“เต๊ะ-อุ๋ย-แชมเปญ” ไม่กลัว พ.ร.ก.ดาหน้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ จวกตำรวจจงใจปล่อยให้ “นปก.” เข้ามาตีพันธมิตรฯ เรียกร้องให้ “สมัคร” ลาออก
หลังจากที่ตำรวจพยายามที่จะทำการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลายครั้ง แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จนกระทั่งล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 2 กันยายน มีพวกกลุ่ม นปก.รวมตัวกันพร้อมอาวุธครบมือ พากันเคลื่อนขบวนจากสนามหลวงบุกเข้ามายังบริเวณที่กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมกันอยู่อย่างสงบ โดยมีเป้าหมายจะยึดทำเนียบคืน
โดยกลุ่ม นปก.สามารถฝ่าด่านหน้า สน.นางเลิ้ง แยก จปร.และหน้า บก.ทบ.มาอย่างง่ายดาย เพราะตำรวจที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์มีเพียงโล่ ไม่มีตะบองเหมือนวันที่เข้ามาสลายม็อบพันธมิตรฯ ดังนั้น นปก.จึงสามารถบุกเข้ามาทำร้ายพันธมิตรฯอย่างง่ายดาย ส่งผลให้เกิดการปะทะกันดุเดือด จนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายคน
เมื่อเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นนองเลือดครั้งนี้ จึงกลายเป็นสาเหตุให้ “สมัคร สุนทรเวช” เอามายกเป็นข้ออ้างในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร และมีคำสั่งมอบหมายให้ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.” เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
การที่นายกฯ รีบออกมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน การที่ตำรวจที่เข้าควบคุมสถานการณ์โดยมีเพียงโล่เพียงอย่างเดียว ทั้งที่ทราบดีว่าต้องการเกิดการปะทะกัน เพราะกลุ่ม นปก.ต่างขนอาวุธติดไม้ติดมือมาเพียบ ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า รัฐบาลรู้เห็นเป็นใจกับ นปก.เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายจนต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อหวังยืมมือทหารมาทำการสลายม็อบ
แต่ถึงแม้ว่าจะมีการออกมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เหล่าดารานักร้อง เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร, แชมเปญ เอ็กซ์, อุ๋ย บุดด้า เบลส ที่เข้าร่วมชุมและสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ไม่ได้หวาดกลัว แถมยังประกาศเชิญชวนพี่น้องให้ออกมาร่วมรวมตัวกันกู้ชาติให้เยอะกว่าเดิมอีกด้วย
“เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร” เชื่อมีการจงใจปล่อย “นปก.” มาตี
“อย่าบอกว่ารัฐบาลไม่รู้ว่าจะมีการปะทะกัน เพราะว่าข่าวก็ออกทุกช่อง แม้ว่าช่องของรัฐบาลเองก็ตาม แต่ทำไมไม่มีการป้องกันเกิดขึ้น อย่างภาพที่เราเห็นการที่ตำรวจปล่อยให้กลุ่มคนอีกกลุ่มเข้ามาอย่างง่ายดาย ตำรวจทำกับกลุ่มประชาชนคนไทยด้วยกัน คือ ปล่อยให้คนไทยเข่นฆ่ากันเอง หลังจากนั้น ก็มาอ้างใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมา”
“ผมไม่ได้กลัวการประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่สิ่งแรกที่คิด คือ เป็นห่วงว่าทำไมคนไทยด้วยกันต้องมาตีกัน ทะเลาะกันเอง ผมห่วงคนแก่ห่วงเด็กๆ ที่ผมเดินผ่านเขาทุกวัน ห่วงคนที่อยู่ข้างใน ซึ่งไม่มีอาวุธต่อสู้ ซึ่งเราไม่เคยบุกไปตี หรือทำร้ายใคร ตรงนี้เราไม่รู้ และไม่สามารถบอกใครได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้รัฐบาลจะบอกว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินนี้ มันเหมือนจะบอกว่าคุณกำลังอยู่ในอันตราย”
“ผมไม่อยากให้คนอื่น มองว่า ผมไปชักจูงให้ใครเดินมาตาย แต่อยากบอกว่าทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง บางครั้งสิ่งที่ออกมา ผลที่ออกมาข้อบังคับที่มันเป็นเรื่องไม่ชอบธรรมเท่าไหร่นัก ถ้าเรามัวแต่ปล่อยให้เขาใช้อำนาจที่อยู่ในมือ เขามาทำร้ายประชาชน และกีดขวางสิทธิเสรีไทยมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง”
“ผมไม่ได้บังคับว่าใครต้องออกมาทำอะไร แต่อยากให้คุณคิด และใช้วิจารณญาณเองว่า เราควรที่จะมามีส่วนร่วมและผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าไปโดยปราศจากการคอร์รัปชันไหม อีกอย่างถ้าจะให้ประเทศไทยไปไกลกว่านี้ มันต้องใช้เวลาและใช้กลุ่มคนที่เยอะๆ กว่านี้”
“การที่มีคนเจ็บตรงนี้แน่นอนไม่ใช่เรื่องดี ผมไม่อยากที่จะฟันธง เพราะผมไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการเมือง แต่มันเหมือนกับมีการจงใจที่จะให้ทุกอย่างเกิดขึ้น เมื่อรู้ว่าทุกอย่างต้องเกิดขึ้น แต่ไม่มีการป้องกันจะมาแก้ตัวบอกว่าไม่รู้ว่ากลุ่ม นปช.จะเข้ามาคงฟังไม่ขึ้น เล่นเดินถืออาวุธกันเข้ามาเป็นโขยงแบบนี้ไม่รู้ได้อย่างไร มันเป็นข้ออ้าง หลังจากที่ปล่อยให้คนมาตีกัน”
“การที่ออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น ไม่ใช่คนไทยได้ประโยชน์ มันเป็นแค่กลุ่มคนที่พยายามใช้ข้อกฎหมายมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการปราบปรามกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือเปล่า หลายๆ เดือนที่ผ่านมา ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้คงมีคนที่ตาสว่าง และเริ่มมองเห็นแล้วว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ ต่อให้คุณมีโปรเจกต์ดีๆ หรือทำให้คนไทยสบายมีความสุขมากขึ้น แต่มันไม่มีความโปรงใสร้อยเปอร์เซ็นต์ก็อย่าให้มันเกิดดีกว่า”
“เพราะฉะนั้นผมคิดว่าถ้าผมเป็นคนๆ นั้นแล้ว คิดว่า ตัวผมเองนี่ล่ะเป็นชนวนที่ทำให้เรื่องมันวุ่นวาย และผมมีอำนาจที่จะแก้ปัญหาได้ด้วยการเสียสละลาออก และพูดออกมาแบบลูกผู้ชายเลยว่า ผมผิดเอง ผมแพ้ ผมขอโทษ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะเห็นจากผู้นำ”
“แชมเปญ เอ็กซ์” เซ็กซี่สตาร์เหลืออดพฤติกรรมนายกฯ
“ติดตามดูสถานการณ์ทางทีวีอยู่ตลอด ไม่อยากที่จะให้เกิดความรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นมาเลยจริงๆ เราเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่อยากที่จะให้มาตีกันเอง เรื่องนี้ทำไมตำรวจไม่ห้ามปราม เห็นทั้งสองฝ่ายถืออาวุธแบบนี้ ก็ต้องรู้แล้วว่าถ้าปล่อยไปเผชิญหน้ากันนั้น ต้องเกิดความรุนแรงแน่นอน แต่เขาก็ยังปล่อยให้เกิดขึ้นอีก ถ้าท่านนายกฯ เป็นห่วงประชาชนจริงๆ น่าที่จะใช้วิธีที่มันดีกว่านี้ไม่ใช่มาใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ”
“อยากจะบอกว่า เราเกิดเป็นคนไทย ทุกคนควรที่จะรู้จักบุญคุณของแผ่นดิน และคิดที่จะตอบแทนพระคุณแผ่นดิน ไม่ใช่มาเป็นแบบนี้ บางคนมีเงิน มีอำนาจ คิดว่า มันจะซื้อทุกอย่างทำให้ทุกอย่างดีขึ้น มันไม่ใช่ มันกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง การที่รัฐบาลออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินตรงนี้ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องดี ตรงกันข้ามกลับจะทำให้แย่ลงกว่าเดิมหรือเปล่า ประชาชนอาจจะลุกฮือขึ้นมาเนื่องจากเกิดความไม่ชอบธรรม”
“สำหรับตัวแชมเปญเอง ไม่รู้สึกกลัวกับการที่เขาออกมาประกาศภาวะฉุกเฉิน เรามีสิทธิเสรีที่จะทำอะไรเราทำเพื่อคนอื่นเพื่อตัวเองมาตั้งเยอะแล้วถ้าเราจะมาทำเพื่อประเทศชาติเราสักครั้งไม่ได้ ถึงจะตายก็คงไม่เสียใจและเสียดายชีวิตแล้วล่ะ”
“แต่รู้สึกสงสารเด็ก คนแก่ คนเฒ่า ที่เขามาร่วมชุมนุมกัน ทุกคนทำเพื่อความถูกต้องอยากให้รัฐบาลมามองตรงนี้บ้างดูแล้วทนไม่ได้ แต่ไม่ค่อยสะดวกที่จะมา เพราะต้องเดินทางบ่อย เลยได้แต่ส่งกำลังใจแล้วก็บริจาคเงินมาช่วยอาจจะไม่มากมาย แต่ก็อยากที่จะช่วยเป็นกำลังใจให้ทุกคน และขอให้พระช่วยคุ้มครองพี่น้องพันธมิตรฯทุกคนให้ปลอดภัยจากอันตรายใดๆ ทั้งปวงด้วย”
“ตำรวจควรมีหน้าที่ดูแลประชาชน แต่งงว่าทำไมเห็นคนพกอาวุธเดินกันมาเต็มถนน เขากลับไม่ทำอะไรเลย คุณพ่อเพื่อนๆ ที่ต่างประเทศโทร.มาถามเยอะเลยว่า ทำไมตำรวจไทยเป็นแบบนี้ ใครๆ ก็ถามทำไมคนไทยไม่รักกัน มันอายเขานะตอบไม่ถูกเลย”
“ยังไงขอให้รัฐบาลสงสารคนอื่นๆ เขาบ้าง อย่าคิดเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน ถ้าคิดที่จะมาบริหารพัฒนาบ้านเมืองจริงต้องอยู่เคียงข้างประชาชน ทุกวันนี้มันก็เห็นอยู่แล้วว่ามีประชาชนจำนวนมากมายที่ไม่ชอบการกระทำที่ไม่โปรงใสของรัฐบาล มีเสียงต่อต้านขนาดนี้ควรที่จะลาออกไปนานแล้ว”
“อุ๋ย นที เอกวิจิตร” ร้องไห้ คนไทยถูกหลอกมาฆ่ากันเอง
“เมื่อคืนผมนั่งดูทีวี ดูข่าวแล้วน้ำตาไหล ทำไมต้องเป็นแบบนี้ เพราะใครคนไทยถึงต้องมาไล่ตีฆ่ากันเอง เขาควรที่จะรู้ตัวเองได้แล้ว เหตุการณ์นี้ผมว่าหลายๆ อย่างมันดูเหมือนมีการวางแผนเอาไว้แล้ว ตั้งแต่ตำรวจออกมาพูดก่อนว่าจะไม่ใช้กระบองแล้วจะมีแต่โล่ไว้กำบัง ประจวบกับกลุ่ม นปช.บุกมาพอดี มันเหมือนเขาตั้งใจที่จะให้เกิดการนองเลือด ทางพันธมิตรฯชุมนุมมานานเป็นร้อยวันแล้ว แต่ไม่เห็นว่าจะมีใครตายเลยสักคน นปช.รวมตัวกันวันเดียวมีคนตายแล้ว”
“เหตุการณ์นี้มันเหมือนหลอกคนไทยมาฆ่ากันตาย แต่ผมไม่ได้ว่านายกฯนะ ผมว่าแกนนำ นปช.ที่ปลุกระดม พอมีการนองเลือดแล้วก็เอาตรงนี้มาเป็นข้ออ้างในการประกาศภาวะฉุกเฉิน ทุกอย่างมันเหมือนตั้งใจไว้แล้ว ตำรวจทุกคนเห็นๆ กันอยู่ ถ้าใครดูตั้งแต่วินาทีแรกเลย จะเห็นว่า เขาไม่ได้ทำอะไรเลย เขาเห็นกลุ่มคนมีอาวุธครบมือพากันเคลื่อนตัวมาขนาดนั้นทำไมไม่มีการยับยั้งป้องกันไว้ เอาแผงเหล็กหรือเอาหัวฉีดน้ำดับเพลิงมารอฉีด สื่อเกือบทุกสื่อก็ไม่มีการพูความจริงพยายามที่จะต้มคนดู”
“ตามกฎหมายที่ออกมาข้อบังคับบางข้อตอนนี้ คุณออกมาปิดสื่อปิดทีวีได้หมดทุกช่อง ปิดหนังสือพิมพ์เกือบทุกเล่ม ทำให้เขานำเสนอข่าวได้บิดเบือนความจริงเยอะมาก ซึ่งผมคิดว่าสื่อมีผลมากๆ กับสถานการณ์แบบนี้คุณให้แกนนำ นปช.มาใช้ช่องฟรีทีวีออกมาพูดเรื่องที่ไม่เป็นความจริง มันไม่ยุติธรรม แน่จริงคุณก็ให้ทั้งสองฝั่งไปออกเหมือนกันสิ เป็นแบบนี้ทางฝั่ง นปช.รับผิดชอบอะไรบ้างได้แต่พูดว่าไม่คิดว่าเรื่องจะรุนแรงแบบนี้”
“ส่วนนายกฯ บอกผมจะรับผิดชอบๆ ถามว่ารับผิดชอบอะไร ไม่เห็นทำอะไรเลย มีคนตายเจ็บกันแบบนี้จะมารับผิดชอบด้วยการลาออกผมว่ามันน้อยไปแล้ว ตอนนี้ผมยังไว้ใจทหารอยู่ เขาออกมาเป็นตัวขวาง เขามีความจริงใจที่จะป้องกันประชาชนมากกว่า แต่ตอนนี้มันเหมือนเป็นเกมการเมืองที่ยังมีนัยซ่อนเร้นอยู่”
“ในสถานการณ์นี้ให้ผมไปตีกับ นปช.ตีกับคนไทยด้วยกันไม่เอามันยิ่งบานปลายไปใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าที่พี่น้องพันธมิตรฯที่ออกไปลุยกันเมื่อคืนทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะ เขาทำไป เพราะปกป้องเด็กและคนแก่ที่อยู่ในพันธมิตรฯเป็นส่วนใหญ่ ถ้าไม่มีพวกเขาคนเหล่านี้ต้องบาดเจ็บอีกมาก”
“แต่ผมอยากเตือนทุกๆ คน ว่า เราอย่าไปตกเป็นเครื่องมือรัฐบาล ผมอยากให้ทุกคนคิดพิจารณา และรับทั้งสองด้าน สำหรับผมยังมองทหารในแง่ดี และเชื่อใจว่า เขาไม่คิดที่จะใช้ความรุนแรงกับประชาชนเหมือนการนองเลือดที่ผ่านๆ มา ผมว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลน่ากลัวกว่า เพราะเขาต้องการที่จะให้ประชาชนออกมาฆ่ากันเอง”