แรงชัง ตอนที่ 6
เนื้อนางกับคุณหญิงแจ่มจันทร์ ช่วยกันเลือกเครื่องประดับอยู่ที่ร้านหนึ่ง สายและลำดวนก็อยู่ด้วย เนื้อนางได้ยินเสียงเอะอะจึงหันไปดู เห็นคนวิ่งไล่กันอยู่ไกลๆ แต่มองไม่ถนัดว่าใครเป็นใคร ลำดวนพูดขึ้นทันที
“สงสัยเป็นพวกทวงหนี้กันน่ะเจ้าค่ะ คุณหญิงกับคุณเนื้อนางต้องระวังตัวนะเจ้าคะ อาจถูกลูกหลงได้”
ลำดวนพยักหน้าให้คุณหญิงแจ่มจันทร์เป็นเชิงบอกว่าถึงเวลาแล้ว คุณหญิงแจ่มจันทร์จึงวางเครื่องประดับลงแล้วบอกกับเนื้อนาง
“ไปดูร้านอื่นดีกว่าลูก”
ทั้งหมดจะเดินไป แล้วจู่ๆ ก็มีชาวบ้านคนหนึ่งท่าทางเมาหนักกระโดดเข้ามาขวางหน้าเนื้อนางไว้พร้อมมีด กวัดแกว่งอย่างน่ากลัว เนื้อนางตกใจ สายเอาตัวมาบังเนื้อนางไว้
“ถอยไปนะ อย่ามาใกล้คุณหนู”
ชายขี้เมาโดดถีบสายจนกระเด็นล้มไป แล้วพุ่งเข้าใส่เนื้อนางเหมือนจะแทง ทันใดนั้น ศักดาก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วถีบชายขี้เมาล้มลง มีดกระเด็นไป ศักดาชี้หน้าด่า
“มึงคิดจะทำอะไรเนื้อนาง ต้องข้ามศพกูไปก่อน”
ศักดาเข้าไปกระทืบซ้ำ ลำดวนรีบไปดึงแขนศักดาไว้
“พอเถอะเจ้าค่ะคุณศักดิ์ คนมันเมา จะไปถือสาหาความเอาอะไรกับคนเมาล่ะเจ้าคะ”
ลำดวนโบกมือไล่ให้ชายขี้เมาหนีไป ศักดาหันไปมองเนื้อนาง
“น้องเนื้อนางเจ็บตรงไหนรึเปล่าจ๊ะ”
เนื้อนางส่ายหน้า ยังอยู่ในอาการตกใจ
“ท่าทางจะยังตกใจอยู่เลย ขอบใจพ่อศักดิ์มากนะ นี่ถ้าไม่ได้พ่อศักดิ์มาช่วยไว้ เนื้อนางเห็นทีจะแย่”
“ไม่เป็นไรขอรับคุณน้าแจ่ม”
เนื้อนางยิ้มขอบคุณศักดา แต่ยิ้มยังเจื่อนอยู่เพราะอยู่ในอาการตกใจ คุณหญิงแจ่มจันทร์และลำดวนหันมายิ้มให้กันที่แผนสำเร็จ แล้วลำดวนก็แอบย่องออกไปจากตรงนั้น
มั่นวิ่งมามองหาชงชาง บ่าว 2 คนก็วิ่งเข้ามาหามั่นคนละทิศทาง
“ไม่เจอเลยพี่”
มั่นเจ็บใจที่ตามจับชงชางไม่ได้ ทำให้ไม่ได้เงินรางวัลก้อนโตจากคุณหลวงนฤบดินทร์ ทั้งสามคนพากันเดินออกไป ชงชางและหอมหลบอยู่ในกระท่อม โล่งใจอีกครั้งที่ไม่ถูกจับได้ หอมหันไปมองชงชางสายตาคาดคั้นยิ่งกว่าเดิม
“คุณชงชางพาฉันมาเสี่ยงตายถึงสองครั้งแล้ว ถ้าไม่เล่าให้ฉันฟังว่าไปทำอะไรใครไว้ เห็นทีฉันจะให้คุณอยู่ร่วมเรือนต่อไปไม่ได้ ว่ายังไงคะ”
ชงชางมองหอมอย่างหนักใจ
ลำดวนยืนรอใครบางคนอยู่ที่ท่าเรือ โดยถือถุงใส่เงินด้วย เธอเปิดถุงใส่เงินออกมาแล้วเทแบ่งเงินออกมาครึ่งหนึ่ง เก็บเอาไว้เสียเอง ชายขี้เมาวิ่งเข้ามา โดยไม่มีอาการเมาสักนิด ลำดวนรีบโยนถุงเงินให้
“เอ้า ค่าจ้าง แล้วรีบไปให้ไกลเลยนะ อย่าให้ใครจับได้ล่ะ”
“ขอรับ”
ลำดวนมองเงินในมืออย่างพอใจ
หอมโมโหมาก เมื่อฟังชงชางเล่าจบ
“เขาสองคนนั้นเข้ามาทำร้ายคุณชงชางถึงในเรือน คุณก็ต้องป้องกันตัวเป็นธรรมดา”
“แต่ฉันฆ่าคุณนรอินทร์”
“แต่คุณไม่ได้ตั้งใจนี่คะ แล้วเรื่องอะไรจะมาโทษกันอยู่ฝ่ายเดียว แล้วทำไมคุณนรอินทร์กับคุณศักดาถึงได้เป็นศัตรูกับคุณล่ะคะ”
ชงชางหลบตาหอมไม่อยากเล่าถึงเรื่องเนื้อนาง
“ฉันกับพวกเขาก็แค่ไม่ชอบหน้ากันมาตั้งแต่เด็ก ก็เท่านั้น”
“ไปค่ะ ฉันจะช่วยคุณชงชางเอง”
หอมดึงมือชงชางลุกขึ้น แล้วพากันเดินออกจากกระท่อมไป ชงชางเดินตามไปอย่างงงๆ หอมพาน้อยและชงชางเดินมาที่ท่าน้ำ โดยทั้งสามคนถือห่อเสื้อผ้ามาด้วย ชงชางถามอย่างสงสัย
“จะพาฉันไปไหนรึหอม”
“นั่นสิ จู่ๆ ก็มาให้พี่รีบเก็บข้าวเก็บของ”
“ไปที่ที่ปลอดภัยสำหรับคุณชงชางน่ะสิ อย่ามัวแต่ถามอยู่เลย รีบขึ้นเรือก่อนเถอะค่ะ”
ชงชางมองหอมอย่างซึ้งใจ แล้วเดินตามไปขึ้นเรือ น้อยตามไป หอมจะหยิบไม้พายขึ้นมา ชงชางรีบจับมือหอมไว้
“ให้ฉันพายเถอะ หอมบอกทางก็พอ”
หอมรีบปล่อยมือจากไม้พายอย่างเขินๆ ที่โดนชงชางจับมือ ชงชางพายเรือออกจากท่าไป
คุณหลวงนฤบดินทร์ชื่นชมศักดามากที่ช่วยเนื้อนางไว้ คุณหญิงแจ่มจันทร์และศักดาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“โชคดีจริงๆ ที่ได้พ่อศักดิ์ช่วยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเนื้อนางคงแย่”
“พ่อศักดิ์ช่างเป็นคนดีและกล้าหาญจริงๆ นะคะคุณพี่ อย่างนี้ถ้าเนื้อนางไปไหนแล้วได้พ่อศักดิ์ไปคอยดูแล น้าก็คงหายห่วง”
“กระผมเต็มใจอย่างยิ่งเลยขอรับ”
คุณหลวงนฤบดินทร์ยิ้มพอใจ ศักดาและคุณหญิงแจ่มจันทร์แอบหันมายิ้มให้กัน เนื้อนางแอบมองศักดา รู้สึกประทับใจมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
ลำดวนยืนรอๆ ใครบางคนอยู่ สักครู่ศักดาเดินอารมณ์ดีเข้ามาหา ลำดวนยิ้มร่า รีบรายงานทันที
“เรียบร้อยเจ้าค่ะ”
ศักดาพยักหน้าพอใจ โยนถุงเงินให้ลำดวน
“เอ้า รางวัลของเอ็ง”
ลำดวนรีบหยิบถุงเงินมาดู ตื่นเต้นดีใจมาก แล้วเหมือนคิดอะไรได้
“เอ้อ คุณศักดิ์เจ้าคะ นอกจากการช่วยเหลือคุณหนูเนื้อนางจากคนเมาแล้ว บ่าวยังมีวิธีอื่นอีกที่จะทำให้คุณหนูหันมาสนใจในตัวคุณศักดิ์มากขึ้นไปอีกนะเจ้าคะ”
“วิธีอะไร”
ศักดาสนใจขึ้นมาทันที ลำดวนยิ้มร่า เห็นช่องทางได้เงินอีก
ที่เมืองชุมพร บ้านแม่หอม แม่ของหอมมองหน้าของชงชางอย่างพิจารณา
“ผัวเอ็งรึนังหอม”
หอมอึ้ง ยอมตกบันไดพลอยโจน เพราะห่วงความปลอดภัยของชงชางมากกว่าอย่างอื่น
“เอ่อ จ้ะแม่”
น้อยแอบก้มหน้าซ่อนยิ้ม
“ชื่ออะไรล่ะ”
“ชงชางขอรับ”
“ชง”
แม่หอมพยายามจะพูดแต่จำไม่ได้
“เฮ้อ ชื่อจีนนี่เรียกยากจริงๆ แม่ตั้งชื่อให้เอ็งใหม่ก็แล้วกัน ชง ชาญ เอ้อ ชื่อชาญแล้วกัน ชื่อไทยๆ จะได้เรียกถนัดปากหน่อย”
“ขอรับ”
แม่หอมมองยิ้มๆ เชื่อว่าหอมและชงชางเป็นผัวเมียกันจริงๆ
“เอ้า นังหอม พาผัวเอ็งไปดูห้องสิไป๊”
หอมหน้าเหวอ ในขณะที่น้อยหัวเราะ แม่หันไปมองน้อยอย่างสงสัย น้อยพยายามหยุดหัวเราะ ส่วนหอม ตีหน้าไม่ถูก หอมกับชงชางเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวยังหน้าเก้อๆ เขินๆ อยู่
“เราคงต้องนอนห้องนี้ด้วยกัน แม่จะได้ไม่สงสัย”
“ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอก ห่วงก็แต่หอม จะเสียหาย”
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ ฉันห่วงเรื่องความปลอดภัยของคุณชงชางมากกว่า”
ชงชางมองหอมอย่างซาบซึ้งใจ
“ฉันเปลี่ยนชื่อเป็นชาญแล้วนะหอม ต่อไปนี้ หอมเรียกฉันว่า พี่ชาญ ก็แล้วกัน แม่ของหอมจะได้ไม่สงสัย ฉันขอบใจหอมมากนะที่ช่วยเหลือฉันขนาดนี้ ฉันติดหนี้บุญคุณหอมจริงๆ”
ชงชางมองหน้าหอมซึ้งใจ หอมหลบตาชายหนุ่มอย่างเก้อเขิน
สายช่วยเนื้อนางแต่งตัวจะออกไปข้างนอก เนื้อนางนั่งมองตัวเองในกระจกอย่างเหม่อลอย
“คุณหนูกำลังคิดอะไรอยู่เจ้าคะ”
“ฉันกำลังคิดถึงชงชางอยู่น่ะพี่สาย ไม่นึกเลยว่าชีวิตจะผันแปรไปได้ถึงขนาดนี้ ฉันกับเขาคงไม่ได้ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกันมาในชาติที่แล้วกระมัง ถึงต้องคลาดแคล้วกันไปอย่างนี้”
“โถ คุณหนู แต่ลงถึงขั้นฆ่ากันตายอย่างนี้ คงไม่มีทางกลับไปดีเหมือนเดิมได้อีกแล้วล่ะเจ้าค่ะ บ่าวว่า บางที คุณหนูคงต้องตัดใจ”
เนื้อนางสับสน เสียงเคาะประตูดังขึ้น สายเดินไปเปิด เห็นเป็นลำดวน
“คุณศักดิ์มาแล้วเจ้าค่ะ”
เนื้อนางกับศักดาไปตลาดด้วยกัน สายเดินถือตะกร้าตามมา เนื้อนางเดินไปเลือกซื้อของ ซินแสคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเนื้อนาง มองหญิงสาวอย่างพิจารณาจนเนื้อนางรู้สึกตัวต้องมองตอบ
“ไอ๊หยา เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นว่าจะมีใครมีแรงบุญหนุนนำให้เป็นคู่กันได้รุนแรงขนาดนี้มาก่อนเลย”
“ซินแสพูดเรื่องอะไรจ๊ะ”
“ลื้อสองคน หากได้แต่งงานกัน ชีวิตจะมีแต่ความรุ่งเรือง ชั่วลูกชั่วหลานเลย”
เนื้อนางอึ้งไป ศักดาแอบยิ้ม
คุณหลวงนฤบดินทร์ คุณหญิงแจ่มจันทร์ เนื้อนาง และศักดา นั่งคุยกันอยู่บนเรือน คุณหลวงนฤบดินทร์หัวเราะชอบใจเสียงดัง
“ซินแสพูดถึงขนาดนี้ เห็นทีจะชักช้าไม่ได้แล้ว พ่อศักดิ์ว่ายังไง”
“กระผมอยากจะแต่งกับน้องเนื้อนางเสียวันนี้ด้วยซ้ำไปขอรับ”
“เอ้า เนื้อนางว่ายังไงลูก”
เนื้อนางยังสับสนลังเล ศักดารีบฉวยจังหวะทันที
"น้องเนื้อนางให้โอกาสพี่เถอะนะ พี่สัญญาว่าจะรักและดูแลเนื้อนางอย่างดี จนกว่าชีวิตพี่จะหาไม่เลย”
เนื้อนางเงยหน้ามองศักดา ลังเล แต่คุณหญิงแจ่มจันทร์ช่วยเร่ง
“ถ้าเนื้อนางตัดสินใจร่วมหอลงโรงกับพ่อศักดิ์ พ่อกับแม่ก็จะได้ตายตาหลับละ ว่าไงลูก”
“แล้วแต่พ่อกับแม่จะเห็นสมควรค่ะ”
ทุกคนดีใจ โดยเฉพาะศักดา เขารีบกลับไปบ้าน เล่าเรื่องนี้ให้พ่อแม่ฟัง
“จริงรึพ่อศักดิ์ เนื้อนางตกลงจะแต่งงานกับลูกแล้วจริงๆ รึ”
“จริงแม่”
พระยาสีหราฐหัวเราะชอบใจ
“ดีๆ สองสกุลรวมกันเป็นหนึ่ง เรือล่มในหนอง แล้วทองจะไปไหนได้ล่ะ ฮ่าๆๆ”
สามพ่อแม่ลูกหัวเราะมีความสุขกันถ้วนหน้า ในขณะที่เนื้อนางนั่งเหม่อคิดอยู่หน้ากระจก
“ฉันคิดถูกแล้วใช่มั้ยพี่สาย ที่ตกลงปลงใจกับพี่ศักดิ์ เพราะถึงอย่างไรชีวิตของฉันกับชงชางก็ไม่มีวันมาบรรจบกันได้อีกแล้ว”
สายไม่ตอบอะไร ได้แต่มองเนื้อนางอย่างสงสาร
ชณะที่ศักดามาคุยต่อหน้าที่บรรจุศพของนรอินทร์ที่วัด อย่างมีความสุข
“ในที่สุด ฉันก็จะได้เป็นน้องเขยแกแล้วโว้ย ไอ้อินทร์ ฮ่าๆๆ ฉันบอกแล้วว่าเนื้อนางน่ะ จะต้องเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว ไม่ใช่ไอ้เจ๊กโฉ่งฉ่างนั่น พูดถึงมันขึ้นมา ฉันก็แค้นใจนัก อย่าให้ได้เจอตัวก็แล้วกัน
กูเอามึงตายแน่ ไอ้โฉ่งฉ่าง”
ศักดาแค้นมาก
ชงชางนอนอยู่หน้าเตียงของหอม ลืมตาโพลงอยู่ในความมืด ด้วยความคิดถึงเนื้อนาง
หอมนอนอยู่บนเตียงก็ยังไม่หลับเหมือนกัน เธอแอบมองชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลา รู้สึกแปลกๆ ไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อน
ที่ตลาดชุมพร หอมหยิบผักขายให้ชาวบ้าน ขงชางถือตะกร้าสายบัวเข้ามาวางไว้ให้
“พี่ชาญ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาที่ตลาดนี่ ถ้ามีคนมาตามจับตัวพี่ไปจะทำยังไง”
“นี่ชุมพรนะหอม คุณหลวงคงไม่ให้บ่าวไพร่มาตามพี่ถึงที่นี่หรอก”
“แต่ฉันไม่ไว้ใจ”
หอมปลดผ้าคลุมหัวที่เอาไว้เช็ดเหงื่อออก แล้วเอาไปโพกคลุมหน้าให้ชงชาง ชายหนุ่มมองยิ้มๆ
“คลุมไว้ก่อน จะได้ไม่มีใครจำได้”
ชาวบ้านเดินเข้ามาดูสายบัวในร้าน ชงชางจะเดินไปขาย แต่หอมฉุดแขนให้นั่งลง แล้วหันไปขายของเอง พยายามเอาตัวบังชงชางไว้ ชาวบ้านเห็นท่าทางหอมก็สงสัย ชะโงกหน้าจะมาดูหน้าชงชางแต่หอมก็เอี้ยวตัวบังไว้อีก
“ตกลงจะซื้อมั้ยจ๊ะ”
ชาวบ้านหยุดชะโงกมอง หยิบสายบัวใส่ตะกร้าแล้วส่งเงินให้หอม หอมโล่งใจ ชงชางมองหอมยิ้มๆ ทั้งซึ้งใจและขำ แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินชาย 2 คนที่เดินผ่านหน้าร้านคุยกัน
“ลูกสาวคุณหลวงนฤบดินทร์จะแต่งงานกับลูกชายคุณพระสีหราฐจริงๆ รึท่าน ก็ไหนทีแรกว่าจะแต่งกับลูกเถ้าแก่เฟยหลงยังไงล่ะ”
“จะแต่งกันได้ยังไง ในเมื่อมีเรื่องถึงขั้นฆ่ากันตายอย่างนั้น นี่ถ้าไอ้ลูกจีนคนนั้นมันไม่หนีหายไปก่อนล่ะก็ มีหวังคุณหลวงคงได้ฆ่ามันเพื่อแก้แค้นแทนลูกชายแน่ๆ นี่กระผมก็เตรียมตัวจะเข้าพระนครไปร่วมงานแต่งกับเขาด้วย จะไปด้วยกันมั้ยล่ะ”
“ไปสิ งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไง”
ทั้งสองเดินคุยกันไป ชงชางยืนอึ้ง
“คุณเนื้อนางจะแต่งงาน”
ชงชางเสียใจมากจนทำอะไรต่อไม่ถูก
กลางคืน หอมนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ชงชางนอนอยู่หน้าเตียง มือก่ายหน้าผากคิดเรื่องเนื้อนางอย่างกลุ้มใจ แล้วก็ตัดสินใจเก็บของใช้ส่วนตัวบางส่วนเดินถือออกไป หอมยังนอนหลับอยู่ ไม่รู้ว่าชงชางออกไป
ตอนเช้า หอมตื่นขึ้นมาไม่เจอชงชางก็ร้อนใจตามหา
“พี่ชาญ พี่ชาญ เจอมั้ยพี่น้อย”
น้อยส่ายหน้า หอมกังวลใจมาก เวลาเดียวกันนั้น ชงชางนั่งเรือไปพระนครหน้าเครียด เดินทางต่อเนื่องไม่ยอมหยุด เขาเดินเท้ามาถึงบ้านเก่า เห็นสภาพบ้านตัวเองแล้วก็อึ้ง น้ำตาไหล ทรุดลงร้องไห้
“เพราะฉันคนเดียวใช่มั้ยเตี่ย เราถึงหายนะอย่างนี้”
ชงชางก้มหน้าร้องไห้ นอนซุกตัวอยู่ตรงซากบ้านเก่าจนเช้า พอตั้งสติได้ ก็เดินออกไป
ที่เรือนหลวงนฤบดินทร์ คุณหลวงนฤบดินทร์ พระยาสีหราฐ คุณหญิงเด่นหล้าและศักดากำลังต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานแต่งงานอย่างมีความสุข ลำดวนวิ่งต้อนรับแขกอย่างประจบประแจงออกนอกหน้า เวลาเดียวกันนั้น สายใส่สร้อยคอให้เนื้อนางอยู่ในห้อง คุณหญิงแจ่มจันทร์ก็เดินเข้ามา
“แต่งตัวเสร็จหรือยังลูก จะได้ฤกษ์แล้วนะ”
“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”
คุณหญิงแจ่มจันทร์ยิ้มพอใจ จูงเนื้อนางเดินออกจากห้องไป สายเดินตาม ชงชางแอบย่องขึ้นมาบนเรือนหลวงนฤบดินทร์แล้วไปแอบอยู่มุมหนึ่ง พยายามทำตัวกลมกลืนกับผู้คนบนเรือน สายตาก็สอดส่ายหาเนื้อนาง แต่ก็ยังไม่พบ เจอแต่ศักดายืนคุยอยู่กับหลวงนฤบดินทร์ที่มุมหนึ่ง ชงชางพยายามหลบหน้าหลบตาไม่ให้ใครสังเกตเห็น สักครู่ก็มีเสียงคนพูด ว่าเจ้าสาวมาแล้ว ชงชางหันขวับไปมอง เห็นคุณหญิงแจ่มจันทร์พาเนื้อนางเข้ามา ชงชางอึ้งยิ่งกว่าเดิม ทั้งเสียใจและเจ็บใจ
“เนื้อนาง”
จังหวะนั้นเนื้อนางหันหน้ามาพอดี ตะลึงมากที่เห็นชงชาง เพราะไม่คาดคิดมาก่อน อุทานเสียงแผ่ว
“ชงชาง”
ชงชางส่ายหน้า ผิดหวังและเสียใจมากที่เห็นเนื้อนางกำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เนื้อนางรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มรู้สึกอย่างไร ทั้งคู่สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง สายก็เดินเข้ามาหาเนื้อนาง ชงชางรู้สึกตัวก็รีบหลบไป เนื้อนางชะเง้อมองตาม แต่ก็ไม่เห็นแล้ว สายมองท่าทางของเนื้อนางอย่างสงสัย
“คุณหนูเนื้อนางมองหาใครรึเจ้าคะ”
เนื้อนางไม่ตอบ แต่ยังกวาดตามองหาชงชางอย่างร้อนใจ ลำดวนเดินผ่านมาใกล้ เห็นท่าทางแปลกๆ ของเนื้อนางก็เดินเฉียดเข้ามาแอบฟังอย่างสอดรู้สอดเห็น
“ฉันเห็นชงชาง”
สายตกใจ “คุณชงชางมาที่นี่หรือเจ้าคะ”
ลำดวนตกใจไปด้วย แอบฟังต่อ
“ฉันก็ไม่แน่ใจเห็นแค่แว่บเดียว สายไปดูให้ฉันหน่อย เผื่อว่าเขาจะมาจริงๆ”
“เจ้าค่ะ”
สายรีบออกไป ลำดวนแอบตามออกไป
ชงชางวิ่งมาที่ท่าน้ำ แล้วหันกลับไปมองที่เรือนหลวงนฤบดินทร์อีกที ด้วยสายตาเจ็บปวด แล้วตัดสินใจวิ่งหนีไป สายวิ่งมาชะเง้อมองหา เห็นด้านหลังของผู้ชายคนหนึ่งวิ่งไปไกลแล้ว
“เลยไม่รู้เลยว่าใช่คุณชงชางหรือเปล่า”
ลำดวนเดินเข้ามา
“แล้วถ้าใช่ล่ะ คุณหนูเนื้อนางจะทำยังไง ล้มงานแต่งงานรึ”
“สาระแน”
“ฉันมันก็แค่สาระแน แต่พี่สายน่ะ ริหาชู้ให้คุณหนูตั้งแต่วันแต่งงานนี่เลย”
สายโมโหเงื้อมือจะตบลำดวน แต่ลำดวนเงื้อมือขึ้นเตรียมตบกลับ สายเลยสะบัดหน้าเดินออกไป ลำดวนเบ้ปากอย่างชิงชัง
“ถ้าฉันรู้ว่าแกริหาชู้ให้คุณหนูจริงๆ ฉันจะฟ้องคุณศักดิ์ให้ตบแกให้กระอักเลือดไปเลยอีสาย”
ลำดวนชะเง้อมองไปทางที่ชงชางวิ่งไป
“จะใช่คุณชงชางรึเปล่าน้า” ลำดวนครุ่นคิด
เนื้อนางและศักดาเข้าพิธีแต่งงาน พระยาสีหราฐเป็นคนสวมมงคลแฝดบนศีรษะบ่าวสาว แล้วเจิมหน้าผากให้ทั้งคู่ คุณหญิงเด่นหล้า คุณหลวงนฤบดินทร์ และคุณหญิงแจ่มจันทร์เข้ามารดน้ำสังข์ให้ทั้งสอง ศักดายิ้มมีความสุข ในขณะที่เนื้อนางกังวลเรื่องชงชาง เธอเห็นสายเดินกลับเข้ามาในงาน เนื้อนางจ้องหน้าสายเป็นเชิงถาม สายส่ายหน้า เนื้อนางหน้าสลด
ชงชางนั่งเรือมุ่งหน้ากลับชุมพร หน้าเศร้า เจ็บปวดมาก พึมพำกับตัวเอง
“กระผมไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ คุณหลวงฆ่าเตี่ยของกระผมโดยตั้งใจ คุณเนื้อนางก็ปันใจให้ชายอื่น เพราะฉะนั้น ชีวิตนี้ ขอเราสอง อย่าได้พบเจอกันอีกเลย แต่หากต้องพบกันเมื่อใด ก็จะขอไม่ไว้หน้าอีกต่อไป เพราะนับจากนี้ไป เราสอง คือศัตรูกัน”
ชงชางน้ำตาไหล แววตาอาฆาตรุนแรง
คืนนั้น เนื้อนางยืนอยู่ริมหน้าต่าง คิดถึงชงชาง ศักดาเข้ามากอด
“คิดอะไรอยู่จ๊ะ”
เนื้อนางสะดุ้ง ไม่ตอบ ศักดาก็ไม่ว่าอะไรเพราะไม่สนใจในคำตอบอยู่แล้ว เขาพาเนื้อนางไปนั่งที่เตียงแล้วก็จูบที่หน้าผากหญิงสาว เนื้อนางตัวเกร็ง
“พี่รักเนื้อนางนะ”
ศักดาจูบแก้มเนื้อนางอีกข้างหนึ่ง
“พี่รักเนื้อนาง”
ศักดาจูบเนื้อนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วผลักหญิงสาวนอนลงไปบนเตียง
ที่ท่าน้ำ บ้านหอมที่ชุมพร หอมเดินวนไปมาอย่างร้อนใจ ชงชางยังไม่กลับมาสักที แล้วครู่หนึ่งชงชางก็เดินซึมๆ เข้ามา หอมหันไปเห็นก็ดีใจมาก
“พี่ชาญ พี่หายไปไหนมา ฉันเป็นห่วงแทบแย่ ตลอดเวลาที่พี่หายไป ฉันไม่เป็นอันทำอะไรเลย กลัวว่าพี่จะถูกคุณหลวงจับตัวไป”
“หอมเป็นห่วงพี่ขนาดนี้เชียวรึ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
ชงชางอึ้งไป หอมรู้ว่าตัวเองเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่มมากเกินไปก็รีบเปลี่ยนเรื่อง
“เอ่อ พี่คงยังไม่ได้กินข้าวมา เข้าบ้านกันเถอะ ฉันจะหาอะไรให้พี่กิน”
หอมจะรีบเดินไป แต่ชงชางดึงมือหญิงสาวรั้งไว้
“หอมเป็นห่วงพี่ รักพี่รึ”
หอมตกใจที่ชงชางถามตรงๆ เธออึกอักพูดอะไรไม่ออก
“ตอบพี่สิ”
หอมไม่ยอมตอบ แต่พยักหน้าพลางหลบตาชงชางอย่างเขินอาย ชงชางเชยคางหอมให้เงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วบอกอย่างจริงจัง
“ถ้าเช่นนี้ ชีวิตของพี่ต่อจากนี้ไป พี่จะมีแต่หอมเพียงคนเดียว”
หอมตื่นเต้น ไม่นึกฝันว่าชงชางจะมีใจให้กับเธอเหมือนกัน ชงชางมองหน้าหอมอยู่ครู่หนึ่งก็บรรจงจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน หอมตัวเกร็งเพราะความตื่นเต้นแล้วก็โอนอ่อน ชงชางรวบตัวหอมมากอดไว้แนบอก หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา ดีใจมาก จึงไม่มีโอกาสได้เห็นสีหน้าของชงชางว่าเขาไม่ได้ดีใจเหมือนอย่างเธอ
ตอนเช้า ศักดานอนกอดเนื้อนางอยู่ ครู่หนึ่งเนื้อนางรู้สึกตัวตื่น ขยับตัวจะลุกขึ้น ศักดารู้สึกตัวตามแล้วกดเนื้อนางให้นอนลงไปใหม่ยังไม่ยอมให้ลุก
“จะรีบไปไหน”
“ฉันนัดพี่สายไว้ว่าจะไปใส่บาตร”
เนื้อนางจะลุกอีกแต่ศักดาไม่ยอม กอดหญิงสาวไว้อย่างนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น ศักดาชะงักไป เนื้อนางฉวยโอกาสลุกขึ้นทันที ศักดาชักสีหน้าไม่พอใจ เนื้อนางทำเป็นไม่เห็นท่าทางศักดาที่ไม่พอใจ แล้วเดินไปเปิดประตู เห็นบ่าวคนหนึ่งยืนอยู่
“พี่สายให้บ่าวมาตามคุณเนื้อนางลงไปใส่บาตรเจ้าค่ะ พี่สายรออยู่ข้างล่างแล้วเจ้าค่ะ”
เนื้อนางหันไปมองศักดาก็เห็นเขาไม่พอใจ แต่เธอไม่สนใจ เดินออกจากห้องไปเลย ศักดาทุบที่นอนอย่างโมโห บ่าวจะเดินตามเนื้อนางไป ศักดารีบพุ่งไปดึงแขนบ่าวคนนั้นไว้
“จะไปไหน”
บ่าวตกใจ ศักดาไม่สนใจ ลากตัวบ่าวเข้ามาในห้อง บ่าวดิ้นรนขัดขืน
“อย่าเจ้าค่ะ เดี๋ยวคุณเนื้อนางเห็น”
“กว่าเนื้อนางจะใส่บาตรเสร็จ อีกนานหรอกน่า”
ศักดาจับบ่าวเหวี่ยงลงไปที่เตียง
น้อยเขย่ามือหอมอย่างดีใจ เมื่อรู้เรื่องชงชางจากหอม
“จริงรึหอม พี่ดีใจกับแกจริงๆ คุณชาญเป็นคนดี ฉันขอให้รักกันจนวันตายเลยนะ”
หอมยิ้มเขิน
“เมื่อฉันตัดสินใจที่จะลงหลักปักฐานที่นี่แล้ว ต่อไปก็เห็นจะต้องทำงานทำการให้เป็นเรื่องเป็นราวได้แล้ว ฉันคิดว่าจะเริ่มหาลู่ทางค้าขายสินค้าอย่างที่ฉันชำนาญเมื่อครั้งอยู่ที่พระนครสักที” ชงชางบอก
หอมยิ้มดีใจ น้อยพลอยยิ้มดีใจไปด้วย แม่หอมเดินเข้ามามองทั้งสามอย่างงงๆ
“เอ้า ยิ้มอะไรกัน”
ชงชาง หอม และน้อยพากันหัวเราะ แต่ไม่ยอมบอกอะไร เพราะแม่เชื่ออยู่แล้วว่าชงชางกับหอมเป็นผัวเมียกันจริงๆ แม่มองหน้างงๆ
เรือลำหนึ่งเข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าน้ำชุมพร พระยาบริบรรณเดินขึ้นมาที่ท่าเรือ กล้าตามมา พระยาบริบรรณเดินไปได้เพียงแค่ครู่หนึ่ง ก็มีโจร 2 คนพุ่งออกมาจากที่ซ่อน กล้ารีบเอาตัวบังพระยาบริบรรณไว้
“เฮ้ย มีของมีค่าอะไรส่งมาให้หมด”
พระยาบริบรรณฮึดฮัดไม่ยอม โจรเลยโดดเข้าจู่โจม ในขณะที่โจรอีกคนก็โดดเข้าใส่กล้า พระยาบริบรรณเพลี่ยงพล้ำล้มลง โจรพุ่งเข้าไปทำร้ายซ้ำจนพระยาบริบรรณฟุบหน้าไป ขณะเดียวกันกล้าก็ถูกโจรอีกคนโดดถีบจนล้มลง
ชงชางเดินผ่านมาเห็นโจรทั้งสองกำลังค้นของมีค่าตามตัวพระยาบริบรรณกับกล้าอยู่อย่างวุ่นวาย ก็ตกใจ โจรทั้งสองค้นของมีค่าได้จนพอใจแล้วทำท่าจะฆ่าทั้งสองทิ้ง ชงชางเห็นดังนั้นก็คว้าท่อนไม้พุ่งเข้าฟาดใส่โจรทันที โจรทั้งสองร้องเจ็บปวด แล้วหันมารุมชงชาง ชงชางเสียท่าถูกฟันที่แขน กล้ารวบรวมกำลังขึ้นมาได้อีกครั้ง ลุกขึ้นมาช่วยชงชาง โจรเห็นท่าไม่ดี พากันวิ่งหนีไป พระยาบริบรรณรีบวิ่งเข้ามาหาชงชางและกล้า
“คุณพระเจ็บตรงไหนหรือเปล่าขอรับ”
“ฉันไม่เจ็บอะไรหรอก แต่”
พระยาบริบรรณหันไปมองชงชาง ชงชางพยายามจะยิ้มและบอกว่าเขาไม่เป็นไร แต่ยังไม่ทันพูดอะไรก็เซไป พระยาบริบรรณกับกล้าเห็นเลือดที่ตัวชงชางก็รู้ทันทีว่าบาดเจ็บ จึงพาชงชางมาทำแผลที่เรือน กล้าทำแผลให้ชงชางอยู่ ชายหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ บ้าน ก็เดาได้ว่าพระยาบริบรรณนั้นไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา กล้าทำแผลให้จนเสร็จ ชงชางยกมือไหว้
“ฉันต้องขอบใจเธอนะ ที่มาช่วยฉันเอาไว้ เธอถึงต้องเจ็บตัวแบบนี้ ชื่ออะไรล่ะ”
“ชาญขอรับ”
“ชื่อไทย แต่หน้าตาเธอ ดูไม่ใช่คนไทย”
“กระผมเป็นคนจีนขอรับ”
“เกิดที่ชุมพรนี่รึ”
ชงชางเริ่มอึกอัก ไม่อยากเล่าเรื่องตัวเองมาก เพราะยังไม่รู้ว่าพระยาบริบรรณเป็นใคร “กระผมเกิดที่พระนครขอรับ”
“อ้าว แล้วทำไมถึงย้ายมาอยู่ถึงที่ชุมพรนี่ล่ะ”
ชงชางเงียบ พระยาบริบรรณเริ่มเดาออกว่าชงชางคงมีปัญหาอะไรบางอย่าง
“มีปัญหาอะไรที่พระนครรึ”
“เอ่อ ขอรับ”
“อ้อ ฉันก็เหมือนกัน มีปัญหาชีวิตที่น่าสมเพช ถูกเพื่อนและคนรักหักหลังจนฉันทนอยู่ที่พระนครไม่ได้ เลยต้องขอย้ายมารับราชการที่ชุมพรนี่ละ แล้วเธอล่ะ ปัญหาของเธอหนักหนาเหมือนของฉันใช่มั้ย”
ชงชางก้มหน้าไม่ยอมตอบ รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจขึ้นมาเพราะเรื่องของพระยาบริบรรณนั้นไม่ได้ต่างกับเขาเลย พระยาบริบรรณเห็นชาญไม่ตอบก็ไม่อยากเซ้าซี้ หันไปหยิบถุงเงินขึ้นมา
“เอ้า ไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ เอ้านี่ ฉันให้เป็นรางวัลที่ช่วยฉันไว้”
ชงชางไม่ยอมรับเงิน “ที่กระผมทำไปไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ขอรับ”
“ฉันรู้ แต่ถือว่าเป็นสินน้ำใจจากฉันแล้วกัน”
ชงชางยังคงลังเล พอหันไปมองกล้าก็เห็นว่ากล้าพยักหน้าให้เป็นเชิงว่าพระยาบริบรรณหวังดีจริงๆ
หอมปัดกวาดที่นอนอยู่ ชงชางเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวหันมายิ้มให้แล้วก็ต้องตาโตตกใจเมื่อเห็นว่าเสื้อของชงชางเปื้อนเลือด
“พี่ชาญ”
หอมรีบเข้าไปหาสามีแล้วจับเสื้อตรงที่มีเลือดแต่โดนแผลชงชางเข้า ชายหนุ่มร้องเจ็บ หอมตกใจ
“พี่ไปโดนอะไรมา ใครทำอะไรพี่”
“ไม่มีอะไรหรอกหอม มีคุณพระคนหนึ่งกำลังถูกโจรปล้นแล้วพี่ก็เข้าไปช่วย”
“คุณพระ เขาจะเป็นพวกเดียวกับคุณหลวงนฤบดินทร์หรือเปล่าพี่ ฉันว่าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว เราหนีกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปบอกพี่น้อย”
ชงชางดึงมือหอมรั้งไว้
“ใจเย็นๆ ก่อนหอม คุณพระท่านนี้ ท่าทางเป็นคนดี คงไม่เหมือนคุณหลวงนฤบดินทร์หรอก”
ถึงอย่างนั้นหอมก็ยังไม่สบายใจ ชงชางมองหน้าหญิงสาวแล้วก็ยิ้มปลื้มใจที่หอมเป็นห่วงเขามาก
คนในเรือนเดินมาส่งคุณหลวงนฤบดินทร์ที่ท่าน้ำเพื่อเดินทางไปต่างจังหวัด
“ไปราชการที่ชุมพรคราวนี้ฉันไปไม่กี่วันหรอก แต่ยังไงก็ฝากดูแลเนื้อนางให้ดีๆ ล่ะ”
ศักดารับคำ “ขอรับ”
คุณหลวงนฤบดินทร์เดินออกไป มั่นตามไป คุณหญิงแจ่มจันทร์เดินกลับเรือนไป เนื้อนางจะเดินตามแต่ศักดารีบดึงเอาไว้
“กลับบ้านเถอะเนื้อนาง พี่คิดถึงเนื้อนางจะแย่อยู่แล้ว”
“สมกับที่เป็นข้าวใหม่ปลามันจริงจริ๊ง.”
“นังลำดวน” สายตวาด
ลำดวนลอยหน้าลอยตาไม่รู้สึกรู้สาอะไร ขณะที่เนื้อนางกระดากอาย
ชงชางและหอมกำลังเก็บข้าวของที่แผงตลาดเตรียมกลับบ้าน
“วันนี้คนเยอะนะพี่ ของถึงขายได้หมดเร็ว”
หอมปิดร้านเสร็จจะเดินไป ชงชางจะเดินตามไป แต่จังหวะที่เขาหันหลังนั้นก็ได้ชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
“ขอโทษพี่ชาย”
“ไอ้ชงชาง”
ชงชางเงยหน้าขึ้นมามองก็ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นคุณหลวงนฤบดินทร์ยืนหน้าตาโกรธขึงขังอยู่ ชงชางอึ้งไปครู่หนึ่งพอได้สติแล้วก็รีบวิ่งไปฉุดมือหอม ให้วิ่งหนีไปด้วยกัน
“ไอ้มั่น ตามมันไป”
มั่นวิ่งตามชงชางและหอมไปทันที คุณหลวงนฤบดินทร์ตามไป ชงชางพาหอมวิ่งหนีมาอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นพระยาบริบรรณเดินดูของในตลาดกับกล้า ชงชางวิ่งเข้ามาชนจนพระยาบริบรรณเซไป ชงชางมองหน้า
“คุณพระ”
“เกิดอะไรขึ้น”
“มีคนตามล่าเราจ้ะ”
“หาที่หลบให้ชาญก่อนเถอะขอรับ” กล้าบอก
“เอ้าๆ ไปหลบที่มุมนู้นก่อนไป ถ้าใครมันกล้าตามมาหาเรื่องเธอถึงที่นี่ ฉันจะจัดการเอง”
“ขอบพระคุณขอรับ”
ชงชางพาหอมวิ่งไปหลบมุมหนึ่ง คุณหลวงนฤบดินทร์และมั่นวิ่งเข้ามา แต่พอเห็นพระยาบริบรรณก็ชะงักไป
“นฤบดินทร์”
คุณหลวงนฤบดินทร์เห็นพระยาบริบรรณก็ชะงักค้างไป
“คุณพระ”
คุณหลวงนฤบดินทร์ยกมือไหว้พระยาบริบรรณอย่างไม่เต็มใจ มั่นพลอยยกมือไหว้ตามไปด้วย พระยาบริบรรณรับไหว้ทั้งสองคนด้วยสีหน้ามึนตึง
“กระผมไม่นึกเลยว่าจะมาพบคุณพระที่นี่”
“ก็อยู่ในพระนครแล้วมันร้อนใจนักนี่”
“เอ่อ คุณพระเห็นใครวิ่งผ่านมาแถวนี้บ้างมั้ยขอรับ”
“แล้วมันใครล่ะ อ๋อ หรือว่าเป็นสาวๆ แก่แล้วน่าคุณหลวง ไอ้เรื่องแย่งเมียหรือแย่งคนรักของคนอื่นเนี่ยเลิกซะเถอะ เป็นผู้ใหญ่มีหน้ามีตาแล้ว นิสัยแบบตอนหนุ่มก็ควรเพลาๆ ลงบ้าง”
“คุณพระ”
คุณหลวงนฤบดินทร์พยายามระงับอารมณ์โกรธอย่างมาก
“เอาเถอะขอรับ เรื่องเก่าๆ กระผมก็ไม่อยากจะขุดคุ้ย แต่เรื่องที่กำลังตามหาใครอยู่นั้น กระผมก็ต้องขอรบกวนคุณพระเสียหน่อย เพราะคุณพระมารับราชการที่นี่ก็คงจะกว้างขวางพอดู กระผมกำลังตามหาคนชื่อชงชาง เรื่องนี้สำคัญมาก หวังว่าคุณพระจะกรุณา”
“ได้ ถ้าฉันเจอแล้วฉันจะบอก”
“ขอบพระคุณขอรับ”
คุณหลวงนฤบดินทร์เดินออกไป พระยาบริบรรณและกล้ารีบเดินไปหาชงชางกับหอมทันที สองหนุ่มสาวยกมือไหว้พระยาบริบรรณที่ช่วยเหลือ
“กระผมขอบคุณมากนะขอรับ ที่กรุณาช่วยเหลือในครั้งนี้”
“ไม่เป็นไร รีบไปเถอะก่อนที่คุณหลวงจะกลับมา”
“ขอรับ”
ชงชางกับหอมไหว้ลาพระยาบริบรรณแล้วรีบออกไป พระยาบริบรรณมองชงชางด้วยความสงสัย
“ตามหาคนชื่อชงชาง แต่ทำไมนายชาญจะต้องหนี สองคนนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ไปสืบมาให้ฉันที”
“ขอรับ” กล้ารับคำ
ตอนค่ำ ชงชางกับหอมกลับมาถึงบ้าน น้อยออกมารับ หอมวิตกกังวลมาก
“คุณหลวงมาเจอเราที่นี่ ต่อไปคงส่งคนออกตามหา และเราก็คงจะหาความสงบสุขไม่ได้ เห็นทีเราจะต้องไปให้ไกลจากชุมพรเสียแล้วล่ะมั้งพี่ชาญ”
“แต่เราเพิ่งใช้เงินที่มีทั้งหมด ลงทุนค้าขาย”
“แต่ชีวิตสำคัญกว่าเงินทองนะพี่”
“แล้วหอมล่ะ”
“พี่ไปอยู่ที่ไหน ฉันก็จะไปอยู่ด้วยกับพี่ พี่น้อยด้วย เราสามคนจะไม่ทิ้งกัน”
“ใช่เจ้าค่ะ”
“แล้วแม่หอมล่ะ”
หอมอึ้งไป เป็นห่วงแม่เหมือนกัน แล้วเริ่มลังเล ทั้งสามถอนใจ ตัดสินใจกันไม่ได้
คุณหลวงนฤบดินทร์กลับมาพระนคร บ่นเจ็บใจกับคนที่บ้าน
“เกือบจะจับมันได้อยู่แล้วเชียว”
“ใครหรือคะ” คุณหญิงแจ่มจันทร์สงสัย
“ก็ไอ้ชงชางน่ะสิ”
เนื้อนางสนใจทันที “คุณพ่อเจอชงชางหรือคะ เจอที่ไหนคะ”
“ชุมพร แต่ลูกไม่ต้องไปสนใจมันแล้ว เพราะมันมีเมียใหม่ไปแล้ว มันลืมลูกแล้ว เข้าใจมั้ยเนื้อนาง”
เนื้อนางหน้าสลด เศร้าใจมาก เธอกลับเข้าห้องมา นั่งคิดถึงเรื่องของชงชาง สายมองนายอย่างเห็นใจ ศักดากำลังจะเดินเข้าห้องมาพอดี เห็นสายคุยกับเนื้อนางก็หยุดแอบฟัง
“อย่าคิดมากเลยนะเจ้าคะคุณหนู คุณหนูกับคุณชงชางคงไม่ใช่เนื้อคู่กัน”
“แต่มันอดใจหายไม่ได้นะพี่สาย เมื่อรู้ว่าเขาไปรักคนอื่น”
ศักดาได้ยินว่าเนื้อนางกำลังคิดถึงชงชางอยู่ ก็เปิดประตูพรวดเข้ามา ตะคอกสั่งสาย
“ออกไป”
สายจำต้องต้องออกไป ศักดาจับเนื้อนางเขย่าอย่างแรงด้วยความโมโห
“ตอบมาสิเนื้อนาง ทำไมแต่งงานกับพี่แล้วไม่ยอมลืมมัน ทำไม”
ศักดาตบหน้าเนื้อนางด้วยความโมโหจนเธอล้มลงไปกองกับพื้น สายรีบเปิดประตูกลับเข้ามา พอเห็นสภาพเนื้อนางนั่งอยู่ที่พื้น เอามือจับแก้ม ก็เดาได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณหนู”
สายรีบเข้าไปหาเนื้อนาง กอดไว้ ศักดายังฉุนเฉียว ขณะที่เนื้อนางร้องไห้หนัก เธอแอบไปร้องไห้อีกที่ท่าน้ำ สายนั่งอยู่ด้วย ยังโกรธศักดาไม่หาย
“ฮึ ตั้งแต่คุณหนูเกิดมา คุณหลวงคุณหญิงไม่เคยลงมือกับคุณหนูเลยแม้สักครั้งเดียว แล้วนี่คุณศักดากล้าลงไม้ลงมือกับคุณหนูอย่างนี้ได้ยังไง มีครั้งแรกได้ มันก็คงมีครั้งต่อไปอีก”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงได้ล่ะพี่สาย ก็ฉันตัดสินใจแต่งงานกับเขาไปแล้วนี่ แต่ถ้าฉันแต่งงานกับชงชาง คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่”
“โธ่ คุณหนูของบ่าว”
เนื้อนางร้องไห้เสียใจอย่างหนัก สายมองสงสารจับใจ
ที่เรือนพระยาบริบรรณ พระยาบริบรรณ ชงชางและกล้า นั่งคุยกัน
“ฉันรู้เรื่องของเธอหมดแล้วนะ ชงชาง”
ชงชางตะลึง “คุณพระเรียกกระผมว่าอะไรนะขอรับ”
“เธอฟังไม่ผิดหรอก ฉันให้ไอ้กล้ามันไปสืบเรื่องของเธอมาหมดแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น ขอความกรุณาคุณพระเรียกผมว่าชาญเหมือนเดิมเถอะขอรับ กระผมไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของกระผมไปมากกว่านี้”
“ฉันขอโทษด้วยที่ละลาบละล้วงเรื่องของเธอ แต่ฉันอยากรู้ว่าเธอมีเรื่องบาดหมางใจอะไรกับไอ้หลวงนฤบดินทร์นั่น เธอนี่เองที่เป็นคนฆ่านรอินทร์”
“กระผมไม่ได้ตั้งใจนะขอรับ”
“จะตั้งใจหรือไม่ ฉันไม่รู้ แต่ที่รู้ คือฉันกับเธอมีศัตรูคนเดียวกัน”
ชงชางตกใจ
“จำได้มั้ยที่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่า ฉันเคยถูกเพื่อนและคนรักหักหลัง สองคนนั้นก็คือหลวงนฤบดินทร์และคุณหญิงแจ่มจันทร์ แล้วฉันก็รอเวลาแก้แค้นมานานหลายปี เธอล่ะ ชาญ เธอไม่แค้นใจบ้างรึที่ไอ้หลวงนฤบดินทร์มันฆ่าเตี่ยของเธอ แล้วเนื้อนาง ลูกสาวมัน ก็ปันใจจากเธอไปหาชายอื่น”
“แค้นสิขอรับ ความแค้นมันแน่นอยู่ในนี้”
ชงชางทุบอกตัวเองอย่างแรงตามอารมณ์ที่คุขึ้น
“จนแทบจะระเบิด ศพของเตี่ย กระผมก็ไม่มีโอกาสได้เผา บ้านที่เคยอยู่ก็ถูกเขาเผาจนไม่เหลือซาก ผู้หญิงที่รักเท่าชีวิตก็ปันใจให้ศัตรู กระผมเฝ้าคิดอยู่ทุกวันว่าหากวันไหนมีโอกาส กระผมก็จะต้องกลับไปแก้แค้นแน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้น เรามาร่วมมือกัน ชาญ เมื่อถึงเวลานั้นพวกมันจะต้องได้ลิ้มรสของความเจ็บปวดบ้าง”
“ขอรับ”
พระยาบริบรรณกับชงชางยิ้มให้กัน เป็นสัญญาว่าทั้งคู่จะช่วยกันชำระแค้นที่มีต่อศัตรูคนเดียวกัน
6 ปี ผ่านไป คนงานของชงชางช่วยกันแบกข้าวสารเตรียมขึ้นเรือไปส่งกันอย่างขยันขันแข็ง หอมเดินดูคนงานทำอาหารอยู่ที่ด้านหน้าเรือน แล้วน้อยก็เดินจูงหาญเข้ามา
“คุณหอมเจ้าขา บ่าวพาคุณหนูหาญมาหาแล้วเจ้าค่ะ”
น้อยปล่อยให้หาญวิ่งไปหาหอม หอมกอดลูกไว้
“พี่น้อย ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ”
“อ้าว ก็เดี๋ยวนี้เรากินดีอยู่ดี ค้าขายร่ำรวยแล้ว จะไม่ให้พี่เรียกเธอว่า คุณหอม ได้ยังไงล่ะจ๊ะ”
“แต่ฉันก็ยังเป็นหอมคนเดิมนะพี่”
น้อยยิ้มเอ็นดูหอม หอมกวาดตามองไปรอบๆ
“เสียดายจริง ที่แม่ไม่มีโอกาสได้อยู่อย่างสุขสบายกับเราในวันนี้”หอมหน้าสลดลงนิดหนึ่ง ชงชางเดินเข้ามา คว้าตัวหาญมากอดจูบอย่างรักใคร่ หอมยิ้มชอบใจ
“ไปไหนมาแต่เช้าน่ะพี่ชาญ”
“พี่ไปที่เรือนคุณพระบริบรรณมาน่ะ หลวงเลื่อนให้ท่านเป็นเจ้าพระยาแล้ว”
“จริงรึพี่ งั้นฉันต้องทำกับข้าวส่งไปร่วมแสดงความยินดีกับท่านสักหน่อยแล้ว เพราะถ้าไม่ได้ท่านสนับสนุน เราสองคนก็คงไม่ได้อยู่ดีกินดีอย่างทุกวันนี้ บุญคุณท่านท่วมหัวเราสองคนเลย”
ชงชางพยักหน้าพอใจ “คนจีนเรามีความเชื่อว่า ใครมีบุญคุณกับเรา เราต้องทดแทน แต่หากมีความแค้น ก็ต้องชำระ”
ชงชางคิดถึงหลวงนฤบดินทร์กับเนื้อนางขึ้นมาอีก สีหน้าดุขึ้นทันที หอมรีบแตะแขนสามีเตือนสติ
“พี่”
ชงชางรู้สึกตัว พยายามฝืนยิ้ม แต่ก็ยังเป็นยิ้มที่ฝืดฝืนเต็มที
“แล้วอีก 2 วัน คุณพระให้พี่กับไอ้กล้าขึ้นไปทำธุระที่พระนครให้ท่านหน่อย หอมอยากได้อะไรจากในพระนครมั้ย”
“ไม่ล่ะจ้ะ ให้พี่ไปกลับอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว”
ชงชางพยักหน้ารับ เหม่อคิดถึงใครบางคนในพระนคร หอมกับน้อยสบตากันอย่างไม่สบายใจ
พระยานฤบดินทร์กำลังเล่นกับเอื้องฟ้าลูกสาววัย 5 ขวบของเนื้อนางกับศักดา ศักดาพูดแสดงความยินดีกับพระยานฤบดินทร์
“คุณพ่อฝากกระผมมาแสดงความยินดีกับคุณน้าด้วยขอรับ ที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยาแล้ว”
“แต่คุณพระสีหราฐก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นเจ้าพระยาเหมือนกัน เรื่องวาสนาดีนี่ ไม่มีใครเกินหน้าท่านจริงๆ”
ทุกคนยิ้มชื่นมื่น เนื้อนางเดินเข้ามารับเอื้องฟ้าไปจากพระยานฤบดินทร์ คุณหญิงแจ่มจันทร์เอ่ยถาม
“จะพาลูกไปไหนรึ เนื้อนาง”
“จะพาเอื้องฟ้าไปเดินที่ตลาดค่ะ”
“เอ้าๆ ถ้าอย่างนั้นก็รีบไป เดี๋ยวสายกว่านี้แล้วแดดจะแรง มาให้ยายหอมหน่อยเร็ว”
เอื้องฟ้าเดินไปให้คุณหญิงแจ่มจันทร์หอมแก้ม แล้วเดินไปหาเนื้อนาง เนื้อนางกับศักดาก็พาเอื้องฟ้าออกไป สายตามไป สวนกับลำดวนที่เดินเข้ามารายงาน
“เถ้าแก่มาแล้วเจ้าค่ะ”
พระยานฤบดินทร์พยักหน้ารับรู้แล้วเดินออกไป
ชงชางกับกล้าขึ้นมาจากเรือที่ท่าน้ำ พระนคร
“เสร็จธุระของคุณพระแล้ว ฉันอยากจะไปที่ที่หนึ่งก่อนกลับชุมพร”
กล้ามองหน้าชงชางอย่างรู้ทัน
“เรือนพระยานฤบดินทร์ใช่มั้ยล่ะ”
ชงชางพยักหน้าแล้วแค่นยิ้มอย่างเครียดๆ “จะไปด้วยกันมั้ยล่ะ กล้า”
“ไปสิ มาด้วยกัน จะแยกกันได้ยังไง อีกอย่าง หากเกิดอะไรขึ้น จะได้ช่วยกันได้”
ชงชางมองกล้าอย่างซาบซึ้งใจ “นอกจากหอม ก็มีแต่แกนี่แหละที่ฉันไว้ใจอย่างที่สุด ไม่เสียทีเลยที่ได้เป็นเพื่อนกัน”
กล้ายิ้มๆ ก่อนออกเดินทางไปที่ท่าน้ำเรือนพระยานฤบดินทร์ ด้อมๆ มองๆ อยู่แถวนั้น ชงชางเห็นว่าบ่าวกำลังขนหีบห่อมากมายลงจากเรือแล้วหิ้วเข้าไปที่เรือน พระยานฤบดินทร์เดินออกมาคุยกับเถ้าแก่ มั่นตามมาด้วย
“กระผมนำของกำนัลมาร่วมยินดีขอรับ ที่คุณหลวงได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยาแล้ว”
ชงชางมองอย่างดูถูก แล้วพูดกับกล้า
“ในขณะที่ยศถาบรรดาศักดิ์สูงขึ้น แต่จิตสำนึกกลับต่ำลง แต่ก่อนคุณหลวงเคยเป็นคนเห็นแก่ได้ รับส่วย รับของกำนัลจากพ่อค้าอย่างไร วันนี้คุณหลวงก็ยังเป็นคนเห็นแก่ได้ไม่ต่างไปจากเดิมเลย”
พระยานฤบดินทร์และเถ้าแก่เดินคุยกัน
“ขอบใจนะที่คิดถึงฉัน แล้วนี่ไปที่ไหนมาบ้างหรือยังล่ะ”
“เอ่อ ไปที่เรือนเจ้าพระยาสีหราฐมาน่ะขอรับ แต่ว่ากระผมมีของกำนัลให้ไม่มากมายเท่าคุณพระเลยนะขอรับ”
พระยานฤบดินทร์หัวเราะชอบใจแล้วพาเถ้าแก่เดินขึ้นเรือนไป มั่นจะตามไปแต่หันมาเห็นชงชางกับกล้ากำลังด้อมๆ มองๆ อยู่นอกเรือน แต่เห็นหน้าไม่ชัดเพราะทั้งสองมีผ้าคลุมหัวอยู่
“เฮ้ย นั่นใครวะ”
บ่าวผู้ชายที่ได้ยินเสียงมั่นเอะอะรีบพากันวิ่งเข้ามา มั่นชี้ให้พวกบ่าววิ่งเข้าไปจับตัวชงชางกับกล้า
“หนีเร็ว” กล้าบอก
ชงชางและกล้ารีบเอาผ้าคลุมพรางหน้าแล้วจะวิ่งหนีไป
“แยกกันไป แล้วไปเจอกันที่ตลาด”
กล้าพยักหน้า ทั้งสองวิ่งแยกกันไปคนละทาง มั่นและบ่าววิ่งตามมาถึงตรงที่ชงชางกับกล้าซุ่มอยู่เมื่อครู่ เห็นทั้งสองวิ่งแยกกันไปคนละทาง มั่นกับบ่าวจึงวิ่งแยกกันไปคนละทางเช่นกัน
เนื้อนางกำลังเลือกสร้อยข้อมือให้เอื้องฟ้าอยู่ที่ตลาด ขณะที่ศักดาก็สอดสายตาหาสาวๆ พอเจอที่ถูกใจก็ยิ้มกรุ้มกริ่มให้ แต่พอหันมาเจอสายมองอยู่ เขาก็ชักสีหน้าไม่พอใจใส่ไป เนื้อนางใส่สร้อยให้เอื้องฟ้า
“แม่ซื้อให้แล้วรักษาดีๆ นะลูก”
“ค่ะแม่”
ทั้งหมดจะเดินออกจากร้านเครื่องประดับ ชงชางวิ่งหนีมั่นเข้ามา ชนเข้ากับเนื้อนางและเอื้องฟ้าจนสองแม่ลูกเซไป เนื้อนางตกใจร้องขึ้น แล้วรีบก้มไปดูลูกด้วยความเป็นห่วง
“เอื้องฟ้าเป็นอะไรมั้ยลูก”
ชงชางได้ยินเสียงก็จำได้ หันขวับไปมอง เห็นเนื้อนางนั่งปัดฝุ่นที่เนื้อตัวของเอื้องฟ้าอยู่ ชงชางตะลึงที่ได้เจอเนื้อนางโดยไม่คาดฝัน
“เนื้อนาง”
“หนูไม่เป็นไรค่ะแม่”
ชงชางมองเอื้องฟ้า ยิ่งอึ้งไปอีกเมื่อรู้ว่าเนื้อนางมีลูกแล้ว แต่เนื้อนางไม่ทันได้สนใจชงชาง ศักดาเดินเข้ามา
“อะไรกัน”
เนื้อนางยังไม่ทันได้ตอบอะไร มั่นก็วิ่งนำบ่าวผู้ชายเข้ามา แล้วตะโกนบอก
“จับมันที มันจะมาปล้นบ้านคุณพระนฤบดินทร์”
ชงชางหันมองด้วยความตกใจที่มั่นตามมาทัน ศักดาหันไปมองชงชาง แต่ยังเห็นหน้าไม่ชัด
“นี่มึงเป็นโจรเรอะ”
ศักดาคว้าคอเสื้อชงชางไว้ทันที
อ่านต่อตอนที่ 7