xs
xsm
sm
md
lg

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 11

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 11

ดาวยิ้มหน้าระรื่นที่สุด เดือนนั่งนิ่งๆ ยอมรับในชะตา เมฆที่มาแอบฟังอยู่กับเจียมและทาสคนอื่นๆ ถึงกับอึ้ง ไม่อยากทนฟังอีก

"ไม่...ไม่จริง"
"เฮ้ย เอ็งแหกปากทำไม เดี๋ยวคุณท่านก็มาด่าไม่ได้ฟังพอดี" เจียมบอก
"ไม่จริง นังดาวของข้า"
"ไอ้เมฆ เอ็งหุบปาก"
เจียมกลัวเมฆเสียงดัง จึงอุดปากไว้แล้วผลักออกไปจากตรงที่แอบฟังกันอยู่
เจียมลากและเหวี่ยงเมฆออก เมฆใจแป้ว แทบหมดเรี่ยวแรง
"นังดาวต้องไม่ใช่คู่ของคุณหาญ นังดาวต้องเป็นคู่กับข้า"
"เอ็งจะเสียดมเสียดายทำไมวะ น้ำหน้าอย่างนังดาว หาที่ไหนก็ได้"
"ไม่ ข้าไม่ยอม นังดาวต้องเป็นของข้า"
"ถ้าดวงมันมาอย่างนั้นก็ต้องเป็นอย่างนั้นโว้ย"
เมฆรับไม่ได้ ส่ายหน้า เจียมยิ้มเยาะหยัน รีบกลับไปฟังที่เดิม

ดาวเข้าไปใกล้ซินแสเทียน สีหน้าดาวเต็มไปด้วยความหวัง ซินแสเทียนยิ้มให้ดาวอย่างเมตตา
"แม่ดาว...หล่อนมีบุญ"
เทียนยังพูดไม่จบ ดาวเจื้อยแจ้วแทรกขึ้นมาทันที
"บ่าวกราบพระคุณเจ้าค่ะท่านซินแส ที่เมตตาเห็นเนื้อแท้ดวงบุญหนุนนำของบ่าว"
"เดี๋ยวก่อนแม่ดาว"
ดาวไม่ฟัง รีบคลานเข้าไปกราบแทบเท้าพวงแก้วที่นั่งอึ้ง ไม่อยากเชื่อ
"บ่าวกราบคุณแก้วเจ้าค่ะ บ่าวดีใจเหลือเกินที่มีดวงเป็นคู่ครองคุณหาญ ต่อแต่นี้ บ่าว...เอ้อ ดาวจะเป็นสะใภ้คุณแม่"
เอื้อยเห็นท่าคางคกขึ้นวอของดาว สุดจะทานทน ยิ่งเห็นสีหน้าเจียนเป็นลมของพวงแก้วก็ยิ่งต้องกำราบดาว
"นังดาว หยุด ! ซินแสเทียนยังพูดไม่จบ" เอื้อยว่า
"ซินแสเทียนเจ้าคะ เมื่อครู่ท่านจะว่ายังไงนะเจ้าคะ" พวงแก้วว่า
"อั๊วว่า แม่ดาวมีบุญ"
"เจ้าค่ะ บ่าวพร้อมจะรับบุญ"
"แต่บุญน้อยนัก...ไปไม่ถึงดวงดาว ผลบุญที่ทำมาแต่หนหลังนำพาให้หน้าตาผุดผ่องก็จริง แต่เสียดายยิ่งนัก กรรมหนักในชาตินี้จะพาให้ชีวิตร่วงลงสู่ที่ต่ำ"
ดาวหน้าชา รอยยิ้มกว้างค่อยๆหุบลง
"ท่านซินแสล้อบ่าวเล่นใช่ไหมเจ้าคะ ซินแสแสร้งพูดปด" ดาวว่า
"อีดาว ! เอ็งกล้าลบหลู่ท่านซินแสเรอะ" เอื้อยบอก
"ท่านซินแสเจ้าคะ ท่านกล่าวแต่แรกว่าบ่าวมีบุญ"
"ใช่ มีแต่ไม่มาก บุญน้อย กรรมหนา ลื้อควรเพียรทำความดีให้มาก รักษาศีล5ให้ได้ มิเช่นนั้น ผลกรรมที่ก่อด้วยอวิชา โลภะ โทสะ โมหะ จะนำพาลื้อไปทางเสื่อม"
"ถ้าเยี่ยงนั้น ผู้ที่มีบุญคู่ควรได้เป็นสตรีที่ส่งเสริมคุณหาญล่ะเจ้าคะ" ชื่นว่า
"แม่หญิงคนนั้นคือ แม่เดือน"
ซินแสเทียนผายพัดไปทางเดือน เดือนอึ้ง พวงแก้วก็อึ้งเหมือนกัน มองเดือน
"จะเป็นไปได้ยังไงเจ้าคะ บ่าวกับนังเดือนเกิดในคืนเดียวกัน"
"คืนเดียวกัน แต่เพลาห่างกันเพียงฟ้ากำหนด แม่เดือนเกิดคืนเดือนหงาย ส่วนลื้อเกิดห่างไปชั่วเปลี่ยนชั่วยาม กลายเป็นวิกาลคืนเดือนมืด เดือนดับ ไร้ซึ่งวาสนา เอาเถิด แม่ดาว ลื้อจะไปได้ดี หากลื้อยึดมั่นในคติธรรม ทำดีได้ดีนะ กัมมุนา วัตตติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
"นังเดือน มากราบซินแส กราบคุณแก้วเสีย" เอื้อยบอก
เดือนเข้าไปกราบตามที่เอื้อยบอก ดาวนั่งนิ่งจนเอื้อยอยากกระทืบ
"นังดาว เอ็งด้วย...เอ็งทั้งคู่นะ นังดาวนังเดือน ไม่ว่าวาสนาจะนำพาเช่นไร คุณแก้วก็เป็นเจ้านาย มีพระคุณกับเอ็งสองคนยิ่งนัก"
ดาวจำใจมากราบ แต่ยังช็อกที่ไม่ใช่ตนเอง
"จากนี้แม้จะรู้ชะตา เอ็งสองคนก็เป็นบ่าวไพร่ในเรือนข้า ข้าก็ยังเมตตาพวกเอ็งเท่าเทียมกับคนอื่นๆ ไม่มีใครด้อยใครดีกว่าใคร"
"เจ้าค่ะ บ่าวมิบังอาจเจ้าค่ะ" เดือนบอก
เดือนและดาวกราบลงอีกครั้ง พวงแก้วอดไม่ได้แตะมือเบาๆบนบ่าเดือน แต่ก็ยังไม่อยากจะยอมรับเพราะเป็นบ่าวไพร่ในเรือน ดาวมองด้วยความอิจฉา

เดือนและชื่นลงจากเรือน แม้จะดีใจแต่พยายามนิ่งๆไว้ เหล่าทาสต่างยิ้มเข้ามาหา
"นังเดือนเอ๊ย บุญพาวาสนาส่งนะเอ็ง" อ่ำบอก
ทาส2 บอก
"ชื่นใจเลยสินังชื่น มีลูกบุญใหญ่แบบนี้"
"ไม่หรอก ข้ากับนังเดือนก็เหมือนเดิม แค่ดวงชี้มา แต่จะเป็นตามดวงแค่ไหนก็สุดแท้แต่บุญกรรม"
เจียมเข้ามา จากไม่เคยกินเส้นกัน แต่คราวนี้กลับยิ้มทำดี
"แม่เดือน ข้าฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
"นังเจียม เอาใหญ่เชียวนะ จะฝากเนื้อฝากตัว ฝากกับข้าก่อนไหม กำลังเปรี้ยวปาก" อ่ำบอก
"อ๊าย ไอ้อ่ำ ไอ้บ้า"
ทั้งหมดดูมีความสุข ดาวกัดฟันกรอดๆ เดินตามกลุ่มมา
"นังเดือน ได้ดีแล้วอย่าลืมข้านะ"
"อย่าพูดไปจ้ะน้าเจียม ข้ายังไม่ได้อะไร"
"ฮึ อีคางคกขึ้นวอ"

ดาวทนไม่ได้ เบียดเดือนกระเด็นไปทางหนึ่ง ฝ่าวงออกไปด้วยความอิจฉารุนแรง เดือนมองอย่างไม่สบายใจ นึกเป็นห่วงดาว

ภายในเรือนใหญ่ พวงแก้วยังอึ้งกับคำทำนายของซินแสเทียน ร้อนใจจนพัดก็เอาไม่อยู่

"คุณแก้วเจ้าคะ หากดวงมาเช่นนั้น คุณแก้วไม่ทำตามก็ได้นะเจ้าคะ อาจมีแม่หญิงอื่นที่คู่ควรกับคุณหาญ ที่ไม่ใช่...ทาส"
เอื้อยถนอมคำ เพราะอย่างไรตัวเองก็เป็นทาสเหมือนกัน ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นฐานะทำให้เจียมตนอย่างมาก
ซินแสเทียนมองอยู่ รู้ใจพวงแก้วที่ไม่อยากยอมรับว่าคนที่มีดวงส่งเสริมหาญกลายเป็นทาสในเรือนเบี้ย
"สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ งดงามเสมอ เหตุเกิดจากปัจจัย...ชะตาลิขิตไว้ เพราะบุญกรรมเก่าเขาคู่กันมาอย่างนั้น"
"เช่นนั้น ทำไมถึงเป็นแม่เดือน .เอ้อ เป็น....เป็นทาสในเรือนเบี้ย"
"คุณนายแก้ว ดวงดาวลิขิตมาเช่นนั้น แม้จะเกิดเป็นทาส หากแม่เดือนมีหัวใจมั่นคง ซื่อสัตย์ และรักษาคุณธรรมความดีผ่องแผ้วเหมือนเดือนกระจ่างฟ้า..แม้ตกทุกข์ ได้ยากก็ยังกตัญญูรู้คุณ คนเช่นนี้แหละ สมแล้วจะส่งเสริมให้สามีได้เป็นใหญ่ในภายหน้า"
"แล้วต่อจากนี้"
"ก็สุดแท้แต่คุณนายแก้วจะจัดการ แต่ดวงมาเช่นนั้น อั๊วเองก็เปลี่ยนดวงไม่ได้ดอก มันขึ้นอยู่กับผลกรรมดีและชั่วของเจ้าของดวงนั้นเอง"
"ข้าอยากให้ลูกได้ดี สมประสงค์ความหวังของท่านเจ้าสัว"
"เช่นนั้น คุณท่านจะนำเรื่องแม่เดือนเรียนต่อท่านเจ้าสัวรึเจ้าคะ" เอื้อยถาม
"ท่านซินแสว่าไว้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนี่นะ...วันพรุ่ง ข้าจะนำเรื่องเรียนให้ท่านเจ้าสัวทราบ ท่านว่าอย่างไร อิฉันคงต้องปรึกษาซินแสอีกคำรบนะเจ้าคะ"
"การใดเป็นการดี การเจริญ การมงคล ข้ายินดีช่วยเหลือ"
เอื้อยแอบยิ้มมุมปาก รู้สึกดีใจแทนเดือนที่รักเหมือนลูกหลาน พวงแก้วถอนหายใจอย่างปลง ดวงมาแล้ว ก็ต้องพาไปให้ชีวิตดีที่สุดเช่นกัน

หาญและมั่นเดินมายังตลาดสำเพ็ง ผ่านแผงต่างๆ ซึ่งมีแผงหมอดูเรียกลูกค้าอยู่
"พ่อหนุ่ม ดูดวงไหมจ๊ะ รูปหน้ามีสง่าราศีจริงแท้ แต่ดูท่าจะพลัดพรากด้วยรัก"
"ไม่ล่ะจ้ะ ขอบใจ"
หาญเดินผ่านหมอดูไป หมอดูร้องบอกตามหลัง
"จริงๆนะท่าน ท่านมีวาสนาดี แต่จะมีรักที่พลัดพราก"
หาญหัวเราะส่ายหน้าไม่เชื่อ
"มีอันใดน่าขันหรือขอรับนายน้อย" มั่นถาม
"ก็หมอดูน่ะสิ ดูไม่แม่นแล้วยังจะเรียกลูกค้าอีก"
"ไม่แม่น นายน้อยรู้ได้เยี่ยงไรเล่าขอรับ"
"ก็ที่บอกว่าข้าจะมีรักที่พลัดพรากน่ะ ไม่เห็นจะแม่น เพราะความจริงไม่ได้ห่างกันเสียหน่อย"
"นายน้อย"
มั่นดักหน้า ดักคอ หาญรีบกลบเกลื่อน
"เราหมายถึงเรากับคุณพ่อคุณแม่ยังอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า มิเห็นว่าความรักพ่อแม่ลูกจะพลัดพรากจากกันเสียหน่อย"
"อ้อ..เยี่ยงนั้นรึขอรับ หึหึ"
มั่นขำๆ ไม่ถาม ไม่บังควรเรื่องเจ้านาย แต่คิดว่าเริ่มจะสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหาญ
"พี่มั่นนี่กระไร วันนี้ช่างมีกริยาประหลาดนัก"
"มาเดินลอยชายที่ตลาดให้แม่หญิงชะม้อยตา มิสนุกดอกหรือขอรับ"
"แม่หญิงเหล่านั้นอาจชายตาให้พี่มั่นก็ได้"
"หามิได้ขอรับ บ่าวเป็นทาส เนื้อตัวเลอะเทอะนัก เสื้อแสงก็ไม่มีให้สง่า หญิงใดจะมองเล่า นายน้อยก็พูดเล่นไป"
มั่นเจียมตนในสภาพตัวเอง หาญมองมั่นแล้ว นึกอะไรออก

มั่นใส่เสื้อใหม่ เดินเอี่ยมอ่องออกมาจากร้านขายเสื้อผ้าดูดีมีราคา มั่นดูเก้อเขิน หาญพอใจ
"แค่นี้ก็ไม่เหมือนทาสแล้ว พี่มั่นดูสำรวยสมเป็นสุภาพบุรุษพระนคร"
"นายน้อยก็พูดไปขอรับ บ่าวเป็นทาส นายน้อยเมตตาซื้อเสื้อให้ หนำซ้ำยังบังคับนุ่ง บ่าวรู้สึกเหมือนขี้กลากจะขึ้น ก้าวขาแทบไม่ออกแล้วขอรับ"
"ฮ่าๆ จำแลงกายเล่นสักวันนะพี่มั่น มาเถอะ ไหนๆพี่จะพาเรามาเดินเล่นชมสาว เราก็มาเดินด้วยกัน...อ้อ อย่าเผลอพูดคำว่าบ่าว ดีไหม"
"บ่าว...เอ้อ"
"อ๊ะๆ พ่อมั่น"
หาญกระแอมไม่ให้มั่นพูดว่าตัวเองเป็นบ่าว มั่นงง หาญตบไหล่ เดินไปราวกับเป็นพี่น้องเป็นเพื่อนเท่าเทียมกัน

ภายในโรงน้ำชา เว่ยชิง ใช้ตะเกียบคีบหมูสามชั้น คีบผักใส่ชามข้าว อาหารดีๆจัดใส่ถ้วยกระเบื้องวางเต็มโต๊ะเบื้องหน้า
"ฮ่อเจี๊ยะทั้งนั้น เจี๊ยะสิฟ้าหยาด"
เว่ยชิงเอาใจฟ้าหยาด คีบนี่นั่นให้ อีกฝ่ายเบือนหน้า งอน ไม่กิน ไม่แตะตะเกียบ ไม่แลชามข้าว
เว่ยชิงพยายามง้อฃ
"โต้เหมี่ยวผัดน้ำมันงา"
"เหมือนผักให้หมูกิน"
"งั้นนี่...หมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว"
"วันก่อนจับฉันมัดไว้กับเสาในเล้าหมู อยู่กับหมูทั้งคืน ยังจะให้กินหมู อ๊ายย"
เว่ยชิงรู้สึกผิดที่ทำแรง แต่ก็พูดดีไม่เป็น
"ก็ลื้อดื้อนักนี่ อั๊วไม่ตีก็บุญเท่าไหร่"
"อาเว่ย ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เอะอะอะไรก็ตี โตแล้ว พูดรู้เรื่อง"
"พูดรู้เรื่องก็เจี๊ยะปึ้ง"
"โอ๊ย ไม่ได้พูดเรื่องกินข้าว ฉันพูดเรื่องที่อาเว่ยทำโทษฉัน แค่ฉันจะรักคุณหาญ จะบริการท่านเจ้าสัวแสน ทำไมอาเว่ยต้องใจร้ายกีดกันด้วย"
เว่ยชิงหน้าตายทันที เรื่องฟ้าหยาดกับความเกี่ยวพันกับแสนและหาญไม่อาจพูดความจริงได้
"โอ๊ย" เว่ยชิงลากเสียงยาว กลบเกลื่อนพิรุธ "ลื้อน่ะไม่รู้อะไร อั๊วทำทุกอย่างเพราะหวังดีกับลื้อ ถ้าอั๊วใจร้ายหยั่งปากลื้อพ่นออกมา อั๊วไม่รับเลี้ยงลื้อไว้จากแม่ลื้อหรอก"
ฟ้าหยาดตาโต มองเว่ยชิง เพราะเว่ยชิงหลุดพูดถึงแม่ฟ้าหยาด
"ยังจะมองหน้า เดี๋ยวปั้ดใจร้ายฆ่าให้ตายจริงๆซะนี่"
"อาเว่ยรับฉันมาจากแม่....อาเว่ยย่อมรู้จักแม่ฉัน"
"อุ๊ยหยา ซี้ซั้วต่า....ใครพูดวะ ไม่มี ไม่ได้พูด"
"อาเว่ยพูดเมื่อกี๊"
"เฮ่อ วาจามันพาไป พูดไปหยั่งงั้นแหละ...ลื้อไม่เจี๊ยะปึ้งก็ไป อยากไปไหนก็ไป"
"ดี ฉันเบื่อหน้าอาเว่ย ถามอะไรก็ไม่บอก ฉันไปหาคนที่ทำให้ฉันมีความสุขดีกว่า"
"ฮ๊า...จะไปแล่นแต๊ที่ใต้หล้าใช่ม๊าย"
"ไม่ไปหรอกน่า...โดนกักตัวอยู่ในโรงน้ำชาตั้งหลายวัน ฉันแค่อยากออกไปเที่ยวเล่นตลาดเท่านั้นเอง"

ฟ้าหยาดปฏิเสธหน้าตาย เว่ยชิงยิ้มพอใจ พยักหน้าทำนองว่าดีมากที่ไม่ไปซ่าที่ใต้หล้า ฟ้าหยาดแอบหันไปยิ้มกริ่ม มีแผนการที่จะไปใต้หล้าแน่ๆ เว่ยชิงก็แอบยิ้มมุมปากเช่นกัน
 
อ่านต่อหน้า 2

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 11 (ต่อ)

ฟ้าหยาดยืนอยู่กลางตลาดสำเพ็ง สีหน้าเซ็งมาก เหลียวมองข้างๆ มีคนงานของเว่ยชิงตามประกบฟ้าหยาดแบบไม่ให้คลาดสายตา

"อาเว่ยตัวแสบ แบบนี้ฉันก็แอบไปใต้หล้าไม่ได้น่ะสิ"
คนงานส่ายหน้า ทำนองว่าไม่ได้ ไม่งั้นพวกข้าฟ้องแน่ ! ฟ้าหยาดเดินตลาดเซ็งๆ จับนั่นนี่ ไม่ซื้อ จนผ่านแผงยาดอง โดนนักเลงขี้เมาแซว
ขี้เมา1บอก
"บ๊ะๆ นั่นมันดอกฟ้าหอจันทร์ฉายนี่หว่า"
ขี้เมา2บอก
"แม่นางฟ้าหยาด มานั่งกับพี่มั้ยจ๊ะ"
ฟ้าหยาดไม่อยากยุ่ง เดินนิ่งๆผ่านไป ขี้เมาอดใจไม่ได้ ดึงแขนไว้
ขี้เมา1ถาม
"จะรีบไปไหนจ๊ะคนสวย ใจคอจะไม่เมตตาพาพี่ขึ้นสวรรค์หน่อยรึจ๊ะ"
"ตอนนี้ฉันมาเดินตลาด ไม่ได้ทำงาน หากพวกพี่อยากสำราญเชิญที่หอจันทร์ฉายเถอะจ้ะ ฉันขอตัว"
ฟ้าหยาดปัดมือขี้เมา1ออก ขี้เมาไม่พอใจ กระชากฟ้าหยาด
"เฮ่ย มานี่ มานั่งตักกู"
"ว้าย !"
คนงาน 2 คนเข้ามาช่วยฟ้าหยาด
คนงาน1บอก
"ปล่อยอาฟ้าหยาด ไม่งั้น... อ้าก"
คนงาน 1 และ 2 เข้ามาห้ามขี้เมา2 คน จนกลายเป็น มวย 2 คู่

หาญและมั่นเดินมาด้วยกัน มั่นดูเขินๆ เพราะมีผู้หญิงชะม้ายตาให้ เพราะบัดนี้มั่นดูไม่เหมือนไพร่
"ชอบแม่หญิงคนไหนก็เข้าไปเกี้ยวเลยพี่มั่น"
"นายน้อยก็...บ่าวไม่กล้าแลสตรีนางใดดอกขอรับ"
ทั้งคู่ได้ยินเสียงคนอื้ออึง มองไปที่วงมวย 2 คู่เบื้องหน้า
"ฟ้าหยาด"
มั่นมองตาม เห็นฟ้าหยาดอยู่กลางวงมวย มั่นตะลึงในความงาม
"แม่หญิงฟ้าหยาด...อ้อ คนนี้นี่เองที่คุณหาญปกปิดไว้ไม่ให้คุณแก้วรู้"
"นางไม่ใช่คู่รักของเรานะพี่มั่น นางอยู่หอจันทร์ฉายไงล่ะ"
มั่นพยักหน้าเข้าใจทันทีว่า ฟ้าหยาดเป็นใครอะไร หาญและมั่นมองไปทางฟ้าหยาดกลางวงที่ต่อยกัน
"ดูท่าแม่หญิงฟ้าหยาดจะแย่นะขอรับ"
ลูกน้องฟ้าหยาดโดนขี้เมานักเลงชกหงายหลังลงไปทั้งสองคน ฟ้าหยาดเลยโดนขี้เมาฉุดกระชาก
"ปล่อยฉันนะ"
"เฮ้ย หยุด"
หาญก้าวเท้านำไปทางขี้เมาที่ดึงฟ้าหยาดอยู่ ขี้เมาอีกคนเลยจะเข้ามาต่อย
"คุณหาญ ระวัง"
มั่นรับมือขี้เมา 2 ต่อยซ้ายต่อยขวา นักเลง 2 เพลี่ยงพล้ำ ขี้เมา1 เห็นท่าไม่ดี ชักมีดเล่มโตที่ชายพกขึ้นชี้หน้ามั่นและหาญ
ขี้เมา1บอก
"ไม่ใช่เรื่องของพวกแก อย่ายุ่ง"
"คุณหาญช่วยฟ้าหยาดด้วย"
"พี่ชายวางมีดเถอะ คุยกันดีๆ มีอะไรว่ามา" หาญว่า
มั่นกระซิบหาญ
"นักเลงขี้เมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องเจรจาให้เสียเวลาดอกขอรับ"
ขี้เมา1บอก
"หมูจะหามอย่าเอาคานมาสอด ข้าจะเอาอีหมูตัวเมียนี่ไปทำแม่พันธุ์สักป้าบสองป้าบ"
"อ๊าย ! ไอ้บ้า ฉันไม่ไป"
ฟ้าหยาดดิ้นสุดฤทธิ์ ขี้เมายื้อฟ้าหยาดพลางกวาดมีด
"ฟ้าหยาด...อย่าดิ้น เดี๋ยวโดนมีด"
"คุณหาญอย่าเข้าไป กระผมเอง"
มั่นก้าวเท้าอย่างมั่นใจเข้าไป ขี้เมาจ้วงมีดใส่ทันที ฟ้าหยาดกรี๊ดคิดว่ามั่นโดนแทงแน่ ทว่ามั่นหมุนตัวหลบแล้วฟันศอกย้อนกลับเข้าหน้าขี้เมาทันที
ขี้เมาหน้าหงาย แต่มือยังไม่ปล่อยฟ้าหยาด มั่นหักบิดข้อศอกให้ขี้เมาปล่อยฟ้าหยาด
"แม่หญิงฟ้าหยาด...หลบ"
ฟ้าหยาดหลุดจากขี้เมาได้ วิ่งไปซบอกหาญทันที
ขี้เมาโมโหสุดขีด จะจ้วงมีดใส่มั่นอีก มั่นตั้งรับหลบได้ จับแขนที่จับมีดบิดแล้วหักราวกับท่าหักงวงไอยรา ขี้เมาร้องจ๊าก แล้วจับเหวี่ยงไปกองสลบกับพื้น
ขี้เมา 2 ฟื้นขึ้นมาเข้ามาต่อยมั่น มั่นจัดชุดแม่ไม้มวยไทย กระโดดเหยียบเข่าขี้เมา 2 ปีนขึ้นไปแล้วประเคนศอกเฉาะลงกลางกบาลขี้เมา 2 ลงไปกองแน่นิ่ง
ชาวบ้านอื้ออึง ตื่นเต้น ชื่นชมมั่น
"ปลอดภัยแล้ว แม่นางหญิงหยาด .อ้าว..."
ฟ้าหยาดก้าวอาดๆเข้ามา ไม่มีท่าทางกลัวเหมือนที่ซบหาญเมื่อครู่ แต่เป็นโกรธจัด
"อีหมูตัวเมียเหรอ จะเอาฉันไปทำพันธุ์เหรอ ฮึ อย่าได้มีพันธุ์ต่อไปเลยพวกแก"
ฟ้าหยาดเข้าไปกระทืบกล่องดวงใจขี้เมาทั้ง 2 ฝ่ายขี้เมาจุกซ้ำกว่าเดิม หน้าเขียวร้องไม่ออก
"แม่หญิง...พอแล้ว เดี๋ยวมันก็จุกตายพอดี"
มั่นดึงฟ้าหยาดออกมา นางสะบัดพรืบ แล้วถลาไปหาหาญ สำออยทำเป็นกลัวอีกรอบ
"คุณหาญเจ้าคะ ฟ้าหยาดกลัวจังเลยเจ้าค่ะ"

มั่นแอบหัวเราะ ประทับใจความเซี้ยวของฟ้าหยาด ฟ้าหยาดได้ยินมั่นหัวเราะ ก็หันมาค้อนใส่

ชาวบ้านช่วยกันจับขี้เมา 2 คน หิ้วออกไปทางหนึ่ง ฟ้าหยาดยังซบกับอกหาญ

"ฟ้าหยาดขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้วเจ้าค่ะ คุณหาญปลอบฟ้าหยาดหน่อยนะเจ้าคะ"
"เอ....ที่กระทืบขี้เมาเมื่อครู่ ดูไม่มีแววว่าจะหวาดหวั่นขวัญหาย"
ฟ้าหยาดค้อนมั่นอีกที หมั่นไส้ ที่รู้ทัน
"ไม่ทราบว่าชายคนนี้เป็นใครหรือเจ้าคะคุณหาญ ทำไมต้องแกล้งว่าฟ้าหยาดด้วย"
"นี่พ่อมั่น เพื่อนฉันเอง"
"คุณหาญ ! บ่าว..."
หาญกระทุ้งมั่นเต็มแรง มั่นจุกกลืนคำว่าบ่าวลงคอ พูดไม่ได้
"พ่อมั่นรู้จักฟ้าหยาดไว้ก็ดีเหมือนกัน อีกหน่อยจะได้ช่วยกัน" หาญกระซิบกับมั่น " ช่วยกันนางออกไปทีนะพี่มั่น"
"ช่วยกัน? ช่วยอะไรหรือเจ้าคะ ตอนนี้ฟ้าหยาดขวัญเสีย พ่อมั่นไม่ต้องช่วยหรอก แต่คุณหาญช่วยปลอบขวัญฟ้าหยาดได้ไหมเจ้าคะ"
ฟ้าหยาดกระเซ้า เข้าไปเกาะใกล้ชิดแนบแน่นกว่าเดิม หาญแอบขยิบตากับมั่นให้ช่วยกันออกไป
"นะเจ้าคะ เราไปหาที่เงียบๆ สงบๆ ปลอบใจกันสองคนนะเจ้าคะคุณหาญ"
"เอาอย่างนี้ไหมขอรับ กระผมรู้จักที่ทางเหมาะเจาะ แต่เกรงว่าหากคุณหาญกับแม่หญิงฟ้าหยาดไปด้วยกันโจ่งแจ้งอาจไม่เหมาะ กระผมจะพาแม่หญิงไป ส่วนคุณหาญไปอีกทาง"
"วุ้ย ฟังดูตื่นเต้น น่าหฤหรรษ์"
"ดีไหมขอรับ บ่มอารมณ์ให้เต็มที่ก่อน ก่อนจะ..."
มั่นทำเป็นพูดทิ้งท้าย ฟ้าหยาดเข้าใจไปแบบที่นางอยากให้เป็น ส่วนมั่นขยิบตากับหาญ รู้กันว่าให้หาญชิ่ง
"มันต้องได้อย่างนี้สิพ่อมั่น"
หาญแอบหย่อนถุงอัฐใส่มือมั่น
"ทางนี้ขอรับ แม่หญิงฟ้าหยาด"
"แล้วพบกันนะคะคุณหาญ"
หาญยิ้ม ไม่รับไม่ปฏิเสธ รีบไป ฟ้าหยาดตื่นเต้นคึกคัก รีบเดินตามมั่นไปทางหนึ่ง

หาญกลับมาที่ร้าน ท่าทางโล่งใจ เจอกล้าที่ดูไม่มีความสุขเหมือนรอใครอยู่
"พี่กล้า รอใครอยู่หรือขอรับ"
"เอ้อ...เปล่าหรอก ไม่ได้รอใคร"
กล้าปฏิเสธ แต่เดินไปเดินมา ชะเง้อไปทางหน้าร้าน
"พี่หยกล่ะขอรับ"
"ก็ยังไม่มาน่ะสิ พี่รออยู่นานแล้ว กับข้าวกับปลาก็เตรียมมาให้ ปกติพี่หยกไม่เคยสายนะ"
"นั่นปะไร พี่กล้ารอพี่หยกอยู่นี่เอง"
กล้ายิ้มเก้อๆที่ถูกจับได้ แต่รีบกลบเกลื่อน
"ก็...เอ้อ ไม่มีอะไรหรอก ปกติพี่หยกจะมาจิบน้ำชาตอนเช้าด้วยกันน่ะ แต่วันนี้แปลกไปเท่านั้น"
"วันนี้พี่หยกอาจจะมีธุระที่อื่น"
"ไม่หรอก พี่หยกจะบอกพี่ทุกอย่างว่าจะไปไหน ทำอะไร วันนี้ก็ไม่มีอะไรนะ"
"งั้นพี่หยกก็อาจจะไม่สบาย ลุกไม่ขึ้น เลยมาทำงานที่ร้านไม่ได้"
"ไม่สบายรึ ! งั้นพ่อหาญอยู่เฝ้าร้านนะ พี่จะรีบไปดูพี่หยก"
"เดี๋ยวครับพี่กล้า กระผมแค่คาดเดา พี่หยกอาจจะไม่เป็นอะไรก็ได้ อีกอย่างมีซินแสอยู่ทั้งคน หากพี่หยกจับไข้จริงๆ ซินแสคงดูแลจัดยาจีนให้พี่หยกแล้ว พี่กล้าไม่ต้องเป็นห่วงดอกขอรับ"
กล้าอึ้งไป เพิ่งรู้ตัวว่าดูลนลานเป็นห่วงหยกมากจนอาจจะมีพิรุธให้หาญจับได้ จึงแกล้งหลอกถาม
"ฮ่าๆ จริงสินะ พี่ก็ลืมไป นี่พี่ดูห่วงพี่หยกมากไปหรือเปล่า"
"ก็ไม่นะขอรับ"
"ใช่ๆ ไม่มีอะไรจริงๆ พี่กับพี่หยกสนิทกันมาแต่เด็กน่ะ แต่พี่ก็ไม่ได้ห่วงพี่หยกมากมายอย่างที่น้องหาญคิดนะ อย่าเข้าใจผิด พี่กับพี่หยกไม่มีอะไรจริงๆ"
"เอ้อ ขอรับๆ"
หาญเห็นกล้าตั้งหน้าปฏิเสธยิ่งรู้สึกพิรุธมากกว่าเดิม ยิ่งพิกลในความผูกพันระหว่างกล้ากับหยก

ร้านโอเลี้ยง ย่านสำเพ็ง มั่นซดโกปี๊ยกล้อรวดเดียวหมดแก้ว
"อ้า....โกปี๊รสเข้ม บ่มอารมณ์ได้สุดยอดทีเดียวเชียว ไม่บ่มหรือขอรับแม่หญิง"
ฟ้าหยาดเซ็งมองมั่นอยู่
"นี่น่ะเรอะ ที่เหมาะๆที่คุณหาญจะปลอบใจฉันได้ถึงอกถึงใจน่ะ"
"เอ กระผมบอกหรือขอรับว่าที่นี่เหมาะจะปลอบใจกัน"
"เอ๊ะ พ่อมั่นนี่ยังไง แล้วคุณหาญล่ะ คุณหาญเมื่อไหร่จะมา"
"เอ...กระผมก็ไม่ได้รับปากอีกนะขอรับว่าคุณหาญจะมา กระผมบอกว่าจะพาแม่หญิงไป ส่วนคุณหาญไปอีกทาง"
มั่นทำมือ แยกไปทางซ้ายทางขวา คนละทิศทางกัน
"พ่อมั่น ร้ายกาจนักนะ"
ฟ้าหยาดปรี๊ด รู้ตัวว่าโดนมั่นหลอก เจ็บใจ ยกแก้วโอเลี้ยงของตัวที่มีเต็มแก้วสาดใส่หน้ามั่น
มั่นอึ้ง แต่ยิ้มรับ ชาวบ้านในร้านมอง แป๊ะส่ายหน้า
"อ๊ายหยา ผัวกันเมียกัน พูดกันดีๆก็ล่าย อย่าลงไม้ลงมือเลยอีหนู"
"แอร๊ย ! ฉันไม่ใช่เมียเขา"
ฟ้าหยาดสะบัดออกจากร้าน มั่นยิ้มกับแป๊ะ จ่ายเงิน รีบตามออกไป

มั่นรีบเดินตามฟ้าหยาดมา เธอเห็นมั่นเอาผ้าขาวม้าซับหน้า
"สมน้ำหน้า ลวกหน้าเลย"
"เหมือนกินโกปี๊อีกแก้ว แต่มีแม่หญิงประเคนให้ หากแม่หญิงเทลงต่ำกว่านี้ มีหวังกระผมได้ไข่ลวกแถมด้วย"
มั่นเผลอพูดประสาทาส ซื่อๆตรงๆ ฟ้าหยาดเหวอ อึ้ง เขิน และหัวเราะออกมา
"พ่อมั่น ! ฉันไม่เคยเจอใครพูดซื่อๆเหมือนพ่อมั่นมาก่อนเลย"
"กระผมมันคนซื่อขอรับ....ไปเถอะขอรับ กระผมจะไปส่งแม่หญิง ตลอดทางจะไม่มีใครมารังแกแม่หญิงได้อีก"

มั่นพูดซื่อๆอีก ไม่ได้จีบ ไม่ได้กรุ้มกริ่ม ฟ้าหยาดงงเหมือนกันพยักหน้ารับนิ่งๆ แล้วเดินไปด้วยกัน
 
อ่านต่อหน้า 3

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 11 (ต่อ)

มุมหนึ่งในร้านแสน กล้าไม่มีกะจิตกะใจตรวจบัญชี หาญดูแลกิจการภายในร้านอยู่ เห็นกล้าถอนหายใจหลายครั้ง

แสนอารมณ์ดี แซวลูก
"เฮ้ย ถอนหายใจทีมันพัดเงินทองออกจากร้าน รู้หรือเปล่าเจ้ากล้า"
"ขออภัยขอรับคุณพ่อ"
"ภาษิตใดขอรับคุณพ่อ กระผมไม่เคยได้ยิน"
"ฮ่าๆ พ่อแค่ดัดแปลงมา ซินแสเทียนเคยให้ข้อคิดไว้ว่า แม้ลำบากตรากตรำ อย่าทำหน้าหมอง ให้ยิ้มสู้ปัญหา"
"เยี่ยงนั้น ที่คุณพ่อขบขันอยู่นี้ คือหัวเราะสู้ปัญหา" กล้าว่า
"ฮ่าๆ ไม่ใช่ ตอนนี้ใต้หล้าไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น จะมีก็แต่เรื่องสุขใจ เรื่องมงคล"
"มงคลใดขอรับ" หาญถาม
"ก็คู่บุญหนุนนำวาสนาเจ้าอย่างไร พ่อหาญ !"
อ่ำยิ้มหน้าบานเข้ามา เออออห่อหมกตามนาย
"จริงขอรับ คู่บุญคู่วาสนาคุณหาญ เจอแล้วขอรับ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แหม่ น่าดีใจจริงๆ"
"นี่รู้ตัวว่าแม่หญิงคนนั้นเป็นใครแล้วเหรอนายอ่ำ" กล้าถาม
"ขอรับ รู้แล้ว คุณแก้วให้บ่าวไพร่ค้นหา ได้เจ้าชะตางามงด คนใกล้อยู่ใต้จมูกนี่เอ๊ง"
"ใครกัน"
อ่ำเพิ่งได้สติ รู้ตัวว่าหลุดปากออกไป ชักจะอึกอัก
"ใครรึ ไอ้อ่ำ บอกมาสิ อมพะนำอยู่ทำไม"
"เอ้อ อุ้ย อ่า...บอกไม่ได้ขอรับ พี่เอื้อยไม่ให้พูด"
"ไอ้อ่ำ !" แสนขึ้นเสียงสูง
"คุณแก้วก็สั่งไว้ขอรับ เรื่องนี้เป็นเคล็ด เมื่อเจอหญิงอันมีชะตาส่งเสริมดวงคุณหาญ ต้องปิดลับไว้จนกว่าจะถึงเวลากาลอันเหมาะสม บ่าวบอกไม่ได้ขอรับ"
"ไอ้อ่ำ บอกข้ามา ข้าจะได้ตระเตรียมจัดให้แม่หญิงผู้นั้นมาคู่เสริมพ่อหาญ"
แสนแทบจะบีบคออ่ำ ขณะที่อ่ำปิดปากตัวเอง รีบม้วนตัวหนีออกมาจากร้าน
"บ่าวขอประทานโทษขอรับ บ่าวบอกไม่ได้จริงๆ"
อ่ำวิ่งออกไป ตีปากตัวเอง
"ไม่น่าปากบอนเลยกู เกิดขัดดวงทำไงวะ...ไม่ๆๆ"
แสนหัวเราะด้วยความสบายใจ ตบไหล่หาญ
"ถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าใคร แต่ก็รู้แล้วว่าเจอ พ่อยินดีจริงๆพ่อหาญ"
หาญถอนหายใจด้วยความกังวล

หาญตรวจข้าวสาร แต่ไม่มีกะใจจะตรวจโกดัง เพราะกังวล กล้าเดินเข้ามา รู้ว่าหาญคิดยังไง
"อย่ากังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดเลยพ่อหาญ"
"พี่กล้าก็รู้ ว่ากระผมมีใจให้แม่เดือน แล้วตอนนี้มามีคู่ชะตาส่งเสริมวาสนาจากไหนไม่รู้ เกิดว่าอนาคตต่อไป..."
"จะเกิดอะไรขึ้นก็ยังไม่รู้ อนาคตอาจจะดีจริงก็ได้"
"แต่กระผมมีใจภักดิ์ต่อแม่เดือนคนเดียว"
"หากพ่อหาญกับแม่เดือนเป็นเนื้อคู่กัน ไม่แน่ คู่บุญที่ส่งเสริมดวงพ่อหาญ อาจเป็นแม่เดือนก็ได้"
กล้าปลอบใจ หาญหน้าชื่นขึ้น
"ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ก็ดีนะขอรับ"
"ชะตามาแต่ไหนไม่มีใครรู้ ฉะนั้น ก็อยู่กับปัจจุบันสภาพตอนนี้ อย่าเพิ่งคิดมาก"
หาญพยักหน้ายอมเชื่อ แม้ใจจะยังกังวลอยู่ กลัวไม่เป็นเดือน กลัวเป็นคนอื่น

ในเรือนเล็ก สายฝนเบิ่งตาโต แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อรู้เรื่องคู่หนุนชะตาของหาญ
"คู่หนุนดวงของไอ้หาญคือนังเดือน ! ฮ่า ฮ่า เอาซี้ เอา เจริญฮวบๆล่ะทีนี้"
"ไม่อยากเชื่อเลยนะเจ้าคะ ทาสไพร่ในเรือนเบี้ย จะมาเป็นคู่ส่งคู่เสริมให้คุณหาญ" เจียมว่า
"หยุดหัวเราะได้แล้วนังสายฝน พวกบ้านนังแก้วมีคนพาเจริญยังจะไปยินดีกับมัน" บุหงาว่า
"สายฝนไม่ได้ยินดี แต่สมน้ำหน้ามัน คุณแม่คิดดู คนอย่างไอ้หาญ จะรุ่งเรืองได้ต้องตบแต่งกับนังทาส เอาทาสมาเสริมบารมีเนี่ยนะ รู้ถึงไหนอายเค้าไปถึงนั่น"
"ผู้ดีหน้ากระเบื้องอย่างนังแก้ว มันไม่เอาออกนอกหน้าหรอก มันอาจจับแต่งลับๆ แค่พอเสริมดวงเท่านั้น"
สายฝนนึกภาพตามบุหงา เจียมมโนไปปากก็พล่ามออกมา
"งั้นต่อไปภายหน้า ฝั่งบ้านคุณแก้วก็จะเจริญก้าวหน้าเพราะมีลูกชายดี ผิดกับฝั่งบ้านคุณบุหงาเมียรอง ลูกสาวก็ดีแต่แปร๋นแปร้ สงสัยจะพาลตกกระป๋อง ใช่ไหม เจ้าคะ"
เจียมมโนแล้วหันมา เจอสายฝนตบฉาดคว่ำ
"อีปากเน่า นี่เอ็งคงไปประจบนังเดือนมาแล้วสินะ เอาสิ ไปสอพลอมันเผื่อเอ็งจะเป็นทาสของทาสอีกต่อหนึ่ง"
"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ"
"คุณแม่ นั่งนิ่งอยู่ได้ อีเจียมมันด่าเราไม่ได้ยินเหรอคะ"
"ได้ยิน แกก็อย่าย้ำสิ ยังไงฉันก็จะไม่ยอมให้อีบ้านนังแก้วมันได้ดี"
"แล้วคุณแม่จะทำยังไงคะ"
"มีคู่เสริมดวงก็จริง แต่ก็เป็นนังเดือน เป็นทาสในเรือน...เฮอะ ถ้าดวงดีแต่ไม่มีวาสนา ครองคู่ผิดก็อาจจะฉิบหายล่มจมได้"
บุหงาคิดแผนการร้ายได้ในใจ สายฝนยังอึ้ง คิดไม่ออก เจียมชั่งน้ำหนักทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองอยู่รอดสบาย

บริเวณหน้าโรงน้ำชา เว่ยชิงหน้าเคร่งยืนรออยู่ ลูกน้องเว่ยชิง 2 คนโดนขี้เมาต่อยจนหน้าปูดยืนอยู่ด้วย
"สองคนนี้เล่าให้อั๊วฟังหมดแล้ว"
มั่นเดินมาส่งฟ้าหยาดถึงด้านหน้า ฟ้าหยาดมองคนงาน แล้วยิ้มเยาะ
"ทีหลังจะหาคนมาเฝ้าฉัน หาที่มันแข็งแรงกำยำกว่านี้หน่อยนะอาเว่ย เจอขี้เมาสองคนต่อยถึงกับจอด ดีที่มีคุณหาญกับพ่อมั่นมาช่วยไว้"
"พ่อมั่น"
"พ่อมั่นเนี่ยเป็นเพื่อนคุณหาญ"
"แล้วลื้อไปไหนมา ไอ้สองคนนี้โดนต่อย พอมันฟื้นมันก็รีบกลับมานี่ ลื้อไปโอ้เอ้อยู่ที่ไหน"
"เรื่องของฉัน"
เว่ยชิงชำเลืองมอง มั่นเห็นท่าไม่เหมาะไม่เกี่ยวกับเรื่องตน รีบลา
"แม่หญิงถึงโรงน้ำชาปลอดภัยแล้ว เป็นอันเสร็จธุระกระผม"
"ขอบใจจ้ะพ่อมั่น"
มั่นยิ้ม มองฟ้าหยาดนิ่งๆก่อนจะหมุนตัวกลับ เว่ยชิงสังเกตมั่นอยู่นานแต่ไม่ได้พูด รีบรั้งไว้
"เดี๋ยวก่อนพ่อมั่น ลื้อต่อยกับไอ้ขี้เมาจนเละขนาดนี้เชียวรึ"
"ต่อยขี้เมาไม่เท่าไหร่หรอกขอรับ"
มั่นดูมือตัวเอง เว่ยชิงเห็นว่าแตกเล็กน้อย
"อ๊ายหยา มือแตกขนาดนี้ยังบอกไม่เท่าไหร่ แล้วที่เปียกปอนเลอะน้ำอะไรดำๆนี่ล่ะ"
มั่นไม่ตอบ ฟ้าหยาดร้อนตัว ทำไก๋ เว่ยชิงมองอาการ เริ่มจะสงสัย สองคนนี้ชักยังไงกัน
"อาฟ้าหยาด ลื้อพาพ่อมั่นเข้าไปทำแผลข้างในก่อน หาเสื้อแสงให้เปลี่ยนด้วย"
"แค่นี้ ไม่ตายหรอกน่า....ตอนนั้นก็ไม่เห็นบ่นสักคำว่าเจ็บ"
"ไม่เจ็บหรอกขอรับ กระผมไม่รบกวนแม่หญิงทั้งสองดอก ขอตัวก่อนขอรับ"
มั่นเดินกลับ เว่ยชิงรีบดุฟ้าหยาดพยักเพยิดว่าให้รั้งมั่นไว้ทันที
"อาฟ้าหยาด"

ฟ้าหยาดเมินๆเหมือนจะไม่แคร์ แต่ก็รู้ทั้งรู้ว่าที่มั่นเจ็บเป็นเพราะปกป้องตนเอง

มั่นกระดากใจและเก้อเขิน มองโรงน้ำชาสุดอลังการ แถมมีฟ้าหยาดมาดูแผล มั่นมองหน้าฟ้าหยาด ที่ตั้งใจทำแผลให้

"นี่ ! มองอะไร"
"เอ้อ...กระผมขออภัย"
มั่นก้มหน้าอายตัวเอง แต่ฟ้าหยาดกลับไม่ได้สนใจ
มุมหนึ่ง เว่ยชิงสังเกตสายตามั่น เห็นว่ามั่นแอบมองฟ้าหยาดอย่างชื่นชม
"จริงๆแม่หญิงไม่ต้องทำแผลให้กระผมก็ได้ กระผมไม่ได้เป็นอะไรมาก"
"ก็ไม่ได้อยากทำ"
ฟ้าหยาดกระแทกกระทั้น เว่ยชิงเข้ามาพร้อมชุดน้ำชา กระแอมเตือน
"พ่อมั่นอุตส่าห์ช่วยลื้อ ลื้อก็ควรตอบแทนน้ำใจพ่อมั่น คืนนี้สำราญต่อที่นี่นะ อั๊วจะให้ฟ้าหยาดดูแลลื้อเป็นพิเศษ"
"โอ้ว มิได้ขอรับ กระผมต้องรีบกลับ"
"ดี รีบกลับไปซะ ฝากบอกคุณหาญด้วยว่าฉันซึ้งน้ำใจที่ช่วยวันนี้"
"นังฟ้าหยาด พ่อมั่นช่วยลื้อ แต่ลื้อดันนึกถึงผู้ชายอื่น"
"ไม่เป็นไรขอรับ หากคุณหาญไม่เห็นแม่หญิงฟ้าหยาดถูกลวนลามแต่แรก กระผมก็ไม่ได้เข้าไปช่วย ฉะนั้น ควรขอบน้ำใจคุณหาญจึงถูกแล้วขอรับ"
"เห็นมั้ยอาเว่ย คุณหาญเป็นสุภาพบุรุษที่สุด สมแล้วที่ฉันพร้อมจะพลีกายพลีใจให้"
มั่นตะลึงงัน มองฟ้าหยาดอึ้งๆ เขารู้สึกเจียมตนรีบกลับออกจากโรงน้ำชา ฟ้าหยาดไม่ส่งไม่ลา
"งั้นกระผมขอตัวกลับแล้วนะขอรับ"
"กลับดีๆนะจ้า พ่อมั่น"
เว่ยชิงมองตามมั่นจนลับตา หันมาจะอ้าปาก ฟ้าหยาดรีบดักคอมองตาก็รู้ใจเว่ยชิง
"พ่อมั่นท่าทางก็ดี๊ดีนะ ดูทั้งรวยทั้งหล่อ ไม่แพ้ตาหาญนั่นหรอก อั๊วว่ามันก็ไม่เสียหายนะถ้าหากลื้อจะ..."
"ไม่ต้องเลยนะ ไม่ต้องคิดคะยั้นคะยอจับฉันกับพ่อมั่นเลย ฉันไม่ชอบ ฉันรักคุณหาญคนเดียว"
ฟ้าหยาดยืนยันหนักแน่น สะบัดหน้าพรืดไป
เว่ยชิงอ้าปากจะพูด แต่ไม่ทัน ได้แต่นึกถึงว่าเป็นแผนการตัวเอง
"แหม่....ถ้าพ่อมั่นจะดึงความสนใจนังฟ้าหยาดจากพวกผู้ชายใต้หล้าได้ก็คงดี อั๊วจะได้ไม่ต้องมากันท่าพี่น้องกับพ่อลูก บาปหนากรรมหนักจะได้ไม่เกิด"

บริเวณเรือนทาส ดาวทายาที่หลังให้ตัวเอง เดือนเข้ามา ยื่นมือจะช่วยทายาให้ ดาวปัดออก
"ไม่ต้องมายุ่งกับข้า ข้าไม่ใช่คนมีบุญหนักศักดิ์ใหญ่อย่างเอ็ง"
เดือนพยายามชวนคุย
"ที่หลังเอ็งไม่มีแผลเลยนะ สงสัยจะได้ยาดีล่ะสิ"
ดาวมองยาในมือ นึกถึงยายตาด

ดาวมองหน้าเดือนหมั่นไส้
"ผู้หญิง มีความงามเป็นอาวุธ เอ็งนี่คงมีอาวุธมากเป็นทวีคูณ ทั้งมารยาไร้เดียงสา ทั้งหน้าซื่อแต่แท้จริงก็ตัวสั่นอยากเป็นเมียบ่าวคุณหาญ"
"โธ่ดาว ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เรื่องดวงเรื่องคู่เสริมส่งชะตาอะไรนั่น ข้าก็ไม่ได้กำหนดให้มันเป็น"
"แต่มันก็เป็นไปแล้ว สมใจเอ็งแล้วสิ อีกหน่อยคงเหยียบหัวข้า"
"ไม่จริงนะดาว ข้าไม่มีวันเปลี่ยน จะอย่างไร ข้าก็เป็นเพื่อนเอ็งเหมือนเดิม"
"นั่นปะไร ยังไม่ทันไรเอ็งก็วาดวิมานในอากาศเสียแล้ว เตรียมขึ้นนั่งแท่นเป็นแม่หญิงแห่งใต้หล้าแล้วสิ"
"ข้ารู้ เอ็งอยากให้ตัวเองเป็นคู่บุญของคุณหาญ แต่ดวงมันก็ออกมาแล้วว่าเอ็งไม่ใช่คู่คุณหาญ ชะตากำหนดมาเอ็งจะฝืนดวงนั้นหรือ"
ดาวโกรธจัด ปรี๊ดขึ้น ตบเดือนฉาดจนคว่ำลงไปกอง
"อีเดือน ! หุบปาก ข้าไม่อยากได้ยิน ข้าไม่อยากฟัง อีปากพร่อย ! นี่แหนะ"
ดาวทนไม่ได้ ขึ้นนั่งคร่อมตบหน้าเดือนซ้ายขวา เดือนพยายามปัดป้องแต่สู้ไม่ได้
บุหงา สายฝนและเจียมเดินเข้ามาเจอเข้าพอดี
"นังดาว หยุดเดี๋ยวนี้นะ"
ดาวชะงักมือค้างกลางอากาศ ไม่ทันได้ตบซ้ำ เงยหน้าสบตาบุหงาที่รู้ว่าดาวอิจฉาเดือนแค่ไหน

เดือนและดาวนั่งแยกกันอยู่ บุหงาดูเหมือนจะพิจารณาความของทั้งสองอย่างยุติธรรม
"นังเดือน หล่อนพูดจนทำให้นังดาวมันโกรธ ส่วนเอ็ง นังดาว เอ็งก็ทำเกินไป"
"ลงโทษมันเลยค่ะคุณแม่ เมื่อครู่ นังดาวตบนังเดือน ตอนนี้ก็ให้นังเดือนตบนังดาวกลับ จะได้สาสม"
"ไม่เจ้าค่ะ บ่าวไม่ทำนังดาวเจ้าค่ะ"
"ถ้าเอ็งไม่ตอบโต้ งั้นจะให้ข้าลงโทษเอ็งทั้งคู่เยี่ยงไร หรือจะให้เรียนให้ท่านเจ้าสัวกับคุณแก้วทราบ หึ...ตอนนั้นก็คงโดนโบยทั้งคู่ เอ็งอาจจะโชคดีกว่านะนังเดือน เพราะเอ็งมันดวงดีได้เป็นคู่บุญวาสนาคุณหาญ แต่นังดาวมันอาจจะ..."
"หากเป็นเยี่ยงนั้น...บ่าวขอความเมตตาคุณบุหงา อย่าแจ้งเรื่องนี้แก่นายท่านนะเจ้าคะ บ่าวไม่เอาความดาวอยู่แล้ว บ่าวไม่ได้โกรธมันเลยเจ้าค่ะ"
"โถ แม่คุณ ช่างมีน้ำใจ"
เจียมประจบเดือนอย่างลืมตัว สายฝนและดาวหมั่นไส้มาก
"เอ็งให้อภัยมันก็ดี งั้นไปได้แล้ว"
เดือนและดาวจะคลานเข่ากันออกไป
"นังดาว เอ็งตามข้าไปที่เรือนเล็ก อย่างไรเอ็งก็ทำผิด ข้าต้องลงโทษ"
ดาวเหวอ เดือนเป็นห่วงดาวแต่เจอสายฝนโบกมือไล่ เดือนจำต้องออกไป ดาวมองหน้าบุหงาอย่างหวั่นเกรงว่าจะเจออะไร

ภายในเรือนเล็ก ดาวตาวาววับ มองอัฐในถุงผ้าตรงหน้า
"นี่...คุณบุหงาให้อัฐแก่บ่าวทำไมเจ้าคะ ไหนว่าบ่าวทำผิดจะลงโทษ"
"อีนี่ ยังจะถามมากความ ไม่อยากได้หรือไง"
ดาวเก็บอัฐ แต่ยังอยากรู้
"อัฐเอ็งไม่ค่อยอยากได้หรอก เพราะใจเอ็ง อยากได้แต่คุณหาญเท่านั้น ใช่ไหม นังดาว"
ดาวนั่งสนิท จริงยิ่งกว่าจริง
"คุณบุหงาทราบความในใจบ่าว ราวกับว่าคุณบุหงาก็มีความในใจเรื่องคู่บุญคุณหาญนี่เช่นกัน"
"ดี...ฉลาด"
สายฝนเหวอ กระซิบเจียม
"ทำไมนังดาวมันรู้ ทีฉันกว่าจะเข้าใจ ตั้งนาน"
"ก็คุณสายฝนโง่นี่เจ้าคะ" เจียมบอก
สายฝนแทบกรี๊ด ผลักหน้าเจียมออกไป บุหงามองหน้าดาวตรงๆ ชัดเจน
"เอ็งอยากเป็นทาสต่อไปเยี่ยงนี้หรือนังดาว ต่อให้มีพิกัดเลิกทาส เอ็งก็ต้องเป็นไพร่รับใช้คนอื่นเขาไปตลอดชีวิต "
"คุณบุหงาอยากให้บ่าวรับใช้เรื่องอันใดหรือเจ้าคะ"
"เอ็งอยากเป็นใหญ่ ได้คุณหาญไปครอบครองหรือไม่ล่ะ"

บุหงาถาม ยิ้มร้าย ดาวตาโตยิ้มรับ สบตากัน แบบว่า ร้ายต่อร้าย
 
อ่านต่อหน้า 4

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 11 (ต่อ)

ในมุมลับตาคน ดาวนั่งร้องไห้อยู่ รับเมฆที่ยืนอยู่เข้ามาปลอบ

"เอาน่า อย่าเสียใจไปเลยนังดาวที่เอ็งไม่ใช่คู่คุณหาญ ตอนแรกข้ากลุ้มใจแทบตายคิดว่าจะต้องพรากจากเอ็งเสียแล้ว"
ดาวแอบทำหน้าเบ้ แต่ต้องเสแสร้งต่อ
"ข้าไม่ได้เสียใจที่ไม่ได้เป็นคู่คุณหาญหรอกจ๊ะ ข้าแค่กลัวน่ะพี่เมฆ"
"มีอะไรที่เอ็งต้องกลัวหรือนังดาว ข้าเห็นเอ็งไม่เคยกลัวใคร"
"ตอนนี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปแล้ว นังเดือนได้ดีมีวาสนา เป็นคู่เสริมดวงให้คุณหาญ เกิดอีกหน่อยนังเดือนมันได้ดิบได้ดี มันคงจะเหยียบหัวข้า พี่เมฆก็รู้ว่ามันไม่ชอบขี้หน้าข้าเท่าไหร่นัก"
"ไม่เห็นต้องกลัว เอ็งมีข้าอยู่ทั้งคน ถึงตอนนั้น ข้าจะคุ้มครองเอ็งเอง"
"พี่เมฆจ๋า รู้ว่าไฟจะไหม้ ก็ควรตัดไฟแต่ต้นลมมิใช่หรือจ๊ะ"
"นี่เอ็งจะหาเรื่องนังเดือนเพราะอิจฉามันที่จะได้เป็นคู่กับคุณหาญหรือเปล่า"
"ถ้าพี่เมฆจะเข้าใจผิดฉันแบบนั้น ฉันก็ไม่มีวาจาจะพูดด้วยแล้ว"
ดาวทำงอนเบาๆ ดูเสียใจ จะลุกไป เมฆรีบดึงรั้งไว้
"โธ่ นังดาว ข้าไม่ได้หมายความเยี่ยงนั้น"
"ข้าน่ะ อย่างไรก็ไม่ใช่ดวงคู่คุณหาญ แล้วข้าจะไปไหนเสีย ข้าก็อยู่แถวๆนี้แหละ อยู่ใกล้ๆพี่เมฆนี่"
"ใกล้แค่ไหน ข้าอยากให้ใกล้กว่านี้"
เมฆฟังแบบนี้ก็วูบวาบทันที เห็นดาวให้ท่าจึงจะรวบตัว ดาวเบี่ยงพองาม
"ข้าก็คงไม่แคล้วอยู่แนบอกพี่นั่นแล"
"เอ็งจะยอมเป็นเมียข้ารึ"
ดาวพยักหน้าทำเขิน
"แต่ว่า....หากข้าจะเป็นเมียพี่ ข้าก็อยากจะสบายใจว่าต่อไปจะอยู่อย่างมีความสุขไม่มีใครมารังแก"
"งั้นเอ็งจะให้ข้าทำอะไร"
เมฆกระตือรือร้น ดาวยิ้มหวาน

เมฆกับดาวมาแอบดูเดือนนั่งทำงานครัวอยู่มุมหนึ่ง
"เอ็งจะให้ข้าปล้ำนังเดือน"
"ใช่ ปู้ยี่ปู้ยำ พี่อยากจะลงมือลงแรงแค่ไหนก็เชิญ"
"ไม่...ทำไมข้าต้องปล้ำอีเดือน ในเมื่อยามนี้ใครๆก็รู้ว่านังเดือนมีดวงหนุนนำคุณหาญแห่งใต้หล้า เกิดข้าปล้ำมัน มีหวังโดนคุณแก้วลงหวาย โบยสามวันไม่ฟื้น"
"ไม่หรอกน่า ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกัน"
"แล้วทำไมนังเดือนมันจะต้องสมยอมข้าหล่ะ"
"อย่าถามมากน่า...หรือพี่ไม่อยากได้ข้าเป็นเมีย"
"อยากได้สิ ..แต่"
เมฆฮึดฮัดตัดสินใจไม่ได้ กลัวจะโดนลงโทษ แต่ก็อยากได้ดาวเป็นเมียแต่ก็ไม่แน่ว่าจะเชื่อใจดาวได้หรือไม่
ถุงอัฐยื่นมาตรงหน้าเมฆ เมฆอึ้ง เงยหน้ามอง
"คุณบุหงา"
"อัฐนี่แค่ครึ่งหนึ่ง"
เมฆแอบกระซิบ
"นังดาว คุณบุหงารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอว่ะ"
ดาวพยักหน้าว่างานนี้มีบุหงาเป็นแบ็คหลังให้
"หากงานนี้สำเร็จ เอ็งจะได้อัฐอีกแน่ และข้าอาจจะมีรางวัลให้มากกว่าเดิม"
"บ่าวจะมั่นใจได้อย่างไรขอรับว่าบ่าวจะไม่โดนลงโทษ"
"ท่านเจ้าสัวยังไม่รู้เลยว่าเนื้อคู่ของตาหาญเป็นใคร ถ้าจู่ๆนังเดือนมันเกิดเน่าเฟะ นังแก้วมันคงจะต้องปิดเรื่องนังเดือนเป็นความลับแน่นอน"
บุหงายืนยัน เมฆคิด มองอัฐในมือ ชั่งใจ ดาววางมือลงบนหน้าขาของเมฆ ลูบเบาๆ เมฆพยักหน้ารับปาก

เดือนมองหน้าตัวเองที่บวมช้ำในน้ำที่สะท้อนเป็นเงา ครู่หนึ่งก็เห็นเงาของดาวซ้อนอยู่ข้างหลังเดือน เดือนตกใจขยับตัวออกห่าง เกือบตกน้ำ แต่ดาวยื่นมือจับช่วยเดือนก่อนตกน้ำ
"นังเดือน"
"ข้าขอโทษ ไม่นึกว่าข้าจะน่ารังเกียจจนทำให้เอ็งขวัญผวาเยี่ยงนั้น"
เดือนหายตระหนกแล้ว แปลกใจมาก
"เอ็ง...มีอะไรกับข้าหรือเปล่าดาว"
"ข้า...ข้ามาขอโทษที่ทำกับเอ็งเมื่อครู่นะเดือน เอ็งเจ็บมากไหม"
เดือนไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ ดาวยิ่งตาปรอยเศร้าหนักกว่าเดิมราวกับสำนึกผิดท่วมท้น
"เออ พูดขอโทษเอ็งก็ไม่เชื่อ น้ำหน้าข้านี่เอ็งคงแคลงใจทุกอย่าง แต่เล็กจนโตข้าก็
แกล้งเอ็งบ้าง แต่ไม่เคยเอาเป็นเอาตายเสียหน่อย ไม่งั้นข้าย่องมาจากข้างหลัง ผลักเอ็งตกน้ำตายไปแล้ว"
"ข้าก็ไม่ได้คิดว่าเอ็งจะมาฆ่าแกงอะไรข้าหรอกดาว"
"จริงนะ เอ็งไม่โกรธข้าแล้วนะ ข้าขอโทษ เอ็งกับข้าเป็นเพื่อนกันมาแต่เล็กแต่น้อย เกิดมาก็พร้อมๆกัน ดวงจะเป็นยังไงก็ช่าง จะขึ้นจะลงข้าก็มีเอ็งเป็นเพื่อนเสมอนะ"
"เอ็งพูดจริงหรือดาว"
"ข้าจะปดเอ็งทำไม ข้ายอมรับว่าข้าอิจฉาเอ็ง แต่อย่างที่เอ็งบอก ชะตามันกำหนดมาอย่างนั้น ข้าควรยอมรับมัน ตอนนี้ข้าคิดได้แล้ว ข้ายินดีกับเอ็งด้วย"
ดาวค่อยๆยื่นมือมาจับมือเดือนอย่างยินดี เดือนค่อยยิ้มออก จับมือดาวบีบแน่นอย่างจริงใจ
"ขอบใจมากดาว ไม่ว่าดวงจะเป็นเยี่ยงไร พวกเราก็เป็นเพื่อนกัน"
"ถ้ามีอะไรที่จะช่วยหรือหนุนนำเอ็ง เพื่อคุณหาญ ข้ายินดีจะทำ"
เดือนเชื่อสนิทใจกอดดาวด้วยความยินดี หากแต่มิใช่คุณหาญและเดือน แต่เป็นคุณหาญและดาวต่างหาก !!

พระนครอันกว้างใหญ่ ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงใกล้สนธยา ชายป่ามุมหนึ่ง ดาวเดินลัดเลาะมาหลังวัด อ้อมเจดีย์เก่าแก่ ผ่านเข้ากลุ่มสถูปอัฐิผู้วายชนม์ ผ่านป่าช้า ดาวดูขนลุกบ้าง แต่ใจแข็งไม่กลัว เดินลัดป่าแหวกต้นไม้เข้าไปเรื่อยๆ จนเห็นเงาหลังคาอยู่เหนือแนวไม้ มีควันไฟบางๆอ้อยอิ่งเป็นสายลอยขึ้นจากหลังคามุงจาก
ดาวเดินลัดเลาะจนไปใกล้กระท่อม วนไปด้านหน้า
"ยายหมอยา ยายหมอยาอยู่ที่นี่ใช่ไหม"
ยายตาดมาจากไหนไม่รู้ ปรากฎตัวขึ้นข้างหลัง ใบหน้าปุปะดูหน้ากลัว
"หลังเอ็งไม่ลายแล้วนี่ ยาข้าดีใช่ไหมล่ะ"
ดาวมองตาดอย่างประเมิน โผล่มาเมื่อครู่ยิ่งกว่าผี ตาดหัวเราะหึๆ เข้าใจความคิดดาว
" ข้าบอกแล้ว หญิงควรมีความงามเป็นอาวุธ ข้าเองหน้าตาอัปลักษณ์ ข้าย่อมมีวิชาอื่นเป็นอาวุธเช่นกัน"
"ข้าก็จะมาขอยาที่ว่านั่น"
ตาดระแวงดาวเล็กน้อย รีบดูหน้ากระท่อม ดูทางว่ามีใครตามดาวมาหรือเปล่า
"เอ็งไม่ได้บอกนังบุหงาเรื่องข้าใช่ไหม"
" ไม่...ไม่มีใครรู้เรื่องยาย ฉันได้ยาดีจากยาย ฉันจะบอกคนอื่นให้มันได้ของดีเหมือนกันทำไม"
"ดี เอ็งจะต้องไม่บอกนังบุหงาเรื่องข้า ที่เหลือจะเอาอะไร ข้าจะหาให้ทุกอย่าง"
" ว่าแต่ยายมีอะไรกับคุณบุหงาหรือเปล่า"
ตาดเงียบไป เบือนหน้า เผลอจับใบหน้าอัปลักษณ์แผลเป็นของตนเองแววตากร้าว
"ผู้หญิง ยิ่งสวยยิ่งร้ายกาจ ยิ่งโหดเหี้ยมฉันใด ฉะนั้นจงอย่าไว้ใจความงามฉันนั้น" ตาดหันมองดาว "เอ็งมันคนสวย....และร้ายกาจ"
ดาวยิ้มรับ

"ข้าอยากได้ยา"

ยามค่ำ มีแสงตะเกียงนวลจากหลายจุด มีเสียงครึกครื้นดังมาจากเรือนครัว
 
มั่นในชุดทาสตามคบไฟจุดสว่างหลายที่แล้วเดินตรงไปเรือนครัว เอาคบไฟสุมใส่เตาถ่าน หม้อแกงเดือดพลั่กๆจนดันฝาเพยิบเปิด ควันพุ่งขึ้น เอื้อยเปิดฝาหม้อ ตักแกงส่งให้อ่ำ อ่ำรับถ้วยแกงเอาไปวางกลางวง
"มากินกันเร็วพวกเรา ยินดีให้นังเดือนมัน" อ่ำบอก
"เดือน ข้าดีใจกับเอ็งด้วยนะ เอ็งนี่มันดวงดีจริงๆ" มั่นว่า
" ดวงดีก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป มันต้องคู่กับการทำดีด้วยนะนังเดือน"ชื่นบอก
"ต่อแต่นี้ก็อย่าหลงระเริงให้ไป คนเราชะตาฟ้าลิขิต แต่สองมือนี่นะเว้ย สร้างชีวิตตัวเอง" เอื้อยบอก
" ไม่ว่ายังไง ฉันก็เป็นลูกแม่ชื่น เป็นลูกทาส เป็นนังเดือนคนเดิมนี่แหละจ้ะ ฉันจะจำคำแม่กับน้าเอื้อยไว้จ้ะ"
อีกมุมหนึ่ง เมฆหิ้วสาโทเข้ามา
"ข้าไม่มีอะไรจะร่วมยินดี นอกจากสาโทนี่ ข้าหมักเองเลยนะ ใครจะเอาบอกมา"
เมฆเทสาโทแจกจ่าย ชื่นมองปรามๆ
" กินก็แต่พอประมาณนะไอ้เมฆ ไอ้อ่ำ เอ็งด้วยไอ้มั่น สุราเมรัยเข้าปากใคร เสียคนทั้งนั้น"
"น้าชื่นก็ นิดเดียวจ้ะ เอ็งอยากจิบไหมนังเดือน"
" ไม่ล่ะจ้ะ"
"เอ็งคงดีใจที่ดวงดีจนหน้าบานเลยสิ เอ..แดงด้วย....แต่มันดูบวมๆแปลกๆ" มานบอก
เดือนเผลอลูบแก้มที่แดงช้ำเพราะโดนดาวตบ ชื่นและเอื้อยจับหน้าเดือนพิจารณา เดือนชำเลืองมองดาว
" เออจริงเว้ย หน้าเอ็งบวมๆนะ ไปโดนอะไรมาหรือนังเดือน" เอื้อยถาม
ดาวแสร้งทำจะเป็นอ้าปากสารภาพความจริง เดือนเห็นรีบโกหกให้ดาว พลางแอบจับตัวดาวไว้เป็นทำนองว่าไม่เป็นไร
"ข้าเป็นร้อนในจ้ะแม่ แถมยังกัดกระพุ้งแก้มซ้ำไปอีกตอนเคี้ยวข้าว เลยดูบวมๆจ้ะ"
ดาวยิ้มขอบใจเดือน
"มาๆ กินข้าวกันเหอะ มัวถามนั่นนี่กันอยู่ได้ นังเดือน ไหนๆเอ็งก็ดวงดี ตักข้าวให้ข้าสิ เกิดอีกหน่อยได้ดี ข้าคงต้องไปตักข้าวปรนนิบัติเอ็งแทน ฮ่าๆ" ดาวว่า
ดาวหัวเราะแบบไม่มีความหมางใจ คนอื่นพลอยอารมณ์ดีตามไปด้วย
เมฆ อ่ำ มั่น รินสาโทดื่ม ดาวก๋ากั่นเอามาจิบเล็กน้อย
"ลองมั้ยเอ็งนังเดือน"
"จะดีหรือ"
" นิดเดียวน่า สาโทคนยาก อีกหน่อยเอ็งได้ดิบได้ดีจะไม่มีวาสนากินของกระจอกๆอย่างนี้นะ"
เดือนจิบเล็กน้อยพองาม จะส่งคืนดาว
เมฆแอบสบตาดาว
"มาๆ ข้ารินให้อีกนะนังเดือน มาดื่มกับข้า ข้ายินดีด้วย"
เมฆคะยั้นคะยอดื่มกับเดือน เดือนดื่มอีกจิบ

เดือนรู้สึกมึนหัว เดินมาทางเรือนทาส แวะเปิดตุ่มน้ำตักน้ำล้างหน้าล้างตา ดาวเดินตามเข้ามา
"ไม่สบายตัวหรือนังเดือน"
" ข้าไม่น่าจิบสาโทเลย มึนดีแท้"
" ฮ่าๆ แม่คออ่อนเอ๊ย เอ้านี่...ยาแก้ช้ำใน"
เดือนมองหม้อดินเผาใบเล็กที่ดาวส่งมาให้ เปิดฝาดูมีน้ำสีเขียวเข้ม
" เมื่อครู่ข้าขอบใจเอ็งนะ ที่โกหกช่วยข้า ไม่งั้นข้าโดนน้าชื่นกับน้าเอื้อยตบไปแล้ว"
"กลิ่นพิลึกจริงยาเอ็งน่ะ"
" ก็วันก่อนเห็นเอ็งทักว่ารอยโดนหวายที่หลังข้าหายเร็ว ก็เพราะข้าได้ยาดี นี่ก็เหมือนกัน แก้ช้ำใน บำรุงกำลัง...มีแต่สมุนไพรรากไม้ กลิ่นรสอาจจะเฝื่อนหน่อย แต่ดี เชื่อข้า"
เดือนดมก่อน ดาวพยักหน้าลุ้นๆ เดือนยกหม้อขึ้นจิบ
" กินให้หมดเลยนะนังเดือน"
ดาวมองเดือนจิบยา นึกถึงที่ไปเจอตาดมาเมื่อเย็น

ในกระท่อม ตาดรวบรวมสมุนไพรรากไม้ต่างๆใส่หม้อยา ต้มจนควันขึ้น พลางบรรยายสรรพคุณ
"ยานี่กินหมดหม้อ มีหวังคนกินหลับไม่รู้ตื่น ทำอะไรก็ไม่รู้ตัว ช้างทั้งโขลงมาร้องมันก็ไม่ตื่น"
"ไม่ถึงตายนะยาย"
"เฮ่ย ไม่ตาย นี่แค่เมา ยิ่งกินตามหลังสุรายิ่งจะขับฤทธิ์ให้เคลิบเคลิ้มง่วงงุน"
"ดี ให้มันหลับไปสักพัก ตื่นมาแล้วมันจะได้เจอชีวิตใหม่"
ดาวยิ้มร้าย มองยามหม้อที่ตาดกำลังต้ม
"ข้าช่วยเอ็งครานี้ สักวันถ้ามีอะไรให้เอ็งช่วยก็วานด้วยแล้วกัน"
ดาวพยักหน้าไปงั้นๆ ยังไม่รับปากอะไร เพราะใจจดจ่ออยู่ที่ยา

ดาวมองเดือนดื่มยาหม้อ ดาวลุ้น เดือนกินไม่หมด ลดหม้อลง
"ขมจริง"
" ฝืนหน่อยนังเดือน รับรองเอ็งจะหายช้ำใน กินให้หมดนะ"
ดาวช่วยป้อนยาให้เดือนอีกที เดือนฝืนใจดื่มต่อไปได้อีกนิด เหลือยาติดก้นหม้อพอประมาณ
"ไม่ไหวแล้ว ได้แค่นี้จริงๆ เออ น่าแปลกนะ ได้กลิ่นยาเมื่อครู่ ฉุนก็จริงแต่โล่งจมูกยังไงบอกไม่ถูก"
"คล้ายยานัตถุ์ไง ฉุนตอนแรก หลังจากนั้นก็เคลิ้มเลยล่ะ"
เดือนวางหม้อยาลง ดาวรีบเอาหม้อมาถือไว้
"เอ็งดูท่าจะมึนสาโทมากอยู่นะนังเดือน กินยาแล้วก็ไปนอนเถอะ หลับให้สบายนะ"
ดาวทำเป็นเดินกลับไปทางเรือนครัว แต่แอบดูอยู่มุมหนึ่ง เดือนมึนหัวมาก เดินเซไปมา ดาวยิ้มร้าย เริ่มเข้าแผนการ
"เคลิ้มแล้วสิอีเดือน ยาออกฤทธิ์ เอ็งจะยิ่งมึนหนักกว่านี้อีก"
เดือนมองเห็นอะไรพร่าเลือนไปหมด เมฆเข้ามา เดือนมองหน้า
"นี่ใคร"
"เอ็งเป็นอะไรไปนังเดือน"
"ข้ามึนเหลือเกิน...ข้า"
"นังเดือน...เอ็งเป็นอะไร ให้ข้าช่วยอะไรไหม นังเดือน"
เดือนมองหน้าเมฆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ก่อนเซซบลงอกเมฆที่รีบรับประคองไว้ ดาวเดินออกจากที่ซ่อน ยิ้มร้าย พยักหน้ากับเมฆ

เมฆอุ้มเดือนไปทางกระท่อมตัวเอง ดาวคอยดูต้นทางให้
"เร็วๆสิพี่เมฆ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"
เมฆดื่มสาโทมาหนักหน่วง เมามาก
"เออ ข้ารู้แล้วน่ะ"
"นี่พี่ซัดสาโทมาหมดไหเลยใช่ไหม ปั้ดโธ่ เดี๋ยวก็เสียแผนกันพอดี จะปล้ำมันได้ไหมเนี่ย"
"จะให้ข้าปล้ำเอ็งยกแรกก่อนก็ได้นะนังดาว"
"ไอ้พี่เมฆ ไม่ต้องลีลา รีบๆพานังนี่ไปขึ้นสวรรค์เสียที"
ดาวผลักเมฆออกไป เมฆอุ้มเดือนไปทางกระท่อมน้อยของตน ดาวดูต้นทางให้ พลันนั้นได้ยินเสียงมั่นดังขึ้น
"นังเดือน"

ดาวหันขวับ ตกใจมาก !
 
อ่านต่อตอนที่ 12
กำลังโหลดความคิดเห็น