ศาลอาญาให้ถอนประกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิสิต สินธุไพร เหตุจากการปราศรัยของนายจตุพรบางตอนอาจจะส่อไปให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง ซึ่งผิดเงื่อนไขประกันที่ศาลกำหนดไว้ในการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีก่อการร้าย
สองแกนนำเสื้อแดงต้อง เลยไปนอนคุกในขณะนี้
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีต รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 และส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ที่อยู่ในแนวร่วมของกลุ่ม นปช.ได้เดินทางไปเยี่ยมนายจตุพรที่เรือนจำทันที
ทั้งนี้ พ.อ.อภิวันท์มองว่า กระบวนการส่งคนเสื้อแดงเข้าคุกนั้นกลับยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความสงสาร และรู้สึกว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความเป็นธรรม และสุดท้ายก็จะนำมาซึ่งผลคะแนนที่มากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับในแง่ดี
หลายๆ ฝ่ายมองกันว่า เมื่อแกนนำเสื้อแดงถูกจับกุม และไม่สามารถดำเนินการใดๆได้อย่างอิสระแล้ว จะทำให้พรรคเพื่อไทยจำเป็นที่จะต้องแก้ไขการจัดสรร ส.ส.ภายในพรรค ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ อีกครั้งหนึ่งหรือไม่นั้น พ.อ.อภิวันท์มองประเด็นนี้ว่า การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว เนื่องจากการส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขตก็เสร็จสิ้นไปแล้ว เหลือเพียงแต่แค่การเปิดตัวเท่านั้น
รองโรมานอฟสรุปว่า เพราะฉะนั้นก็คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ส่วนกรณีของนายจตุพร ก็ยังสามารถต่อสู้คดีความได้อยู่ตามกฎหมาย และคดีก็ยังไม่ถึงที่สุดด้วย
ด้านแกนนำพรรคเพื่อไทย อย่างนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เห็นเช่นเดียวกันว่า การที่นายจตุพรโดนคำสั่งของศาลอาญาเช่นนี้จะเป็นผลดีต่อฐานเสียงที่เป็นกลุ่มคนเสื้อแดงของพรรคเพื่อไทยเสียอีก เพราะถือว่าเป็นการเรียกคะแนนสงสารได้ดี
ส่วนกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงต้องมาเจอกับคำสั่งของศาลอาญาในเวลาใกล้กับการเลือกตั้งเช่นนี้นั้น จะเกี่ยวข้องกับขบวนการของกลุ่มบางกลุ่มหรือไม่ นายปลอดประสพบอกว่า คงไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ที่รู้ๆ ก็คือว่า พรรคเพื่อไทยถูกกระบวนการตัดคะแนนในช่วงใกล้เลือกตั้งอยู่เสมอ
ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกลายเป็นพรรคเดียวที่ยังไม่มีความแน่นอนและชัดเจนของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งลำดับที่ 1 ถึง 125 แต่นายปลอดประสพยืนยันว่าการที่นายจตุพรถูกตัดสินเช่นนี้จะไม่กระทบต่อการจัดบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน เพราะอย่างกรณีของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่เคยลงสมัครรับการเลือกตั้งในขณะที่อยู่ในเรือนจำ เมื่อตอนครั้งเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 6 คลองสามวา มาแล้ว และในครั้งนั้นก็จำเป็นที่จะต้องขออนุญาตศาลออกมาหาเสียงด้วยซ้ำไป
แต่ในการเลือกตั้งแบบระบบบัญชีรายชื่อนั้น เป็นการเลือกโดยใช้ชื่อของพรรค เพราะฉะนั้นตัวของนายจตุพรจะอยู่ที่ใด ก็คงไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
จึงดูเหมือนว่า ความพยายามที่จะส่งผู้ที่ก่อความไม่สงบในประเทศเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ยิ่งทำให้เกิดผลดีต่อพรรคต้นสังกัดมากขึ้น และยังจะเป็นการช่วยแกนนำเสื้อแดงเหล่านี้หาเสียงโดยที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงอีกต่างหาก
เรื่องนี้เลยกลายเป็นดาบสองคมที่อาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองภายหลัง เพราะสิ่งที่แกนนำเสื้อแดงพยายามปลุกปั่นประชาชน ก็คือความไม่ยุติธรรม ที่กลายเป็นสองมาตรฐานของประเทศไทย
สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของนายจตุพรตอนนี้ คงทำให้แกนนำแดงที่เหลือ เอาเรื่องนี้ไปหากินในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อีกนาน