เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ออกสตาร์ทกันมาหลายวัน แม้ว่ายังมีเวลาอีกพักหนึ่งกว่าจะเข้าทางตรง เข้าเส้นชัย แต่มันก็เริ่มเห็นว่า พรรคละพรรคการเมืองเริ่มเคลื่อนไหว “ต่อรอง” แบ่งอำนาจกันล่วงหน้าแล้ว ทั้งที่ชาวบ้านยังไม่ได้หย่อนบัตรเลือกตั้งเลย เพราะ “นักธุรกิจการเมือง” พวกนี้มันไม่ได้เห็นหัวชาวบ้าน ใช้การเลือกตั้งเป็นแค่ “พิธีกรรม” อำพรางไปสู่เป้าหมาย “ส่วนตัว” เท่านั้น
00 ที่น่าเจ็บปวดก็คือ คนที่เคยทำผิดกฎหมาย ถูกศาลสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง แต่คนพวกนี้ไม่เคยสนใจ ยังชักใย เป็นคนกำหนดเกมอยู่ข้างหลัง เพราะเห็นหน้ากันสลอนทั้ง “หัวหงอก หัวดำ” ไม่ว่าจะเป็น เนวิน ชิดชอบ บรรหาร ศิลปอาชา สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นี่ยังไม่นับ “เหลี่ยมจัด” อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็น “โจรปล้นชาติ” แท้ๆกำลังหลบหนีคดีอยู่ในต่างแดน แต่ดันเป็นกำหนดทุกอย่างในพรรคเพื่อไทย เช่น บอกว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” มันจะบ้าหรือเปล่าวะ คนในพรรคเป็นร้อยเป็นพัน ไม่มีสมองกันเลยหรือไง ทุเรศ สิ้นดี
00 หันมาทางฟากปชป.บ้าง ก็ไม่แพ้กัน คนที่เกมต่อรองอยู่ข้างหลังก็ทำกันไป ขณะที่คนที่เดินสายหาเสียงสร้างภาพก็แยกกันไป ใช่แล้ว กำลังพูดถึง “คู่หูพลิกล็อก” สุเทพ-อภิสิทธิ์ นั่นแหละ ภาพมันออกมาแบบนั้นจริงๆ ลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่ ฝ่ายสุเทพ หน้าดำ รู้ตัวดีว่าตัวเองมีภาพติดตัวเป็น “สีเทาค่อนไปทางดำ” ขืนออกหน้ามีหวังพังกันทั้งพรรค จึงปล่อยหน้าที่ “สร้างภาพ” ให้กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะที่ตัวเองเดินเกม “จับขั้วอำนาจ” กันภายใน
00 นาทีนี้ก็ต้องงอนง้อสุดชีวิต เพื่อหวังจับขั้วกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป ในเมื่อ ปชป.เริ่มทำท่าเพลี่ยงพล้ำ “เพื่อแม้ว” มันก็ทำให้ “ปลาไหลงอกเขี้ยว” อย่าง “เฒ่าเติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา ต้องมาดีดลูกคิดใหม่ หวังกินสองต่อ ต่อแรกคิดสวิงไปทางเพื่อไทย แต่เผื่อฟลุกก็ขอ “ค้ากำไรเกินควร” เอาไว้ก่อนฉวยจังหวะดัน “เสธ.หนั่น” ขึ้นมาเป็น “นายกฯตาอยู่” หรือนายกฯปรองดอง เพื่อทำภารกิจพิเศษชั่วคราว ในเรื่องนิรโทษกรรมแบบรวมหมู่ ซึ่งตัวเองมีแต่ได้กับได้ แต่ถ้าวืดก็มีแต้มต่อยังไปร่วมรัฐบาลได้อีก ขณะที่ฝั่งปชป.ก็ยังไม่ทิ้ง เฮ้อ “ปลาไหล” นี่มันลื่นเป็นสันดานจริงๆ
00 ต้องยอมรับว่า ความหวังของ เพื่อไทยที่จะปลุกกระแสให้ “ยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์” คงปลุกไม่ขึ้น อย่างมากก็ทรงๆอยู่แค่นี้ หรือในทางตรงข้ามอาจลดลงด้วยซ้ำในช่วงปลายก่อนถึงวันเลือกตั้ง และยิ่งกระแส “หัวโจก” คนเสื้อแดง และขบวนการ “ล้มเจ้า” และ ทักษิณ เริ่มถูก “ตั้งคำถาม” ว่าเป็นพวกเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะถูกเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย มันก็ยิ่งสั่นสะเทือน อย่าลืมว่าหลักฐานต่างๆทั้งคำพูด กิริยาท่าทาง คำพิพากษาของศาล และคนรอบข้างทุกอย่างล้วนชัดเจน นอกจากประเภท “กูเลือกข้าง” แล้วไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
00 แต่วันมะรืนนี้ ( 2 มิ.ย.) ก็ถึงที 19 หัวโจกแดงจะต้องไปพบอัยการตามหมายเรียกในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และในจำนวนนั้นมีหลายคนที่เป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ยกตัวอย่างให้ก็ได้ เช่น จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ฯลฯ มากันครบ นอกจากนี้คนอื่นก็มีทั้งประเภทระบบเขตและบัญชีรายชื่อ ดังนั้นไม่ต้องมาสร้างกระแสโวยวายว่าถูกแกล้งทำให้เสียคะแนนเสียง เพราะมีทั้งคำพูดหลักฐานมากมาย เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาเรามีรัฐบาล มีนายกฯห่วยแตก มีรองนายกฯที่ดีแต่สร้างความมั่นคงให้กับตัวเองเท่านั้น ผลมันถึงได้ออกมาแบบนี้ ทุด !!