xs
xsm
sm
md
lg

"หมอผี" ตอนที่ 11 ผีถ้วยแก้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ละครซีรีส์ "หมอผี" ตอนที่ 11 ผีถ้วยแก้ว

แถวอาคารเรียนเก่า ที่ร้างไม่ได้ใช้งานมานาน 2-3 ปีแห่งหนึ่ง
เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 4 คน เล่นตะกร้อกัน หนึ่งในนั้นมี ดิ่ง รวมอยู่ด้วย
ลูกตะกร้อกระเด็นข้ามหัวของดิ่งไปทางด้านหลังอาคาร
"เฮ้ย เดี๋ยวกูไปเก็บเอง"
ดิ่งวิ่งไปหลังอาคารร้าง เขามองไปรอบๆ บรรยากาศเงียบ พารู้สึกขนลุก
ดิ่งวิ่งมาเก็บลูกตะกร้อที่กลิ้งไปที่โคนต้นไม้ใหญ่ๆ ใกล้ๆกัน มีกระเป๋าหนังที่ถูกฝังไว้ในดินโผล่ขึ้นมา ดิ่งเห็น เหมือนมีแรงดึงดูดให้เขาสนใจมัน ดิ่งเก็บมันขึ้นมา ในกระเป๋ามี ถ้วยแก้วใบเล็กๆ กระดาษแข็งหนาที่ถูกพับเอาไว้ เมื่อดิ่งกางออกมันมีขนาดใหญ่ตีเป็นช่องๆ และมีตัวอักษรตั้งแต่ ก-ฮ ตัวเลข สระ และมีช่องที่เขียนว่าใช่ ไม่ใช่ และช่องที่พัก
เสียงเพื่อนตะโกนเข้ามา
"เฮ้ย ดิ่ง ได้ยังวะ"
"เอ้อๆ"
ดิ่งรีบเก็บถ้วยแก้ว และกระดาษพับลงกระเป๋า แล้ววางซ่อนเอาไว้ที่ใต้ต้นไม้ ก่อนจะวิ่งออกไป

บรรยากาศของโรงเรียนมัธยมยามค่ำคืน วังเวง เงียบงัน ต้นไม้ใหญ่ดูทะมึน ใบไม้แห้งที่ตกอยู่ที่พื้นปลิวไปตามแรงลม
ที่ท้ายโรงเรียน มีอาคารเรียนเก่าแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว มันเป็นอาคารหลังเล็ก ชั้นเดียวที่ถูกก่อสร้างด้วยปูน ตอนนี้ปล่อยร้างไม่ได้ใช้งานมานานหลายปี
ณ มุมหนึ่ง เด็กนักเรียน 4 คน เป็นชาย2 หญิง2 ได้แก่ ดิ่ง เทพ กลอย เค้ก ท่าทางมีพิรุธมองซ้ายขวา เมื่อเห็นไม่มีใครอยู่ก็แอบวิ่งเข้าไปที่อาคารเรียนร้าง
ดิ่งส่องไฟฉายหาบริเวณใต้ต้นไม้ที่ซ่อนกระเป๋าหนังเอาไว้ จนเจอ ดิ่งชูกระเป๋าให้เพื่อนๆดู เด็กสามคนมองหน้ากันแบบกลัวๆ

กลางห้อง ในอาคารร้าง ดิ่งเดินนาเข้ามา เขาเอากระเป๋าหนังเก่าๆ ใบนั้นวางลงที่พื้น แล้วหยิบของในกระเป๋าออกมา ในกระเป๋ามี ถ้วยแก้วใบเล็กๆ กระดาษแข็งหนาที่ถูกพับเอาไว้ เมื่อดิ่งกางออกมันมีขนาดใหญ่ตีเป็นช่องๆ และมีตัวอักษรตั้งแต่ ก-ฮ ตัวเลข สระ และมีช่องที่เขียนว่าใช่ ไม่ใช่ ดิ่งจุดเทียน2-3 เล่ม แล้ววางไว้กลางวงเพื่อให้เกิดแสงสว่าง
เค้กถาม
"เอาจริงเหรอดิ่ง"
"เอ่อดิ ... ถ้าจะเล่นก็ต้องที่นี่แหล่ะ เพราะเขาว่า ตึกเนี่ยเฮี้ยนสุดแล้ว มีคนเคยบอกว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้มาจากตึกนี้ แต่พอมองเข้ามากลับไม่เจอใครเลย"
"เอ่อหลอนจริงๆ แล้วมึงไปได้ของพวกนี้มาจากไหนวะ" เทพถาม
"อย่าถามเยอะ มาๆ มาลองเล่นดู"
ดิ่งจุดธูปอัญเชิญดวงวิญญาณ กลอยหันไปมองรอบๆ อย่างหวาดระแวง
"ข้าพเจ้าขออัญเชิญดวงวิญญาณที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้มาสถิตอยู่ที่แก้วใบนี้ด้วยเทิด"
ดิ่งนำถ้วยแก้วครอบควันธูปแล้วปิดถ้วยแก้ว ก่อนนามาคว่ำลงบนแผ่นกระดาษ
เพื่อนๆ เขยิบตัวเข้ามาใกล้ เขาเอานิ้วชี้ของพวกเขาแตะอยู่ที่ถ้วยแก้ว เด็กๆพากันจ้องมองลุ้น แต่แก้วไม่ขยับเขยื้อน
"ยังไงวะดิ่ง"
"จุ๊ๆ ไอ้เทพ ใจเย็นๆ ซิวะ"
"ข้าพเจ้าขออัญเชิญดวงวิญญาณมาสถิตอยู่ที่แก้วใบนี้"
จู่ๆ ถ้วยแก้วก็ขยับเขยื้อน มันวนอยู่ตรงช่องพัก พวกเขาทั้งสี่คนต่างตกใจ
"เฮ้ยดิ่งมึงรับมุขเร็วไปหรือเปล่าวะ"
"เปล่ากูไม่ได้ดัน"
"นี่พวกแกอย่าแกล้งกันแบบนี้ซิ ไม่ดีเลยนะ" กลอยบอก
"ไม่ได้แกล้ง จริงๆ นี่เขามาแล้ว จะถามอะไรกันดี"
เค้กถาม
"เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"
ถ้วยแก้วค่อยๆ ขยับ มันเคลื่อนไปที่ช่อง ญ ทุกคนมองหน้ากัน
"เป็นอะไร ตาย" เทพถาม
ถ้วยแก้วขยับไปตามช่องอักษร จนได้คำตอบว่า
"ถูกฆ่าตาย" ดิ่งสะกดอักษร
ทุกคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
"แล้วตายที่ไหน" เทพถาม
"เฮ้ย ไอ้เทพ มึงถามอะไรเนี่ย" ดิ่งโวย
"อ้าวก็กูอยากรู้"
ถ้วยแก้วขยับไปตามช่องอักษร จนได้คำตอบว่า
"ที่นี่"
กลอยเริ่มกลัวบอก
"เฮ้ย หยุดได้แล้ว เราไม่เล่นแล้ว"
กลอยชักมือออกจากถ้วยแก้ว ดิ่งตกใจ
"กลอย เขาห้ามเอานิ้วออกก่อนนะ"
"ไม่เอา ไม่เล่นแล้วกลับบ้านกันดีกว่า"
ทันใดนั้นลมพัดแรงวูบใหญ่ทำให้เทียนไฟดับ เค้กและกลอยส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ เทพหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุด ไฟสว่างขึ้นอีกครั้ง แต่เทพถึงกับส่งเสียงร้องลั่น เพราะที่มุมห้องในเงามืด มีร่างของผู้หญิงนั่งอยู่ผมยาวปิดบังใบหน้า
ดิ่ง เทพ กลอย เค้ก ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความกลัว

ลมพัดแรงจนต้นไม้ไหว ลุงดำ ภารโรง รีบเดินผ่านอาคารเรียนร้างอย่างรวดเร็ว เขามองอย่างหวาดๆ แต่แล้วเสียงกรีดร้องของพวกดิ่ง ทำให้ลุงดำถึงกับสะดุ้ง เขามองไปยังประตูทางเข้าของอาคารและเห็นว่า มันแง้มเปิดอยู่
ลุงดำตัดสินใจเข้าไปที่อาคารร้าง

ลุงดาเข้ามาในอาคารร้างเขาเห็น ดิ่ง เทพ กลอย เค้ก นอนชักน้ำลายฟูมปากอยู่ที่พื้น ลุงดำตกใจ

ต่อมา ...
ดิ่งนอนไม่ได้สติอยู่ในห้องผู้ป่วย มีสายน้ำเกลือและเครื่องช่วยหายใจระโยงระยาง ผอ.ชาตินั่งจับมือดิ่ง ลูกชายด้วยความเป็นห่วง
หมอเดินเข้ามาในห้อง ผอ.ชาติรีบลุกขึ้น
"ตกลงลูกผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ"
"คนไข้มีภาวะสมองสูญเสียความสามารถในการรับรู้ การตอบสนองต่อสิ่งเร้า ซึ่งหมอเองก็ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดก่อนนะครับ"
หมอเดินออกไป ผอ.ชาติเข่าอ่อน เขาทรุดตัวลงนั่ง
ลุงดำ ภารโรง เปิดประตูเข้ามา
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ห๊ะนายดำ"
"ผมเดินเข้าไปก็เห็นพวกเด็กนักเรียนลงไปนอนชักอยู่ที่พื้นแล้วครับผอ. แล้วก็นี่ครับ"
ลุงดายื่นกระเป๋าหนังให้ผอ.ชาติ
ผอ.ชาติ รับกระเป๋าหนังจากลุงดามาเปิดดู เขาเจอถ้วยแก้วและแผ่นกระดาษเล่นผีถ้วยแก้ว
"เฮ้ย นี่มัน ... เป็นไปไม่ได้"

ผอ.ชาติตกใจ มือของเขาสั่น

ผอ.ชาติหยิบกระเป๋าหนังที่ใส่อุปกรณ์การเล่นผีถ้วยแก้ว ไปเก็บไว้ในตู้และล็อคมันไว้
เขานั่งมองรูปถ่ายของดิ่งตอนรับประกาศนียบัตรเรียนดีคู่กับเขา เขาจมกับความเศร้า จนเผลอหลับไป

ผ่านเวลา ในความฝัน ผอ.ชาติยืนงุนงงอยู่ในความมืด
"พ่อครับ" เสียงดิ่งเรียก
"ดิ่ง ลูกอยู่ไหน"
ผอ.ชาติ เริ่มคุ้นชินกับความมืด เขาเริ่มมองเห็นรอบข้าง ดิ่งยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ผอ.ชาติ รีบเดินไปหาแต่เหมือนดิ่งกลับถอยห่างออกไป
"พ่อ ช่วยผมด้วย"
ผอ.ชาติคว้าข้อมือของดิ่งไว้ แต่คว้าได้แค่เพียงนาฬิกาข้อมือ ดิ่งถอยห่างออกไปเรื่อยๆ

ผอ.ชาติสะดุ้งตื่น เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า เขามองเห็นรูปถ่ายของดิ่งยังวางอยู่ที่โต๊ะ
นาฬิกาข้อมือของดิ่ง อยู่ในมือของผอ.ชาติ

ท่ามกลางบรรยากาศในโรงพยาบาลต่างจังหวัด
รัตติกาล และ อาจารย์วิเศษเดินเข้ามาในโรงพยาบาล ที่มุมหนึ่ง ผอ.ชาติ นั่งอยู่ที่ม้านั่ง
"ชาติ"
"เฮ้ย วิเศษ"
ผอ.ชาติรีบลุกขึ้นแล้วเดินมาหาวิเศษอย่างดีใจ
"ขอบคุณมากเลยนะที่มา"
"เฮ้ย ต้องมาซิวะ ชาติ..... นี่รัตติกาล ผู้ช่วยผม"
รัตติกาลยกมือไหว้ผอ.ชาติ
"สวัสดีคะ"
ผอ.ชาติรับไหว้รัตติกาล
"สวัสดีครับ"
"แล้วเด็กๆอยู่ที่ไหนกันล่ะ"
"ตามเรามาเลย"
ผอ.ชาติเดินนา อาจารย์วิเศษและรัตติกาลไปยังห้องผู้ป่วย

วิเศษและรัตติกาล เดินตามผอ.ชาติเข้ามาข้างในห้องผู้ป่วยพิเศษ
ดิ่งนอนอยู่กลางห้อง รัตติกาลเห็นกลุ่มควันสีดำลอยอยู่ทั่วห้อง ทำให้เธอหันไปมองๆรอบๆ แต่ผอ.ชาติและวิเศษมองไม่เห็น
"รัตติกาล"
รัตติกาลสะดุ้งเล็กน้อย
"ค คะ"
"มีอะไรหรือเปล่า"
รัตติกาลมองไปที่อาจารย์วิเศษและ ผอ.ชาติ
"ไม่มีอะไรคะ"
รัตติกาลเดินไปนั่งข้างๆเตียงของดิ่ง แล้วบีบมือของดิ่งเบาๆ
รัตติกาลหลับตา
ในห้วงจิตของรัตติกาล เธอเห็นแต่ความมืดดำ มีเพียงเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะ
รัตติกาลลืมตา เธอมองมาที่อาจารย์วิเศษ
"ปกติถึงแม้ร่างกายไม่ตอบสนองแต่ผู้ป่วยก็สามารถรับรู้สัมผัส และความเจ็บปวดได้ด้วยจิตแม้ในขณะที่ป่วยโคม่า แต่กรณีนี้เหมือนจิตล่องลอยออกไป คือไม่รับรู้อะไรเลยคะ"
"คนที่ตกใจอะไรสุดขีดบางครั้งวิญญาณเผลอหลุดออกจากร่าง แบบที่เค้าเรียกว่า ขวัญหาย หน่ะ"
ผอ.ชาติมีสีหน้ากังวล

ต่อมา ทุกคนเดินมาตามทางเดินของโรงพยาบาล
"ชั้นให้นายดำเป็นทำความสะอาดที่บ้านพักแล้วนะ มีอะไรโทร.หาชั้นได้ตลอดเลย"
"อืม นายไปดูลูกเถอะ พรุ่งนี้เราจะเข้าไปหาที่โรงเรียน"
"ขอบคุณนายมากจริงๆ"
ผอ.ชาติจับมือของอาจารย์วิเศษอย่างจริงใจ รัตติกาลยกมือไหว้ลา
"สวัสดีค่ะ"
ผอ.ชาติยิ้มให้กับรัตติกาลและย์วิเศษ แล้วเขาก็เดินกลับเข้าห้องไป
วิเศษหันมามองรัตติกาล เขารู้สึกว่ารัตติกาลมีใบหน้าซีดเซียว
"รัตติกาล เธอหน้าซีดมากเลยนะ"

วิเศษและรัตติกาล หยอดเหรียญตู้น้ำดื่ม แล้วเอาเครื่องดื่มมาดื่มนั่งคุยกันตรงม้านั่ง
"อาจารย์คะ ซีว่าบรรยากาศในห้องไม่ค่อยดีเลยคะ"
"คุณเห็นอะไรในห้องเหรอ"
"ความชิงชัง ความโกรธ ความเกลียด"
"แค่นั้นก็กลายเป็นพลังงานที่รุนแรงได้แล้ว"
"ปกติผอ.ชาติเป็นคนยังไงคะอาจารย์"
"เธอคิดว่าสาเหตุอาจมาจากเค้างั้นเหรอW"
รัตติกาลนิ่ง คิด
ภาพที่เห็นเมื่อ ผอ.ชาติเดินออกมาส่งอาจารย์วิเศษและรัตติกาลตรงทางเดิน
รัตติกาลยกมือไหว้ เมื่อเธอเงยหน้ามองผอ.ชาติ เธอเห็นมือเล็กเรียว ทาเล็บสีดำ โผล่มาจากด้านหลังมาจับอยู่ที่คอของผอ.ชาติ แต่มีแค่มือเท่านั้น

บรรยากาศหน้าบ้านพักครู เป็นบ้านไม้สองชั้น ดูเงียบเหงา
รถของทีมหมอผีแล่นมาจอดที่หน้าบ้านพักครู
อาคม เศก มหาเนิร์ด จอห์นนี่เดินลงจากรถ พวกเขามองสำรวจบ้านพัก มหาเนิร์ด จอห์นนี่พากันบิดหลังคลายเมื่อย
มหาเนิร์ดบอก
"โอ๊ย นั่งนานเมื่อยสุดๆ GPS ก็พาอ้อมซะไกลเลย"
จอห์นนี่บอก
"แต่บรรยากาศที่นี่ดี ใช้ได้เหมือนกันนะ อากาศก็สดชื่น"
"ไม่รู้อาจารย์วิเศษกับซีจะมาถูกหรือเปล่า" เศกบอก
เศกหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
"อ้าวเฮ้ย แบตหมด"
อาคมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เศกยิ้มแล้วแบมือ เพราะเขาคิดว่าอาคมจะให้ยืมโทรศัพท์
"เดี๋ยวผมโทร.บอกพวกเขาเอง"
อาคมเดินหาสัญญาณของโทรศัพท์มือถือไปรอบๆ จนเขาไปหยุดอยู่ที่หลังบ้าน สัญญาณโทรศัพท์กลับมาอีกครั้ง อาคมกดโทร.ออก
ระหว่างรอรัตติกาลรับสาย อาคมมองไปรอบๆ เขารู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองเขาอยู่ ...รัตติกาลส่งเสียงตอบรับกลับมา

"ฮัลโหลซี ... ได้ยินผมมั้ยฮัลโหล ผมได้ยินชัดเจน...ขับมาทางเส้นไหนอะ อ่อ ใช่ๆเส้นนั่นแหล่ะวิ่งทางหลักอย่างเดียวเลย .. อืม แล้วเจอกัน"

อาคมวางโทรศัพท์ เขารู้สึกเหมือนมีใครยืนอยู่ทางด้านหลังของเขา
อาคมหันไปมอง เขาเห็นลุงดำโผล่ตัวหลบๆ มุมทางหน้าต่างของบ้าน ดูน่าขนลุก
"สวัสดีครับ"
ลุงดำไม่ตอบ เขาหันหลังแล้วเดินออกนอกหน้าต่างไป อาคมแปลกใจ เขาเดินไปด้านหน้าของบ้าน
เศก มหาเนิร์ด จอห์นนี่ช่วยกันหยิบกระเป๋าสัมภาระ และอุปกรณ์การทำงาน อาทิ กล้องบันทึกภาพ ขาตั้งกล้อง เครื่องมือวัดพลังแม่เหล็กไฟฟ้า กรงดักพลังงาน ลงจากรถ
อาคมเดินเข้ามา เขามองไปที่ในบ้าน
"มีคนอยู่ในบ้านนะ" อาคมบอก
"ใคร"
มหาเนิร์ดและจอห์นนี่หยิบของขึ้นไปบนบ้าน ประตูเปิดออก ทำให้มหาเนิร์ดและจอห์นนี่ถึงกับตกใจ ลุงดำยืนหน้านิ่งๆ ในมือของเขามีอุปกรณ์ทำความสะอาด
"อุ้ย สวัสดีครับ"
ลุงดำมองพวกมหาเนิร์ดอย่างหวาดระแวง เขารีบเดินลงบันไดและออกจากบ้านไป
จอห์นนี่อยากรู้
"ใครอะ"
"ไม่รู้ซิครับพี่"

ผ่านเวลา ทีมหมอผีนั่งกันอยู่ที่ชานบ้าน
อาจารย์วิเศษบอก
"คงเป็นนายดำ ภารโรงของโรงเรียนมาช่วยทาความสะอาดให้หน่ะ"
"ดูท่าทางเค้าแปลกๆ นะครับ ทำเอาพวกผมตกใจเลย" เศกบอก
"แล้วเด็กนักเรียนเป็นอย่างไรบ้างครับอาจารย์"
"ขวัญหาย กลายเป็นผัก ... พรุ่งนี้ลองไปดูที่เกิดเหตุอาจจะพอตั้งต้นได้บ้าง"

บรรยากาศบ้านพักครู ยามค่ำคืน มีเพียงแสงสลัวจากภายในบ้าน รอบๆตัวบ้านมืดสนิท มีเสียงตุ๊กแกส่งเสียงร้องทักมาเป็นระยะๆ
ในห้อง มหาเนิร์ดและจอห์นนี่นอนอยู่ในมุ้ง มหาเนิร์ดนอนลืมตามองไปยังเพดานห้อง และมองไปรอบๆห้อง ห้องไม้ดูทึบๆ ทำเอามหาเนิร์ดรู้สึกวังเวง สักพักเขาก็ลุกขึ้นนั่ง จอห์นนี่ลืมตาขึ้นมามอง
"เป็นอะไร นอนไม่หลับเหรอไง"
"อืม"
"ออกไปเดินเล่นกันดีกว่ามหาเนิร์ด"

มหาเนิร์ดและจอห์นนี่เดินถือกระบอกไฟฉาย พลางสูดอากาศบริสุทธิ์ หิ่งห้อยบินมาวนๆรอบตัวแล้วบินไปอีกทาง
"นี่ผมไม่ได้เห็นหิ่งห้อยนานแล้วนะเนี่ยพี่จอห์นนี่"
มหาเนิร์ดและจอห์นนี่เดินตามหิ่งห้อยไปตามทาง แต่จู่ๆ มันก็หายไป
"อ้าว มันหายไปไหนแล้ว"
มหาเนิร์ดและจอห์นนี่หันไปมองรอบๆ ทันใดนั้นแสงจากกระบอกไฟฉายดับๆติดๆ จอห์นนี่เขย่ากระบอกไฟฉายสองสามครั้ง
มหาเนิร์ดรู้สึกเหมือนมีเงาดำวิ่งผ่านหน้าเขาไป เขาหันมองแต่มีแต่ความมืด ปกคลุมโดยรอบ
กระบอกไฟฉายติดอีกครั้ง แต่มหาเนิร์ดแทบสะดุ้ง เมื่อเห็นดิ่ง เด็กนักเรียนชายคนหนึ่งยืนไม่ใส่รองเท้า
"พี่ครับ"
"โธ่น้องตกใจหมด"
"เอ้อ ดึกแล้วมาทำอะไรแถวนี้" จอห์นนี่ถาม
"ผมอยากกลับบ้าน .... แต่ผมหาทางกลับไม่ถูก"
"อ้าว แล้วบ้านอยู่ไหนล่ะ ไป เดี๋ยวพวกพี่ไปส่ง"
เสียงคนเดินออกมาจากพงหญ้า เป็นเทพ กลอย และเค้ก เดินตามดิ่งออกมา พวกเธอผิวซีดเผือดและไม่ใส่รองเท้า
จอห์นนี่ถาม
"อ้าวมีเพื่อนมาด้วยเหรอ"
จอห์นนี่และมหาเนิร์ดมองหน้าของดิ่ง และเพื่อนๆของเขา ใบหน้าของเด็กนักเรียน เศร้าหมอง กลอยและเค้กเริ่มสะอื้น น้ำตาพวกเขาเริ่มไหลออกมาเป็นเลือด
"พวกผมไปไม่ได้"
จอห์นนี่และมหาเนิร์ดตกใจ เขาพากันวิ่งหนีสุดชีวิต

มหาเนิร์ดและจอห์นนี่วิ่งเข้ามาในห้องพัก
"เมื่อกี้นี้คือผีใช่มั้ยพี่จอห์นนี่"
"แน่นอนเลย ... เรานอนกันดีกว่า"
จอห์นนี่รีบมุดเข้าไปในผ้าห่ม

บรรยากาศโรงเรียนมัธยม ช่วงสาย ๆ นักเรียนเข้าห้องเรียนกันหมดแล้ว
อาจารย์วิเศษอยู่ในห้องของผอ.ชาติ เขาเดินสำรวจไปรอบห้องระหว่างรอ วิเศษสังเกตเห็นรูปถ่ายของผอ.ชาติที่ยืนถ่ายร่วมกับอาจารย์ และลูกศิษย์ รูปของผอ.ชาติกำลังมอบรางวัลเรียนดีให้กับดิ่ง มีรูปของดิ่งหลายใบที่เขาได้รับรางวัลและประกาศนียบัตร
ผอ.ชาติเดินเข้ามา
"ขอโทษทีนะวิเศษ รอนานมั้ย พอดีชั้นติดสายจากกระทรวงนะ"
"ไม่เป็นไรเพื่อน"
ผอ.ชาติสังเกตเห็นว่าอาจารย์วิเศษกำลังยืนอยู่ตรงหน้ารูปของเขาที่มอบรางวัลให้กับดิ่ง
"เขาเป็นความภาคภูมิใจของชั้นเลยนะ ดิ่งเขาเรียนเก่ง และไม่เคยทำให้ชั้นผิดหวังเลย
อืม... แล้วเจนเป็นอย่างไงบ้างล่ะ เรียนชั้นไหนแล้ว"
"ปีหนึ่ง มหาลัยเดียวกับที่เราสอนหน่ะ แต่เรียนไม่ค่อยเก่งหรอก ติดเล่น ติดเพื่อนซะมากกว่า"
"เอาน่า ... แต่ดีนะ ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า ชั้นอยู่กันกับลูกชายแค่สองคน แถมยังมาเกิดเรื่องแบบนี้อีก"
วิเศษเดินมาจับไหล่ของผอ.ชาติเป็นเชิงปลอบใจ
"ใจเย็นๆ นะ เราจะหาทางช่วยให้ลูกชายนายกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ แต่นายต้องบอกทุกอย่างกับเรา"
"ชั้นก็บอกไปหมดแล้วไง ไม่ได้ปิดบังอะไรนายสักหน่อย"

ผอ.ชาติหลบสายตาอาจารย์วิเศษ

บรรยากาศหน้าอาคารเรียนร้าง ขนาดตอนกลางวันยังดูวังเวง 
ลุงดำกวาดใบไม้มากองรวมกัน เขาหันไปมองในอาคารเรียนอย่างหวาดระแวง
รัตติกาล อาคม เศก มหาเนิร์ดและจอห์นี่ เดินเข้ามา
"สวัสดีครับ"
ลุงดำไม่โต้ตอบจอห์นนี่ เขาหยิบกุญแจไขประตูอาคารเรียนร้างออก ระหว่างนั้นอาคมและเศกก็เดินเข้ามาใกล้
"ลุงเจอพวกเด็กๆที่นี้เหรอครับ" อาคมถาม
"ใช่ กลางห้องด้านใน"
"ตอนนั้นเด็กๆเค้าทำอะไรกันครับ"
"ไม่ ...ไม่รู้ซิ"
เศกถาม
"แล้วตึกนี้ปิดมานานหรือยัง"
"ก็นานแล้วนะ"
รัตติกาลมองไปรอบๆ อาคารเรียน เธอเห็นเงาดำวิ่งไปทางด้านหลังอาคาร รัตติกาลเดินตามไป
ที่ด้านหลังอาคาร เห็นต้นไม้ ต้นหญ้าขึ้นรก ด้านหลังไม่มีใครอยู่ กลิ่นเหม็นสาบลอยปะทะจมูกของเธอจนต้องเอามือปิดจมูก
รัตติกาลมองไปรอบๆ หาต้นตอของกลิ่นนั้น แล้วก็ต้องผงะ ที่ต้นไม้ใหญ่มีซากนกตายถูกแขวนไว้กับกิ่งไม้หลายตัว รัตติกาลถอยหลัง ชนเข้ากับอาคมที่เดินตามมา เธอรีบหันไปตั้งการ์ดใส่
"เฮ้ย ใจเย็นๆ"
"ตกใจหมดเลย"
อาคมหันไปมองซากนกที่แขวนอยู่ใต้ต้นไม้
ด้านหน้าอาคาร
รัตติกาลกับอาคมเดินกลับมาด้านหน้า ... ประตูเปิดออก
"เชิญ"
"ที่ด้านหลังเป็นฝีมือของใครอะลุง'"
"ก็คงเป็นเด็กแถวนี้แหล่ะ พวกคุณเข้าไปกันเองนะ ผมอยู่รอข้างนอก"
ลุงดำไม่ยอมเข้าไป เขาถอยห่างออกไปยืนด้านหลัง
รัตติกาล อาคมเดินนำเข้าไปด้านใน

รัตติกาล อาคม เศก เดินนำเข้ามาด้านใน ซึ่งมีทั้งฝุ่นและหยากไย่ ด้านในค่อนข้างทึบแสง เศกเดินไปเปิดสวิตช์ไฟ แต่มันไม่ทำงาน อาคมหยิบไฟฉายเล็กขึ้นมาส่อง
มหาเนิร์ด จอห์นนี่ เดินตามเข้ามา จอห์นนี่ถือเครื่องมือวัดพลังแม่เหล็กไฟฟ้า มหาเนิร์ดมีเครื่องอัดวิดีโอติดตัวมาด้วย เขาคอยบันทึกภาพไปด้วย
อุปกรณ์การเรียน สารพัน ถูกผ้าขาวคลุมไว้
อาคมเดินไปตรงกลางห้อง เขามองเห็นรอยเทียนหยดอยู่ที่พื้น และรอยเท้านักเรียนย่ำอยู่บริเวณนั้นหลายรอย และมีรอยนั่ง ล้อมกันเป็นวงกลม
"วันนั้นพวกเด็กคงนั่งกันอยู่ตรงนี้"
เศกหยิบโครงกระดูกวิทยาศาสตร์ออกมาเล่นแหย่รัตติกาล
"ซีจ๋า"
"โตแล้วน่าเศก"
เศกหัวเราะ เสียงของเขาก้องไปทั่วห้อง แต่เมื่อสิ้นเสียงหัวเราะของเศก รัตติกาลกลับได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงหัวเราะแทรกมาด้วย เธอรีบหันไปมองรอบๆ มีเธอเพียงคนเดียวได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิง
"อะไรเหรอซี"
"ซีได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กผู้หญิง"
เครื่องมือวัดพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ในมือของจอห์นนี่บอกระดับความแรง เสียงสัญญาณถี่ยิบดังรัว
รัตติกาล อาคม เศกหันไปมองทางจอห์นนี่
"เครื่องวัดพลังงานร้องดังมาก"
ผ้าสีขาวผืนใหญ่ลอยสูงขึ้น เหมือนมีใครซ่อนตัวไว้อยู่ในผ้า มันยืนอยู่ด้านหลังของจอห์นนี่
มหาเนิร์ดร้อง
"เฮ้ยพี่จ้อน"
อาคมพุ่งตัวไปผลักผ้าสีขาวนั่น ผ้าขาวร่วงหล่นพื้นเหมือนไม่มีใครอยู่ด้านใน เป็นแค่ผ้าขาวธรรมดา
รัตติกาลได้ยินเสียงหวีดเล็กๆ อื้ออึงอยู่ในโสตประสาท จนเธอรู้สึกหูอื้อ รัตติกาลล้มลง
"ซี!!"

รัตติกาลลืมตาตื่นขึ้น อาคมและเศก ยืนอยู่ข้างเตียง
เศกรียก
"อาจารย์ครับๆ"
อาจารย์วิเศษเดินเข้ามาดูอาการของรัตติกาล
"เป็นอย่างไงบ้างรัตติกาล"
รัตติกาลดันตัวลุกขึ้นนั่ง
"เอ๊ะ ที่นี่"
"จู่ๆเธอหมดสติไปนะ"
"ซีไม่รู้ตัวเลยคะ แต่ซีได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิง"
ผอ.ชาติที่นั่งอยู่ด้านหลังห้อง หน้าเสีย มือสั่น

ภายในห้องผอ.ชาติ
เอ เด็กนักเรียนหญิง เดินถือหนังสือพิมพ์เข้ามาวางบนโต๊ะ
เสียงหัวเราะของเด็กผู้หญิงดังขึ้นเบาๆ ทำให้เด็กหญิงเอหันไปมอง
ประตูตู้เก็บของเปิดออก เด็กหญิงเอเดินเข้าไปดู เธอเห็นกระเป๋าใส่อุปกรณ์ผีถ้วยแก้วที่วางอยู่ด้านใน

บรรยากาศโรงเรียนต่างจังหวัด ชั่วโมงเรียนคาบบ่าย

คุณครูเดินเข้ามาในห้องเรียน นักเรียนทาความเคารพ
"เอาล่ะ ไหนลองเปิดไปหน้า 32"
เด็กหญิงเอ ก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ เสียงของมีคมขูดกับโต๊ะไม้ดังแกร่กๆ จนคุณครูรู้สึกประหลาดใจ เขาเดินเข้าไปหานักเรียนหญิงคนนั้น
"นักเรียน ทำอะไรอยู่"
เด็กหญิงเอเงยหน้าขึ้นมามองที่โต๊ะเรียน เธอใช้คัตเตอร์ขูดโต๊ะ ตีเป็นช่องๆ และมีตัวอักษรตั้งแต่ ก-ฮ ตัวเลข มือของเธอเปื้อนเลอะเลือด เพราะถูกใบคัตเตอร์บาด
คุณครู คว้ามือของเด็กหญิงเอ เขาพยายามแย่งมีดคัตเตอร์ออกมา แต่เด็กหญิงเอควบคุมสติไม่ได้ เธอดิ้นรนเพื่อทำลักอักษรลงบนโต๊ะต่อไป
"หยุด หยุดได้แล้ว"
มีดคัตเตอร์หล่นลงพื้น
เด็กนักเรียนหญิงที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ อีกสามคน เริ่มมีอาการผิดปรกติ พวกเธอนั่งตัวสั่น
เมื่อเด็กหญิงเอ กรีดร้อง พวกเด็กนักเรียนหญิงอีกสามคนก็ล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วกรีดร้องตาม มีอาการชัก
อาคม เศก อาจารย์วิเศษวิ่งตามเข้ามา พวกเขาต่างเข้าไปช่วยประคองร่างของเด็ก 4 คน
ผอ.ชาติ วิ่งเข้ามา เขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

ต่อมา ผอ.ชาติเดินเข้ามาในห้องอย่างร้อนรน เดินไปที่ตู้เก็บของ ประตูเปิดอ้าค้างไว้ เขาควานหากระเป๋าหนังที่เขาเก็บไว้ แต่มันไม่อยู่ตรงนั้น

ผ่านเวลา เลิกเรียนแล้ว
ผอ.ชาติเดินเข้ามาในห้องเรียนที่เกิดเหตุ
เขาค้นหากระเป๋าหนังตามลิ้นชักนักเรียน จนกระทั่งเขาเจอมันอยู่ใต้โต๊ะของเด็กหญิงเอ เขารีบหยิบกระเป๋าหนังนั่นออกมาเปิดดู ข้างในมีอุปกรณ์เล่นผีถ้วยแก้ว
วิเศษยืนอยู่ที่ประตู
"นั่นอะไรอะ ชาติ"
ผอ.ชาติตกใจ เขารีบปิดฝากระเป๋าหนังแล้วพยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เปล่า เราลืมของน่ะ"
"ชาติ นายกำลังปิดบังอะไรเราอยู่ใช่มั้ย"
วิเศษเดินมาใกล้ผอ.ชาติ เขาหยิบกระเป๋าหนังในมือของผอ.ชาติออกมาเปิดดู
"นี่มัน ของสำหรับเล่นผีถ้วยแก้วนิ"
"ก็แค่ของเล่นเด็กๆ หน่ะ ไม่มีอะไรหรอกวิเศษ"
"แต่ของเล่นอันนี้อาจจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของเด็กๆหลายคนเลยนะชาติ นั่นรวมถึงลูกชายนายด้วย"
"ก็ได้ๆ... เพราะชั้นมีนายคนเดียว ลูกชายชั้นเอาอันนี้มาเล่นกับเพื่อนแล้วเขาก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอีก"
"โอเค เอามาให้เรา"
ผอ.ชาติ ลังเล วิเศษดึงกระเป๋าหนังนั่นแล้วเดินออกจากห้องไป

บ้านพักครู ตอนกลางคืน ที่กลางโต๊ะ มีอุปกรณ์ผีถ้วยแก้ววางแบไว้ ทีมหมอผี นั่งล้อมวง
"เป็นเพราะผีถ้วยแก้ว หรืออุปทานหมู่ เราต้องลองสร้างสถานการณ์จำลอง" วิเศษบอก
จอห์นนี่ไม่เข้าใจ
"อุปทานหมู่"
รัตติกาลอธิบาย
"คำว่าอุปทานหมู่เป็นภาษาทางจิตเวช แปลมาจากคาว่า Mass Hysteria คือมีอาการทางจิตเวชพร้อมๆกันหลายๆคน เมื่อผู้ป่วยคนนั้นเริ่มแสดงอาการ คนอื่น ๆ รอบข้างก็เริ่มแสดงอาการด้วย เพราะเชื่อว่าตัวเองก็ประสบภาวะอย่างเดียวกัน"
อาคมบอก
"คนที่มีจิตใจเข้มแข็งกว่า เป็นผู้นำมากกว่า เวลาป่วยก็จะชักนำให้คนที่จิตใจอ่อนแอกว่า เกิดอาการคล้ายๆกับตนได้"
เศกบอก
"เมื่อก่อนสมัยวัยรุ่นผมก็เคยลองเล่นนะ ผีถ้วยแก้ว"
"แล้วเป็นไง"
"มันก็ขยับนะ แต่เป็นช่วงสั้นๆ ก็แปลกดี"
อาจารย์วิเศษบอก
"สิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์คือ จุดสมดุลและแรงฟรีไวเบชั่น"
"การที่นิ้วกดอยู่บนถ้วยแก้วเป็นเวลานาน ร่างกายจะเกิดการอ่อนล้า ทำให้นิ้วมือเกิดการสั่นโดยอิสระ และการสั่นนี้ทำให้แก้วเคลื่อนที่ไปเองได้" มหาเนิร์ดบอก
"ถูกต้อง แต่ก็มีบางกรณีที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ ว่าทำไมบางคำตอบถึงแสดงผลลัพธ์ออกมาในสิ่งที่ผู้เล่นไม่รู้ เพราะงั้นเราจะมาทดลองกัน"

จอห์นนี่ติดตั้งกล้องวิดีโอ มหาเนิร์ดเตรียมเครื่องบันทึกเสียง
วิเศษ รัตติกาล อาคม เศก นั่งล้อมวงกันอยู่ที่กลางห้อง ในตึกร้าง ตำแหน่งเดียวกับที่ดิ่งและเพื่อนๆ เคยมาเล่นผีถ้วยแก้ว
วิเศษนำถ้วยแก้วครอบควันธูปแล้วปิดถ้วยแก้ว ก่อนนำมาคว่ำลงบนแผ่นกระดาษ
วิเศษ รัตติกาล อาคม เศกเอานิ้วชี้ของพวกเขาแตะอยู่ที่ถ้วยแก้ว พวกเขาหลับตาพลางเพ่งสมาธิ
หลอดไฟกระพริบดับๆติดๆ ลมพัดฝุ่นที่พื้นปลิว เสียงจากเครื่องวัดพลังงานร้องดังขึ้น
รัตติกาลลืมตา เธอรู้สึกถ้วยแก้วขยับเขยื้อน รัตติกาลมองเห็นวิญญาณของมะลิมาคอยดันแก้ว
"เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของเธอใช่มั้ย"
ผีมะลิยิ้ม เธอดันแก้วไปตามตัวอักษร
วิเศษ อาคม เศก มองตามถ้วยแก้ว
วิเศษอ่านตามตัวอักษรที่เคลื่อนไป
"ใช่"
"เธอชื่ออะไร"
แก้วเคลื่อนไปตามตัวอักษรจนได้คำตอบ
"มะลิ"
"มะลิ เธอทำไปทำไม"
แก้วเคลื่อนไปตามตัวอักษรจนได้คำตอบ
"เหงา"
"แล้วตอนนี้วิญญาณของเด็กคนอื่นๆ อยู่ที่ไหน"
แก้วไม่ขยับ รัตติกาลจึงถามซ้ำ
"เธอเอาพวกเค้าไปไว้ที่ไหน"
ผีมะลิจ้องมองรัตติกาลเขม็ง
"พี่มาอยู่เป็นเพื่อนหนูนะ"
ผีมะลิพุ่งตัวใส่แล้วบีบคอรัตติกาล เธอดิ้นให้หลุด วิเศษ อาคม เศกต่างตกใจ พวกเขารีบเข้าไปประคองรัตติกาล ผีมะลิหายไปแล้ว
"ซีเป็นไงบ้าง"
อาคมหันไปมองที่ถ้วยแก้ว มันมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากถ้วย
"มะลิ คือใคร"

"เอาล่ะตอนนี้เราเริ่มใกล้คำตอบแล้ว ตัวรับส่งสัญญาณระหว่างมิติก็คือถ้วยแก้วใบนี้ ไม่ว่ามะลิ จะเป็นใครก็ตามเราต้องหยุดเรื่องนี้ให้ได้"

บรรยากาศโรงเรียนทั้งโรงเรียนเงียบ ร้าง ไม่มีเด็กนักเรียน

ที่โต๊ะทางาน ผอ.ชาติ นั่งเซ็นเอกสาร เสร็จแล้วยื่นให้คุณครูอีกคนที่ยืนรออยู่ตรงหน้า
"ผอ. จะให้แจ้งผู้ปกครองเลยมั้ยคะว่าโรงเรียนเราจะเปิดสอนปกติอีกทีเมื่อไหร่"
"ยังๆ บอกผู้ปกครองว่ารอดูอาการของเด็กๆก่อนนะ"
"คะ ผอ."
คุณครูเดินออกไปจากห้อง วิเศษเดินเข้ามา ผอ.ชาติเงยหน้ามาทักทาย
"เป็นยังไงบ้างวิเศษ"
"นายพอจะรู้จัก คนที่ชื่อมะลิมั้ย"
ผอ.ชาติมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ เราไม่เคยได้ยินเด็กนักเรียนชื่อนี้"
"อืมงั้นไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวได้ความคืบหน้ายังไงจะมาบอก แต่นายรู้ได้ยังไงว่า มะลิเป็นเด็กนักเรียน เพราะเราก็แค่เอ่ยชื่อเฉยๆ"
"อ่อ ชั้นเดาน่ะ"
อาจารย์วิเศษยิ้มให้แล้วเดินจากไป

บรรยากาศวังเวงของห้องสมุด ไม่มีนักเรียน มีแต่ครูบรรณารักษ์นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์
ที่ด้านในสุดของห้องสมุด มหาเนิร์ดและจอห์นนี่ช่วยกันเปิดดูหนังสือรุ่นของโรงเรียน
"พี่จ้อนๆ เด็กคนนี้คุ้นๆนะว่ามั้ย"
"ไหน"
จอห์นนี่ชะโงกหน้าไปดูใกล้ๆ มหาเนิร์ดชี้รูปของดิ่งให้ดู
ดิ่งในชุดนักเรียนยืนอยู่กับเพื่อนๆ เทพ กลอย เค้ก
จอห์นนี่ครุ่นคิด
บริเวณบ้านพักครู จอห์นนี่และมหาเนิร์ดเดินเล่นตอนกลางคืน แล้วพวกเขาได้พบกับดิ่ง และเพื่อนๆ ในชุดนักเรียนแต่ไม่ใส่รองเท้า กำลังหาทางกลับบ้าน
"นี่มันผีที่เราเจอนิ ที่บอกหาทางกลับบ้านไม่ถูกอะ"
"ใช่จริงๆด้วยพี่จ้อน ..งั้นเดี๋ยวผมไปทาเรื่องขอยืมหนังสือก่อนดีกว่า เผื่อพี่ซีเขาจะได้ดูด้วยว่ามีรูปของเด็กที่ชื่อมะลิมั้ย รอตรงนี้แปปนะ"
จอห์นนี่พยักหน้า มหาเนิร์ดลุกเดินออกไป
จอห์นนี่เปิดหนังสือวารสารของโรงเรียนดูไปเรื่อยๆ สักพักเขาได้ยินเสียงหนังสือตกลงพื้น จอห์นนี่หันไปมอง เสียงหนังสือตกหล่นลงพื้นอีกสองสามเล่ม จอห์นนี่จึงลุกขึ้นไปดู
จอห์นนี่เดินมาที่ชั้นวางหนังสือ ที่พื้นไม่มีหนังสือตกอยู่เลย จอห์นนี่มองอย่างงงๆ เขาเดินเข้าไปดูตามซอกชั้นหนังสือ
ที่ด้านหลังของจอห์นนี่ หนังสือเล่มหนึ่งตกลงพื้น จอห์นนี่หันหลังกลับมาดู เขาก้มลงเก็บและนำไปวางใส่ตรงช่องที่ว่าง แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจ เมื่อมีเส้นผมสีดำยาวเลื้อยมาพันมือของเขา จอห์นนี่เห็น ผีมะลิ ยืนมองเขาผ่านช่องวางหนังสือ เธอแสยะยิ้ม
มหาเนิร์ดเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ เขาไม่เห็นจอห์นนี่ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาเปิดหนังสือวารสารโรงเรียนที่จอห์นนี่เปิดค้างไว้ ขึ้นมาดู
มหาเนิร์ดเปิดหน้าวารสารเป็นรูปของเด็กหญิงมะลิ มหาเนิร์ดมองแล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือนรูปถ่ายมีชีวิต มันกลอกตามองตามเขา มหาเนิร์ดจ้องมองเขม็งอย่างไม่เชื่อในสายตาตัวเอง แต่แล้วรูปของเด็กหญิงมะลิก็ยื่นมือออกมาดึงมหาเนิร์ดให้เข้าไปในหนังสือ
ผ่านเวลา
ครูบรรณารักษ์ เดินเข้ามา เธอเห็นมหาเนิร์ด นอนสลบอยู่ที่พื้น น้าลายฟูมปาก
ครูบรรณารักษ์กรีดร้อง

มหาเนิร์ดและจอห์นนี่นอนกลายเป็นผัก อยู่บนเตียงในห้องผู้ป่วย วิเศษ อาคม เศก รัตติกาลเดินเข้ามาอย่างร้อนรน
เศกเขย่าตัวจอห์นนี่เบาๆ
"เฮ้ยจอห์นนี่ๆ"
รัตติกาลบีบมือของมหาเนิร์ด แต่พวกเขาก็ไม่ขยับเขยื้อน
"ทำยังไงดีคะอาจารย์"
"วิญญาณของมะลิคงทำให้มหาเนิร์ดและจอห์นนี่ตกใจ จนสามารถดึงวิญญาณของพวกเขาออกไปได้"
"พวกเราที่เหลือก็อาจจะเป็นเป้าหมายต่อไป"
"ผมไม่รอให้มันมาหาแน่ ผมจะเข้าไปหามันเอง" อาคมบอก
"มันเสี่ยงเกินไปอาคม ในมิติที่วิญญาณมะลิสร้างขึ้น เธอจะไม่มีทางทำลายมันได้ และเธออาจจะหาทางออกไม่เจอ"
อาคมมองมหาเนิร์ดและจอห์นนี่ที่นอนนิ่งอยู่ที่เตียง

วิญญาณของมหาเนิร์ดเดินอยู่ในอาคารเรียนร้าง เขาได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากห้องๆหนึ่ง
มหาเนิร์ดเดินเข้าไป เขาเห็นจอห์นนี่และเด็กคนอื่นๆ ถูกผูกเชือกมัดไว้
"พี่จอห์นนี่"
"มหาเนิร์ด นายมาที่นี้ได้ยังไง รีบหนีไปเร็ว"
มหาเนิร์ด รีบเดินไปแก้มัดให้จอห์นนี่
"ผมไม่รู้ว่ามาได้ยังไงแต่เราต้องหนีไปด้วยกัน"
ผีมะลิปรากฏตัวขึ้น
"พวกพี่จะไปไหนกัน มะลิไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น"
"เด็กคนนี้มันเพี้ยน นายรีบหนีไป"
"มะลิเกลียดผู้ใหญ่ก็เพราะแบบนี้แหล่ะ เอางี้ดีกว่า สงสัยต้องเชือดไก่ให้ลิงดู"
ผีมะลิถือเชือกเส้นหนึ่งขึ้นมา เธอเดินไปหาดิ่งที่ถูกผูกเชือกมัดไว้ข้างๆจอห์นนี่
"อย่า..." ดิ่งร้อง

ผีมะลิใช้เชือกรัดคอดิ่ง โชว์ให้มหาเนิร์ดและจอห์นนี่ดู ดิ่งดิ้นทุรนทุราย เด็กคนอื่นๆต่างร้องไห้ระงมด้วยความกลัว

ในห้องผู้ป่วย ผอ.ชาตินั่งเฝ้าดูดิ่งอยู่ข้างเตียง

เสียงเตือนจากเครื่องชีพจร ร้องเตือนดังอย่างน่าใจหาย ผอ.ชาติตกใจ เขามองไปที่ดิ่ง
ดิ่งนอนดิ้นทุรนทุราย น้าลายฟูมปาก ผอ.ชาติตกใจทำอะไรไม่ถูก เขารีบกดออดเรียกพยาบาล
เพียงไม่นาน หมอและพยาบาลก็วิ่งกรูกันเข้ามา
"เกิดอะไรขึ้นครับพยาบาล ทำไมลูกผมเป็นแบบนี้"
พยาบาลบอก
"ญาติออกไปรอข้างนอกก่อนนะคะ"
พยาบาลกันผอ.ชาติให้ออกมารอด้านนอก

ผอ.ชาติเดินอย่างคนหมดแรง วิเศษเดินเข้ามาหา
"ชาติ นายต้องบอกเราได้แล้วนะว่ามะลิคือใคร"
"ได้ๆ เราจะบอกทุกอย่าง นายต้องช่วยลูกของชั้นให้ได้นะ"
ผอ.ชาติทรุดตัวลงนั่งกับพื้น

ในอดีต
ผอ.ชาตินั่งยิ้มแย้มให้กับผู้ปกครองของมะลิ ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา
"เข้าเรียนกลางเทอมไม่มีปัญหาหรอกครับ เด็กหัวไว ยังไงก็เรียนทันเพื่อนอยู่แล้ว"
"อืม เด็กมันน่าสงสาร บ้านไฟไหม้หมด ไม่เหลือใคร ไม่เหลืออะไรเลย ดิฉันก็เลยรับเธอมาดูแล"
ผู้ปกครองเดินไปเรียกมะลิให้เข้ามาในห้อง
"มะลิๆ"
มะลิเดินเข้ามา เธอยกมือไหว้ผอ.ชาติ เธอเป็นเด็กนักเรียนหน้าตาน่ารัก และดูเรียบร้อย

ในคาบเรียนคุณครูแจกกระดาษข้อสอบ
"วันนี้มีสอบย่อยนะ นักเรียน"
มะลิหยิบรูปปั้นเทวรูปเล็กๆ ขึ้นมาวางบนโต๊ะ
นักเรียนนั่งทำข้อสอบกัน มะลิส่งเสียงพึมพาคล้ายบทสวด
ผ่านเวลา... เป็นเวลาหลังเลิกเรียน เพื่อนๆ ในห้องต่างมามุงที่โต๊ะของมะลิ
เพื่อน 1ถาม
"ตอนสอบเธอทาอะไรอะ"
"กำลังร่ายมนต์ให้สอบได้ที่ดีๆไงล่ะ"
เพื่อน 2 บอก
"ปัญญาอ่อน ชั้นไม่เชื่อหรอก"
"หึหึ ไม่เชื่อก็ตามใจซิ"
มะลิหัวเราะแล้วเดินออกจากห้องไป

บรรยากาศอาคารเรียนร้างในอดีต ตอนนั้นยังเป็นอาคารเรียนที่ใช้งานกันอยู่
มะลิเอาซากนกแขวนไว้กับกิ่งไม้ เพื่อนๆนักเรียน 4 คนยืนมองดูอย่างหวาดเสียว
"ถ้าทำแบบนี้ พวกเธอจะได้สอบได้ที่ดีๆ เหมือนกับชั้นไงล่ะ"
เพื่อน 1บอก
"แต่มันจะไม่บาปเหรอมะลิ"
"บาปอะไรกัน นี่ก็แค่เครื่องสังเวย พวกเธอก็เห็นแล้วนิ ว่าคะแนนสอบของชั้นดีแค่ไหน
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ถ้าพวกเธออยากรู้อะไรนะ มาเล่นผีถ้วยแก้วกับชั้นที่นี้นะ"
เพื่อนนักเรียนคล้อยตาม ช่วยมะลิเอาซากนกแขวนไว้กับกิ่งไม้

มะลิเดินเข้ามาในห้องพักครู
"มะลิ เธอบอกครูมาซะดีๆ ว่าเธอโกงข้อสอบหรือเปล่า"
"เปล่าสักหน่อย"
"แล้วจะเป็นไปได้ยังไง ที่เธอจะทำถูกหมดทุกข้อ ไม่เคยมีนักเรียนคนไหนทำได้เลยนะ"
"หนูไม่ได้โกง"
"งั้นลองอธิบาย กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันให้ครูฟังซิ"
มะลิเงียบไม่ตอบ
ที่หน้าประตูห้องมีเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกับมะลิยืนอยู่ เธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

มะลิเดินเข้ามาในห้องเรียน เพื่อนๆในห้อง มองเธอด้วยสายตารังเกียจ
เพื่อน 1บอก
"เธอไม่ได้มีเวทย์มนต์ สักหน่อย เธอโกงข้อสอบ"
"ไม่จริง เราไม่ได้โกง"
"แม่เราบอกว่า เธอย้ายโรงเรียนมา เพราะบ้านเก่าของเธอไฟไหม้เพราะเธอ"
"ไม่จริง"
เพื่อน 3 บอก
"ใช่ พ่อเราก็บอก ว่าเธอเป็นตัวซวย อยู่กับใครเค้าก็ตายหมด"
มะลิลุกขึ้น เธอโมโห เอาดินสอกดปักแขนเพื่อน จนเลือดพุ่ง เพื่อนๆ ในห้องต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ
ผอ.ชาติเดินผ่านมาพอดี เขาวิ่งเข้ามาดูในห้องเรียน
"มะลิ"

มะลินั่งก้มหน้าอยู่ที่เก้าอี้ หน้าโต๊ะของผอ.ชาติ
"ชั้นคงต้องบอกเรื่องนี้กับผู้ปกครองของเธอ"
"เรื่องอะไรคะ หนูไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย"
ผอ.ชาติ ถอนใจ
"ชั้นได้ยินว่าเธอโกงข้อสอบ ฆ่านก แล้วก็ยังทำร้ายเพื่อนในห้องอีก"
"อย่าบอกคุณป้านะคะ ไม่งั้นเขาต้องไล่หนูออกจากบ้านแน่ๆ"
ผอ.ชาติยกหูโทรศัพท์
"สวัสดีครับ ผู้ปกครองของมะลิใช่มั้ยครับ ผมผอ.ชาติ"
มะลิกำมือแน่นด้วยความโกรธ

เวลากลางคืน
มะลิในชุดนักเรียน เธอถือกระเป๋านักเรียนวิ่งร้องไห้ออกมาจากบ้าน ที่น่องขาของมะลิมีรอยถูกเฆี่ยน
"แล้วไม่ต้องกลับมาอีกนะ นังตัวซวย ก่อเรื่องได้ไม่หยุดหย่อน"
มะลิเดินหายไปในความมืด

ที่โรงพยาบาล ผอ.ชาตินั่งคุยกับอาจารย์วิเศษ
"ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่มีใครเห็นเธออีก"
"แสดงว่าเธอตายแล้วซินะ ถึงได้เป็นวิญญาณแค้น"
"นายต้องช่วยลูกชั้นด้วยนะ วิเศษ ชั้นไม่มีใครแล้วจริงๆ"
"อืม"
วิเศษครุ่นคิดหาวิธี

วิเศษ และ รัตติกาล กลับมาที่บ้านพัก
รัตติกาลเดินนำเข้าไปในบ้าน สักพักเธอก็รีบวิ่งออกมา
"แย่แล้วคะอาจารย์"
"อะไร"
"อาคม กับเศก ไม่อยู่ ซีกลัวว่าพวกเค้าจะไปเล่นผีถ้วยแก้วกัน"
"จริงๆ เลย พวกนี้ ไป รัตติกาล ไปกัน"

วิเศษและรัตติกาลออกจากบ้านพัก

ในอาคารร้าง

อาคม เศก นั่งเล่นผีถ้วยแก้วกันอยู่กลางห้อง จิตของพวกเขาถอดออกไปแล้ว
รัตติกาล และวิเศษ วิ่งเข้ามา
"ไม่ทันแล้ว ทำยังไงดีคะ"
วิเศษมองไปรอบๆ
"ถ้าไม่มีคนนำทาง พวกเขาก็หาทางออกไม่เจอ"
"ซีไปเองคะอาจารย์ ซีทำได้"
"ที่โลกนั่น มะลิคือเจ้าของ มันยากที่จะหาทางออก แต่มันก็ไม่มีทางเลือกแล้ว อย่างน้อยผมก็รู้วิธีเรียกให้คุณกลับมาได้"
วิเศษหยิบหีบเพลงของรัตติกาลออกมา รัตติกาลไปนั่งข้างๆ เศกและอาคม อาจารย์วิเศษเอาหีบเพลงวางตรงหน้ารัตติกาล จากนั้นก็เอาเชือกสีขาวเส้นเล็กๆ พันที่มือของอาคม เศก รัตติกาล และมือของเขาเอง
"ถ้าคุณเจอตัวพวกเขาให้จับมือเขาให้แน่นอย่าปล่อยให้หลุดมือนะรัตติกาล"
"คะอาจารย์"
รัตติกาลใช้นิ้วชี้สัมผัสที่ถ้วยแก้ว แล้วเธอก็หลับตาลง

อาคม และเศก เดินตามหามหาเนิร์ดและจอห์นนี่ เด็กหญิงมะลิวิ่งตัดหน้าไป พร้อมกับเสียงหัวเราะ
เศกบอก
"นี่น้อง แน่จริงออกมาเลยดีกว่า"
เด็กหญิงมะลิโผล่เข้ามาประชิดตัวเศก
อาคมจะคว้าตัวมะลิไว้ แต่เธอก็หายตัวได้ ทิ้งไว้แต่เสียงหัวเราะ
อาคม และเศกวิ่งตาม จนไปเจอห้องๆหนึ่ง ซึ่ง จอห์นนี่และมหาเนิร์ดถูกมัดตัวไว้
"จอห์นนี่ มหาเนิร์ด"
"พี่อาคม พี่เศก"
จอห์นนี่บอก
"ระวังมันมาข้างหลัง"
ผีมะลิยืนอยู่ทางด้านหลัง
"ว๊า จะหนีไปงั้นเหรอ ไม่ได้นะ เอางี้มาเล่นกัน .. พี่สองคนสู้กันดีกว่า"
มะลิชี้นิ้วไปที่เศกและอาคม
ทั้งคู่ควบคุมตัวเองไม่ได้ พวกเขาหันมาชกต่อยกัน
"ไม่นะ หยุด" จอห์นนี่บอก
"พี่เศก" มหาเนิร์ดเรียก
อาคมและเศกผลัดกันแลกหมัด จนบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ยอมหยุด พวกเขาเข้าไปบีบคอของกันและกัน
ทางด้านฝั่งอาจารย์วิเศษ เห็นอาคมและเศก มีเลือดไหลออกมา
รัตติกาลวิ่งมา
"เศก อาคม"
ผีมะลิหันมองรัตติกาล
"อุ้ย ดีจังมีเพื่อนเพิ่มแล้ว"
"หยุดนะอาคม เศก พวกนายมองที่ชั้นสิ"
อาคมและเศกฝืนตัวเองพยายามหันมองรัตติกาล
"ตั้งสติแล้วคิดให้ดีๆว่า พวกนายเป็นใคร แล้วมาที่นี้ทำไม"
อาคมและเศกค่อยๆ ปล่อยมือ
"หยุดนะ ที่นี่มะลิใหญ่ที่สุด พวกพี่ต้องฟังมะลิ"
"ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ มะลิ ถ้าทำตัวแย่ๆแบบนี้จะไม่มีใครรักเธอเลย"
มะลิตกใจ เธอเริ่มสะอื้น
อาคมและเศก หลุดจากการควบคุม พวกเขารีบไปแก้เชือกมัดให้จอห์นนี่และมหาเนิร์ด
"เธอต้องปล่อยพวกเขาไป มะลิ"
มะลิเงยหน้ามองรัตติกาลน้ำตานองหน้า
"มะลิไม่อยากอยู่คนเดียว"
"มะลิไปกับพี่นะ"
มะลิแววตาดุร้าย ใบหน้าเธอกลายเป็นผีร้าย
"ไม่ มะลิไม่เชื่อ พวกพี่ต้องอยู่ที่นี่ ไม่มีใครออกไปได้"
อาคม และเศกคว้าแขนรัตติกาล พวกเขาจับมือกัน มหาเนิร์ดและจอห์นนี่วิ่งจับมือตามออกไปด้วย
พวกเขาวิ่งออกมาตามทางเดิน พื้นเริ่มสั่นไหว เด็กนักเรียนยืนอยู่ตามทาง พวกเขาต่างจับมือกันเป็นทอดๆแล้ววิ่งออกมา
ที่ประตูทางออกกลับมืดสนิท รัตติกาลพยายามพังประตูออกไป แต่ไม่สำเร็จ
เสียงมะลิหัวเราะดังสะท้อนไปทั่ว

อาคม เศก และรัตติกาล ต่างมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก
วิเศษ มองอย่างกังวล เขารีบเปิดหีบเพลงตรงหน้ารัตติกาล อาจารย์วิเศษบีบมือของรัตติกาล
"รัตติกาล กลับมาๆ ๆ"
ลุงดำปรากฏตัวขึ้น เขาถือค้อนปอนด์มาด้วย
อาจารย์วิเศษตกใจ
"เฮ้ย นายดา นายเข้ามาทำอะไร"
"ผม ผมผิดไปแล้วครับ"
นายดำเดินก้าวเข้ามา เขาเงื้อค้อนป้อนด์ขึ้น

มะลิเดินเข้ามาใกล้พวกของรัตติกาล
"พวกพี่ต้องอยู่ที่นี่กับมะลิ"
ทันใดนั้นประตูเปิดออก แสงสว่างจ้าส่องเข้ามา มะลิกรีดร้อง
"ออกไปกันเร็ว" จอห์นนี่บอก
"ไม่ อย่าไปนะ" มะลิบอก
พวกของรัตติกาลและเด็กนักเรียน ต่างวิ่งออกนอกประตูไปได้

ลุงดำใช้ค้อนปอนด์ ทุบกำแพง จนพังทลาย
ที่ด้านในกำแพง มีโครงกระดูกของมะลิซ่อนอยู่
วิเศษตกตะลึง
รัตติกาล อาคม และ เศก ฟื้นคืนสติ
อาจารย์วิเศษ เข้าโผกอดคนทั้งสามอย่างดีใจ

ในอดีต
ลุงดำวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาผอ.ชาติที่กำลังจะขับรถกลับบ้าน
"ดึกแล้วยังไม่กลับอีกเหรอดำ"
"ผอ.ครับ"

ผอ.ชาติวิ่งตามลุงดาเข้ามาในอาคารเรียน เขาเห็นมะลิถือมีดกรีดข้อมืออยู่
"เธอทำอะไรนะ"
"หนูกำลังทำพิธีเซ่นไหว้อยู่คะผอ. เขาว่าที่ตรงนี้แรง อาจจะมีภุมมเทวา มาช่วยให้คำปรารถนาของหนูเป็นจริงได้"
"หยุดทำเรื่องไร้สาระแล้วกลับบ้านไปได้แล้ว มะลิ"
"หนูไม่มีบ้านให้กลับแล้ว ไม่มีใครต้องการหนู"
ผอ.ชาติพยายามแย่งมีดจากมะลิ แต่มะลิไม่ยอม เธอออกแรงยื้อสุดชีวิต แต่เกิดเสียหลักล้มลงกับพื้น ทำให้มีดปักเข้าที่กลางอกของมะลิ
ผอ.ชาติตกใจ มือของเขาเปื้อนเลือด
"มะลิ"
ลุงดำยืนตกตะลึง
"มะลิๆ ดำมาช่วยชั้นเร็ว"
ลุงดำวิ่งมาดูมะลิ แต่เธอตายไปแล้ว
"ทายังไงดีดำ"

ในห้องผู้ป่วย
จอห์นนี่และมหาเนิร์ดค่อยๆฟื้นขึ้นมา
ดิ่ง ฟื้นขึ้นมา ผอ.ชาติโผกอดอย่างดีใจ
เด็กนักเรียนคนอื่นๆ ต่างฟื้นขึ้นมา

ต่อมาที่อาคารร้าง
ผอ.ชาติและลุงดำ เอาดอกไม้ ธูปเทียนมาขอขมา ตรงที่เกิดเหตุ
"ชั้นขอโทษนะมะลิ ยกโทษให้ชั้นด้วยเถอะนะ"
ทีมหมอผี และ ตำรวจยืนดูอยู่ห่างๆ
ผอ.ชาติมองหน้าอาจารย์วิเศษ
"ขอบคุณนายมากนะวิเศษ ขอบคุณที่ทำให้ลูกชายเราฟื้น และ ทำให้เราเป็นอิสระสักที
เรารู้สึกผิดมาโดยตลอด แต่เราขี้ขลาดเกินไป"
"เข้มแข็งนะชาติ เรื่องลูกชายนายไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราจะดูแลเค้าเป็นอย่างดี"
"เราขอบคุณนายมากจริงๆ"
ผอ.ชาติและลุงดำเดินตามตำรวจออกไป
รัตติกาลมองไปที่กำแพงซึ่งพังทลายไป เด็กหญิงมะลิยืนอยู่ เธอยิ้ม แล้วร่างของเธอค่อยๆ กลายเป็นละอองหายไป
"เอาไงต่อดี" เศกถาม
รัตติกาลบอก
"กลับบ้านกันเถอะ"

อาคมหันมองรัตติกาล พวกเขาต่างยิ้มให้กัน
อ่านต่อตอนที่ 12
กำลังโหลดความคิดเห็น