xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพลิงรักไฟมาร ตอนที่ 2

ภัทร์ธีราเดินหน้ามุ่ยตัวเปียกเข้าบ้านมาด้วยท่าทีหงุดหงิด

“ข้าวต้มลูกเดือยร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะคุณจ๋า” สวาทเตรียมตั้งโต๊ะเสิร์ฟเมนูอาหารสุขภาพที่บรรจงทำให้คุณหนูจ๋าของนาง เงยหน้ามาเห็นพอดี รีบละงานเดินมาดูอย่างแปลกใจ
“อ้าว แล้วไปทำอะไรมาคะนั่น ทำไมตัวเปียกแบบนั้นล่ะคะ”
“จ๋า...ไปเดินออกกำลังกาย แต่ซุ่มซ่ามไปหน่อยเลยตกลงไปในสระว่ายน้ำน่ะค่ะ”
สวาทมองสำรวจ “ป้าว่าไม่หน่อยแล้วนะคะแบบนี้ แล้วเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ”
“ไม่เจ็บเลยค่ะ ป้าหวาดไม่ต้องห่วงนะคะ”
“งั้นรีบไปอาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”
สวาทพาคุณหนูจ๋าเดินขึ้นห้องไป

ไม่นานต่อมา สวาทกำลังใช้ไดรเป่าผมให้ภัทร์ธีราอยู่หน้ากระจกมุมแต่งตัวในห้องนอน
“สงสัยคุณจ๋าจะไปอยู่เมืองนอกนานเกิน เลยไม่คุ้นกับที่ทางบ้านนี้ซะแล้ว”
“จ๋าไม่ได้ตกสระที่บ้านเราหรอกค่ะ จริงๆ แล้วจ๋าเดินออกกำลังกายไปเรื่อยๆ จนไปถึงข้างบ้านน่ะค่ะ”
“อ๋อ บ้านคุณธรนะหรือคะ แล้วเจอคุณธรไหมคะ ปกติเธอก็ชอบมาออกกำลังกายตอนเช้าๆ เหมือนกัน”
ภัทร์ธีราอึกอัก “ไม่เจอนี่คะ เห็นบ้านเงียบๆ จ๋าเลยเดินดูแค่ข้างนอก บ้านสวยดีนะคะ ป้าหวาดบอกว่าเพิ่งปลูกเสร็จปีที่แล้วใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ ถ้าคุณจ๋าชอบวันหลังให้คุณธรพาเข้าไปดูในบ้านสิคะ สวยมากๆ คุณธรออกแบบเองทั้งหมดเลย ไม่ใช่แค่ที่บ้านนะคะ ที่โรงแรมคุณธรเธอก็ออกแบบตกแต่งใหม่ซะสวยเชียว
“งานออกแบบ จ้างสถาปนิกมาทำก็ได้นี่คะ ทำไมเขาต้องทำเอง หรือว่าอยากสร้างผลงานอวดอาจี”
“เธอคงอยากช่วยคุณจีประหยัดมากกว่าค่ะ อะไรที่ทำเองได้ก็ทำเอง แต่ตรงไหนที่จำเป็นต้องจ้างก็จ้างไป ตอนที่คุณรินเกิดอุบัติเหตุ ช่วงแรกๆ บริษัทแทบแย่ คุณจีทั้งเครียดจนเกือบป่วยไปอีกคน ดีว่าได้คุณธรเข้ามาช่วย ตอนนี้คุณจีเลยสดใสขึ้นเยอะเลย”
“หืม ดีเวอร์ขนาดนั้นเลยเหรอคะ จ๋าไปดูอารินดีกว่า ไม่คุยกับป้าหวาดแล้ว
ภัทร์ธีราเดินงอนออกจากห้องไป สวาทมองตามด้วยความเป็นห่วง

จิรดากำลังพยายามป้อนข้าวนรินทร์อยู่ในห้อง โดยนรินทร์นั่งรถเข็นหันหลังให้จิรดาไปทางหน้าต่าง
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่หิว”
“แต่ว่า...” มีเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขัดขึ้น “เดี๋ยวดาไปดูก่อนนะคะ”
นรินทร์ยังนั่งหันหลังให้ จิรดาเดินไปเปิดประตูเห็นเป็นภัทร์ธีราสองสาวยืนคุยกันที่หน้าประตู
“คุณจ๋า”
“อารินตื่นหรือยังคะ”
เสียงนรินทร์ร้องถามขึ้นว่า “ใครมาน่ะ”
“ตื่นแล้วค่ะ แต่ยังไม่ยอมทานอะไร พี่ไม่รู้จะทำไง แล้วนี่ต้องรีบไปทำธุระที่บ้านต่างจังหวัดด้วย”
นรินทร์ถามย้ำเสียงขุ่น “ฉันถามว่าใครมาไม่ได้ยินหรือไง!
“จ๋าเองค่ะอาริน”
นรินทร์หันรถเข็นมาหาด้วยความดีใจ
“น้องจ๋า”
จิรดาหลีกให้ภัทร์ธีราเข้าห้องมา
“วันนี้จ๋าขอมากินข้าวกับอารินนะคะ” ภัทร์ธีราบอกกับนรินทร์แล้วหันมาหาจิรดา “เดี๋ยวจ๋าป้อนข้าวอารินให้เองค่ะ พี่ดารีบไปเถอะ เดี๋ยวจะไปทำธุระไม่ทัน”
“ขอบคุณนะคะคุณจ๋า คุณรินทร์คะ ดาขอตัวก่อนนะคะ”
จิรดาออกจากห้องไป ภัทร์ธีราเดินมาคุกเข่าตรงหน้านรินทร์
“ยังไม่ตอบจ๋าเลย อารินจะทานข้าวกับจ๋าไหมคะ”
นรินทร์ยิ้มตอบรับ
ภัทรธีราตักข้าวป้อนนรินทร์ไปด้วยคุยไปด้วย
“วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ รู้สึกไม่สบายตรงไหนรึป่าว”
“ยังเพลียๆ น่ะลูก คงเป็นฤทธิ์ยาเมื่อวาน”
พูดจบนรินทร์นิ่งไปนึกถึงเรื่องที่โต๊ะอาหารเมื่อเย็นวาน
ภัทร์ธีราสังเกตเห็นเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ก่อนจะมาหาอาริน จ๋าไปเดินเล่นรอบบ้านมาด้วยค่ะ บ้านเราเปลี่ยนไปมาก มีอะไรใหม่ๆ เยอะ บ้านข้างๆ ก็เปลี่ยนไปกันเยอะเลยค่ะ”
ภัทร์ธีราพูดโดยไม่ทันได้คิด นรินทร์คำรามออกมาด้วยความโมโห
“บ้านไอ้วิษธร เพิ่งทำเสร็จ หลงเด็กจนโงหัวไม่ขึ้น ที่ดินนั้นบอกว่ารักมากจะไม่ขายให้ใคร แล้วไงละ สุดท้ายขายให้ไอ้วิษธรเพราะหลงมัน โธ่เว้ย!”
นรินทร์บันดาลโทสะ ทุบโต๊ะปัง แล้วเริ่มปัดกวาดข้าวของใกล้ตัวระบายอารมณ์
“อาริน อารินใจเย็นๆ ก่อนนะคะ”
ภัทร์ธีราเข้าห้ามแต่ถูกนรินทร์ผลักจนล้มลง
“โอ๊ย”
นรินทร์ตกใจที่ทำให้ภัทร์ธีราล้มลงเริ่มร้องไห้
“น้องจ๋า อาขอโทษ อาไม่ได้ตั้งใจ อามันแย่ ใครๆ ก็ทิ้งอาไปหมด”
นรินทร์ทั้งโมโหและเสียใจเอาแต่ทุบขาตัวเอง
ภัทร์ธีรารีบลุกขึ้นมาห้ามแล้วกอดนรินทร์ไว้
“อารินอย่าทำร้ายตัวเองเลยนะคะ จ๋าเข้าใจอารินทร์นะคะ จ๋าจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน อารินยังมีจ๋านะคะ”
“น้องจ๋า”
นรินทร์ค่อยๆ สงบลง
ภัทร์ธีราจับมือนรินทร์ไว้ด้วยความสงสาร น้ำตาซึม
“อารินฟังจ๋านะคะ จ๋าจะไม่ยอมให้ใครมามาทำร้ายอาจีกับอารินเด็ดขาดถ้าจ๋ายังอยู่ที่นี่จ๋าจะไม่ยอมให้นายวิษธรมาหลอกอาจีได้! เชื่อจ๋านะคะ”
ภัทร์ธีราจับมือนรินทร์แน่นเป็นเชิงให้สัญญา


จิรดาหิ้วกระเป๋า เดินก้มหน้าก้มตา คอยมองซ้ายมองขวาท่าทีลับๆล่อๆ ขณะเดินมาที่หน้าบ้านวิษธรด้วยท่าทางรีบเร่ง
วิษธรยืนพิงรถรออยู่ จนมีเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชายหนุ่มดูชื่อแล้วกดตัดสายทิ้ง โทรศัพท์ขึ้นมิสคอลล์ สายไม่ได้รับ 3 สาย สุดท้ายเขาตัดสินใจกดปิดเสียงไปเลย
ระหว่างนี้เสียงจิรดาเรียกดังขึ้น
“คุณธร”
วิษธรเก็บมือถือ เงยหน้ามายิ้มทัก
“มาพอดีเลยคุณดา”
“ดามาสายไปหรือป่าวคะ”
“มาตรงเวลาต่างหากครับ ผมแค่อยากออกมารอคุณดาก่อน มาครับผมช่วย”
วิษธรรับกระเป๋าจากจิรดาไปใส่ในรถ
“เรารีบไปกันเถอะครับ”
วิษธรเปิดประตูให้ จิรดายิ้มเขินขึ้นรถไป วิษธรปิดประตูมองซ้ายขวาเหมือนกลัวจะมีคนเห็น

พรพจีมองจากหน้าต่างชั้น 2 บ้านรมย์ฤดีลงไป เห็นตั้งแต่วิษธรกับจิรดาขึ้นรถไป และมองจนวิษธรขับออกไป จึงดึงม่านปิดอย่างแรง

อีกฟากหนึ่ง อรดีกระชากม่านหน้าต่างเปิดออกอย่างคนอารมณ์เสียถึงขีดสุด แล้วเดินไปเดินมาพร้อมกับกดส่งไลน์ไปหาวิษธรรัวๆ
ถามว่าเขาอยู่ไหน และให้โทร.กลับ สำทับด้วยสติ๊กเกอร์ไลน์รูปรอคอยหน้าเศร้าหาวิษธรรัวๆ แต่ยิ่งอารมณ์เสียเมื่อเห็นว่าวิษธรไม่อ่านสักที
“โอ๊ย อยู่ไหนของเขานะ เงียบไปแบบนี้ หรือจะอยู่กับยัยจี”
อรดีหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวไม่สนใจ และเหมือนกำลังจะออกจากบ้าน
“ยา ยาเดี๋ยวก่อน”
อิชยากึ่งเดินกึ่งวิ่งหากุญแจรถไปด้วย
“มีอะไรคะพี่ดี้”
“วันนี้ยานัดกับน้องจ๋าไว้ใช่ไหม นัดกันที่ไหนเหรอ”
“พี่ดี้มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่โทร.หาคุณธรไม่ติดเลย อาของเพื่อนยาต้องรั้งตัวคุณธรไว้แน่ๆ”
“เอ แต่ว่าจ๋าคงจะไม่รู้เรื่องอะไรด้วยนะคะ”
“ก็เพราะไม่รู้เรื่องนั่นแหละ พี่ถึงอยากให้ยาช่วยเตือนๆ จ๋า เรื่องอาของเขากับคุณธรของพี่หน่อย มีผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ถึงจะพิการแต่ก็ควรจะเกรงใจผัวบ้าง พี่หวังดีกับจ๋าหรอกนะ ไม่อยากให้อับอายที่มีอาชอบกินเด็ก แบบ...”
“ยาสายมากแล้ว ไปก่อนนะคะ”
อิชยารำคาญเต็มทนรีบตัดบทแล้วออกไปเลย
ปล่อยให้อรดีหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องวิษธรอยู่เพียงลำพัง

ไม่นานต่อมา อิชยาเดินเข้าร้านอาหารบรรยากาศดี๊ดี อย่างเร่งรีบ กวาดสายตามองหาเพื่อนรัก จนเจอภัทร์ธีราซึ่งนั่งรอที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วโบกมือเรียก
“แกๆ ทางนี้”
“จ๋า”
อิชยาวิ่งเข้าไปหาเพื่อนจะสวมกอดกันด้วยความคิดถึง
“คิดถึงแกจังงง มาๆ เซลฟี่กันก่อนจะได้โพสต์ให้คนอื่นอิจฉา”
สองสาวถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยกัน 2-3 ท่า อิชยาเลือกรูปแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊ค
“เอารูปนี้แล้วกัน ฉันสวยสุด”
อิชยาโพสต์เสร็จหันไปยิ้มล้อเล่นกับเพื่อนรัก แต่ต้องแปลกใจที่เห็นภัทร์ธีราหน้าเศร้าๆ
“แกเป็นไงบ้าง ทำไมตาคล้ำๆ เจ็ตแล็กเหรอ”
“มีเรื่องนิดหน่อยเลยนอนไม่ค่อยหลับ”
“เรื่องอะไรเหรอ”
“ก็เรื่องที่บ้านแหละ มีคนที่ไม่น่าไว้วางใจเข้ามาในบ้านฉัน”
“ใคร”
“ผู้ช่วยอาจี ชื่อวิษธร”
“วิษธร”
อิชยานึกถึงคำพูดของอรดี
“พี่ถึงอยากให้ยาช่วยเตือนๆ จ๋า เรื่องอาของเขากับคุณธรของพี่หน่อย”
ภัทร์ธีราเห็นเพื่อนนิ่งไปก็แปลกใจ “ทำไม รู้จักด้วยเหรอ”
“ก็...เคยได้ยินมาบ้าง”
“ได้ยินมาว่า”
“ว่าอาจีกับคุณวิษธรเป็น...”
อิชยาค้างคำเอาไว้ภัทร์ธีรายิ่งอยากรู้ “เป็น”
“หุ้นส่วนกันไง” อิชยาว่า
ภัทร์ธีราเซ็งคำตอบ “แค่นี้”
“ที่จริงก็ ได้ยินว่า เป็นหุ้นส่วนที่สนิท เป็นพิเศษ น่ะ”
ภัทร์ธีราหน้าตึง ไม่พอใจขึ้นมาทันที
“แกไปได้ยินมาจากใคร”
อิชยาอึดอัด ท่าทีลำบากใจ


ด้านอรดีตัดสินใจมาหาคำตอบที่โรงแรมเดอะธารา เวลานี้เดินเข้าล็อบบีโรงแรมมาด้วยความมั่นใจ เมื่อถอดแว่นกันแดดออกพนักงานตรงฟร้อนต์จำได้รีบยกมือไหว้
“คุณอรดี สวัสดีค่ะ”
“ธรอยู่ไหม บอกให้หน่อยว่าฉันมาหา”
“วันนี้คุณวิษธรไม่ได้เข้าค่ะ”
“ไปไหน ไปกับนัง...เอ้อ คุณพรพจีรึเปล่า”
พรพจีเดินผ่านมาได้ยินพอดี
“มีธุระอะไรกับธรหรือจ๊ะ”
อรดียกมือไหว้ด้วยความจำใจ
“พอดีเป็นธุระส่วนตัวของดี้กับธรน่ะค่ะ พูดกับคนอื่นคงไม่ได้”
พรพจีรู้เท่าทันพูดโต้กลับเชือดเฉือนอย่างเหนือชั้นกว่า “ธรกับฉันไม่ใช่คนอื่นคนไกล เขาบอกฉันตลอดเวลาจะไปไหนหรือทำอะไร”
อรดีตาลุกวาวด้วยความโกรธ
“วันนี้เขาไปทำงานที่ต่างจังหวัดน่ะจ้ะ คงเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเขาเลยบอกเฉพาะคนสำคัญ” พรพจีใส่อีกดอก
“ธรเขาเป็นคนมีมารยาทค่ะ โดยเฉพาะมารยาทกับผู้สูงอายุ ไปไหนมาไหนเลยต้องคอยรายงานตัวกับอาจีตลอด”
คำว่า ‘สูงอายุ’ กระแทกใบหน้า กระทบใจพรพจีจังๆ แต่เธอยังหน้านิ่งตอบกลับอรดีด้วยใบหน้าปกติ
“จริงๆ แล้วเขาขี้เกรงใจมากกว่านะจ้ะ เวลาไม่ชอบอะไรก็ไม่พูดตรงๆ บางทีเผลอปล่อยให้คนอื่นคิดเข้าข้างตัวเองไป” พรพจีมองสบตาอรดีตรงๆ ขณะพูดคำว่า “เพราะถ้าเป็นคนสำคัญจริงๆ ผู้ชายเขาจะเข้ามาหาเอง ไม่ต้องวิ่งตามไปทั่วหรอกจ้ะ”
อรดีจ้องหน้าพรพจีอย่างเอาเรื่อง พรพจียิ้มเย็นๆตอบกลับ
พนักงานโรงแรม คนที่อยู่รอบๆเริ่มหันมามอง อรดีเห็นว่าตัวเองไม่มีพวกจึงกระฟัดกระเฟียดเดินจากไป
พรพจีพยายามข่มอารมณ์มองตามด้วยสีหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฝ่ายภัทร์ธีราทำหน้าเซ็งๆ หลังเล่าเรื่องวิษธรให้เพื่อนฟังจบแล้ว
“นั่นแหละ ฉันเลยไม่ค่อยชอบนายวิษธรเท่าไหร่ ฉันรู้สึกว่านายคนนี้แปลกๆ ไม่น่าไว้ใจ เซนส์มันบอก”
“ฉันว่าแกอย่าเพิ่งตัดสินคุณวิษธรเขาเลย มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ พี่ดี้น่ะ ชอบคุณวิษธร อาจจะเอาข่าวนู้นข่าวนี้มาฟุ้งซ่านไปเองก็ได้แกอย่าคิดมาก”
ระหว่างนี้ที่ประตูร้าน อรดีก้มดูรูปในโทรศัพท์ที่อิชยาโพสต์รูปและแท็กสถานที่ไว้ในเฟซบุ๊ค แล้วมองหาน้องสาวไปรอบๆ จนเจอ ยิ้มร้ายตรงมุมปากอย่างมีแผนการ เดินมาหาทำเป็นบังเอิญมาเจอกัน
“อ้าว ยัยยา”
อิชยาหันไปทางเสียงอย่างแปลกใจ “อ้าว พี่ดี้ มาได้ไงคะเนี่ย”
“พี่ผ่านมาธุระแถวนี้พอดี หิวข้าวก็เลยแวะมา บังเอิญเนอะ”
อิชยาไม่เชื่อ อรดียิ้มหวานให้ภัทร์ธีราอย่างเป็นมิตร
“แล้วนี่น้องจ๋าใช่ไหมจ๊ะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ โตเป็นสาวเชียว”
ภัทร์ธีรารีบยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ พี่ดี้ นั่งด้วยกันเลยสิคะ”
อิชยากลอกตามองบนอย่างเอือมระอา เพราะรู้เจตนาของพี่สาวว่าต้องการจะมาพูดยุแยงเรื่องพรพจี อรดียิ้มหวานรีบนั่งลงเนียนๆ
“ดีเลย ขอบใจนะจ๊ะ” อรดีบอกกับพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ข้างๆ โต๊ะ “ขอสลัดกับน้ำมะนาวโซดาแล้วกัน พี่ดีใจที่เจอจ๋าที่นี่นะ คุณอาสบายดีไหม”
“อาจีสบายดีค่ะ ส่วนอารินก็อาการคงที่ค่ะ”
อรดีเปิดฉากเสี้ยมทันที “น่าสงสารอานรินทร์นะจ๊ะ ชีวิตกำลังรุ่งเรืองแท้ๆ ต้องมาเป็นอย่างนี้พี่หวังว่าอาจีจะดูแลอารินอย่างดีใช่ไหมจ้ะ อย่าให้เหมือนข่าวที่พี่ได้ยินมาเลย”
“ข่าวอะไรเหรอคะ”
“พี่ดี้คะ”
อิชยาพยายามปรามพี่สาว แต่อรดีไม่ฟัง
“พี่ได้ยินเขาเม้าท์กันว่า อาจีของเราเบื่อที่มีสามีพิการ ทำอะไรไม่ได้เลยไม่สนใจจะดูแล หันไปคบหุ้นส่วนอย่างคุณวิษธรที่หนุ่มแล้วก็หล่อกว่า ถ้าเป็นเรื่องจริงนี่น่าสงสารอานรินทร์ที่สุด เคยเป็นคนเก่ง แต่พอพิการก็โดนเมียทิ้ง”
อิชยาตกใจปรามพี่สาวเสียงดังขึ้น “พี่ดี้”
“พี่แค่พูดตามที่ได้ยินคนเขาเม้าท์มา”
“ตั้งแต่อารินป่วย อาจีก็ต้องบริหารงานคนเดียว เลยไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลอารินด้วยตัวเอง แต่อาจีก็จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลอารินอย่างดี จ๋ารับรองได้ว่าอาจีทำงานหนักมาก ไม่มีเวลาไปทำเรื่องแบบที่เขาเม้าท์กันหรอกค่ะ”
“ได้ยินแบบนี้พี่ก็ดีใจจ้ะ อาจีของน้องจ๋านี่เก่งจริงๆ บริหารงานเองทั้งหมดเลยเหรอ งั้นข่าวว่าที่ว่าถ้าไม่มีคุณวิษธรเข้ามาช่วย โรงแรมอาจจะไปไม่รอด ก็คงไม่จริงเหมือนกันเนอะ”
พนักงานนำไอศกรีมมาเสิร์ฟให้ อิชยาพยายามเบี่ยงประเด็นชวนเพื่อนทาน
“จ๋า ไอติมแกมาแล้วนี่ กินกันเถอะ”
“พี่กับคุณธรค่อนข้างสนิทกันน่ะจ้ะ เรียกว่าดูๆ กันอยู่ก็ได้ พอได้ยินข่าวเม้าท์พี่ก็ไม่สบายใจเหมือนกัน ยังไงฝากน้องจ๋าไปบอกอาจีหน่อยแล้วกันจ้ะ ว่าต้องระวังนิดนึง”
ภัทร์ธีราหน้าเครียดเมื่อได้ฟัง อิชยายัดถ้วยไอศกรีมใส่มือเพื่อนเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“ไอติมอร่อยเนอะ”
เห็นภัทร์ธีรานิ่งอึ้งไป อรดียิ้มในสีหน้าอย่างสมใจ

ทางด้านวิษธรและจิรดาเดินเคียงคู่กันอยู่ในที่ดินแปลงเล็กๆ ดูร่มรื่นแห่งหนึ่งย่านต่างจังหวัด
“ชอบไหมคะ”
“แล้วคุณดาชอบไหมครับ”
“ชอบนะคะ ติดถนนใหญ่เข้าซอยมานิดเดียว แต่เงียบสงบดี”
“ผมก็ชอบครับ ร่มรื่นดีเหมาะที่จะปลูกบ้าน สร้างครอบครัว”
จิรดายิ้มกริ่ม
“ดาก็คิดอย่างนั้น เห็นที่ดินแปลงนี้แล้ว คิดว่าคุณต้องชอบแน่ๆ”
“คุณดารู้ใจผมจริงๆ”
“ถ้าอย่างนั้น เราไปตกลงกับเจ้าของที่เลยไหมคะ”
“ที่ดินแปลงนี้สวยมากก็จริง แต่ผมไม่อยากให้รีบร้อน เรื่องสำคัญแบบนี้ เราต้องใจเย็นๆ ดูเปรียบเทียบกันหลายๆ ที่ครับ” หนุ่มรูปงามบอก
“ดายังไงก็ได้ ดาเชื่อสายตาคุณค่ะ”
“ขอบคุณนะครับ”
จิรดายิ้มหวานให้วิษธร

ตอนเย็นวันนั้น พรพจีกลับบ้านมาลงนั่งในห้องโถงด้วยอารมณ์หงุดหงิด สวาทกุลีกุจอเข้ามาดูแล
“คุณจี กลับมาแล้วเหรอคะ รับน้ำอะไรดีคะเดี๋ยวน้าไปเอามาให้”
“ค่ะ”
พรพจีตอบเนือยๆ แบบขอไปที ไม่ได้ตั้งใจฟังที่อีกฝ่ายถาม ทำเอาสวาทแปลกใจ
“คุณจีไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“ค่ะ”
“ไม่สบายตรงไหนคะ เป็นไข้หรือเปล่า เดี๋ยวน้าไปเอายามาให้”
พรพจีเครียด ยกมือกุมขมับเพราะคิดไม่ตกเรื่องวิษธร
“ปวดหัวหรือคะ”
ภัทร์ธีรากลับจากข้างนอก เดินเข้ามาพอดี พรพจีฝืนยิ้มให้เมื่อมองไปเห็น
“กลับมาแล้วค่ะ”
“น้องจ๋า ไปกินข้าวกับยามาเป็นไงบ้างจ๊ะ”
“ก็ดีค่ะ เอ่อ จ๋าเจอพี่ดี้...อรดี ลูกพี่ลูกน้องของยาด้วยนะคะ จ๋าพึ่งรู้ว่าเขารู้จักกับนาย..เอ้อ..คุณวิษธรด้วย”
พรพจีอารมณ์ขุ่น ชักสีหน้าทันที
“งั้นเหรอ”
“เห็นบอกว่าดูๆ กันอยู่ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ว่าแฟนคุณธรจะเป็นคนใกล้ตัวขนาดนี้”
พรพจีลุกพรวดขึ้นยืนอย่างลืมตัว
“อาปวดหัว ขอไปพักก่อนนะ”
“เดี๋ยวจัดโต๊ะเสร็จ น้าจะไปเรียกนะคะ” สวาทบอก
พรพจีเดินออกไปอย่างพยายามเก็บอารมณ์ ภัทร์ธีรามองตามไปด้วยความสงสัย

ถัดจากนั้นไม่นานนัก วิษธรเดินเข้าบ้านมาในโถงรมย์ฤดีพร้อมกับจิรดา สองคนคุยกันกระหนุงกระหนิง สวาทกำลังจะเดินไปที่ห้องอาหารเห็นเข้าพอดี
“คุณธร อ้าวคุณดามาด้วยกันได้ไงคะนี่”
“บังเอิญเจอกันหน้าปากซอยน่ะค่ะ คุณธรเลยให้ติดรถมาด้วย ดาขอตัวไปเก็บของก่อนนะคะ จะได้ขึ้นไปดูคุณรินทร์ด้วย ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”
จิรดายิ้มหวานให้แล้วจะเดินขึ้นไปข้างบน เจอพรพจีที่ลงมาพอดี พรพจีมองจิรดาสลับกับวิษธรอย่างเคืองขุ่นพยายามเก็บอารมณ์
“คุณธร อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันสิคะ วันนี้ป้าทำของอร่อยๆไว้เพียบ”
“จริงเหรอครับ”
วิษธรดีใจแต่พอหันมาเห็นพรพจีทำหน้าเฉยชาใส่ ก็รู้ตัวว่าพรพจีต้องโกรธเขาแน่
“แต่ไม่เป็นไรดีกว่าครับป้าหวาด วันนี้ผมเพลียๆ รีบกลับดีกว่า อันนี้ของฝากจากชลบุรีครับ”
“ขอบคุณนะคะ ไปต่างจังหวัดทีก็ซื้อมาฝากที เกรงใจจังค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมไปก่อนนะครับป้าหวาด แล้วเจอกันครับคุณจี”
พรพจีเมินมอง
วิษธรพยายามส่งสายตาให้พรพจี แต่เธอไม่ยอมมองหน้าเขาเลย ชายหนุ่มจึงตัดใจเดินออกไป พรพจีมองวิษธรเดินจากไปด้วยสีหน้าเจ็บปวด


ขณะที่พรพจีเดินออกมาจากห้องน้ำได้ยินเสียงข้อความไลน์ดังขึ้นจึงเดินไปหยิบมาดู เห็นเป็นวิษธรส่งมาแต่เพราะยังโกรธเขาอยู่จึงตัดสินใจวางมือถือลงโดยไม่ยอมอ่าน แต่มีเสียงไลน์ดังติ๊งๆ ขึ้นมาอีกหลายครั้ง
ในที่สุดพรพจีทนไม่ได้เปลี่ยนใจหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านในที่สุด
“นอนรึยังครับ ผมอยากคุยกับคุณ”
พรพจีพิมพ์ตอบกลับไปว่า
“แต่ฉันไม่อยากคุย ไปนอนก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวครับ ถ้าผมไม่ได้คุยกับคุณคืนนี้ ผมคงนอนไม่หลับ นะครับ ได้โปรด”
วิษธรส่งสติ๊กเกอร์รูปหน้าเศร้ามาให้ พร้อมข้อความว่า
“ผมจะรอคุณอยู่ที่สวนด้านล่าง ผมจะรอจนกว่าคุณจะมา”

ขณะเดียวกัน ภัทร์ธีราแอบมองไปยังห้องนอนวิษธรพบว่ายังเปิดไฟสว่างอยู่ และเห็นเขากำลังเดินออกไปนอกบ้าน วิษธรรู้ว่าภัทร์ธีราแอบมองจึงหันไปยิ้มให้ตรงๆ ภัทร์ธีราตกใจรีบฉากหลบหลังม่านแทบไม่ทัน ยกมือทาบอกแล้วพบว่าหัวใจเต้นรัวๆ
“ตกใจหมดเลย”

วิษธรยืนรอพรพจีอยู่ในสวนสวยบ้านรมย์ฤดี จนได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามา จึงหันไปมองแล้วยิ้มให้เมื่อเห็นเป็นพรพจี
“ขอบคุณที่มาครับ”
“มีเรื่องอะไรรีบพูดมาเถอะค่ะ ฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นเข้า” พรพจียังมีท่าทีปั้นปึ่งให้เห็น
“คุณโกรธผมเหรอ”
“มีเรื่องอะไรที่ฉันจะต้องโกรธคะ”
“ที่คุณเห็นผมมากับคุณจิรดาวันนี้ เพราะเขามีที่ดินที่อยากให้ผมดู ผมเห็นว่าที่นั่นมันไม่ไกลกับที่ดินที่ผมจะไปดูอีกที่เลยตกลง และผมก็ไปดูในนามบริษัท แล้วคุณดาก็จะต้องไปทำธุระที่บ้านด้วยพอดี ผมรับเขาไปดูที่ด้วยกันแป๊บเดียวแล้วก็รีบกลับ”
“จริงเหรอคะ” น้ำเสียงสาวใหญ่ยังมีวี่แววหมางเมิน
“ที่ผ่านมาผมเคยโกหกคุณหรือครับ”
เห็นพรพจีเงียบไป วิษธรเดินไปใกล้จับมือเธอกุมไว้อย่างอ่อนโยน พรพจีดึงมือออกอย่างงอนๆ
“แล้วเรื่องคุณกับดี้ล่ะคะ”
“คุณดี้ อ้อ...จริงสิเขาโทร.มา”
วิษธรพูดพลางล้วงกระเป๋าหยิบมือถือออกมา พรพจีหน้าเสียที่ดูเหมือนวิษธรจะให้ความสำคัญกับอรดี
“แต่ ผมยังไม่ได้โทร.กลับเลย ลืมไปเลยนะเนี่ยถ้าคุณไม่พูด”
พร้อมกับว่าเขาโชว์โทรศัพท์ที่มีมิสคอลของอรดีถึง 8 สาย
“ถ้าเขาสำคัญสำหรับผม ผมคงรับตั้งแต่สายแรกแล้ว หายโกรธผมนะครับ”
วิษธรจับมือเธอมากุมอีกครั้ง คราวนี้พรพจียิ้มหวาน
“ก็ได้ค่ะ วันหลังธรมีอะไรต้องรีบบอกฉันนะ ฉันไม่อยากเข้าใจผิดแล้วงี่เง่าใส่คุณอีก”
“แต่ผมดีใจนะที่คุณหึงผม ผมอยากให้คุณรักผมมากขึ้น เหมือนที่ผมรู้สึก...”
วิษธรหอมแก้มปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน แล้วดึงร่างพรพจีเข้ามาใกล้
ระหว่างนี้ สองคนไม่รู้ว่านรินทร์แอบมองลงมาจากหน้าต่างห้องนอนชั้นบน และสุดท้ายทนดูไม่ไหวจะลุกขึ้นไปทำร้ายทั้งคู่แต่ก็ลุกไม่ได้ ต้องกระชากม่านปิดลงไม่อยากเห็นมันอีก น้ำตาไหลด้วยความแค้น

ฝ่ายภัทร์ธีรานั่งใจเต้นโครมครามอยู่สักครู่ แล้วนึกสงสัยว่าวิษธรไปหรือยัง จึงค่อยๆ ลุกเดินไปแอบแง้มม่านหน้าต่างไปดู พบว่าห้องวิษธรปิดไฟมืด ม่านก็ปิดสนิท หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก
“คงนอนแล้วล่ะมั้ง”
ภัทร์ธีรามองอยู่ครู่หนึ่งแล้วสายตาเหลือบไปเห็นพรพจียืนอยู่ใต้ต้นไม้ในสวนท่าทีเหมือนกำลัง คุยกับใครอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะร่างพรพจีบังเอาไว้

ความสงสัยผสมความเป็นห่วงนำพาให้ภัทร์ธีราเดินเข้ามาหาพรพจีในสวน ส่งเสียงเรียกเบาๆ
“อาจีคะ”
พรพจียืนหันหลังมองเหม่ออยู่ หันกลับมาทางเสียง
“อ้าว น้องจ๋า ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“กำลังจะเข้านอนค่ะ แต่พอดีเห็นอาจียืนคุยกับใครอยู่”
“คุยกับใครกันจ๊ะ” พรพจีหัวเราะลูบหัวหลานสาวเบาๆ “อาอยู่คนเดียว นี่ อย่าทำให้อากลัวสิ อาเครียดเรื่องงานน่ะจ้ะ เลยอยากออกมาสูดอากาศซักหน่อย”
ภัทร์ธีรามองหน้าพรพจีอย่างซาบซึ้งใจสวมกอดผู้เป็นอาอย่างรักใคร่
“จ๋าไม่อยากให้อาจีทำงานหนักคนเดียวอีกแล้วค่ะ จ๋าอยากช่วยแบ่งเบาอาจีบ้าง”
“แค่จ๋าเป็นหลานที่น่ารักแบบนี้ก็ช่วยอาที่สุดแล้วจ้ะ ดึกแล้วไปนอนเถอะ อาก็จะไปนอนด้วย” พรพจีหอมแก้มภัทร์ธีรา “กู๊ดไนท์จ้ะ”

ภัทร์ธีรากลับเข้าห้องมาด้วยสีหน้าครุ่นคิดคาใจ ก่อนจะเดินไปลงนั่งที่โต๊ะทำงานเปิดโน้ตบุ๊ค เข้าเว็บไซต์ของโรงแรมเดอะธารา คลิกไปดูทำเนียบผู้บริหาร เห็นรูปวิษธร พร้อมตำแหน่ง
‘วิษธร วรากานต์’ รองกรรมการผู้จัดการ
“วิษธร วรากานต์ นายเป็นใครกันแน่”
ภัทร์ธีราเปิด กูเกิ้ลเสิร์ชหาคำว่า “วิษธร วรากานต์”
พบเพียงประวัติทั่วไป ไม่พบอะไรเป็นข้อมูลสำคัญ นอกจากความหมายของคำว่าวิษธร
“วิษธร แปลว่า งูพิษ งั้นเหรอ ประหลาด คนอะไรชื่องูพิษ”
ภัทร์ธีราเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ในใจอดกังวลกลัวไม่ได้ว่า หรือวิษธรจะเป็นงูพิษของครอบครัวเธอจริงๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น พรพจีกับสวาทต่างออกอาการตื่นตกใจ เมื่อได้ฟังภัทร์ธีราพูดจบ
“คุณจ๋าจะไปทำงาน” สวาทอุทานเสียงดัง
“ค่ะ จ๋าจะไปทำงานด้วย ตกใจอะไรกันคะ”
“อาคิดว่า น้องจ๋าจะพักผ่อนก่อนอย่างน้อยซักเดือน ค่อยเริ่มดูงาน มันไม่เร็วไปเหรอจ๊ะ อาอยากให้เราพักให้เต็มที่ก่อน”
“ไม่เร็วไปหรอกค่ะ จ๋าเห็นอาจีเหนื่อยแล้ว จ๋าอยู่เฉยไม่ได้หรอกค่ะ นะคะอาจี ให้จ๋าไปด้วยนะ ไปดูงานเฉยๆว่าจ๋าพอจะช่วยอะไรได้บ้าง”
“ก็ได้จ้ะ”
“เย้ ไปกันเถอะค่ะ”
ภัทร์ธีราเดินนำออกไปขึ้นรถอย่างเริงร่า ทิ้งให้พรพจีมองตามด้วยความกังวล ก่อนจะก้มหน้ากดส่งไลน์หาใครบางคน


เสียงไลน์ดังขึ้นในมือถือของวิษธร เป็นพรพจีที่ส่งข้อความมาบอกว่า
“วันนี้คงต้องแยกกันไปทำงานนะคะ น้องจ๋าอยากไปดูงานที่โรงแรมด้วย ขอโทษนะคะธร”
พรพจีส่งสติกเกอร์ทำหน้าร้องไห้มาให้ด้วย เขาอ่านแล้วส่งกลับไปว่า
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”
พรพจีส่งสติกเกอร์ขอบคุณและส่งจูบกลับมา วิษธรยิ้มเหมือนคิดอะไรได้บางอย่าง

พรพจีกับภัทร์ธีราควงคู่เข้ามาในล็อบบี้โรงแรม พนักงานเห็นต่างทำความเคารพพรพจีอย่างนอบน้อม
ภัทร์ธีราร้องว้าว “ล้อบบี้โรงแรมตกแต่งใหม่หรือคะ ดูสวยแปลกตาไปจากเดิมเลย”
“จ้ะ ธรเขาเป็นคนออกแบบน่ะ”
“คุณวิษธรสวัสดีค่ะ”
มีเสียงพนักงานหลายคนทักทายวิษธรด้วยความสนิทสนมดังขึ้น
พรพจีหยุดเดินหันมายิ้มกว้างทัก ส่วนภัทร์ธีราจำใจหยุดตามอดหมั่นไส้ไม่ได้
“อ้าวธรมาพอดีเลย”
“สวัสดีครับคุณจี” เขาหันมายิ้มแย้มทักทายภัทร์ธีราด้วยมารยาท “คุณจ๋า เดอะธารายินดีต้อนรับครับ”
“ยินดีต้อนรับ ฉันนึกว่ามีแต่ เจ้าบ้าน ที่ใช้ซะอีกนะคะ ไม่ต้องยินดีต้อนรับเจ้าบ้านเข้าบ้านตัวเองหรอกค่ะ”
ภัทร์ธีราเหน็บแนมแดกดันวิษธรอย่างหมั่นไส้ ที่เห็นเขาทำตัวราวกลับเป็นเจ้าของโรงแรมซะเอง
“อ้อ ขอโทษครับที่ผมใช้คำผิดไป งั้นเปลี่ยนเป็น ยินดีรับใช้ แทนแล้วกันหวังว่าคุณจ๋าจะพอใจ”
พรพจีเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย
“คือน้องจ๋า อยากจะมาช่วยงานฉันน่ะค่ะ วันนี้เลยขอมาดูงานก่อนว่าแกพอจะทำอะไรได้บ้าง ฉันว่าจะพาน้องจ๋าไปสำรวจห้องต่างๆ ที่ปรับปรุงใหม่ของโรงแรมก่อน ธรไปด้วยกันสิคะ”
“เราไปกันสองคนก็ได้นี่คะอาจี อย่าไปรบกวนเวลาทำงานของ คนอื่น เลย”
“แต่ธรเขารู้รายละเอียดต่างๆ มากกว่าอา ถ้าธรไปด้วยน่าจะแนะนำอะไรให้น้องจ๋าได้เยอะนะจ้ะ”
“แต่ว่า...”
เห็นภัทร์ธีราตั้งแง่ วิษธรอดขำไม่ได้ บอกไปว่า “ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนเวลางานของผมหรอกครับ การทำตามที่คุณจีสั่งก็เป็นงานของผมเหมือนกัน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยไหมครับ”
วิษธรเดินนำออกไปเลย ภัทร์ธีรามองตามอย่างหมั่นไส้


ในบรรยากาศกว้างขวางโอ่อ่าของห้องอาหารที่ทันสมัย การตกแต่งเรียบเก๋ วิษธร พรพจี และภัทร์ธีราเดินเข้ามาในนั้นพร้อมกัน ภัทร์ธีรามองดูรอบๆ ด้วยสายตาชื่นชม
“ห้องอาหารเราตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เน้นเรียบหรู และความรู้สึกสบายๆ ไปพร้อมๆ กัน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเวลามาทานอาหารกับเราครับ”
ภัทร์ธีราไม่สนใจวิษธรหันไปพูดกับพรพจี “จ๋าชอบการจัดวางโต๊ะนะคะ ดูสบายตาไม่อึดอัด การตกแต่งก็เก๋มากด้วย”
“เป็นความคิดของธรจ้ะ จากแบบเดิมธรว่าโต๊ะมันอึดอัดไปหน่อย นี่ธรก็เป็นคนเสนอไอเดียในการตกแต่งเดี๋ยวไปดูห้องสวีทแล้วก็ห้องจัดเลี้ยงกันต่อ อารับรองว่าเราต้องชอบแน่ๆ”
ภัทร์ธีรามองไปที่วิษธรเขายิ้มน้อยๆ ให้

หลังจากนั้น พรพจี ภัทร์ธีรา และวิษธรเดินมาด้วยกันในบรรยากาศอันร่มรื่นของสวนสวย
“เหนื่อยไหมครับ เดินมาทั่วโรงแรมเลย” วิษธรถาม
“เรื่องงาน ฉันไม่เหนื่อยหรอกค่ะ”
ภัทร์ธีราพูดแขวะโดยไม่มองหน้าวิษธร พรพจีชวนคุยต่อ
“สวนนี้อาชอบมากทำให้บรรยากาศของโรงแรมสดชื่นขึ้น แขกที่มาก็ชมกันทั้งนั้นว่าสวนโรงแรมเราสวยร่มรื่นมาก”
“คุณวิษธรนี่เก่งจังนะคะ ออกแบบสวนได้ด้วย”
ภัทร์ธีราประชดไปอีกดอก
“ใช่จ้ะ ธรเขาเก่งแทบจะทุกอย่าง ที่โรงแรมเราดูดีขึ้นขนาดนี้ก็เพราะธรนี่แหละ”
ภัทร์ธีรามองค้อนวิษธร เขามองกลับมาสีหน้านิ่งๆ ด้วยสายตาเหมือนข่มอยู่ในที จนภัทร์ธีราต้องกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อข่มอารมณ์

ถัดมา พรพจีเดินมาตามทางเดินในโรงแรมพร้อมภัทร์ธีรา
“อาจีจะไม่กลับบ้านพร้อมจ๋าเหรอคะ”
“อายังมีงานที่ค้างอยู่น่ะจ้ะ ว่าจะทำให้เสร็จแล้วเดี๋ยวอาจะรีบกลับคงจะดึกหน่อย หลับได้เลยไม่ต้องรออานะจ๊ะ”


พรพจีเดินอารมณ์ดีมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานวิษธร แต่แล้วใบหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้น เมื่อเห็นว่าด้านในห้องอรดีกำลังเกาะแขนออดอ้อนวิษธรอยู่อย่างถึงเนื้อถึงตัว
“ทำไมธรไม่รับโทรศัพท์ดี้เลยคะ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ”
“คือ ผมพึ่งเปลี่ยนมือถือใหม่น่ะครับ เครื่องเก่าพัง ข้อมูลในเครื่องหายหมด”
“เหรอคะดี้ไม่รู้เลย งั้นไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้น วันนี้ธรไปดูที่กับดี้นะคะ ที่ดินแปลงนี้สวยมาก อยากให้ธรได้เห็น”
อรดีมองตาวิษธรอย่างลึกซึ้งสื่อความหมายชัดแจ้ง
พรพจีแอบดูผ่านช่องกระจกตรงประตูด้านนอก เห็นอรดีออดอ้อนวิษธรแต่ไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน สักครู่วิษธรจึงจับมืออรดีออก
“เอาไว้วันหลังนะครับ วันนี้ผมมีงานต้องเคลียร์อีกเยอะ”
“ก็ได้ค่ะ แต่ธรต้องสัญญาว่าจะไม่เบี้ยวดี้อีกนะคะ”
“ครับ”
อรดีถือโอกาสหอมแก้มวิษธรอย่างดีใจ พรพจีแอบมองด้วยสายตาเจ็บปวด

ภัทร์ธีราเข็นรถเข็นพานรินทร์ออกมาชื่นชมบรรยากาศในสวนสวยร่มรื่นยามเย็น
“ต่อไปนี้ จ๋าจะเป็นคนพาอารินออกมารับลมข้างนอกบ่อยๆ เองค่ะ อยู่แต่ในห้องอึดอัดแย่”
“ขอบใจน้องจ๋ามากนะลูก แล้ววันนี้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง”
“ไม่ได้ไปเที่ยวแต่ไปดูงานที่โรงแรมมาแทนค่ะ”
“เป็นไงบ้างล่ะ โรงแรมที่ไอ้ธรมันบริหาร ได้ข่าวว่ามันเปลี่ยนสิ่งที่อาทำไว้จนไม่เหลือเค้าเดิม”
“ค่ะ โรงแรมเปลี่ยนไปมาก มากจริงๆ”
ระหว่างนี้รถพรพจีขับเข้ามาจอด พรพจีลงจากรถมาด้วยท่าทีขุ่นมัว ภัทร์ธีราร้องทัก
“อ้าวอาจี ทำไมกลับเร็วล่ะคะ ทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ”
“อาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ วันนี้อาเพลียมากเลย”
ด้วยความหงุดหงิดที่ค้างคาใจอยู่พรพจีจึงรีบออกตัวเดินลิ่วเข้าบ้านไป
“เขาคงไม่อยากคุยกับอา” นรินทร์ว่า
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะอาริน อาจีคงเหนื่อยมากกว่า วันนี้พาจ๋าเดินทั่วโรงแรม แล้วต้องไปทำงานต่ออีก”
ภัทร์ธีราปลอบใจนรินทร์ พลางมองตามพรพจีไปด้วยความเป็นห่วง

พรพจีขึ้นห้องมา ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าที่หน้ากระจกห้องน้ำบานใหญ่ มองสำรวจเรือนร่างตัวเองทีละส่วน พร้อมๆ กับนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
อรดีในชุดเซ็กซี่เดินมาจากข้างหลัง มองพรพจีหัวจรดเท้าด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“ถึงจะสวย แต่แค่ดูก็รู้แล้วค่ะว่าร่างกายของคุณอาผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก อีกซักพักก็คงจะหย่อนยาน เหี่ยวห้อย คุณอาคิดจริงๆเหรอคะ ว่าผู้ชายหนุ่มๆ หล่อๆ อย่างธรเขาจะมารักคุณอาได้”
พร้อมกับว่า อรดีใช้มือลูบไล้ใบหน้าเรือนร่างของวิษธรแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ พรพจีมองทั้งสองคนหน้าซีด คำพูดของอรดีกระแทกใจของพรพจีอย่างแรง
“น่าสมเพช ถึงภายนอกจะแต่งตัวแต่งหน้าดูดีแค่ไหน แต่เวลาเดินด้วยกันใครๆ เขาก็ดูออกนะคะ ว่าอาจีน่ะ แก่ กว่าธรม้ากมากยังกับ แม่กะลูก คุณรับได้เหรอคะธร”
วิษธรมองหน้าพรพจีคล้ายลังเล อรดีจ้อไม่หยุด
“เห็นไหมล่ะ เห็นความจริงแล้วใช่ไหมคะธร ว่าอายุไม่ใช่แค่ตัวเลขอนาคตคุณยังอีกไกล คุณจะยอมเป็นหญ้าอ่อนให้วัวแก่กินเล่นงั้นเหรอ” อรดีหันไปทางพรพจีจงใจเน้นคำตอนท้าย “ปล่อยธรไปเถอะนะคะ ขุ่นแม่”
อรดีหัวเราะลั่น พรพจีถลาเข้าไปตบอรดีเต็มมือ เขย่าตัวอย่างแรงๆ ตะเพิดไล่ผลักไสออกไปด้วยความโกรธ
“ออกไป ออกไป”
อรดียิ้มเยาะเย้ยหยันแล้วเดินออกไปพร้อมกับวิษธร
“ฉันบอกให้ออกไป ไปให้พ้น”
พรพจีกรี๊ดลั่น กวาดข้าวของบนโต๊ะลงพื้น กำมือแน่นอย่างแค้นใจสุดจะประมาณ พยายามเตือนตัวเองว่าเป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น


พรพจีนั่งคิดเรื่องวิษธรด้วยสีหน้าเครียดเคร่ง สักพักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“น้องจ๋าเหรอ เข้ามาเลยจ้ะ ห้องไม่ได้ล็อค”
แต่กลับเป็นวิษธรเปิดประตูเดินถือไอแพดเข้ามาในห้อง เหมือนจะมาคุยเรื่องงานโดยไม่ได้ปิดประตูสนิท
“ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วจังครับ”
พรพจีเห็นวิษธรเข้ามาก็งอนใส่ หันหน้าหนีเพื่อซ่อนอารมณ์
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
พรพจีน้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ “เปล่าค่ะ แค่เหนื่อยนิดหน่อย”
วิษธรยิ้มแล้วเดินมาจับไหล่พรพจีเบาๆ
“ถ้างั้น ผมนวดให้นะครับ”
วิษธรค่อยนวดให้พรพจี จนเธอเคลิบเคลิ้มแล้วค่อยๆ หลับตาลง
“ฉันแก่เกินไปสำหรับคุณใช่ไหม”
พรพจีลืมตามองหน้าวิษธรอย่างน้อยใจ
“ถ้ามีผู้หญิงที่สาวกว่า เซ็กซี่กว่า คุณก็คงทิ้งฉันไป”
วิษธรหมุนตัวพรพจีมาให้มองตาเขา พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฟังผมนะ อายุมันไม่สำคัญอะไรเลย เพราะคุณสวยที่สุดในสายตาของผม คุณทำให้ผมไม่สนใจเรื่องอายุหรือเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น ผมมองข้ามทุกอย่างในโลกนี้ไปแล้วตั้งแต่ได้เจอกับคุณ”
วิษธรประคองใบหน้าพรพจีอย่างแผ่วเบา พรจียิ้มอย่างวาบหวามแล้วหลับตาลง
ทั้งสองกำลังจะจูบกัน จนมีเสียงภัทร์ธีราดังขัดจังหวะขึ้น
“อาจีคะ อาจี”
เสียงเรียกนั้นทำให้ทั้งสองผละออกจากกันทันที ภัทร์ธีราเดินเข้ามาเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็หน้าเสีย
พรพจีมีสีหน้าตกใจไม่แน่ใจว่าภัทร์ธีราเห็นหรือไม่ รีบปรับสีหน้า
“จ๋าไม่เห็นอาจีอยู่ที่ห้องนอนเลยคิดว่าอาจจะอยู่ที่นี่ ไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ด้วย” เธอมองวิษธรอย่างจับผิด “เข้ามาในห้องนี้ทำไมคะ”
“ธรเขามาปรึกษาเรื่องงานด่วนของพรุ่งนี้น่ะจ๊ะ แต่คุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับคุณจี”
วิษธรหยิบไอแพดแล้วเดินออกไปด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภัทร์ได้แต่มองตามอย่างหวาดระแวง

วิษธรกำลังเดินกลับบ้าน อยู่ๆ เขาก็หยุดเดิน พูดขึ้นมาลอยๆ
“อยากไปบ้านเที่ยวบ้านผมอีกเหรอครับ บอกกันดีๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องแอบตามมาแบบนี้”
พร้อมกับว่าวิษธรหันไปเผชิญหน้าตรงๆ ภัทร์ธีราหยุดกึกหน้าเสียที่ถูกจับได้
“ฉันไม่ได้แอบซักหน่อย ถ้าฉันแอบคุณคงไม่เห็นฉันหรอก”
“งั้นคุณตามผมมาทำไม”
“ฉันรู้ว่าคุณคิดจะทำอะไร”
วิษธรย้อนเอาว่า “ผมคิดจะทำอะไร”
“อะไรก็ตามที่คุณคิดจะทำ มันจะไม่มีวันสำเร็จ ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่บ้านหลังนี้อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากที่นี่อีก”
วิษธรยิ้มขำ
“ขำอะไร”
“คุณน่ารักดีนะ เป็นเด็กช่างจินตนาการ แต่เด็กก็เป็นแค่เด็ก ไม่ควรจะยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาจัดการกันเองดีกว่านะครับคุณ...น้องจ๋า”
ภัทร์ธีราโมโหมากที่วิษธรตั้งใจว่าเธอเป็นเด็ก
“ผู้ใหญ่บางคนมันไม่น่าไว้ใจ คอยดูแล้วกัน เด็กอย่างฉันจะไม่ยอมให้งูพิษอย่างนายมาแว้งกัดคนในบ้านของฉันเด็ดขาด”

ภัทร์ธีราจดสายตามองจ้องหนุ่มรูปงามคู่กัด อย่างคนรู้เท่าทันกัน

อ่านต่อ ตอนที่ 3

#เพลิงรักไฟมาร #thaich8 #ละครออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น