยุดรถ จากนั้นนายพร้อมพงษ์เดินมายืนขวางหน้ารถ นายกมลจึงหักรถหลบ พร้อมกับจอดรถดู แต่อดีตพระเอกกลับกระโดดขึ้นมาด้านหน้ารถ พร้อมใช้ของแข็งทุบที่กระจกหน้ารถด้านซ้ายบริเวณที่ตนนั่งอยู่ได้รับความ เสียหาย ตนเกรงว่านายพร้อมพงษ์จะใช้ปืนที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลายิงจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์

ด้านนายพร้อมพงษ์ให้การว่า ตนเป็นสามีของ น.ส.พรพรรณ ทราบว่าภรรยามารับประทานอาหารกับเพื่อน ที่สโมสรเรือใบชายหาดดงตาล จึงขับรถติดตามมาจนทัน และยืนขวางด้านหน้ารถเพื่อเรียก น.ส.พรพรรณมาพูดคุยเพื่อตกลงกัน แต่ถูกรถยนต์คันดังกล่าวเร่งเครื่องพุ่งเข้าชน จนตัวเองกระเด็นขึ้นมาด้านหน้ารถ ทำให้ข้อศอกขวากระแทกกับกระจกรถอย่างแรงจนแตกได้รับบาดเจ็บ ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทุบกระจกรถ (*ข่าวสด 12 เมษายน 2550)

แต่ถ้าหากใครความจำดีก็คงจะจำได้ว่า เมื่อ 22 ปีที่แล้ว อดีตพระเอกดังเคยตกเป็นข่าวในลักษณะนี้มาแล้ว และก็เป็นข่าวใหญ่มากๆ ถึงขนาดที่เป็นข่าวหนึ่ง พาดหัว 3 ชั้นของ นสพ.ไทยรัฐเลยทีเดียว

พระเอกหนัง
เล่นบทโจร “ขนปืน” บุกบาร์ญี่ปุ่น
หึง “นักร้อง”


นั่นคือพาดหัวของ นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2530 โดยมุมซ้ายล่าง(หน้า 1) ก็มีภาพข่าว บรรยายไว้ว่า...ยังเสียดาย : นายนพพร นพฤทธิ์ หรือ พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ พระเอกหนังไทย พกปืนพาพวกตามล่าอาละวาดตบตี น.ส.ปัจมา คงกลิ่น เมียเก่านักร้องบาร์ญี่ปุ่น ถูก ตร.บางรัก จับ

โดยในข่าวบรรยายไว้ว่า...พระเอกหนุ่มจากหนังเรื่อง “บ๊ายบายไทยแลนด์” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หันมาเล่นบทผู้ร้ายนอกจอ ยกพวกรวม 5 คน พร้อมปืนและกระสุนเพียบกะเล่นเด็กบาร์ญี่ปุ่น อีกฝ่ายรู้ตัวทันเลยแจ้งตำรวจรวบเข้ากรงขัง เผยที่เล่นบทเด่นในทางร้ายเพราะต้องการขู่เมียนักร้องบาร์ญี่ปุ่นที่เลิกกันไปแล้ว ให้มาหมอบราบคาบแก้วดังเดิม และแค้นที่ถูกลูบคมโดยเด็กคุมบาร์

หลังถูกดำเนินคดี พระเอกยังซวยซ้ำสอง เพราะอดีตเมียแจ้งตำรวจขอเลิกเด็ดขาด หากเป็นอะไรให้ถือว่าเป็นฝีมือของอดีตสามีพระเอก พบเหตุที่แยกทางกันไปเพราะตัวพระเอกแอบไปมีอะไรๆ กับนางเอกสาวสวย

สำหรับอดีตภรรยาของเขานั้น มีชื่อว่า น.ส.ปัจมา คงกลิ่น อายุ 21 ปี ได้ให้การว่า ตนเป็นนักร้องที่บาร์ญี่ปุ่น อานาตะ อยู่กินกับอีกฝ่ายมา 2 ปี ไม่มีบุตรด้วยกัน อาศัยอยู่ที่ร้านตาตั้มสโตร์ สี่แยกบางกะปิของพระเอกหนุ่ม และประมาณเดือนเศษมานี้ พระเอกหนุ่มได้แอบไปมีสัมพันธ์สวาทกับนางเอกวัยรุ่น “จามจุรี เฉิดโฉม” จึงแยกทางกัน

ก่อนหน้านี้ อดีตสามีกับเพื่อนได้มาอาละวาดที่บาร์ ลากตนเองไปจากบาร์และตบตีเด็กวัยรุ่นรวมทั้งหญิงบาร์จะเข้าช่วย อีกฝ่ายได้ชักปืนส่ายไปมาขู่ห้ามไม่ให้ใครช่วยเหลือ ตนได้พูดกล่อมสามีจนปล่อยตัวกลับมา และวันนี้ก็ยังตามมาหาเรื่องเอากับตนและเด็กๆ ที่เฝ้าร้านอีก พอดีมีคนแจ้งตำรวจยกกำลังมายุติศึกเสียก่อน

ทั้งนี้ น.ส.ปัจมา ยังได้แจ้งเพิ่มเติมกับตำรวจไว้ด้วยว่า ขอเลิกและแยกทางอย่างเด็ดขาดจากนายพร้อมพงษ์ ห้ามมิให้มาข้องแวะอีกต่อไป รวมทั้งถ้าตนเป็นอะไรไปนั่นหมายความว่าเป็นฝีมือของพระเอกหนัง...

แม้ไม่อยากจะฟื้นเรื่องของอดีต ทว่ามองรอยกลับไป และหันมามองภาพปัจจุบันแล้ว คงไม่ผิดอะไรนักหากจะบอกว่า อดีตพระเอกดังคนนี้เป็นคนค่อนข้าง...เสมอต้นเสมอปลายทีเดียว
วันนี้
ผลงานการแสดงในหนังวีซีดี บุญเพ็ง หีบเหล็ก
เมื่อครั้งตกเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งเมื่อ 22 ปีที่แล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น