00 ไม่น่าเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย ของ “เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร นี่มัน “บิด” ไปได้ทุกเรื่อง ทั้งในเรื่องที่ตัว “หัวหน้าใหญ่” ถูกศาลตัดสินจำคุกในข้อหา“ขี้โกง” ถูกยึดทรัพย์กว่า 4.6 หมื่นล้านบาท ก็สั่งให้ “ลูกหาบ” ออกมาโหมกระแสว่า “ถูกแกล้ง” จากนั้นก็ให้แกนนำคนเสื้อแดงออกมาป่วน ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ถึงขั้นนองเลือดรุนแรงที่สุดเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองแบบ “พลิกฟ้าพลิกดิน” แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะชาวบ้านอีกจำนวนไม่น้อย รู้ทันคอยขัดขวาง
00 ที่ผ่านมามีหลักฐานปรากฏว่าทั้งคำพูดและภาพถ่ายว่า ทักษิณ มีเจตนาจาบจ้วงให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ และคนรอบข้างล้วนถูกเคยถูกจำคุก เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ต่อมากลับใช้คำพูดง่ายๆ แก้ตัวว่าตัวเอง “จงรักภักดี” หน้าตาเฉย
00 นั่นเป็นแบ็กกราวด์ชี้ให้เห็นว่าคนพวกนี้มีความเชื่อมโยงถึงกันอย่างไร โดยเฉพาะกับแกนนำคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีของ“ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกำลังจะลงสมัคร ส.ส.ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่มาถูกศาลอาญาสั่งถอนประกัน ฐานผิดเงื่อนไขคำสั่งศาลก่อนหน้านี้ ฐานทำลายความมั่นคง อันเนื่องมาจากคำปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื้อหา “จงใจหมิ่นสถาบันเบื้องสูง” มีความหมายชัดเจน จึงนำมาซึ่งการ “นอนคุก” ดังกล่าว ไม่ใช่ถูกลั่นแกล้งอย่างที่ความพยายามบิดเบือนไปอีกทาง
00 หลายคนในพรรคเพื่อไทย ทั้งอดีตรองประธานสภาผู้แทนฯ อย่าง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ซึ่งเคยควบแกนนำแดงมาก่อน ที่ออกมาประเมินว่าการเข้าคุกของ ไอ้ตู่ จะเป็นผลดีเรียกคะแนนสงสารได้เพิ่มขึ้น ก็ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด เพราะเห็นมีแต่คน “สมน้ำหน้า” กันทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะเขารู้ที่มา ที่ไป ไม่ใช่จู่ๆจับไปยัดคุก แต่นี่เป็นความ “ตั้งใจพูด” เพื่อเอาใจ “ใคร”บางคนหรือเปล่าไม่รู้ แต่เมื่อกระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คนไทยให้การเคารพเทิดทูน มันก็ต้องเจอแบบนี้ ซึ่งจริงๆแล้วมันอาจช้าไปเสียด้วยซ้ำ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นเพราะชัดเจนและถูกสังคมกดดันมากผิดปกติ ก็เลยต้องระเห็จเข้าไปอยู่ในคุก และเที่ยวนี้ “น่าจะยาว” ทั้งที่เมื่อพิจารณาตามตารางเวลาแล้ว อาจผิดเวลาไปหน่อย เพราะก่อนหน้านี้ใช้ตำแหน่ง ส.ส.เป็นเกราะกำบัง เอาตัวรอดมานาน ขณะที่แกนนำคนอื่นต้องติดคุก แต่กลายเป็นว่าเวลานี้สลับกัน เป็นคนอื่นที่เคยอยู่ข้างในกลับออกมาอยู่ข้างนอก ส่วนตัวเองเคยอยู่แต่ข้างนอก ก็กลับไปอยู่ข้างในแทนเสียนี่ “สงสารหรือสมน้ำหน้าดี”
00 อ้อแล้ว “ทั่นรองโรมานอฟ” อย่าง พ.อ.อภิวันท์ ก็ให้ระวังปากเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน เพราะที่ผ่านมามันมีวาทะอุบาทว์ปนอยู่ไม่น้อย ดีไม่ดีอาจต้องตามไปเป็นเพื่อนกับไอ้ตู่ ด้วยอีกคนก็เป็นได้ เพราะทุกอย่างมันเกิดแต่ “กรรม” ไม่มีใครกลั่นแกล้งได้แน่นอน ที่ผ่านมาคนชั่วทั้งหลายที่ยังลอยนวลอยู่ได้ ทำให้บ้านเมืองเสียหายจนถึงบัดนี้ เป็นเพราะเรามีรัฐบาล “ห่วยแตก” ปล่อยปละละเลย ต่างหาก !!
00 ไหนๆ เมื่อพูดถึงคนในพรรคเพื่อไทยแล้วก็ต้องพูดให้จบ โดยเฉพาะเห็นข่าวความเคลื่อนไหวของ “ผู้จัดการ” คนใหม่ ที่เพิ่งโผล่หน้าออกมาอยู่แถวหน้าอย่าง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ไปทาบทาม “ไดโนเสาร์” เสนาะ เทียนทอง กลับมาอีกรอบ ได้ยินข่าวนี้ทีไรแทบจะถอดรองเท้าเขวี้ยงใส่ทีวี และนี่คือลางหายนะของบ้านเมืองที่กำลังรออยู่ข้างหน้า หากคนไทย “โหวตเยส” กับคนพวกนี้ และพรรคการเมืองแบบนี้ !!
00 ที่ผ่านมามีหลักฐานปรากฏว่าทั้งคำพูดและภาพถ่ายว่า ทักษิณ มีเจตนาจาบจ้วงให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ และคนรอบข้างล้วนถูกเคยถูกจำคุก เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ต่อมากลับใช้คำพูดง่ายๆ แก้ตัวว่าตัวเอง “จงรักภักดี” หน้าตาเฉย
00 นั่นเป็นแบ็กกราวด์ชี้ให้เห็นว่าคนพวกนี้มีความเชื่อมโยงถึงกันอย่างไร โดยเฉพาะกับแกนนำคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีของ“ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกำลังจะลงสมัคร ส.ส.ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่มาถูกศาลอาญาสั่งถอนประกัน ฐานผิดเงื่อนไขคำสั่งศาลก่อนหน้านี้ ฐานทำลายความมั่นคง อันเนื่องมาจากคำปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื้อหา “จงใจหมิ่นสถาบันเบื้องสูง” มีความหมายชัดเจน จึงนำมาซึ่งการ “นอนคุก” ดังกล่าว ไม่ใช่ถูกลั่นแกล้งอย่างที่ความพยายามบิดเบือนไปอีกทาง
00 หลายคนในพรรคเพื่อไทย ทั้งอดีตรองประธานสภาผู้แทนฯ อย่าง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ซึ่งเคยควบแกนนำแดงมาก่อน ที่ออกมาประเมินว่าการเข้าคุกของ ไอ้ตู่ จะเป็นผลดีเรียกคะแนนสงสารได้เพิ่มขึ้น ก็ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด เพราะเห็นมีแต่คน “สมน้ำหน้า” กันทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะเขารู้ที่มา ที่ไป ไม่ใช่จู่ๆจับไปยัดคุก แต่นี่เป็นความ “ตั้งใจพูด” เพื่อเอาใจ “ใคร”บางคนหรือเปล่าไม่รู้ แต่เมื่อกระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คนไทยให้การเคารพเทิดทูน มันก็ต้องเจอแบบนี้ ซึ่งจริงๆแล้วมันอาจช้าไปเสียด้วยซ้ำ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นเพราะชัดเจนและถูกสังคมกดดันมากผิดปกติ ก็เลยต้องระเห็จเข้าไปอยู่ในคุก และเที่ยวนี้ “น่าจะยาว” ทั้งที่เมื่อพิจารณาตามตารางเวลาแล้ว อาจผิดเวลาไปหน่อย เพราะก่อนหน้านี้ใช้ตำแหน่ง ส.ส.เป็นเกราะกำบัง เอาตัวรอดมานาน ขณะที่แกนนำคนอื่นต้องติดคุก แต่กลายเป็นว่าเวลานี้สลับกัน เป็นคนอื่นที่เคยอยู่ข้างในกลับออกมาอยู่ข้างนอก ส่วนตัวเองเคยอยู่แต่ข้างนอก ก็กลับไปอยู่ข้างในแทนเสียนี่ “สงสารหรือสมน้ำหน้าดี”
00 อ้อแล้ว “ทั่นรองโรมานอฟ” อย่าง พ.อ.อภิวันท์ ก็ให้ระวังปากเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน เพราะที่ผ่านมามันมีวาทะอุบาทว์ปนอยู่ไม่น้อย ดีไม่ดีอาจต้องตามไปเป็นเพื่อนกับไอ้ตู่ ด้วยอีกคนก็เป็นได้ เพราะทุกอย่างมันเกิดแต่ “กรรม” ไม่มีใครกลั่นแกล้งได้แน่นอน ที่ผ่านมาคนชั่วทั้งหลายที่ยังลอยนวลอยู่ได้ ทำให้บ้านเมืองเสียหายจนถึงบัดนี้ เป็นเพราะเรามีรัฐบาล “ห่วยแตก” ปล่อยปละละเลย ต่างหาก !!
00 ไหนๆ เมื่อพูดถึงคนในพรรคเพื่อไทยแล้วก็ต้องพูดให้จบ โดยเฉพาะเห็นข่าวความเคลื่อนไหวของ “ผู้จัดการ” คนใหม่ ที่เพิ่งโผล่หน้าออกมาอยู่แถวหน้าอย่าง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ไปทาบทาม “ไดโนเสาร์” เสนาะ เทียนทอง กลับมาอีกรอบ ได้ยินข่าวนี้ทีไรแทบจะถอดรองเท้าเขวี้ยงใส่ทีวี และนี่คือลางหายนะของบ้านเมืองที่กำลังรออยู่ข้างหน้า หากคนไทย “โหวตเยส” กับคนพวกนี้ และพรรคการเมืองแบบนี้ !!
