อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่27
หมิงเย่ร้องไห้หนักมาก พลางนึกถึงคำพูดของยิ่วเชียน
“ขอโทษครับ กองทุนรัสเซียครั้งนี้ ผมขอถอนตัว”
หมิงเย่ได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญกับตัวเอง
“ถ้าหาก...ถ้าตอนนั้น ฉันตัดสินใจเหมือนเธอ ขอบคุณค่ะผู้จัดการ ความจริง ฉันมีลูกสาวหนึ่งคน ดังนั้น ฉันไม่สามารถเป็นตัวแทนบริษัทไปนิวยอร์กได้ ถ้าหาก ถ้าหากฉันทำแบบนั้น ก็คงไม่มีฉันในวันนี้ แต่ในเมื่อ วันนั้นฉันทำเช่นนี้ ก็ต้องยอมรับว่า 20 ปีที่ผ่านมา เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ไม่ถูกๆ ความสำเร็จ เป็นตัวเลือกแรกของฉันเสมอ ฉันไม่ได้เลือกผิด”
หมิงเย่พยายามหาข้ออ้างให้กับตัวเอง
ตอนเช้าเหม่ยเหวินพาจื้อหลิงมาที่ห้องอันซี เคาะประตูเรียกหมิงเย่
“คุณโจว อรุณสวัสดิ์ค่ะ อาหารเช้าพร้อมแล้วลงมาทานได้แล้วค่ะ ทำไมไม่มีเสียง เอ๊ะ เอ่อ งั้นฉันเข้าไปนะคะ”
เหม่ยเหวินเข้ามาในห้อง มองไปทั่วห้อง
“สวัสดีค่ะคุณโจว เอ๊ะ รองเท้าหายไปไหน เอ่อ”
“โธ่เหม่ยเหวิน เธอนี่ชักจะเพ้อเจ้อขึ้นทุกวันแล้วนะ ถึงกับฝันเห็นคุณผู้หญิงเชียวเหรอ”
“ฉันไม่ใช่เธอนะจะได้เพ้อเจ้อไปวันๆ”
“ฉันฝันเห็นแต่ผู้ชายหล่อๆ เท่านั้นแหละ”
“เอ๊ะ ไปแล้วจริงด้วย”
จื้อหลิงหันมาเห็นกองของขวัญของอันซีถูกรื้อค้น
“หะ เหม่ยเหวิน”
“อื้ม”
“นั่นมันของอันซีนี่ ทำไมถูกรื้ออย่างนั้นล่ะ”
“หะ ที่แท้เขาเป็นขโมย โธ่ฉันช่วยเหลือผิดคนแล้ว นี่มัน”
“นี่ ไหนเธอบอกว่าเขาเป็นผู้ดี แล้วข้อมูลการลงทะเบียนล่ะ”
“ฉันไม่ได้ลงทะเบียนเพราะเขาไม่ค่อยสบายท่าทางไม่ไหว”
“เฮ้อ ว่าฉันไอคิวต่ำ เธอต่างหากล่ะไอคิวต่ำ”
“ของขวัญเหล่านี้อาจไม่มีค่า แต่มันเป็นสมบัติของอันซี ถ้าหายไป”
“เอ๊ะ ของยังอยู่”
“อันนี้ก็อยู่ เอ๊ะ อันนี้ก็ยังอยู่”
จื้อหลิงเห็นเงินปึกหนึ่งวางอยู่
“เหม่ยเหวิน”
“หะ”
“เหม่ยเหวินเธอดู”
“โอ๊ะ”
“เธอดูสิ”
“ทำไมเยอะอย่างนี้”
“ว้าว ฮิ”
ทั้งสองยิ้มพอใจ
เจียงไห่โค่เดินคิดเครียดอยู่ที่ศาลเจ้า
“เวลาผ่านไปอีกหนึ่งวันแล้ว”
ไห่โค่นึกถึงตัวเองในวัยชรา ต้าหูกับเสี่ยวหูก็แก่พอๆ กัน
“นี่ ลูกพี่ๆ เข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ” ต้าหูบอก
“ใช่”
“ขาชาเดินไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่าอันตูตูจะได้เซี่ยยิ่วเชียนรึยัง”
ไห่โค่จะถอดเสื้อ ต้าหูเข้ามาช่วย
“มาฉันช่วยพี่ ลูกพี่เราช่วย เราช่วยๆ ลูกพี่เราช่วย”
“เบาหน่อยๆๆ”
“ลูกพี่ ฉันช่วย มาครับๆ ฉันอุ้มไม่ไหว”
“เบาหน่อย”
“ครับ”
“ปล่อย ไม่ได้เรื่อง จะบ้าตาย”
“ลูกพี่ พี่กินยารึยัง”
ไห่โค่ตื่นจากภวังค์ บ่นกับตัวเอง
“อันตูตู เฮอะ ทำดีไม่ได้ดี ถ้าเธอได้เซี่ยยิ่วเชียน ฉันคงเข้าโลงไปก่อนแล้ว บ้าเอ๊ย”
ไห่โค่เดินหันหลังจะเข้าศาลเจ้า
“ไม่มีใครมา เอ๊ะหมาป่ามาแล้ว”
ต้าหูเห็นยิ่วเชียนเดินตรงมาทางศาลเจ้า
“ไม่ใช่หมาป่า” เสี่ยวหูบอก
“ไม่เหมือนกันเหรอ”
ไห่โค่หันมาเห็นยิ่วเชียนจึงสั่งลูกน้อง
“ขัดขวางมันไว้”
“อ้อๆ ครับๆ”
ไห่โค่หันหลังจะเข้าไปในศาลเจ้า ยิ่วเชียนพูดขึ้น
“ถ้านายเดินเข้าไปตอนนี้ นายจะเสียใจตลอดชีวิต นายสองคน”
อ่านต่อหน้า 2
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่27 (ต่อ)
ไห่โค่หันมาไล่ลูกน้อง ก่อนพูดชี้หน้ายิ่วเชียน
“ถ้าฉันไม่เข้าไป จะเสียใจตลอดชีวิตต่างหาก นอกจากนายเลิกกับอันตูตู สั่งฉันไม่ให้เข้าไป นายเป็นพี่ชายฉันเหรอ”
“นายเพิ่งขายที่ดินจำนวนมากในหมู่บ้านภูล่านใช่มั้ย”
“โอ้ว นี่ ตรวจสอบฉันเหรอ”
“ฉันต้องการร่วมมือกับนายสักครั้ง”
“เขาพูดอะไร”
“เขาบอกว่าอยากร่วมกับลูกพี่สักครั้ง” ต้าหูบอก
“ร่วมมือๆ”
“อ๋อ”
“ใช่แล้วๆ”
“ฉันยอมร่วมมือกับคุณแซ่ซั่น คนแซ่จง แต่ไม่ขอร่วมมือกับคนแซ่เซี่ย”
“มีคนจะสร้างโรงงานกำจัดขยะที่หมู่บ้านภูล่าน ตรงที่ดินที่นายขายไป”
“เอ่อ ขยะ ก็แค่เตาเผาขยะน่ะสิ”
“ถูก” ต้าหูบอก
“ไม่เห็นเป็นไร เล็กน้อย”
“เศษเหล็กเศษโลหะ สารกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายถึงชีวิต”
“จะสร้างก็สร้างสิ ขยะของเสียแล้วไง เพราะขยะไม่มีใครต้องการอยู่แล้ว อย่างมาก เราแค่ย้ายไปจากหมู่บ้านภูล่าน ฉันทำได้ทุกอย่างเพื่อเงินอยู่แล้ว ทำไม นายจะกัดฉันเหรอ”
“อเมริกาพ่นสารในเวียดนาม จากตอนนั้นถึงตอนนี้ ยังไม่สามารถทำความสะอาดได้หมด การตัดสินใจของนาย จะส่งผลกระทบต่อหมู่บ้านภูล่านอีก 50 ปี หวังว่า หวังว่านายจะไม่เสียใจ”
ยิ่วเชียนเดินกลับไป ไห่โค่รีบวิ่งไปล็อคคอยิ่วเชียนไว้
“เดี๋ยวก่อน หันมาเลย ความสูงฉันไม่ถึง ว่าไง พูดเสร็จก็เดินหนีทุกครั้ง อยากหล่อก็หล่อไปสิ นอกจากนายเลิกกับอันตูตู ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก”
“หยุดเล่นกับเรื่องไร้สาระได้แล้ว ลองคิดถึงอนาคตของหมู่บ้านภูล่านให้ดี”
ยิ่วเชียนเดินออกไป ไห่โค่โมโห
“ฉันจะย้ายบ้านเก่านาย”
ต้าหูวิ่งเข้ามา
“ลูกพี่ๆๆ เดี๋ยวก่อน พระเจ้ากำลังมองอยู่นะ”
“ดูสิ มีแสงสว่าง ลูกพี่ ลูกพี่ ไม่เป็นไรจริงเหรอ”
“บรรพบุรุษสามรุ่นของฉันอยู่ที่นี่ ป้ายวงศ์ตระกูลฉันยังอยู่ข้างใน จะให้ฉันย้ายไปจากภูล่าน ฉันย้าย”
“งั้น แล้วจะทำยังไง” เสี่ยวหูถาม
“ลูกพี่ เราจะไปไหน”
“ไปหาคนซื้อที่ดินน่ะสิ” ไห่โค่บอกเสียงดัง
เยี่ยนเจ๋อเดินเข้ามาหาไห่โค่ในร้านกาแฟ
“มีอะไร มีเรื่องอะไร”
“คุณบอกว่าซื้อที่ไปเพื่อพัฒนาที่ดิน แต่คุณจะสร้างโรงงานกำจัดขยะใช่มั้ย”
“ลูกพี่ ดูสีหน้าของเขาแล้ว ต้องมีแผน” เสี่ยวหูเตือน
“ตอนนี้มันยังไง คุณเห็นคนหมู่บ้านภูล่านเป็นคนโง่ใช่มั้ย ฉันจะบอกให้ เราไม่ได้โง่ คืนที่ดินให้ฉัน”
“มีเรื่องอะไรเข้าใจผิดรึเปล่า”
“เข้าใจผิดสิ เข้าใจผิดมากด้วย เข้าใจผิดตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ถ้าจะสร้างโรงงานกำจัดขยะก็คืนที่ดินฉันมา”
“ถ้าฉันไม่คืนให้ นายจะทำอะไรฉัน ฮิ สัญญาซื้อขายของเราเรียบร้อยแล้ว นายรับเงินแล้ว ฉันได้โฉนดที่ดิน ไม่มีใครติดค้างกัน นายจะให้ฉันคืนอะไร”
ไห่โค่โกรธ
“ฉันคืนเงินให้นายไง”
“ไม่มีเรื่องแบบนี้หรอก ที่ดินเป็นของฉันแล้ว ถ้านายต้องการ ต้องซื้อกับฉัน แต่ฉันไม่ขาย”
“คุณพูดอีกครั้งสิ”
“ฉันไม่ขาย”
“คุณไปสร้างที่อื่นได้ ทำไมต้องมาสร้างที่บ้านฉัน เอาที่ดินฉันคืนมา คุณไม่คืนใช่มั้ย ฉันขอเตือนคุณ ระวังกำปั้นของฉันให้ดีล่ะ มันแข็งมาก เช็คบิลด้วย”
ไห่โค่เดินออกไปด้วยความโมโห เยี่ยนเจ๋อโกรธๆ
“เซี่ยยิ่วเชียน นายใช่มั้ย เป็ดอยากว่ายน้ำใช่มั้ย ดีมาก ฉันจะตอบแทนนายอย่างสาสม”
เยี่ยนเจ๋อมาเคาะประตูห้องทำงานของหมิงเย่
“เข้ามา”
“หัวหน้า”
“มีเรื่องอะไร”
“ข้อมูลที่ผมจัดการ พบว่ามีสิ่งแปลกมาก เหมือนเซี่ยยิ่วเชียนจะกว้านซื้อที่ดินในหมู่บ้านภูล่านทั้งหมด จากนั้นก็ขายให้โอเชี่ยนในราคาสูง ตอนนี้ข้อมูลที่ดินมีรายชื่อแล้ว เพิ่งจะไปซื้อที่ดินเมื่อไม่นานมานี้”
“ฮึ เก็งกำไรเหรอ”
“ใช่ครับ”
หมิงเย่นึกถึงตอนที่เขาเห็นยิ่วเชียนคุยกับไห่โค่ที่ศาลเจ้า และนึกถึงคำพูดของเจนนิเฟอร์
“เมื่อกี้คุณเซี่ย ถามฉัน เรื่องการร่วมมือของบริษัทกับกองทุนรัสเซีย คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว”
หมิงเย่โกรธมาก
“ไปเรียกต้าอี๋เข้ามา”
สักครู่ต้าอี๋มาพบหมิงเย่ โดยเยี่ยนเจ๋อยืนอยู่ด้วย
“หัวหน้า เรียกผมเหรอครับ”
“ไปห้องทำงานของเซี่ยยิ่วเชียน เก็บของเซี่ยยิ่วเชียนไปให้หมด”
“หัวหน้า”
“บอกเขาให้ออกจากบริษัท วันนี้ ตอนนี้”
ต้าอี๋รับคำอย่างจำยอม แล้วเดินออกไป รีบโทรศัพท์หายิ่วเชียน
“ฮัลโหล ต้าอี๋”
“ผู้อำนวยการ ทำยังไงดี หัวหน้าให้คุณออกจากบริษัทวันนี้เลย”
ยิ่วเชียนฟังแล้วนึกออกทันที
“หรือว่า เจียงไห่โค่จะไปหาเยี่ยนเจ๋อแล้ว”
ยิ่วเชียนรีบถามต้าอี๋
“เยี่ยนเจ๋อ อยู่กับหัวหน้าใช่มั้ย”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“ดูเหมือนเยี่ยนเจ๋อจะลงมือก่อน”
“ผู้อำนวยการ ทำไงดี จะให้ผมเก็บของคุณเลยมั้ยครับ”
“อื้ม ไม่เป็นไร เก็บ”
“แต่ว่า ผู้อำนวยการ ผมได้ยินคนในบริษัทบอกว่าสัปดาห์หน้าเราจะเซ็นสัญญากับกองทุนรัสเซีย ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เมื่อเซ็นสัญญาแล้ว จะสร้างโรงงานกำจัดขยะในหมู่บ้านภูล่าน”
“อื้ม โอเค ฉันรู้แล้ว”
ยิ่วเชียนพึมพำกับตัวเอง
”โยนเรื่องซื้อที่ดินมาให้ฉัน เยี่ยนเจ๋อกลายเป็นคนใจร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ ต้องการทำโครงการนี้ให้จบเพื่ออะไร ต้องมีการเปลี่ยนแผนใหม่แน่ คอยดูแล้วกัน ฉันไม่มีทางปล่อยให้นายประสบความสำเร็จแน่”
เยี่ยนเจ๋อนั่งเล่นหมากรุกคนเดียว พลางพึมพำกับตัวเอง
“แม้แต่สวรรค์ยังช่วยฉัน อัศวินราชินี ออกไปแล้ว แต่ว่าข้างกายของราชินียังมีคนช่วย ต้องทำให้ลูกบุญธรรมออกไปจากแม่บุญธรรม คงไม่ใช่เรื่องยาก”
หย่งชิงวิ่งออกกกำลังกาย พลางคิดถึงคำพูดของยิ่วเชียน
“เกมรักแบบนี้ยังเล่นไม่เบื่อเหรอ เอาชีวิตของคนอื่นมาล้อเล่น ไม่นานเธอต้องเสียใจ ถอยไป ถอยไปๆ หูหย่งชิง เราคุยกันแต่แรกแล้ว แล้วตอนนี้คุณกำลังทำอะไร”
หย่งชิงนึกถึงคำพูดของแฟนเก่า
“หย่งชิง เราเจอกันที่ร้านกาแฟนะ ผมรักคุณ”
“ฉันรักคุณค่ะ”
หย่งชิงวิ่งอย่างแรง เอามืออุดหูเหมือนไม่อยากได้ยินถ้อยคำในอดีตเหล้านั้น
“คนหลอกลวง คนหลอกลวงแล้วยังไม่รักษาคำพูด”
หย่งชิงหอบปนสะอื้น ระหว่างนั้นเยี่ยนเจ๋อเดินเข้ามาเจอเฉา ซึ่งยืนเฝ้าหย่งชิงอยู่ด้วยความเป็นห่วง
“พี่เฉา”
“คุณชายเยี่ยน”
“ผมไปเอง”
“ครับ”
เยี่ยนเจ๋อเดินเข้าไปหาหย่งชิง พลางส่งขวดน้ำให้
“เป็นอะไร ถึงคิดคนที่หายไปเมื่อตอนอายุ 18 อีกแล้วเหรอ”
“ทำยังไงดี ทำไมฉันกลายเป็นแบบนี้ ตั้งแต่ที่เขาคนนั้นหายไป ฉันไม่สามารถรักใครได้เลย และไม่สามารถแสดงความคิดของตัวเองได้ ฉันซื้อบ้านของเซี่ยยิ่วเชียน คุณปู่บอกว่าฉันชอบข่มขู่ยิ่วเชียน ฉันอยากพูดความในใจกับยิ่วเชียน แต่ก็อารมณ์เสียทุกครั้ง ทำไมฉันกลายเป็นคนแบบนี้”
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นแบบนี้เพราะอะไร วันที่เธอกับเขาคนนั้นต้องจากกัน หัวหน้าเคยไปหาเขา บอกเขาว่า เขาไม่คู่ควรกับเธอ แล้วยังให้เงินเขาก้อนหนึ่งให้ออกจากชีวิตเธอ”
อ่านต่อหน้า 3
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่27 (ต่อ)
หย่งชิงนึกถึงเรื่องในอดีต ตอนนั้นเธอนั่งรอคนรักอยู่ในร้านเครื่องดื่ม หมิงเย่เดินเข้าไปหา
“แม่บุญธรรม”
หมิงเย่ส่งแผ่นกระดาษซึ่งเป็นหนังสือยินยอมให้หย่งชิงอ่าน หย่งชิงตกใจ
“อืม เงินสิบล้าน แลกกับความจริง เพราะในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถเชื่อถือได้”
หย่งชิงพึมพำอย่างหมดอาลัยตายอยากกับเยี่ยนเจ๋อ
“ฉันรู้ หลังจากฉันเห็นเขารับเงินก็เซ็นหนังสือยินยอม”
“แต่เรื่องราวยังมีก่อนหน้านี้อีก วันนั้นที่เขายอมรับเงินเพราะความโกรธ แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาทีเขาก็สำนึก ดังนั้นจึงกลับมาหาหัวหน้า เอาเงินมาโยนตรงหน้าเขา แล้วบอกว่า เขาจะมาหาเธอ เพราะนัดกับเธอไว้แล้ว”
“เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาต้องมาหาฉันสิ”
“เหตุผลที่เขาไม่มา เพราะหลังจากออกจากบริษัทก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเขา จากนั้นหัวหน้า ก็ยังเอาหนังสือการยินยอมของเขาไปหาเธอ ฉะนั้นตอนหัวหน้าเอาหนังสือยินยอมไปหาเธอ เขาอยู่ในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล”
หย่งชิงตกใจมากกับสิ่งที่เพิ่งรับรู้
“พี่หมายความว่า ทั้งที่คุณแม่รู้ว่าเขาจริงใจกับฉัน แต่กลับบอกฉันว่า เขาไปจากฉันเพราะเงินเหรอ”
“อุบัติเหตุมีการลงบันทึกไว้เธอไปเช็คดูได้ เธอเคยคิดมั้ยว่า ความจริงแล้วเขาต้องการสร้างเธอให้เป็นเขาอีกคนหนึ่ง ตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นยังไงเขาไม่เคยสนใจ”
“ไม่ ไม่มีทาง คุณแม่ไม่ใช่คนแบบนี้ ไม่มีทาง”
“ยังไงแม่บุญธรรม ก็ยังเป็นแม่บุญธรรมวันยังค่ำ”
หย่งชิงรับไม่ได้ ผลุนผลันไปหาหมิงเย่ที่ห้องทำงาน
“ทำไมไม่บอกฉันว่าเขาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว”
“ดูเธอสิ แต่งตัวอะไรของเธอ เธอไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องคนแบบนั้นหรอก”
“คนแบบนั้นเหรอ คุณหมายความว่ายังไง ทั้งที่คุณรู้ว่าฉันชอบเขา”
“ฉะนั้น เธอจะยอมทิ้งชีวิตที่สุขสบายของคุณหนู หนีไปใช้ชีวิตกับนักเรียนจนๆ ที่ต่างประเทศงั้นเหรอ”
“ฉันชอบเขามากนะ”
“คนแบบนั้น มีแต่จะทำให้ชีวิตเธอตกต่ำ เธอมีสติบ้างสิ ฉันทำเพราะหวังดีกับเธอ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ผ่านไปนานแล้ว เธอจะพูดถึงอีกทำไม เธอรีบกลับไปเปลี่ยนชุดซะ”
หมิงเย่เริ่มเหนื่อย เหมือนอาการจะกำเริบขึ้น
“ฉันมาถามเพราะฉันไม่พอใจกับระดับชีวิตตอนนี้ของฉัน ระดับชีวิตของฉันเป็นยังไง คุณเป็นคนกำหนดมาตลอด ฉันต้องการชีวิตยังไงทำไมคุณไม่ถามฉันก่อน ฉันชอบผู้ชายคนนั้น ทั้งที่คุณรู้ว่าฉันชอบเขาแต่ไม่เคยถามฉันว่าชอบเขาตรงไหน ถามแต่ว่า เขาฐานะยังไง เขาจะทำอะไรได้ ทั้งที่คุณรู้ว่าฉันชอบยิ่วเชียนแต่กลับบอกว่าเขาไม่คู่ควรกับฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถ จนถึงตอนนี้คุณก็ไม่ยอมรับเขา”
หมิงเย่ลุกขึ้นมายืนประจันหน้ากับหย่งชิง เสียงดังใส่เช่นกัน
“นั่นเพราะฉันต้องการให้เธอเรียนรู้ ที่ฉันทำแบบนั้น เพราะหวังดีกับเธอ ตอนนี้เธอไม่พอใจ เลยหันกลับมาโทษฉัน นิสัยของเธอ ไม่มีทางเข้ากับผู้ชายอย่างนั้นได้”
หมิงเย่เริ่มยืนไม่อยู่ โงนเงนเต็มที
“นั่นเพราะว่า คุณไม่เคยเข้าใจในความรักต่างหาก ตอนนี้ฉันเพิ่งเข้าใจแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ฉันไม่มีความสุขกับชีวิต นั่นเพราะว่า ฉันเชื่อว่าทุกอย่างที่คุณพูดเพราะหวังดีกับฉันไงล่ะ”
หมิงเย่ล้มตึงไปต่อหน้าต่อหน้าหย่งชิง หย่งชิงช็อค ยืนตะลึง เยี่ยนเจ๋อเข้ามาพอดี รีบวิ่งเข้าไปช่วยหมิงเย่
“หัวหน้าๆ ๆ เฮ่อ”
เยี่ยนเจ๋อมองตำหนิหย่งชิง แล้วรีบโทรศัพท์ตามหมอ
“คุณหมอ ช่วยเตรียมห้องฉุกเฉินให้ผมด้วย และช่วยส่งรถพยาบาลมาที่โอเชี่ยน รบกวนด้วยนะครับ”
หยิ่งชิงวิ่งออกไปเลย
หมิงเย่นอนหลับอยู่ในห้องคนไข้ ภายในโรงพยาบาล โดยมีเยี่ยนเจ๋อนั่งเฝ้าอยู่ สักพักหมิงเย่เริ่มรู้สึกตัว เยี่ยนเจ๋อเข้าไปช่วยประคอง
“หัวหน้า คุณเป็นยังไงบ้าง มา ระวังครับ ระวัง”
“เธอเป็นคนส่งฉันมาเหรอ”
“ครับ”
“งั้นเธอคงรู้สถานการณ์ของฉันแล้ว”
“ครับ”
“ดี ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้อาการป่วยของฉัน”
“วางใจได้ ผมจะไม่พูด”
“นั่งสิ หย่งชิงล่ะ”
เยี่ยนเจ๋ออึกอัก
“พูดความจริง ไม่เป็นไร”
“หย่งชิง คงจะเสียใจกับเรื่องในอดีต ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้”
“ทั้งที่เขาเห็นฉันหมดสติ พอนิสัยเสียของคุณหนูกำเริบ เขาก็ไม่สนใจอะไรเลย”
“ความจริง”
“อะไร”
“หัวหน้าก็รู้ความสัมพันธ์ของผมกับอันซีดี สิบปีก่อน อันซีเตรียมของขวัญที่จะส่งให้แม่เธอ แต่เพราะเธอส่งมาผิดที่ ส่งมาที่ผม จากนั้นผมก็ส่งคืนไป ตอนนั้นเราต่างคนยังไม่รู้จักกัน จนเมื่อคุณส่งผมไปหมู่บ้านภูล่าน ผมถึงได้รู้ว่า เด็กคนนั้นคือเธอ และผมก็รู้ว่าความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของเธอคือต้องการตามหาแม่ให้พบ”
“เธอเลยช่วยเขาตามหา”
“ครับ ดังนั้น ความสัมพันธ์ของหัวหน้ากับอันซี ผมรู้แล้ว”
“เธออยากพูดอะไร”
“สิ่งที่ผมอยากพูดคือ ความตั้งใจที่หัวหน้ามีต่อหย่งชิง ถึงจะมากแค่ไหน มันก็ยังมีช่องว่าง แต่ระหว่างแม่ลูก ไม่ควรจบลงแบบนี้ ดังนั้นผมคิดว่า ถ้าหัวหน้ายินดีจะให้โอกาสอันซี เธออาจกลายเป็นลูกสาวในอุดมคติของคุณก็ได้”
หมิงเย่มองหน้าเยี่ยนเจ๋อ คิดหนัก เยี่ยนเจ๋อมองให้กำลังใจ แต่ภายในใจคิดอะไรบางอย่าง
“ราชินีที่ป่วย ถึงแข็งแกร่งยังไงก็ยังกลัวความเหงา เวลานี้แค่ผลักเบาๆ เขาจะเริ่มคิดถึงความสวยงามของครอบครัว คราวนี้ก็ถึงเวลาของคุณแล้ว ส่วนฉัน ก็คงเป็นคนที่ช่วยจัดการทุกอย่างให้คุณ แต่ฉันจะช่วยคุณด้วยความเต็มใจมั้ยล่ะ”
เยี่ยนเจ๋อมองหมิงเย่ แล้วเปิดประตูออกไป
ไป๋คังมองผลการตรวจของเขา แล้วนึกถึงคำพูดของหมอ
“คุณเซี่ย คุณอายุมากแล้ว ร่างกายไม่เหมือนแต่ก่อน ก่อนหน้านี้คุณเคยเป็นลมเพราะปัญหาโรคหัวใจและหลอดเลือด ต่อไปคุณจะต้องควบคุมอาหาร”
ไป๋คังถอนใจ “เฮ่อ ไม่ได้ จะให้อันซีเห็นเอกสารใบนี้ไม่ได้ ถ้าอันซีเห็น เขาต้องควบคุมอาหารของฉัน ฉันยังอยากกินอีกมากมาย โดยเฉพาะสิ่งนั้น”
ไป๋คังตะโกนขึ้นไปข้างบน เรียกอันซี
“อันซี พรุ่งนี้เรากินปลาหมึกภูล่านกันดีมั้ย”
อันซีเดินลงมาข้างล่าง
“คุณปู่ ทำไมจู่ๆ ถึงอยากกินคะ”
ทันใดนั้นมีเสียงคนเคาะประตู อันซีรีบวิ่งไปเปิด เห็นหย่งชิง
“ยิ่วเชียน”
หย่งชิงผลุนผลันเข้ามาในบ้าน เรียกหายิ่วเชียนไปทั่ว
“ยิ่วเชียนไม่อยู่”
“เซี่ยยิ่วเชียน จะบอกให้ยิ่วเชียนรู้ว่าฉันกับคุณแม่ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน คุณแม่เป็นคนหลอกลวง ยิ่วเชียน เซี่ยยิ่วเชียน”
“คุณหู”
“เขาอยู่ไหน”
“คุณหู คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“ไม่ต้องมายุ่ง ยิ่วเชียนกลับมาแล้ว ให้เขาไปหาฉัน”
หย่งชิงเดินออกไปทันที
“เอ๊ะ คุณหู คุณหูๆ ๆ ๆ คุณหูเขา”
“ยัยคางแหลมเป็นอะไรของเขา ไปมาเหมือนสายลมพัดเลย”
“จริงสิคุณปู่ เมื่อกี้คุณบอกว่าอยากกินปลาหมึก”
ระหว่างนั้นยิ่วเชียนเปิดประตูเข้ามา ไป๋คังทัก
“อ้อยิ่วเชียน”
“ยิ่วเชียนคุณกลับมาแล้ว คุณขึ้นลิฟท์มาเจอคุณหูมั้ย”
“หย่งชิง”
“ค่ะ เมื่อกี้เธอมาหาคุณ ท่าทางแปลกๆ”
“แล้วเธอพูดอะไรรึเปล่า”
“เธอบอกว่า คุณแม่เป็นคนหลอกลวง และบอกให้คุณไปหาเธอ”
ยิ่วเชียนเครียดๆ อันซีตัดบทหันไปหาไป๋คัง
“คุณปู่”
“หืม”
“เมื่อกี้คุณปู่บอกว่าอยากกินปลาหมึก รู้งี้จะได้ให้พี่เหม่ยเหวินเอามาให้”
“เฮ่อ เพราะฉันเห็นพวกเขาถึงอยากกิน เอาอย่างนี้ วันนี้เธอสองคนไปซื้อมา”
“วันนี้เหรอ”
“อืม”
“เอ่อ ผมเพิ่งจะ”
“แต่ฉันต้องกินให้ได้ ฉันไม่อยากกินอย่างอื่น ฉันอยากกินปลาหมึก”
ทั้งสองหัวเราะกับท่าทีคนแก่เอาแต่ใจของไป๋คัง
อ่านต่อหน้า 4
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่27 (ต่อ)
เยี่ยนเจ๋อมานั่งเงียบๆ คนเดียวใต้ต้นไม้ขอพร หยาเอินเข้ามาสะกิด ยิ้มๆ
“ฮิๆ ฉันบอกจื้อหลิงว่าที่บ้านมีธุระขอกลับก่อน เลยไม่มีใครรู้ว่าฉันมาหาคุณ คุณเป็นอะไรเหรอ”
“วันนี้ ฉันทำสิ่งที่ไม่ดีต่อน้องสาว”
“ไม่ดียังไง ไม่ให้เธอกินในสิ่งที่อยากกินเหรอ”
“เฮ่อ เป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจเธอ”
“งั้น ทำไมต้องทำอย่างนั้นล่ะ”
“ทำไมเหรอ เฮ่อ เพราะว่าฉันอยากเอาชนะไงล่ะ”
เยี่ยนเจ๋อเครียดกับการกระทำของตัวเองมาก หยาเอินมองเห็นใจ จับมือชายหนุ่มมากุมไว้
“ที่แท้ คุณก็บาดเจ็บเป็นเหมือนกัน”
เยี่ยนเจ๋อมองหน้าหยาเอิน แล้วดึงหญิงสาวเข้ามากอดอย่างต้องการกำลังใจ
“ฉันอยากให้เธอสัญญากับฉัน เธอต้องเห็นฉันสำคัญที่สุดในชีวิต ถ้ามีใครให้เธอเลือก เธอต้องเลือกฉัน อย่าทอดทิ้งฉันเด็ดขาด ถ้าฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่ที่หนึ่งในหัวใจของเธอ ฉันอาจทำร้ายเธอก็ได้ สัญญากับฉันสิ”
หยาเอินยิ้ม กอดเยี่ยนเจ๋อแน่นขึ้น
“คุณจะเป็นที่หนึ่ง ในใจของฉันเสมอ”
เยี่ยนเจ๋อเครียดกับการกระทำของตัวเอง
ยิ่วเชียนขับรถพาอันซีออกมาข้างนอก เพื่อจะไปซื้อปลาหมึกให้ไป๋คัง เขาขับมาจอดติดไฟแดงพอดี อันซีหันมาพูดด้วยยิ้มๆ
“คุณปู่นี่เหมือนเด็กเลย บอกให้เรามาซื้อของกินแต่ตัวเองออกไปเที่ยวกับเพื่อน”
ยิ่วเชียนขำๆ พลันเห็นรถเยี่ยนเจ๋อขับผ่านไป และคนที่นั่งมาด้วยคือหยาเอิน แต่อันซีไม่เห็น ยิ่วเชียนมองอึ้ง อันซีแปลกใจ
“ยิ่วเชียน เป็นอะไร”
“ดูเหมือนฉันเห็นรถของเยี่ยนเจ๋อ”
“ในหมู่บ้านภูล่านเหรอ”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ
“ไม่มีอะไร”
ยิ่วเชียนขับรถออกไป
ยิ่วเชียนมาที่บ้านพักของอันซี เขาเดินลงมาจากข้างบน เจอหยาเอินอยู่ที่เคาน์เตอร์ จึงเข้าไปทัก
“หยาเอิน เมื่อกลางวันออกไปข้างนอกเหรอ”
หยาเอินตกใจนิดหนึ่ง
“เปล่า ฉันอยู่ในบ้านพักตลอด”
ยิ่วเชียนมองสังเกตกริยาท่าทางของหยาเอิน แล้วยิ้มๆ ให้
“จริงเหรอ”
หยาเอินงงๆ ไม่รู้ยิ่วเชียนเชื่อหรือไม่ ยิ่วเชียนเดินไปหาจื้อหลิงที่ห้องอาหาร จื้อหลิงหันมาเห็น
“เอ๊ะ ช่วยหน่อยๆ”
ยิ่วเชียนรับจานอาหารมาจากจื้อหลิง พลางถาม
“จื้อหลิง”
“อืม”
“เมื่อกลางวันหยาเอินไปไหน”
“เขาบอกว่ามีธุระกลับบ้านก่อน”
ยิ่วเชียนชะงัก ยิ้มๆ สิ่งที่เขาคิดไว้ไม่ผิด อันซีเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารกับหยาเอิน
“ว้าว อาหารเต็มโต๊ะเลย ฉันตาฝาดไปรึเปล่า”
อันซีไปนั่งข้างๆ ยิ่วเชียน โดยหยาเอินนั่งตรงข้ามกับยิ่วชียน ยิ่วเชียนมองหน้าหยาเอินจับพิรุธ ในขณะที่จื้อหลิงชวนทุกคนทานอาหาร
“แท่นๆๆๆ ประสบความสำเร็จลงมือได้เลย”
อันซีคีบเนื้อมาชิม
“ซอสเนื้อย่างไม่ไหม้ ฝีมือพัฒนาขึ้น เยี่ยมเลย ไม่สุก”
“เป็นไปได้ยังไง”
จื้อหลิงตักมาชิม แล้วคายทิ้งทันที พยายามแก้ตัว
“โธ่เอ๊ย เนื้อสดๆ ไม่สุกเป็นเรื่องปกติน่า”
“ปกติเหรอ” อันซีเซ็ง
หยาเอินตักพาสต้า
“จื้อหลิง พาสต้าทำไมติดเป็นก้อนอย่างนี้”
“นั่นเป็นสปาเก็ตตี้เส้นหนาไง เธอไม่รู้จักเหรอ เชยจริงๆ”
จื้อหลิงผลักจานข้าวห่อไข่ให้ยิ่วเชียน ชายหนุ่มนั่งอึ้งๆ มองอาหารบนโต๊ะ
“ข้าวห่อไข่รับรองไม่มีปัญหา ดูสิหน้าตาน่าทานมาก กินได้อย่างสบายใจ”
ยิ่วเชียนจะคีบ แต่อันซีห้ามไว้
“เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน”
อันซีเห็นว่ามีแต่ไหม้ๆ ทั้งนั้น ยิ่วเชียนเองก็ทำหน้าไม่ถูก อันซีต่อว่า
“อู๋จื้อหลิง เธอนี่เกินไปแล้วนะ”
“โธ่เอ๊ย ฉันไม่ถนัดทำอาหารนี่นา ฉันถนัดใช้ความงามดึงดูดลูกค้าเข้าบ้านพัก”
“ไม่ได้ๆ เหม่ยเหวินล่ะ เขาไปไหนแล้ว”
“เฮ่อ เหม่ยเหวินเหรอ หลังจากเจอพี่ต้าเฟยเขาก็กลายเป็นลูกค้าของเย่จือไห่ ตอนกลางวันเขาก็ไปไทเป พอเวลาเลิกงานกลางคืน เขาก็กลับมานอนเย่จือไห่ ฉันจะบอกเธอ ถ้าฉันเจอผู้ชายในฝันล่ะก็ บ้านพักหลังนี้คงต้องปิดกิจการแล้ว”
“เฮ่อ” อันซีกลุ้ม
ยิ่วเชียนคิดๆ ก่อนตัดสินใจถาม
“อันซี เธอจะทำกิจการบ้านพักต่อไปมั้ย เธอเคยคิดจะขายบ้านพักมั้ย”
“ขายบ้านพักเหรอ”
“ใช่ เราจะได้มีเวลาไปเที่ยวที่อื่น ไปใช้ชีวิตในแบบของเราไง เธอคิดว่าไง”
“ไม่ได้” สามสาวพูดพร้อมกัน
“ทำไมต้องขายบ้านพักด้วย” อันซีเคืองๆ
“ใช่ อันซีก็แค่คุมงานอยู่ห่างๆ พอ อีกอย่าง ฉันยังไม่เจอผู้ชายในฝันของฉันเลย ฉันยังต้องทำงานนะ” จื้อหลิงบอก
“ใช่ มีบ้านพักอันซีถึงรู้สึกว่ามีบ้านของตัวเอง” หยาเอินเห็นด้วย
“นั่นน่ะสิ” อันซีเห็นด้วยกับทุกคน
ยิ่วเชียนเครียดๆ
“ฉันรู้ว่าภูล่านเป็นสถานที่สวยงาม แต่อนาคตจะมีคนมาพัฒนาที่นี่ ฉันคิดว่าก่อนมีการพัฒนาจะส่งผลกระทบต่อบ้านพัก”
“ถึงมีแผนการพัฒนายังไง ฉันก็ไม่ไป” อันซียืนยัน
ยิ่วเชียนเครียด
หมิงเย่นอนอ่านอะไรบางอย่างอยู่บนเตียงนอนในโรงพยาบาล
“คนที่ผู้ป่วยเป็นห่วงที่สุด คือคนที่เขารัก โดยเฉพาะไม่สามารถดูแลคนในครอบครัวได้ อย่างเช่นลูก และพ่อแม่ผู้สูงอายุ”
หมิงเย่นึกถึงคำพูดของเยี่ยนเจ๋อ
“ความตั้งใจที่หัวหน้ามีต่อหย่งชิง ถึงจะมากแค่ไหน มันก็ยังมีช่องว่าง แต่ระหว่างแม่ลูก ไม่ควรจบลงแบบนี้ ดังนั้นผมคิดว่า ถ้าหัวหน้ายินดีจะให้โอกาสอันซี เธออาจกลายเป็นลูกสาวในอุดมคติของคุณก็ได้”
หมิงเย่หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูรูปของอันซี พลางคิดตัดสินใจบางอย่าง
ตอนเช้า หมิงเย่ให้คนขับรถขับมาส่งที่บ้านพักของอันซี เหม่ยเหวินให้อาหารห่านอยู่เห็นเข้า รีบไปบอกจื้อหลิง
“จื้อ จื้อหลิงไอคิวต่ำ”
“หะ”
“คุณผู้หญิงที่ทิ้งเงินไว้ครั้งก่อน”
“ทำไม”
“เขามาอีกแล้ว”
“มาแต่เช้า อย่าบอกนะว่าทิ้งเงินไว้เยอะเลยจะมาเอาคืน”
“บางทีเธออาจจะคิดว่าให้น้อยไปก็ได้”
จื้อหลิง เหม่ยเหวิน และหยาเอินรีบไปต้อนรับหมิงเย่ เหม่ยเหวินรีบถาม
“คุณโจว ไม่ทราบวันนี้คุณ”
“อันซีล่ะ”
“คุณหมายถึงเจ้าของบ้านพักเหรอคะ”
เหม่ยเหวินเหลียวมองหาด้วยสีหน้าแปลกใจ
อ่านต่อตอนที่ 28