xs
xsm
sm
md
lg

เด็กกำพร้าไทย : กรณีเคอิโงะ...

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บทความโดย... เฉลิมพล พลมุข

จากข่าวที่ปรากฏในสื่อมวลชนทุกแขนงนำเสนอชีวิตจริงของเด็กคนหนึ่งที่เรียนในระดับประถมศึกษาชื่อ ด.ช.เคอิโงะ หรือเคโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป. 4 โรงเรียนอนุบาลเมือง (ท่าหลวงสงเคราะห์) อ.เมือง จ.พิจิตร ที่มีมารดาเสียชีวิตด้วยโรคร้าย พ่อชื่อนายคัทซูมิ ซาโต ชาวญี่ปุ่นที่มิได้มารับผิดชอบลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น โดยอาศัยอยู่กับป้าที่มีอาชีพขายไก่ย่างมีฐานะยากจน...
ด.ช.เคอิโงะ ซาโต วัย 9 ขวบ
เด็กชายเคอิโงะ พยายามหารายได้ช่วยป้าโดยการนำอาหารปลาออกเร่ขายให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปกราบไหว้หลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง อ.เมือง พิจิตร หากใครได้เห็นภาพของเด็กชายเคอิโงะ ในการตามหาพ่อบังเกิดเกล้า จะเห็นได้ว่าเด็กเล็กคนหนึ่งที่มีความคิดว่า ทำอย่างไรตนเองจึงจะได้พบพ่อของตนเองโดยการนำภาพถ่ายรูปของพ่อที่แม่ได้ให้ไว้ก่อนแม่จะเสียชีวิต เพื่อบอกกับนักท่องเที่ยวว่าได้พบเห็นพ่อของตนที่มีรูปลักษณะในรูปถ่ายหรือไม่...

สภาพจิตใจของเคอิโงะ บางตอนถึงกับบอกกับคนทั่ว ๆ ไปว่าตอนนี้คิดถึงแม่มาก เมื่อก่อนตอนที่แม่ยังมีชีวิตเคยอยู่ด้วยกันจำได้ว่าตอนนั้นแม่ไม่มีเงิน ครอบครัวลำบากมาก อดมื้อกินมื้อ ตอนนี้ตนพอจะมีเงินบ้างแล้วเพราะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ทำให้คิดถึงแม่มาก บางคืนนอนร้องไห้คนเดียว และยังมีความหวังเต็มเปี่ยมว่าวันหนึ่งจะได้พบพ่อ...

เรื่องดังกล่าวทราบถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านได้มอบให้รองราชเลขานุการในพระองค์ ติดตามหาทางช่วยเหลือเพื่อหาทางได้พบพ่อบังเกิดเกล้าและช่วยเหลือคุณภาพชีวิตในวัยเรียน...

หลังจากนั้นไม่นานก็มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งบุคคลต่าง ๆ ให้ความสนใจในการช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ต่อเด็กชายเคอิโงะ...

ผู้เขียนและผู้อ่านหลายท่านคงจะได้ติดตาม ได้เห็นและรับรู้ถึงคุณภาพของเด็กไทยทุกวันนี้ว่าเป็นเช่นไร รัฐบาล หน่วยงานราชการ องค์กรต่าง ๆ ได้ทำงานเพื่อคุณภาพของเด็กไทยอย่างจริงจริงใช่หรือไม่...

จำนวนประชากรของเด็ก ๆ และเยาวชนไทยมากกว่า 20 ล้านคน เขาเหล่านั้นต้องการครอบครัวที่ดี อบอุ่น ต้องการความรักของพ่อแม่และญาติพี่น้อง เด็ก ๆ ต้องการการเล่าเรียนที่ดี ไม่ต้องเดือดร้อนในปัญหาปากท้อง มีข้าวกินครบทุกมื้อ อุปกรณ์การเรียนไม่เดือดร้อน ผู้เขียนเห็นว่า วันหนึ่งเด็ก ๆ เหล่านี้ต้องเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของประเทศชาติบ้านเมืองเขาเหล่านั้นมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันด้วยสภาพเช่นไร...

เด็กชายเคอิโงะ เป็นหนึ่งในกรณีเด็กไทยที่ประสบปัญหาดังกล่าว ผู้เขียนเห็นว่ายังมีเด็ก ๆ อีกเป็นจำนวนมากที่มีความทุกข์ทั้งร่างกายและจิตใจ ปัญหาครอบครัว ชุมชน สิ่งแวดล้อม การศึกษา ที่สังคมมิได้รับรู้ สื่อมวลชนมิได้นำเสนอ เขาเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตเป็นอยู่เช่นไร เคอิโงะอาจจะเป็นเด็กที่โชคดี ที่มีนิสัยดี เรียนเก่ง มีมิตรไมตรีต่อเพื่อน เป็นที่ภูมิใจของคุณครู ขณะเรียนป. 3 ได้เกรด 3 กว่า ๆ ทุกเทอม...

ผู้เขียนเห็นว่าคุณภาพของเด็กไทยวันนี้จะเป็นเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้จะออกแบบ กำหนดชะตาชีวิตเขาไปทางไหน อยากให้เขาเป็นเช่นไร มีคุณภาพอย่างไร...

1. รัฐบาล : ผู้เขียนเห็นว่ารัฐบาลนี้และรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มาเล็งเห็นถึงคุณภาพของเด็ก ๆ น้อยเกินไปเริ่มตั้งแต่นโยบายของรัฐบาลที่ไม่ค่อยมีความชัดเจน เด่นชัด บางรัฐบาลกำหนดนโยบายดูเสมือนกับเป็นการหาเสียงเพื่อให้ได้คะแนนเสียงของตน แต่มิได้คำนึงถึงสิ่งที่ต้องปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม บางนโยบายและบางโครงการฯ ดูกว้างและหลวมเปิดช่องให้มีการทุจริตคอรัปชั่น มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลต่อนักการเมืองไทยเป็นระยะ ๆ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในพิธีการเปิดประชุมและปาฐกถาพิเศษเรื่อง ทิศทางและนโยบายของรัฐบาลต่อการปฏิรูปการศึกษารอบสองว่า การปฏิรูปการศึกษาควรมีการกระจายโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง การมีส่วนร่วมทางการศึกษาและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและท้ายสุด การปฏิรูปการศึกษายังคงเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่พอกับรัฐธรรมนูญ...

ผู้เขียนเห็นว่านโยบายเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาล ตั้งแต่อนุบาลไปถึงมัธยมศึกษาตอนปลายต้องใช้งบประมาณถึง 18,000 ล้านบาท สำหรับกรณีเคอิโงะความฝันของตนเองในการศึกษาเล่าเรียนจะเป็นจริงหรือไม่ ใครเป็นผู้ให้คำตอบ...

2. ระบบราชการ : รัฐบาลมีความพยายามที่จะให้มีการปฏิรูประบบราชการโดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีภารกิจหน้าที่ในการบริหารการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย บรรยากาศของนักเรียน ครู โรงเรียนที่ผ่านมาพบสารพัดปัญหาในโรงเรียน อาทิ โรงเรียนขาดทั้งอัตรากำลังครูที่มีคุณภาพของคุณครู ขาดงบประมาณในการบริหารจัดการ ครูขาดทั้งขวัญและกำลังใจในการดำรงชีพให้อยู่รอดท่ามกลางยุคบริโภคนิยม วัตถุนิยม...

ผู้เขียนรับรู้และเห็นภาพของโรงเรียนในระดับของ สพฐ. หลาย ๆ โรงเรียนในขณะนี้รอการยุบรวมของครู นักเรียนและโรงเรียน คุณครูหลายคนเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ครอบครัวของครูแตกแยก แตกร้าว นักเรียนมีคุณภาพการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ในหลาย ๆ วิชา นักเรียนมัธยมปลายบางคนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้...

ผู้เขียนเห็นด้วยที่จะให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมในการบริหารการศึกษาให้มีคุณภาพที่ดีไปสู่ชุมชน ขณะเดียวกันอีกภาพหนึ่งไม่ควรมองข้ามก็คือ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่นมีความรู้ ความเข้าใจในบริบทของการศึกษาดีหรือไม่...

นับว่าเป็นพระเมตตาอย่างสูงสุดของพ่อหลวงของเรานั่นก็คือในหลวงฯ ที่พระองค์ท่านได้ให้มีการสร้างโรงเรียนด้อยโอกาสทางการศึกษาของเด็ก ๆ จำนวนมาก อาทิ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์มีเป็นจำนวนมากมาย กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ โรงเรียนเหล่านี้ให้โอกาสแก่เด็ก ๆ ทั้งยากจนและไม่มีโอกาสแม้กระทั่งอาหารประทังชีวิตของตนเอง...

3. พระศาสนา : ผู้เขียนเห็นว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่ คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ คนไทยใจดีมีเมตตา ในขณะนี้มีเด็ก ๆ ส่วนหนึ่งไม่สามารถเข้าไปศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนรัฐบาล เอกชนได้ แต่เมืองไทยยังมีสถาบันที่ให้โอกาสแก่เด็ก ๆ ได้แก่ โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศเช่นกัน เด็ก ๆ เหล่านั้นถูกกล่อมเกลาให้อยู่ในศีลในธรรม รู้จักผิด รู้จักถูก เมื่อมีความรู้ในระดับสามัญศึกษาแล้วยังมีโอกาสได้เล่าเรียนถึงระดับปริญญาบัตร
ผู้บริหารของประเทศชาติบ้านเมืองในขณะนี้หลาย ๆ คนผ่านการศึกษาจากระบบของคณะสงฆ์ ที่เปิดโอกาสให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ผู้เขียนเห็นว่า เคอิโงะ ยังอาศัยร่มใบบุญของพระศาสนาทำให้มีวิถีชีวิตอยู่รอด โดยการขายอาหารปลาในวัดท่าหลวง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวไปกราบไหว้บูชาเพื่อขอพร...

ผู้เขียนเห็นว่า ท่ามกลางวิกฤติของการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และนานาปัญหา ระบบการศึกษาในพระศาสนาเป็นทางเลือกหนึ่งของเด็ก ๆ และเยาวชน หากเขาเหล่านั้นได้ซึมซับคุณธรรม จริยธรรม รู้จักรับผิดชอบชั่วดี รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควรทำและไม่ควรทำ เมืองไทยคงจะมีความสงบร่มเย็น มีสันติภาพเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

4. ครอบครัว : เป็นสถาบันแรกของเด็ก ๆ ที่สามารถมอบทั้งความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่นมั่นคงในชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชน ความจริงอย่างหนึ่งของสังคมไทยในขณะก็คือ มีครอบครัวไทยและครอบครัวลูกครึ่งจำนวนมากที่เป็นครอบครัวแตกแยก พ่อกับแม่ไปคนละทิศทาง ปล่อยให้ลูกต้องได้รับชะตากรรมกับสิ่งต่าง ๆ มีเด็กเป็นจำนวนมากขาดความอบอุ่นในครอบครัวหันไปสู่ยาเสพติด ติดเพื่อน ติดเกมส์ เป็นยุวอาชญากรรม สถานรับแรกเด็กที่กระทำความผิด ทัณฑสถานต้องรับเด็กที่กระทำความผิดมีจำนวนมากขื้นในแต่ละปี

เป็นที่รับรู้กันโดยทั่ว ๆ ไปแล้วว่า เด็กเยาวชนยุคนี้หลายคนมีพฤติกรรมเสี่ยงรอบด้าน โชคดีที่น้องเคอิโงะ ใฝ่ดีไม่ตกไปในอบายมุข ตั้งใจเรียน ไม่สร้างความลำบากใจให้กับญาติพี่น้องและทางโรงเรียน ในช่วงที่นางทิพย์มณฑา ซาโต ผู้เป็นแม่ป่วยหนักก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่มักจะกอดลูกและพร่ำเพ้อถึงพ่อชาวญี่ปุ่นให้ฟัง และบอกว่าพ่อจะต้องกลับมาหาลูก จะต้องมาที่วัดท่าหลวง ซึ่งเป็นที่สาบานรักระหว่างแม่กับพ่อ ที่แม่บอกให้ไปรอที่วัดก็เพราะว่า เวลาแม่กับพ่อพบกันก็จะพากันไปนั่นเล่นที่วัดท่าหลวง ก่อนที่แม่จะตายเคอิโงะได้เฝ้าปรนนิบัติแม่ คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดสิ่งขับถ่าย ให้กำลังใจแม่จนกระทั่งแม่เสียชีวิต...

ผู้เขียนได้มีโอกาสทำงานด้านการกุศล โดยเฉพาะเกี่ยวกับเด็ก ๆ กำพร้า บางคนพ่อแม่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ด้วยอุบัติเหตุ ไร้ญาติดูแล ปู่ย่าตายายจำนวนมากไม่มีกำลังที่จะให้การศึกษาและดูแลเด็ก ๆ เหล่านั้นให้มีคุณภาพได้ เด็กและเยาวชนหลาย ๆ คนใฝ่ดี ตั้งใจเรียนหนังสือ นิสัยดีโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น บำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ ผู้เขียนได้แต่คิดว่า วันหนึ่งเขาเหล่านั้นต้องเป็นที่พึ่งให้แก่ตนเองได้ เป็นที่พึ่งให้กับประเทศชาติบ้านเมืองได้...

เมืองไทยเป็นเมืองแห่งความโชคดีในหลายประการ สิ่งหนึ่งก็คือองค์พ่อหลวง แม่หลวง ซึ่งเป็นที่พึ่งอย่างประเสริฐสุดของคนไทยและเด็ก ๆ ยามใดที่เด็ก ๆ ได้รับความลำบาก เดือดร้อน พระองค์ท่านเสมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจให้พ้นจากความทุกข์ยากลำบาก ผู้เขียนได้มีโอกาสดูโฆษณาชุดหนึ่งที่เด็ก ๆ กราบไหว้ปฏิทินที่มีพระองค์ท่านที่ติดฝาผนัง ภาพดังกล่าวเป็นจริงสัมผัสได้ในชีวิตปัจจุบัน...

ผู้เขียนไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนักหากข้าราชการระดับหัวหน้างานของจังหวัดพิจิตรจะต้องถูกโยกย้ายเพราะปัญหาของน้องเคอิโงะ อย่างไรก็ตามปัญหาต่าง ๆ ย่อมต้องมีการแก้ปัญหาที่ถูกจุด ถูกที่ถูกทาง หากปัญหาดังกล่าวถูกแก้ไปในทิศทางของการเมือง ข้าราชการประจำที่ต้องทำงานสนองการเมือง คงไม่มีข้าราชการคนใดมีจิตใจที่จะรับใช้ประเทศชาติบ้านเมืองได้ตลอดไป...

น้องเคอิโงะ ถือเป็นเป็นกรณีตัวอย่างหนึ่งของเด็กลูกครึ่งไทยคนหนึ่ง ที่ถูกสังคมเปิดเผยออกมาให้ได้รับรู้รับทราบเรื่องราวของชีวิต แต่ยังมีเด็ก ๆ อีกเป็นจำนวนมากที่มีปัญหาใกล้เคียงกัน บางคนอาจจะมากกว่าแต่เขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสบอกต่อสังคม ใครและหน่วยงานใดจะให้โอกาสเขาเหล่านั้นบ้าง...

ผู้เขียนได้แต่หวังว่า วันหนึ่งคงจะมีผู้ใหญ่ที่ใจดี มีเมตตาต่อเด็ก ๆ มีเงินทอง ที่ดิน ทรัพย์สมบัติเหลือกินเหลือใช้ เสียสละจุนเจือเพื่อเด็ก ๆ จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการเรียนที่ดี มีงานทำที่ดี ครอบครัวที่ดี ในที่สุดก็สามารถนำพาประเทศชาติบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดี ๆ ความสุขสงบ รอยยิ้มของคนไทยให้กลับมาโดยเร็วพลันสมกับเมืองไทยเป็นสยามเมืองยิ้มตลอดกาลนาน...
กำลังโหลดความคิดเห็น