ศึกไข่แม้วยืดเยื้อ “ภิญญา” ออกโรงซัดพวกเดียวกัน สาวไส้โดนอมเงินเลือกตั้ง

“ศึกไข่แม้ว” ยังไม่จบ ออกโรงซัดกันนัวไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุด “เพื่อแม้ว” ปูด “ภิญญา” อยู่เบื้องหลัง “อดิศราช” ทวงหนี้ ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาแค้นสาวไส้พวกเดียวกันไม่มีชิ้นดี ลั่นจะไม่ไปเหยียบเพื่อไทยอีก จวก “เด็จพี่” แหล บอกให้งบหาเสียงหลายแสน แต่พอเข้าจริงจ่ายแค่หยิบมือ บ่นอุบมีคนอมเงินแน่ ด้านหัวคะแนนในสุราษฎร์ฯ ใจร้อนยกหูถามเงินอยู่ที่ไหน จี้ผู้ใหญ่ในพรรครีบชี้แจงด่วน ก่อนจะโดนแฉความจริงทั้งหมด

วันนี้ (9 ก.ย.) แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เบื้องหลังกรณีนายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ผอ.ศูนย์เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาทวงหนี้ หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า นายภิญญา ช่วยปลอด อดีต ส.ว.สุราษฎร์ธานี และอดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งมาช่วย นายสมพล วิชัยดิษฐ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 พรรคเพื่อไทย หาเสียงนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ นายอดิศราช ออกมาทวงหนี้ เนื่องจาก นายอดิศราชเป็นลูกทีมของนายภิญญา โดยตลอดที่ผ่านมา นายภิญญาพยายามเข้ามาขอพรรคส่งให้ตัวเองเป็นผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานีในการเลือกตั้งครั้งหน้า รวมทั้ง ยังขอมีบทบาทในการกำหนดตัวผู้สมัครของพรรคในจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย ซึ่งมีพฤติกรรมพยายามดิสเครดิตตระกูลวิชัยดิษฐมาตลอด

ด้าน นายภิญญา ช่วยปลอด อดีต ส.ว.สุราษฎร์ธานี และอดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่า ตนสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ 1 เดือนแล้ว โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อเพื่อให้ไปช่วยนายสมพลหาเสียงแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่ไม่ได้สนิทสนมกับนายสมพล อีกทั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็ถูกผูกขาดโดยคนตระกูลเทือกสุบรรณ จึงไม่อยากเดินทางไปในตอนแรก ส่วนตอนที่พบกับนายสมพลและแกนนำพรรคนั้น ได้มีการตกลงให้นายอดิศราชเป็น ผอ.ศูนย์เลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว โดยทาง กกต.สุราษฎร์ธานี ก็รู้เรื่องนี้ว่านายอดิศราชไม่ใช่เด็กของตน เนื่องจากนายอดิศราชอายุ 50 กว่าปีแล้วและเป็นคนมีฐานะ จบปริญญาโทมหาวิทยาลัยนิด้า เป็นอดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวสุราษฎร์ธานี 2 สมัย รวมทั้งยังเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายสัปดาห์ในจังหวัด ประกอบธุรกิจโรงพิมพ์และรับทำป้ายหาเสียง ถือเป็นคนมีสถานะทางสังคมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งตนได้มีโอกาสรู้จักเมื่อครั้งที่ไปจ้างทำป้ายหาเสียงสมัยที่ตนลงสมัคร ส.ว.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2543

นายภิญญากล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีปัญหามากจริงๆ ตอนนี้ไม่อยากไปเหยียบพรรคเพื่อไทยแล้วเพราะเงินแค่ไม่กี่แสนบาทยังมีปัญหา การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา เงินที่ผู้ใหญ่ในพรรคโอนไปให้ เพื่อใช้ทำป้ายหาเสียงประมาณ 2 แสนบาท ก็ส่งไม่ถึงมือนายอดิศราช โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย บอกกับคนในศูนย์เลือกตั้งซ่อมว่า ผู้ใหญ่ในพรรคโอนเงินมาให้หลายแสนบาทแล้ว อยากถามกลับว่าแล้วเงินหายไปไหน เท่าที่ทราบมีการโอนเงินกันแค่แสนกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าเงินเลือกตั้งกำนันเสียอีก ทั้งๆที่เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่

นายภิญญากล่าวด้วยว่า มีคนในพรรคเพื่อไทยออกมาพูดให้ตนเสียหายซึ่งอยากขอให้แสดงตัวออกมาเลย สำหรับที่มีคนในพรรคเพื่อไทยบอกว่า ตนอยู่เบื้องหลัง นายอดิศราช นั้น คนที่พูดถือว่าเป็นคนเชื่อไม่ได้ กะล่อน ปลิ้นปล้อน และไม่มีความรับผิดชอบ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องหัวคะแนนที่สุราษฎร์ธานีระส่ำกันหมด โทรมาหาตนทั้งวัน ถามแต่ว่าใครอมเงิน ใครเบี้ยว ตนก็อยากรู้ว่าเงินหายมันไปไหน

“สมพลไม่ได้เรื่อง ขี้เกียจ ไม่เคยเดินหาเสียงเลย คิดดูแล้วกันว่าบ้านตัวเองแท้ๆ ยังได้แค่ 5 พันคะแนน อายไหม แล้วตอนเลือกตั้งหาเสียง 1 เดือนก็ไม่เคยไปหาเสียง ไม่เคยลงพื้นที่ ไปแค่วันรับสมัครวันเดียวกับ 3-4 วันสุดท้าย เขาเดินหาเสียงกันตั้งแต่เช้าแต่ก็ตื่นสาย ไม่เคยไปเดินหาเสียง ฝนตกแดดออกก็ไม่เคยไปพบประชาชน ไม่เคยไปขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง มีแต่พวกผมต้องขึ้นเวที เดินหาเสียงให้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ คนถามว่าผู้สมัครอยู่ไหนเราก็ต้องช่วยบอกว่าไม่อยู่ไปกรุงเทพฯ แล้วถ้าผมจะลงเลือกตั้งก็จะลงเขต 2 ไม่ลงเขต 1 ผู้ใหญ่ในพรรคต้องลงมาเคลียร์ปัญหานี้ ไม่อย่างนั้นมีปัญหาใหญ่โต ถ้าไม่ทำอะไรผมจะแถลงข่าวข้อเท็จจริงทั้งหมด” นายภิญญากล่าว