ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลไม่ให้ประกัน “ สุรชัย แซ่ด่าน ”จำเลยหมิ่นเบื้องสูง ชี้คดีมีอัตราโทษสูง กลัวหนี ขณะที่ คำร้องขอประกัน นปช.ยูเอสเอ จำเลยคดีหมิ่นสถาบัน รอส่งศาลอุทธรณ์พิจารณา ด้านทนายเสื้อแดง เดินหน้าขอประกัน 43 นปช.ที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ
วานนี้(7 เม.ย.)ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายคารม พลทะกลาง ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.2 ล้านบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราวนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือแซ่ด่าน อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาคดีที่อยู่ระหว่างฝากขังข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.53 เวลา 18.30 น. ถึงเวลา 21.00 น. ผู้ต้องหาได้พูดปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่มาเข้าฟังประมาณ 1,000 คน ในงาน “เสวนาตาสว่างครั้งที่ 2 โดย 4 ส.” ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ชั้น 6 ห้างอิมพิเรียลลาดพร้าว โดยมีการใช้เครื่องกระจายเสียงปราศรัย พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางเสียหาย ซึ่งเจ้าพนักงานได้บันทึกภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งไว้เป็นหลักฐาน ก่อนขออนุมัติหมายจับและนำตัวผู้ต้องหามาฝากขัง
ต่อมาศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ซึ่งตามพฤติการณ์แห่งคดี และลักษณะการทำนำมาซึ่งความเสื่อมเสียสู่สถาบันกษัตริย์ อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะ ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว จึงเชื่อว่าหากอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว และให้ยกคำร้อง
ขณะเดียวกันญาติของ นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล นามแฝง“ เรดอีเกิ้ล ” ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.norporchorusa.com จำเลย ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุก 13 ปี ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3, 14,15 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.5 ล้านขอปล่อยตัวชั่วคราวด้วย ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรส่งคำร้อง ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความรับผิดชอบคดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) กล่าวถึงการประกันตัวกลุ่ม นปช.ด้วยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการรวบรวมหลักทรัพย์ซึ่งเป็นเงินสดที่ได้จากการรับบริจาคของ นปช. เพื่อทยอยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว กลุ่มแนวร่วม นปช. ที่ตกเป็นจำเลยคดีครอบครองวัตถุระเบิด ฯ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ฯ และคดีอื่นที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ขึ้นไป จากการเคลื่อนไหวชุมนุม ที่มีทั้งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลจังหวัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร และคดีที่ศาลได้มีคำพิพากษาแล้วและรออุทธรณ์สู้คดี รวม 45 คน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้นำเงินสดยื่นเป็นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว 10 คน ที่มีคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลอาญากรุงเทพใต้และศาลอาญา โดยมีเพียง 2 รายเท่านั้นที่ถูกยื่นฟ้องคดีครอบครองวัตถุระเบิด ซึ่งศาลอาญา อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท แต่ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ดังนั้นขณะนี้จึงยังเหลือแนวร่วม นปช. ที่รอยื่นประกันตัวอีก 43 คนจากทั้งหมด 45 คนในศาลเขตพื้นที่ กทม. โดยหลังจากนี้จะทยอยยื่นประกันตัวและยื่นอุทธรณ์ประกันตัวส่วนที่เหลือต่อไป ส่วนกลุ่มที่ถูกยื่นฟ้องในศาลต่างจังหวัดก็ทยอยดำเนินการแล้วเช่นกัน เช่น ศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ถูกฟ้องข้อหาก่อการร้ายและเผาธนาคาร ซึ่งศาลพิจารณาแล้วยังไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ก็ต้องดำเนินการยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอน หากไม่ได้รับการปล่อยตัวก็ต้องยื่นคำร้องขอประกันใหม่ตามลำดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสุรชัย แซ่ด่าน นั้นยังถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีที่ อ.3444/2553 ความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงกรณีใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวปราศรัยต่อผู้ชุมนุม ที่ท้องสนามหลวง โดยมีถ้อยคำใส่ความหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ อันเป็นการดูหมิ่นอีกคดีด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ของศาลอาญา
วานนี้(7 เม.ย.)ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายคารม พลทะกลาง ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.2 ล้านบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราวนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือแซ่ด่าน อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาคดีที่อยู่ระหว่างฝากขังข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.53 เวลา 18.30 น. ถึงเวลา 21.00 น. ผู้ต้องหาได้พูดปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่มาเข้าฟังประมาณ 1,000 คน ในงาน “เสวนาตาสว่างครั้งที่ 2 โดย 4 ส.” ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ชั้น 6 ห้างอิมพิเรียลลาดพร้าว โดยมีการใช้เครื่องกระจายเสียงปราศรัย พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางเสียหาย ซึ่งเจ้าพนักงานได้บันทึกภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งไว้เป็นหลักฐาน ก่อนขออนุมัติหมายจับและนำตัวผู้ต้องหามาฝากขัง
ต่อมาศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ซึ่งตามพฤติการณ์แห่งคดี และลักษณะการทำนำมาซึ่งความเสื่อมเสียสู่สถาบันกษัตริย์ อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะ ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว จึงเชื่อว่าหากอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว และให้ยกคำร้อง
ขณะเดียวกันญาติของ นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล นามแฝง“ เรดอีเกิ้ล ” ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.norporchorusa.com จำเลย ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุก 13 ปี ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3, 14,15 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.5 ล้านขอปล่อยตัวชั่วคราวด้วย ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรส่งคำร้อง ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความรับผิดชอบคดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) กล่าวถึงการประกันตัวกลุ่ม นปช.ด้วยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการรวบรวมหลักทรัพย์ซึ่งเป็นเงินสดที่ได้จากการรับบริจาคของ นปช. เพื่อทยอยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว กลุ่มแนวร่วม นปช. ที่ตกเป็นจำเลยคดีครอบครองวัตถุระเบิด ฯ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ฯ และคดีอื่นที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ขึ้นไป จากการเคลื่อนไหวชุมนุม ที่มีทั้งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลจังหวัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร และคดีที่ศาลได้มีคำพิพากษาแล้วและรออุทธรณ์สู้คดี รวม 45 คน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้นำเงินสดยื่นเป็นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว 10 คน ที่มีคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลอาญากรุงเทพใต้และศาลอาญา โดยมีเพียง 2 รายเท่านั้นที่ถูกยื่นฟ้องคดีครอบครองวัตถุระเบิด ซึ่งศาลอาญา อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท แต่ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ดังนั้นขณะนี้จึงยังเหลือแนวร่วม นปช. ที่รอยื่นประกันตัวอีก 43 คนจากทั้งหมด 45 คนในศาลเขตพื้นที่ กทม. โดยหลังจากนี้จะทยอยยื่นประกันตัวและยื่นอุทธรณ์ประกันตัวส่วนที่เหลือต่อไป ส่วนกลุ่มที่ถูกยื่นฟ้องในศาลต่างจังหวัดก็ทยอยดำเนินการแล้วเช่นกัน เช่น ศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ถูกฟ้องข้อหาก่อการร้ายและเผาธนาคาร ซึ่งศาลพิจารณาแล้วยังไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ก็ต้องดำเนินการยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอน หากไม่ได้รับการปล่อยตัวก็ต้องยื่นคำร้องขอประกันใหม่ตามลำดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสุรชัย แซ่ด่าน นั้นยังถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีที่ อ.3444/2553 ความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงกรณีใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวปราศรัยต่อผู้ชุมนุม ที่ท้องสนามหลวง โดยมีถ้อยคำใส่ความหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ อันเป็นการดูหมิ่นอีกคดีด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ของศาลอาญา
