xs
xsm
sm
md
lg

"กรุง ศรีวิไล"แฉพท.เละเทะ ฟัด"พระเอก"ซ้อมเมียเป็นโฆษกพรรคได้ไง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากกรณีนายอดิศราช ธรรมพิทัพษ์ ผอ.ศูนย์เลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 พรรคเพื่อไทย มาทวงหนี้ค่าป้ายโฆษณาหาเสียงที่พรรคยังค้างชำระอยู่ แต่กลับถูก นายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตนักแสดงและนายแบบ สมาชิกพรรคที่ฝักไฝ่กลุ่มเสื้อแดง เข้าไปชกต่อย เหตุเกิดที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.)นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสมพล วิชัยดิษฐ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ของพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกัยแถลงข่าว โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวยืนยันว่านายอดิศราช ไม่ได้เป็น ผอ.ศูนย์เลือกตั้งสุราษฎร์ธานี ของพรรค เพราะไม่มีหนังสือแต่งตั้งจากพรรคอย่างเป็นทางการ และไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย ยืนยันว่าพรรคไม่เคยว่าจ้างนายอดิศราช การมาทำแบบนี้น่าจะมีนัยแอบแฝง เอาเรื่องทวงหนี้มาบังหน้า เพื่อต้องการให้พรรคเสียหายหรือไม่
"ที่บอกว่าพรรคค้างจ่ายค่าทำสื่อประชาสัมพันธ์อยู่ 7 แสนบาทนั้น น่าจะเป็นการเป็นสั่งเอง เออเอง เพราะไม่มีบิลมาวางเลย นอกจากนี้ป้ายประชาสัมพันธ์ส่วนใหญ่พรรคก็สั่งทำจากกทม. แล้วส่งไปให้ที่สุราษฎร์ธานี ถ้ามีใครมาอุปโลกน์ตัวเลขสูงๆ แบบนี้แล้วเกิดรวมตัวเลขพบว่าเกิน 1.5 ล้านบาท แล้วจะไปแจ้งต่อ กกต. อย่างไร มันผิดกฎหมาย และการที่คุณอดิศราช ไปแจ้งความไว้นั้น หากพบว่ามีการแจ้งความเท็จ ก็จะมีการปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป" โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

**อ้างจะทำลายชื่อเสียง"วิชัยดิษฐ"

ด้านนายสมพล วิชัยดิษฐ กล่าวว่า นายอดิศราชกับพวกมีการเตรียมการกันมาอย่างดี อาจจะต้องการทำลายหัวหน้าพรรค ทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของตน คนๆนี้อยู่ในคณะบุคคลที่เคลื่อนไหวอย่างเป็นขบวนการในพื้นที่เลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ที่ผ่านมา ยืนยันว่าการที่นายอดิศราช อ้างว่าได้ไปจัดซื้ออุปกรณ์ในการประชาสัมพันธ์หาเสียงนั้น ไม่มีหลักฐานใดๆ มาแสดงทั้งสิ้น การมาเขียนข้อความว่า “แพ้แล้วหนี หนี้ไม่จ่าย” มาประจานหน้าพรรคเพื่อไทยโดยไม่มาเจรจา น่าจะเป็นการเตรียมการมาอย่างดี โดยมุ่งหมายจ้องทำลายพรรค
"เงินที่ว่าติดค้างเงินอยู่ 7 แสนบาทนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่มีหลักฐาน และไม่น่าจะมีจำนวนเยอะขนาดนั้น และยอมรับว่าผมเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายมาช่วยเหลือในการเลือกตั้ง จึงไม่ทราบว่าใครมีเจตนาดีหรือเจตนาร้าย" นายสมพลกล่าว

**ยัน"แดงกัดแดง"พรรคไม่เสียหาย
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีนายเมธี อมรวุฒิกุล ชกต่อยนายอดิศราช ว่า การกระทำของนายเมธี เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เสียหายต่อพรรค และ ต้องให้กระบวนการยุติธรรมสืบสวนต่อไป ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของนายเมธี ก็พบว่า มีความเป็นลูกผู้ชายดี กล้าทำกล้ารับ
สำหรับกรณีของนายวรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วน ภายในพรรคนั้น จากนี้พรรคจะมีมาตรการจัดการกับบุคคลไม่พึงประสงค์ โดยสั่ง รปภ.ให้เข้มงวด บุคคลภายนอกที่เดินทางเข้าออกที่ทำการพรรคให้มากขึ้น

**"กรุง"เชื่อมีคนอมเงินค่าจ้าง
ด้านนายนที สุทินเผือก หรือ"กรุง ศรีวิไล" ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนมองเรื่องนี้ 2 มุม คือ 1. การมาทวงเงินดังกล่าวมีนัยทางการเมือง มีคนอยู่เบื้องหลัง เพราะพฤติกรรมผิดปกติ ความจริงควรมาคุยกันในพรรค เอาบิลมาวางให้เห็นกันให้ชัด หากพรรคไม่ยอมจ่ายจึงค่อยมาทวงเงินในลักษณะดังกล่าว
ส่วนในมุมมองที่ 2 คือ มีคนของพรรคกั๊กเงินเอาไว้ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครถือเงิน ทราบเพียงว่า คนที่ประสานคือ นายพร้อมพงศ์ และนายสมพล วิชัยดิษฐ แต่ไม่ทราบว่า กระบวนการจัดสรรเงินเป็นอย่างไร

**งง"เด็จพี่"เป็นโฆษกพรรคได้ไง
"ในช่วงโค้งสุดท้ายที่ได้ไปช่วยหาเสียง แม้เพื่อน ส.ส.ด้วยกันจะบอกว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก และมีม็อบมาประท้วงทวงเงิน แต่ผมก็ยังไปตามคำชวนของ นายพร้อมพงศ์ แต่เดินทางไปคนละรอบ และได้บอกกับนายพร้อมพงศ์ ในช่วงที่มาชวนว่า กูไม่ไปกับมึง เพราะเคยโดนมึงหลอกมารอบหนึ่ง สมัยที่ชวนไปงานบวชน้องชายมึงที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งหลังจากมึงขึ้นเวทีแล้วก็หายไปเลย นี่แหละเป็นนิสัยของนายพร้อมพงศ์ ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทย ตั้งนายพร้อมพงศ์ เป็นโฆษกพรรคได้อย่างไร เรื่องทวงเงินที่เกิดขึ้นนั้น ถ้านายพร้อมพงศ์ เอาเงินไป แล้วโอนให้เขาก็จบ ซึ่งหากนายพร้อมพงศ์ ปกติดี ก็ไม่น่าจะเป็นเหมือนอย่างที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พูดว่า นายพร้อมพงศ์ เคยเตะเมีย คนเป็นพระเอกหนังแล้วเตะเมีย ซ้อมเมีย มีหรือ" นายนที กล่าว

**ถาม "ชัชจ์-จำลอง" เข้ามาทำอะไร
นายนที กล่าวด้วยว่า โดย ส่วนตัวรู้จักนายเมธี และสอนมากับมือ ถ้าในวันนั้นตนอยู่ด้วย ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ส่วนกรณีที่มีการมองว่า เมื่อคนวงการบันเทิงเข้ามาเล่นการเมืองแล้วอาจทำลายภาพลักษณ์ของพรรคนั้น นายนที กล่าวว่า พรรคควรต้องสกรีนคนเข้ามา ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยจนพรรคเละไปหมด ใครอยู่ตำแหน่งไหน ทำอะไรไม่มีใครรู้ อย่างเช่น พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และพล.ต.อ.จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธ์ นั้น เข้ามาทำอะไร ควรเรียกมาสกรีนกันให้หมด ใครเข้าออกพรรค จะต้องออกบัตรอนุญาตเข้าออก โดยเฉพาะระบบการรักษาความปลอดภัยที่ตอนนี้ใช้ไม่ได้
นายนที กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายพินิจ ทวีสุข พ่อบ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นผู้สนับสนุนให้พรรคส่งนายเมธี ลงสมัคร ส.ส.กทม. แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็คงต้องมีการทบทวนกันใหม่

**ปูด"ภิญญา"ปั่น"อดิศราช"ทวงหนี้
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เผยเบื้องหลังที่นายอดิศราช มาทวงหนี้ครั้งนี้เชื่อว่านายภิญญา ช่วยปลอด อดีต ส.ว.สุราษฎร์ธานี และอดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งมาช่วยนายสมพลหาเสียง เป็นผู้อยู๋เบื้องหลังการมาทวงหนี้ครั้งนี้ เนื่องจากนายอดิศราช เป็นลูกทีมของนายภิญญา นอกจากนี้ นายภิญญา พยายามมาขอให้พรรคส่งเป็นผู้สมัคร ส.ส. สุราษฎร์ธานี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า รวมทั้งยังขอมีบทบาทในการกำหนดตัวผู้สมัครของพรรคด้วย จึงเดินเกมดิสเครดิตตระกูลวิชัยดิษฐ

**"ภิญญา"ปัด"อดิศราช"คนสนิท
ด้านนายภิญญา กล่าวว่า ตนสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ 1 เดือนแล้ว นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯได้ติดต่อให้ไปช่วย นายสมพล หาเสียงก็เลยไปช่วย ทั้งๆที่ไม่ได้สนิทกับนายสมพล แต่ไม่อยากให้สุราษฏร์ธานี ผูกขาดโดยคนตระกูลเทือกสุบรรณ ซึ่งตอนที่พบกันนั้น นายสมพล และแกนนำพรรคได้ตกลงให้นายอดิศราช เป็นผอ.ศูนย์เลือกตั้งแล้ว โดยมีกกต.จังหวัดรู้เห็นอย่างเป็นทางการ และนายอดิศราช ก็ไม่ใช่เด็กของตน เพราะนายอดิศราช อายุ 50 กว่าปีแล้ว เป็นคนมีฐานะ จบปริญญาโทนิด้า เป็นอดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวสุราษฏร์ธานี 2 สมัย เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายสัปดาห์ มีโรงพิมพ์ และรับทำป้ายหาเสียง เป็นคนมีสถานะทางสังคมในสุราษฏร์ธานี รู้จักกันเฉพาะตอนที่เคยไปว่าจ้างให้ทำป้ายหาเสียงครั้งที่ตนลงสมัคร ส.ว.สุราษฏร์ธานีเมื่อปี 43 เท่านั้น
**ลั่นไม่อยากเหยียบ"เพื่อไทย" อีก
นายภิญญา กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย มีปัญหามากจริงๆ ตอนนี้ไม่อยากไปเหยียบพรรคเพื่อไทยแล้ว เพราะเงินแค่ไม่กี่แสนบาทยังมีปัญหา การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมานั้นเงินที่ผู้ใหญ่ในพรรคโอนไปให้ เช่น ค่าทำป้ายประมาณ 2 แสนบาท ก็ส่งไม่ถึงมือ นายอดิศราช นายพร้อมพงศ์ บอกกับคนในศูนย์เลือกตั้งซ่อมว่า ผู้ใหญ่ในพรรคโอนเงินมาให้หลายแสนบาทแล้ว อยากถามว่าแล้วเงินหายไปไหน เท่าที่ทราบนั้นมีการโอนเงินกันแค่แสนกว่าบาทซึ่งน้อยกว่าเงินเลือกตั้งกำนันเสียอีก ทั้งๆ ที่เป็นพรรคใหญ่ คนพรรคเพื่อไทยบอกว่าตนอยู่เบื้องหลังนั้น คนแบบนี้มันเชื่อไม่ได้ มันเป็นคนกะล่อน ปลิ้นปล้อน หลังเกิดเรื่องหัวคะแนนที่สุราษฎร์ธานีระส่ำกันหมด โทรมาหาทั้งวัน ถามแต่ว่าใครอมเงิน ใครเบี้ยว ตนก็อยากรู้เหมือนกันว่าเงินหายไปไหน
"สมพลไม่ได้เรื่อง ขี้เกียจ ไม่เคยเดินหาเสียงเลย คิดดูแล้วกันว่า บ้านตัวเองแท้ๆ ยังได้แค่ 5 พันคะแนน อายไหม แล้วตอนเลือกตั้งหาเสียง 1 เดือน ก็ไม่เคยไปหาเสียง ไม่เคยลงพื้นที่ ไปแค่วันรับสมัครวันเดียวกับ 3-4 วันสุดท้าย เขาเดินหาเสียงกันตั้งแต่เช้า แต่ก็ตื่นสายไม่เคยไปเดินหาเสียง ฝนตกแดดออกก็ไม่เคยไปพบประชาชน ไม่เคยไปขึ้นเวทีปราศรัยหา มีแต่พวกผมต้องขึ้นเวที เดินหาเสียงให้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ คนถามว่าผู้สมัครอยู่ไหน เราก็ต้องช่วยบอกว่า ไม่อยู่ ไปกรุงเทพฯ แล้วถ้าผมจะลงเลือกตั้ง ก็จะลงเขต 2 ไม่ลงเขต 1 ผู้ใหญ่ในพรรคต้องลงมาเคลียร์ปัญหานี้ ไม่อย่างนั้นมีปัญหาใหญ่โต ถ้าไม่ทำอะไร ผมจะแถลงข่าวข้อเท็จจริงทั้งหมด" นายภิญญา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น