xs
xsm
sm
md
lg

“ก่อแก้ว” กร้าวคนเสื้อแดงไม่แฮปปี้ - “ตู่-นิสิต” วืดประกันนอนคุกยาว!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายจตุพร กับนายนิสิต ถูกนำตัวไปคุมขังยังห้องคุมขังนักโทษที่ใต้ถุนศาล
บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงและมวลชนคนเสื้อแดง แห่กันไปเยี่ยมให้กำลังใจ “จตุพร-นิสิต” รวมทั้งลูกเมียไอ้ตู่ด้วย ด้าน “ก่อแก้ว” หนึ่งในแกนนำระบุคนเสื้อแดงตกใจ! และไม่แฮปปี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงขั้นเครียด แต่ยังเตือนสติให้คนเสื้อแดงอยู่ในความสงบก่อนเพื่อรอมติบรรดาแกนนำว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งคาดว่าอาจจะมีมติออกมาเย็นวันนี้ หรือพรุ่งนี้

วันนี้ (11 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถนนงามวงศ์วาน บรรดาแกนนำ นปช.ประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. พร้อมทั้งนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ภรรยาและลูกของนายจตุพร ได้ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิสิต สินธุไพร ที่ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการประกันเพราะผิดเงื่อนไขประกันที่ศาลกำหนดไว้ในการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีก่อการร้าย

นายก่อแก้วกล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงตกใจและตื่นตระหนกว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเงื่อนไขในการให้ประกันตัวของนายจตุพรนั้น คือห้ามพูดเกี่ยวกับเรื่องคดีความ แต่หลักฐานที่ทางดีเอสไอนำไปยื่นเป็นการพูดเรื่องอื่นที่ไม่ได้ขัดกับเงื่อนไขการให้ประกันตัว ซึ่งพอศาลมีคำสั่งให้ถอนประกันทำให้พวกตนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ทางนายจตุพรกำลังขออุทธรณ์คำสั่งศาล ซึ่งคาดว่าในวันพุธน่าจะทราบว่าจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร เนื่องจากในช่วงนี้ติดวันหยุดยาวถึง 5 วัน

“เมื่อศาลมีคำสั่งถอนประกันออกมาแบบนี้ ทำให้มวลชนคนเสื้อแดงไม่แฮปปี้ มีแต่ความเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ขอให้มวลชนคนเสื้อแดงอยู่ในความสงบก่อน หลังจากนั้นจะรอรับข้อมูลให้ครบก่อนทุกด้าน ก่อนจะทำการประชุมกันเพื่อลงมติว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” นายก่อแก้วกล่าว

นายก่อแก้วกล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังได้พูดคุยเล่นหยอกล้อกับนายจตุพร และนายนิสิตกัน ซึ่งทั้งคู่ไม่มีท่าทีที่คิดว่าตัวเองจะโดนถอนประกัน ทั้งนี้ได้หยอกล้อกับนิสิตว่ามีรถตำรวจมารอรับเพียบ ถ้าเข้าไปข้างในอยากจะกินอะไร เพราะรู้ว่านายนิสิตชอบอาหารอีสานมาก ซึ่งนายนิสิตยิ้มและตอบกลับมาว่าอย่าพูดเป็นลาง แต่ทั้งหมดเป็นการพูดหยอกล้อกันเล่น ไม่มีใครคิดว่าจะถูกถอนประกัน

“ทางนายจตุพรฝากบอกมวลชนคนเสื้อแดงทุกคนว่าไม่ต้องเป็นห่วง กำลังใจดี พร้อมจะต่อสู้ต่อไป ไม่รู้สึกหวั่นไหว ขอให้มวลชนคนเสื้อแดงอยู่ในความสงบ เพื่อรอฟังมติคนเสื้อแดงต่อไป หลังจากศาลมีคำสั่งแล้ว โดยส่วนตัวฝ่ายพวกผมมองว่านายจตุพรไม่ได้พูดก้าวล่วง แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่มองอีกด้านหนึ่ง ทำให้หลังจากนี้พวกผมต้องระมัดระวังคำพูดมากขึ้น หากพลาดพลั้งไปนิดเดียวพวกเขาก็จะมาหาเรื่องอีก” แกนนำคนเสื้อแดงผู้นี้กล่าว และว่าหลังจากนี้ไป ทางแกนนำจะรวบรวมข้อมูลทุกด้านและมาประชุมกัน โดยคาดว่าภายในเย็นวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ จะมีมติได้ โดยในวันพรุ่งนี้แกนนำจะแถลงข่าวอีกครั้งที่อิมพีเรียลลาดพร้าว

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่า ทางเรือนจำได้เปิดให้เข้าเยี่ยมนายจตุพรและนายนิสิตได้ ทำให้คนเสื้อแดงที่เดินทางมาพากันไปเข้าแถวเพื่อรอรับหมายเลขบัตรคิวในการเข้าไปเยี่ยมนายจตุพร และนายนิสิต โดยบางคนอยู่ในอารมณ์โกรธอย่างเห็นได้ชัดจากคำสบถที่ออกมาระหว่างที่เดินเข้าไปเรือนจำ แต่ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

“วิภูแถลง” ระบุคนเสื้อแดงโกรธแค้น ชิงชัง

ต่อมาในเวลา 14.30 น. บรรดาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ทยอยออกมาจากเรือนจำเพื่อเดินทางกลับ โดยนายวิภูแถลงกล่าวว่า นายจตุพรและนายนิสิต ฝากบอกมวลชนคนเสื้อแดงว่า ต้องสุขุม รอบคอบ ส่วนทั้ง 2 คนทำใจได้ แกร่งกล้าพอ แต่ตนรู้สึกเห็นใจและเป็นห่วงครอบครัวของทั้ง 2 คน เนื่องจากลูกของนายจตุพรยังเล็กอยู่ ส่วนลูกนายนิสิตแม้จะโตแล้วก็ยังเป็นห่วงอยู่ว่าทำไมพ่อของพวกเขาต้องมาประสบเหตุการณ์เช่นนี้

“เหตุการณ์ครั้งนี้ต่างจากตอนที่พวกผมเข้าไปในเรือนจำ เนื่องจากสังเกตเห็นพี่น้องคนเสื้อแดงที่เข้าไปเยี่ยม โดยเข้าไป 10 คน ออกมาหลั่งงน้ำตาเสีย 8 คน ทำให้พี่น้องคนเสื้อแดงรู้สึก เสียใจ โกรธแค้น และชิงชังกับสิ่งที่ได้รับ อีกทั้งตอนนี้มีขบวนการที่ต้องการไม่ให้เกิดการเลือกตั้งขึ้น จึงต้องการยั่วยุทุกวิถีทาง จากพี่น้องกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะลุกฮือขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น ก็จะเข้าทางพวกนี้ ดูอย่างวันนี้นายจตุพรถูกคำสั่งให้ถอนประกัน หลังจากนี้อีก 5 วันจะไม่มีการได้เข้าเยี่ยมและไม่สามารถทำเรื่องอุทธรณ์ได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้พี่น้องคนเสื้อแดงเจ็บปวด” นายวิภูแถลงกล่าว และว่า ฉะนั้น กลุ่มพี่น้องคนเสื้อแดงต้องอยู่ในความสงบ ในวันนี้ คงไม่มีการตั้งเวทีที่หน้าเรือนจำ แต่จะขอกลับไปประชุมกัน และจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เวลา 13.00 น.

ทนายยื่น 2 ล้านขอประกัน

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช.ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 ล้านบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราวนายจตุพร จำเลยที่ 2 และนายนิสิต สินธุไพร แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยที่ 8 คดีร่วมกันก่อการร้าย ที่ศาลอาญามีคำสั่งให้เพิกถอนประกัน

นายวิญญัติกล่าวว่า การยื่นประกันได้ระบุในคำร้องว่า จำเลยทั้งสองน้อมรับคำสั่งศาล และพร้อมจะปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ อีกทั้งจำเลยทั้งสองเป็น ส.ส. และอดีต ส.ส.หลายสมัย ซึ่งขณะนี้กำลังจะมีการจัดการเลือกตั้ง จึงขอโอกาสในการปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้ง อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ต้องรอฟังคำสั่งศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร หากศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวก็ต้องพูดคุยกับนายจตุพร และนายนิสิต ตัวความอีกว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งเรายังสามารถใช้สิทธิที่มีตามกฎหมายยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอประกันตัวได้ ส่วนการอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลเพิกถอนประกันนั้นกำลังหารือกัน เนื่องจากยังมีปัญหาข้อกฎหมายว่ายังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ทั้งนี้เนื่องจากตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 บัญญัติเกี่ยวกับการมีคำสั่งระหว่างการพิจารณาไว้ว่า การยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่มีขึ้นระหว่างการพิจารณาคดีนั้นยังทำไม่ได้ทันที ต้องรอให้คดีมีคำพิพากษาก่อน จึงยังมีปัญหาว่ากรณีที่ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนประกันคดีก่อการร้ายที่ศาลยังไม่มีคำตัดสิน น่าจะยังดำเนินการไม่ได้ทันทีในขณะนี้ ดังนั้นทนายความจึงเลือกวิธีการยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่

“จตุพร-นิสิต” วืดประกันนอนคุกยาว

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ศาลอาญามีคำสั่งให้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสองแล้วเห็นว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยทั้งสอง อาจก่อเหตุอันตรายประการอื่น จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาจำเลยทั้งสอง ให้ยกคำร้อง

ผบ.เรือนจำย้ำ ไร้สิทธิพิเศษ-ส่งเข้าแดนแรกรับ

นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิสิต สินธุไพร ว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวนายจตุพรและนายนิสิตมายังเรือนจำ และส่งตัวเข้าไปแดนแรกรับทันที โดยนายจตุพรและนายนิสิต มีสิทธิได้รับการเยี่ยมญาติตามกฎหมาย ซึ่งในวันแรกจะเปิดให้ญาติเยี่ยมได้ถึงเวลา 15.00 น. แต่ระหว่างวันที่ 13 - 17 พ.ค. นี้ เป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง 6 วัน เรือนจำจึงไม่เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ โดยจะเปิดให้เยี่ยมอีกครั้งในวันที่ 18 พ.ค. สำหรับนายนิสิตนั้นตามระเบียบเรือนจำถือเป็นผู้ต้องหาคู่คดีกัน จึงต้องแยกการควบคุมไม่ให้อยู่ในแดนเดียวกัน นอกจากนี้จะพิจารณาแยกแดนคุมขังจากนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายสรุชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ด้วย

นายโสภณกล่าวอีกว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องหาระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งตามกฎหมายยังไม่ถือเป็นผู้กระทำความผิดตามคำพิพากษา การควบคุมจึงมีการอนุโลมระเบียบมากกว่าเรือนจำที่คุมขังนักโทษเด็ดขาด ในเรื่องอาหารการกินในเรือนจำนั้น นายจตุพรและนายนิสิตมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ต้องขังอื่นๆทั่วไป ซึ่งสามารถสั่งซื้ออาหารและเครื่องใช้จำเป็นได้จากร้านค้าสวัสดิการเรือนจำ และสามารถสั่งซื้ออาหารที่จัดส่งแบบเดลิเวอรี โดยสั่งผ่านจากร้านค้าสวัสดิการที่เปิดให้บริการแก่ผู้ต้องขังไม่เว้นวันหยุด

“จากการตรวจสอบความเรียบร้อยในเรือนจำ และมีโอกาสได้พูดคุยกับนายจตุพรที่มีอาการค่อนข้างเครียด เพราะเป็นการติดคุกครั้งแรก แม้ก่อนหน้านี้จะเคยติดคุกมาบ้างแล้วแต่เป็นช่วงสั้นๆ เพียงแค่ 10 วัน แต่ครั้งนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำนานแค่ไหน สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เข้ามาเยี่ยมเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยหรือความวุ่นวาย เพราะที่ผ่านมาการเข้าเยี่ยมแกนนำของคนเสื้อแดงก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าว
ถูกนำตัวขึ้นรถไปเรือนจำ
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อารักขาเข้ม
โบกมือลาไปเรือนจำ
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ น้องรักเข้าสวมกอดและจับมือให้กำลังใจ



นายก่อแก้ว พิกุลทอง และ นาย ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เดินทางมาเยี่ยมนายจตุพร
นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อีกหนึ่งแกนนำเสื้อแดง
นายก่อแก้วให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น