ซัดกันนัว ส.ส.เพื่อแม้วสาวไส้ “เนวิน” ไม่จบ เชื่อหลั่งน้ำตาแถลงข่าวเพราะห่วงถอนทุนไม่ทัน โอ่คนเชื่อ “ทักษิณ” หมดแล้ว งง รัฐบาลให้น้ำยาคุมม็อบ เย้ยทั้งที่เคยร่วมสู้กับ “ทักษิณ” แต่ตอนนี้กลายเป็นศัตรูถาวร งงรัฐบาลเชื่อน้ำยา “เนวิน” ยังสิ้นคิดไม่เลิกร้องแก้รัฐธรรมนูญ ใช้ฉบับ 40 ก่อนยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พร้อมจวกรัฐบาลล้มเหลวการทำงาน
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนไม่แปลกใจว่าทำไมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ยังเชื่อและเข้าใจว่านายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน คุมอำนาจในการเคลื่อนไหวในพรรคไทยรักไทยหรือการเคลื่อนไหวอื่นๆได้ ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ประวัติย้อนหลังของนายเนวิน คือคู่ต่อสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคไทยรักไทยในปี 2544 แต่หลังจากส.ส.บุรีรัมย์ในกลุ่มเหลือ 4 คน จึงรู้ว่าสู้กระแส พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ จึงย้ายเข้าพรรคไทยรักไทยโดยไม่ได้มีส่วนกับนโยบาย แค่เป็นตัวเสริมทำให้กิจกรรมทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณดียิ่งขึ้นเท่านั้น มีเวลาในพรรคไทยรักไทยเพียง 1 ปี 20วัน หลังมีการยึดอำนาจก็ไปต่อสู้กับ คมช.ในการชูโนโหวตกรณีรัฐธรรมนูญปี 2550 จนหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งปี 2550 เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีการตั้งกลุ่มแก๊งออฟโฟร์ แต่ในช่วงของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี นายเนวินก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวแล้ว จนมีการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์
“ขอตั้งข้อสังเกตว่า ที่นายเนวินร้องไห้นั้นเพราะห่วงสถาบันหรือห่วงว่าจะถอนทุนไม่ทันกันแน่ และสิ่งที่นายเนวินทำไว้ ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าจากเดิมไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร กลายเป็นว่าวันนี้ทำให้มีศัตรูถาวรอย่างชัดเจน” นายสงวน กล่าว
นายสงวนกล่าวต่อว่า วันนี้ตนเห็นว่าทุกอย่างจบแล้วคือ 1.คนไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความผิดจริง และคนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกอำมาตยธิปไตยเข้าแทรกแซง 2.เชื่อว่าผู้บริหารประเทศหรือรัฐบาลที่ไม่ได้คุมกระทรวงเศรษฐกิจ และกระทรวงมหาดไทย มีโอกาสน้อยที่จะทำตามใจต้องการได้ ดังนั้น เชื่อว่าวันนี้ไม่มีทางจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้วหากฝ่ายอำมาตย์ยังครอบงำอยู่เช่นนี้
นายสงวนกล่าวอีกว่า ทางออกวันนี้มีทางเดียว คือ รัฐบาลจะต้องเร่งรัดเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในระยะเวลาอันสั้น อาจเป็นเวลา 60 วันโดยแก้ไขในมาตรา 265 และมาตรา 266 ให้มีการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง แก้ไขในส่วนของแนวนโยบายแห่งรัฐให้กลับไปใช้ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งเมื่อแก้เสร็จสิ้นแล้วรัฐบาลก็ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะหากยุบสภาโดยที่ยังใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 อยู่ปัญหาก็ยังไม่จบ เพราะบทเฉพาะกาลไม่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหา
นายสงวนกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าวันนี้รัฐบาลมีความล้มเหลว 3 เรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ปัญหาชายแดน 3 จังหวัดภาคใต้ และปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าหากฝ่ายอำมาตย์ยังอยู่และรัฐบาลยังอยู่ต่อไปโดยไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การให้กระบวนการปฏิรูปการเมืองลากยาวตามสถาบันพระปกเกล้าฯ ทั้งๆ ที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้เชื่อว่าจะยิ่งทวีความแตกแยกมากขึ้น