นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีกลุ่มคนเสื้อแดงจะออกหนังสือ "ใครเผาเซ็นทรัลเวิลด์ " มาตอบโต้หนังสือที่นายสุเทพ ออกหนังสือ "ประเทศไทย อย่าให้ใครเผาอีก" ว่า เหตุการณ์จลาจลเผาบ้านเผาเมืองในกรุงเทพฯ ในปี 52 และปี 53 ได้มีคนพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้ประชาชนซึ่งลืมเหตุการณ์ไปแล้ว เข้าใจผิดในหลายกรณีว่า เป็นการกระทำของฝ่ายรัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ เช่น กรณีการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น และพรรคฝ่ายค้าน ก็พยายามเอาเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถ้าได้ฟังคำชี้แจงของตน ก็จะนึกภาพออก และเห็นข้อเท็จจริงชัดเจนว่า การก่อเหตุร้าย จลาจลวุ่นวายไม่ใช่เฉพาะเผาเซ็นทรัลเวิลด์ แต่เผาธนาคาร สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ศาลากลางจังหวัด และที่อื่นๆ ได้มีการเตรียมการกันมาโดยกลุ่มที่มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ได้ประกาศมาเป็นระยะๆ ว่าจะมีการเผาบ้านเผาเมือง ถึงขนาดสั่งให้ผู้ที่มาชุมนุมเตรียมน้ำมันกันมาก่อน คนละลิตร คนละขวด บอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นให้ทุกคนไปศาลากลางจังหวัด บนเวทีก็พยายามยุยงว่า ถ้าเกิดเหตุอะไรก็วิ่งเข้าห้าง ไปหยิบฉวยสินค้าแบรนด์เนม เผาเลย เราได้เอาหลักฐานเหล่านี้มาแสดงชัดเจน
นายสุเทพ กล่าวว่า เวลา คนฟังเรื่องทั้งหมด ก็จะเข้าใจได้ว่าคนที่จะเผาบ้านเผาเมืองต้องมีแรงจูงใจ เป้าหมายของคนเหล่านี้คือ ต้องการให้เกิดจลาจล และความวุ่นวายขึ้นในประเทศ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเจรจาต่อรองในทางการเมือง แล้วมาโยนความผิดให้รัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ เป็นคนทำ ซึ่งประชาชนทั้งหลายโปรดไตร่ตรองดู รัฐบาลไม่มีแรงจูงใจที่จะไปทำเช่นนั้น เพราะมีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย ถ้าไม่เรียบร้อยรัฐบาลก็แย่
ทั้งนี้ ทั้งภาพที่ปรากฏ หลักฐานที่ชัดเจน วิดีโอที่ถ่ายไว้ได้ และคำให้การผู้ร่วมในเหตุการณ์ทั้งหลาย ก็ยิ่งชัดเจนว่ากลุ่มคนที่ได้รับการชี้นำ บงการจากแกนนำผู้ชุมนุมนี่แหละที่เผา ตนพร้อมที่จะเอาเรื่องนี้ไปพูด อธิบายให้ประชาชนได้ทราบ ไม่ต้องการให้มีการบิดเบือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ขอให้ประชาชนได้ติดตามตรวจสอบด้วย
** ขู่เสื้อแดงบิดเบือนเจอฟ้อง
เมื่อถามว่า นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ระบุว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการได้นำเนื้อหาบางส่วนไปบรรจุในตำราเรียนหลักสูตร ม. 3 กล่าวหาคนเสื้อแดงเผาบ้านเมือง ในเมื่อยังไม่ชัดเจนว่าใครทำกันแน่ ควรจะให้มีความชัดเจนก่อนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าเรื่องหลักสูตรนี้ ตนไม่ทราบจริง ๆ ตอบไม่ได้ แต่เรื่องการพูดความจริง เป็นเรื่องที่สมควรต้องทำ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหมู่พี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่าการใช้เรื่องนี้ตอบโต้กันไปมา จะยิ่งทำให้ปัญหาขยายใหญ่ขึ้นอีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า การเผาบ้านเผาเมือง เราได้จับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย มีการสอบสวน รวบรวบพยานหลักฐานจนเพียงพอที่จะส่งฟ้อง ทางตำรวจสรุปเรื่องส่งอัยการ และอัยการส่งฟ้องศาลแล้ว มีตัวตนชัดเจน ถ้าทางกลุ่มนปช. จะพิมพ์หนังสือออกมาบ้าง หากใช้หลักฐานไม่จริง เราก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องถามทางกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ เพราะหากประวัติศาสตร์มันไม่ชัดเจน ในอนาคตประชานอาจจะมีปัญหากันเอง นายสุเทพ กล่าวว่าตนไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น ตนไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน หากเจอ รมว.ศึกษาธิการ จะถามให้
เมื่อถามว่า ทางนพ.เหวง ออกมายืนยันโดยระบุที่มาที่ไป ชัดเจน นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าพวกเราไปเชื่อ นายจตุพร นายณัฐวุฒิ หรือ หมอเหวง ชีวิตก็จะมีความทุกข์ทุกวัน ฟังไว้แล้วค่อยๆ กลั่นกรองหน่อย เมื่อถามว่า ในการเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้ง จะใช้วีธีการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึง เหตุการณ์การชุมนุมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่จริงเรามุ่งมั่นที่จะเอานโยบายของพรรคไปบอกกับประชาชนเป็นสำคัญ แต่กรณีนี้เราเห็นว่า มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้คนเข้าใจผิด ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องชี้แจง ส่วนการนำซีดีบันทึกคำชี้แจงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองนั้น ตนไม่ได้แจกทั่วไป แต่แจกให้สมาชิกพรรค ที่มาร่วมสัมมนา
**เตือน"แม้ว"สั่งเสื้อแดงหยุดป่วน
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนปช. ในวันที่ 10 เม.ย. นี้ว่า นปช.ก็ พยายามเคลื่อนไหวแสดงพลัง แต่เมื่อทุกคนมุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ก็ต้องช่วยกันดูแล อย่าให้การชุมนุมกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย ผิดกฎหมาย ทำให้เสียบรรยากาศของการเตรียมเลือกตั้ง
"ผมเชื่อว่า วันนี้คุณทักษิณเองก็ต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นคุณทักษิณ ก็ต้องสั่งผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตัวเองว่าต้องดูแลอย่าให้เกิดเรื่องวุ่นวาย"
เมื่อ ถามว่าเรื่องนี้ยังซัดกันนัวเช่นนี้จะเกิดความสามัคคีปรองดองกันได้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องการพูดจาอธิบายข้อเท็จจริง ก็ต้องดำเนินการไป ส่วนเรื่องของการที่จะไปหาแนวทางที่จะให้เกิดความสงบเรียบร้อยก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องทำ วิธีที่เสนอคือ ใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องยุติความขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวง ทางพวกตนประกาศชัดเจนอยู่แล้วว่า เลือกตั้งแพ้ ชนะ ก็ว่าไปตามกฎเกณฑ์กติกา แต่ก็ต้องขอให้ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ต้องตกลงกับประชาชนอย่างนั้นด้วยว่า เลือกตั้งแพ้ชนะแล้วต้องหยุด
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ที่ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ จะไปขึ้นเวทีคนเสื้อแดง เปิดโปงกระบวนการ ยุบพรรคพลังประชาชน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่น่ากลัวอะไร เป็นธรรมดา เขาก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นผู้ต้องหาอยู่ไม่ใช่หรือ เขาจะแฉอะไรก็เรื่องของเขา ถ้าพูดเรื่องไม่จริง ผู้ที่เสียหายเขาก็ดำเนินคดีกับนายพสิษฐ์อีก ทางพรรคประชาธิปัตย์ คงไม่จำเป็นต้องให้ใครไปคอยติดตามเป็นกรณีพิเศษ เพราะไม่ใช่เรื่องของพรรค กรณีการยุบพรรคไทยรักไทย หรือพลังประชาชน เป็นเรื่องที่กกต.ดำเนินการ และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด ก็ต้องว่าไปตามนั้น
** ไม่ห่วงเปิดโปงเรื่องยุบพรรค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนปช. จะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ว่า เป็นที่ทราบกันว่า เขาก็มีกิจกรรมที่เขาจะมารวมตัวกันเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์อะไรต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ประเด็นที่เขาชูเป็นธงนำในครั้งนี้ คือจะเดินไปถึงเรื่องเปิดโปงเบื้องหลังคดียุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และ มัชฌิมาธิปไตย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนไม่ได้ติดตามว่าจะเป็นอะไร ตนมีหน้าที่เร่งแก้ไขปัญหาและอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ถ้าประเด็นเหล่านั้นมันเป็นเรื่องของอดีตทั้งสิ้น เวลานี้ไม่มีใครเปลี่ยนอดีตได้ มีประเด็นเพียงแค่ว่า เราจะเดินไปข้างหน้าเพื่อให้อนาคตของเป็นอนาคตที่ดีสำหรับทุกคนได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่เสื้อแดง ออกมาโวยว่า กระทรวงศึกษาธิการ พิมพ์ตำราเรียนบิดเบือนข้อมูล กล่าวหาเสื้อแดง ก่อเหตุเผาบ้านเผาเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น และไม่ทราบว่ามี
เมื่อถามว่า เพราะทางฝ่ายค้านออกมาบอกว่าจะยิ่งเป็นการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องให้ทางรมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงว่ามันมีสื่ออะไร อย่างไร ถ้ามันเป็นข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง ไม่ทราบว่ามีการบิดเบือนตรงไหน อย่างไร
**ไม่ได้บรรจุแดงเผาเมืองในตำราเรียน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณี นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ว่าหนังสือเสริมการพัฒนาผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ชั้น ม.3 ซึ่งในหนังสือมีเนื้อหาเขียนถึงกลุ่มนปช.เผาบ้านเผาเมือง โดยขอประณามตน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ตนขอยืนยันว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้บรรจุเนื้อหาดังกล่าวลงไปในตำราเรียนอย่างแน่นอน แต่หากผู้สอนจะนำเหตุการณ์ในจริงที่เกิดขึ้นมายกตัวอย่าง เพื่อให้รักเรียนคิด วิเคราะห์ ก็สามารถทำได้ตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ระบุว่าให้นำเหตุการณ์จริงมาผสมผสานกับการเรียน 30 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนพ.เหวง น่าจะเปิดใจให้กว้าง และน่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะออกมาพูดด้วย
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งโรงเรียนสอนประชาธิปไตย นั้น ตนคิดว่า สามารถทำได้ แล้วตนก็ไม่มีสิทธิไปห้ามอะไร ก็เช่นเดียวกับเรื่องนี้เช่นกัน
นายสุเทพ กล่าวว่า เวลา คนฟังเรื่องทั้งหมด ก็จะเข้าใจได้ว่าคนที่จะเผาบ้านเผาเมืองต้องมีแรงจูงใจ เป้าหมายของคนเหล่านี้คือ ต้องการให้เกิดจลาจล และความวุ่นวายขึ้นในประเทศ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเจรจาต่อรองในทางการเมือง แล้วมาโยนความผิดให้รัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ เป็นคนทำ ซึ่งประชาชนทั้งหลายโปรดไตร่ตรองดู รัฐบาลไม่มีแรงจูงใจที่จะไปทำเช่นนั้น เพราะมีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย ถ้าไม่เรียบร้อยรัฐบาลก็แย่
ทั้งนี้ ทั้งภาพที่ปรากฏ หลักฐานที่ชัดเจน วิดีโอที่ถ่ายไว้ได้ และคำให้การผู้ร่วมในเหตุการณ์ทั้งหลาย ก็ยิ่งชัดเจนว่ากลุ่มคนที่ได้รับการชี้นำ บงการจากแกนนำผู้ชุมนุมนี่แหละที่เผา ตนพร้อมที่จะเอาเรื่องนี้ไปพูด อธิบายให้ประชาชนได้ทราบ ไม่ต้องการให้มีการบิดเบือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ขอให้ประชาชนได้ติดตามตรวจสอบด้วย
** ขู่เสื้อแดงบิดเบือนเจอฟ้อง
เมื่อถามว่า นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ระบุว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการได้นำเนื้อหาบางส่วนไปบรรจุในตำราเรียนหลักสูตร ม. 3 กล่าวหาคนเสื้อแดงเผาบ้านเมือง ในเมื่อยังไม่ชัดเจนว่าใครทำกันแน่ ควรจะให้มีความชัดเจนก่อนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าเรื่องหลักสูตรนี้ ตนไม่ทราบจริง ๆ ตอบไม่ได้ แต่เรื่องการพูดความจริง เป็นเรื่องที่สมควรต้องทำ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหมู่พี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่าการใช้เรื่องนี้ตอบโต้กันไปมา จะยิ่งทำให้ปัญหาขยายใหญ่ขึ้นอีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า การเผาบ้านเผาเมือง เราได้จับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย มีการสอบสวน รวบรวบพยานหลักฐานจนเพียงพอที่จะส่งฟ้อง ทางตำรวจสรุปเรื่องส่งอัยการ และอัยการส่งฟ้องศาลแล้ว มีตัวตนชัดเจน ถ้าทางกลุ่มนปช. จะพิมพ์หนังสือออกมาบ้าง หากใช้หลักฐานไม่จริง เราก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องถามทางกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ เพราะหากประวัติศาสตร์มันไม่ชัดเจน ในอนาคตประชานอาจจะมีปัญหากันเอง นายสุเทพ กล่าวว่าตนไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น ตนไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน หากเจอ รมว.ศึกษาธิการ จะถามให้
เมื่อถามว่า ทางนพ.เหวง ออกมายืนยันโดยระบุที่มาที่ไป ชัดเจน นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าพวกเราไปเชื่อ นายจตุพร นายณัฐวุฒิ หรือ หมอเหวง ชีวิตก็จะมีความทุกข์ทุกวัน ฟังไว้แล้วค่อยๆ กลั่นกรองหน่อย เมื่อถามว่า ในการเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้ง จะใช้วีธีการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึง เหตุการณ์การชุมนุมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่จริงเรามุ่งมั่นที่จะเอานโยบายของพรรคไปบอกกับประชาชนเป็นสำคัญ แต่กรณีนี้เราเห็นว่า มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้คนเข้าใจผิด ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องชี้แจง ส่วนการนำซีดีบันทึกคำชี้แจงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองนั้น ตนไม่ได้แจกทั่วไป แต่แจกให้สมาชิกพรรค ที่มาร่วมสัมมนา
**เตือน"แม้ว"สั่งเสื้อแดงหยุดป่วน
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนปช. ในวันที่ 10 เม.ย. นี้ว่า นปช.ก็ พยายามเคลื่อนไหวแสดงพลัง แต่เมื่อทุกคนมุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ก็ต้องช่วยกันดูแล อย่าให้การชุมนุมกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย ผิดกฎหมาย ทำให้เสียบรรยากาศของการเตรียมเลือกตั้ง
"ผมเชื่อว่า วันนี้คุณทักษิณเองก็ต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นคุณทักษิณ ก็ต้องสั่งผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตัวเองว่าต้องดูแลอย่าให้เกิดเรื่องวุ่นวาย"
เมื่อ ถามว่าเรื่องนี้ยังซัดกันนัวเช่นนี้จะเกิดความสามัคคีปรองดองกันได้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องการพูดจาอธิบายข้อเท็จจริง ก็ต้องดำเนินการไป ส่วนเรื่องของการที่จะไปหาแนวทางที่จะให้เกิดความสงบเรียบร้อยก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องทำ วิธีที่เสนอคือ ใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องยุติความขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวง ทางพวกตนประกาศชัดเจนอยู่แล้วว่า เลือกตั้งแพ้ ชนะ ก็ว่าไปตามกฎเกณฑ์กติกา แต่ก็ต้องขอให้ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ต้องตกลงกับประชาชนอย่างนั้นด้วยว่า เลือกตั้งแพ้ชนะแล้วต้องหยุด
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ที่ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ จะไปขึ้นเวทีคนเสื้อแดง เปิดโปงกระบวนการ ยุบพรรคพลังประชาชน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่น่ากลัวอะไร เป็นธรรมดา เขาก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นผู้ต้องหาอยู่ไม่ใช่หรือ เขาจะแฉอะไรก็เรื่องของเขา ถ้าพูดเรื่องไม่จริง ผู้ที่เสียหายเขาก็ดำเนินคดีกับนายพสิษฐ์อีก ทางพรรคประชาธิปัตย์ คงไม่จำเป็นต้องให้ใครไปคอยติดตามเป็นกรณีพิเศษ เพราะไม่ใช่เรื่องของพรรค กรณีการยุบพรรคไทยรักไทย หรือพลังประชาชน เป็นเรื่องที่กกต.ดำเนินการ และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด ก็ต้องว่าไปตามนั้น
** ไม่ห่วงเปิดโปงเรื่องยุบพรรค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนปช. จะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ว่า เป็นที่ทราบกันว่า เขาก็มีกิจกรรมที่เขาจะมารวมตัวกันเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์อะไรต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ประเด็นที่เขาชูเป็นธงนำในครั้งนี้ คือจะเดินไปถึงเรื่องเปิดโปงเบื้องหลังคดียุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และ มัชฌิมาธิปไตย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนไม่ได้ติดตามว่าจะเป็นอะไร ตนมีหน้าที่เร่งแก้ไขปัญหาและอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ถ้าประเด็นเหล่านั้นมันเป็นเรื่องของอดีตทั้งสิ้น เวลานี้ไม่มีใครเปลี่ยนอดีตได้ มีประเด็นเพียงแค่ว่า เราจะเดินไปข้างหน้าเพื่อให้อนาคตของเป็นอนาคตที่ดีสำหรับทุกคนได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่เสื้อแดง ออกมาโวยว่า กระทรวงศึกษาธิการ พิมพ์ตำราเรียนบิดเบือนข้อมูล กล่าวหาเสื้อแดง ก่อเหตุเผาบ้านเผาเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น และไม่ทราบว่ามี
เมื่อถามว่า เพราะทางฝ่ายค้านออกมาบอกว่าจะยิ่งเป็นการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องให้ทางรมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงว่ามันมีสื่ออะไร อย่างไร ถ้ามันเป็นข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง ไม่ทราบว่ามีการบิดเบือนตรงไหน อย่างไร
**ไม่ได้บรรจุแดงเผาเมืองในตำราเรียน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณี นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ว่าหนังสือเสริมการพัฒนาผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ชั้น ม.3 ซึ่งในหนังสือมีเนื้อหาเขียนถึงกลุ่มนปช.เผาบ้านเผาเมือง โดยขอประณามตน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ตนขอยืนยันว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้บรรจุเนื้อหาดังกล่าวลงไปในตำราเรียนอย่างแน่นอน แต่หากผู้สอนจะนำเหตุการณ์ในจริงที่เกิดขึ้นมายกตัวอย่าง เพื่อให้รักเรียนคิด วิเคราะห์ ก็สามารถทำได้ตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ระบุว่าให้นำเหตุการณ์จริงมาผสมผสานกับการเรียน 30 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนพ.เหวง น่าจะเปิดใจให้กว้าง และน่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะออกมาพูดด้วย
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งโรงเรียนสอนประชาธิปไตย นั้น ตนคิดว่า สามารถทำได้ แล้วตนก็ไม่มีสิทธิไปห้ามอะไร ก็เช่นเดียวกับเรื่องนี้เช่นกัน