"จำลอง" เชิดชูพี่น้องพันธมิตรฯ กล้าหาญ อดทน ยิ่งกว่าทหาร ประนาม นปก.อุดรฯ พฤติกรรมสุดถ่อย รุมทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้ ชี้ในสนามรบยังมีความเป็นสุภาพบุรุษกว่านี้ จวกทหารที่ชอบอ้างตัวเองไม่มีอำนาจ ให้ลาออกไป เพื่อเปิดทางคนมีอำนาจเข้ามาดูแลชีวิตประชาชนแทน ปลุกจิตสำนึก หากตำรวจไม่จัดการ ทหารวางเฉย ท้ายที่สุดจะเกิดการนองเลือดในไม่ช้า
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
วันนี้ (25 ก.ค.) เวลาประมาณ 21.10 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีสะพานมัฆวานว่า ขอชื่นชมว่านักสู้ทุกคนที่อยู่ที่นี้ มีความกล้าหาญมาก ซึ่งตั้งแต่เราตั้งคณะกรรมการพลังแผ่นดิน ก็มีพี่น้องทหารแวะเวียนมาพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนชื่นชมพี่น้องว่า พวกเรากล้าหาญ และทรหดอดทนจริงๆ เพราะขนาดฝึกทหารยังไม่เคยนอนกินกลางถนนนานถึง 62 วันแบบนี้
"ก่อนหน้านี้ผมเคยนำพี่น้องร้องเพลงอยู่เรื่อยๆ ว่า เหนื่อยเราก็ไม่เหนื่อย แต่ตอนหลังผมไม่กล้าแล้ว เพราะผมรู้ว่าท่านเหนื่อย แต่ท่านทุกคนอดทน และไม่ได้แสดงให้เราเห็นว่าเหนื่อยเลย เพราะทุกคนยังหน้าตาผ่องใส และด้วยความกล้าหาญของท่านทั้งหลาย เราจึงจัดชุมนุมได้ ซึ่งภาพของการทำร้ายพี่น้องพันธมิตรที่อุดรฯ เป็นภาพที่สะเทีอนใจเหลือเกิน แต่ไม่ใช้เราเท่านั้น ทหารเองก็ระบายความอึดอัดออกมาเช่นกันว่า ทำไมบ้านเมืองเป็นได้ถึงขนาดนี้"พล.ต.จำลอง
พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า เรื่องเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าเราไม่พูด ก็จะไม่มีใครที่พยายามรักษาอธิปไตย แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราทั้งหมด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาไม่ทำกัน แล้วทำไมต้องอาศัยเราเท่านั้น ในขณะที่ผู้มีหน้าที่โดยตรงกลับไม่ทำ ส่วนเรื่องพันธมิตรฯ อุดรฯ ถูกทำร้าย ถือเป็นการกระทำที่ถ่อยที่สุด ทหารอย่างผมเรียนมาอย่างเดียว คือ ทำลายผู้คนในสนามรบ แต่เราก็ถูกสอนว่าอย่าเอาเปรียบศัตรู เป็นสุภาพบุรุษ แต่ที่เห็นภาพของพี่น้องพันธมิตรอุดรฯ แล้วถือว่าถ่อยมาก คนๆ เดียวโดนคน 5-6 คนเข้ามารุมพร้อมกันทั้งๆ ที่นอนเจ็บอยู่ ในสนามรบเรายังไม่ทำแบบนี้เลย แต่ถาพที่เห็นถือว่าบีบคั้นจิตใจเราแค่ไหน ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อุดรฯ รวมถึงการที่ นายสนธิ ถูกแกล้งจับ ทำให้พี่น้องเข้ามาร่วมกับเรามากขึ้น คล้ายกับการซ้อมใหญ่เพื่อรอวันเป่านกหวีดครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตาม ภาพที่เห็นไม่ได้ทำให้เราหวาดกลัว ซึ่งการที่เขาทำขนาดนี้ ปรากฏให้เห็นว่าเขาจนตรอกแล้วทุกอย่าง ซึ่งที่ผ่านมาเราถูกทำร้ายมาแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง โดย 3 ครั้งอยู่ในกทม. และอีก 8 ครั้งในต่างจังหวัด แต่ไม่ว่าอย่างไรพี่น้องก็ไม่กลัว เพราะถ้ากลัวคงไม่มาเยอะขนาดนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกให้รู้ว่ารัฐบาลฉลาดน้อย ทำลายล้างผลาญชีวิตพี่น้องคนไทยด้วยกันเอง และเพราะเขาจนตรอกนี่เอง จึงเริ่มหว่านเงินเข้าไปต่างจังหวัดแล้วหมู่บ้านละแสนเพื่อให้เกิดเหตุการณ์แบบที่เกิดขึ้นกับที่อุดรฯ
"ต่อให้เอาเงินกี่แสนกี่ล้านไปหว่าน เราก็ไม่กลัว เพราะธรรมมะย่อมชนะอธรรม พี่น้องทุกคนถือว่าโชคดีที่ได้ออกมาแก้ไขปัญหาให้ชาติ ทั้งๆ ที่ทหารชั้นผู้ใหญ่และตำรวจเฉยเมย ทั้งๆ ที่มีความผิดเกิดขึ้นต่อหน้า ต่อไปนี้ถ้าเราพึ่งเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ เราก็ต้องหาอาวุธมาป้องกันตัวเอง"พล.ต.จำลองกล่าว
ส่วนบทบาทของทหาร ที่บอกว่าไม่มีอำนาจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นความจริง เพราะจริงๆ แล้ว มีอำนาจโดยตรงและแฝง ถ้าจะบอกว่าไม่มีอำนาจก็ให้ลาออกไป เพื่อให้คนที่เขามีอำนาจออกมาปกป้องชีวิตคนไทยแทน ทหารกับตำรวจถือเป็นบุคคล 2 อาชีพเท่านั้น ที่สามารถถืออาวุธในที่สาธารณะได้โดยไม่ผิด แต่กลับบอกว่าไม่มีอำนาจ ตำรวจเองก็อยู่เฉย โดยเฉพาะในกรณีของ "ดา ตอร์ปิโด" ไม่มีใครกล้าแตะ และเมื่อตำรวจเฉย ทหารก็เลยสั่งให้จัดการ นั้นแสดงว่ามีอำนาจแฝงอยู่แล้ว
"ใครที่บอกว่าไม่มีอำนาจให้ลาออกไป เพราะคนที่เขามีอำนาจจะได้ออกมาปกป้องชีวิตพี่น้อง เพราะถ้าขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ตำรวจไม่จัดการ ทหารวางเฉย ท้ายที่สุดก็จะเกิดการนองเลือดในไม่ช้า ทหารมีหน้าที่รักษาความมั่นคงของอธิปไตย ดังนั้น กองทัพบกจะปฏิเสธหน้าที่นี้ไม่ได้เด็ดขาด"แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีเหตุการณ์หลายอย่างบอกว่าบ้านเมืองเราอ่อนแอ ทหารอ่อนแออย่างไม่เคยเห็นมาก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าเหล่านี้ว่างงานเกินไป ไม่เหมือนรุ่นผม ที่จบมาเมื่อไหร่ก็ไปสมรภูมิหมด ขนาดแก่แล้วยังไม่ยอมแก่ เพราะทหารไม่มีวันแก่ และต่อให้แก่แค่ไหนก็ต้องรักษาเกียรติ รักษาวินัย และความกล้าหาญเอาไว้ ซึ่งเหตุการณที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ทหารต้องรักษาคุณลักษณะเหล่านี้เอาไว้ อย่าให้อ่อนยวบเช่นนี้ โดยเฉพาะน้องๆ ไม่ว่ากองทัพไหน หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของท่านทุกคน ท่านไม่อายบ้างหรือที่ให้พี่น้องทำหน้าที่แทนมาถึง 62 วันแล้ว
"น้องๆ ทหารหลายคน มีความอัดอั้นตันใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น ขอให้พี่น้องมั่นในว่าทหารทั้ง 3 เหล่าทัพจะอยู่ข้างเรา ถึงแม้ผู้บังคับจะไม่เอาไหนก็ตาม และก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ช่วยกันมาถึงวันนี้โดยไม่ย่อท้อ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ให้เรานึกถึงบรรพบุรุษที่ปกป้องบ้านเมืองเรามาถึงวันนี้ เราเองก็ต้องทำตาม แม้เราจะไม่ใช่ทหารใส่เครื่องแบบ แต่จิตใจเรากล้าหาญไม่แพ้ทหารเลย"พล.ต.จำลอง กล่าว