ละครซีรีส์ "หมอผี" ตอนที่ 14 ผีป่า
บรรยากาศในป่า ต้นไม้เขียวชอุ่ม เสียงกรีดร้องของสัตว์ป่าดูน่าสะพรึงกลัว
นายพรานคนหนึ่งบาดเจ็บที่ขา มีเลือดไหลอาบ มันเป็นบาดแผลจากการถูกกัด เขาพยายามวิ่งกระเผลกหนีอย่างสุดชีวิต มีบางอย่างไล่ตามเขามา
นายพรานหยุดหันไปมองรอบๆ ต้นไม้ พุ่มไม้รอบๆตัวเขา สั่นไหว มีบางสิ่งยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ เคลื่อนไหวรวดเร็ว ดูไม่ออกว่ามันคืออะไร
ดวงตาของนายพรานเบิกโพลง ด้วยความกลัว เขาพลาดท่าเสียแล้ว
"อ๊าค"
เสียงร้องของนายพรานลั่นป่า
ร่างของนายพรานถูกลากออกไป โดยบางสิ่งที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
กระเป๋าของนายพรานถูกทิ้งไว้กลางป่า
อาจารย์วิเศษนั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการของเขา ในอินเทอร์เน็ต
ภาพข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต คำสาปแช่ง / รอยสัญลักษณ์
อาจารย์วิเศษครุ่นคิด กับ อาการกำเริบจากเวทมนตร์ของคำรณ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ดารการเดินถือถ้วยน้ำซุปเข้ามา อาจารย์วิเศษรีบปิดหน้าอินเทอร์เน็ต เพราะไม่อยากให้ดารการรู้ว่าตัวเองกาลังดูอะไรอยู่
"ทำอะไรอยู่คะคุณ แอบดูอะไรเอ่ย"
"ไม่ต้องยิ้มแบบนั้นเลย ผมไม่ได้แอบดูเวปโป๊หรอกน่า"
"ชั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ...นี่ชั้นได้สูตรยาจีนมา เค้าว่าดีนะ"
"คุณนี่ก็ช่างสรรหาอะไรมาให้ผมกินเรื่อยเลย จะวางยาผมใช่มั้ยเนี่ย"
ดารการเดินถือถ้วยซุปมายื่นให้ วิเศษรับถ้วยน้ำซุปมาดื่ม ดารการมองอาจารย์วิเศษด้วยความกังวล
"ถ้าคุณเจ็บตรงไหน รู้สึกไม่สบายยังไงต้องบอกชั้นนะ"
"อืม"
ดารการจับใบหน้าของสามีเบาๆ
"แล้วคุณ... ชั้นขอล่ะ อย่าเพิ่งไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณอะไรเลย"
วิเศษจับมือดารการ
"อืม ผมไม่เป็นอะไรหรอกนะดารการ"
"ถือว่าชั้นขอร้อง"
วิเศษมองหน้าดารการที่เต็มไปด้วยความกังวล เขาจึงพยักหน้าตอบรับคำ
เจนเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเป้ ดารการเดินเข้ามาหยุดยืนมองอยู่หน้าประตู
"นี่จะหนีออกจากบ้านเหรอ"
"ป่าวสักหน่อย เจนจะไปเที่ยวกับเพื่อนต่างหาก หนูบอกแม่ไปตั้งหลายรอบแล้วว่า พรุ่งนี้เจนจะไปเที่ยวแคมป์กับเพื่อน ก็ไม่เห็นแม่จะจำได้สักที"
"โอ๊ย ขี้บ่นเหมือนใครเนี่ย แม่แค่แซวเล่น"
"แล้วนี่ไปกันยังไง"
"ไปกันหลายคน แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ"
"แม่อนุญาตก็จริงแต่อย่าลืมรายงานแม่ทุกๆชั่วโมงนะลูก"
"โอเคค่า หนูรู้แล้วว่าหนูขี้บ่นเหมือนใคร ฮ่าฮ่าฮ่า... เดี๋ยวหนูไปบอกพ่ออีกทีดีกว่าว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน"
เจนวิ่งออกไป
"พ่อ"
วิเศษนั่งดื่มซุปอยู่ในห้อง เจนวิ่งเข้ามา
"อยู่กันแค่นี้ เสียงดังเชียว"
"พ่อ พรุ่งนี้หนูไปเที่ยวกับเพื่อนนะ"
"อืมก็ไปซิ เห็นเราพูดหลายทีแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ก็แม่ยังจำไม่ได้เลย ...เดี๋ยวรอบนี้เจนไปเซอร์เวย์ก่อน แล้วรอบหน้าเราไปกันสามคนนะคะพ่อ"
"จ๊ะๆ แต่รับปากกับพ่อนะ ว่าห้ามไปที่ๆมันอันตรายนะ ต้องไม่เสี่ยง รู้มั้ยลูก"
เจนกอดพ่อ อย่างออดอ้อน
"รับปากค่ะพ่อ"
วิเศษลูบหัวเจนด้วยความรัก โดยมีดารการยืนมองอยู่หน้าประตู
วันใหม่ รถไฟแล่นบนราง สองข้างทางรายล้อมด้วยธรรมชาติ เจนและโบ๋วนั่งอยู่ในรถไฟ พวกเธอมองไปรอบๆอย่างมีความสุข เจนหยิบกล้องมาถ่ายรูปวิวนอกรถไฟ
โบ๋วบอก
"ไปบอกแม่แกว่ามากันหลายคน เกิดรู้ทีหลังว่ามากันแค่สองคน เดี๋ยวก็หูชาหรอก"
"ถ้าบอกว่ามากันแค่สองคน เค้าก็ไม่ให้มานะซิ"
"แล้วแกนี่นึกยังไงเนี่ย จู่ๆ ก็ชวนมาเที่ยว"
"เราก็อยากหาอะไรทำใหม่ๆ บ้าง และอีกอย่าง เราอยากลองทำกระทู้รีวิวท่องเที่ยวแบบ สองสาวแบคเพคเกอร์ไรงี้"
"แหม่ะ เอ่อดีๆ 5555 รีวิวท่องเที่ยวพร้อมกับรีวิวของกิน นั่นไง เมนูแรกของพวกเรา ไก่เหลือง"
แม่ค้าขายไก่เหลืองบนรถไฟ กำลังเดินมาพอดี
เจน และโบ๋วยิ้มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ต่อมา เจนและโบ๋ว สะพายเป้ใบโต ยืนอยู่ริมถนน คอยโบกรถ
รถกระบะของชาวบ้านจอด เจนกับโบ๋วเข้าไปเจรจา ก่อนจะยกมือไหว้ แล้วรีบวิ่งปีนไปนั่งกระบะหลัง รถวิ่งออกไป
เจนและโบ๋ว สะพายเป้เดินเข้ามาในเขตอุทยาน ทั้งสองถ่ายรูปเซลฟี่กันหน้าทางเข้า ผ่านเวลา... เจนกับโบ๋วถ่ายรูปตามมุมต่างๆในอุทยาน
เจนและโบ๋วเอากระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปวางในเต็นท์
"อากาศดี๊ดีเนอะ" โบว๋ว่า
"กลางคืนคงจะหนาวน่าดู"
เสียงไผ่ลอดเข้ามา
"ไอ้เอส มึงเห็นไฟแช็คกูป่าววะ"
โบ๋วบอก
"อุ๊ย เต๊นท์ข้างๆ เป็นชายหนุ่ม ออกไปทักทายดีกว่า"
"ใจเย็นเพื่อน"
โบ๋วรีบเดินออกไป
วัยรุ่น หญิง1ชาย3 ซึ่งมี นก ไผ่ เอส ทิม ยืนอยู่หน้าเต็นท์ข้างๆ พวกเขากำลังนั่งกินอาหาร
โบ๋วและเจนเดินออกมาจากเต็นท์ พวกวัยรุ่นหันมามอง
โบ๋วทักทาย
"สวัสดีคะ"
"สวัสดีครับ มานั่งด้วยกันมั้ยครับ" เอสว่า
ทิมชวน
"มานั่งด้วยกันซิ"
โบ๋วเดินเข้าไปนั่งด้วย เจนจึงต้องเดินตามเข้าไป
ไผ่ถาม
"พวกเธอมาจากกรุงเทพกันเหรอ"
"ใช่ แล้วพวกนายล่ะ" เจนบอก
ไผ่บอก
"มาจากกรุงเทพเหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จัก เราชื่อไผ่ แล้วนี่ นก เอส ทิม"
"เราชื่อเจน และนี่เพื่อนเราชื่อโบ๋ว"
"มากันแค่สองคนเหรอ" เอสถาม
"อืม"
"เออ เจ๋งดีแฮะ"
โบ๋วถาม
"พวกเธอเรียนที่ไหนกันเหรอ"
"ไม่เรียนแล้ว สมัยนี้ต้องทำงานหาเงินก่อน เรื่องเรียนไม่จำเป็นหรอก" ไผ่บอก
"ทำงานอะไรกันล่ะ" เจนถาม
"ก็เปิดร้านกันอยู่แถวตลาด.... ไผ่กับนกเค้ามีร้านสัก ส่วนทิมน่ะขายเสื้อแฮนด์เมต ส่วนเรามีร้านค็อกเทลเล็กๆ กลับไปถ้าว่างก็ไปเที่ยวสิ เดี๋ยวเลี้ยงเอง" เอสบอก
โบ๋วหัวเราะ
"เอาสิ"
"แล้วมาที่นี่ ได้ไปจุดไหนมาแล้วบ้าง" ทิมถาม
"ไปถึงแค่น้ำตกชั้นล่างนี่เอง กลัวมืดซะก่อนเลยไม่กล้าไปไกลกว่านั้น แต่กะว่าพรุ่งนี้จะลองขึ้นไปชั้นบนสุดดู"
ไผ่บอก
"พวกเธอสนใจจะมาร่วมทริปกับพวกเรามั้ยล่ะ พรุ่งนี้เราว่าจะเข้าไปสารวจข้างในป่ากัน ไปกับพวกเราได้นะ"
นกหันมองไผ่ สีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
โบ๋วบอก
"เหรอ น่าสนุกนะ"
"โบ๋ว ชั้นว่าเราไปน้ำตกกันนั่นแหละดีแล้ว"
"เอางั้นเหรอ"
ไผ่หันไปหาเอส
"เอส นายไปหยิบของที่เราเจอมาอวดสองคนนี้ซิ เผื่อจะเปลี่ยนใจกัน"
เอสยิ้มแล้วเดินเข้าไปในเต็นท์ นกหันมองไผ่อย่างไม่พอใจมากขึ้น
"ไหนบอกว่าเรื่องนี้จะรู้กันแค่สี่คนไง"
"เอาน่า ไปกันเยอะๆนั่นแหละดี"
เอสเดินออกมาพร้อมกระเป๋าใบหนึ่ง เป็นกระเป๋านายพรานคนนั้น
เอสยื่นให้ไผ่ ไผ่เปิดกระเป๋าแล้วหยิบแผนที่ออกมา มันเป็นแผนที่โบราณ และห่อผ้าสีดำ
"เมื่อเช้านี้ พวกเราเข้าไปเดินเล่นในป่า แล้วเจอกระเป๋าใบนี้ตกอยู่ ข้างในกระเป๋ามีแผนที่อันนี้ แล้วก็.... ที่เด็ดสุดคือ ...อันนี้" ไผ่บอก
ไผ่เปิดห่อผ้าสีดำออกมาเป็นก้อนหินสีเหลือง หรือ บุษราคัม
เจนกับโบ๋วมองของในมือไผ่ตาวาว
"เราดูแผนที่นี่แล้ว มันเขียนถึงถ้ำแห่งหนึ่ง เราว่าในถ้ำนั้นต้องมีไอ้หินแบบนี้อยู่อีกเพียบ"
ทิมบอก
"ถ้าเธอเปลี่ยนใจ จะตามพวกเราไปด้วยก็ได้"
"ไม่รู้จะชวนไปให้เกะกะทำไม" นกบอก
เจนหันไปมองนกที่มีสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
ต่อมา ... โบ๋วนั่งดู เจนหยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปของตัวเองในเต้นท์
"แม่ เจนมาถึงที่พักแล้วนะ ปลอดภัยดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง สัญญาณมือถือไม่ค่อยดีเลย ถ้าโทร.หาไม่ติดไม่ต้องแปลกใจนะ"
เจนกดส่งคลิปออกไป โบ๋วขยับตัวมาใกล้ๆ
"เอ่อ เธอนี่ก็ขยันส่งรูปส่งคลิปให้แม่ดีนะ"
"ขืนไม่ส่ง คราวหน้าขอไปไหนก็ยากล่ะซิ"
"แล้วทำไมแกไม่โทร.หาแม่แกเลย จะส่งเป็นคลิปทำไม"
"ไม่อ่ะ โทร.ไปก็ต้องฟังเสียงแม่บ่นน่ะสิ"
"ฮ่าฮ่าฮ่า"
"แต่ที่นี่มันอับสัญญาณจริงๆเลยนะ เนี่ยยังส่งไม่ไปเลย"
เจนนั่งมองมือถือที่มีสัญลักษณ์กำลังหมุนอยู่ สักพักหน้าจอก็ขึ้นข้อความว่า คลิปได้ถูกจัดส่งแล้ว
"ส่งได้ซักที"
"แล้วตกลงพรุ่งนี้ แกจะไปกับพวกนั้นหรือเปล่า"
"ตอนแรกว่าจะไม่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วแหละ"
"แหม่ แล้วทำเป็นวางท่า"
"ก็ถ้ามีหินพวกนั้นอยู่ในถ้าเยอะจริงๆ ชั้นก็จะได้เอากลับไปฝากพ่อไง พ่อชั้นจะต้องดีใจแน่ๆ พ่อยิ่งชอบเก็บพวกหินแปลกๆอยู่ด้วย"
"ส่วนชั้นนะ ถ้าเจอจริงๆ ชั้นจะเอาไปขาย แล้วถ้าได้เงินเยอะๆ ชั้นจะไปเที่ยวรอบโลกเลย"
"เออ งั้นชั้นไปด้วย แต่ใช้เงินส่วนของแกนะ"
"ไม่ค่อยงกเลยนะแก"
เจนหัวเราะ ก่อนจะนั่งลงสวดมนตร์ โบ๋วทำตาม ทั้งสองสาวสวดมนตร์เสร็จก็ล้มตัวลงนอนซุกไปในถุงนอน
บรรยากาศรอบบ้านวิเศษยามค่าคืน มีเพียงแสงไฟสลัวๆจากดวงไฟภายในบ้านเพียงไม่กี่ดวง
ดารการสะดุ้งตื่นขึ้นมา วิเศษยังคงนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ
นาฬิกาตั้งโต๊ะบอกเวลาว่าเป็นตีสอง
ดารการมองไปที่ประตูหน้าห้อง เธอเห็นแสงสว่างลอดช่องประตูห้องนอน เธอแปลกใจลุกเดินออกจากห้องไป
ดารการเดินออกมาจากห้อง ไฟตรงทางเดิน ดับๆ ติดๆ บรรยากาศวังเวง
ดารการได้ยินเสียงกุกกักมาจากห้องของเจน เธอจึงเดินเลี้ยวเข้าไป
ดารการเดินเข้ามาในห้องของเจน เห็นเจนยืนหันหลังอยู่ในห้อง
"อ้าว เจน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่"
เจนไม่ตอบ เธอค่อยๆหันมาอย่างช้าๆ
ดารการตกใจแทบช็อค เมื่อเห็นเจน มีเลือดเลอะไปทั่วตัว
"แม่"
"แอร๊ย"
ในห้องนอน ดารการกรีดร้องและสะดุ้งตื่น วิเศษที่นอนอยู่ข้างๆ ตกใจ เขากระเด้งตัวขึ้น
"อะไรคุณ เกิดอะไรขึ้น"
"คุณคะ ชั้นฝันร้าย ชั้นฝันเห็น" ดารการชะงัก "เอ่อ เห็นผีน่ะค่ะ"
"โธ่คุณ นึกว่าอะไร คิดอะไรมากมายถึงเก็บไปฝันล่ะเนี่ย นอนเถอะคุณ สวดมนตร์ก่อนนอนอีกทีก็ได้นะ จะได้หลับสบาย"
ดารการล้มตัวลงนอน วิเศษยิ้มขำในความกลัวผีของภรรยา ก่อนที่เขาจะล้มตัวลงไปนอน ดารการลืมตาขึ้นมองไปที่สามี เธอยังคงมีสีหน้ากังวล เธอไม่กล้าเล่าความฝันให้อาจารย์วิเศษฟัง
บรรยากาศเช้าวันใหม่ ป่าครึ้มไปด้วยต้นไม้
เจน โบ๋ว และแก็งค์วัยรุ่นออกเดินสำรวจเข้าไปในป่า เจนคอยถ่ายรูปเป็นระยะๆ
พวกเขาเดินมาจนถึงทางแยก มีป้ายไม้บอกเส้นทาง ชี้ให้ไปทางขวา แต่ทางด้านซ้ายมีป้ายปักเตือนไว้ว่า “ระวัง ห้ามเข้าดินถล่ม” ไผ่มองแผนที่ในมือ
"นี่เมื่อวานพวกเราแอบไปทางนี้กันถึงได้เจอแผนที่เนี่ย ถ้าเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ตามแผนที่ ไม่ไกลเท่าไหร่ก็จะเจอถ้ำนั้น"
พวกเขายืนดูแผนที่อยู่ตรงทางแยก จู่ๆเสียงแตรรถก็ดังขึ้น ทั้งหกคนสะดุ้ง หันไปเห็นรถของอุทยานวิ่งมาจอด พิทักษ์ เจ้าหน้าที่อุทยานเดินลงมาจากรถ
"น้องๆจะไปไหนกัน ตรงนั้น ห้ามเข้านะอันตราย"
"อ่อ ผมมาเดินเล่นถ่ายรูปกันนะครับ" ไผ่บอก
"อ่อ ไปทางขวานะ ตรงนั้นมีจุดชมวิว สวยเลยล่ะ"
"ขอบคุณครับ"
แก็งค์วัยรุ่นเดินไปทางขวา เจ้าหน้าที่ขับรถกะบะนำหน้าไป เมื่อพวกเขาเห็นเจ้าหน้าที่ขับรถพ้นสายตาไปแล้ว พวกเขาก็หันหลังกลับ เดินไปทางตรงกันข้าม แล้วรีบวิ่งเข้าไป
"ชั้นว่ามันอันตรายนะ เมื่อกี้เจ้าหน้าที่คนนั้นเค้าก็เตือน"
"ถ้ากลัวนัก ก็กลับไปก่อนก็ได้นะ"
เจนและโบ๋วมองหน้านกอย่างไม่ชอบใจที่พูดจาดูถูกเธอ
เสียงโทรศัพท์มือถือของเจนดังขึ้น พวกเขาหันมามอง เจนรีบรับโทรศัพท์
"ฮัลโหลคะ แม่ ... อ่อ เจนกำลัง...กำลังถ่ายรูปอยู่คะ ก็ไม่มีอะไรนี่คะ นี่โบ๋วก็อยู่นี่ค่ะแม่ ค่ะๆ ได้ค่ะ"
โบ๋วบอก
"มีอะไรเหรอเจน"
"แม่น่ะสิ โทรมาย้ำว่าอย่าลืมโทร.กลับทุกชั่วโมงน่ะ เห้อ"
นกหัวเราะ
"ว๊าย ลูกแหง่จริงๆด้วย"
"นิเธอ"
เจนดึงแขนโบ๋วไว้ ไม่ให้มีเรื่อง
เสียงลิงร้องดังโหยหวนอยู่กลางป่า ทำให้พวกเขาหันไปมองรอบๆ ด้วยความแปลกใจ
"ในป่ามันก็ต้องมีเสียงสัตว์ร้องเป็นเรื่องปกติแหละ ไปกันเถอะ"
พวกไผ่เดินนาไป เจนกับโบ๋วเดินตามไป
อาคมช่วยมหาเนิร์ดยกกองหนังสือออกมาจากห้องวิเศษ เขาเผลอทำกระเป๋าตังค์ตกโดยไม่รู้ตัว
รัตติกาลเดินเข้ามาในสำนักงาน
"จะขนไปไหนกันเหรอ"
"ขนไปบ้านอาจารย์ครับพี่ ช่วงนี้อาจารย์คงไม่ได้มาที่นี่สักพัก เลยอยากได้หนังสือพวกนี้ไปไว้ที่บ้าน"
รัตติกาลเห็นกระเป๋าตังค์อยู่ที่พื้นจึงเดินไปเก็บ เปิดกระเป๋าตังค์ออกดู เธอเห็นรูปของขวัญข้าวอยู่ในนั้น
"อาคม"
อาคมหันมาตามเสียงเรียกของรัตติกาล
"กระเป๋านายตกน่ะ"
"เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ ขอบคุณนะ ของสำคัญเลย"
"ทำไมมันเปื่อยแบบนี้ล่ะ"
"อ่อ มันเก่าแล้วล่ะ ขวัญข้าวเค้าให้ผมเป็นของขวัญนะ"
"อ่อ"
รัตติกาลยิ้มให้อาคม ก่อนจะเดินกลับไปที่มุมของตัวเอง โดยที่อาคมไม่ทันสังเกตว่าเป็นรอยยิ้มที่เจือไปด้วยความเศร้า
แสงแดดจ้ายามบ่าย เจนและโบ๋วเดินตามแก็งค์วัยรุ่นเข้าไปในป่า หลายชั่วโมงทำให้เริ่มเหนื่อยล้า
เจนถ่ายรูปไประหว่างที่เดินป่า โบ๋วเริ่มปวดขา เธอเดินเซ
โบ๋วถาม
"นี่ อีกไกลมั้ยอะ"
"เอ่อ น่าจะใกล้แล้วนะ" ไผ่บอก
"แผนที่ว่าไงอะ"
"อืม"
เจนเดินไปดึงแผนที่ในมือของไผ่มาดู
"นี่นายดูแผนที่เป็นใช่มั้ย"
ไผ่ยักไหล่ ทิมหัวเราะ
"ทิศเหนือทิศใต้มันยังไม่รู้เลย จะไปดูแผนที่เป็นได้ไง"
"อ้าว"
"มันจะไปยากอะไร ก็แค่เดินๆ ไป ไม่เจอเราก็แค่เดินกลับทางเดิมก็แค่นั้นเอง"
พวกเขาหันไปมองรอบๆ แต่ชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าจะกลับถูกมั้ย
โบ๋วทรุดตัวลงนั่งที่เนินดิน สักพักเธอก็กรีดร้องสุดเสียง
ไส้เดือนจานวนมากกองอยู่ที่เนินดินนั่น เจนรีบไปพยุงแขนโบ๋ว
"ยี้"
นกหัวเราะในท่าทางของโบ๋ว โบ๋วฉุน
"เหมือนพาคุณหนูมาเดินป่าจริงๆ" นกบอก
"นี่เธอ ดูท่าจะไม่กลัวอะไรเลยนะ"
"ก็แล้วมันน่ากลัวตรงไหนล่ะ กะอีแค่ไส้เดือน"
"เจน เรากลับกันเถอะ"
"เราว่าไม่ดีนะ แยกกันไปสองคนเดี๋ยวก็ได้หลงหรอก" เอสบอก
"ทำอย่างกับว่าตอนนี้ไม่หลงใช่มั้ย"
เจนหันไปมองรอบๆ เธอได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาจากทางเบื้องหน้าของพวกเขา
"ตรงนั้นต้องมีลำธารแน่เลย ถ้าเราเดินตามลาธารอาจจะกลับไปถึงที่พักได้"
"ไม่อะ เราจะย้อนไปทางเก่า" นกบอก
"แล้วเธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าจะกลับไปถูก เจนเราไปกันเองเถอะ"
โบ๋วดึงแขนเจนไปทางเสียงน้ำไหล
เจนและโบ๋วเดินมาถึงริมธาร เจนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู
"ไม่มีสัญญาณเลยอะ"
"เราไม่น่าตามพวกนั้นมาเลย"
เจนก้มลงล้างมือในลำธาร โดยไม่รู้ว่ามีบางสิ่งแอบมองพวกเธออยู่
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องของนกก็ดังขึ้น - แอร๊ย...
"เสียงยายนกนี่" เจนบอก
โบ๋วหัวเราะ
"แหม๋ เมื่อกี้ทำเป็นบอกว่าไม่กลัวอะไร ทีนี้ล่ะกรี๊ดซะลั่นเลย"
เสียงของทิมดังขึ้น มันเป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
"อ๊าค"
"เฮ้ย ชั้นว่ามันแปลกๆ อะโบ๋ว"
เจนและโบ๋วรีบวิ่งกลับไปหาพวกแก็งค์วัยรุ่น
เจนและโบ๋ววิ่งกลับมา
ทิมนอนหงาย สภาพท้องถูกเปิดออกอย่างสยดสยอง เขาตายแล้ว
โบ๋วและเจนกรีดร้องด้วยความตกใจ เอส นกและไผ่ยืนตะลึงอยู่กลางป่า พวกเขาหันไปมองรอบๆ
"เมื่อกี้มันตัวเหี้ยอะไรวะเอส" ไผ่ว่า
"กูก็ไม่รู้ มันเร็วจนกู"
ทันใดนั้นนกถูกบ่วงเชือกคล้องขาด้วยความรวดเร็ว มันดึงลากเธอเข้าไปในพงไม้ ไผ่พยายามจะคว้าตัวนก แต่ก็ไม่ทัน
"นก"
พงไม้ขยับ ตัวประหลาดแอบซ่อนกายอยู่หลังพงไม้ นกกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดและชิ้นส่วนของแธอกระเด็นออกมาให้เห็น
เจน โบ๋ว เอสและไผ่ ดวงตาเบิกโพลงด้วยความกลัว
เสียงลิงค่างส่งเสียงโหยหวน ก้องป่า
ในขณะที่ไม่ทันระวังตัว ไผ่ก็ถูกเชือกรัดตัว โดยฝีมือของพวกมัน เจนคว้าดึงไว้ได้แต่กระเป๋า(นายพราน)ของไผ่ ไผ่ถูกพวกมันดึงหายเข้าไปในป่า
"หนีเร็ว"
เอสวิ่งนำ เจน โบ๋ว วิ่งตาม
เจนและโบ๋ววิ่งตกลงไปในหลุมพรางที่นายพรานขุดไว้
"ว๊าย"
เอสวิ่งกลับมา เขาเห็นสองสาวตกลงไปในหลุม เขามองอย่างลังเล
"ช่วยเราด้วย" เจนบอก
เอสตัดสินใจวิ่งออกไปจากตรงนั้น ทิ้งสองสาวไว้เบื้องล่าง
เอสวิ่งหนีไม่คิดชีวิต ผ่านต้นไม้ พงหญ้า แต่เมื่อเขาหยุดวิ่ง กลับกลายเป็นว่า เขาวิ่งวกกลับมาตรงที่เดิม
เอสหันไปมองรอบๆตัวเขา ศพของทิมอยู่ตรงที่เดิม เอสรู้สึกสับสน ทำไมเขาหาทางออกไม่ได้
พุ่มไม้สั่นไหว เอสหันไปมอง ทันใดนั้นบ่วงเชือกคล้องข้อเท้าของเขาอย่างไม่ทันรู้ตัว มันดึงลากเขาเข้าไปในป่า เอสส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว
"อย่า!"
ดารการพยายามโทรหาเจน แต่ก็ไม่ติด เพราะไม่มีสัญญาณ
ดารการว้าวุ่นใจ วิเศษเดินเข้ามาเห็น
"มีอะไรหรือเปล่าคุณ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ"
"อ่อ ... ไม่มีอะไร หิวหรือยัง เดี๋ยวชั้นทำอะไรให้กิน"
"ยังอะ ผมอยากกินกาแฟจัง"
ดารการเดินไปเปิดตู้กับข้าว หยิบขวดน้ำปลามาให้อาจารย์วิเศษ
"หยิบน้ำปลามาให้ผมทำไม"
"เอ่อ อ้าว... กาแฟค่ะๆ"
ดารการรีบไปชงกาแฟให้ อาจารย์วิเศษ มองดารการอย่างสงสัย
เจนพยายามปีนขึ้นไป แต่ก็ไม่สำเร็จ
โบ๋วนอนนิ่งอยู่ในหลุม
"โบ๋วๆ เป็นไงบ้าง"
"ชั้นเจ็บจนชาไปหมดแล้ว"
หน้าของโบ๋วซีดเผือด โบ๋วได้รับบาดเจ็บที่ขา เจนถลกขากางเกงของโบ๋วขึ้น ขาของโบ๋วเป็นแผลลึก
"อดทนหน่อยนะโบ๋ว"
"ชั้นอยากกลับบ้านจัง"
"เข้มแข็งไว้นะโบ๋ว เราจะหาทางกลับบ้านให้ได้"
เจนกอดโบ๋วไว้แน่น โบ๋วหลับตาลง เจนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู มันไม่มีสัญญาณเลย
เจนพยายามกดโทร.ออกแต่ก็ไม่มีสัญญาณ
เสียงลิงค่างร้องดังโหยหวน
เจนกดอัดคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือ
"แม่จ๋า พ่อจ๋า ช่วยเจนด้วย มีตัวอะไรไม่รู้มันไล่ฆ่าพวกเรา หนูกลัว มาช่วยหนูด้วย"
เจนกดส่งคลิปไป แต่มันไม่สำเร็จ เจนยกมือไหว้
"เจ้าป่าเจ้าเขา หากปาฏิหาริย์มีจริง ขอให้พวกหนูได้กลับบ้านได้อย่างปลอดภัยด้วยเถอะค่ะ"
เจนกอดโบ๋วไว้แน่น เธอสะอื้นไห้ด้วยความกลัว
ผ่านเวลา ... เจนหลับไปด้วยความเพลีย โบ๋วนอนหนุนตักเจนอยู่ สีหน้าเธอซีดเซียวเพราะเสียเลือดไปเยอะ
ที่หน้าจอมือถือของเจน จากสัญลักษณ์ที่หมุดอยู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขึ้นข้อความว่าคลิปได้ถูกส่งแล้ว
เวลาเดียวกัน อาจารย์วิเศษหลับไปแล้ว ดารการลืมตาโพลง เธอนอนไม่หลับ
นาฬิกาตั้งโต๊ะบอกเวลาว่าเป็นตีสอง
เสียงเตือนว่าได้รับข้อความจากโทรศัพท์ของดารการดังขึ้น
ดารการรีบเปิดดู มันเป็นคลิปวิดีโอจากเจน ดารการตกใจ เธอรีบปลุกอาจารย์วิเศษ
"คุณๆ แย่แล้ว ทำยังไงดีๆ ยัยเจน"
วิเศษดูคลิปมือถือจากเจน เขารู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาทันที
ดารการลุกขึ้น หยิบกระเป๋า หยิบผิดหยิบถูก สวมเสื้อ ใส่รองเท้ากลับข้าง จนอาจารย์วิเศษเข้ามา จับไหล่ของดารการ
"คุณ ลูกเราจะไม่เป็นอะไร ผมจะไปรับแกกลับมาเอง คุณอยู่รอที่นี่นะ"
ดารการมองหน้าอาจารย์วิเศษ สติกลับคืนมา
"ไม่ ไม่ได้ ชั้นให้คุณไปไม่ได้เด็ดขาด ชั้นจะไม่ยอมให้คุณและลูกเป็นอะไรไปแน่นอน"
"ไม่ ผมจะไปช่วยลูกเอง"
อาจารย์วิเศษหันหลังให้ดารการ เขาหยิบเสื้อผ้าออกมาเปลี่ยน
ดารการตัดสินใจ เธอรีบวิ่งออกไปนอกประตูแล้วล็อคประตูจากด้านนอกห้อง
อาจารย์วิเศษรีบมาผลักประตู แต่ไม่สำเร็จ เขาเคาะประตูรัว
"นี่คุณ ปล่อยผมออกไปนะ"
"คุณเชื่อชั้นนะ ชั้นจะไปช่วยลูกเอง คุณรอฟังข่าวดีแล้วกัน พรุ่งนี้ชั้นจะให้พี่ศักดามาเปิดประตูให้คุณตอนเช้านะคะ"
ดารการรีบเดินออกไป ปล่อยให้อาจารย์วิเศษเคาะประตูเรียก
ผ่านเวลา ดารการยืนกระวนกระวายอยู่ข้างรถ ที่จอดในบริเวณปั๊มที่ต่างจังหวัด
มหาเนิร์ดเรียก
"อาจารย์ผู้หญิงครับ"
ดารการหันไปมอง เห็นมหาเนิร์ดกับจอห์นนี่รีบเดินเข้ามาหา ดารการรีบขึ้นรถ มหาเนิร์ดกับจอห์นนี่รีบเข้าไปนั่งในรถ รถแล่นออกจากปั๊มไปอย่างรวดเร็ว
รถของดารการ มุ่งหน้าไปตามทาง... ในเวลากลางคืน
ภายในรถ มหาเนิร์ด เอาคลิปที่ได้จากดารการมาทำสำเนาใส่ลงเครื่องโน๊ตบุ๊ก เขาลองเปิดเสียงนั่นฟังอีกครั้ง
"แม่จ๋า พ่อจ๋า ช่วยเจนด้วย มีตัวอะไรไม่รู้มันไล่ฆ่าพวกเรา หนูกลัว มาช่วยหนูด้วย"
จอห์นนี่บอก
"เสียงรบกวนเยอะเลย"
"ใช่ แต่พอผมลองแยกเฉพาะเสียงบรรยากาศออกมา แล้วดึงสปีดให้ช้าลง ลองฟังนี่สิครับ"
ดารการขยับตัวเข้ามาใกล้ ได้ยินเสียงร้องที่ฟังน่ากลัว
"เสียงอะไรอะ"
"เหมือนเสียงสัตว์บางอย่าง แต่ฟังแล้วน่ากลัวมากเลยครับ"
มหาเนิร์ดจุ๊ปากให้จอห์นนี่หยุดพูด ทั้งสองคนมองไปทางดารการที่สีหน้าดูเป็นกังวลมาก
เสียงมือถือมหาเนิร์ดดังขึ้น
"ฮัลโหลพี่ซี ครับใช่ครับ เอ๊ะพี่รู้เรื่องแล้วเหรอครับ"
มหาเนิร์ดรีบเปิดสปี๊กเกอร์โฟน
"อาจารย์โทร.บอกเรื่องเจนกับพวกเราแล้ว ตอนนี้พี่ อาคม แล้วก็เศกกำลังขับรถตามไป มหาเนิร์ดค้นหาตำแหน่งของเจนจากคลิปที่ส่งมาได้ใช่มั้ย"
"ได้ครับพี่ เดี๋ยวรู้แล้วจะรีบส่งไปให้นะครับพี่ซี"
"ขอบคุณนะทุกคน ขอบคุณจริงๆ" ดารการบอก
ภายในรถอาคม เศกนั่งอยู่ข้างคนขับ ส่วนรัตติกาลเปิดสปี๊คเกอร์โฟนอยู่ที่เบาะหลัง
ดารการบอก
"ขอบคุณนะทุกคน ขอบคุณจริงๆ"
"ไม่ต้องห่วงนะคะ เจนจะไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะ"
รัตติกาลวางโทรศัพท์
อาคมขับรถไปตามท้องถนน เสียงแลปท็อปของเศกดังขึ้น เศกเปิดดู เป็นข้อมูลที่มหาเนิร์ดแชร์โลเกชั่นมาให้
"มหาเนิร์ดส่งตำแหน่งที่อยู่ของเจนมาให้แล้วครับ"
เศกคลิ๊กเข้าไปดู ภาพจากดาวเทียม แผนที่ประเทศไทย ถูกซูมเข้าไปเรื่อยๆ จนได้ตาแหน่งที่ตั้งของเจน
รถอาคมวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
เช้าแล้ว เจน ลืมตาตื่นขึ้น เธอเผลอหลับไปไม่รู้ตัว เจนรีบหันไปดูโบ๋ว โบ๋วใบหน้าซีดเผือด เธอหลับไม่ได้สติ เจนพยายามปลุกโบ๋วให้ตื่น แต่โบ๋วไม่ได้สติ
"โบ๋วๆ โบ๋ว ตื่นเถอะนะ โบ๋ว"
เจนพยายามตะกายตัวขึ้นไป แต่ก็ลื่นหล่นลงมา
ทีมหมอผีขับรถเข้ามาที่ศูนย์อุทยาน แล้วลงจากรถ พิทักษ์ เจ้าหน้าที่อุทยาน เดินมาหาอาคมอย่างดีใจ
"เฮ้ยอาคม ไม่ได้เจอนานเลยนะเพื่อน"
"อืม ต้องรบกวนนายหน่อยนะพิทักษ์"
"มันเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้วล่ะ นายไม่ต้องกังวลนะ"
"นี่รูปของเด็กที่หายไปค่ะ"
ดารการส่งมือถือที่เปิดหน้าจอเป็นรูปเจนให้พิทักษ์ดู
"อืม หน้าคุ้นๆ เดี๋ยวนะ ... ผมนึกออกแล้ว เมื่อวานผมเจอเด็กคนนี้
กับเพื่อนอีกสี่ห้าคนอยู่ตรงทางไปจุดชมวิว"
"ใช่ค่ะ แกมากับเพื่อนหลายคนเลย"
ดารการมองอย่างมีความหวัง
"พอดีตอนนี้เจ้าหน้าที่คนอื่นไปช่วยช้างป่ากันหมด เลยเหลือผมคนเดียว ...แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ
ผมคิดว่าพวกเค้าคงหลงเข้าป่าไปไม่ไกลเท่าไหร่"
รัตติกาลบอก
"อ.ดารการคะ อ.วิเศษสั่งเอาไว้ว่าให้อ.ดารการรออยู่ที่บ้านพักอุทยานนะคะ"
"พี่เป็นห่วงเจน ยังไงพี่ก็ต้องไปด้วย อย่าห้ามพี่เลยนะซี"
"แต่ว่า"
รัตติกาลมองสีหน้าจริงจังของดารการ จึงหยุดพูดเพราะรู้ว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์
เศกบอก
"ผมว่าเรารีบออกเดินทางกันเลยดีกว่าครับ พวกเจนคงกำลังรอความช่วยเหลืออยู่"
พิทักษ์เดินนำทีมหมอผีเข้าไปในป่า
พิทักษ์เดินนำอย่างคนชำนาญพื้นที่ อาคมและเศกเดินตามติด
"ดูคุณชำนาญทางมากๆเลยนะครับ" เศกบอก
"เอ้อ ก็เค้าคนพื้นที่เนอะ" อาคมบอก
"บางทีผมก็หลงเหมือนกันครับ"
"คุณเคยเจอสัตว์ดุร้ายมั้ย"
"เคยซิ เสือโคร่ง ช้างตกมัน งูเห่า สัตว์ร้ายที่น่ากลัว ผมเจอมาหมดแหล่ะ"
"แต่ผมสังหรณ์ว่าครั้งนี้คงไม่ใช่สัตว์ร้ายที่คุณเคยเห็นแน่ๆ"
พิทักษ์หยุดหันมามองเศก ด้วยความแปลกใจ
เสียงลิงค่างร้องดังรอบๆ เสียงโหยหวน
"พี่ครับเสียงตัวอะไรน่ะครับ ทำไมมันร้องโหยหวนแบบนั้นล่ะครับ" มหาเนิร์ดถาม
"พวกลิงป่าน่ะ เสียงเหมือนกำลังเจอกับสัตว์ที่ใหญ่กว่า"
"พิทักษ์มาดูทางนี้หน่อย"
พิทักษ์และคนอื่นๆเดินไปหาอาคม
ตรงจุดที่อาคมยืนอยู่ จะเห็นรอยเท้าย่ำตรงดินโคลน เป็นทาง
"ไม่ใช่รอยเท้าเสือ นายดูรู้มั้ยว่าเป็นรอยเท้าสัตว์อะไร"
"ไม่ใช่รอยเท้าสัตว์ แต่เหมือนรอยเท้าคนมากกว่า"
"ไม่รู้ว่าทุกคนจะรู้สึกเหมือนชั้นรึเปล่านะ ถ้าเป็นรอยเท้าคนจริงๆ ก็ต้องเป็นคนที่แปลกมากๆ
เพราะมันเหมือนมีเท้าแค่ข้างเดียว ดูสิ"
ทุกคนมองสังเกตไปที่รอยเท้านั้น จะเห็นรอยเท้าย่ำตรงดินโคลน เป็นรอยเท้าข้างเดียว
จอห์นนี่บอก
"จริงด้วย คนมีขาข้างเดียว หรือเป็นคนพิการ"
มหาเนิร์ดหันไปดุจอห์นนี่
"พี่จ้อน ยิ่งหน้าสิ่วหน้าขวานอยู่ ยังจะพูดตลกอีก"
ดารการสีหน้ากังวล เป็นห่วงเจน
อาคมมองตามรอยเท้านั้นไป สีหน้าครุ่นคิด
เจนเริ่มร้อน เพราะแสงแดดเริ่มส่องลงมาในหลุม เธอมองขึ้นไปที่ปากหลุม เธอเห็นเงาคนยืนอยู่ด้านบน
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยพวกเราด้วย"
ใครคนหนึ่งยืนอยู่ตรงปากหลุม ร่างของเขาย้อนแสงทำให้เจนมองเห็นไม่ชัดเจน
"ช่วยด้วย ช่วยพวกเราด้วยคะ พวกเราตกลงมาข้างล่าง"
คนคนนั้นเดินออกไป ก่อนจะมีเชือกโยนลงมาให้ เจนดีใจ เธอรีบเขย่าตัวของโบ๋วให้ตื่นขึ้น
"โบ๋วๆ ตื่นเถอะ มีคนมาช่วยเราแล้ว"
แต่โบ๋วไม่ขยับ เจนครุ่นคิดหาทางออก
"โบ๋วเข้มแข็งไว้นะ เราจะไปตามคนมาช่วย"
เจนคว้าเชือกนั่นไว้ ค่อยๆปีนขึ้นไป
เจนไต่จนมาถึงปากหลุม แล้วเธอก็ต้องตกใจ เมื่อคนคนนั้น กลับเป็นอสูรกายผีกองกอย ยืนจ้องมองเธอ มันเลียริมฝีปากตัวเองเมื่อเห็นเจน อาหารอันโอชะของมัน
เจนกรีดร้องเสียงดังลั่นป่า
ผีกองกอยพุ่งตัวมาหาเจน แต่เสียงปืนดังขึ้น ลูกกระสุนเฉียดหน้ามันไปนิดเดียว มันหลบแล้ววิ่งหนีหายไปในป่า
เจนหันมามองคนที่ช่วยเธอไว้ เจนดีใจ
"พี่อาคม"
ดารการและพวกหมอผี วิ่งตามเข้ามา ดารการเห็นเจนก็ดีใจ
"เจน"
"แม่ ฮือ ฮือ ฮือ"
แม่ลูกวิ่งมากอดกัน เจนร้องไห้กอดแม่แน่น
"พิทักษ์ นายเห็นใช่มั้ย เมื่อกี้มันตัวอะไรกันแน่"
อาคมหันไปมองพิทักษ์ เห็นพิทักษ์มีสีหน้ายังช็อกอยู่
ผ่านเวลา ... โบ๋วถูกพาตัวขึ้นมาจากหลุม เจนนั่งเฝ้าเพื่อนไม่ห่าง
รัตติกาลเอาน้ำดื่มป้อนให้โบ๋ว อาคมอยู่ที่มุมหนึ่งกับพิทักษ์
"นายต้องบอกให้พวกเรารู้นะพิทักษ์ว่ากำลังเจอกับสถานการณ์อะไรอยู่"
พิทักษ์มองหน้าอาคม ก่อนจะตัดสินใจเล่า
"เราก็ไม่ค่อยแน่ใจนะ ว่าที่เราเจอจะใช่รึเปล่า แต่ถ้าจากที่เคยได้ยินพวกชาวบ้านที่มาเก็บของป่าแถวนี้เล่าให้ฟัง ที่เราเจอเมื่อกี้นี้คือผีกองกอย"
อาคมอึ้งไป
"ตามความเชื่อของคนโบราณ กองกอยถือเป็นผีป่า ผีไพรแบบหนึ่ง มีรูปร่างลักษณะเป็นผีขาเดียว เวลาเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนก็มักจะกระโดด แต่ว่องไวปานลมพัด แต่ก็มีอีกความเชื่อหนึ่งบอกว่า กองกอยมีหน้าตาคล้ายกับลิงหรือค่าง มักจะออกดูดเลือดจากหัวแม่เท้าของคนที่ไปพักค้างแรมในป่า หรือในบางครั้งถ้าหิวโหยมากๆก็จะกินเนื้อมนุษย์ ตั้งแต่เรามาทำงานที่นี่เกือบสิบปีแล้ว ก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกนี่แหละ"
อาคมมีสีหน้ากังวล
"เราว่าตอนนี้ ต้องให้ทุกคนออกจากที่นี่กันก่อน ถ้ามืดขึ้นมา จะอันตรายมากกว่านี้แน่ๆ"
อาคมและพิทักษ์เดินกลับไปที่ๆทุกคนอยู่
"เดี๋ยวผมจะพาทุกคนกลับไปที่อุทยานนะครับ ถ้าอยู่ในป่านานกว่านี้จะเป็นอันตราย เก็บของเตรียมเดินทางได้เลยครับ"
ทุกคนขยับตัวเตรียมเดินทางกลับ
ไม่ทันคาดคิด พิทักษ์ถูกผีกองกอย ดึงออกจากกลุ่ม
อาคมร้องเรียก
"พิทักษ์"
มหาเนิร์ดพยายามคว้าขาพิทักษ์ไว้ แต่ไม่ทัน ได้แค่รองเท้า พิทักษ์หายลับเข้าไปในป่าพร้อมพวกผีกองกอย
อาคม วิ่งตามไป รัตติกาลวิ่งตามอาคม
"ซี เดี๋ยวก่อน" เศกเรียก
เศกหันมามอง คนที่เหลือ ดารการ จอห์นนี่ มหาเนิร์ด เจน และโบ๋ว
"รีบกลับไปที่อุทยานให้เร็วที่สุด จ้อน มหาเนิร์ด ฝากด้วยนะ"
จอห์นนี่บอก
"อืม ระวังตัวด้วยนะ"
เศกรีบวิ่งตามรัตติกาลไป
จอห์นนี่เอาร่างของโบ๋วแบกขี่หลัง ทั้งหมดรีบเดินทางกลับไปที่อุทยาน
บรรยากาศภายในถ้ำค่อนข้างมืด พิทักษ์ถูกมัดห้อยไว้ เขาลืมตาฟื้นขึ้นมา และเห็นไผ่ เด็กหนุ่มวัยรุ่น ถูกมัดลักษณะเดียวกันกับเขา พวกเขาต่างมีรอยถลอกและบาดแผล
เงาของผีกองกอยค่อยๆ โผล่เข้ามา จนปรากฏเป็นรูปร่าง มันเดินมาหาไผ่
"อย่า อย่า"
พิทักษ์เบิกตาโพลงด้วยความกลัว ผีกองกอยกัดกินไผ่ ต่อหน้าพิทักษ์ เขากัดฟัน กลั้นใจไม่ส่งเสียงร้องออกไป แต่เสียงของไผ่ เหยื่อผู้โชคร้าย ดังก้องไปทั่วถ้ำ
"อ๊าค"
อาคมวิ่งตามผีกองกอยจนมาถึงถ้ำกลางป่า รัตติกาลวิ่งตามมา
"รัตติกาล คุณบ้าไปแล้วหรือไง ตามมาทำไม"
"ถ้าชั้นบ้า คุณก็บ้ายิ่งกว่าชั้นอีก"
อาคมเถียงไม่ออก เขาหันกลับไปมองรอยเท้าของผีกองกอย ที่หายเข้าไปในถ้ำ
"นี่คงเป็นที่อยู่ของพวกมันแน่ๆ"
"คุณรอตรงนี้ก่อนนะ"
"อ้าว แล้วนายล่ะ"
"ผมจะเข้าไปดูเอง"
อาคมวิ่งหลบเข้าไป รัตติกาลวิ่งตาม อาคมหันมา
"อ้าว"
"เรื่องอะไรชั้นต้องยืนรอล่ะ ชั้นจะเข้าไปด้วย"
อาคมห้ามรัตติกาลไม่ได้จึงปล่อยเลยตามเลย พวกเขาเดินเข้าไปในถ้ำ
จอห์นนี่เดินตามเครื่องนำทาง GPS โดยแบกโบ๋วไว้ด้านหลัง มหาเนิร์ดทำเครื่องหมายไว้ที่ต้นไม้เป็นระยะๆ พวกเขาเดินเลียบริมธาร
แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งหลงทาง จนมหาเนิร์ดพาเดินกลับมาเจอต้นไม้เดิมที่ทาสัญลักษณ์เอาไว้
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความกังวล พวกเราหลงทางเสียแล้ว
เจนพยายามมองไปรอบๆตัว จนเห็นบ้านไม้หลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พวกเขาอยู่
"ตรงนั้นมีบ้านคน เจนบอก
"เรารอดแล้ว" มหาเนิร์ดว่า
ทั้งหมดรีบเดินตรงไปยังบ้านไม้
สายตาผีกองกอย แอบมองพวกเขาอยู่
ดารการ เจน โบ๋ว จอห์นนี่ มหาเนิร์ด เดินมาถึงหน้าบ้านไม้
มหาเนิร์ดสำรวจมองไปรอบๆ
ดารการทักทาย
"สวัสดีคะ มีใครอยู่มั้ยคะ"
ไม่มีเสียงตอบ ดารการมองเข้าไปในบ้านผ่านช่องหน้าต่าง เธอไม่เห็นใคร มีหยากไย่เกาะตามมุมบ้านเหมือนทิ้งร้างมาได้สักพัก
มหาเนิร์ดบอก
"ไม่น่ามีคนอยู่นะครับ"
จอห์นนี่ถาม
"เอายังไงดี"
ดารการ งัดประตูบ้านเข้าไป
"แม่! เอางี้เลยเหรอ" เจนถาม
ดารการยิ้มแห้งๆ
"มาช่วยกันหน่อยซิ"
พวกเขาช่วยกันงัดประตูบ้านเข้าไป
ภายในถ้ำ ค่อนข้างมืด และเงียบ ได้ยินเสียงน้าค้างหยดลงพื้นเป็นจังหวะ
ที่มุมหนึ่งพบโครงกระดูกมนุษย์กองทิ้งไว้
รัตติกาลหันไปมองรอบๆ เธอเห็นเงาบางอย่างวิ่งตัดหน้าไป รัตติกาลจะตามไปดูแต่อาคมดึงแขนเธอไว้
"ใจเย็นๆ"
รัตติกาลหันมองอาคมที่คว้ามือเธอไว้แน่น เธอรู้สึกเขินนิดๆ
"เราไม่รู้ว่าพวกมันอยู่กันเยอะแค่ไหน"
เสียงครวญครางของพิทักษ์ เจ้าหน้าที่อุทยานดังขึ้น
รัตติกาลบอก
"ทางนั้น"
รัตติกาลรีบเดินไปตามเสียง อาคมมองซ้ายมองขวาคอยระวังให้รัตติกาล
ที่มุมหนึ่ง พิทักษ์ถูกมัดตัวไว้ เนื้อตัวถลอก
"พิทักษ์ๆ เป็นไงบ้าง"
พิทักษ์หันไปมองรอบๆอย่างหวาดระแวง
"ไม่เป็นไร เรามาช่วยแล้ว" อาคมบอก
"มันกินคน มันน่ากลัวมาก"
อาคมและรัตติกาลช่วยกันแก้มัดให้พิทักษ์
เสียงกองกอยดังขึ้นจากทางด้านหลังพวกเขา
อาคมและรัตติกาลหันไป ผีกองกอยยืนประจันหน้าพวกเขาอยู่ มันค่อยๆเดินตรงมาหาพวกเขา
เสียงกองกอยดังขึ้นอีกทาง ตอนนี้อาคมและรัตติกาลถูกพวกกองกอยล้อมไว้แล้ว...
ดารการ เจน มหาเนิร์ด จอห์นนี่และโบ๋วสำรวจภายในบ้าน รอบๆ บ้านไม่มีใครอยู่เลย
ดารการสังเกตเห็นหน้าไม้ที่แขวนผนังอยู่ สัตว์ที่ถูกสต๊าฟไว้ หนังเสือ
"เจ้าของบ้านคงเป็นนายพราน"
จอห์นนี่อุ้มโบ๋วไปวางที่แคร่ยาวในบ้าน เจนเดินไปลองเปิดน้ำ ปรากฏว่ามีน้าไหล เธอหาภาชนะมาใส่น้ำ แล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับเช็ดหน้าให้โบ๋ว
ดารการเปิดแผลที่ขาของโบ๋ว ซึ่งเริ่มมีหนอนไช เธอเขี่ยหนอนออกแล้วเริ่มทาแผลให้โบ๋ว
จอห์นนี่ มองออกไปนอกหน้าต่าง ฟ้าเริ่มมืดลงทุกที
"เริ่มมืดแล้ว คืนนี้พวกเราคงต้องหลบอยู่ในบ้านหลังนี้ ขืนเดินป่าตอนกลางคืน จะอันตรายมาก"
มหาเนิร์ดบอก
"ไม่รู้พวกพี่อาคมจะเป็นยังไงบ้าง"
พวกเขารู้สึกเป็นห่วง
อาคม รัตติกาล พิทักษ์พยายามวิ่งหนีออกจากถ้ำ แต่พวกมันก็ไล่ตามเขา ล้อมหน้าล้อมหลัง
รัตติกาลถูกผีกองกอยกระชากผมจนล้มลงกับพื้น เล็บยาวๆของกองกอยกำลังจะตวัดลงที่ร่างของรัตติกาล แต่อาคมเอาตัวบังไว้ จนเล็บของกองกอยกรีดเข้าที่ไหล่ของเขาได้รับบาดเจ็บ
"อาคม!"
แสงสว่างจากพลุไฟ ส่องจ้าเข้ามาในถ้ำ ทำให้พวกกองกอยตื่นกลัว
"รีบมาทางนี้เร็ว"
รัตติกาลลุกขึ้นวิ่ง เธอกับพิทักษ์ช่วยกันดึงอาคมให้วิ่งไปทางพลุไฟที่เศกจุดไว้
ทั้งสี่คนวิ่งออกมาจากถ้ำ
โบ๋วนอนหลับอยู่ที่แคร่ เธอมีผ้าพันแผลที่ขาเรียบร้อย เจนนั่งอยู่ข้างๆด้วยความเป็นห่วง
มหาเนิร์ดยืนอยู่ที่ผนัง มันมีเนื้อข่าวหนังสือพิมพ์แปะอยู่ ภาพข่าว “คนงานบ่อพลอยดินถล่มฝังทั้งเป็น 8 ศพ” “นักท่องเที่ยวหายปริศนานานร่วมเดือน” มหาเนิร์ดครุ่นคิด
จอห์นนี่เดินถือสมุดบันทึกเข้ามาหา
"ผมเจอสมุดบันทึก"
ดารการและมหาเนิร์ดเดินเข้าไปดู
จอห์นนี่ยื่นสมุดบันทึกให้มหาเนิร์ด มันเป็นสมุดบันทึกปกหนังสีน้ำตาลเล่มเก่าๆ มหาเนิร์ดเปิดดู ด้านในสมุดบันทึกมีภาพสเก็ตของผีกองกอย และมีบันทึกข้อความไว้ มหาเนิร์ดอ่านให้ทุกคนฟัง
"ผมได้ยินเสียงของมัน มันน่าขนลุกกว่า เสียงสัตว์ทุกตัวในป่าที่ผมเคยได้ยิน ตัวมันเล็กๆ คล้ายมนุษย์ แต่รวดเร็วแทบมองไม่ทัน มันลากเพื่อนของผมเข้าไปในความมืด แล้วกินพวกเขา"
จอห์นนี่บอก
"มันทำให้ผมนึกถึงพวกเผ่ากินคนเลย"
มหาเนิร์ดต่อ
"ความหิวโหยทำให้พวกเค้าต้องกินพวกเดียวกันเอง เมื่อตายไปวิญญาณก็ถูกสาปให้กลายมาเป็นผีไพร คอยอาศัยดูดกินเลือดกินเนื้อของสัตว์ป่า ไม่มีวันได้ไปผุดไปเกิด"
มหาเนิร์ดมองหน้าจอห์นนี่อย่างหวาดๆ ก่อนจะหันไปมองภาพข่าว “คนงานบ่อพลอยดินถล่มฝังทั้งเป็น 8 ศพ”
อาคม เศก รัตติกาล พิทักษ์วิ่งหนีเข้ามาในป่า
พิทักษ์บอก
"มันมืดไปหมดเลย ขาผมไม่มีแรงแล้ว"
อาคมมองไปรอบๆ เขามองไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง มันมีห้างร้างไว้
"เราพักที่นี่ก่อนเถอะ ถ้าขืนวิ่งดุ่มๆไป เราอาจจะไม่รอด"
เศกจุดคบไฟ แล้วแบ่งให้รัตติกาล ถือ
"พวกมันกลัวไฟ อย่างน้อยคงไม่เข้าใกล้พวกเราตอนนี้แน่ๆ"
รัตติกาลมองบาดแผลของอาคม
"อาคม นายเป็นยังไงบ้าง"
"สบาย ไกลหัวใจเยอะ"
"ยังมีอารมณ์ตลกอีกนะ"
อาคมยิ้มให้รัตติกาล
"ข้างบนต้นไม้นั่นมีห้างที่พวกนายพรานเอาไว้ซุ่มจับสัตว์อยู่ เศก นายพารัตติกาลขึ้นไปอยู่บนนั้นนะ จะปลอดภัยกว่า เดี๋ยวผมกับพิทักษ์จะผลัดกันเป็นเวรเฝ้ายามอยู่ข้างล่างนี้เอง"
"เดี๋ยวชั้นอยู่กับพวกนายด้วย"
"นายอยู่กับรัตติกาลดีกว่า ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าพวกมันจะมาตอนไหน อย่าประมาทดีกว่า"
"ได้ ไปซี"
รัตติกาลมองอาคม ด้วยความเป็นห่วง
"ระวังตัวด้วยนะอาคม"
อาคมพยักหน้าให้รัตติกาล เศกช่วยรัตติกาลปีนขึ้นไปบนห้างบนต้นไม้
อาคมกับพิทักษ์ช่วยกันหาฟืนมาจุดเพื่อก่อเป็นกองไฟ บริเวณรอบๆจุดที่พวกเขาจะเฝ้ายามกัน
ดารการเดินมาดูอาการของโบ๋ว เจนนั่งอยู่ข้างๆ
"เจน ลูกไปล้างหน้าล้างตัวก่อน จะได้สบายตัวขึ้น"
"แม่...หนู... ขอโทษ หนูโกหกว่ามากันหลายคน ถ้าหนูไม่ดื้อมา ก็คงไม่ทำให้ทุกคนต้องมาลำบากแบบนี้"
ดารการมองเจนอย่างอ่อนโยน
"ไม่ต้องร้องหรอกลูก แม่ดีใจที่หนูกล้าหาญ ไม่ทิ้งเพื่อนในเวลาที่ลำบาก ลูกของแม่เป็นเด็กดีมากจ๊ะ"
เจนกอดแม่ ดารการลูบหัวลูกด้วยความรักเอ็นดู
ผีกองกอยมองดารการและเจนผ่านช่องหน้าต่างด้านนอก
เจนเข้ามาในห้องน้ำ เธอเอาผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดหน้า เช็ดตัว
ที่ช่องหน้าต่าง หัวของผีกองกอยค่อยๆโผล่ลงมาจากหน้าต่าง แต่เจนไม่ทันสังเกต
ส่วนพิทักษ์นั่งหลับด้วยความเพลียที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆกองไฟ อาคมลุกขึ้นเดินสำรวจไปรอบๆบริเวณ
เศก รัตติกาล นั่งหลับอยู่บนห้างบนต้นไม้
อาคมเรียก
"รัตติกาล"
รัตติกาล สะดุ้งตื่น เธอหันไปมองเศก เห็นเศกยังคงหลับอยู่
"รัตติกาล ๆ"
รัตติกาลเป็นห่วงอาคม เธอรีบปีนลงจากห้างบนต้นไม้
รัตติกาลลงมาด้านล่าง เธอเห็นพิทักษ์นอนหลับอยู่ ก่อนจะหันไปที่มุมหนึ่งเห็นอาคมนอนพิงต้นไม้ ใบหน้าซีดเซียว อาคมจับที่แผลที่ได้รับบาดเจ็บ รัตติกาลรีบเดินเข้าไปหาอาคม
"นายเป็นอะไรน่ะอาคม ปวดแผลเหรอ"
ทันใดนั้น อาคมก็กลับกลายร่างเป็นผีกองกอย มันแสยะยิ้มแล้วพุ่งเข้ามาคว้าตัวรัตติกาลไว้
อาคมโผล่มากระโดดถีบผีกองกอยกระเด็นไป
"คุณเป็นอะไรมั้ย"
แต่ยังไม่ทันที่รัตติกาลจะได้ตอบอะไร เธอก็เห็นว่าผีกองกอยอีกตัวหนึ่ง โผล่มาอยู่ที่ด้านหลังอาคม อาคมรีบหันไปมอง แต่ไม่ทันกาล ผีกองกอยฟาดแขนเข้าที่ท้ายทอยจนอาคมสลบไป รัตติกาลเผชิญหน้ากับผีกองกอยตัวนั้น
ผีกองกอยตัวนั้นพุ่งเข้าหารัตติกาล
ทางบ้านนายพราน ดารการ เจน โบ๋ว นอนหลับสนิทอยู่ในห้อง
ที่ช่องหน้าต่าง ผีกองกอยโผล่หัวขึ้นมามอง
กลางดึก จอห์นนี่ มหาเนิร์ด นอนหลับอยู่ในห้อง
จอห์นนี่รู้สึกจักกะจี้ขา เขานอนหัวเราะลั่นจน มหาเนิร์ดตื่น
"พี่จ้อน ละเมอเหรอครับ"
"มหาเนิร์ด อย่าแกล้งผมซิ กำลังหลับฝันหวานเลย"
"ผมไม่ได้ทำอะไรพี่สักหน่อย"
จอห์นนี่เปิดไฟหัวเตียง แล้วพวกเขาก็เห็นผีกองกอย กำลังดูดเลือดจากนิ้วเท้าของจอห์นนี่
"เฮ้ย"
จอห์นนี่ มหาเนิร์ดตกใจ จอห์นนี่ถีบผีกองกอย มันกระโดดหลบออกนอกหน้าต่าง
จอห์นนี่และมหาเนิร์ด มองออกไปนอกหน้าต่าง เขาเห็นแววตาสะท้อนแสงอยู่ในพุ่มไม้
มหาเนิร์ดบอก
"เฮ้ย มันตามมาถึงนี่เลย"
จู่ๆ เสียงเจนก็กรีดร้องดังขึ้น
จอห์นนี่ / มหาเนิร์ดโพล่ง
"เจน"
จอห์นนี่และมหาเนิร์ด วิ่งออกไปนอกห้อง
เจนกำลังถูกผีกองกอยลากตัวออกไปให้พ้นประตูบ้าน ดารการดึงแขนเจนไว้
"ปล่อยลูกสาวชั้นนะ"
มหาเนิร์ดและจอห์นนี่ วิ่งเข้ามาช่วยดารการและเจน
จอห์นนี่ใช้ปืนกระสุนเงินยิงใส่ผีกองกอย มันปล่อยเจนแล้วกระโดดหลบไปด้วยความรวดเร็ว
เจนหลุดเป็นอิสระ
ดารการถาม
"เจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"หนูเจ็บแขน"
ดารการถอดเสื้อแจ็คเก็ตของเจนออก เธอมีบาดแผลจากการถูกข่วน
มหาเนิร์ดถาม
"ทำไมมันถึงตามพวกเรามานะ"
"เจน พวกหนูได้หยิบอะไรจากป่ามาหรือเปล่า"
"เปล่านะ"
เจนครุ่นคิด เธอมองไปที่กระเป๋าของไผ่ ซึ่งเป็นกระเป๋านายพราน เจนรีบเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าแล้วยื่นมันออกมา
"แม่.."
ดารการเปิดกระเป๋าออกดูก็พบห่อผ้าสีดำ ที่ห่อบุษราคัม และแผนที่
"เอามาจากไหนอะเจน"
"พวกนั้นเจอที่กลางป่า"
"สิ่งนี้เองที่ทำให้พวกมันตามมา" จอห์นนี่บอก
มหาเนิร์ดถาม
"เอายังไงดี"
"ปืนคงทำให้มันแค่ตกใจ แต่คงทำอะไรมันไม่ได้ เกาะกลุ่มกันไว้"
จอห์นนี่หันไปมองรอบๆ
"ไปช่วยกันปิดหน้าต่างประตูให้สนิท"
พวกเขาช่วยกันรีบปิดประตู หน้าต่าง
ดารการเห็นกระป๋องสเปรย์กันยุงวางอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน เธอรีบหยิบมันขึ้นมา
เสียงเคาะเขย่าประตูดังปึงปัง
เจนซุกกายอยู่หลังดารการด้วยความกลัว
หน้าต่างแตกดังเพล้ง พวกเขาหันไปมอง หน้าต่างอีกบานก็แตกอีก
จอห์นนี่บอก
"พวกมันเข้ามาได้แน่ๆ"
ประตูเปิดออก ผีกองกอยเดินเข้ามา
"อย่ามายุ่งกับลูกสาวชั้นนะ"
ดารการเริ่มโมโห เธอจุดไฟแช็ค แล้วพ่นสเปรย์กันยุง เกิดเป็นไฟลุกพวยพุ่งออกไป ผีกองกอยถอยไม่กล้าเข้ามา
"เจน เอาของคืนมันไป"
เจนเอาห่อผ้าสีดำ โยนออกไป ผีกองกอยก้มลงหยิบ มันมองมาที่ดารการ
ดารการ ใช้ไฟขู่พวกมันอีกครั้ง ผีกองกอยค่อยๆ ถอยห่าง แล้วกระโดดหายออกไป
จอห์นนี่มองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่มีวี่แววของผีกองกอยหลงเหลืออยู่
"มันไปแล้ว"
ดารการโล่งใจ เกิดอาการเข่าอ่อนขึ้นมาทันที เธอล้มฟุบลงไปนั่งกับพื้น
"แม่!"
บรรยากาศเช้าวันใหม่ ในป่า
รถกะบะของเจ้าหน้าที่อุทยานวิ่งเข้ามาในป่า วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้านนายพราน
จอห์นนี่ มหาเนิร์ด ช่วยกันพยุงร่างของโบ๋วขึ้นรถ โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานอีกสองคนมาช่วยเหลือ
ดารการเดินขึ้นรถ มหาเนิร์ด และจอห์นนี่เดินตามมาแต่ไม่ยอมขึ้นรถ
"ขึ้นรถมาซิ" ดารกาบอก
"อาจารย์ผู้หญิงครับ ผมจะไปช่วยพี่อาคม" มหาเนิร์ดว่า
"มาดามกลับไปกับเจนก่อนนะครับ เดี๋ยวพวกผมจะตามไปทีหลัง"
ดารการพยักหน้า
"ต้องพากลับมาให้ได้นะ"
จอห์นนี่ / มหาเนิร์ดรับปาก
"ครับ"
รถกะบะของเจ้าหน้าที่อุทยานขับพาเจนและโบ๋วออกไป
มหาเนิร์ด จอห์นนี่ และเจ้าหน้าที่อุทยานนาทางอีก 1 คน ร่วมเดินทางเข้าไปในป่า
อาคม และรัตติกาล ถูกผีกองกอยมัดไว้ที่ถ้ำ อาคมฟื้นขึ้นมาเขาเห็นรัตติกาลถูกมัดไว้ข้างๆ
"รัตติกาล"
รัตติกาล สลบไป อาคมพยายามเขยิบเข้าไปใกล้แล้วใช้ไหล่ดันให้รัตติกาลรู้สึกตัว แต่เธอไม่ได้สติ
"รัตติกาลๆ ตื่นเถอะ"
ผีกองกอยเดินเข้ามาหาพวกเขา
"รัตติกาล ตื่นๆ"
อาคมเอาร่างบังรัตติกาลไว้ ไม่ให้พวกมันทำร้ายเธอได้
ผีกองกอยก้มลงกัดอาคม แล้วดูดเลือดอาคม
อาคมกลั้นใจทนความเจ็บปวด
รัตติกาลลืมตาตื่นขึ้นมา เธอตกใจที่เห็นผีกองกอยกำลังดูดเลือดของอาคม
"อย่าส่งเสียง คุณต้องนอนนิ่งๆ จนกว่าจะมีคนมาช่วย"
"ไม่! นายหลบไป อย่าทำแบบนี้"
อาคมยิ้มให้รัตติกาล เขาฟุบร่างหมดสติไป
"อาคมๆ"
รัตติกาลดิ้นรน ผีกองกอยแสยะยิ้มให้เธอ
เสียงประทัดดังระรัว ทำให้ผีกองกอยตกใจ มันผละตัวออกห่าง
"ถอยไป ไอ้ผีร้าย"
เศกยิงธนูไฟใส่ผีกองกอย
ผีกองกอยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันหนีออกไป
เศกเข้ามาช่วยแก้มัดให้รัตติกาล พิทักษ์เข้าไปประคองอาคม
"ซีเป็นไงบ้าง" เศกถาม
"ซีไม่เป็นไร แต่อาคม"
อาคมหน้าซีดเผือด เพราะสูญเสียเลือด เขาหมดสติไปแล้ว
"ไป เราออกไปกัน"
เศก พยุงรัตติกาล พิทักษ์พยุงอาคมหนีออกไปจากถ้ำ
เศก รัตติกาล พิทักษ์พยุงอาคม วิ่งออกมา
เสียงร้องของผีกองกอยโหยหวน ไล่ตามหลัง
พวกเขาวิ่งออกจากตรงนั้น
ทั้งสี่คนวิ่งหนีมาในป่า
เหล่าผีกองกอยที่ยังคงไล่ตามทั้งสี่คนมาอย่างกระชั้นชิด
เศกเปิดกระเป๋า หยิบพลุไฟขึ้นมายิงขึ้นฟ้า
มหาเนิร์ด จอห์นนี่และเจ้าหน้าที่อุทยาน เดินเลียบริมธารมา
มหาเนิร์ดมองเห็นพลุไฟ ลอยขึ้นบนท้องฟ้า
"นั่น พลุไฟ"
"ต้องเป็นเศกแน่ๆ"
พวกเขารีบมุ่งหน้าไปยังพลุไฟทันที
เศก และ รัตติกาล พยุงอาคม ข้ามลำธารมาอย่างทุลักทุเล
ที่ฝั่งตรงข้าม พุ่มไม้สั่นไหว เศกและพิทักษ์เตรียมหยิบอาวุธขึ้นมา
มหาเนิร์ด จอห์นนี่และเจ้าหน้าที่อุทยานโผล่มาจากทางด้านหลัง
"พี่เศก พี่ซี"
เศกเรียก
"เนิร์ด! จอห์นนี่"
มหาเนิร์ด จอห์นนี่ ดีใจรีบวิ่งเข้ามาหาพวกเศก
เศก รัตติกาล หันไปมองฝั่งตรงข้าม เห็นเงาผีกองกอยซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ ก่อนจะค่อยๆถอยหนีกลับหายเข้าไปในป่า
ทั้งหมดถอนหายใจโล่งอก
พวกเศกและรัตติกาลกลับมาที่ทำการอุทยานอย่างปลอดภัย พิทักษ์และเจ้าหน้าที่คนเดิม ประคองอาคมเข้ามา
ดารการและเจนรีบเข้ามาหา
"ปลอดภัยกันดีนะทุกคน"
"ปลอดภัยดีครับ มีนายอาคมนี่แหละที่หนักกว่าเพื่อน"
เจนบอก
"พี่อาคมเป็นยังไงบ้างคะ เจนขอโทษนะคะที่ทำให้ต้องมาเจ็บตัว"
อาคมฝืนยิ้มให้เจน
"แล้วเพื่อนเป็นยังไงบ้างล่ะเจน" เศกถาม
"เจ้าหน้าที่อุทยานพาตัวไปส่งที่โรงพยาบาลในเมืองแล้วค่ะ ไม่น่าจะมีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว"
มหาเนิร์ดบอก
"เท่ากับภารกิจของพวกเราก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว ได้เวลากลับบ้านกันซักทีนะครับ"
ดารการได้ยินมหาเนิร์ดบอกว่าจะกลับบ้าน ก็นึกขึ้นมาได้
"ตายแล้ว !"
ทุกคนตกใจหันมองดารการ
"มีอะไรครับอาจารย์ผู้หญิง"
"คือก่อนมาที่นี่ ชั้นขังพี่วิเศษไว้ในห้อง แต่ดันลืมโทร.ไปบอกให้พี่ศักดาไปเปิดประตูให้น่ะสิ
ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"
"โหแม่ ป่านนี้พ่อทั้งห่วงทั้งหิวตายแล้วล่ะมั้ง"
ดารการหน้าจ๋อย ทุกคนยิ้มให้กับความเปิ่นของดารการ
"ไปเตรียมตัวกลับกันเถอะครับ" เศกบอก
ทั้งหมดขยับตัวเดินไปทางรถที่จอดอยู่ มหาเนิร์ดกับจอห์นนี่เดินร้องเพลงนำไปอย่างอารมณ์ดี
มหาเนิร์ดบอก
"กลับบ้านเรา ......."
อ่านต่อตอนที่ 15