กรณี "หม่ำ" โกรธ "เปิ้ล" ลั่น...กูไม่ได้โปรโมท บอกตลกดังยอมให้หนังใช้ภาพแล้ว

“เปิ้ล นาคร” ยันไม่ได้สร้างเรื่อง "หม่ำ" โกรธ สร้างกระแสหนัง ลั่น...กูไม่ได้โปรโมท แล้วจะให้กูเครียดทำไม...ก่อนคุยมีฝีมือดีพอที่จะมาขายของแบบนี้และเชื่อคนส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ชอบ พร้อมเผยตลกดังยอมให้ภาพถูกแกล้งตัดออกในหนังแล้ว

เปิดตัวไปแล้วสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “สาระแนห้าวเป้ง” ของ 3 หนุ่ม วิลลี่ แมคอินทอช, เปิ้ล นาคร ศิลาชัย และ หอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค หลังก่อนหน้านี้มีข่าวกรณีความไม่พอใจของตลกดัง "หม่ำ จ๊กมก" ที่ถูกแกล้งให้ไปอยู่ในสถานะการณ์ถังแก๊สระเบิดจนเจ้าตัวต้องออกมาขู่จะเอาเรื่องหากอีกฝ่ายนำภาพที่ว่าไปเผยแพร่

แต่หลังจากที่เรื่องทั้งหมดกลับจบลงง่ายๆ เมื่อทั้งสามได้เข้าไปขอขมาต่อตลกดังนั่นเองที่ทำให้หลายคนมองว่าทั้งหมดนี้คือการจัดฉากเพื่อต้องการสร้างกระแสของทั้งสองฝ่ายหรือเปล่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางเปิ้ล นาคร เผยว่า...

"ถ้าโปรโมทผมว่าสักอาทิตย์นึงก่อนหนังเข้าจะดีครับ แสดงว่าเราวางแผนผิดครับ โปรโมทนานไป เรื่องนี้ผมว่าผมจะจบตรงนี้เลยก็ได้ครับ เหลืออีกเดือนนึงต่อไปนี้ผมจะไม่พูดเรื่องนั้นอีก เพราะเดี๋ยวจะบอกว่าเราโปรโมท เพราะในเมื่อมันเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาแล้ว แล้วทุกคนตีความว่าโปรโมทผมก็ต้องขอโทษด้วย"

"เพราะว่าการโปรโมทจริงๆ แล้วถ้าฉลาดนะครับ ต้องหนึ่งอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ก่อนหนังเข้า นี่เดือนครึ่งเขาไม่ทำกัน แสดงว่าผมพลาดท่าจะโปรโมทแบบนั้น ต่อจากนี้ไปจะให้เรื่องนั้นเงียบ ไม่ให้พูดแล้ว และเชื่อว่าในหนังมันมีจุดที่น่าจะโปรโมทและน่ารักกว่านี้เยอะครับ"

เผยทุกอย่างที่ทำรู้ล่วงหน้าทุกอย่าง และเซฟดีหมดแล้ว มั่นใจอยู่วงการมา 20 ปี ไม่ทำเรื่องอย่างนี้ให้สื่อเกลียดแน่..."คือการทำงานเรื่องนี้เราเดาได้หมด ถ้าเดาไม่ได้ก็คลาดเคลื่อนนิดหน่อย เช่นโกรธแต่เดี๋ยวก็หาย แต่ปรากฎว่าโกรธแล้วไม่หายโว้ย(หัวเราะ) แต่ขอขมาต้องได้ ต้องเดาได้แล้วว่าคนนี้ไม่ใช่คนอย่างนั้น แต่เคยเจออย่างนางเอกบางคนเราเคยไปแกล้งนะ แกล้งแล้วขอขมาเท่าไหร่ก็ไม่หาย แล้วเทปนั้นก็ออนแอร์ไม่ได้ มารู้ทีหลังทำให้เราเรียนรู้ว่าเราไม่ได้สนิทกับเขานี่หว่านี่คือบทเรียน”

“แต่ไม่กลัวนะว่าจะเกิดขึ้นอีก เพราะว่าเราศึกษามาละเอียด แน่นรับรอง เพราะว่าพี่หม่ำเนี่ยเป็นคนจิตใจดี กูให้เขาโกรธกูด้วย ยังไงกูกราบตีนยังไงเขาก็หาย เพราะกินเหล้ากันมาตั้งเท่าไหร่แล้ว คือคนไม่รู้ไง คนอาจจะมองว่าผมกับพี่หม่ำเหมือนอยู่คนละวงการนะ แต่เราสนิทกันมากนะ ถีบตบหัวแบบสนิทกันจริงๆ ถึงกล้าเล่นไง"

"ถ้าจะบอกว่าเป็นการจัดฉากเนี่ย ผมจะบอกอย่างนี้เลยว่าพี่หม่ำเดี๋ยวพี่หม่ำโวยวายตอนอีกอาทิตย์นึงก่อนหนังเข้านะ คือไม่มีทางเลย ผมอยู่วงการมา 20 ปี ถามว่าถ้าผมทำแล้วผมโดนสื่อจับได้สื่อจะโกรธผมมั้ยล่ะ สื่อที่มาตามผมทุกงานน่ะจะเกลียดผมมั้ย สื่อก็เกลียด แล้วผมอยู่มา 20 ปีเรื่องแค่นี้เหรอที่ผมจะทำให้สื่อเกลียด”

“ถามว่าผมไม่มีปัญญาโปรโมทวิธีอื่นเหรอ หนังเรื่องนี้มีจุดโปรโมทเยอะมาก แล้วมันมีการประชุมกันก่อนนะ แล้วมีคนเสนอไอเดียนี้มานะ ก็มีครีเอทีฟตอนประชุมกันบอกว่าหรือว่าเอาเรื่องนี้มาโปรโมทมั้ยพี่เปิ้ลทะเลาะกับพี่หม่ำเนี่ย วิลลี่ทุบกลางโต๊ะเลย บอกแบบนี้ไม่เอานะ ก็สรุปกันไปตั้งนานแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เอา แต่จู่ๆ ดันมีข่าวออกมาตรงนี้ไง ผมก็อ้าว พอตกเย็นปุ๊บโทรหาพี่หม่ำก็ยังโกรธอยู่ ผมก็นึกว่าหายโกรธแล้ว(หัวเระา)”

“รู้อย่างนี้ถ้าเกิดมันดังขนาดนี้นะ ผมจะบอกว่าพี่หม่ำอีกสักสามอาทิตย์ได้มั้ยค่อยโกรธ โปรโมทเต็มๆ เลย โดนด่ากันไปเลย กูยอม คนอยากดู ถามว่าทำมั้ย ไม่ทำ วิลลี่ไม่เอา ทีมงานทุกคนไม่เอาตั้งแต่วันแรก ถ้าถูกจับได้ปุ๊บแล้วไง แล้วสื่อเกลียดผมรึเปล่าล่ะ ก็เกลียดกันไป มันไม่มีประโยชน์ ผมว่าผมมีฝีมือนะ"

ออกปากดีใจที่เรื่องทั้งหมดจบลงด้วยดี ขณะที่ทาง "หม่ำ จ๊กมก" เองก็ยอมให้ฉากที่เจ้าตัวถูกแกล้งไปใช้ในหนังได้แล้ว..."ดีใจและโล่งอกมากครับที่ข่าวอันนั้นจบไปแล้ว แล้วก็ในอีกเดือนนึงน่าจะมีแต่เรื่องดีๆ แล้วก็เรื่องจริงทั้งหมดที่จะได้เห็นในหนัง ก็ให้พี่หม่ำเขาดูก่อนครับ แล้วก็มีตัดบางคำ คือเวลาคนโกรธน่ะ มันก็มีบางคำที่เขาไม่อยากให้มันหลุดออกไป”

“เราก็คุยกันไม่นานนะ พอหลังจากวันที่เราไปเวิร์คพ้อยท์น่ะครับ เคลียร์ปุ๊บก็บอกว่าพี่ช่วยมาดูหน่อยนะ ก่อนที่จะมาแถลงข่าว เราจะได้ตัดสินใจได้ว่าตกลงจะมีภาพของพี่หม่ำในหนังเรื่องนี้รึเปล่า พอเขาดูเสร็จก็บอกว่าหน้ากูน่าเกลียดมากเลยตอนโกรธอะไรอย่างนี้ คือถ้าตัดตรงนั้นตรงนี้ออกหน่อยก็โอเค คือเราก็ขอบคุณพี่หม่ำมากที่โอเคเขายังเห็นความเป็นพี่กับพวกเราอยู่"

ลั่น...กูไม่ได้โปรโมท แล้วจะให้กูเครียดทำไม พร้อมคุยคนส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ชอบ..."จริงๆ คนไม่ค่อยจับตามองนะ เป็นส่วนน้อยมากกว่า ก็มีแต่ในอินเทอร์เน็ตแหละ ส่วนใหญ่แม่บ้านเวลาผมไปต่างจังหวัดไม่มีใครมองเรื่องนี้นะ ชาวบ้านธรรมดาไม่มีใครมองว่าโปรโมทรึเปล่านะ มีแต่มาถามว่าพี่หม่ำหายโกรธยัง ดีสมน้ำหน้าโดนพี่หม่ำโกรธเลยแค่นั้น”

“แต่ไอ้ที่บอกว่าสร้างข่าว สร้างประเด็นถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ผมว่าประมาณ 10-15%อะไรอย่างเนี้ย ก็เป็นกระแสจากในอินเทอร์เน็ต คนที่จับหาประเด็นเนี่ยแหละผมว่า แต่ผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว คนอื่นอาจจะนอนไม่หลับแต่ผมเฉยๆ เพราะว่ากูไม่ได้โปรโมทน่ะ แล้วจะให้กูเครียดทำไมล่ะ ทุกคนรู้อยู่แล้ว”

“ผมไม่เคยเตี๊ยมกับวิลลี่ ไม่เคยเตี๊ยมกับหอยก่อนที่จะมาออกสื่อ นั่งกินข้าวอำกันเรื่องอื่นนะ ถึงเวลาเราตอบกันตามความเป็นจริง ผมเชื่อว่าไปถามคำตอบทุกคนพูดเหมือนกันหมด ไม่มีเตี๊ยมกัน แล้วผมก็ไม่รู้จะโกหกไปทำไม โกหกไปก็ไม่ได้แชมป์โลก ถูกมั้ย เพราะผมว่าการเป็นแชมป์โลกน่ะไม่ใช่เรื่องยากหรอก แต่การทำให้คนเกลียดด้วยเรื่องแบบนี้ ผมเอาเวลาไปทำหนังเรื่องนี้ให้มันเป็นแชมป์โลกดีกว่า"

"คือพี่หม่ำรู้ว่าเป็นหนังของสหฯ แต่เขาพูดเล่นว่าไม่รู้ว่าเป็นหนังของสหฯ เขารู้อยู่แล้ว เพราะตอนผมคุยกับพี่หม่ำว่าผมอยากทำหนังเขาก็บอกว่าได้เดี๋ยวจะพาไปหาเสี่ยเจียง คุยกันเสร็จผมก็บอกว่าพี่หม่ำช่วยเจิมหน่อยนะ หนังเรื่องนี้ยังไงก็ต้องมีพี่นะ เขาก็บอกว่ามึงจะอะไรกับกู ผมก็เออน่ะแค่นั้น"

"แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้บอกอะไรเขาแล้ว จนเฉลยปุ๊บเขาก็บอกกูว่าแล้วไอ้สาระแนเล่นกันอย่างนี้เลยเหรอ จนตอนหลังบอกว่าเปิ้ลมึงบอกกูก็ได้ กูตกใจ คือเขากลัวไงเรื่องของเรื่อง คือเขารู้อยู่แล้วล่ะ แต่เขาไม่รู้ว่าเราจะเล่นแบบไหน"

"ทั้งหมดที่ทำมาไม่เคยมีพลาดเลยนะ เพราะว่าคุณเป้(ผู้กำกับ) เขาฉากนึงนี่เตรียมเป็นเดือนนะ ยิ่งฉากไหนที่มันเสี่ยงๆ คือเราระวังเรื่องนี้มาก เหมือนเราจะแกล้งหลานเราอายุ 4 ขวบน่ะ ถ้าเราจะแกล้งเขาจับเขาโยนลงน้ำจะต้องเตรียมอะไรบ้างล่ะ ทุกอย่างต้องเตรียม ห่วงยางโน่นนี่ ทุกอย่างเราเซฟหมดแล้วเราถึงจะกล้าแกล้งเขา”

“แต่ถ้าเกิดจะบอกว่าช็อกขึ้นมา เราก็ต้องเช็คแล้วว่าเขามีประวัติโรคหัวใจรึเปล่า เป็นคนช็อกง่ายรึเปล่า เช็คถามเลย อย่างพี่หม่ำก็ถามเมียพี่หม่ำเลย คือเราต้องเช็คก่อนว่าพี่หม่ำเป็นคนอย่างนี้จริงรึเปล่า คือกลัวจริง แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริงล่ะ แต่คือไม่ถึงขนาดตายหรอก เราก็ต้องเช็ค ต้องคุย ต้องรู้เรื่อง"

"ถ้าจะแกล้งใครผมจะสืบก่อนเป็นเดือนว่าแกล้งได้มั้ย บางคนถ้าแกล้งไม่ได้ มีองค์เนี่ยเราก็จะเลิกตั้งแต่แรก หรือว่าอย่าไปแกล้งเขาเลย เขาสูบบุหรี่ตัวต่อตัวเลย ภาพได้มาออนแอร์ขึ้นหนังมันก็ไม่ได้ หรือว่าอย่าไปแกล้งเลยผู้หญิงคนนี้เป็นผู้ชายก็ไม่แกล้ง อย่างพระเอกบางคนเอา น่ารักแกล้งเลย ไปหาข้อมูลมา"

"แต่ทีมงานกลับมาบอกพี่เขาเป็นตุ๊ดก็ต้องยกเลิก คือออกไปภาพเสียไม่ได้ ทุกคนออกมาแล้วต้องน่ารัก ออกมาแล้วต้องบวก คนไหนที่เรารักเราถึงจะแกล้ง แกล้งแล้วมันดังเลย"