xs
xsm
sm
md
lg

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่29

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 29

ต้าอี๋เข้ามาหายิ่วเชียนที่บ้าน หน้าตาตื่น

“ผู้อำนวยการ...ผู้อำนวยการ...ผู้อำนวยการ”
ต้าอี๋เห็นยิ่วเชียนเปิดสารคดีปลาการ์ตูนค้างไว้ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ ยิ่วเชียนเดินเข้ามาตีไหล่เบาๆ
“กำลังดูอะไร”
ยิ่วเชียนปิดโทรทัศน์
“คุณ”
“เรื่องสำคัญที่สุดขณะนี้คือหมู่บ้านภูล่าน ของล่ะ”
“อ้อ นี่ครับ”
ต้าอี๋ส่งเอกสารซึ่งเป็นข้อมูลเจ้าของที่ดินหมู่บ้านภูล่านให้ ยิ่วเชียนเปิดดูยิ้มพอใจ
“เยี่ยนเจ๋อคงคิดไม่ถึงว่า ความฉลาดของเขาจะผิดพลาด โยนความผิดเรื่องซื้อค่าหัวที่ดินให้ฉัน ทำให้ฉันไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้อมูลรายชื่อค่าหัวอีก”
“ผู้อำนวยการ ผมใช้เวลาตั้งนานเพื่อเข้าหาเลขาของหัวหน้ากว่าจะได้ข้อมูลมา”
“ฉันรู้”
“ใช้เวลานานมากเลยนะ คุณพาผมไปเลี้ยงข้าว ดื่มเหล้าด้วยได้มั้ย”
ยิ่วเชียนยิ้มให้
“ฉันรู้แล้ว นายเก่งมาก”
“ฮิ ขอบคุณครับ”
“แต่ปัญหาตอนนี้ คือเจียงไห่โค่”
เสียงโทรศัพท์ของยิ่วเชียนดังขึ้น เขามองชื่อในโทรศัพท์แล้วหันมามองหน้าต้าอี๋

ไห่โค่มานั่งดื่มกาแฟที่ร้านใต้ตึกโอเชี่ยน โดยมีลูกน้องทั้งสองคอยบริการให้
“ลูกพี่เดี๋ยวก่อน คิดให้ดีก่อนนะ ถ้าครั้งนี้ลูกพี่ช่วยเซี่ยยิ่วเชียน เขาจะได้ความดีความชอบไปคนเดียวนะ” ต้าหูท้วง
“ฉันรู้แล้ว”
“ลูกพี่เดี๋ยวก่อน สุดท้ายคนที่เป็นฮีโร่คือเซี่ยยิ่วเชียนนะ” เสี่ยวหูเตือนสติอีก
“ฉันรู้แล้ว”
“เดี๋ยวก่อน แล้วอันตูตูจะกลับไปหาเซี่ยยิ่วเชียนนะ” ต้าหูย้ำ
“ฉันรู้แล้วน่า”
“ถูกครับ โอ๊ย”
“ฉันเห็นอันตูตูร้องไห้”
ไห่โค่ดุลูกน้อง ระหว่างนั้นยิ่วเชียนกับต้าอี๋เดินเข้ามาหยุดยืนใกล้ๆ ต้าอี๋เรียกยิ่วเชียนเบาๆ อย่างป็นห่วง
“ผู้อำนวยการ”
ไห่โค่ยังคงพูดต่อ
“เขาบาดเจ็บตอนช่วยฉันยังไม่ร้องไห้เลย ไม่ให้ฉันไปหาเซี่ยยิ่วเชียนแล้วหาใคร”
ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าต้าอี๋ พลางบอก
“ไม่เป็นไร”
ยิ่วเชียนเดินเข้าไปหาไห่โค่
“นายคิดดีแล้วใช่มั้ย”
ไห่โค่หันมาเผชิญหน้ากับยิ่วเชียน
“ประโยคเดียว ถ้าคุณไม่ทำให้อันตูตูกลับมาสดใสเหมือนเดิม ถึงมีใครมาสร้างโรงงานที่ภูล่านเป็นสิบๆโรงงานฉันก็ไม่ช่วย”
“ฉันจะพยายาม”
“ขอให้คุณพยายามแล้วกัน คุณจะให้ฉันทำอะไร”

อ่านต่อหน้า 2

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 29 (ต่อ)

เจียงไห่โค่ไปที่สถานที่หนึ่งพลางนึกถึงคำพูดของยิ่วเชียน

“ฉันต้องการให้นายไปสถานที่หนึ่ง สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือ หาวิธีบังคับให้โอเชี่ยนมาเจรจากับฉันจะทำให้เรามีโอกาสหยุดการร่วมมือกับกองทุนรัสเซียของพวกเขาได้”
ไห่โค่พึมพำขึ้น
“ตระกูลเจียงเกลียดสถานที่แบบนี้ที่สุด”
“ตระกูลโอวหยาง ก็ไม่ชอบ” ต้าหูบอก
“ตระกูลซือถู ยิ่งไม่ชอบ” เสี่ยหูพูดบ้าง
“เก่งนักไม่ใช่เหรอ”
“เปล่าครับ” เสี่ยวหูเกรงๆ
“ฉันบอกแล้วไงว่าห้ามพูดถึงแซ่ของพวกแก อยากหล่อก็หล่อไป โอวหยาง ซือถูอยู่ด้วยกันไปเลยนะ”
ไห่โค่ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน

อันซีมาที่ห้องพักคนไข้ที่โรงพยาบาลแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างเตียงหมิงเย่ มองหมิงเย่ที่กำลังหลับสนิทอย่างเศร้าๆ
“ที่แท้ นี่คือหน้าตาของแม่ฉันเหรอ เฮ้อ ฉันกำลังทำอะไร”
อันซีร้องไห้ แล้วนึกได้ รีบเช็ดน้ำตา ลุกจากเก้าอี้ ทำให้เกิดเสียงดัง หมิงเย่ตื่นขึ้นมา อันซีมองหน้าแม่ แล้วสะบัดหน้าหนีออกไป หมิงเย่จะเรียกไว้ แต่ก็ไม่เรียก เวลาต่อมาอันซีตัดสินใจมาแอบดูหมิงเย่ที่หน้าห้อง แต่ไม่เห็นแม่นอนอยู่ ก็แปลกใจ พอหันมาก็เห็นพยาบาลกำลังพาหมิงเย่เดินมาที่ห้อง พร้อมลากเสาน้ำเกลือมาส่ง อันซีช่วยเปิดประตูให้ พยาบาลจึงส่งมือหมิงเย่ให้อันซีช่วยประคองเข้าไป ทั้งสองอึกอักกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพากันเดินเข้าไปในห้อง
อันซีพาหมิงเย่มานอนและห่มผ้าให้ หมิงเย่มองหน้าลูกสาวแต่ก็ยังไม่ยอมพูดอะไร อันซีเดินไปนั่งที่โต๊ะ ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย พอเสียงเตือนจากโทรศัพท์ดัง อันซีก็จัดการรินน้ำและนำยามาให้หมิงเย่ที่เตียง
“เธอ”
หมิงเย่พูดได้แค่นั้น ก็ตัดสินใจไม่พูดอะไรต่อ รับยามากิน พอช่วยหมิงเย่ให้กินยาแล้วอันซีก็ไม่พูดอะไร คว้ากระเป๋าจะเดินออกไป ก่อนตัดใจหันกลับมาพูด
“พรุ่งนี้ฉันค่อยมา”
อันซีเดินออกไปหน้าเครียดๆ หมิงเย่ถอนใจ น้ำตารื้น รู้ตัวดีว่าทำกับลูกมากเกินไป จนลูกยังไม่อยากให้อภัย
อันซีเดินออกมาจากโรงพยาบาลอย่างเศร้าๆ ยิ่วเชียนจอดรถแอบมองอยู่ด้วยความสงสารและเห็นใจมาก จะเข้าไปหา แต่ก็รู้ว่าอันซียังไม่พร้อมจะคุยกับเขา ยิ่วเชียนจึงขับรถออกไป

เยี่ยนเจ๋อเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา ดูซองจดหมายหลายซองบนโต๊ะอย่างแปลกใจ พนักงานเดินถือกาแฟมาให้
“หัวหน้า กาแฟของคุณค่ะ”
“นี่คืออะไร”
“ไม่ทราบค่ะ หลายวันนี้เห็นทยอยส่งมา ที่อยู่เป็นของบริษัท แต่ว่า คนรับไม่ใช่พนักงานในโอเชี่ยน เพราะศาลส่งมา ดังนั้นเลยส่งมาที่ห้องของหัวหน้า หัวหน้า ฉันขอไปทำงานก่อนนะคะ”
“ได้”
พนักงานเดินออกไป เยี่ยนเจ๋อแกะซองเอกสารมาดู พึมพำอย่างเครียดๆ
“เซี่ยยิ่วเชียนไปได้รายชื่อเหล่านี้มาจากไหน”
เยี่ยนเจ๋อนึกถึงวันที่เขาเข้าไปคุยกับหมิงเย่ที่ห้องทำงาน แล้วยื่นเอกสารให้หมิงเย่
“ข้อมูลที่ผมจัดการ พบว่ามีสิ่งแปลกมาก”
“เก็งกำไรเหรอ”
“ใช่ครับ”
เยี่ยนเจ๋อตบเข่าตัวเองอย่างนึกไม่ถึง
“เฮ้อ เฮ่อ ฉันนี่มันโง่จริง เฮ่อ สัญญาการขายที่ไม่ถูกต้อง ฉ้อโกง ทุจริต จะฟ้องเจ้าของที่ดินทุกรายชื่อ เฮ้อ เซี่ยยิ่วเชียน นายจะใช้กฎหมายเล่นงานฉันเหรอ”
เสียงโทรศัพท์ในลิ้นชักของเยี่ยนเจ๋อดังขึ้น เขากดรับสาย
“ครับคุณรูเบน”
เยี่ยนเจ๋อฟังเสียงปลายสายแล้วได้แต่ถอนใจเครียด

ยิ่วเชียนนั่งอยู่ในรถ ภายในโรงพยาบาล พึมพำเรื่องที่ดิน
“รายชื่อค่าหัวผีที่ซื้อที่ดิน ไม่มีทางไปปรากฏตัวที่ศาลแน่นอน ดูเหมือนเยี่ยนเจ๋อ ต้องจัดการปัญหาบางอย่างแล้ว หัวหน้าก็ควรออกมาคุยเจรจากับหมู่บ้านภูล่าน”
ระหว่างนั้นยิ่วเชียนเห็นอันซีเดินออกมาอย่างเหม่อลอย พลันมีผู้ชายอุ้มผู้หญิงบาดเจ็บเข้ามาชนอันซีจนล้ม
“โอ้ย”
“ขอโทษครับๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณรีบไปเถอะ”
ยิ่วเชียนกำลังเปิดประตูจะเข้าไปช่วยอันซี แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาช่วยประคองอันซีก่อน
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
“ขอบคุณ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ”
อันซียืนจับแขนตัวเองที่เจ็บอยู่ พลันเหลือบมาเห็นยิ่วเชียนยืนจ้องมองเธออยู่ อันซีรู้สึกผิด คิดบางอย่างในใจ
“ยิ่วเชียน ฉันขอโทษ ตอนนี้ฉันยังสับสน ฉันไม่สามารถคิดเรื่องของแม่กับคุณพร้อมกันได้” อันซีเศร้าหนัก ตัดสินใจเดินหนีจากชายหนุ่มไป
 
ยิ่วเชียนได้แต่ก้มหน้า รับรู้ว่าอันซียังไม่พร้อมจะคุยกับเขา 

อ่านต่อหน้า 3

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 29 (ต่อ)

ภายในห้องพักคนไข้ หมอกำลังพูดเรื่องการผ่าตัดให้หมิงเย่ฟัง โดยมีเยี่ยนเจ๋อยืนอยู่ด้วย

“เราได้กำหนดวันผ่าตัดแล้ว ส่วนรายละเอียด พยาบาลจะยืนยันกับคุณอีกที ทำตัวให้ผ่อนคลาย ผมขอตัวก่อนครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
หมอกับพยาบาลเดินออกไป หมิงเย่หันมาพูดกับเยี่ยนเจ๋อ
“ฉันจะผ่าตัดอาทิตย์หน้าแล้ว เรื่องงานที่บริษัท เธอบอกว่าฉันไปต่างประเทศ”
“คุณไม่ต้องกังวลครับ แต่ว่า มีเรื่องหนึ่งที่ผมต้องรายงานคุณ”

หย่งชิงเดินเข้ามาในโรงพยาบาล เห็นหยาลู่กำลังดึงคอเสื้อหยาเอินห้ามไว้
“คุณหมอบอกแล้วไงว่าห้ามออกไปข้างนอก ครั้งก่อนเธอไม่ไปตามหมอนัด แอบออกไปเที่ยวข้างนอก ครั้งนี้จะหนีออกไปตอนฉันเข้าห้องน้ำอีกเหรอ”
“เปล่านะ ฉัน แค่ออกไปเดินเล่นทางโน้น”
“ทางโน้นเหรอ”
“อืม”
“ไม่ได้”
หยาเอินจะไป หยาลู่จับตัวไว้
“ฉะ ฉัน ไปเดินเล่นแป๊บเดียว ได้โปรดๆ”
“ไม่ได้ๆ”
“ไม่เอาๆ”
หยาลู่พาหยาเอินเข้ามานอนที่เตียงคนไข้ หย่งชิงตามเข้ามาดูสองพี่น้อง
“เธอน่ะ ใจร้อนจริงๆ เหมือนเด็กน้อยที่ลุ้นแกะของขวัญเลย”
หยาลู่ต่อว่าน้องสาว พลางขยับไปนั่งวาดรูปที่ปลายเตียง
“ฉันเปล่านะ”
“เมื่อกี้จะออกไปเล่นกับเด็กห้องข้างๆ ใช่มั้ย อย่าขยับ ไม่งั้นฉันวาดไม่ได้ หัวเราะอะไร”
“ฉันเปล่านะ ฉันรู้สึกว่า ตั้งแต่พี่เริ่มฝึกวาดรูป เพราะต้องการอยู่ดูแลฉันที่โรงพยาบาล”
“เธอป่วยแล้วยังชอบหนีออกไปเที่ยวนี่ ฉันเลยต้องหาทางไม่ให้เธอไปไหน”
“หยาเอิน อย่าขยับ ไม่งั้นภาพวาดจะไม่สวย”
หยาลู่ลงมือวาดต่อ
“ความจริงทักษะในการวาดภาพ คือผู้วาดกับผู้ถูกวาดต้องมองหน้ากัน ใช้เวลาบางส่วน เก็บทุกรายละเอียดที่ไม่ควรพลาดของกันและกัน ทำไมมีรอยตีนกาล่ะ”
“เพราะฉันหัวเราะบ่อยๆ”
“ทำไมถึงหน้าแดง”
“เพราะว่าฉันเขิน”
“ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้”
“เพราะฉันเป็นน้องสาวพี่ไง”
หยาลู่หัวเราะ หย่งชิงแอบมองสองพี่น้องคุยกันอย่างรักใคร่แล้วได้แต่น้อยใจ
“ถ้าหาก ฉันมีพี่ชายอย่างนี้ก็คงดี”
หย่งชิงถอนใจเดินออกไป

หยาลู่นอนหลับคากระดานวาดรูป หยาเอินแอบเอากระดาษกับเครื่องมือวาดรูปออกไป เธอไปนั่งรอเยี่ยนเจ๋ออยู่หน้าโรงพยาบาล ชายหนุ่มเดินเข้ามาหายิ้มๆ
“คนป่วยในโรงพยาบาลออกมาข้างนอกได้ด้วยเหรอ ไม่เป็นไรใช่มั้ย คุณหมอว่าไงบ้าง”
“ไม่”
หยาเอินหยิบกระดาษวาดรูปกับอุปกรณ์การวาดมา เยี่ยนเจ๋อแปลกใจ
“นั่นอะไร”
“วันนี้ฉันคิดถึงผลดีของการวาดภาพ”
หยาเอินเข้ามาจับหน้าของเยี่ยนเจ๋อให้ตรงๆ
“มาค่ะ คุณมองหน้าฉัน ฉันมองหน้าคุณ ห้ามขยับนะ”
“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอวาดรูปเป็น”
“ครอบครัวฉันมีพรสวรรค์ในการวาดรูปน่ะ”
“อืม โอเค” เยี่ยนเจ๋อยิ้มเอ็นดู
“ห้ามขยับนะ”
หยาเอินมองหน้าเยี่ยนเจ๋อแล้วใช้นิ้วคลึงระหว่างคิ้ว
“นี่ อย่าขมวดคิ้วสิคะ เดี๋ยวจะไม่น่ารัก”
เยี่ยนเจ๋อยิ้มแปลกใจ
“น่ารัก ฉันน่ะเหรอ”
“อย่าขยับน้า”
“ไหวมั้ยเนี่ย”
“อืม ให้เวลาฉันหน่อยสิ”
เยี่ยนเจ๋อนั่งสบายใจอยู่สักพัก
“ฉันดูหน่อย”
“ไม่เอา”
“มาน่าฉันดูหน่อย”
เยี่ยนเจ๋อแย่งรูปมาดู เห็นเพิ่งขึ้นโครงหน้า แทบจะไม่ได้อะไรมาก เขาขำๆ
“แค่นี้เหรอ โอเค น่ารักจริงๆ”
“ฉัน ยังวาดไม่เสร็จเลย”
หยาเอินเอากระดาษไปวาดต่อ เยี่ยนเจ๋อนั่งยิ้มๆ มองความน่ารักสดใสของสาวน้อย

เสียงโทรศัพท์ของยิ่วเชียนดังขึ้น เขากดรับสายจากต้าอี๋
“ฮัลโหล”
“ฮัลโหลผู้อำนวยการ มีข่าวดี หัวหน้านัดคุณไปเจอที่บริษัทพรุ่งนี้ครับ”
“ฉันรู้แล้ว”
ยิ่วเชียนยิ้มนิดๆ

ยิ่วเชียนเตรียมจะไปพบหมิงเย่ แต่แปลกใจที่เจอเยี่ยนเจ๋อรออยู่
“ดูนายตกใจนะที่เห็นฉัน ฉันต้องบอกว่าฉันนับถือนายมาก นายสามารถทำให้เจียงไห่โค่ ออกมาฟ้องศาลแทนนายได้ แต่ถ้านายคิดว่าทำอย่างนี้ สามารถทำให้หัวหน้าเชื่อนาย ทำให้เขาออกมาเจรจากับนาย งั้นนายคงคิดผิดแล้ว นี่คือหนังสือมอบอำนาจ ที่หัวหน้าต้องเซ็นให้กับผม”
เยี่ยนเจ๋อชูหนังสือมอบอำนาจให้ยิ่วเชียนดู พลางนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขาคุยกับหมิงเย่
“แต่ว่า ผมมีเรื่องหนึ่งจะรายงานคุณ”
“ว่ามา”
“วันมะรืนนี้ บริษัทจะเซ็นสัญญากับกองทุนรัสเซียแล้ว ถ้าคุณไม่ปรากฏตัวล่ะก็”
“ตอนเย็นเธอเอาหนังสือสัญญามาให้ฉันเซ็นก่อน”
“หมายความว่า คุณจะไม่เข้าร่วมเหรอครับ”
“ในสัญญาขั้นสุดท้าย เธอเป็นตัวแทนฉันเข้าร่วมแล้วกัน”
“ผมเหรอ”
“ระหว่างที่ฉันป่วย ฉันมอบหมายอำนาจทุกอย่างให้เธอเป็นคนจัดการ”
เยี่ยนเจ๋อยิ้มเยาะๆ ยิ่วเชียน
“นั่นก็หมายความว่าต่อจากนี้ ถ้านายต้องการคุยอะไร ก็มาคุยกับฉัน”
“นายรู้มั้ยว่ากำลังทำอะไร หัวหน้ารู้มั้ยว่านายร่วมมือกับกองทุนรัสเซีย สร้างโรงงานกำจัดของเสีย”
“เฮ่อ นายกำลังพูดอะไร เขารู้แน่นอน และพรุ่งนี้ฉันจะเป็นตัวแทนเซ็นสัญญากับกองทุนรัสเซียแล้ว อ้อ จริงสิ”
เยี่ยนเจ๋อหยิบหมากรุกตัวหนึ่งออกมา
“ของสิ่งนี้ ฉันคิดว่า คงไม่ต้องการมันแล้ว เพราะว่าพรุ่งนี้ ทุกอย่างจะสิ้นสุดลงแล้ว เกมโอเวอร์ ฉันชนะ นายแพ้ อ่ะ”
เยี่ยนเจ๋อใส่หมากรุกลงในกระเป๋าเสื้อยิ่วเชียน แล้วตบอกเขาเบาๆ ก่อนเดินเยาะๆ ออกไป ยิ่วเชียนพูดขึ้น ทำให้เยี่ยนเจ๋อชะงักฟัง
“เราสองคน ยืนอยู่บนความสมดุล ถ้าคนหนึ่งขยับ อีกคนไม่มีทางยืนอยู่นิ่งๆ แน่ นายเข้าใจที่ฉันพูดดี ไม่ใช่เหรอ”
ยิ่วเชียนยิ้มเยาะๆ ก่อนเดินผ่านหน้าไป เยี่ยนเจ๋อเครียดขึ้นมาทันที

ยิ่วเชียนเดินออกมาจากบริษัทเจอหย่งชิงเดินเข้ามาหา
“ยิ่วเชียน ขอบคุณสำหรับความห่วงใย รบกวนฝากนี่ไปให้คุณปู่ด้วย ฉันคิดได้แล้ว ฉันตัดสินใจ โยนลูกเต๋าด้วยตัวเอง ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ฝากบอกคุณปู่ด้วยว่า ฉันขอโทษ ท่านสามารถกลับบ้านเก่าได้ตลอดเวลา”
ยิ่วเชียนยิ้มให้
“ขอบคุณมาก คุณปู่ต้องดีใจมาก”
ยิ่วเชียนก้มหน้าเครียดๆ หย่งชิงแปลกใจ
“คุณเป็นอะไร”
“คุณรู้มั้ยว่า หัวหน้ามอบอำนาจให้เยี่ยนเจ๋อเป็นตัวแทน”
“ตัวแทนของคุณแม่เหรอ เมื่อวานหลังจากคุยกับคุณเสร็จ ฉันคิดว่าจะไปหาคุณแม่”
หย่งชิงนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ไปแอบมองอยู่หน้าห้องคนไข้ เห็นหมิงเย่อาการไม่ดี ขณะที่นั่งคุยกับเยี่ยนเจ๋อ
“เนื้อหาของสัญญา มีรายละเอียดมาก” หมิงเย่บอก
“หัวหน้า คุณเหนื่อยแล้วใช่มั้ย ถ้างั้นเอาอย่างนี้ ผมจะร่างเนื้อหาสัญญาในส่วนที่ขัดแย้งให้คุณ คุณจะได้ช่วยตัดสิน คุณดูก่อนครับ ตรงนี้เป็นอัตราส่วนการลงทุน นี่เป็นแผนการความคืบหน้า”
“อืม”
“และสุดท้าย เป็นค่าชดเชยสำหรับการละเมิดสัญญา”
หย่งชิงเล่าให้ยิ่วเชียนฟังต่อ
“ตอนแรกฉันไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอได้ยินคุณพูดว่า พี่ชายฉันเป็นตัวแทนของคุณแม่ เมื่อวานเขาให้คุณแม่เซ็นสัญญาล่วงหน้า ดูเหมือนจะเป็นโครงการสำคัญที่ต้องดำเนินการเร็วๆ นี้”
ยิ่วเชียนฟังแล้วเครียดหนัก

ยิ่วเชียนกลับมาบ้านหน้าตาเครียดๆ เห็นไป๋คังพอดี
“คุณปู่”
“ยิ่วเชียน ทำไมสีหน้าดูแย่อย่างนี้ ไหนว่าจะกลับไปจัดการงานที่บริษัท เป็นอะไร ไม่ราบรื่นเหรอ”
“ไม่มีไรครับ ผมจะหาทางแก้ปัญหาเอง จริงสิ หย่งชิงฝากสิ่งนี้มาให้คุณปู่”
“ยัยคางแหลมให้ฉันเหรอ”
“ครับ”
ไป๋คังเปิดซองเอกสารดู
“เขาคืนบ้านเก่าให้ฉันแล้วเหรอ”
“เขาฝากมาขอโทษคุณปู่ด้วย จริงๆ ครับ”
“จะจริงหรือโกหกก็ดี เขายอมคืนบ้านเก่าให้เรา ก็แสดงว่าเขายอมปล่อยหลานแล้ว งั้นหลานกับอันซี”
“คุณปู่ ผม ขอตัวขึ้นไปก่อน”
ยิ่วเชียนเดินหน้าเครียดๆ ไป ไป๋คังพึมพำ
“อ้อ เฮ้อ ยัยคางแหลมคนแรกไปแล้ว ก็มียัยคางแหลมอีกคนโผล่มา ทำไมยิ่วเชียนกับอันซีถึงไม่สามารถอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นนะ คิดออกแล้ว”

ไป๋คังเดินไปหยิบโทรศัพท์มากดโทร.ออก

อ่านต่อหน้า 4

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 29 (ต่อ)

อันซีนั่งมองนาฬิกาข้อมืออย่างเศร้าๆ

“หนึ่งนาทีแล้ว”
อันซีนึกถึงตอนที่ยิ่วเชียนเคยให้นาฬิกาเรือนนี้กับเธอ
“เพราะว่าคุณ ฉันจะไม่มีวันลืมหนึ่งนาทีนี้”
อันซีเศร้า คิดถึงยิ่วเชียนมาก ระหว่างนั้นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ฮัลโหล คุณปู่”
“อันซี ทำไมเธอถึงใจร้ายไม่ยอมโทรมาหาปู่บ้างเลย”
“ขอโทษค่ะคุณปู่ ช่วงนี้อารมณ์ของฉัน กำลังสับสนวุ่นวาย”
“เธอไม่ต้องขอโทษฉัน แค่เธอช่วยอะไรฉันเรื่องหนึ่งก็พอแล้ว”
“เรื่องอะไรคะ”
“ฉันอยากกินปลาหมึกที่เธอทำ นี่ พรุ่งนี้เธอมาทำให้ฉันกินหน่อยได้มั้ย ทำไม ไม่เต็มใจเหรอ”
“ไม่ใช่ไม่เต็มใจค่ะ เพียงแต่”
“เต็มใจก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะรอเธอที่บ้านเก่าฉัน มาให้ได้นะ”
“เอ่อคุณปู่”
“เธอต้องมาให้ได้นะ”
“คุณปู่ เฮ้อ”
ไป๋คังวางสายไปแล้ว อันซีกลุ้ม ได้แต่ถอนใจ

ยิ่วเชียนนั่งอยู่ในห้องทำงานที่บ้าน คิดแต่เรื่องของเยี่ยนเจ๋อ
“ให้หัวหน้าเซ็นสัญญา โดยไม่ให้หัวหน้าเห็นสัญญาทั้งฉบับ แค่พูดเกี่ยวกับสัญญาขัดแย้งไม่กี่ข้อ นี่เป็นวิธีในการเปลี่ยนจุดสนใจ อัตราส่วนในการลงทุนและค่าเสียหาย สิ่งที่เขาต้องการเปลี่ยนจุดสนใจคืออะไร”
ยิ่วเชียนนึกถึงเรื่องที่คุยกับเยี่ยนเจ๋อวันนี้
“หัวหน้ารู้มั้ยว่านายร่วมมือกับกองทุนรัสเซีย สร้างโรงงานกำจัดของเสีย”
“เฮ่อ เขารู้แน่นอน”
ยิ่วเชียนคิดๆ
“หัวหน้าไม่รู้ว่าการรีไซเคิล ความจริงแล้ว เป็นการกำจัดของเสีย”

ตอนเช้ายิ่วเชียนรีบแต่งตัวจะออกไปข้างนอก ไป๋คังรีบเข้าไปดักไว้
“ยิ่วเชียน จะออกไปเหรอ”
“ใช่ครับคุณปู่”
“แต่วันนี้ ปู่อยากให้หลานพาไปบ้านเก่า”
“วันนี้คงไปส่งไม่ได้แล้ว ผมมีธุระสำคัญ วันหน้าผมค่อยพาไปดีมั้ยครับ”
“แต่ว่า”
“คุณปู่ ผมไปก่อนครับ”
ยิ่วเชียนรีบออกไปทันที ไป๋คังเซ็ง พึมพำอย่างเสียดาย
“เอ๊ะ เฮ่อ วันนี้กว่าจะนัดอันซีได้ ไม่น่าเลย เฮ่อ”

ยิ่วเชียนขับรถเข้ามาจอดริมถนน ต้าอี๋รีบเดินเข้ามาหา
“ผู้อำนวยการ แย่แล้วครับ ผมได้ยินฝ่ายกฎหมายบอกว่าหัวหน้าหูกับกองทุนรัสเซียเปลี่ยนสถานที่เซ็นสัญญาแล้ว”
“ฉันเดาไว้ไม่มีผิด เขาต้องไปในที่ที่ไม่มีใครรบกวนการเซ็นสัญญา”
“ทำยังไงดีครับ ใกล้ถึงเวลาเซ็นสัญญาแล้ว”
“แยกย้ายกันตามหา”
ยิ่วเชียนรีบขับรถออกไป

ไป๋คังมานั่งรออันซีที่บ้านของเขาในภูล่าน ขณะที่อันซียังนั่งอยู่ที่บ้านพัก มองเวลาด้วยความกังวลใจ รู้ว่าไป๋คังต้องมารอเธอแน่ อันซีได้แต่คิดเครียด
“คุณปู่คงมารอฉันที่บ้านเก่าแล้วล่ะ”
อันซีลุกขึ้น คิดต่อสู้กันภายในใจ
“ไม่ได้ๆ ไปไม่ได้ ไปแล้วฉันจะพูดกับคุณปู่ยังไง”
อันซีนั่งลงอีก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหม่ยเหวินมองแปลกใจ
“อันซี เธอปอกไม่เสร็จก็เปลี่ยนอันใหม่แล้ว”
“อ้อ”
“หรือว่าเธอกำลังคิดถึง”
“ฉันไม่ได้คิดถึงยิ่วเชียนนะ”
“ฉันไม่ได้บอกว่ายิ่วเชียนสักหน่อย”
“ฉันไปให้อาหารห่าน”
อันซีลุกเดินไปเลย เหม่ยเหวินบ่น
“หะ เฮ้อ คนในเย่จือไห่นี่แปลกคน เวลาอารมณ์ดีก็ให้อาหารห่าน อารมณ์ไม่ดีก็ให้อาหารห่าน ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป ห่านของเราต้องอ้วนตายแน่”

ไป๋คังนั่งรออยู่ ได้แต่บ่นพึมพำ
“ทำไมอันซียังไม่มาอีก”
ไป๋คังจะลุกเดินไปดู พลันก็เห็นอันซีเดินมาข้างๆ บ้าน เขาหยุดแอบมอง อันซีบ่นๆ กับตัวเอง
“เฮ้อ ไม่ได้ๆ เฮ้อไหนบอกว่าจะไม่เปลี่ยนใจ”
อันซีหันหลังเดินออกไป ไป๋คังยิ้มๆ รู้ทัน แกล้งร้องขึ้นราวกับเจ็บปวด
“โอ๊ย”
อันซีได้ยินรีบวิ่งเข้ามาหา
“คุณปู่ คุณปู่ เป็นอะไรคะ”
“อันซี เธอพยุงฉันไปนั่งก่อน”
“ค่ะๆ เราไปนั่งทางโน้นก่อน ไหวมั้ยคะ คุณปู่เป็นอะไร ค่อยๆ ค่ะ คุณปู่พกยามาด้วยมั้ยคะ ฉันหยิบให้ค่ะ”
“ไม่ต้องหยิบ ฉันเห็นเธอก็ดีขึ้นแล้ว เธอได้ผลกว่ายาซะอีก”
“เฮ้อ คุณปู่ทำไมล้อเล่นอย่างนี้คะ ไม่ตลกเลยนะ”
“ฉันกลัวว่าเธอจะไม่มา อย่าว่าแต่ยิ่วเชียนคิดถึงเธอเลย แม้แต่ฉันก็ยังคิดถึงเธอ”
อันซีมองไปรอบๆ
“ทำไม ผิดหวังที่ไม่เห็นยิ่วเชียนใช่มั้ย”
“คุณปู่”
“ปลาหมึกของฉันล่ะ คิดว่าจะไม่มา เลยไม่ได้เตรียมมาใช่มั้ย”
“ขอโทษค่ะ”
“ช่างเถอะๆๆ ปลาหมึกเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ถูกมั้ย เด็กคนนี้ พูดจาไม่รักษาคำพูด”
“ฉันไม่รักษาคำพูดตรงไหนคะ”
“บอกว่าจะดูแลยิ่วเชียนของเราตลอดไป นี่ แต่ว่าพอเกิดเรื่อง เธอก็ผิดคำสัญญา ปล่อยมือยิ่วเชียนไปอย่างง่ายดาย เอาล่ะมาๆ นั่งๆ ถ้าหากเธอโกรธยิ่วเชียน ที่เขาปิดบังเรื่องมามี้ของเธอ งั้นเธอโกรธฉันแล้วกัน ฉันเป็นคนบอกให้เขาไม่ต้องพูดเอง”
“คุณปู่ อย่าพูดอย่างนี้สิคะ ความจริง ฉันหายโกรธยิ่วเชียนนานแล้วล่ะ ครั้งก่อนเพราะนิสัยเสียของฉัน ทำให้คุณปู่ต้องเสียบ้านไป ครั้งนี้ก็อีก”
“ครั้งนี้อะไรอีก”
“ความจริงฉันรู้ว่าที่ยิ่วเชียนทำไป เพราะหวังดีกับฉัน แต่ว่าฉันก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากฉันมีโอกาสรู้แต่แรก ฉันคงไม่ปล่อยให้เขาเห็นท่าทางไม่ได้เรื่องของฉันทุกครั้ง เขาจะได้ไม่รังเกียจฉัน”
“เธอเริ่มตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่”
“เฮ้อ ฉันสับสนกับโลกใบนี้มากจริงๆ โลกภายนอกของหมู่บ้านภูล่าน มันไม่ใช่โลกแห่งความจริง เพราะความจริงทุกคนต่างคิดว่าอะไรมีผลประโยชน์ต่อตัวเอง ความรักของแม่ก็ไม่ใช่ความรักที่บริสุทธิ์ มิตรภาพก็ไม่ใช่มิตรภาพที่บริสุทธิ์ ความรักก็”
“เธอกำลังสงสัยความรักที่ยิ่วเชียนมีให้เธอเหรอ”
“เพราะพวกเขาทำให้ฉันสงสัยความรักที่ยิ่วเชียนมีให้ ฉันคิดว่า เพราะยิ่วเชียนดีกับฉันเกินไป เลยทำให้ฉันขาดเขาไม่ได้”
“ยัยเด็กโง่ ความรักของเธอเป็นรักที่แท้จริง เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง เพราะว่าความรักที่แท้จริงสามารถพิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่เคยผิดพลาดไปเปรียบเสมือนครูคอยสอนเรา แล้วเธอจะพบว่า ใครเป็นคนที่เธอแคร์ที่สุด ยิ่วเชียนเคยบอกว่า ให้เวลาเธอหน่อย ให้เธอคิดให้ดีๆ แต่ว่าปู่ไม่มีเวลาแล้ว”
“โธ่เอ๊ยคุณปู่ บอกแล้วไงว่าอย่าล้อเล่นอย่างนี้ ขืนพูดอย่างนี้อีก ฉันกลับแล้วนะ”
ไป๋คังเจ็บจี๊ดที่หัวใจ นั่งกุมหน้าอก อันซีหันมามอง
“คุณปู่ล้อเล่นอีกแล้วนะคะ”
ไป๋คังไม่ตอบ เขาหมดสติไปทันที อันซีตกใจ รีบเข้าไปประคอง
“คุณปู่ คุณปู่ คุณปู่ คุณปู่”

เยี่ยนเจ๋อนั่งเซ็นสัญญาอยู่กับรูเบน พลางคิด
“เมื่อเซ็นสัญญาฉบับนี้แล้ว ก็เก็บสำเนาไว้คนละฉบับ แล้วโรงงานกำจัดของเสีย ก็จะถูกสร้างขึ้นมา”
ขณะที่รูเบนกำลังจะเซ็นชื่อ ยิ่วเชียนก็เข้ามาขัดจังหวะพอดี
“เดี๋ยวก่อน”
เยี่ยนเจ๋อลุกไปขวางยิ่วเชียน
“นายมาที่นี่ได้ยังไง”
“ฉันต้องการรู้เนื้อหาของสัญญา”
“นายมันไม่ยอมแพ้จริงๆ”
“ฉันต้องการยืนยันว่า สัญญาทั้งสองฉบับใช่การทำรีไซเคิลมั้ย หรือจะเขียนว่า บำบัดของเสียในสัญญาของกองทุนรัสเซียเท่านั้น”
รูเบนมองอย่างสงสัย พลางถาม
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไรครับ”
เยี่ยนเจ๋อบอกรูเบน แล้วหันมาคุยกับยิ่วเชียน
“นายไม่ใช่คนของโอเชี่ยนแล้ว เซี่ยยิ่วเชียน นายไม่มีอำนาจนี้”
“ถ้าไม่ใช่สร้างโรงงานกำจัดของเสียก็ดี ทำไม กลัวฉันจะดูเหรอ”
ยิ่วเชียนจะดึงสัญญาไปอ่าน แต่เยี่ยนเจ๋อไม่ยอม
“เอ๊ะ นี่คือการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเรานะ”
“ฉันไม่ปล่อยให้นายสร้างโรงงานกำจัดของเสียในหมู่บ้านภูล่านแน่”
“ปล่อย”
“นายนั่นแหละปล่อย”
ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ของยิ่วเชียนดังขึ้น
“มีสายเข้า ไม่รับเหรอ”
ยิ่วเชียนต้องยอมปล่อยมือจากสัญญามากดรับสาย เสียงอันซีดังเข้ามา
“ยิ่วเชียน ทำยังไงดี คุณปู่หมดสติ คุณรีบมาทางนี้ได้มั้ย ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี”
ยิ่วเชียนรีบเดินออกไปทันที
“อันซี เธอไม่ต้องกลัว ค่อยๆ พูด”
เยี่ยนเจ๋อมองอย่างสงสัย รูเบนรีบถาม
“มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“ไม่มีอะไรครับ เขาเป็นเพื่อนของผม งั้นเราเซ็นสัญญาให้เรียบร้อยกันเถอะ เพอร์เฟ็ค แต่ผมคิดว่า วิธีที่ดีที่สุดคือให้ผมเป็นคนเก็บสัญญาฉบับนี้ไว้ก่อน จนกว่าผมจะได้เป็นประธานบริษัทในเอเชีย หวังว่าคุณคงไม่ขัดข้อง”
รูเบนไม่ค่อยพอใจนัก

ยิ่วเชียนรีบวิ่งเข้ามาภายในโรงพยาบาลอย่างร้อนใจ เปิดประตูห้องเข้าไป
“คุณปู่”
อันซีเรียกอย่างตกใจ
“ยิ่วเชียน”
“คุณปู่”
“หมอบอกว่า คุณปู่เป็นโรคเลือดอุดตันกำเริบ เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ชั่วคราวจึงทำให้หมดสติ แต่ได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วรอให้คุณปู่ฟื้นเท่านั้น คุณไม่ต้องกังวลค่ะ”
ยิ่วเชียนมองหน้าอันซีอย่างคิดถึง
”ขอบคุณนะ ที่ส่งคุณปู่มาโรงพยาบาล”
อันซีไม่ตอบ แต่มือคลำแหวนที่นิ้วอยู่ตลอดเวลา ยิ่วเชียนก็เช่นกัน ทั้งสองรู้ดีว่าต่างฝ่ายต่างคิดถึงกัน ไป๋คังเริ่มรู้สึกตัว
“คุณปู่”
“คุณปู่ คุณฟื้นแล้ว”
“เฮ่อ พยุงฉันขึ้นมาหน่อย เฮ่อ”
ทั้งสองช่วยกันพยุงไป๋คัง ยิ่วเชียนแอบมองหน้าอันซี
“คุณปู่”
“คุณปู่ขอโทษค่ะ”
“ขอโทษครับ”
ยิ่วเชียนกับอันซีต่างพูดขอโทษพร้อมกัน แล้วชะงัก ไป๋คังชี้บอก
“ยิ่วเชียน เธอพูดก่อน”
“คุณปู่ ผมไม่ดีเอง ผมควรพาคุณปู่กลับบ้านเก่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่เหนื่อย คุณปู่ก็คงไม่เป็นลม”
ไป๋คังเหลือบมองอันซี
“คุณปู่ขอโทษค่ะ ฉันไม่ดีเอง ฉันไม่สังเกตสุขภาพของคุณปู่เลย คิดว่าคุณล้อเล่น โชคดีที่ไม่เป็นไร ไม่งั้นฉันคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
“เธอสองคน ต้องให้ฉันเรียกมาถึงจะยอมพูดกัน ฉันก็รู้สึกไม่ดี ฉันอายุปูนนี้แล้ว เป็นพ่อสื่อครั้งแรก เกือบทำให้ตัวเองเสียชีวิตแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้พวกเธอคืนดีกันได้ แล้วยังไงล่ะ ต่างคนต่างเงียบ ทำเหมือนคนแปลกหน้า”
ไป๋คังจับมือทั้งสองคนมาจับกันไว้ ยิ่วเชียนมองอึ้งๆ แต่ก็รู้สึกดี
“เฮ่อ ฉันแก่แล้ว ฉันอยากเห็นเธอสองคนเป็นฝั่งเป็นฝาได้แล้ว”
“คุณปู่ ไหนบอกว่าจะไม่พูด” อันซีท้วง
“อันซี ยิ่วเชียน ตราบใดที่เธอสองคนไม่ปล่อยมือของกันและกัน ปู่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ชีวิตคนเราสั้นนัก ทำไมต้องเสียเวลาทำให้ต่างฝ่ายเสียใจล่ะ”
“อื้ม ผมรู้แล้วครับ”
“ยัยหนู แล้วเธอล่ะ”
“รู้แล้วค่ะคุณปู่”
ทั้งสองสบตากันอย่างคิดถึง จากนั้นยิ่วเชียนก็เดินมาส่งอันซี เขาเดินมาเงียบๆ จนอันซีอึดอัด ต้องพูดขึ้นมาก่อน
“คุณกลับไปดูคุณปู่เถอะ ไม่ต้องส่งฉันแล้ว”
“คุณปู่บอกว่า ฉันต้องไปส่ง”
 
ยิ่วเชียนบอกสีหน้าจริงจัง

อ่านต่อตอนที่ 30
กำลังโหลดความคิดเห็น