xs
xsm
sm
md
lg

"มหามกุฎฯ" ร้อง"ดีเอสไอ" ตรวจสอบผู้สร้างหนัง "พระไตรปิฎก" แอบอ้างเรี่ยไรเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"มหามกุฎราชวิทยาลัย" ฟ้องผู้จัดทำหนังเรื่อง"พระไตรปิฎก" เพราะนำชื่อทางมหาวิทยาลัยไปแอบอ้างขอบริจาคเงินจากประชานชนรวมไปถึงรัฐบาล โดยไม่บอกกล่าว ยันไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรด้วย แค่เป็นที่ปรึกษาในเรื่องของศาสนาเท่านั้น แต่ยอมรับว่ามีคนในเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับทางมหามกุฎฯแน่นอน

จากที่เคยเป็นข่าวฉาวมาแล้วว่าผู้ที่จัดทำหนังเรื่องพระไตรปิฎก(พระพุทธเจ้า)ไม่ยอมจ่ายค่าตัวนักแสดงบางส่วน แต่ล่าสุดวันนี้(3 ก.ค.) ก็เป็นเรื่องกันไม่จบ เมื่อทางมหามกุฎราชวิทยาลัยซึ่งประกอบด้วย "สงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์" ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย "สุราภิวัฒน์ จันทร์โสภา" อธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา  พร้อมด้วย "พระมหาปัญหา" ท่านรองฝ่ายบริหารและคณะ ได้เดินทางมาที่ "DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ" เพื่อมาร้องทุกข์กล่าวโทษในการที่บริษัทไตรรัตนนำชื่อเพื่อไปแอบอ้างในการขอบริจาคเงินจากประชาชน ซึ่งทางด้านที่ปรึกษาด้านกฎหมายได้ให้รายละเอียดกับเรื่องนี้ว่า

"ผมได้รับมอบหมายจากอธิการบดีเรื่องการร้องทุกข์กล่าวโทษ การจัดตั้งซีดีหนังเรื่องพระไตรปิฎก เพราะมีการกล่าวอ้างทางศาสนา รวมไปถึงมีการกล่าวอ้างถึงสถาบันพุทธศาสนา และสถาบันของทางมหาวิทยาลัยไปโฆษณาแสดงข้อความต่อสาธารณะชน เราก็พยายามรวบรวมหลักฐาน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการสืบสวนสอบสวนในทางลับจนกระทั่งได้เอกสารเป็นหลักฐาน ซึ่งมีผู้เสียหายมาร้องเรียนเยอะมาก เนื่องจากมีการเปิดบัญชีเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างภาพยนตร์พระไตรปิฎก และถ้าทางมหาวิทยาลัยเพิกเฉยก็จะทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น และยังกล่าวอ้างชื่อทางมหาวิทยาลัยไปใช้ในทางผลประโยชน์ทั้งๆที่ไม่เคยรับประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นและมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ได้ติดต่อมาทางมหาวิทยาลัย และท่านอธิการทางมหาวิทยาลัยความจำเป็นที่ต้องร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อยับยั้งที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อพระมหากษัตริย์และทางสถาบันศาสนารวมไปถึงมหามกุฎวิทยาลัย ซึ่งเราเชื่อว่านับตั้งแต่วันนี้หลังจากที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไปแล้วผู้เสียหายจำนวนมากที่จะมาร้องทุกข์ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์"

"คดีนี้มีความสลับซับซ้อนมากกว่าคดีเหนือหัว เพราะในสมเด็จเหนือหัวได้รับการกล่าวอ้างแค่มวลสารแต่เรื่องนี้ได้รับการกล่าวอ้างเพื่อผลประโยชน์ เจ้าหน้าที่ของทางมหาวิทยาลัยทุกท่านเลยต้องการจัดการไม่ว่าจะเป็นสัสดี เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือใครก็แล้วแต่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เราต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น
 
"สำหรับวิธีการของเขาคือการที่มีเอกชนกลุ่มหนึ่งขอให้ทางมหามกุฎราชวิทยาลัยเป็นที่ปรึกษาในการจัดสร้างโดยทางมหาวิทยาลัยไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากเขาอ้างว่ามีจิตศรัทธาและจะไปหาผู้มาบริจาคเอง ทางมหาวิทยาลัยซึ่งให้การสนับสนุนเพราะเห็นว่าเรื่องพระไตรปิฎกเป็นประโยชน์กับศาสนาอย่างยิ่งแต่ต่อมาก็มีการออกหนังสือหลายฉบับไม่ว่าจะเป็นทางมหาวิทยาลัยก็ดีหรือเป็นการไปของบจากทางรัฐบาลหลายรัฐบาลนายกหลายนายกเป็นพันล้านบาท และที่เราได้เอกสารกลับมาเนื่องจากทางหน่วยงานต้นสังกัด รัฐบาลได้ติดต่อกลับมาที่ทางมหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยได้รวบรวมเอกสารต่างๆ เพราะว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารย่านบางลำพู 8 ธนาคารให้พี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ศรัทธาในพุทธศาสนาบริจาค"

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับ"คุณหญิงทิพาวดี เฆมสวรรค์" ร่วมด้วยหรือไม่ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายบอกไม่เกี่ยว

"ทำมาตั้งแต่ปี48 และตอนนี้เขาก็ยังทำอยู่และมีผู้บริจาคเป็นจำนวนมาก และเอกสารที่เราจะไปตรวยยึดมันมีเรื่องหลักฐานของการบริจาคเงิน ทางด้านใบอนุโมทนาบัตรแต่เราไม่แน่ใจว่าเขาให้บริษัทไหนที่ออกอนุโมทนาบัตรให้ผู้บริจาคเงิน เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคุณทิพาวดีเลย มันจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วน ไม่แจ้งในเรื่องที่ของบประมาณให้ทางมหาวิทยาลัยทราบเลย ถ้ามหาวิทยาลัยทราบตั้งแต่แรกก็คงต้องยับยั้งแล้วนะครับ จนกระทั้งเราทราบเบาะแสจากเจ้าหน้าที่ส่วนหนี่งซึ่งเราได้กำลังจำทำหนังสือถึงท่านสนั่น ขจรประศาสน์"

ด้าน"พระมหาปัญญา" ยันมหามกุฎฯไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้น

"คือทางมหามกุฎวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โครงการจัดตั้งพระไตรปิฎกซึ่ง การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและจุดยืนรับทราบแต่เพียงว่าทางมหาวิทยาลัยเป็นที่ปรึกษาโครงการพระไตรปิฎกในเรื่องเนื้อหา สาระที่เป็นทางพระทุทธศาสนา การดำเนินการไม่ว่าจะเป็นการเรี่ยไรการขอรับบริจาค การขอความร่วมมือต่างๆกับภาครัฐหรือเอกชนหรือประชาชน แม้แต่เจ้าหน้าที่ของทางมหาวิทยาลัย ไม่ได้รับรู้ใดๆทั้งสิ้นและก็ไม่ได้รับคำสั่งจากอธิการบดีให้ดำเนินการ"
 
"ฉะนั้นในการดำเนินการถ้าพบมีบุคลากรคนใดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทางท่านอธิการบดีท่านให้ใช้ในแง่ของทางกฎหมายดำเนินการครับ แต่ในทางกฎหมายคือการที่ไปเรี่ยไร่และมาแอบอ้างชื่อของมหาวิทยาลัยนั้น ทางมหาวิทยาลัยยืนยันไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีใดๆก็ตามทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนรับรู้ในเรื่องของการ เปิดบัญชีและรับบริจาคในเรื่องของการเรี่ยไรเงินบริจาคไม่มีส่วนรู้เห็นแม้แต่บาทเดียว ไม่ว่าจะเป็นที่ดินทรัพย์สิน ที่แปลงเป็นเงินได้ทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนรับรู้ในการบริจาคใดๆทั้งสิ้นคือจะมีที่มาจากมหาวิทยาลัย และญาติโยมโทรมาหาอาตมาว่าโครงการเป็นอย่างไงแล้วเมื่อไหร่จะส่งแผ่นซีดี ดีวีดีไปให้ เพราะว่าบริจาคไปนานแล้วทางเราก็ไม่ทราบว่าเขาไปเลื่อนกันอย่างไรไปทำกันอย่างไร"

โดย"พันเอกปิยะวัฒน์ กิ่งเกตุ" เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้
พันเอกปิยะวัฒน์: ในเรื่องของเบื้องต้นมีการนำเสนอไป แต่ว่าได้มีการเสนอนำเสนอในรัฐบาลของท่านสมัคร สุนทรเวช ก็ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา และได้มีการร้องเข้าไปที่สำนักพุทธด้วย เลยตรวจสอบกันก็พบว่าบริษัทผู้ผลิตไม่ใช่หน่วยงานราชการ ที่จะของบกับทางราชการไม่น่าจะทำได้เลยมีการจัดการให้ทางสำนักพุทธเป็นผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินการทางเรื่องนี้ครับ ซึ่งขณะนี้ทางสำนักพุทธก็ได้ทำการแจ้งมาแล้วว่าไม่ให้บริษัทนี้ดำเนินการ

พันตรีวิชัย : ขอเรียนในสมัยที่ท่านนายกท่านสมัคร สุนทรเวชได้มีหนังสือยื่นกับทางสำนักพุทธว่าทางผู้ประกอบการได้รองของบประมาณไป แต่ท่านมีคำสั่งว่าเนื่องจากเป็นนิติบุคคลไม่ใช่ในส่วนราชการ ดังนั้นจึงให้ทางสำนักพุทธศาสนา เป็นผู้ที่ดำเนินการเรื่องนี้โดยตรง และซึ่งทางเราก็ได้ประสานกับแต่มีเพียงแต่การแจ้งมาทางโทรศัพท์และผมบอกว่าแจ้งมาทางโทรศัพท์ไม่ได้เพราะว่าพ.บ.ร.เป็นนิติบุคคล

พันเอกปิยะวัฒน์ : เท่าที่ฟังดูคือมีสำนักพุทธ คือมีเพียงแต่การอนุมัติหลักการแต่ตัวเม็ดเงินยังไม่ได้อนุมัติครับ รัฐยังไม่ได้จ่ายเงินแต่ว่าแค่ไปเรี่ยไรเงินจากประชาชนมา คือในส่วนตรงนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ขอรัฐที่เกี่ยวข้องด้วย คือเดี๋ยวเราจะไปที่ทำการกันเลยครับ

ด้าน "ปู ณภควดีฑ์ กองผาพา" (ปู ภคาดี) ผู้ดูแลเรื่องการประชาสัมพันธ์และจัดหานักแสดงในโครงการจัดทำหนังเรื่องพระไตรปิฎก หนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมฟ้องบริษัทไตรรัตน มีเดียนี้ด้วย และเป็นผู้ที่อยู่วงการบันเทิงแต่ต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพราะได้รับติดต่อแต่ให้มาดูแลในเรื่องของนักแสดง แต่กลับไม่ได้ค่าตอบแทน

"เริ่มต้นคือปูเข้าไปทำงานกับหนังเรื่องพระไตรปิฎกในการประชาสัมพันธ์และก็การจัดหาตัวนักแสดง มันเริ่มตั้งแต่การที่เราไปทำงานและมีเรื่องคือนักแสดงไม่ได้รับความเป็นธรรม เราทำงานอยู่ตรงนั้นแล้วเกิดความไม่สบายใจ เราก็เลยขอให้หน่วยงานของรัฐที่เขาแอบอ้างทั้งหมดเข้ามาดูแลเพราะว่ามันมีเรื่องของการบริจาคเงินเข้ามาด้วย มันเป็นเรื่องใหญ่เราก็เลยเข้ามาร้องตั้งแต่ต้นแล้วว่าให้เข้ามาช่วยตรวจสอบและดูแลตรงนี้ คือตัวปูเองมาร้องเรียนตั้งแต่ต้นแล้วค่ะ ตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้วค่ะ คือตอนนั้นมาคนเดียวและเข้าใจว่าทางมหามกุฎอาจจะคือว่าบริษัทนี้เขาทำงานภายใต้ของมหามกุฎวิทยาลัย"

"คือในส่วนของปูปูต้องเคลียร์ตัวเองออกมาเพื่อให้ประชาชนทราบเพราะว่าเราเป็นประชาสัมพันธ์และส่วนตัวเราก็ทำงานในวงการบันเทิงอยู่แล้ว ในเมื่อเราถอนตัวเราก็ต้องแจ้งกับสื่อทุกคนว่าเราไม่ได้ทำตรงนั้นแล้วถ้ามีคำถามหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคเราไม่ตอบและเราก็ไม่รู้ ไม่ทราบ"

"สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ในส่วนตัวของพี่ปูที่ทำเข้ามาทำงานตรงนี้ มันเหมือนว่าพาน้องๆเข้ามาด้วยแล้วก็หนึ่งค่าเสียหายที่ได้จากเขาคือทุกคนเป็นนักแสดงหมด แต่ปรากฏว่าค่าใช้จ่ายอะไรก็ไม่ได้ แล้วก็กลับกลายเป็นว่ากลายที่ปูเข้ามาร้องเรียนให้หน่วยงาน เข้ามาตรวจสอบกลายเป็นว่าคู่กรณีมาแจ้งความว่าปูกับพวกหมิ่นประมาทโครงการซึ่งตอนนี้ก็อยู่ระหว่างคดีอยู่ และปูก็ต่อสู้โดยลำพังต่อสู้ตรงที่ว่าตั้งแต่รัฐบาลนะค่ะ รัฐบาลของท่านสมัครก็มีหนังสือออกมาให้ดึงโครงการนี้ออกมากำกับดูแลโดยสำนักพุทธและให้บริษัทนี้หยุดดำเนินการเรื่องนี้โครงการนี้ แต่ให้สำนักพุทธเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด"
"
นี่คือการต่อสู้ของปูแต่ในเรื่องของส่วนรวมก็คงเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ และตอนนี้กลายเป็นว่าทางมหามกุฎเดือดร้อนเพราะว่ามีผู้เสียหายโทรเข้าไป ทางนี้ทางท่านพระนะค่ะและก็ผู้ปรึกษาด้านกฎหมายได้ยื่นเรื่องดำเนินการต่อไป แต่ในส่วนตัวของปูก็คงต้องสู้ต่อไปในการที่เขาฟ้องหาว่าหมิ่นประมาทโครงการค่ะ เราก็คงต้องต่อสู้ว่าเราหมิ่นยังไงในเมื่อเราทำงานตรงนี้แล้วมันไม่โปร่งใสเราต้องแสดงตัวเองว่าเราไม่ได้หมิ่นอะไรเขา"

"พระเอกที่เล่นคือมาร์ค สงกรานต์จริงๆ ก็เป็นน้อง แต่จริงๆ มาร์คเซ็นสัญญากับทางโครงการโดยตรง แต่เด็กคนอื่นคือเด็กที่ปูดูแลมาตั้งแต่ต้น คือเขาถ่ายไปทั้งหมดแล้วไม่มีค่าตอบแทนใดๆ เลยและเด็กทุกคนก็โดนคดีด้วย ค่าตอบแทนไม่ได้แต่ต้องมาโดนคดีด้วย ทุกคนไม่เคยโดนพิมพ์ลายมือก็โดน ทุกคนต้องเสียเวลาไปรายงานตัวในชั้นอัยการนะคะ"

"คือพอถ่ายตรงนั้นจบก็ยังไม่มีการดำเนินการถ่ายต่อแต่ว่าทางเขาก็เอาแผ่นซีดีตรงนั้นออกมาเรี่ยไร ที่นี่การขอเรี่ยไรจากกระทรวงมหาดไทยหรือเลขบัญชีมีการตรวจสอบอะไรไหม ปูคงไม่สามารถรู้ได้เพราะปูไม่ได้ไปควบคุมตรงนั้น"

เปรย ไม่รู้ตอนนี้จะตามคู่กรณีได้หรือเปล่า
"เท่าที่ทราบมาก็รู้สึกจะ อยู่เฉพาะหัวๆแต่ทางทีมงานเขาคงจะล่มสลายไปกันและเพราะว่าปูก็ไม่ทราบว่าเขามีปัญหาอะไร ก็อาจจะมีเรื่องของก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เห็นว่าเขาหยุดไปแต่ก็พยายามที่จะทำต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาคงรออยู่ว่าทางมหามกุฎจะว่าอย่างไง ก็คงเป็นเรื่องที่เขาจะต้องไปเคลียร์กับทางต้นสังกัด ตอนนี้ก็คงให้ทางดีเอสไอตรวจสอบในเรื่องของมหามกุฎแต่ส่วนในเรื่องของปูคงต้องมาตามหลังค่ะ"

     ซึ่งพอหลังจากการที่ได้แถลงข่าวจบทางมหามกุฎราชวิทยาลัยได้ให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางไปยังสำนักงานจัดตั้งโครงการทำซีดีพระไตรปิฎก ซึ่งอยู่ชั้น 2 ของวัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน เพื่อเก็บไปพิสูจน์เพื่อดำเนินคดีต่อไป



ใบอนุโมทนาที่ใช้ในการขอบริจาค
รวบรวมหลักฐาน
หลักฐานที่รวบรวมได้เก็บใส่กล่อง
ปู(ผู้หญิง) หนึ่งในผู้ร่วมร้องทุกข์
กำลังโหลดความคิดเห็น