“ประทิน” ชี้เหตุการณ์บึ้ม-ลอบป่วนพันธมิตรฯ เป็นฝีมือของรัฐบาล เจตนาข่มขู่ให้สลายการชุมนุม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาถอดรหัส คำว่า “เขา” ที่เป็นศัตรูของ “ทักษิณ” ต้องเป็นคนเพียงคนเดียว แต่เชื่อเมื่อถึงเวลาโฟนอินรอบ 2 จะไม่กล้าพูด เหน็บเทียบตัวเองกับ “แมนเดลลา” เหมือนเทียบ “อาจมกับเพชร”
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "รู้ทันประเทศไทย"
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันนี้ (11 พ.ย.) รายการ “รู้ทันประเทศไทย” บนเวทีชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล ดำเนินรายการโดย นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนายสันติสุข มะโรงศรี ได้เชิญ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และ นายอนันต์ เหล่าเลิศวรกุล อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาร่วมรายการ
พล.ต.อ.ประทิน กล่าวชื่นชมพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมด้วยความมุ่งมั่นเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ถ้าไม่มีการชุมนุมแบบนี้ รัฐบาลก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองได้สำเร็จ และการชุมนุมของพันธมิตรฯ ทำให้มี คตส.จึงลากตัวคนโกงชาติดำเนินคดีได้ ส่วนสาเหตุที่มีความวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ เพราะมีเศรษฐีแสนล้านบางคนจ้างคนให้วุ่นไม่เลิก
พล.ต.อ.ประทิน กล่าวว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ถ้ารัฐบาลไม่ไฟเขียว เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้น และรัฐบาลมองพันธมิตรฯ เป็นศัตรู ต้องการให้พันธมิตรฯกลัว และอยากจะสลายการชุมนุมอยู่แล้ว
ถามว่า เวลานี้กลายเป็นปัญหาความมั่นคงแล้วหรือไม่ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ กล่าวว่า ผู้มีอำนาจที่ไม่ได้ปกป้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งที่ควรจะต้องวางกำลังตั้งจุดตรวจอย่างเต็มที่ แต่รัฐบาลไม่สั่งการ ไม่รู้ว่า “มันเป็นคนหรือสัตว์ มันหน้าเนื้อในสัตว์ ใครก็ตามที่ฆ่าลูกมันได้มันก็เป็นสัตว์” นอกจากนี้ คำพูดที่ว่าพันธมิตรฯ นำระเบิดมาเองจนระเบิดใส่กันเอง น้องโบว์หนีบระเบิดไว้และระเบิดถูกตัวเองตายนั้น เป้นคำพูดที่งี่เง่าเต่าตุ่นมาก เสียใจมากที่ได้ยินคำพูดแบบนี้
ด้าน นายอนันต์ กล่าวว่า การชุมนุมของประชาชนเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐบาลที่ปราศจากความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิง แต่เราไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ในขณะที่คนบางคนที่ถูกบางประเทศปฏิเสธให้วีซ่าแล้วเที่ยวไปให้สัมภาษณ์อยู่ตามที่ต่างๆ นั่นต่างหากที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ คล้ายกับพวกผู้ก่อการร้ายที่ชอบพูดใส่เทปในต่างประเทศแล้วส่งไปตามที่ต่างๆ เป็นการเลียนแบบอย่างที่เลวร้าย
ส่วนคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวรอยเตอร์ ที่บอกว่าจะไปไหนก็ได้ในโลกนี้ จะกางเต็นท์นอนก็ได้นั้น เป็นการเรียกร้องความเห็นใจ แสดงให้เห็นว่าไม่มีบ้านอยู่ ทั้งที่มีบ้านหรูหราอยู่ทั่วไป
ส่วนที่บอกว่า ลูกๆ ถูกแกล้งจนแกร่งนั้น นายอนันต์ กล่าวว่า สำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เคยเป็นนิสิตอยู่จุฬาฯ และจบเป็นบัณฑิต ถือว่าไม่ใช่เด็กแล้ว และสมัยที่ยังเรียนหนังสืออยู่นั้นก็ไม่ได้เคยถูกกลั่นแกล้ง และในครั้งนี้รัฐบาลอังกฤษก็ไม่ได้ระงับวีซ่า ลูกๆ ยังสามารถไปไหนมาไหนก็ได้
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยกตัวไปเปรียบเทียบกับนายเนลสัน แมนเดลลา วีรบุรุษของโลกชาวแอฟริกาใต้ นายอนันต์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบอ้างวีรบุรุษประชาธิปไตยมาเปรียบเทียบกับตัวเอง ทั้งที่คนที่กล่าวถึงเหล่านั้นเป็นเพชร ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนกับอุจจาระ ไม่สามารถเอามาเทียบกันได้
นายอนันต์ ได้ย้อนคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โฟนอินเข้าไปในสนามราชมังคลากีฬาสถานวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อถอดรหัสคำพูดที่ว่า “เขาไล่คนบ้างานออกไป แล้วเอาคนที่เลี้ยงหลานอยู่ที่บ้านมาทำแทน” หรือ “เขาสั่งให้คำคุก และให้อยู่ต่างประเทศ 10 ปี” ซึ่งคำว่า “เขา” คือใคร ซึ่งน่าจะเป็นคนเพียงคนเดียว และที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่าจะเปิดเผยรายชื่อศัตรูทางการเมืองออกมาในการโฟนอินครั้งต่อไปนั้น เอาเข้าจริงเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่กล้าพูดออกมาว่าเป็นใคร
ในตอนท้าย พล.ต.อ.ประทิน กล่าวถึง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.รมน.ที่กลับไปยืนอยู่ข้าง พ.ต.ท.ทักษิณว่า รู้สึกเสียใจที่เคยรับราชการเป็นถึงพลเอก แต่หมดศักดิ์ศรี