xs
xsm
sm
md
lg

กรณี “อุ้ม คานส์” : สปีลเบิร์กเมืองไทย หรือ “สมพงษ์ 2”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในข่าวคราวที่เป็นที่สนใจของวงการบันเทิงไทยคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของสาววัย 24 “อุ้ม พรภัชญา สุพรรณรัตน์” หลังปรากฏทั้งข่าวและภาพของเธอทางหน้าหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 25 พฤษภาคม 2552 โดยมีข้อความว่า...ลั่นโลก-“น้องอุ้ม” พรพัชญา สุพรรณรัตน์ อายุ 24 ปี น.ร.ไทยซึ่งกำกับภาพยนตร์สั้นเรื่อง Revenge Tragedies ได้รับรางวัล Best Student Film ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2009 ก่อนหน้านี้เพิ่งได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังที่ลาสเวกัส

ส่วนเนื้อข่าวนั้นได้ให้รายละเอียดไว้ว่า...เธอเป็นผู้กำกับฯ หนังสั้นคนไทยคนแรกจากสถาบัน “นิวยอร์ก ฟิล์ม อะคาเดมี” ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล Best Student Film และ Official Selection จากหนัง Revenge Tragedies และ Unfaithfully Yours จากเทศกาลภาพยนตร์ “คานส์ อินเตอร์เนชันแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 2009” ที่จัดขึ้นในวันที่ 13-24 พ.ค.ที่ประเทศฝรั่งเศส

เธอเพิ่งจบการศึกษาจากสถาบันนิวยอร์ก ฟิล์ม อะคาเดมี สาขา Filmmaking-Dickson นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยหนังสั้น Revenge Tragedies ความยาว 10 นาที เกิดขึ้นขณะเรียนหนังสือ โดยได้รับรางวัล Best Student Film ในการประกวดเทศกาลภาพยนตร์แคนาคาและเทศกาลภาพยนตร์ลาสเวกัส ได้รับคัดเลือกให้เข้าฉายที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ และฉายหลายประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ อียิปต์ อังกฤษ แคนาดา และสหรัฐอเมริกา

น.ส.พรพัชญา กล่าวว่า นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องเดียวกันยังได้รางวัลอีกมากมายในเวทีโตรอนโต้ ฟิล์ม เฟสติวัล, ลอสแองเจลิส ฟิล์ม เฟสติวัล, ลอสแองเจลิส ช็อตฟิล์ม เฟสติวัล, ภูเก็ต ฟิล์ม เฟสติวัล และล่าสุดได้รับรางวัลในงาน “คานส์ ฟิล์ม เฟสติวัล” ประเภท Best Student Film และผลงานเรื่องดังกล่าว ได้ร่วมงานกับบรูซ ดิกสัน ตากล้องภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดจากเรื่อง “สไปเดอร์แมน 2-3” และ “ซูเปอร์แมน รีเทิร์นส์” และยังได้ร่วมงานกับดาราอีกหลายคน เช่น แกรี แดเนียลส์ ดาราแอ๊กชั่นชื่อดัง

สำหรับภาพยนตร์สั้นเรื่องที่ 2 Unfaith fully Yours ความยาว 7 นาที น.ส.พรพัชญา กล่าวว่า ปรัชญา ปิ่นแก้ว ชักชวนให้มาถ่ายทำที่เมืองไทยแล้วนำกลับไปตัดต่อที่สหรัฐอเมริกา ได้รับรางวัล Official Selection ให้เข้าฉายในเทศกาล “คานส์ อินเตอร์เนชันแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 2009”

น.ส.พรพัชญา กล่าวว่า ตนเป็นนักเรียนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลและเป็นคนเดียวของนักเรียนทั้งหมดในสถาบันนิวยอร์ก ฟิล์ม อะคาเดมี ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ และยังได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 ซึ่งล่าสุดทาง อียิปต์ ฟิล์ม เฟสติวัล ติดต่อเพื่อขอภาพยนตร์ไปฉาย ถือว่าโชคดีมากที่หนังได้รางวัลทั้ง 2 เรื่องจนรู้สึกตื่นเต้น สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนั้น เรื่องแรก Revenge Tragedies เล่าเรื่องผู้หญิงที่ถูกเจ้านายข่มขืน และถูกแฟนหนุ่มทิ้งก่อนถึงกำหนดแต่งงาน แต่เมื่อบอกแฟนหนุ่มคิดได้แต่ก็สายไปเสียแล้ว ส่วน Unfaithfully Yours เล่าเรื่องครอบครัวๆ หนึ่งที่หัวหน้าครอบครัวไปมีกิ๊กซึ่งเป็นเพื่อนภรรยาตัวเองและเกิดผลกระทบต่อครอบครัว

“โดยธรรมชาติผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า และเป็นเพศที่ถูกดีไซน์ให้ถูกรังแก ซึ่งปัจจุบันนี้อาจมีหญิงที่แข็งแรงแต่สุดท้าย ผู้หญิงก็คือผู้หญิงอาจอยู่ในกลุ่มที่จะโดนรังแกเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งอยากให้ผู้คนตระหนักถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรม แต่หากปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบเข้ามาครอบงำ นอกจากทำร้ายตัวเองแล้วยังทำร้ายคนอื่นด้วย โดยภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง เป็นมุมมืดไม่ค่อยมีคนหยิบมาพูดถึง เป็นความจริงที่เจ็บปวด หรือเลือกที่จะลืมมันไป จึงเก็บรายละเอียดของชีวิตคนมาเล่า ว่ามันมีเรื่องเหล่านี้อยู่จริงในสังคม” น.ส.พรพัชญา กล่าว

น.ส.พรพัชญา กล่าวอีกว่า จากภาพยนตร์สั้นทั้ง 2 เรื่องที่ได้มาหลายรางวัล สร้างความมั่นใจว่าเราเป็นผู้กำกับฯ ได้ และทำให้รู้ว่าเรามีความสามารถจริงๆ ในการเล่าเรื่องผ่านภาพ เราต้องเล่าเรื่องออกมาให้คนดูเข้าใจ แต่เล่าด้วยวิธีที่มีควาแตกต่างในมุมมองของแต่ละคน ส่วนความคาดหวังอยากบอกคนไทยทุกคนว่า ยังมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคม และอยากให้ทุกคนเปิดใจรับสิ่งที่เกิดขึ้น ภาพ ยนตร์แนวนี้อาจจะค่อนข้างแรง แม้ไม่แรงด้วยภาพแต่แรงด้วยเนื้อหาที่ซ่อนอยู่ใต้ความรู้สึกของนักแสดง ซึ่งเป็นวิธีที่สื่อออกมา จะไม่บอกมาเป็นคำพูด ผ่านความรู้สึก ผ่านอารมณ์ของภาพยนตร์ แต่ผู้ชมจะเข้าใจ

“หนังทั้งสองเรื่องทางคุณปรัชญา ปิ่นแก้ว เขามาแสดงความดีใจด้วย บอกว่าชอบทั้ง 2 เรื่อง และกล่าวอีกว่าเป็นเรื่องที่ใหม่ในประเทศเรายังไม่ค่อยมีใครหยิบมาพูดและมาเล่ามาก และวิธีเรามีทั้งกลิ่นอายของคนเอเชีย วิธีการตัดต่อ มุมมอง มุมกล้องเหมือนตะวันตก ซึ่งน่าสนใจ” น.ส.พรพัชญา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พรพัชญาไม่ได้เดินทางไปรับรางวัลในเทศกาล “คานส์ อินเตอร์เนชันแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 2009” เพราะเป็นช่วงไข้หวัดเม็กซิโกระบาด ทำให้ผู้ปกครองห่วงเรื่องความปลอดภัย และล่าสุดเตรียมเปิดกล้องหนังใหม่เรื่อง Winter Experience หรือ “บทเรียนฤดูหนาว” ซึ่งเขียนบทร่วมกับ “ต้อม” ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับฯ ดัง เป็นภาพยนตร์แนวดาร์กดรามา ทริลเลอร์

หลังเป็นข่าวออกมา ช่อง 3 โดยรายการ “โต๊ะข่าวบันเทิง” รวมถึง “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” โดย “วิศาล ดิลกวณิช” ก็ได้นำเธอมาสัมภาษณ์ผ่านรายการ พร้อมชื่นชมยกย่องในความสามารถ โดยเฉพาะในตัวของพิธีกรเที่ยงวันทันเหตุการณ์ที่ได้กล่าวชื่นชมเธอไม่ขาดปาก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากทั้งข่าวและบทสัมภาษณ์ที่ทำให้เธอดังเป็นพลุแตกในช่วงข้ามคืน มีเสียงชื่นชมในความสามารถของเธอมากมาย ทันทีทันใดเช่นกันที่ได้มีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้ พร้อมด้วยหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้เป็นการยืนยันว่าข่าวที่การได้รับรางวัลของเธอไม่เป็นความจริง!

และนั่นเองที่ทำให้เธอต้องมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวอีกผ่านรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” อีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.2552
...
เข้าใจผิด หรือตั้งใจโกหก!
ใช้คำไม่ถูก-เข้าใจผิด-ไม่เข้าใจความหมาย-เข้าใจกันคนละความหมาย-อธิบายไม่ชัดเจน-มันมีหลายประเด็น...เหล่านี้คือนัยที่มิใช่เพียงน้องอุ้มเท่านั้น หากแต่ยังรวมไปถึงพิธีกรและผู้กำกับดัง “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” พยายามอธิบายให้ผู้ชมทางหน้าจอทีวีในวันศุกร์ที่ผ่านมา

หลังเป็นที่แน่ชัดว่าข่าวและการให้สัมภาษณ์ของน้องอุ้มในก่อนหน้านั้นมันส่วนทางกับความจริงทั้งสิ้น!!

เพราะเรื่องจริงก็คือ หนังเรื่อง Revenge Tragedies ของเธอนั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับรางวัลใดๆ จากเทศกาลเมืองคานส์ (หรือแม้กระทั่งถูกเลือกให้ไปฉาย) อย่างแน่นอน เนื่องจากโซนที่เธอนำหนังไปฉายโชว์นั้น คือ Short Film Corner ซึ่งจะไม่มีการประกวดหรือให้คะแนนแต่อย่างใด

โดยที่น้องอุ้มเองได้ชี้แจงรายละเอียดว่า ทั้งหมดมาจากความเข้าใจผิดจากคำว่า Best Student Film ที่เธอพูดออกไป ซึ่งตัวเธอเองบอก (ในการออกทีวีครั้งที่ 2) ว่า คำดังกล่าวเป็นคำชมที่มีคนส่งมาทางอีเมล ไม่ได้หมายถึงการได้รับรางวัลแต่อย่างใด

จริงหรือที่เธอไม่ได้ตั้งใจโกหกว่าเธอไม่ได้รับรางวัล? จริงหรือที่ว่านักข่าวสับสนกับคำพูดของเธอและเข้าใจผิดไปเอง? จริงหรือที่ผู้รับสื่อคิดไปเอง เราลองย้อนกลับมาดูบทสัมภาษณ์(บางส่วน)จากการที่เธอได้ไปออกรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ครั้งแรกกันดู



วิศาล : สวัสดีครับ คุณผู้ชมครับ มีเรื่องที่ดังระดับโลกเลย เพราะว่ามีเด็กไทยคนหนึ่งไปสร้างชื่อเสียง คือส่งหนังระดับนักเรียนไปประกวดในเมืองคานส์ ซึ่งหลายท่านก็รู้จักดี นะครับว่าเทศกาลนี้ ที่นี่ ใหญ่ระดับโลก แล้วคนพูดถึงมากที่สุด บรรดาผู้กำกับหนัง คอหนังคนที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็จะต้องไปที่นี่ ส่งหนังไปประกวด บางทีก็ได้ทั้งเงินได้ทั้งกล่อง

วิศาล : ปรากฏว่าเด็กผู้หญิงไทยคนหนึ่งเป็นคนแรกที่อายุน้อยที่สุดแล้วไปกวาดรางวัลสำคัญมาคือ น้องพรพัชญา สุพรรณลักษณ์ อายุ 24 ปี เรียนเรื่องการทำภาพยนตร์ ที่นิวยอร์กฟิล์ม อะคาเดมี ซึ่งที่นี่เป็นมืออาชีพในการสอน คนสร้างภาพยนตร์ น้องจบมาแล้วก็ทำภาพยนร์มาสองเรื่อง เป็นเรื่องสั้นนะครับ เรื่องแรกเนี่ย ชื่อว่า Revenge Tragedies แล้วก็เรื่องที่สอง คือเรื่อง Unfaithfully Yours ปรากฏว่าสองเรื่องนี้ได้รางวัล เรื่องแรกเนี่ยได้ Best Student Film

วิศาล : เขาบอกมีคนเข้าประกวด คือมีเด็กจากต่างประเทศทั่วโลกเนี่ยส่งมาสู้เหมือนกัน แต่ปรากฏว่าของไทยเจ๋งกว่า ได้รางวัล ฝรั่งเห็นแล้วปรบมือเลยครับ แล้วก็บอกว่าหนังของเรายอดเยี่ยมทั้งมุมมอง มิติ วิธีคิด สมควรจะให้รางวัล

วิศาล : ถือว่าเป็นเด็กอายุน้อยที่สุดไปสร้างชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับโลก บางคนก็พูดคล้ายๆ กับว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เข้ามาจุดประกายวงการภาพยนตร์ของประเทศไทย ถ้าเป็นฝรั่งเขาก็บอกเป็นสปีลเบิร์กน้อย เข้ามาสร้าง วันข้างหน้าอาจจะได้เห็นผลงานระดับแบบนี้อีกในระดับผู้ใหญ่

วิศาล : หลายคนเขาบอกว่าฝรั่งดูแล้วชมเชยมากเหลือเกิน

วิศาล : เขาทำสองเรื่องออกมา ปรากฏส่งไปประกวดภาพยนตร์ ที่คานส์ อินเตอร์เนชันแนลฟิล์ม เฟสติวัล 2009 ล่าสุดๆ หยกๆ สดๆ ร้อนๆ

อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : เพราะเขาจะมีประกวดหนังระดับผู้ใหญ่ ใช่มั้ย มันมีหลายแนว ใช่มั้ย
อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : แล้วก็ของเราเป็นระดับนักเรียน ระดับ...
อุ้ม : เป็น short film corner น่ะค่ะ เป็นในกลุ่มหนังสั้น
วิศาล : มีคนส่งเข้าประกวดเท่าไหร่ฮะ
อุ้ม : ประมาณ 5 พันกว่าคนค่ะ
วิศาล : (เสียงตื่นเต้น) ทั่วโลก
อุ้ม : ทั่วโลก
วิศาล : (เสียงตื่นเต้นมากขึ้น) 5 พันกว่าคน ก็คือ 5 พันกว่าเรื่อง
อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : ใครเจ๋ง ก็ใส่เข้ามา
อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : ปรากฏว่าของอุ้ม
อุ้ม : อุ้มได้ best student ค่ะ
วิศาล : แปลว่า
อุ้ม : แปลว่าเป็นหนังนักเรียนที่ดีที่สุดค่ะ
วิศาล : อื้อหือ คุณผู้ชมดูฮะ ระดับ นี่ระดับโลกเวิลด์คลาสนะครับ ฝรั่งเห็นบอกว่าขอดูหลายรอบเลย ก็มีความประทับใจเยอะ เขาว่าอย่างไรฮะ ตอนส่งเนี่ย น้องอุ้มคิดว่าได้มั้ย รางวัล
อุ้ม : ไม่คิดเลยค่ะ ตอนส่งก็คือ อ่ะ ลองดูนะ เสร็จแล้วก็ส่งไป แล้วตัวอุ้มก็บินกลับมาเมืองไทยน่ะค่ะ แล้วก็ เขาส่งอีเมลมาบอกว่า Congratulation you're favourite nominated for best student film อุ้มก็ อ้อ โอเค (หัวเราะ)
วิศาล : นอนไม่หลับเลยคืนนั้น
อุ้ม : อ๋อ ตื่นเต้นมาก
วิศาล : เพราะว่าคนที่แข่งเนี่ย ก็มีทั้งคนอเมริกัน ยุโรป เขาก็ส่ง ถูกมั้ยฮะ
อุ้ม : อ๋อใช่
วิศาล : เด็กฟะลงฝรั่งที่เก่งๆ เขาก็มี
อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : ถูกมั้ยฮะ ของเขาก็เจ๋งเหมือนกัน เขาก็สู้กัน
อุ้ม : โห อุ้มว่าทุกคนเก่งหมดแหละค่ะ
วิศาล : แต่บังเอิญของเราดันเนาะ ได้แชมป์มาเนี่ย เบส สติวเด้นท์ ฟิล์ม
อุ้ม : ค่ะ
วิศาล : ปรากฏว่าไม่พอคุณผู้ชมครับ หนูส่งไปเรื่องแรก
อุ้ม : อุ้มส่งไปเรื่องแรกค่ะ เสร็จแล้วเขาก็อีเมล์มาถามว่า มีอีกมั้ย อุ้มบอกว่าโอเค มีเรื่องนึงที่กำลังตัดต่ออยู่ กำลังเป็น thesis เขาเลยบอกว่า ขอด้วย
วิศาล : คือเป็นหนัง
อุ้ม : อุ้มเลยส่งไปด้วย
วิศาล : ที่จะส่งครูเพื่อจบ
อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : ถูกป่ะ มันต้องส่ง
อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : เป็นหนังเพื่อจบ เป็นหนังโปรเจ็กต์น่ะ
อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : ก็บอกดิฉันยังไม่เสร็จจะเอาเหรอ ก็ไปตัด
อุ้ม : ก็ไปตัดค่ะ
วิศาล : เขาขอมาก็ส่งไปอีก
อุ้ม : ส่งค่ะ
วิศาล : ปรากฏว่า
อุ้ม : ก็ได้ Official Selection มาค่ะ จากคานส์
วิศาล : ฮ้า ในเวทีนี้เหมือนกัน 2 อันเลย งงมั้ย
อุ้ม : งง (หัวเราะ)
วิศาล : ได้มาไง
อุ้ม : (หัวเราะ)
วิศาล : บางคนก็บอก ว่าเรากำลังจะมีสปีลเบิร์กเมืองไทย เป็นผู้หญิง อยากให้เป็นอย่างนั้นมั้ยครับ ความรู้สึกของหนู คือเวทีนี้น่ะไม่ได้ไปรับรางวัล เพราะบังเอิญ
อุ้ม : มีโรคหวัดหมูน่ะค่ะตอนนี้ที่กำลังดัง
วิศาล : หวัดเมกซิโก
อุ้ม : ใช่ค่ะ
วิศาล : ทำไมครับ เขาเลยไม่ให้ไป หรือยังไง หรือว่า
อุ้ม : เออ คุณแม่น่ะค่ะ คุณแม่เป็นห่วงเลยไม่อยากให้ไป ตัวอุ้ม เองก็บินกลับมาก่อน คือพิธีจบเหมือนกัน ไม่ได้รับพิธีจบเหมือนกัน
วิศาล : แล้วรางวัลนี่เขาส่งมาทาง ทาง
อุ้ม : อ๋อ เขาต้องส่งมาทางไปรษณีย์ให้น่ะค่ะ เพราะว่าอุ้มได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของโรงเรียนด้วยค่ะ
วิศาล : โอ้โห เดี๋ยวอนาคตของอุ้มเนี่ยจะไปเป็นเหมือนสปีลเบิร์กเลยมั้ยฮะ จะทำหนังระดับนู้นเลยมั้ย?
ฯลฯ

สำหรับในการสนทนาครั้งที่ 2 นั้น น้องอุ้มได้อธิบายว่า..

“หนังของอุ้มใช่มั้ยคะ ที่ส่งเข้าไป คือตลาดที่ส่งเข้าไปเนี่ย มันเป็นเหมือนตลาดเปิดใช่เปล่าคะ เพื่อให้หนังสั้นของนักเรียนหรือว่าใครก็ได้ที่อยากจะส่งหนังสั้นเข้าไปในตลาดที่ชื่อว่า Short Film Corner ใช่เปล่าคะ เสร็จแล้วเนี่ยในตลาดนี้ ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการให้รางวัล แล้วคือ คือตอนนี้มีการ มี...”

“จากการที่อุ้มทำให้คนเข้าใจผิดหลายๆ อย่าง จากการสื่อสารของอุ้ม อุ้มใช้คำว่า Best Student Film กับ Official Selection ใช้มั้ยคะ ในความหมายนี้คือ Best Student Film เนี่ย อุ้มได้เป็น เป็นเหมือนกับว่าเป็นอีเมลคำชมเข้ามา เวลาที่ท่านผู้ชม หรือใครไปร่วมงานที่คานส์ แล้วเขาจะมาที่ช็อตฟิล์มคอร์เนอร์ เขาก็จะได้มาดูหนังแล้วก็จะมีโอกาสได้อีเมลมาบอกว่า เขารู้สึกอย่างไรกับเจ้าของหนัง ต้องการจะแชร์อะไรกับเราบ้าง”

ส่วนที่เกี่ยวกับ Unfaithfully Yours ที่ว่าได้ Official Selection นั้น เจ้าตัวแจงว่า...“ตอนนี้อุ้มเข้าใจวิธีการอธิบายได้ดีกว่าเมื่อตอนนั้นเลยค่ะ เพราะว่าอุ้มได้ผ่านการ คือเมื่อวานอุ้มได้มีการประชุมกับคุณอาปรัชญาใช่มั้ยคะ แล้วถึงได้เจอว่าข้อแตกต่างความเข้าใจเรามันเยอะจริงๆ ก็ Official Selection ใช่มั้ยคะ เหมือนกับว่าเป็นอีเมลที่อุ้มรับมา บอกว่ายืนยันคอนเฟิร์มว่าหนังรับเข้ามาที่นี่น่าจะเป็นการฉายนะ แต่ว่ามันไม่ใช่รางวัลค่ะ”

“แต่ในขณะเดียวกันเนี่ย มันก็จะมีรางวัลที่ ไม่ว่าจะเป็น อาจจะมีคานส์ด้วย แล้วก็มีเทศกาลอื่นที่เขามีหัวข้อ Official Selection อยู่เหมือนกัน เหมือนกับว่าครั้งแรกที่ให้สัมภาษณ์ออกหนังสือพิมพ์ครั้งแรกเลย คือการใช้ศัพท์ของอุ้มมันไม่เคลียร์เองน่ะค่ะ ด้วยความที่อุ้มไม่ได้ระวังว่าการที่อุ้มใช้คำนี้ คือเอาคำพูดสองคำนี้ยกขึ้นมาจากอีเมลเนี่ยจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น”



ขณะที่ทางด้านของผู้กำกับมืออาชีพอย่าง “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” เองก็ได้พยายามอธิบายว่า...“ก่อนที่น้องอุ้มจะส่งไปที่คานส์ น้องอุ้มส่งไปหลายเทศกาลหลาย แล้วก็แต่ละเทศกาลก็จะแจ้งกลับมาว่า หนังคุณถูกเลือกนะ เราเลือกหนังคุณนะ หรือบางเทศกาลจะบอกว่าหนังคุณเราเลือกไปเข้าประกวดนะ”

“น้องอุ้มจะได้รับอย่างนี้มาโดยตลอด ตามความเข้าใจของเขานี่คือรางวัลสำหรับเขาแล้ว นี่คือเขาได้แล้ว เขาก็ดีใจแล้ว ทีนี้มาพอถึงเมืองคานส์ปั๊บ จังหวะที่มีหนังสือพิมพ์ข่าวสดมาติดต่อ สนใจในงานของน้องอุ้ม จังหวะนั้นน้องอุ้มก็ได้เมลตัวนั้นพอดี”

“ซึ่งในรายละเอียดน้องอุ้มยังไม่เคยไปคานส์ ยังไม่รู้ว่าข้อแตกต่างของช็อตฟิล์มคอร์เนอร์ ที่คานส์มันจะแตกต่างไอ้ที่เทศกาลแต่ละเทศกาลแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งตรงนี้ซับซ้อนมาก น้องอุ้มไม่เคยรู้ว่าหน้าตาลักษณะของช็อตฟิล์มคอร์เนอร์มันเป็นอย่างไร แล้วสื่อถาม ก็คือเขาเข้าใจของเขาอย่างนี้”

ในฐาะนะของคนทำงานร่วมกันก็ต้องถือว่าพอจะเข้าใจได้ในคำอธิบายที่เป็นราวกับการปกป้องของผู้กำกับชื่อดังในครั้งนี้ ทว่านอกจากเรื่องนี้จะทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับตัวของน้องอุ้มเองแล้ว ในส่วนของการทำหน้าที่ของ “สื่อ” เองก็ต้องถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวพิธีกรรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” อย่าง “วิศาล ดิลกวณิช” ที่ทำราวกับว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรเสียหาย ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นผู้นำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จ เรื่องโกหก-แหกตาประชาชนผ่านออกไปทางหน้าจอทีวี

ซ้ำร้ายนอกจากจะไม่รู้สึกอย่างไรแล้ว ตัวของพิธีกรคนนี้ยังทำราวกับว่าการเชิญแขกรับเชิญมาออกรายการครั้งที่สองนั้นเป็นการทำหน้าที่ที่ถูกต้อง เป็นการทำให้เรื่องทั้งหมด "เคลียร์" อันหมายความว่าข้อมูลที่นำเสนอออกไปในเบื้องต้นไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นเท็จ

เป็นเพียงข้อมูลที่ไม่ชัด ทำให้คนรับสื่อเข้าใจผิด ซึ่งเห็นได้ชัดจากประโยคคำพูดเข้ารายการของเขา (ในครั้งที่ 2)

“กรณีที่มีประชาชนรวมทั้งวงการภาพยนต์โทร.เข้ามาในรายการแล้วให้ข้อมูลช่วยอธิบายเพื่อความไม่สับสนและข้อมูลจะได้ครบถ้วนไม่คลาดเคลื่อน ในกรณีที่น้องอุ้ม พรภัชญา สุพรรณรัตน์ไปส่งภาพยนตร์สั้นประกวดที่เทศกาลเมืองคานส์และก็อีกหลายที่ทั่วโลก”

“หนังของเขาได้รับคำยกย่องเป็น Best film และOfficial Selection อีกเรื่องหนึ่ง ขณะที่คนในวงการภาพยนตร์บอกว่าคนไทยมักจะสับสนกับเรื่องของรางวัล เพราะคานส์มีหลายระดับ หลายรางวัล ก็เลยอธิบายให้ชัดๆ ว่าจริงๆ แล้ว ว่าอยู่ในเซกเมนต์ไหน กลุ่มไหน ยังไงกันแน่”

“วันนี้ก็เลยเชิญน้องมาอธิบายเพื่อให้คนในวงการภาพยนตร์ฟังด้วย รวมทั้งประชาชนคนทั่วไปรู้ในส่วนหนึ่ง และเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน ขอบคุณทุกท่านที่โทรเข้ามาแจ้ง รวมทั้งตัวน้องเองก็พยายามจะอธิบายว่าที่ผ่านมาเขาได้เซกเมนต์ไหน”

“ผมเชิญสองท่านมา ท่านแรก ตัวน้องอุ้ม พรภัชญา สุพรรณรัตน์ เป็นนักศึกษาที่พึ่งจบในการทำฟิล์มภาพยนตร์มาจากอเมริกา และส่งหนังเข้าประกวด 2 เรื่องที่เมืองคานส์ อีกท่านเป็นมืออาชีพที่ทำภาพยนตร์ คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว สวัสดีครับ ข่าวคราวที่เกิดขึ้นก็มีคนสนใจครับ เป็นมุมมองภาพยนตร์ที่ตื่นพอสมควร”

ที่สำคัญมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ทางรายการแทบจะไม่มีการตรวจสอบรายละเอียดของข้อมูลใดๆ ก่อนนำเสนออันเป็นหน้าที่หลักของสื่อฯ ในเบื้องต้น ซึ่งจะว่าไปแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็มิได้แตกต่างอะไรไปจากกรณีของ สมพงษ์ เลือดทหาร ที่เคยเป็นข่าวเกรียวกราวมาแล้วในปี 2540 หลังกุเรื่องว่าเก็บกระเป๋าบรรจุเงินสดของผู้โดยสารต่างประเทศได้และนำมาคืนเจ้าของ

จากนั้นบรรดาสื่อทั้งหลายต่างก็นำเสนอข่าวความดีของเขาอย่างอึกทึก หลายรายการนำตัวไปออกทีวี มีหน่วยงานต่างๆ ยกย่องเชิดชู มอบรางวัลให้มากมาย ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าเรื่องทั้งหมดอาจจะเป็นการลวงโลกเพราะไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันถึงการกระทำของนายสมพงษ์ได้จริงๆ แม้แต่อย่างเดียว

หลังถูกกดดัน ตรวจสอบ ผลสุดท้ายเจ้าตัวก็ได้ยอมรับว่ากุเรื่องขึ้นมาจริง และที่ปล่อยเรื่องให้เลยตามเลยตั้งแต่แรกก็เพราะกระแสของสื่อฯ พาไป
...
"นร.สาวไทย" ขอโทษ ไม่ตั้งใจแหกตา ยัน เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองได้รางวัล ด้าน “ปรัชญา” โดดป้อง อ้างเจ้าตัวภาษาไทยไม่แตกฉาน
กำลังโหลดความคิดเห็น