00 หลายคนคงนึกประหวั่นพรั่นใจว่า จะมีการความรุนแรง วุ่นวายในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน หรือช่วงก่อนหลัง 1-2 วันหรือเปล่า เพราะเป็นวันที่บรรดาลิ่วล้อ “ทักษิณ ชินวัตร” กำลังโหมระดมคนเข้ามาในกรุง โดยอ้างว่าเพื่อมาร่วมรายการ “ความจริงวันนี้” ที่สัญจรออกไปจัดกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
00 ถ้าพิจารณาไปตามสถานการณ์แล้ว บรรดานักวิเคราะห์ไม่น้อยล้วนเห็นตรงกันว่างานนี้ไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่าการขนคนมาแสดงพลังโชว์อีกฝ่ายทำนองว่า “กูยังมีพลังนะเฟ้ย” ทำนองนี้แหละ เมื่อเป็นรายการสำแดงโชว์ มันก็ต้องทำทุกทางเพื่อระดมขนคนเข้ามาให้มากที่สุด แม้ว่าต้องแลกกับค่าใช้จ่ายอีกก้อนใหญ่ ก็ต้องกัดฟัน เพราะถ้ามากัน “โหรงเหรง” สวม “เสื้อแดง” ไม่เต็มพื้นที่เห็นทีจะยุ่งแน่
00 มีการโฆษณาเรียกแขกกันล่วงหน้าว่า “นายหน้าเหลี่ยม” จะโฟนอินข้ามทวีปมาออดอ้อนแก้ตัวเหมือนกับนักโทษทั่วไปว่า “เขาหาว่า” หรือ “ผมถูกแกล้ง” ทำนองนี้แหละ ขณะเดียวกันเชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่า ต้องมีรายการ “ปลุกขวัญ” ให้บรรดา “รากหญ้า” ทั้งหลายได้เคลิบเคลิ้มเตรียมตัวรอความฝันเป็นจริง ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง
00 ที่ขาดไม่ได้แน่นอน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะได้เห็นลีลาถล่ม ตุลาการและ“ชนชั้นสูง” อีกชุดใหญ่แน่นอน ถ้าคิวที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าตามนี้ก็จะได้เห็น “ตัวตน” หรือธาตุแท้ของคนๆนี้กันชัดๆ อีกครั้ง
00 แต่ช้าก่อนครับพี่น้อง หลังจากเมื่อสองสามวันก่อน จู่ๆ ผบ.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกมาเทกแอ็กชัน ทำหน้าตาขึงขังสั่งจัดการกับพวก “หมิ่นเบื้องสูง” ใช้อำนาจในฐานะรอง ผอ.รมน.ทำหนังสือถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เข้มงวดกับเว็บไซต์ ใบปลิว วิทุยชุมชน ที่ก่อนหน้านี้เผยแพร่กันจนเป็นเรื่องปกติมานานนับปี จนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหูตาตื่นกันไปหมด
00 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้การระดมพล “คนเสื้อแดง” ต้องสะดุดลงไม่น้อย เพราะถ้าพิจารณาจากท่าทีของ “ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล” ที่เปิดโปงย้ำให้เข้าใจอีกว่า เป็นขบวนการจาบจ้วงมานานนับปีคือพวกเสื้อแดงที่ “ขึ้นเวทีสนามหลวง” นั่นแหละ คนพวกนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นกลุ่มที่บูชา “ไอ้หน้าเหลี่ยม”
00 ดังนั้นเมื่อสังคมเริ่มหูตาสว่าง ยิ่งรากหญ้าที่อ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้มาก ก็ต้องหยุดคิดและเริ่มถอยฉาก เหลือแต่พวกฮาร์ดคอร์ กับพวกที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่ปริมาณก็ไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
00 ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งถ้าพิจารณาในแง่มุมยุทธศาสตร์ยุทธวีธีแล้วคงต้องการประคองสถานการณ์กันไปก่อน เพื่อเป้าหมายข้างหน้าคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จเพื่อปลดพันธนาการต่างๆ ของตัวเองกับพวกให้จงได้ และนาทีนี้น่าจะมีหนทางเดียวเท่านั้นที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ส่วนการรัฐประหารแม้ยังมีความเป็นไปได้ แต่ก็เสี่ยงสูงเอาการ แถมอาจขาดทุนป่นปี้
00 ไม่ว่ามองมุมไหนแล้วเชื่อว่าในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ก็คงเป็นแค่แสดงพลังข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม คงไม่กล้าสร้างสถานการณ์วุ่นวายจนเลยเถิด เพราะยังมีเป้าหมายใหญ่รออยู่ข้างหน้า และที่สำคัญ “น้องเขย” ยังคุมอำนาจรัฐไว้ในมือจะทำให้กระเพื่อมเองทำไม ยื้อให้นานที่สุดดีกว่า และถ้ามีก็น่าจะเป็นประเภท แหย่ “กวนประสาท” มากกว่า !!
00 อ้อ!!เกือบลืม ช่วงนี้มีโพสกันว่อนเนต ถามหาคลิป “คนหน้าเหมือนชาย” ควงสาวผิวคล้ำ 2 คน 2 สไตล์ เข้าม่านรูดกันให้ควั่ก ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกับคนที่เคยเป็นบิ๊กยุติธรรมหรือไม่ รู้แต่ว่ามันเจียวววุ้ย!!
00 ถ้าพิจารณาไปตามสถานการณ์แล้ว บรรดานักวิเคราะห์ไม่น้อยล้วนเห็นตรงกันว่างานนี้ไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่าการขนคนมาแสดงพลังโชว์อีกฝ่ายทำนองว่า “กูยังมีพลังนะเฟ้ย” ทำนองนี้แหละ เมื่อเป็นรายการสำแดงโชว์ มันก็ต้องทำทุกทางเพื่อระดมขนคนเข้ามาให้มากที่สุด แม้ว่าต้องแลกกับค่าใช้จ่ายอีกก้อนใหญ่ ก็ต้องกัดฟัน เพราะถ้ามากัน “โหรงเหรง” สวม “เสื้อแดง” ไม่เต็มพื้นที่เห็นทีจะยุ่งแน่
00 มีการโฆษณาเรียกแขกกันล่วงหน้าว่า “นายหน้าเหลี่ยม” จะโฟนอินข้ามทวีปมาออดอ้อนแก้ตัวเหมือนกับนักโทษทั่วไปว่า “เขาหาว่า” หรือ “ผมถูกแกล้ง” ทำนองนี้แหละ ขณะเดียวกันเชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่า ต้องมีรายการ “ปลุกขวัญ” ให้บรรดา “รากหญ้า” ทั้งหลายได้เคลิบเคลิ้มเตรียมตัวรอความฝันเป็นจริง ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง
00 ที่ขาดไม่ได้แน่นอน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะได้เห็นลีลาถล่ม ตุลาการและ“ชนชั้นสูง” อีกชุดใหญ่แน่นอน ถ้าคิวที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าตามนี้ก็จะได้เห็น “ตัวตน” หรือธาตุแท้ของคนๆนี้กันชัดๆ อีกครั้ง
00 แต่ช้าก่อนครับพี่น้อง หลังจากเมื่อสองสามวันก่อน จู่ๆ ผบ.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกมาเทกแอ็กชัน ทำหน้าตาขึงขังสั่งจัดการกับพวก “หมิ่นเบื้องสูง” ใช้อำนาจในฐานะรอง ผอ.รมน.ทำหนังสือถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เข้มงวดกับเว็บไซต์ ใบปลิว วิทุยชุมชน ที่ก่อนหน้านี้เผยแพร่กันจนเป็นเรื่องปกติมานานนับปี จนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหูตาตื่นกันไปหมด
00 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้การระดมพล “คนเสื้อแดง” ต้องสะดุดลงไม่น้อย เพราะถ้าพิจารณาจากท่าทีของ “ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล” ที่เปิดโปงย้ำให้เข้าใจอีกว่า เป็นขบวนการจาบจ้วงมานานนับปีคือพวกเสื้อแดงที่ “ขึ้นเวทีสนามหลวง” นั่นแหละ คนพวกนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นกลุ่มที่บูชา “ไอ้หน้าเหลี่ยม”
00 ดังนั้นเมื่อสังคมเริ่มหูตาสว่าง ยิ่งรากหญ้าที่อ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้มาก ก็ต้องหยุดคิดและเริ่มถอยฉาก เหลือแต่พวกฮาร์ดคอร์ กับพวกที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่ปริมาณก็ไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
00 ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งถ้าพิจารณาในแง่มุมยุทธศาสตร์ยุทธวีธีแล้วคงต้องการประคองสถานการณ์กันไปก่อน เพื่อเป้าหมายข้างหน้าคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จเพื่อปลดพันธนาการต่างๆ ของตัวเองกับพวกให้จงได้ และนาทีนี้น่าจะมีหนทางเดียวเท่านั้นที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ส่วนการรัฐประหารแม้ยังมีความเป็นไปได้ แต่ก็เสี่ยงสูงเอาการ แถมอาจขาดทุนป่นปี้
00 ไม่ว่ามองมุมไหนแล้วเชื่อว่าในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ก็คงเป็นแค่แสดงพลังข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม คงไม่กล้าสร้างสถานการณ์วุ่นวายจนเลยเถิด เพราะยังมีเป้าหมายใหญ่รออยู่ข้างหน้า และที่สำคัญ “น้องเขย” ยังคุมอำนาจรัฐไว้ในมือจะทำให้กระเพื่อมเองทำไม ยื้อให้นานที่สุดดีกว่า และถ้ามีก็น่าจะเป็นประเภท แหย่ “กวนประสาท” มากกว่า !!
00 อ้อ!!เกือบลืม ช่วงนี้มีโพสกันว่อนเนต ถามหาคลิป “คนหน้าเหมือนชาย” ควงสาวผิวคล้ำ 2 คน 2 สไตล์ เข้าม่านรูดกันให้ควั่ก ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกับคนที่เคยเป็นบิ๊กยุติธรรมหรือไม่ รู้แต่ว่ามันเจียวววุ้ย!!