"ฮีเธอร์ มิลส์" หรือ Lady Mucca ของบรรดาสื่อเมืองผู้ดี ออกมาบ่นอย่างเซ็งๆ หน้าศาลหลังจากที่เธอได้รับค่าเลี้ยงดูหลังจากหย่าขาดกับอดีตสามีที่ร่ำรวยที่สุดของวงการเพลง "เซอร์พอล แม็คคาร์ทนีย์" ไปเพียงแค่ 48.6 ล้านเหรียญ จากเดิมที่เธอขอไปถึง 250 ล้าน ซึ่งถือว่าน้อยเกินไปในสายตาของหลายๆ ฝ่ายสำหรับจำนวนเงินที่คาดว่าเธอจะได้รับจากอดีตสี่เต่าทองที่อ้างว่ามีทรัพย์สินติดตัวแค่เพียง 800 ล้านเหรียญ ทั้งๆ ที่ใครๆ ก็รู้ว่าเซอร์พอลมีไม่น้อยกว่า 1.8 พันล้านเหรียญแน่ๆ
การพิจารณาคดีของศาล Royal Courts of Justice ที่กรุงลอนดอนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นการยุติคดีฟ้องหย่าอันยาวนานของ เซอร์พอล แม็คคาร์ทนีย์ นักดนตรีชื่อก้องวัย 65 และ ฮีเธอร์ มิลส์ อดีตภรรยานางแบบวัย 40 ปี ที่อยู่กินกันมากว่า 4 ปี และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน
ในการพิจารณาคดี ฮีเธอร์ มิลส์ จะได้ค่าเลี้ยงดูจากอดีตสามีคนดังเป็นเงินจำนวน 48.6 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1,506.6 พันล้านบาท) ซึ่งน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดจากเงินจำนวน 250 ล้านเหรียญ ที่เธอเรียกร้องในตอนแรก
จำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นเงินจำนวน 33 ล้านเหรียญ และสินทรัพย์ที่เธอครองครองอยู่แล้วมูลค่า 15.6 ล้านเหรียญ และเขาต้องออกค่าใช้จ่ายแก่ เบียทริซ ลูกสาววัย 4 ขวบของทั้งคู่เป็นเงิน 7 หมื่นเหรียญ ต่อปีเป็นค่าจ้างเลี้ยงเด็กและค่าเล่าเรียน ซึ่งฮีเธอร์ไม่พอใจกับตัวเลขดังกล่าวนี้เช่นกัน
"ฉันมีความสุขมากๆๆๆ ก่อนหน้านี้ฉันคิดเสมอว่าจะต้องได้ประมาณ 40-60 ล้าน แต่เซอร์พอลเขาขี้เหนียวกว่าที่คิด ศาลบอกว่าเขามีทรัพย์สินแค่ 800 ล้าน แต่ทุกคนรู้ดีว่า 15 ปีที่ผ่านมาเขามีทรัพย์สินไม่น้อยกว่า 1.6 พันล้าน และด้วยเงินอันน้อยนิดที่เขาให้กับลูก ทำให้เบียทริซต้องเดินทางในชั้น B class ขณะที่พ่อของแกได้ชั้น A class" ฮีเธอร์ มิลส์ ออกมาโวยวายหน้าศาลหลังจากการพิจารณาคดี ขณะที่อดีตสามีกลับบ้านไปอย่างเงียบๆ
จากจำนวนที่ได้รับคำนวณได้ว่าเธอได้ค่าจ้างจากการเป็นภรรยาเซอร์พอลถึงวันละประมาณ 34,000 เหรียญ (ประมาณ 1,054,000) ใน 4 ปีที่อยู่กินด้วยกัน แม้จะเป็นรายได้ที่มโหฬาร แต่ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่คิดว่ามันดูน้อยเกินไป เพราะผู้เชี่ยวชาญในกรณีการหย่าร้างของคนดังหลายฝ่ายต่างคาดว่าฮีเธอร์ที่สื่อตั้งฉายาให้เธอเป็น Lady Mucca (แม่วัวจอมดูดเลือด) น่าจะทำเงินได้มากกว่านี้
"มันเป็นตัวเลขที่น้อยมากๆ เธอได้ไปแค่ 6% จากทรัพย์สินของเซอร์พอลเท่านั้น 48.6 ล้านเหรียญเป็นเงินจากการฟ้องหย่าที่น้อยมากๆ กับคนระดับอย่างเขา" แพทริเซีย ฮอลลิงส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟ้องหย่า จาก Finers Stephens Innocent บริษัทกฎหมายในลอนดอนกล่าว
ซึ่งการที่เงินฟ้องหย่าที่แต่เดิมผู้เชี่ยวชาญมองกันว่าอยู่ระหว่าง 50-100 เหรียญ ถูกหั่นลงมามากขนาดนี้ เนื่องจากปัจจัยที่ว่าฮีเธอร์มีชีวิตคู่กับเซอร์พอลในช่วงเวลาที่น้อยเกินไป และรายได้ส่วนใหญ่ที่ทำให้เซอร์พอลเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของวงการก็เกิดขึ้นก่อนการแต่งงานของทั้งสอง
ก่อนหน้านี้ฮีเธอร์สร้างความแปลกใจกับหลายฝ่ายด้วยการไล่ทีมกฏหมายของเธอเองจากการสู้คดีครั้งนี้เมื่อเดือน พ.ย.ก่อน และต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์ในศาลด้วยตัวเธอเอง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาให้ความเห็นว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับการที่เธอได้ค่าเลี้ยงดูน้อยกว่าที่หวังแต่อย่างใด
และเรื่องน่าสนใจเบื้องหลังคดีหย่าครั้งนี้ก็คืออดีตทีมกฏหมายที่เธอไล่ออกไปเคยเป็นตัวแทนให้แก่ เจ้าหญิงไดอานา ในคดีฟ้องหย่ากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ขณะที่ทีมกฏหมายของเซอร์พอลก็เป็นทีมเดียวกับที่ทำเรื่องหย่าให้กับ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ต่อเจ้าหญิงไดอานาเช่นกัน
ฮีเธอร์ที่เสียขาซ้ายไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปี 1993 และตั้งตัวเป็นเจ้าแม่แห่งวงการการกุศลมาตั้งแต่นั้น ออกมากล่าวอย่างภูมิใจต่อหน้าศาลว่าเงินที่เธอประหยัดได้จากการว่าคดีด้วยตัวเองนั้น สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ทางการกุศลได้อีกเยอะ
"ฉันไม่เสียใจที่สู้คดีด้วยตนเอง ฉันดีใจที่มันจบลงเสียที การไม่ต้องจ้างทนายทำให้ฉันประหยัดเงินไปได้ 1.2 ล้านเหรียญ เพื่อเอาไปใช้ในงานการกุศล" ฮีเธอร์กล่าว
คดีของเซอร์พอลและฮีเธอร์นั้นแม้จะมีสื่อตามรายงานข่าวอย่างเหนี่ยวแน่นมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่เรื่องจำนวนเงินสรุปคดีของมันนั้นนับว่าจิ๊บจ้อยมากเมื่อเทียบกันคดีของนักบาสชื่อดัง ไมเคิล จอร์แดน และนักร้องรุ่นเก๋า นีล ไดมอนด์ ที่ต้องเสียเงินให้เมียเก่าไปถึง 150 ล้านเหรียญ (ประมาณ 4,650 ล้านเหรียญ)
ผลของคดีครั้งนี้ยิ่งย้ำสถิติให้เห็นว่าการฟ้องหย่าในสหราชอาณาจักรนั้นทำมูลค่าเทียบไม่ได้กับที่เกิดในสหรัฐฯ 48.6 ล้านเหรียญของฮีเธอร์เป็นจำนวนเงินแค่ครึ่งเดียวกับคดีฟ้องหย่าอันเป็นประวัติศาสตร์ของอังกฤษ เมื่อครั้งที่ จอห์น ชาร์แมน เจ้าพ่อบริษัทประกันเสียเงินไปกว่า 90 ล้านเหรียญ เป็นค่าเลี้ยงดูอดีตเมียที่อยู่กินกันมากว่า 30 ปี เมื่อปี 2006 ต่างกับฮีเธอร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียเซอร์พอลแค่ 4 ปีเท่านั้น
ตำนานรักของเซอร์พอลและฮีเธอร์นั้นเริ่มต้นเมื่อการแต่งงานกันเมื่อเดือนมิ.ย. 2002 4 ปีหลังจากการเสียชีวิตจากมะเร็งของ ลินดา เมียคนแรกของเซอร์พอล ท่ามกลางการคัดค้านของลูกๆ ของเซอร์พอล โดยเฉพาะ สเตลลา แม็คคาร์ทนีย์ ลูกสาวดีไซเนอร์ดัง ที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้และตั้งแง่ต่อจุดประสงค์ที่แท้จริงของฮีเธอร์มานับแต่นั้น แต่ทั้งสองก็ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ใจของกันและกันมาตลอด โดยทั้งคู่แต่งงานกันโดยไม่ทำสัญญาสินสมรสก่อนแต่งงานกันแต่อย่างใด
แต่หลังจากที่ทั้งคู่ให้กำเนิดลูกสาวเพียงไม่นาน ความร้าวฉานของทั้งคู่ก็ปะทุขึ้น ทั้งคู่แยกกันอยู่ในเดือนเม.ย. 2006 โดยเป็นเซอร์พอลที่ยื่นฟ้องหย่าเธอในข้อหา "พฤติกรรมอันไร้เหตุผล" ของฮีเธอร์
ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ยังคงเล่นบทเป็นคู่รักที่แยกทางต่อกันด้วยดีที่ "ยังคงห่วงใยซึ่งกันและกันดังเก่า" แต่ทั้งสองก็มาดีแตกหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อฮีเธอร์ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้วว่าเซอร์พอลล้มเหลวในการปกป้องลูกสาวจากการขู่ฆ่าและข่มขู่ต่างๆ นานา และออกมาโวยสื่อที่ป้ายสีเธอ "ยิ่งกว่าฆาตกรหรือพวกสมสู่กับเด็ก ๆ" เสียอีก ทั้งๆ ที่เธออุทิศงานด้านการกุศลให้กับเหยื่อกับระเบิดและงานสังคมสงเคราะห์แก่สัตว์ผู้น่าสงสารมาอย่างยาวนาน
จากการสิ้นสุดของคดีดังกล่าว เธอได้ออกมาขอร้องให้สาธารณชนได้ยุติตีข่าวเสียๆ หายๆ ระหว่างเธอและลูกเสียที เพื่อเธอทั้งสองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติสุขต่อไป
"ฉันหวังอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้ฉันและลูกสาวจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเสียที โดยไม่ต้องมานั่งระแวงว่าจะต้องมีคนคอยติดตามทุกๆ วัน และนี่คือเหตุผลที่ฉันออกมา เพื่อที่จะทำให้มันจบๆ ไปซะ" แม่หม้ายพันล้านทิ้งท้าย