xs
xsm
sm
md
lg

เหิมเกริม-ยกตัวเอง !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 “ผมถูกแกล้ง” หรือ “เขาหาว่า” ล้วนเป็นคำพูดและคำแก้ตัวของผู้กระทำผิด หรือบรรดานักโทษส่วนใหญ่ทั้งที่อยู่ในคุกและหนีคุกก็ตาม ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกใจที่ “นช.ทักษิณ ชินวัตร” จะใช้คำแก้ตัวอย่างนั้นบ้างไม่ได้ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้วการตัดสินความผิดที่ให้จำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญานั้นก็ล้วนเป็นไปตามพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง เป็นไปตามกฎหมายกำหนดเอาไว้ และที่สำคัญยังได้เปิดโอกาสให้ให้ต่อสู้แก้ต่างคดีอย่างเต็มที่แล้ว
00 การถล่มโจมตีกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถ้าพูดให้ตรงไปตรงมาในที่นี้ก็คือ “ศาล” นั่นเอง ได้ดำเนินมาเป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ตัวเองหลบหนีหมายจับจนกระทั่งถูกตัดสินจำคุกในคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก ล่าสุดยังใช้วิธีแบบเดิมอีก แต่คราวนี้หนักข้อกว่าเดิม คือใช้วิธีระดมพลคนเสื้อแดงมากดดัน
00 หลายคนวิเคราะห์ตรงกันว่า คำพูด “ไม่มีใครเอาผมกลับประเทศไทยได้ นอกจากพระบารมีที่ทรงเมตตา” ถือว่าสุดจะเหิมเกริมเกินอภัย เพราะอีกมุมหนึ่งเหมือนกับประกาศว่า ไม่มีใครสามารถเอาตัวเขากลับมาติดคุกในประเทศไทยได้ การที่บอกว่า นอกจาก“พระบารมี” นั้นถือเป็นเรื่องไม่บังควร เพราะดึง พระองค์ท่านมาเกี่ยวข้องกับคดีความผิดทางอาญา
00 แถมจู่ๆ ก็โพล่งคำว่า“ราชประชาสมาสัย” ทั้งที่ความหมายก็คือ พระมหากษัตริย์กับประชาชน เชื่อมโยง มีความรัก อนุเคราะห์เกื้อกูลกัน มีความหมายสำหรับบ้านเมืองส่วนรวม ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะบุคคล
00 สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของบรรดา ส.ส.พลังประชาชน และคนเสื้อแดง ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” กันอย่างคึกคัก ก็ทำให้ถูกตั้งคำถามว่า “มันสมควร” แค่ไหน เพราะการขอพระราชทานอภัยโทษต้องเกิดขึ้นหลังจากคดีถึงที่สุด มีการจำคุกกันไประยะหนึ่ง และที่สำคัญต้องมีความสำนึกในความผิดที่ตนเองได้ก่อขึ้น แต่นี่นอกจากไม่ยอมรับความผิดแล้วยังไปโทษศาลว่าไม่ยุติธรรมเสียอีก
00 ทั้งคำพูดและความเคลื่อนไหวเมื่อค่ำวันที่ 1 พ.ย. ถือว่าเป็นการเปิดเผยตัวตนอย่างล่อนจ้อนอีกครั้ง และยังเห็นอีกว่า คนอย่าง “ทักษิณ” ไม่เคยหยุดทำร้ายประเทศของตัวเองแม้แต่วินาทีเดียว ปากพูดอย่าง แต่ทำอีกอย่าง เพื่อให้ตัวเองกลับมามีอำนาจและรักษาทรัพย์สมบัติของตัวเองและครอบครัวเท่านั้น แต่ว่านาทีนี้มีแต่คนรู้เท่าทันมากขึ้นมันก็ไม่หมูนักหรอก “แม้ว” เอ๋ย
00 แม้มีแรงผลักดันให้ลากถูลู่ถูกังเพื่อจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เปิดทางให้ตั้ง ส.ส.ร.3 โดยจะพยายามรวบรัดบรรจุเข้าวาระภายในสัปดาห์หนี้ให้ได้ แต่ถ้าพิจารณาจากปัจจัยรอบข้างแล้วดูท่าจะต้องเจอกับงานหนักแน่ ไหนจะปัญหาภายในคือ ส.ส.พรรคร่วมฯบางพรรคยังไม่อยากให้การเมืองกระเพื่อมมากกว่านี้ ต้องการให้ประคองสถานการณ์หวัง “กินกันยาวๆ”ไปอีกระยะ ขณะที่ “เสี่ยหน้าเหลี่ยม” กำชับมาบอกช้าไม่ได้ เพราะโอกาสที่รัฐบาล “ล้มทั้งยืน” เป็นไปได้ทุกวินาที ดังนั้นต้องแข่งกันเวลา ขณะที่ปัจจัยภายนอกรุมเร้าเข้ามาทั้งพันธมิตรฯ ทั้งฝ่ายค้าน ต่างยืนกรานว่าอย่างไรก็ไม่เอาด้วย ยิ่งเพิ่มดีกรีให้ร้อนฉ่าอีกรอบ แต่เที่ยวนี้บอกได้คำเดียวว่า “อย่ากระพริบตา” เป็นอันขาด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น