กก.สอบสลายม็อบนัดแรก หวิดวางมวย กรรมการซีกรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ซัดกันนัวกลางห้องประชุม “สมศักดิ์” เผยเตรียมเชิญบุคคลเกี่ยวข้องมาชี้แจง พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบเชิงลึก เปิดกว้างถ่ายทอดสดผ่านวิทยุรัฐสภา
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองระหว่างวันที่ 8-15 เม.ย. ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน โดยใช้เวลานานกว่า 2 โมง ทั้งนี้ นายสมศักดิ์แถลงภายหลังหารประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบที่จะดำเนินการสรุปและรายงานข้อเท็จจริงให้ประธานรัฐสภาให้รับทราบภายใน 45 วัน โดยหลังจากนี้จะได้ทำหนังสือเพื่อขอเอกสารต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเชิญบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการ โดยเฉพาะประเด็นที่สังคมสงสัยเรื่องการใช้ความรุนแรง บาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิติหรือไม่ รวมถึงผู้สูญหาย โดยคณะกรรมการจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาประมวลภาพรวมเหตุการณ์ทั้งหมดอีกครั้งในวันที่ 18-19-20 พ.ค. ทั้งช่วงเช้า และบ่าย ก่อนที่จะกำหนดประเด็นและเชิญตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล
นายสมศักดิ์กล่าวว่า หลังจากเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแล้ว หากคณะกรรมการต้องการทราบข้อมูลเชิงลึกก็จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเป็นรายประเด็นต่อไป ทั้งนี้ ในมี่ประชุมมีมติรวมกันว่าในการประชุมครั้งต่อไปจะมีการถ่ายทอดสดทางวิทยุรัฐสภา คลื่นเอฟเอ็ม 87.5 เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลโดยทั่วกัน เว้นแต่มีกรณีพาดพิง หรืออาจทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหายก็จะปิดประชุมลับ นอกจากนี้ ที่ประชมได้ข้อความร่วมมือคณะกรรมการทุกคนถอดหมวกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อการตรวจสอบเกิดความเป็นธรรมมากที่สุด และได้สรุปประธานต่อประธานรัฐสภาโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมนัดแรกที่ประชุมได้มีการหารือว่า ในการประชุมครั้งต่อไปจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ได้หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมได้มีการถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยสมาชิกจากซีกพรรคประชาธิปัตย์เห็นควรให้เปิดให้สื่อมวลชลเข้ารับฟัง เพื่อความโปร่งใส และในที่สุดที่ประชุมได้ยกมือโหวตด้วยเสียงข้างมากอนุญาตสื่อเข้ามาร่วมรับฟังการประชุมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกของการประชุม บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เพราะคณะกรรมการจากตัวแทนพรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน ต่างนั่งเผชิญหน้า โดยต่างฝ่ายต่างเสนอข้อมูล และข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน โดยในช่วงหนึ่ง นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการซีกฝ่ายค้านได้กล่าวในที่ประชุมว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจและต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ต้องหยุดการใช้ กอ.รมน.ในการลงพื้นที่ทั่วประเทศ และหยุดแจกการแจกซีดีเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงจนนำไปสู่การก่อจลาจลกลางกรุงเทพฯ จำนวน 1 ล้านแผ่นทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าใจกลุ่มคนเสื้อแดงผิด และเมื่อเป็นอย่างนี้การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ไม่มีความหมาย จนทำให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คณะกรรมการซีกรัฐบาล ได้กล่าวแย้งว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยได้หยุดพฤติกรรมการกล่าวหา และการใช้ข้อมูลเท็จ เพราะหลังจากที่นายสุรพงษ์ได้มีการนำภาพบุคคลต่างๆ มาโชว์กลางสภาในระหว่างการประชุมรัฐสภา ได้มีบุคคลยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกฯ ว่าพรรคเพื่อไทยใช้เอกสารเท็จ และบิดเบือนข้อเท็จจริง ดังนั้น หากตั้งการให้คณะกรรมการชุดนี้นำไปสู่การแก้ปัญหาจริง พรรคเพื่อไทยควรหยุดการพูดเท็จโดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเปิดสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น และการออกมาเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มคนเสื่อแดง ไม่ว่าจะเป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน นายวีระ มุสิกพงศ์ เพราะจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น 2 ฝ่ายได้โต้เถียงกัน และนำข้อมูลของตัวเองมาชี้แจง จนทำให้บรรยากาศตึงเครียด เมื่อนายศิริโชคยืนยันว่ามีบุคคลมาร้องเรียนนายกฯ กรณีนายสุรพงษ์ บิดเบือนและใช้ข้อมูลเท็จ จนทำให้นายสุรพงษ์ไม่พอใจ เดินออกจากห้องประชุมทันที และไม่กลับเข้ามาร่วมประชุมอีกเลย จากนั้นจึงได้เริ่มมีการประชุมต่อ และบรรยากาศก็ไม่ตึงเครียด ในการประชุมในวันที่ 18-19-20 พ.ค.จะมีการเชิญนำข้อมูล และการประมวลภาพเหตุการณ์การชุมนุมทั้งหมด เพื่อที่จะกำหนดประเด็นในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกำหนดตัวบุคคลที่จะมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการต่อไป
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองระหว่างวันที่ 8-15 เม.ย. ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน โดยใช้เวลานานกว่า 2 โมง ทั้งนี้ นายสมศักดิ์แถลงภายหลังหารประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบที่จะดำเนินการสรุปและรายงานข้อเท็จจริงให้ประธานรัฐสภาให้รับทราบภายใน 45 วัน โดยหลังจากนี้จะได้ทำหนังสือเพื่อขอเอกสารต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเชิญบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการ โดยเฉพาะประเด็นที่สังคมสงสัยเรื่องการใช้ความรุนแรง บาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิติหรือไม่ รวมถึงผู้สูญหาย โดยคณะกรรมการจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาประมวลภาพรวมเหตุการณ์ทั้งหมดอีกครั้งในวันที่ 18-19-20 พ.ค. ทั้งช่วงเช้า และบ่าย ก่อนที่จะกำหนดประเด็นและเชิญตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล
นายสมศักดิ์กล่าวว่า หลังจากเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแล้ว หากคณะกรรมการต้องการทราบข้อมูลเชิงลึกก็จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเป็นรายประเด็นต่อไป ทั้งนี้ ในมี่ประชุมมีมติรวมกันว่าในการประชุมครั้งต่อไปจะมีการถ่ายทอดสดทางวิทยุรัฐสภา คลื่นเอฟเอ็ม 87.5 เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลโดยทั่วกัน เว้นแต่มีกรณีพาดพิง หรืออาจทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหายก็จะปิดประชุมลับ นอกจากนี้ ที่ประชมได้ข้อความร่วมมือคณะกรรมการทุกคนถอดหมวกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อการตรวจสอบเกิดความเป็นธรรมมากที่สุด และได้สรุปประธานต่อประธานรัฐสภาโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมนัดแรกที่ประชุมได้มีการหารือว่า ในการประชุมครั้งต่อไปจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ได้หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมได้มีการถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยสมาชิกจากซีกพรรคประชาธิปัตย์เห็นควรให้เปิดให้สื่อมวลชลเข้ารับฟัง เพื่อความโปร่งใส และในที่สุดที่ประชุมได้ยกมือโหวตด้วยเสียงข้างมากอนุญาตสื่อเข้ามาร่วมรับฟังการประชุมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกของการประชุม บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เพราะคณะกรรมการจากตัวแทนพรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน ต่างนั่งเผชิญหน้า โดยต่างฝ่ายต่างเสนอข้อมูล และข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน โดยในช่วงหนึ่ง นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการซีกฝ่ายค้านได้กล่าวในที่ประชุมว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจและต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ต้องหยุดการใช้ กอ.รมน.ในการลงพื้นที่ทั่วประเทศ และหยุดแจกการแจกซีดีเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงจนนำไปสู่การก่อจลาจลกลางกรุงเทพฯ จำนวน 1 ล้านแผ่นทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าใจกลุ่มคนเสื้อแดงผิด และเมื่อเป็นอย่างนี้การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ไม่มีความหมาย จนทำให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คณะกรรมการซีกรัฐบาล ได้กล่าวแย้งว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยได้หยุดพฤติกรรมการกล่าวหา และการใช้ข้อมูลเท็จ เพราะหลังจากที่นายสุรพงษ์ได้มีการนำภาพบุคคลต่างๆ มาโชว์กลางสภาในระหว่างการประชุมรัฐสภา ได้มีบุคคลยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกฯ ว่าพรรคเพื่อไทยใช้เอกสารเท็จ และบิดเบือนข้อเท็จจริง ดังนั้น หากตั้งการให้คณะกรรมการชุดนี้นำไปสู่การแก้ปัญหาจริง พรรคเพื่อไทยควรหยุดการพูดเท็จโดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเปิดสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น และการออกมาเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มคนเสื่อแดง ไม่ว่าจะเป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน นายวีระ มุสิกพงศ์ เพราะจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น 2 ฝ่ายได้โต้เถียงกัน และนำข้อมูลของตัวเองมาชี้แจง จนทำให้บรรยากาศตึงเครียด เมื่อนายศิริโชคยืนยันว่ามีบุคคลมาร้องเรียนนายกฯ กรณีนายสุรพงษ์ บิดเบือนและใช้ข้อมูลเท็จ จนทำให้นายสุรพงษ์ไม่พอใจ เดินออกจากห้องประชุมทันที และไม่กลับเข้ามาร่วมประชุมอีกเลย จากนั้นจึงได้เริ่มมีการประชุมต่อ และบรรยากาศก็ไม่ตึงเครียด ในการประชุมในวันที่ 18-19-20 พ.ค.จะมีการเชิญนำข้อมูล และการประมวลภาพเหตุการณ์การชุมนุมทั้งหมด เพื่อที่จะกำหนดประเด็นในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกำหนดตัวบุคคลที่จะมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการต่อไป