ละครซีรีส์ "หมอผี" ตอนที่ 12 บุญเพ็งหีบเหล็ก
... ช่วงเพชฌฆาตลงดาบครั้งที่ 2 ตัดหัวบุญเพ็งหลุดกระเด็น เลือดพุ่งกระฉูด ใบหน้าของบุญเพ็งกลายเป็นหน้าของคำรณ
วิเศษสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย เขาเหงื่อแตกและเหนื่อยหอบ ดารการลุกขึ้นเปิดไฟหัวนอน
"ฝันร้ายเหรอคะ คุณ"
"สงสัย ผมคิดเรื่องกะโหลกบุญเพ็งมากไปหน่อย แปลกมาก ในฝันผมเห็นบุญเพ็งกลายเป็นคำรณ ไปได้ยังไงก็ไม่รู้สิ บ้าจริงๆ"
ดารการสงสัย
"คำรณ...หรือคะ"
วิเศษนิ่งเงียบไป ดารการเองก็ไม่สบายใจ
เช้าวันใหม่
อาคม เศกและรัตติกาลเดินมาตามทางก่อนถึงหน้าร้าน Spirit Seekers ในมือของแต่ละคนก็ถือแก้วกาแฟ อาหารเช้าและหนังสือพิมพ์ จิปาถะ
เศกบอก
"มื้อหน้าตานายเลี้ยงนะ อาคม"
"อะไรกัน ลูกเศรษฐีร้อยล้าน เลี้ยงกาแฟเพื่อนแค่นี้บ่น"
"จริงด้วย ทีไปเลี้ยงน้องๆพริตตี้ ไม่เห็นบ่นสักคำ"
"นั่นเค้าเรียกการลงทุน นักลงทุนที่ดี ควรรู้ว่าอะไรคุ้มหรือไม่คุ้ม"
"แล้วเลี้ยงกาแฟซี นี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือเปล่าคะ นายเศก"
เศกกวนๆ
"ก็เหมือนๆจะเสี่ยงอยู่นะ หุ้นตัวนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมยังมีคู่แข่งคอยปั่นหุ้นอีกด้วย เล่นยากตัวนี้"
อาคมหัวเราะ เขาเข้าใจว่าเศกกำลังแดกดัน รัตติกาลยิ้มหัวเราะ ทั้งสามคนสนิทกันมากเกินกว่าจะแย่งกันจีบรัตติกาล
อาคม เศก รัตติกาล เดินเข้ามาในสำนักงาน ต่างก็แยกย้ายกันไปที่นั่งตัวเอง...รัตติกาลมีความรู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติภายในสำนักงาน....เธอมองไปรอบๆ ก่อนนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง... กระเป๋าของมหาเนิร์ดวางอยู่มุมใดมุมหนึ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
จอห์นนี่เดินเข้ามาภายในสำนักงาน ทักทายอาคม ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะตัวเอง จอห์นนี่เดินผ่านกระเป๋ามหาเนิร์ดไปที่ตู้เย็น เปิดเอาของออกมาทาน พอเขาเดินกลับมามองเห็นกระเป๋ามหาเนิร์ด เขามองหามหาเนิร์ดไปรอบๆ...แต่ไม่เห็น เขาหันไปถามอาคม
"อาคม"
อาคมหันมาหา ทำหน้าสงสัยว่าเรียกทำไม
"ไอ้มหาไปไหนล่ะ"
"ยังไม่เห็นมาเลยนะ"
"เอ้า ... ก็เป้มันวางอยู่นี่ แล้วตัวมันไปไหนกัน"
รัตติกาลถาม
"โวยวายอะไรแต่เช้า จอห์นนี่"
"ไม่มีอะไรหรอก แค่สงสัยว่ามหาไปไหน"
รัตติกาลบอก
"พวกเรามาแต่เช้า ยังไม่เห็นมหาเลยนะ"
"ก็นี่ไงกระเป๋าเค้า...เมื่อคืนออกไปด้วยกัน มหาก็สะพายกระเป๋าไปด้วย และไอ้คนนี้ มันไม่เคยห่างกระเป๋ามันนะ"
"ไม่เห็นยากเลย...ก็โทรศัพท์ไปหาซิ" เศกบอก
"เออ ... จริงด้วย"
จอห์นนี่เพิ่งนึกขึ้นได้ หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หามหาเนิร์ด....โทรศัพท์ของมหาเนิร์ดดังขึ้นมาไกลๆ ทุกคนมองไปทางเสียงนั้นและสีหน้ากังวล....เสียงดังมาจากห้องเก็บของ
ที่ประตูห้องเก็บของถูกเปิดออกอย่างแรง...อาคม เศก รัตติกาล จอห์นนี่เข้ามาในห้องอย่างร้อนรน เสียงโทรศัพท์ยังดังอยู่ ทุกคนมองหาที่มาของเสียง สายตาทุกคนจ้องไปที่ลังใส่ของ อาคมรวดเร็วที่สุด
"เสียงโทรศัพท์มาจากในนี้"
เศกเข้าไปช่วยเปิด แต่เปิดไม่ออกเหมือนถูกล็อคจากด้านใน สีหน้ารัตติกาลและจอห์นนี่มีกังวลมาก อาคมหันไปหาอุปกรณ์ในการงัด...เศกนึกขึ้นได้เข้าไปรื้อเครื่องมือที่กองอยู่...ได้ชะแรงเหล็ก เศกใช้ชะแลงเหล็กงัดลังใบใหญ่อย่างแรง ลังเริ่มเปิดออก ทุกคนตกใจที่เห็นภาพในลัง ... มหาเนิร์ดนอนขดตัวหมดสติอยู่ในลัง... ทุกคนพุ่งเข้าไปหา จอห์นนี่ร้องไห้
"มหาเนิร์ด มหาเนิร์ด"
ภายในห้องทำงานของวิเศษ
โทรทัศน์เล่นภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดภายในสำนักงาน เห็นภาพของมหาเนิร์ดเข้ามาในสำนักงาน หยิบกุญแจ จนถึงภาพสุดท้ายที่วางกระเป๋าเดินเข้าห้องเก็บของ ภาพถูกเล่นแบบเร็วและเปิดค้างไว้ อาจารย์วิเศษนั่งประชุมอยู่กับอาคม เศก นอกห้อง รัตติกาลเดินเข้ามาและจอห์นนี่ปฐมพยาบาลมหาเนิร์ดอยู่ด้านนอก
"มหาจำได้แต่เพียงว่าขึ้นมาหยิบกุญแจห้องที่ลืมไว้บนโต๊ะ และก็กำลังจะกลับออกไป" รัตติกาลบอก
"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากะโหลกคนที่ตายไปแล้วเกือบร้อยปี จะมีฤทธิ์เดชทำร้ายอะไรใครได้" อาคมบอก
"ผมก็ไม่อยากจะเชื่ออย่างนั้นเหมือนกัน แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งเมื่อคืนที่เกิดกับมหา มันชี้ชัด มาที่กะโหลกนี้มากเหลือเกิน ผมยังคิดหาต้นเหตุอื่นไม่ได้เลย"
เศกถาม
"เป็นไปได้มั้ยครับที่มันจะถูกปลุกและควบคุมจากผู้ที่มีความสามารถด้านศาสตร์เร้นลับหรือพวกมนต์ดำ"
"ถ้าพวกเล่นมนต์ดำสามารถทำได้จริงแล้วมันจะทำไป เพื่ออะไรกันแน่" รัตติกาลว่า
"จากภาพที่เราเห็น มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย" วิเศษบอก
เศกคิดอะไรอยู่ในใจและตัดสินใจพูด
"ถ้าอย่างนั้นเรามาพิสูจน์กันอีกครั้งดีกว่า ว่ากะโหลกใบนี้ มันเกี่ยวข้องกับการตายที่ผ่านมาและก็เคสของหมวดทวีกับมหาหรือเปล่า"
ทุกคนมองหน้าเศก
ทุกคนนั่งประชุมอยู่ในร้านหนังสือ...จอห์นนี่เปิดคอมขึ้นมา ซึ่งหน้าจอจะแบ่งเป็นช่องเล็กๆ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ภาพนั้นจะเป็นภาพเศกอยู่ในห้องคนเดียว...อาจารย์วิเศษถามจอห์นนี่
"ผมพูดติดต่อกับ เศกได้เลยใช่มั๊ย"
"ได้เลยครับ ผมติดตั้งไมค์เรียบร้อยแล้ว"
วิเศษพูดผ่านไมค์
"เศก คุณได้ยินผมมั๊ย"
ภาพในจอเล็กจะเป็นภาพเศกหันมองกล้องวงจรปิดและตอบอาจารย์วิเศษ
"ได้ยินชัดเจนครับ"
"เศก..ถ้ารู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ผมขอให้คุณยกเลิกการทดลองทันที เข้าใจนะ" วิเศษกำชับ
"อาจารย์ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมอยากจะพิสูจน์ให้รู้ว่า เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้ยังไง"
รัตติกาลเข้ามาพูดผ่านไมค์
"เศกนายแน่ใจนะ จริงๆไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้นะ"
"เพื่อที่จะพิสูจน์ให้รู้ว่าพลังเร้นลับมีจริงหรือไม่ ถ้ามีแล้วน่ากลัวขนาดไหน เศกยอมได้ทุกอย่าง.... แล้วอีกอย่างนะ เศกเป็นคนเริ่มเรื่องนี้เอง ซีแค่ช่วยอวยพรให้ผมประสบความสำเร็จด้วยนะครับ"
อาคมถาม
"เศก นายเปิดเครื่องวัดพลังงานแม่เหล็กแล้วหรือยัง"
"เปิดแล้ว"
วิเศษบอก
"เอาล่ะ ยังไงก็ระวังตัวด้วยล่ะ อย่าประมาทนะ"
"ครับผม...จ้อนอย่าลืมแวะไปดูแลมหานะด้วยนะ"เศกบอก
"ไม่ต้องห่วง...ตอนนี้พี่สาวเค้ามาเฝ้าอยู่ที่ห้องเลย" จอห์นนี่ว่า
เศกเดินไปเปิดกล่องบรรจุกระโหลกบุญเพ็ง และนั่งตรงข้ามกับมันอย่างท้าทาย
วิเศษย้ำ
"จ้อน...บันทึกไว้ทุกมุมเลยนะ"
"รับทราบครับ"
บรรยากาศภายในสำนักงานตามมุมกล้องวงจรปิด....ที่หน้าร้านหนังสือเห็นคำรณเดินเข้ามาหน้าร้านและมองเข้ามา อาจารย์วิเศษรู้สึกตัวว่ามีใครจ้องอยู่ จึงหันไปมองทางหน้าร้าน....คำรณหลบไปอาจารย์วิเศษวิ่งออกไปยืนมองหาหน้าร้าน
"คำรณ"
ผ่านเวลา...เศกเริ่มเบื่อ
เขาทำตัวตามสบายและหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เดินไปเดินมา โบกมือให้กล้อง ไปหยิบเครื่องดื่มในตู้เย็นออกมากิน ส่วนทีมงานที่อยู่ในร้านหนังสือด้านล่าง อาจารย์วิเศษยังมองไปหน้าร้านบ่อยๆ หัวกะโหลก....ยังอยู่ในสภาพปกติทุกอย่าง เศกเดินไปที่ประตูสำนักงานในท่าทางปกติ หาวิธีล็อคประตูไม่ให้คนภายนอกไขเข้ามาได้ ทีมหมอผีข้างล่างเริ่มเอะใจ เศกเดินเอาสีสเปรย์พ่นหน้าจอกล้องวงจรปิดที่ละตัว ทีละตัว กล้องวงจรปิดในคอมจอห์นนี่เริ่มหายไปที่ละภาพ....จอห์นนี่ตกใจ วิเศษ รัตติกาล อาคม มองหน้ากันอย่างตกใจ อาคมกับรัตติกาลวิ่งขึ้นไปยังสำนักงาน กะโหลกบุญเพ็งก็เหมือนจะมีชีวิต มันขยับได้และแสงจากอักขระที่จารไว้ก็เปล่งแสง ...ไฟในห้องติดๆดับๆ ....เสียงเครื่องวัดพลังแม่เหล็ก ร้องถี่ๆ มาจากทุกมุมห้อง
คำรณกำลังสวดคาถาโบราณจากหนังสือโบราณเล่มหนึ่ง ดวงตาและสีหน้าเขาราวกับปีศาจร้าย
อาคมวิ่งนำรัตติกาลมาที่ประตู เขาพยายามเปิดประตูแต่ประตูล็อค....วิเศษวิ่งตามเข้ามา
"ทำไมไม่รีบเปิดเข้าไปละ"
"ประตูล็อกครับ"
ย์วิเศษรีบล้วงหยิบกุญแจในกระเป๋ากางเกงออกมาส่งให้อาคม รัตติกาลเป็นห่วงเศก อาคมเสียบกุญแจเปิดล็อคประตู และวิ่งเข้ามามองหาเศก
"รีบหาเศกให้พบ เร็วเข้า"
อาคม รัตติกาล วิเศษต่างแยกย้ายกันค้นหาเศก อาคมขึ้นไปหาที่ห้องเก็บวิญญาน...รัตติกาลเปิดกล่องใส่อุปกรณ์ที่มหาเนิร์ดเคยขังตัวเองไว้ จอห์นนี่หอบโน้ตบุ๊กวิ่งเข้ามา...
"ในห้องน้ำ...หาในห้องน้ำหรือยัง"
รัตติกาลบอก
"ยังๆ"
รัตติกาลรีบวิ่งออกไปดูในห้องน้ำ...ไม่เจอ รัตติกาลหน้าเสียเดินกลับเข้าในสำนักงาน...เธอเดินผ่านตู้เย็น...ชะงัก กลับไปมองที่ตู้เย็น รัตติกาลพุ่งไปเปิดที่ตู้เย็น เธอวิ่งเข้าไปเปิดมันออกทันที เศกหมดสติอยู่ข้างในนั้น
"เศก...อาคม...อาจารย์ เศกอยู่ในนี้"
รัตติกาลพยายามจะช่วยเศกออกมาจากตู้เย็น อาคมวิ่งเข้ามา
"ซีหลีกไป ผมจัดการเอง"
อาคมกับจอนนี่ช่วยเศกออกมาจากตู้เย็น และนำเศกไปนั่งพักที่เก้าอี้ รัตติกาลรีบเอาผ้าไปชุบน้ำอุ่นแล้วมาเช็คหน้าเศก จอนนี่พยายามนวดให้เศกรู้สึกตัว
"ถ้าจะของจริงแล้วครับ อาจารย์" อาคมบอก
"คนที่ทำแบบนี้ได้ ต้องไม่ใช่คนพวกเล่นคุณไสยธรรมดาแล้วล่ะ" รัตติกาลบอก
วิเศษจ้องไปยังกะโหลกบุญเพ็งที่ตั้งอยู่กลางห้อง อักขระบนหัวกะโหลกเริ่มมีแสงและดับลง...วิเศษเดินไปหยิบมันขึ้นมามองอย่างครุ่นคิด
"ผมรู้สึกว่า กะโหลกใบนี้มันถูกปลุกโดยฝีมือของคนที่ผมรู้จัก"
จู่ๆกะโหลกในมือวิเศษก็มีแสงสว่างขึ้นตามอักขระที่จารไว้ ตามันแดงราวกับถ่านคุไฟ มันพุ่งเข้ากัดวิเศษที่หน้าอก เขาร้องด้วยความเจ็บปวด ปล่อยกะโหลกหลุดมือ เลือดไหลออกจากแผล อาคมกับรัตติกาลผละจากเศกเข้ามาช่วย เลือดที่ไหลออกจากรอยแผลเป็นสีดำคล้ำ
"ระวัง อย่าแตะต้องถูกเลือดผม ... ผมถูกยาสั่ง"
ฟันของกระโหลกบุญเพ็ง กลายเป็นสีเขียวคล้ำ ทุกคนตกตะลึง
ในที่ลี้ลับ
คำรณสวดคาถาจบบทและปิดคัมภีร์เล่มนั้นลง สายตาของมันพอใจกับผลงาน พร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ากลัว
เมื่อคัมภีร์โบราณในมือของคำรณปิดลง ...มันเดินจากตรงนั้นไปราวกับปีศาจจากขุมนรก
ต่อมา รัตติกาลกำลังทำแผลให้อ.วิเศษ
"อาจารย์รู้สึกอย่างไงบ้างคะ"
"แค่ปวดๆเท่านั้นเอง ...เศกเป็นยังไงบ้าง"
จอนนี่กำลังนวดอยู่
"หายใจเป็นปกติแล้วครับ"
อาคมถาม
"แล้วยาสั่งที่อาจารย์โดน จะมีผลอะไรกับอาจารย์มั้ยครับ"
"ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน...ยาสั่งแต่ละชนิดก็มีผลไม่เหมือนกัน มันแล้วแต่ว่ามันถูกสะกดด้วยเวทย์มนต์อะไร"
"ถ้าเราหาสารประกอบจากยาสั่งได้ว่ามันมีอะไรบ้าง เราก็น่าจะหายาป้องกันได้นะคะ" รัตติกาลบอก
"ผมไม่คิดว่าเราจะทำได้ ยาสั่งเกิดจากอาคมมนต์ดำของผู้มีเวทย์ จะแก้ได้ก็ด้วยอาคมของเจ้าของเท่านั้น"
"แต่ผมเชื่อว่า ทุกสิ่งมันต้องมีของที่แก้กันได้ ขอให้เรารู้เถอะ ว่าเป็นฝีมือใคร" อาคมบอก
"ใครกัน ... ที่คิดร้ายกับอาจารย์แบบนี้"
"ทีมเราจัดการกับเรื่องราวลึกลับประหลาดๆมาตั้งหลายเคส ศัตรูของเราก็คงจะมีไม่น้อย"
วิเศษหยิบกระโหลกบุญเพ็งขึ้นมาดู เขาจ้องไปที่ตัวอักษรขอมโบราณ
"ผมพอจะเดาได้แล้วว่าเป็นฝีมือใคร"
จอห์นนี่ช่วยนวดให้เศกฟื้น เศกค่อยๆรู้สึกตัว
สมัยหนุ่มของวิเศษและคำรณ
ที่โบราณสถานแห่งหนึ่งซึ่งรกครึ้มราวกับมันเพิ่งถูกค้นพบจากทั้งคู่ ทั้งสองคนต่างแยกกันขุดสำรวจตามหลุมแนวสิ่งก่อสร้างที่ปรักหักพัง ทั้งสองค้นพบวัตถุโบราณไม่ว่าจะเป็นหินสี เครื่องลายคราม หรือเหรียญโบราณ แม้กระทั่งกระดูกเก่าๆ วิเศษขุดเข้าไปเจอกับบางสิ่ง เขาชะงักและค่อยๆแซะดินออกอย่างเบามือ จนเห็นว่ามันเป็นห่อผ้าสีแดงเก่าขาด ฝังจมดินอยู่เป็นเวลานาน ผืนผ้านั้นถูกเขียนอักขระโบราณไว้กำกับไว้และมีด้ายคล้ายสายสิญจน์รัดไว้แน่นหนา
"คำรณ ชั้นเจออะไรเข้าแล้ววะเพื่อน"
คำรณรีบเข้ามาดู
"ท่าทางจะสำคัญซะด้วยสิ ลองแกะดูสิวะ"
วิเศษค่อยๆแกะสายสิญจน์ที่รัดไว้ออก ข้างในนั้นเป็นคัมภีร์โบราณ วิเศษเปิดดู .....จู่ๆ เมฆเคลื่อนบดบังแสง ลมประหลาดกรรโชกแรงทำเอาฝุ่นฟุ้งกระจาย ต้นไม้เสียดสีกันราวกับเสียงกรีดร้อง .....
ที่กองไฟส่องสว่างจะเห็นเต้นท์สองหลังตั้งอยู่ ...ภายในเต้นท์ วิเศษกับดารการกำลังดูคัมภีร์นั้นอยู่โดยมีคำรณดื่มกาแฟอยู่ข้างๆ ข้างๆวิเศษจะเป็นหนังสือภาษาโบราณสำหรับการค้นคว้า
"คัมภีร์เล่มนี้เก่าแก่มาก มันน่าจะถูกบันทึกไว้หลายร้อยปีมาแล้ว ส่วนใหญ่เขียนถึงความชั่วร้าย ความมืดของสัตว์นรกในแดนอเวจี"
"มาคราวนี้ไม่เหนื่อยเปล่าจริงๆ ต่อไปนี้เราสองคนก็จะไม่ใช่ไอ้นักโบราณคดีกระจอกๆอีกต่อไปแล้วสินะ"
"แต่กันคิดว่า เราควรทำลายมันทิ้ง หรือนำมันกลับไปไว้ที่เดิม"
"นายพูดเป็นเล่นไปได้ อะไรทำให้นายคิดแบบนั้นวะเพื่อน"
¬ในคัมภีร์เล่มนั้น เป็นตัวอักษรโบราณและรูปวาดที่น่ากลัวของอมนุษย์ต่างๆ
"กันรู้สึกว่าข้อความในบันทึก มันสามารถปลุกสิ่งชั่วร้ายได้ แถมยังเต็มไปด้วยเวทย์มนต์และคำสาปแช่ง เราไม่น่าเก็บมันไว้หรอก คำรณ"
"นายมันบ้าไปแล้ว ยังไงเราก็ไม่ยอมให้นายทำลายมันหรอก ถ้านายไม่อยากยุ่ง เราจะเก็บมันไว้เอง"
ดารการบอก
"ดาก็คิดอย่างวิเศษนะคำรณ ของมันอยู่ในที่ของมันมานานแล้ว เราไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง...ถ้าไม่ให้กลับไปที่เดิม เราก็ควรทำลายทิ้งซะ"
คำรณเดินเข้าหาดารการ ดารการถอยหลังอย่างตกใจ ...
"ไม่"
คำรณแย่งหนังสือเล่มนั้น วิเศษขัดขวาง ทั้งสองต่อสู้กัน ....คำรณได้หนังสือไป เขาวิ่งออกจากเต้นท์
วิเศษวิ่งไล่ตามคำรณ ทั้งสองคนได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ในที่สุด วิเศษก็คว่ำคำรณลงได้ เขาเก็บคัมภีร์โบราณนั้นไว้อย่างดี ....
คำรณมองวิเศษด้วยความแค้นใจ
เมื่อคิดถึงอดีต วิเศษสีหน้าทุกข์ใจ
"เขายังอาฆาตแค้นผมอยู่"
"แต่คำรณไม่ได้คัมภีร์ปีศาจนั่นไปไม่ใช่เหรอคะ อาจารย์ แล้วทำไมเขาถึงมีอาคมแก่กล้าได้ขนาดนี้"
วิเศษส่ายศรีษะ
ต่อมา
ภายในห้องประชุมคณะโบราณคดีที่กำลังเคร่งเครียด วิเศษถือคัมภีร์โบราณไว้ในมือ
"ผมได้เอาคัมภีร์โบราณเล่มนั่นไปปรึกษากับอาจารย์ และผู้ทรงคุณวุฒิทุกแขนง ทุกคนสรุปตรงกันว่าต้องทำลายทิ้ง เพราะหากมันตกไปอยู่ในมือคนชั่ว จะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นได้ แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้"
คำรณเข้ามาในห้องประชุม ทุกคนหันมอง คำรณชักปืนขึ้นมาและยิงใส่คนในห้อง วิเศษหลบไปอีกมุม คำรณหยิบคัมภีร์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ....
คำรณเล็งปืนใส่วิเศษและเหนี่ยวไก กระสุนหมด คำรณหัวเราะราวกับคนคุ้มคลั่งก่อนจะหนีออกไป
วิเศษตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น
วิเศษและดารการ เดินอยู่ท่ามกลางโบราณสถานที่เก่าแก่และปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ "หลังจากนั้น ผมกับดารการ ก็ออกตามหาคำรณทุกหนทุกแห่ง ที่ได้ยินว่ามีคนพบเขา จนกระทั่ง..."
ที่โบราณสถาน...ทั้งสองคนก็ได้ยินเสียงร้องครวญคราง นกใหญ่น้อยพากันบินแตกตื่น เสียงนั้นโหยหวน น่ากลัว... วิเศษและดารการเร่งไปตามเสียงที่ได้ยิน เบื้องหลังซากปรักหักพัง ทั้งสองได้เห็นคำรณซึ่งหนวดเครารกรุงรัง เสื้อผ้าฉีกขาดราวกับคนเสียสติ เขาอ่านคัมภีร์นั้นซ้ำไปซ้ำมา สลับกับอาการคุ้มคลั่ง โหยหวนเพราะอาถรรพ์ของคัมภีร์ ...วิเศษตัดสินใจเข้าไปหา คำรณ เมื่อคำรณเห็นวิเศษเข้าก็ตกใจผวาและแยกเขี้ยวขู่คำราม ดารการเองก็เป็นห่วง
"คำรณ ... พวกเรามารับกลับบ้าน"
คำรณชะงักเหมือนคิดอะไรได้ แต่แล้วก็เปลี่ยนไปกลายเป็นหวาดกลัว เขากอดคัมภีร์ไว้แน่น
"ทิ้งมันไปเสียเถอะเพื่อน คัมภีร์นั่นมันกำลังทำลายชีวิตนาย"
คำรณคำรามใส่วิเศษและก็วิ่งหนีหายเข้าไปในป่า
วิเศษ ดารการเรียก
"คำรณ"
วิเศษและดารการรีบตามไปทันที
วิเศษและดารการ วิ่งตามคำรณ แต่หาไม่เจอ .... คำรณร้องให้ช่วย เขาพลัดหล่นไปในหุบเหวลึก แต่โชคดีที่ตัวเขาติดกิ่งไม้ วิเศษเข้าไปช่วย แต่คำรณก็มัวแต่ห่วงคัมภีร์เล่มนั้น....
"ทิ้งมันไปซะ ส่งมือมาให้ชั้น เร็ว"
เขายื่นคัมภีร์ให้วิเศษ แต่พลาดท่า หล่นลงเหวไป
"คำรณ"
วิเศษและดารการเสียใจเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อตา
ใต้ต้นไม้ที่สวยงามและเงียบสงบ มีพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ วิเศษและดารการ นั่งคุยกับพระรูปนั้นซึ่งดูสำรวมและมีเมตตา ....วิเศษกับดารการยังคงเศร้าอยู่ที่สูญเสียคำรณ
"พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งทุกแขนงวิชา ทั้งอาคม มนต์ดำ วิชาความรู้มีมากมายดุจใบไม้ในป่านี้ แต่พระพุทธองค์ ท่านเลือกเพียงใบไม้กำเดียวเท่านั้นมาสอน มานำเราไปสู่หนทางพ้นทุกข์ ... เพื่อนของโยมทั้งสองได้หลงทางไปแล้ว"
ทั้งสองฟังคำพระและคิดตามอย่างเข้าใจ
ทั้งหมดนั่งฟังวิเศษเล่าเรื่องคำรณด้วยความสนใจ... เศกฟื้นแล้วแต่ยังเพลียๆอยู่
"คำรณยังไม่ตายแถมยังสามารถควบคุมคัมภีร์อาถรรพ์นั่นได้อีกด้วย" คำรณบอก
จอห์นนี่บอก
"แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ ได้เจอกับจอมขมังเวทย์ของจริงละงานนี้ ฝรั่งชักเสียว"
"คำรณต้องเป็นชายลึกลับที่ผมเจอตอนไปซื้อกะโหลกบุญเพ็งกับเพื่อนแน่ๆ ดวงตามันดูน่ากลัวมาก ... สรุปว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เป็นแผนการของมันนั่นเอง"
"เศก นายพาชั้นไปที่นั่นเดี๋ยวนี้เลย" เศกบอก
"ชั้นไปด้วย" รัตติกาลว่า
"อย่าเลย คำรณมีความแค้นส่วนตัวกับอาจารย์เท่านั้น พวกเธออย่าไปเสี่ยงเลย มันอันตราย""ใครคิดทำร้ายอาจารย์ ซีก็ถือว่ามันเป็นศัตรูของซีเช่นกัน"
"อย่าเสียเวลาเลย รีบไปกันเถอะ" เศกบอก
อาคมเรียกจอห์นนี่มาหา
"จ้อน นายเอาหัวกะโหลกไปใส่ไว้ในกล่องกักพลังงานก่อน แล้วไปส่งอาจารย์ที่บ้าน...เสร็จแล้วนายไปรับลุงหมึกตามที่อยู่นี้มาที่นี่ด้วย"
อาคมเขียนที่อยู่ของลุงหมึกให้จ้อน
"ได้เลย"
อาคม เศก รัตติกาล รีบออกไป
อาคมขับรถ มีเศกนั่งหน้า รัตติกาลนั่งเบาะหลัง ทั้งสองกำลังฟังอาคมพูดเรื่องยาสั่ง
"ยาสั่งเป็นวิธีฆ่าคนโดยไม่ต้องใช้อาวุธใดๆเลย เพียงแต่เสกยาสั่ง และให้ยาสั่งไปถึงคนที่เป็นเป้าหมายเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะพิสูจน์สอบสวนได้เลย เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานให้เห็น ไม่รู้สาเหตุของการตาย ผู้ใช้ยาสั่งจะทำพิธีทางไสยศาสตร์ ร่ายมนต์คาถา จะให้ผู้ถูกใส่ยาสั่งมีอาการเป็นอย่างไรก็ได้ จะให้ตายเร็วหรือตายช้าๆ แบบไหนก็ได้ทั้งนั้น"
ทั้งหมดขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านคำรณ...ทุกคนลงจากรถ
"บ้านหลังนี้แหละ"
ทุกคนมองไปยังบ้านคำรณที่อยู่ตรงหน้ ตัวบ้านปิดไฟมืด
"เศก...ดูเหมือนไม่มีใครอยู่เลยนะ" รัตติกาลบอก
"มาถึงแล้ว ลองเข้าไปดูก่อนดีกว่า"
เศกเดินนำทุกคนเข้าไปในบ้าน
เศกพาทุกคนเดินเข้าไปในตัวบ้าน ทุกอย่างยังเงียบสงัด เศกเปิดเอาเครื่องวัดพลังงานออกมา เปิดสวิทซ์ อาคมกับรัตติกาลเหลือบมอง
"ปลอดภัยไว้ก่อน"
เข็มไม่กระดิกใดๆ
"โล่ง ... ไร้พลังงานใดๆแถวนี้" เศกบอก
เมื่อทั้งหมดก้าวเข้ามาด้านในบ้านซึ่งมืดสนิท อาคมหาสวิทซ์ไฟและเปิดมัน...จึงจะเห็นกร่างนั่งหันหลังให้ คล้ายกับทำสมาธิอยู่หน้าหิ้งบูชา
"นั่นไง"
"ไม่ใช่ นั่นชื่อกร่างลูกศิษย์ของมัน"
อาคมเดินเข้าไปใกล้กร่าง
"คุณกร่าง...กร่าง"
ไม่มีเสียงตอบกลับ
"ระวังหน่อยนะ อาคม" รัตติกาลบอก
อาคมเดินเข้าไปจับตัวกร่าง กร่างล้มลงทั้งที่นั่งขัดสมาธิอยู่ ทั้งสามคนตกใจ เมื่อเห็นว่ากร่างตายแล้ว สภาพคล้ายถูกสัตว์ทำร้าย บาดแผลฉีกเหวอะ ไส้ทะลักออกจากท้อง ที่มือของกร่างกุมควายที่ถูกถักด้วยเชือกไม้ไผ่และพอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุทรา
"นี่มันอะไรกันเนี่ย" รัตติกาลว่า
"เรามาช้าไปซะแล้ว"
"ควายธนู ... มันฆ่าคนโดยใช้มนต์ดำ"
เศกบอก
"ไอ้คำรณ นี่มันหูไวตาไวจริงๆ อยากจะรู้จริงๆว่ามันจะแน่สักแค่ไหนกัน"
"เกิดมาเพิ่งเคยเจอ ... น่ากลัวชะมัด" รัตติกาลบอก
"ศาสตร์ไสยดำเหมือนพวกลัทธิวูดูนั่นแหละ ซี คำรณใช้ควายธนูทำร้ายนายกร่างจนตาย มันเป็นวิชามารที่ทำร้ายได้ทุกอย่าง นี่แสดงว่าวิชาอาคมมันแกร่งมาก"
"เจองานหนักอีกแล้วสิ" เศกบอก
ทุกคนเริ่มกังวล...
หีบใส่กะโหลกบุญเพ็งถูกเปิดออกพร้อมได้ยินเสียง
ลุงหมึกบอก
"เมื่อสมัยพุทธกาล พระสงฆ์กลุ่มหนึ่งได้ปักกลดจำศีลอยู่ในป่า พอตกกลางคืน เหล่าอสูรกายก็ออกฤทธิ์ หัวเราะดังทั่วหุบเขา เหล่าพระสงฆ์ตั้งสติสวดมนต์ อิติปิโส แต่ยักษ์กลับไม่เกรงกลัว แล้วยังแปลงเป็นผี ควักไส้ ควักพุง ทำตาถลน จนพระต้องหนีแตกกระเจิง พระท่านจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้สวด อิติปิโส แต่ให้สวดถอยกลับ ปรากฏว่าได้ผล พวกยักษ์ปวดหัวทรมานอย่างแรง จนต้องอ้อนวอนให้พระสงฆ์กลุ่มนั้นหยุดสวด...... คุณลองพยายามหาวิธีสวดคาถาที่เขียนมาบนกะโหลกนี้แบบสวดถอยหลัง แต่ลุงไม่กล้ารับปากว่ามันจะหยุดฤทธิ์ของยาสั่งได้หรือเปล่า"
วิเศษนอนบนโซฟา ดารการช่วยทำแผลให้
"หมายความว่าไงนะ คุณถูกพิษยาสั่ง"
"จำตอนที่ผมไปสำรวจหมู่บ้านพวกเผ่าเย้า แล้วอยู่ดีๆก็ป่วยจนเกือบตายได้มั๊ย .... ครั้งนั้นผมก็ถูกยาสั่ง ... แต่ผมก็หาทางแก้ไขจนได้ คุณอย่างเพิ่งวิตกไปเลยนะ"
"แต่คำรณมีคัมภีร์ปีศาจนั่น พิษยาสั่งคงจะแรงกว่าที่คุณคิดนะ แล้วรอยประหลาดนี่ละ มันคืออะไร ทำไมมันน่ากลัวแบบนี้"
"ผมก็ยังไม่รู้ แต่เชื่อว่ามันต้องมีความหมายว่าอะไรสักอย่าง คนอย่างคำรณคงต้องวางแผนบางอย่างไว้แน่นอน"
"ถ้างั้นคุณก็ต้องระวังตัวให้มากนะ คำรณคงต้องหาทางเล่นงานคุณอีกแน่ๆ ยี่สิบปีที่เค้าหายไปจากชีวิตเรา...เวลาไม่ได้ทำให้ความคิดคำรณเปลี่ยนไปเลย"
ดารการไม่สบายใจ....วิเศษมองที่แผลของตัวเอง มีความรู้สึกเจ็บแต่ไม่บอกใคร
ในห้องครัว เจนลงมือทำข้าวต้มเครื่องด้วยความสดใส โดยหารู้ไม่ว่าพ่อของเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย เจนลองชิมอาหารที่ปรุง
"สุดยอดไปเลย ... หวานน้ำต้มกระดูก"
เจนจัดแจงตักข้าวต้มจะเอาไปให้พ่อรับประทาน
ภายในห้องทำงาน ที่บ้าน
"แล้วคุณจะหาวิธีรับมือกับยาสั่งของคำรณได้ยังไงคะ"
"อย่าเพิ่งคิดมากไป ... มันต้องมีทางแก้ไข ขอให้รู้คำสั่งของยาเสียก่อน"
เจนถืออาหารเข้ามาพอดี
วิเศษกระซิบ
"อย่าให้ลูกรู้เรื่องนี้เด็ดขาดนะ"
"ข้าวต้มร้อนๆมาแล้วค่า ... เจนใส่ไข่สองใบเลยนะคะ พ่อจะได้หายเร็วๆ มา เดี๋ยวหนูป้อนให้""ขอบใจมากจ้ะ ลูก"
วิเศษยิ้มหวานและกินข้าวต้มที่เจนป้อน
ดารการแอบกังวลและแอบเช็ดน้ำตา กลัวว่าลูกจะเห็น เธอมองภาพพ่อลูก
คิดถึงเรื่องในดีต
ภายในห้องพยาบาล วิเศษไม่สบาย ดารการป้อนข้าวต้มให้ ทั้งสองมีใจให้กันและกัน
คำรณเปิดประตูเข้ามาเห็น เขามีอาการไม่พอใจ เดินออกไป
มุมหนึ่งหน้าห้องพยาบาล คำรณยืนอยู่ ดารการเดินออกมาจากห้อง คำรณจับมือดารการ แต่ดารการเอามือคำรณออกจากมือของเธอ
"ผมรักคุณนะ ดารการ"
"ชั้นขอโทษนะคะ คำรณ เราคงเป็นได้เพียงแค่เพื่อนกัน"
ดารการสีหน้าจริงจังกับสิ่งที่เอ่ยออกไป...คำรณผิดหวัง เขายิ้มอย่างผู้แพ้แต่แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวด
อาคมเดินถือกระดาษไขเข้ามาในห้องประชุม เอาหัวกะโหลกวางข้างนอก เขาเอากระดาษไขลอกลายอักขระโบราณนั่นอย่างตั้งใจ จอห์นนี่กำลังเลือกหนังสือในห้องสมุด ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องประชุม"พี่อาคม จะทำอะไร เดี๋ยวมันเฮี้ยนขึ้นมาอีกทีจะยุ่งนะ"
อาคมพูดกับตัวเอง
"หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง"
อาคมมุ่งมั่น ในขณะที่จอห์นนี่นั้นยังไม่เข้าใจว่าอาคมทำอะไร
นาฬิกาบอกเวลา ตี 3 ...ภายในห้องนอนรัตติกาล เธอยังคงนอนลืมตา นอนไม่หลับ แม้อาศัยหีบเพลงกล่อมแต่ก็ยังไม่เป็นผล ....เธอตัดสินใจลุกขึ้นและเดินไปที่ระเบียง ….
เธอมองลงไปที่สระน้ำก็พบว่า เศกยืนจ้องเธออยู่ เศกยิ้ม....เศกกดโทรศัพท์หารัตติกาล
รัตติกาลเข้าไปหยิบโทรศัพท์
"นอนไม่หลับอีกล่ะสิ ข้าวต้มมิดไนท์ดีกว่า"
"นายนี่มันเหลือเกินจริงๆ เอาของกินมาล่อ รอแป๊บนะ เดี๋ยวลงไป"
รัตติกาลยิ้มให้กับการกระทำของเศก เธอจัดแจงตัวเองเพื่อไปกับเศก....ที่ด้านล่าง เศกยิ้มพอใจ
เวลาต่อเนื่อง....อาคมและจอห์นนี่ช่วยกันค้นตำราเล่มโต หลายเล่ม จอห์นนี่เปิดตำราอักขระโบราณแปลเป็นคำปัจจุบันให้อาคม
"มีทั้งภาษาขอมโบราณ ภาษามคธ ผสมกับภาษาสันสกฤตปนกันยุ่งไปหมด ... อยากจะเป็นลม"
"อีกนิดเดียวก็ครบแล้ว อดทนหน่อย"
ผ่านเวลา...ทั้งสองช่วยกันเปิดหนังสือ จอห์นนี่เดินเข้าเดินออก หยิบหนังสือเล่มใหม่ๆ.... อาคมเดินไปล้างหน้าเพื่อสลัดความง่วง....จนกระทั่ง
"โอ๊ย .... เสร็จสักที"
"เก่งมาก จอห์นนี่"
"หมดสภาพ วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม ผมขอร่วงก่อนล่ะพี่"
จอห์นนี่ถลาไปนอน.....อาคมมองที่ตัวอักษรที่แปลนั้นด้วยความพึงพอใจ
ภายในสถานที่ซึ่งดูน่ากลัวราวกับห้องลับในโบราณสถาน คำรณกำลังนอนอยู่....แล้วสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ..
"ใครบังอาจมาลองดีกับข้า"
คำรณหยิบลูกแก้วประหลาดคล้ายตามนุษย์มากำไว้แล้วหลับตาท่องคาถา
คำรณซึ่งใช้ตาทิพย์ดูอาคมอยู่
ภายในห้องหนึ่งในสำนักงาน ซึ่งจะเป็นห้องที่ปลอดสายตาคน อาคมกำลังสวดคาถาที่จอห์นนี่ถอดมาให้ อาคมเอามือชี้ไปที่คาถาเหล่านั้น ซึ่งมันเป็นการสวดถอยหลัง อาคมงึมงัมคาถา
คำรณบอก
"มึงแน่มาก ... ไอ้หนู แต่มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว คาถานั่นมันมีฤทธิมากกว่าที่มึงคิด เดี๋ยวมึงจะได้รู้"
คำรณนับประคำอย่างใจเย็น
ขณะที่อาคมกำลังสวดคาถาถอยหลังอยู่นั้น จู่ๆลมวูบหนึ่งก็พุ่งเข้าปะทะตัวของเขา กลุ่มควันสีดำหมุนรอบๆห้อง อาคมสะดุ้งแล้วเขาก็ปวดที่ท้องอย่างรุนแรง .... แต่เขายังไม่เลิกที่จะสวดคาถานั้นต่อไป อาคมต่อสู้กับความเจ็บแต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจทนทานได้ เขาดิ้นทุรนทุรายราวกับถูกบิดไส้ อาคมเริ่มคุมสติไม่อยู่ เขาเหมือนวิกลจริต ตื่นตะหนก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เขางึมคาถานั้นไม่หยุด
รัตติกาลเข้ามาที่สำนักงานตอนเช้า มองเห็นจอห์นนี่หลับอยู่ก็แปลกใจ มองเห็นเอกสารมากมายบนโต๊ะในห้องประชุม เห็นกระดาษไขที่ลอกข้อความมาจากกะโหลก
เสียงร้องเจ็บปวดของอาคม รัตติกาลสงสัยจึงไปตามเสียงที่ได้ยิน
อาคมคลุ้มคลั่ง ปากก็งึมงำคาถานั้น บ้างก็หัวเราะ บ้างก็กราดเกรี้ยว เห็นภาพหลอนไปหมด
รัตติกาลเข้ามาในห้อง เธอตกใจที่เห็นอาคมในสภาพเช่นนั้น
"อาคม อาคม เป็นอะไร"
อาคมไม่ตอบ เขากลับผลักรัตติกาลล้มลง คลุ้มคลั่งอาละวาด โวยวายเสียงดัง คลานเข้าหารัตติกาล จอห์นนี่วิ่งเข้ามาอย่างสลึมสลือ...เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็ตกใจมาก
"จ้อนมาช่วยกันจับอาคมไว้ก่อน"
จอห์นนี่เข้าไปจับอาคม แต่ถูกอาคมเหวี่ยงกระแทกข้างฝา
"ทำไมเล่นแรงอย่างนี้ล่ะพี่อาคม...เมื่อคืนยังให้ช่วยงานอยู่เลย"
จอห์นนี่เข้าไปจะจับอาคมอีก...กลับโดนชกหน้ากระเด็น....จังหวะนั้นที่เศกเข้ามาเห็นเหตุการณ์"เฮ้ย มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย อาคม แกเป็นอะไรไปวะ"
เศกเข้าไปหาอาคม อาคมทำร้ายเศก เศกป้องกันตัว เกิดชุลมุนขึ้น
"เศก ทำให้อาคมสงบเร็วที่สุดนะ"
เศกตัดสินใจชกไปที่อาคม...หมัดแรกอาคมยังไม่ล้ม เศกปล่อยมัดที่สอง อาคมล้มลง รัตติกาลเข้าไปรับไว้ทัน
"เกิดอะไรขึ้น...แล้วทำไมอาคมถึงเป็นแบบนี้"
เศกหันไปถามรัตติกาล...รัตติกาลสั่นหน้าไม่รู้สาเหตุ เศกให้ไปถามจอห์นนี่...
ที่ไซต์ก่อสร้าง จอห์นนี่วิ่งไปที่รถบดถนนคันหนึ่ง เขาเปิดหีบเอากระโหลกบุญเพ็งกลิ้งราวกับโยนลูกโบว์ลิ่ง ไปที่ล้อบด...หัวกระโหลกนั้นถูกรถบดถนนทับแตกละเอียด ...ลุงหมึกยืนดูอยู่อีกฟากหนึ่ง
วิเศษในชุดที่พร้อมจะไปทำงาน เดินขึ้นรถโดยมีดารการหิ้วกระเป๋าเดินมาส่ง ...แต่เมื่อวิเศษขับรถพ้นประตูบ้านเราจะเห็นรถเบรกกะทันหัน...อาจารย์วิเศษเปิดประตูวิ่งเข้ามาที่บ้าน...อาจารย์เจ็บปวดที่แผลอย่างรุนแรง...ดารการวิ่งเข้าไปหาอย่างตกใจ
"เป็นอะไรไปคะ"
"โอย ... ทำไมมันปวดขนาดนี้"
วิเศษเปิดดู ปรากฏว่าแผลขยายลุกลาม
"แผลนั่นมันลามขึ้นกว่าเดิม"
วิเศษมองออกไปที่ประตูบ้าน
"ฝีมือคำรณ"
"คำรณมาที่นี่ เหรอคะ"
"ไม่ได้มา.... แต่เขาน่าจะใช้คาถากำกับไว้ในยาสั่ง เดี๋ยวผมขอลองอีกครั้ง"
"ฉันไม่เข้าใจเลยว่าคุณพูดอะไร"
วิเศษลองเดินไปที่ประตูบ้านและก้าวเท้าออกนอกแนวบ้าน...จู่ๆ เขาก็สะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บปวด...อาจารย์รีบถอยกลับเข้าบ้าน แผลขยายมากกว่าเดิม
"ยาสั่ง.. ตอนนี้ผมรู้อย่างหนึ่งแล้วว่ายาสั่งของคำรณจะออกฤทธิ์เมื่อไร"
"แผลที่ลุกลามนั่นก็เป็นเพราะยาสั่งเหรอคะ"
"ถูกต้องแล้ว"
ดารการเป็นห่วง เธอเข้าไปกอดสามีไว้
"แล้วคำรณเค้าทำอย่างนี้ทำไม เค้าหวังอะไร เค้าต้องการอะไร"
วิเศษและดารการอยู่ที่หน้าบ้านเหมือนถูกกักขังไว้จากคำรณ
อ่านต่อตอนที่ 14