xs
xsm
sm
md
lg

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่31

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่31

หมอเวรเดินเข้ามาดูอาการโจวหมิงเย่ในห้องพักฟื้น แจ้งเรื่องขั้นตอนและแนวทางการรักษาแก่คนไข้

“คุณโจว พรุ่งนี้ต้องผ่าตัดแล้ว ผมมาดูอาการของคุณ ตื่นเต้นมั้ยครับ”
“ไม่ค่ะ”
“อืม ดีครับ สายๆ จะมีพยาบาลมาคุยเรื่องข้อปฏิบัติก่อนรับการผ่าตัด”
“ขอบคุณค่ะ”
หมอเดินออกไป อันซีเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงหมิงเย่ พร้อมกับถือขวดน้ำยาล้างเล็บมาด้วย
“ฉันไปยืมสิ่งนี้กับพยาบาล ทำไมต้องมองฉันแบบนั้นด้วย”
“เธอบอกว่า ผิดหวังกับฉันไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ ผิดหวัง ทะเลาะ คืนดีกัน เพราะนี่คือครอบครัว ฉันดูคู่มือก่อนการผ่าตัด ต้องล้างสีทาเล็บก่อนเพื่อที่หมอจะได้สะดวก ในการสังเกตการไหลเวียนของเลือดว่าเป็นยังไง คุณนี่แปลกจริง จะผ่าตัดแล้วยังทาสีเล็บอีก เฮ้อ ยังไงคุณก็แปลกทุกเรื่องอยู่แล้ว”
“พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ฉันผ่าตัดแล้ว”
“ฉันจะมา”
หมิงเย่ตื้นตัน น้ำตาไหลรินออกมา

เยี่ยนเจ๋อเข้ามาหาหมิงเย่ในห้องพักคนไข้
“หาผมเหรอครับ”
“ดูสีหน้าของเธอ คงเดาได้แล้ว ว่าฉันจะพูดอะไร”
“ฮึ”
“คิดไม่ถึงว่า คนที่ลอบกัดฉัน จะเป็นเธอ”
“ถ้าโรงงานบำบัดของเสียสร้างเสร็จแล้ว สามารถสร้างกำไรให้บริษัทอย่างมหาศาล นี่เป็นแนวทางที่หัวหน้าต้องการ ผมแค่ เรียนรู้มาจากคุณเท่านั้นเอง”
“เธอรู้มั้ยว่า ผลของการทรยศฉันเป็นยังไง”
“ผมไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะผมจะลาออกแล้ว ทำงานกับคุณมาตั้งหลายปี คุณไม่เคยเข้าใจเลยว่า สิ่งที่ผมสนใจคือการให้ความเคารพ ผมคิดโครงการนี้มาหลายปี ผมไม่มีทางให้คุณมาตัดสินชะตาชีวิตของผมแน่ ขอโทษด้วย เรื่องการขอบคุณอะไรพวกนั้น ผมคงไม่ต้องพูดแล้ว เพราะจากนี้ไป ผมเป็นเจ้านายของตัวเอง”
หมิงเย่โกรธถึงขีดสุด

เยี่ยนเจ๋อเดินออกมาจากโรงพยาบาล เจอยิ่วเชียนดักรออยู่
“นายยังไม่ยอมเลิกราอีกเหรอ”
“หัวหน้ารู้แล้วว่า ไม่มีการฟอกอากาศ แต่สร้างโรงงานบำบัดของเสีย ดังนั้น นายจะลาออกแล้วสินะ”
“รู้จักฉันดีมาก รู้ว่าฉันไม่มีทางถูกไล่ออกเหมือนนายแน่นอน”
“ทำไงดี ตอนนี้ฉันเริ่มเป็นห่วงนายซะแล้วล่ะ อย่ารีบพูดไป นายต้องโดนไล่ออกแน่”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ เยี่ยนเจ๋อเครียด
“เฮ่อ นายให้อันซีมา ไม่ใช่เพราะเรื่องสัญญาใช่มั้ย”
ยิ่วเชียนนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น ที่เขาให้อันซีไปค้นเอกสารในห้องทำงานของเยี่ยนเจ๋อ จากนั้นอันซีก็เดินออกมากับหยาเอิน แต่คนที่เข้าไปค้นหาเอกสารจริงๆ คือต้าอี๋
“เป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่หาสัญญาสร้างโรงงานบำบัดของเสีย เพราะคนระมัดระวังอย่างเยี่ยนเจ๋อ ร่วมมือกับกองทุนรัสเซีย ต้องเก็บหลักฐานไว้ปกป้องตัวเองแน่ นี่ต่างหาก ถึงจะเป็นเป้าหมายที่เราต้องการหา”
ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ของเยี่ยนเจ๋อดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มาดู ปรากฏว่าเป็นสายจากโทรศัพท์ของเขาอีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งในตอนนี้อยู่ในมือของยิ่วเชียนแล้ว ยิ่วเชียนชูโทรศัพท์ให้ดู เป็นโทรศัพท์ของเยี่ยนเจ๋อที่ต้าอี๋ไปค้นมาได้ และเป็นหลักฐานที่จะเอาผิดเยี่ยนเจ๋อได้ทุกอย่าง เยี่ยนเจ๋อโกรธมาก
“เสียงโทรศัพท์ใครดัง อย่างที่นายพูด เรารู้ว่าหัวหน้า เซ็นสัญญาแล้วจะดำเนินการทันที แต่ไม่ได้แปลว่าเขาฟ้องร้องนายไม่ได้ ฉันสามารถเอาข้อมูลจากโทรศัพท์ ไปให้อัยการของศาลได้”
ยิ่วเชียนเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง เยี่ยนเจ๋อโกรธเข้าไปกระชากคอเสื้อยิ่วเชียนทันที
“ฉันไปทำอะไรให้นาย ทำไมนายไม่ปล่อยให้ฉันสมหวังบ้าง ฉันแค่เดิมพันครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ทำไมนายไม่ปิดหูปิดตาบ้าง”
ระหว่างนั้นอันซีมาเห็นเหตุการณ์พอดี
“ถ้านายต้องการเดิมพัน ก็เอาตัวเองไปเดิมพันสิ อย่าเอาบริษัทและเพื่อนร่วมงาน เข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่งั้น ถึงนายจะชนะ ก็ไม่สามารถชดใช้ได้”
“ใครว่าชดใช้ไม่ได้ บริษัท หรือเพื่อนร่วมงาน เพื่อนทุกคนล้วนตีสองหน้าทั้งนั้น แม้วันนี้ฉันสูญเสียพวกเขาไป ฉันไม่เคยเสียดาย เห็นพวกเขาเป็นเบี้ยต่อรองถือว่าให้เกียรติมากแล้ว”
“งั้นนายก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเขา เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันสุดท้ายของนาย โทรศัพท์เครื่องนี้ จะถูกส่งออกไปวันพรุ่งนี้”
ยิ่วเชียนเดินหน้าเครียดออกไป

อันซีมองอย่างกังวล เยี่ยนเจ๋อโกรธมากตะโกนไล่หลัง
“เซี่ยยิ่วเชียนนายอย่าบังคับฉัน เซี่ยยิ่วเชียน”
อันซีมองเหตุการณ์ทั้งหมด ระหว่างนั้นรูเบนให้คนถ่ายรูปการพูดคุยของเยี่ยนเจ๋อกับยิ่วเชียนไว้ทั้งหมด และในเวลาต่อมาเขาเอารูปทั้งหมดไปโยนต่อหน้าเยี่ยนเจ๋อด้วยความโมโห
“ทำไมคุณถึงบันทึกเนื้อหาการคุยของเรา มันอาจทำลายแผนของเราได้ คุณคิดจะทำยังไงต่อ”
“ผม จัดการเรื่องนี้เอง”
เยี่ยนเจ๋อมองหน้ารูเบน พลางคิด
“คุณต้องการสร้างโรงงานบำบัดของเสีย ฉันต้องการตำแหน่ง”
เยี่ยนเจ๋อพยายามเกลี้ยกล่อมรูเบน
“ยังไง เราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว”
“ผมแค่อยากให้คุณรู้ ถ้าคุณไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ผมจะให้คุณชดใช้ทั้งหมด”
รูเบนโกรธเดินออกไปทันที เยี่ยนเจ๋อเอารูปภาพทั้งหมดมาดู ถอนใจเครียด
“ถ้าเอาโทรศัพท์มาไม่ได้ โรงงานบำบัดของเสียสร้างไม่สำเร็จ ฉันไม่เพียงต้องชดใช้ค่าเสียหาย หัวหน้าไม่มีทางปล่อยฉันไปแน่”
เยี่ยนเจ๋อก้มหน้ากุมขมับ หัวเราะเย้ยชะตากรรมตัวเอง
“เฮ่อ เซี่ยยิ่วเชียน”
เยี่ยนเจ๋อขว้างรูปทั้งหมดลงพื้นด้วยความโมโห

ตอนเช้ายิ่วเชียนเตรียมตัวไปศาล พลันได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น เขาเปิดประตูก็พบอันซี
“แท่นๆๆ”
อันซีโชว์ถุงใส่ของบางอย่าง ยิ่วเชียนยิ้มดีใจ
“อันซี เธอมาได้ยังไง”
อันซีเดินเข้ามาข้างในพลางบ่น
“ฉันมองเยี่ยนเจ๋อผิดไปจริงๆ วันนี้คุณต้องเอาข้อมูลของเยี่ยนเจ๋อไปให้ศาลใช่มั้ย กินข้าวเช้าก่อนสิ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
เวลาเดียวกันนั้น เยี่ยนเจ๋อขับรถมาจอดข้างๆ ที่พักของยิ่วเชียน มองอย่างอาฆาตแค้น ขณะที่อันซีอยู่ในบ้าน กำทดสอบเครื่องตีไข่อันใหม่ที่ยิ่วเชียนซื้อมา ยิ่วเชียนมองๆ อันซี อันซีรีบกลบเกลื่อน
“ว้าว เครื่องนี้สุดยอดไปเลย แป๊บเดียวก็กลายเป็นมายองเนสแล้ว ต่อไปไม่ว่าอะไรเราก็ทำเองได้แล้ว อย่างซุปฟักทองหัวหอม ยังสามารถทำเนื้อแฮมเบอร์เกอร์ได้ด้วย ไม่ต้องเสียเวลาตัดอีกแล้ว เรียบร้อย เครื่องนี้ คุณซื้อตั้งแต่เมื่อไหร่”
“คุณปู่บอกว่า สักวันเธอต้องกลับมา ฉันเลยให้ต้าอี๋ซื้อ”
“ฮิๆ ฉันถามหยาเอินแล้ว เธอจริงจังกับเยี่ยนเจ๋อมากๆ”
“ถึงจะจริงจัง”
“ฉันรู้ ผิดก็คือผิด ฉันไม่ได้มาช่วยเยี่ยนเจ๋อพูดหรอก ฉันแค่สงสารหยาเอิน ฉันไม่รู้จะพูดกับเขายังไงดี เขาถึงจะทำใจได้”
 
อ่านต่อหน้า 2

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่31 (ต่อ)

ยิ่วเชียนเดินเข้ามาหาอันซีใกล้ๆ

“ตอนเด็กๆ เธอเคยให้หมอถอนฟันมั้ย ถ้าตอนจะถอนฟันหมอบอกเธอก่อน เธอจะเริ่มจินตนาการถึงความเจ็บปวด แต่ถ้าหมอไม่พูด ลงมือถอนทันที เธอก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด”
อันซีขำๆ “ความรักกับการถอนฟันเหมือนกันด้วยเหรอ”
“เจ็บปวดระยะสั้นดีกว่าระยะยาว”
อันซีหมุนเครื่องตีไข่เล่น ทำให้เศษอาหารที่เหลือกระเด็นไปถูกเสื้อผ้ายิ่วเชียนเลอะเทอะ อันซีตกใจ
“หะ ขอโทษนะ ทำเสื้อคุณเลอะหมดเลย”
“เอ่อ ไม่เป็นไร ฉันไปเปลี่ยนตัวใหม่ก็ได้”
ยิ่วเชียนยิ้มให้ไม่ถือสา อันซีเห็นยิ่วเชียนขึ้นไปข้างบนแล้ว เธอรีบไปค้นหาโทรศัพท์ของเยี่ยนเจ๋อที่จะใช้เป็นหลักฐาน จนไปเจอในเสื้อสูทของยิ่วเชียน เธอรีบถือติดมือวิ่งออกไปจากบ้านทันที ยิ่วเชียนลงมาเรียกหา
“อันซี”
ไม่มีเสียงตอบ ยิ่วเชียนรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขารีบวิ่งตามอันซีออกไป เยี่ยนเจ๋อเฝ้าอยู่หน้าบ้านยิ่วเชียนเห็นอันซีวิ่งออกมาเหมือนหนีอะไรมา เขารีบหลบ สักพักก็เห็นยิ่วเชียนวิ่งตามอันซีออกมา แล้วรีบขับรถตามอันซีไป เยี่ยนเจ๋อรีบขับรถตามไปทันที ยิ่วเชียนโทรศัพท์เข้าเครื่องของเยี่ยนเจ๋อที่อยูกับอันซี อันซีนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ กดรับสาย
“ยิ่วเชียน”
“อันซี”
“ฉันขอโทษ”
“อันซี คืนโทรศัพท์ให้ฉัน มันสำคัญมากสำหรับเยี่ยนเจ๋อ ฉันกลัวเขาจะทำร้ายเธอ เพื่อโทรศัพท์เครื่องนี้”
“เพราะมันสำคัญฉันถึงได้เอามา ได้โปรด ฉันขอยืมแค่สามวัน ให้โอกาสฉันได้พิสูจน์ว่าความคิดของฉันถูกต้อง ฉันต้องการให้คุณเห็นจิตใต้สำนึกของคน”
“อันซีเธออยู่ไหน”
“ขอโทษนะยิ่วเชียน”
อันซีกดตัดสายไปเลย ยิ่วเชียนตกใจ พึมพำ
“อันซี ฉันรู้ว่าเธอเห็นเยี่ยนเจ๋อเป็นเพื่อน แต่ตอนนี้เยี่ยนเจ๋ออันตรายเกินไปแล้ว”
เยี่ยนเจ๋อรีบขับตามรถยิ่วเชียนไป
“ฉันไม่ยอมให้นายส่งหลักฐานอย่างราบรื่นแน่”
ยิ่วเชียนขับรถจี้ตามรถยิ่วเชียนไปอย่างกระชั้นชิด เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขามองชื่อแล้วกดรีบสาย
“อันซี”
“เยี่ยนเจ๋อ”
อันซีลงจากรถแท็กซี่
“ผมไม่มีเวลารับมือกับคุณ”
“โทรศัพท์อยู่กับฉัน”
“คุณว่าไงนะ”
เยี่ยนเจ๋อเบรกรถทันทีตรงไฟแดง โดยรถยิ่วเชียนวิ่งผ่านไปแล้ว
“โทรศัพท์ที่คุณต้องการ อยู่กับฉัน”
“คุณอยู่ไหน”
“นอกโรงพยาบาล”
เยี่ยนเจ๋อวางสายแล้วเลี้ยวรถกลับทันที ในขณะที่อันซีคิดถึงการกระทำของตัวเอง
“เยี่ยนเจ๋อ เพื่อหยาเอิน คุณอย่าทำให้ฉันผิดหวังอีกเลย”
อันซีเครียดจัด

หมิงเย่นั่งอยู่ในห้องคนไข้ ใกล้เวลาผ่าตัดแล้วแต่อันซียังไม่มา เธอนึกถึงเรื่องที่คุยกับอันซีเมื่อวาน
“พรุ่งนี้ฉันผ่าตัดแล้ว”
“ฉันจะมา”
พยาบาลมาเคาะประตู หมิงเย่ดีใจรีบเดินไปหาเพราะคิดว่าเป็นอันซี
“เอ๊ะ ตื่นแล้วเหรอคะ ใกล้ถึงเวลาผ่าตัดแล้วทำไมยังไม่เปลี่ยนชุดคะ”
หมิงเย่ผิดหวัง พลางชะเง้อมองหาอันซี

เหม่ยเหวินโทรศัพท์หายิ่วเชียน ซึ่งขณะนั้นยิ่วเชียนขับรถอยู่
“พี่เหม่ยเหวิน ว่ายังไง”
“เฮ่อ ฉันตามหาทั่วหมู่บ้านภูล่านแล้วแต่ไม่เจออันซีเลย”
“ครับ ผมรู้แล้วขอบคุณ”
ยิ่วเชียนโทรศัพท์หาหมิงเย่
“ฮัลโหล มีเรื่องอะไร”
“หัวหน้า อันซีอยู่โรงพยาบาลรึเปล่า”
“เกิดอะไรขึ้น”
“อันซีเขา ไม่มีอะไรครับ วันนี้หัวหน้าจะผ่าตัดใช่มั้ย ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะราบรื่น แค่นี้ก่อนครับ”
ยิ่วเชียนวางสายไป หมิงเย่ใจไม่ดี ระหว่างนั้นพยาบาลเกิดทำแจกันดอกไม้ตกแตกเสียงดัง หมิงเย่สะดุ้งตกใจอย่างแรง
“หะ”
“ขอโทษค่ะๆ ฉันจะรีบเก็บทันที ขอโทษค่ะๆ”
หมิงเย่ใจคอไม่ดี กลัวว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้น

หยาลู่นั่งเฝ้าหยาเอินซึ่งนอนหลับอยู่ในห้องคนไข้ ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หยาลู่หยิบมารับสาย
“ฮัลโหล ยิ่วเชียน เกิดอะไรขึ้น”
หยาลู่เดินไปคุยที่หน้าประตูห้อง เพราะไม่อยากให้รบกวนหยาเอิน
“อันซีทำไมเหรอ เมื่อกลางดึกเขามาที่นี่ เพื่อมาดูหายเอิน”
หยาเอินลืมตาขึ้นฟังพี่ชายพูดโทรศัพท์ พลางคิด
“ทำไงดี เพราะฉันช่วยเยี่ยนเจ๋อ ทำให้อันซีลำบากไปด้วยรึเปล่า”
หยาลู่คุยโทรศัพท์ต่อ
“ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ถามฉันว่า ถ้าหยาเอินจะมีความรัก ฉันจะว่ายังไง”
“รู้แล้ว ขอบคุณ”
ยิ่วเชียนเลี้ยวรถกลับทันที พลางคิด
“ทำไมฉันถึงคิดไม่ได้ว่าอันซีต้องทำอย่างนี้เพื่อช่วยหยาเอิน เขาต้องไปสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับหยาเอิน”

อันซียืนรอเยี่ยนเจ๋ออยู่ริมถนน สักพักเยี่ยนเจ๋อเดินเข้ามาหา
“ว่ายังไง ครั้งนี้แฟนคุณให้มาทำอะไรอีก”
“ครั้งนี้ฉันมาเอง ฉันมาหาคุณเพราะหยาเอิน เยี่ยนเจ๋อ ฉันรู้ว่ายิ่วเชียนเป็นคนเด็ดขาด สิ่งที่เขาคิดว่าผิดก็คือผิด แต่ฉันไม่เหมือนกัน ฉันกับคุณเป็นเพื่อนกัน เราเคยพูดความลับกันทุกอย่าง นั่นเป็นความจริงใจนะ และฉันก็เชื่อว่าคุณ จริงใจกับหยาเอิน”
“แล้วไง”
“ฉันจะให้เวลาคุณสามวัน หวังว่าคุณจะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเรา ลองคิดให้ดี อย่าทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง สร้างโรงงานบำบัดของเสียในภูล่าน มันไม่ถูกต้องนะ”
“ความเป็นเพื่อนเหรอ เฮ่อ หยุดเสแสร้งสักที คุณแค่ต้องการทำลายความฝันของผม เพื่อความสำเร็จของตัวเอง เอาโทรศัพท์ให้ผม”
“เยี่ยนเจ๋อ ฉันเห็นคุณเป็นเพื่อนจริงๆ นะ”
“เอาโทรศัพท์ให้ผม”
“ทำไมคุณเป็นแบบนี้”
“เฮ่อ ที่ผมต้องเป็นแบบนี้เพราะถูกพวกคุณบีบบังคับ หรือว่าคุณจะให้ผมเป็นสุภาพบุรุษ”
“คุณเป็นอย่างนี้ เพราะตัวคุณเองต่างหากล่ะ”
“หุบปาก เอาโทรศัพท์ให้ผม ผมจะบอกคุณ ผมยังพูดดีกับคุณได้ถ้าคุณเอาโทรศัพท์ให้ผม ไม่งั้นคุณจะแย่กว่านี้”
เยี่ยนเจ๋อเดินรุกไล่อันซี
“เยี่ยนเจ๋อ”
เยี่ยนเจ๋อเข้าไปกระชากกระเป๋าจากอันซีทันที อันซีรีบวิ่งหนีไป ขณะที่เยี่ยนเจ๋อค้นกระเป๋าดู ไม่เจอโทรศัพท์จึงรีบวิ่งไล่กวดอันซีไป
“เอามา”

อ่านต่อหน้า 3

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่31 (ต่อ)

หยาเอินออกมาเห็นพอดี

“อันซี เยี่ยนเจ๋อ”
ยิ่วเชียนขับรถมา เห็นหยาเอินยืนอยู่
“หยาเอิน หยาเอิน”
“เยี่ยนเจ๋อวิ่งตามอันซีไปทางโน้นแล้ว”
ยิ่วเชียนรีบขับรถตามไป แล้วตะโกนเรียกอันซี
“อันซี ๆ”
อันซีวิ่งหนีขึ้นไปบนชั้นจอดรถ ได้ยินเสียงยิ่วเชียนก็รีบตะโกนลงมา
“ยิ่วเชียนฉันอยู่นี่”
“อันซี”
ยิ่วเชียนเป็นห่วงอันซีมาก เขาวิ่งตามขึ้นไป ในขณะที่เยี่ยนเจ๋อก็วิ่งไล่กวดอันซีไม่ลดละ เสียงรถเบรกกันวุ่นวาย ยิ่วเชียนวิ่งมาดักอีกทาง
“อันซี”
อันซีวิ่งเข้ามาหายิ่วเชียน
“ยิ่วเชียน”
“ระวัง”
“โทรศัพท์ค่ะ”
“เอาโทรศัพท์มา”
เยี่ยนเจ๋อหยิบกรวยจราจรแถวลานจอดรถเข้ามาฟาดใส่
“ระวัง”
ยิ่วเชียนผลักอันซีออกไป แล้วเข้าไปรับมือกับเยี่ยนเจ๋อ ทั้งสองต่อวู้กัน เยี่ยนเจ๋อได้เปรียบคร่อมอยู่บนตัวยิ่วเชียน อันซีตะโกนลั่น
“ยิ่วเชียน ระวัง เยี่ยนเจ๋อ หยุดได้แล้ว หยุดตีกันได้แล้ว ระวัง”
อันซีคว้ากรวยได้จะฟาดเยี่ยนเจ๋อ แต่เขาเข้ามาจับตัวเธอล็อคคอไว้
“โอ๊ย”
“อันซี เยี่ยนเจ๋อ”
“ช่วยด้วยยิ่วเชียน”
“เอาโทรศัพท์มา”
เยี่ยนเจ๋อล็อคคออันซีจนลำลัก แล้วลากอันซีไปจนชิดขอบลานจอดรถ ราวกับจะผลักลงไป
“ยิ่วเชียน”
“เยี่ยนเจ๋อ”
“เอาโทรศัพท์ให้ฉัน หยุดนะ”
“นายอย่าทำอะไรนะ”
“นายลองดูสิ”
“ยิ่วเชียน ยิ่วเชียน”
“เอาโทรศัพท์มา”
“อย่าให้เขา อย่าให้เขานะ”
“เอามาให้ฉัน เอามา”
“อย่าให้เขา ยิ่วเชียน”
“เอามา”
“ปล่อยฉัน ปล่อยฉันนะ ปล่อย ปล่อย”
ยิ่วเชียนเป็นห่วงอันซี ตัดสินใจยื่นโทรศัพท์ให้เยี่ยนเจ๋อ เยี่ยนเจ๋อกำลังยื่นมือไปรับ แต่แล้วหยาเอินก็เข้ามาคว้าโทรศัพท์ไป เยี่ยนเจ๋อตกใจ
“หยาเอินเธอทำอะไร”
“คุณบอกว่าจะไม่ทำร้ายอันซีไง”
“เอาโทรศัพท์มา เอาโทรศัพท์ให้ฉัน”
อันซีอาศัยจังหวะที่เยี่ยนเจ๋อเผลอ ศอกใส่ท้องเขาแล้ววิ่งไปหายิ่วชียน
“อันซี”
เยี่ยนเจ๋อเครียด
“หยาเอิน เธอฟังฉันพูด”
“หยาเอิน” อันซีเรียก
หยาเอินพยายามถอยหลังหนี
“ฉันเคยบอกเธอแล้ว ถ้าเธอไม่เห็นฉันเป็นคนสำคัญ ฉันอาจทำร้ายแม้แต่เธอด้วย เอาโทรศัพท์ให้ฉัน”
เยี่ยนเจ๋อขู่ตะคอกเสียงดังแล้ววิ่งเข้าหา หยาเอินตกใจวิ่งหนีเตลิดไป อันซีรีบวิ่งตาม
“หยาเอินเอามา”

ทันใดนั้นมีรถวิ่งสวนมา จะชนหยาเอิน อันซีตกใจวิ่งเข้าไปผลักหยาเอินให้พ้นทาง ยิ่วเชียนตกใจที่อันซีจะถูกรถชนเสียเอง เขาจึงเข้าไปเอาตัวบังป้องกันอันซีไว้
“อันซี”
รถคันนั้นหยุดทันเวลาพอดี เยี่ยนเจ๋อเห็นเหตุการณ์ตกใจมาก หยาเอินหมดสติ โทรศัพท์กระเด็นหลุดมือไป เยี่ยนเจ๋อรีบเข้าไปดูอาการหยาเอิน
“หยาเอินๆ ๆ ๆ ตื่นสิหยาเอิน”
เยี่ยนเจ๋อเครียด มองโทรศัพท์แล้วหันกลับมามองสภาพหมดสติของหยาเอิน เขาตัดสินใจอุ้มหยาเอินไป โดยไม่สนใจโทรศัพท์ ในขณะที่ยิ่วเชียนหมดสติไป โดยเขาเอาตัวและแขนรองรับอันซีไว้ไม่ให้กระแทกกับพื้นถนน อันซีก็สลบไป แต่ฟื้นขึ้นมาได้ก่อน เธอทั้งเจ็บทั้งมึน ลุกขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองนอนทับแขนยิ่วเชียนอยู่ โดยชายหนุ่มหมดสติ
“ยิ่วเชียน”
อันซีใจคอไม่ดี คนขับรถลงจากรถมาดู
“คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ”
“ยิ่วเชียน ยิ่วเชียน ยิ่วเชียนคุณตื่นสิๆ ยิ่วเชียน”
อันซีร้องไห้หนัก
“ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ที”
“ครับ”
“ยิ่วเชียน”
อันซีเขย่าตัวยิ่วเชียนอย่างร้อนรน เป็นห่วงชายหนุ่มมาก

เยี่ยนเจ๋อรีบอุ้มหยาเอินเข้ามาหาหมอ
“คุณหมอ ช่วยดูให้หน่อยครับ เธอเป็นผู้ป่วยQT หมดสติเพราะตกใจ”
“รีบวางผู้ป่วยลงก่อน เสี่ยวกุ้ยรีบมาช่วยเร็ว”
เยี่ยนเจ๋ออุ้มหยาเอินไปวางบนตียง
“หยาเอินเธอต้องไม่เป็นไร”
“ผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น รีบเตรียมอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ”
“คุณหมอช่วยเธอด้วย คุณต้องช่วยเธอ”
พยาบาลรีบเข้ามาบอกเยี่ยนเจ๋อ
“คุณออกไปรอข้างนอกก่อน คุณคะ ออกไปรอข้างนอกค่ะ”
“หยาเอิน หยาเอินเธอไม่เป็นไรนะ หยาเอินเธอต้องไม่เป็นไร”
“คุณคะ ผู้ป่วยฉุกเฉิน ออกไปรอข้างนอกค่ะ”
“คุณหมอช่วยเธอด้วย ได้โปรด”
เยี่ยนเจ๋อร้องไห้ พยายามดันให้ออกไปรอข้างนอก เขาทำอะไรไม่ถูก ทำใจไม่ได้ถ้าหยาเอินเป็นอะไรไป เยี่ยนเจ๋อโมโหตัวเองมาก

อันซีร้องไห้อย่างหนัก เขย่าตัวยิ่วเชียนให้ตื่น
“ยิ่วเชียน ไหนคุณบอกว่าจะเป็นครอบครัวเดียวกับฉัน คุณไปจากฉันไม่ได้นะ คุณตื่นขึ้นมาได้มั้ย ยิ่วเชียนฉันขอร้องล่ะ พระเจ้า ถ้าท่านสามารถทำให้ยิ่วเชียนฟื้นได้ ท่านให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอม ฉันยอมทุกอย่าง ยิ่วเชียน คุณรีบฟื้นสิ”
ยิ่วเชียนเริ่มรู้สึกตัว
“จำที่ฉันพูดได้มั้ย”
“หะ ยิ่วเชียน”
“จำที่ฉันพูดได้มั้ย ตราบใดที่หัวใจแข็งแกร่ง คนเราก็จะยังมีความหวัง เหมือนทั้งจักรวาลมาช่วยให้ความหวังเป็นจริง”
ยิ่วเชียนยิ้มให้อันซี พยายามลุกขึ้นมา อันซีร้องไห้ดีใจเข้าไปกอดเขาแน่น
“เฮ่อ พระเจ้าคงได้ยินความปรารถนาของฉันแล้ว ทำให้ฉันลืมตามา ก็เจอเธอแล้ว แล้วยังเพิ่มความเร็วด้วย ให้เธอทำอะไรก็ยอมหมด เฮ่อ เมื่อกี้ลืมอัดเสียงได้ไง”
อันซีตียิ่วเชียนเบาๆ อย่างแสนรัก
“นี่มันเวลาไหนแล้วยังมาล้อเล่นอีก คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย เมื่อกี้ฉันคิดว่าคุณจะไปแล้ว”
“ฉันขอโทษ”
“มาค่ะ ลุกขึ้นนั่งก่อน”
“เฮ่อ”
ทั้งสองมองไปรอบๆ ตกใจ
“หยาเอินล่ะ หยาเอินๆ”
ยิ่วเชียนมองไปเห็นโทรศัพท์ตกอยู่
“เยี่ยนเจ๋อไม่ได้เลือกโทรศัพท์ หรือว่าจะไปโรงพยาบาล”
“งั้นเรารีบตามไปกันเถอะ มาค่ะ ระวัง เป็นอะไร คุณเป็นอะไร”
“ไม่เป็นไร”
ยิ่วเชียนเดินขากระเผลกไปหยิบโทรศัพท์ แล้วรู้สึกเจ็บแขนมาก อันซีเดินขากระเผลกเข้าไปกอดยิ่วเชียน
“ไปค่ะ”
“ไป”
ทั้งคู่ต่างประคองกันเข้าไปในโรงพยาบาล

เยี่ยนเจ๋อนั่งรอฟังอาการของหยาเอินอย่างร้อนใจ เครียดมาก แทบนั่งไม่ติด หยาลู่รีบวิ่งเข้ามา
“หยาเอินล่ะ”
“กำลังช่วยชีวิต”
“หมอว่ายังไงบ้าง”
“ยังไม่รู้เลย”
“เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ทำไมหยาเอินถึงหนีไปข้างนอก ทำไมถึงหมดสติ แล้วทำไมนายถึงเป็นคนแจ้งฉัน ทำไมนายรู้ว่าหยาเอินอยู่ที่ไหน หะ”
พยาบาลเดินเข้ามาพอดี
“คุณเป็นญาติผู้ป่วยใช่มั้ยคะ”
“ผมเป็นพี่ชายเธอ น้องสาวผมเป็นไงบ้าง”
“ผู้ป่วยหัวใจเต้นแล้ว แต่ร่างกายอ่อนแอมาก คุณหมอยังติดตามการรักษาอยู่”
“ขอบคุณครับ ดีจริงๆ”
“ข้อมูลยังกรอกไม่เสร็จ รบกวนคุณช่วยกรอกด้วยค่ะ”
“โอเคครับ”

หยาลู่แยกไปกรอกเอกสาร เยี่ยนเจ๋อถอนหายใจ โล่งอกที่หยาเอินอาการดีขึ้น เขาจึงเดินเลี่ยงออกไป

อ่านต่อหน้า 4

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่31 (ต่อ)

ระหว่างนั้นยิ่วเชียนกับอันซีวิ่งกระเผลกๆ เข้ามาหาหยาลู่

“หยาลู่”
“อันซี ขอบคุณครับ”
“ค่ะ อาการน้องสาวคุณดีขึ้นเราจะแจ้งให้ทราบอีกที” พยาบาลบอก
“ขอบคุณครับ”
“หยาเอินล่ะ เขาเป็นไงบ้าง” อันซีถาม
“พยาบาลบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว”
“เฮ้อ” อันซีถอนใจโล่งอก
“คุณหู”
หยาลู่หันมามองหาเยี่ยนเจ๋อ
“เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนี้เลย”
“เขาไปแล้ว” ยิ่วเชียนเดาสถานการณ์ได้
“เอ่อ ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น” หยาลู่สงสัย
“คือว่า”
อันซีจะเล่า พลันได้ยินเสียงคนแถวนั้นเดินคุยโทรศัพท์ผ่านมา
“แม่ หมอบอกว่าพี่ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว เดี๋ยวหนูจะพาพี่กลับบ้าน”
อันซีนึกขึ้นได้
“ผ่าตัดเหรอ แย่แล้ว”
“หัวหน้า”
อันซีกับยิ่วเชียนมองหน้ากัน นึกถึงหมิงเย่
“หยาลู่ แล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง ไปก่อนนะ”
อันซีกับยิ่วเชียนรีบเดินไป หยาลู่ถอนใจ
“วันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนดูแปลกๆ”

อันซีกับยิ่วเชียนรีบมาที่เคาน์เตอร์พยาบาล
“คุณพยาบาล การผ่าตัดของแม่ฉันเป็นยังไงบ้าง”
หมิงเย่เดินเข็นเสาน้ำเกลือผ่านมาเห็นพอดี หยุดยืนฟัง
“แม่ของคุณ”
“โจวหมิงเย่ไง”
“อ้อ”
พยาบาลหันไปเจอหมิงเย่ยืนอยู่พอดี อันซีกับยิ่วเชียนรีบเดินไปหา
“ทำไมคุณยังอยู่ตรงนี้ วันนี้ต้องผ่าตัดไม่ใช่เหรอ”
“ฉันเลื่อนวันแล้ว”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ กับท่าทีที่ดูไม่แนบเนียนของหมิงเย่
“เลื่อนวันเหรอ ทำไมคะ”
ยิ่วเชียนเข้าไปกระซิบอันซี
“เวลาหัวหน้าพูดโกหก คางของเขาจะสูงขึ้นเล็กน้อยเหมือนเมื่อกี้”
หมิงเย่ค้อนยิ่วเชียนที่รู้ทัน อันซียิ้มๆ
“โกหกเหรอ”
พยาบาลรีบบอก
“คุณไม่อยู่ คุณโจวเข็นน้ำเกลือออกมาถามเราหลายครั้งแล้ว ว่าคุณกลับมารึยัง ยังบอกว่าจะออกไปตามหาคุณ โชคดีที่เราหยุดไว้ก่อน”
ยิ่วเชียนกับอันซีมองหน้าหมิงเย่ยิ้มๆ หมิงเย่ทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกจับได้
“เธอพูดเองว่า ตอนฉันผ่าตัดเธอจะอยู่ด้วย เป็นคน ต้องรักษาสัญญา พูดแล้วต้องทำให้ได้สิ”
“ค่ะ”
“เธอน่ะ ชอบทำให้ฉันเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย”
หมิงเย่ถอนใจ พลันหันไปเห็นเลือดไหลซึมออกมาจากแขนเสื้อยิ่วเชียน
“เอ๊ะ มือของเธอเป็นอะไร หะ เป็นอะไร”
อันซีมองตาม เข้าไปคว้าข้อมือยิ่วเชียนมาดู ตกใจ เป็นห่วงมาก
“เอ๊ะ มือของคุณมีเลือดออก ออกเยอะด้วย เมื่อกี้ทำไมไม่พูด”
“เอ่อ ไม่เป็นไร”
“บาดเจ็บตรงไหนบ้าง ฉันดูซิ”

อันซีกับหมิงเย่พายิ่วเชียนมานั่งให้พยาบาลทำแผล พยาบาลตัดแขนเสื้อของยิ่วเชียนออก อันซีมองแผลแล้วเจ็บแทน
“ซี๊ด เจ็บมั้ย”
“เธอไม่ต้องห่วง ไม่เจ็บเลย”
“เป็นไปได้ยังไง เลือดไหลขนาดนี้แล้ว”
“ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยจริงๆ”
พยาบาลกำลังจะทำแผล รีบบอก
“อดทนหน่อยนะคะ”
พยาบาลจี้ไปตรงแผล ยิ่วเชียนส่งเสียงเจ็บ แต่นึกขึ้นได้ มองหน้าอันซีแล้วทำกลบเกลื่อนไม่ให้เป็นห่วง
“เห็นมั้ย ไม่เจ็บเลย”
อันซีกับหมิงเย่ส่ายหน้าไม่เชื่อ หมิงเย่เริ่มต่อว่า
“เธอทำอย่างนี้ไม่ถูกนะ เรื่องเกิดขึ้นแล้ว ถ้าต่อไป เธอคิดถึงความรู้สึกของอันซีทุกครั้ง ต้องการปกป้องอันซี พูดแต่สิ่งที่ดีแบบนี้ แบบนี้อันซีไม่มีทางเติบโตแน่นอน เธอเคยคิดมั้ยว่า ถ้าสักวัน เธอไม่อยู่แล้ว อันซีจะทำยังไง”
“ผมต้องมีชีวิตอยู่นานกว่าอันซี”
อันซียิ้ม หมิงเย่ขำๆ
“จากวิธีการดูแลของเธอแล้ว ยืนยันได้ว่า อันซีต้องมีชีวิตนานกว่าเธอ ยิ่งไปกว่านั้น ยุคสมัยนี้ ผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอที่จะพึ่งพาผู้ชายทุกอย่าง อันซี ฉันว่า เธอควรมาเรียนรู้กับฉัน ว่าจะอยู่คนเดียวในสังคมนี้ได้ยังไง”
ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าอันซี
“เรียนรู้กับคุณเหรอคะ”
“ใช่ เรียนรู้จักคิดด้วยตัวเอง ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ปกป้องตัวเอง และต่อสู้กับสิ่งที่ตัวเองต้องการ”
“ต้องเรียนด้วยเหรอคะ”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ รู้ใจ หมิงเย่ค้อน
“ค่ะ ฉันจะตั้งใจเรียนรู้”
ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าอันซียิ้มๆ พูดดักคอ
“เอ่อ อย่าเรียนรู้มากนะ”
อันซีขยิบตาให้ยิ่วเชียน ยิ่วเชียนขำ แต่พอหันมามองหน้าหมิงเย่ก็รีบหุบยิ้ม หมิงเย่ค้อนๆ

หยาเอินนอนไม่ได้สติ แล้วเหมือนได้ยินเสียงเรียกของเยี่ยนเจ๋อ
“หยาเอิน หยาเอิน ตื่นสิหยาเอิน”
หยาเอินลืมตาตื่น ค่อยๆ ลุกขึ้นก็เห็นหยาลู่นอนฟุบหลับอยู่ปลายเตียง เธอค่อยๆ ลุกและเข็นเสาน้ำเกลือออกไป หยาลู่ตื่นขึ้นมาพอดี
“เธอจะไปหาเยี่ยนเจ๋ออีกแล้วใช่มั้ย”
“ฉัน”
หยาลู่เสียงดังใส่
“ฉันถามอันซีกับยิ่วเชียนแล้ว อาการของเธอกำเริบครั้งนี้ เพราะเขาเป็นต้นเหตุ”
“ไม่ใช่ เป็นเพราะฉันเอง”
“เอาล่ะ ไม่ว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว เธอรักษาตัวให้ดี เลิกสนใจเรื่องของเขาได้แล้ว”
“ไม่อยู่เหรอ เขาไปไหน”
หยาเอินรีบไปเปิดลิ้นชัก
“เธอไม่ต้องหาแล้ว โทรศัพท์เธออยู่ที่ฉัน”
หยาลู่หยิบออกมาให้ดู หยาเอินจะเข้าไปแย่ง แต่หยาลู่ไม่ให้
“เอาโทรศัพท์มา ให้ฉันโทรหาเยี่ยนเจ๋อเถอะฉันเป็นห่วงเขา”
“เธอจะโทรหาเขาทำไม เธอเป็นห่วงเขาเพื่ออะไร”
“ฉันขอร้องพี่ คืนโทรศัพท์ฉันเถอะ”
“เขาทิ้งเธอไปแล้ว เธอคิดว่าโทรแล้วเขาจะรับสายเหรอ”
“ได้โปรดคืนโทรศัพท์ฉัน”
หยาเอินเสียงดังใส่ หยาลู่ชะงัก
“ทั้งที่เขาหลอกใช้เธอมาตลอด เธอมีสติหน่อยได้มั้ย”
“ฉันมีสติ ทำไมทุกคนไม่เชื่อการตัดสินใจของฉัน ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว ใครเชื่อได้ใครเชื่อไม่ได้ฉันจะไม่รู้เชียวเหรอ ทำไมถึงคิดว่าหูเยี่ยนเจ๋อหลอกฉัน ฉันไม่สมควรจะถูกใครรักบ้างเหรอ”
หยาเอินน้ำตาริน หยาลู่สงสารน้องมาก
“เธอคู่ควรที่จะถูกรักที่สุดนะ”
“แล้วทำไมฉันถึงไม่สามารถเลือกได้ ทุกคนกลัวว่าฉันจะเจ็บปวด แต่ชีวิตที่ไม่เคยได้รับรู้ความเจ็บปวด ยังเรียกว่าชีวิตอยู่เหรอ”
หยาเอินสะอื้น หยาลู่ดึงน้องสาวเข้าไปกอดปลอบ

ยิ่วเชียนกับอันซีเดินเข้ามาในห้องคนไข้ เห็นหมิงเย่นั่งอยู่บนเตียง อันซีมีแววกังวล หมิงเย่เข้าใจ
“ดูเธอสิ คนกำลังจะผ่าตัดอย่างฉันยังไม่กังวล เธอจะกังวลอะไร”
หมิงเย่หันไปมองหน้ายิ่วเชียนพลางพูด
“อันซีกับบริษัท ฝากเธอดูแลชั่วคราว”
“ไม่มีปัญหาครับ”
“เฮ่อ ฉันคิดว่า เดี๋ยวพยาบาลก็คงเข้ามา เช็คการแต่งตัวของฉันก่อนเข้าห้องผ่าตัดว่าเรียบร้อยดีมั้ยแล้วล่ะ”
อันซียังคงเป็นห่วงแม่ พยาบาลเดินเข้ามา
“คุณโจวเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว”
“ค่ะ”
อันซียิ่งกังวลหนัก พยาบาลเห็นก็ยิ้มปลอบใจ
“ต้องเข้าห้องผ่าตัดแล้วนะคะ เป็นห่วงแม่เหรอ เฮ่อ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ หมอที่จะทำการผ่าตัดเป็นหมอที่เก่งที่สุดของโรงพยาบาลนี้ ถ้าคุณยังเป็นห่วงล่ะก็ ต้องส่งกำลังใจไปให้แม่คุณด้วยนะ”
อันซีพูดอะไรไม่ออก หมิงเย่รอๆ ก่อนพยักหน้าให้พยาบาลพาออกไป แล้วหมิงเย่ก็หันกลับมามองทั้งสองคนอีกครั้ง น้ำตารื้น
“เอ่อ ฉันรู้ว่าช่วงเวลานี้ ทำให้เธอสองคนไม่สบายใจ ฉันไม่ใช่หัวหน้าที่ดี และยิ่งไม่ใช่แม่ที่ดี แต่ฉันจะยอมเปลี่ยน ฉันจะเป็นแม่ที่สามารถทำให้อันซีมีความสุขได้ แต่ว่า ต้องให้เวลาฉันสักระยะ”
“ผมเชื่อว่าสิ่งที่หัวหน้าอยากทำ ไม่มีอะไรทำไม่ได้ ส่วนบริษัท ผมจะพยายาม”
หมิงเย่พยักหน้าให้ยิ่วเชียน รู้สึกสบายใจขึ้น แล้วหันมาพยักหน้าให้พยาบาลพาออกไป อันซีรีบวิ่งตามไป พูดให้กำลังใจ
“สู้ๆ”
หมิงเย่ชะงัก
“ฉันจะรอคุณอยู่หน้าห้องผ่าตัด”
หมิงเย่หันหน้ามามองลูกสาวอย่างเต็มตา น้ำตาคลอ อันซีตัดสินใจพูด
“แม่”
หมิงเย่ตื้นตันน้ำตารื้นกับคำว่าแม่ เธอมีกำลังใจในการผ่าตัดขึ้นมาทันที ทั้งยิ่วเชียนและอันซีต่างเดินไปส่งหมิงเย่ที่หน้าห้องผ่าตัด หมิงเย่จับมือลูกสาวพยักหน้าว่าไม่เป็นไร พลางจับมืออันซีไปส่งให้ยิ่วเชียนจับไว้ เพื่อบอกให้ยิ่วเชียนช่วยดูแลอันซี แล้วพยาบาลก็เข็นเตียงหมิงเย่เข้าไปในห้องผ่าตัด อันซียืนอึ้ง ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพร ยิ่วเชียนกอดปลอบให้กำลังใจ

หลังการผ่าตัด อันซีนั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้ หมิงเย่เริ่มได้สติลืมตาขึ้น
“คุณฟื้นแล้ว ผ่าตัดประสบความสำเร็จ ยิ่วเชียนบอกว่า เขายังอยู่บริษัท สายๆ จะเข้ามาเยี่ยมคุณ”
หมิงเย่จับมืออันซีอย่างอุ่นใจก่อนจะหลับไปอีกครั้ง และในเวลาต่อมายิ่วเชียนก็เข้ามารายงานเรื่องต่างๆ กับหมิงเย่ โดยอันซีนั่งเช็ดตัวให้หมิงเย่ไปด้วย
“หัวหน้า ผมมีข่าวดีจะรายงานคุณ สนามบินเอาท์เล็ทที่เราคุยความร่วมมือมาสองปี คงไม่มีปัญหาอะไร คุณฮามิลตัลโทรมาหาเรา ตัดสินใจร่วมมือกับเราแล้ว”
“อ๋อ ดีมาก อันซี เธอควรจะฟังและเรียนรู้เรื่องธุรกิจให้มากๆ โครงการครั้งนี้คือ”
“เอ่อ ดูเหมือนน้ำจะเย็นแล้ว ฉันไปเปลี่ยนให้นะคะ”
อันซีตัดบท เดินยกกะละมังใส่น้ำออกไปเลย ยิ่วเชียนมองตามยิ้มๆ เข้าใจอันซี
“หัวหน้า ผมจะบอกอะไรคุณอย่าง อันซีเป็นอย่างนี้แหละ ชอบทำอะไรก่อนคิดอยู่เสมอ”
หมิงเย่หัวเราะเข้าใจ

อันซีเข็นรถพาหมิงเย่ออกมาสูดอากาศบริเวณสวนสาธารณะของโรงพยาบาล หมิงเย่ดูมีความสุขมาก
“เฮ้อ หลังจากที่ฉันอายุ 30 นี่เป็นครั้งแรกที่ออกมารับแดด โดยไม่ได้ทาครีมกันแดด”
“มิน่าคุณถึงได้ผิวขาว ดูฉันสิ ดำจนเขียวเลย”
อันซีก้มไปดูหน้าหมิงเย่ใกล้ๆ หมิงเย่กอดคอลูกสาวไว้อย่างเอ็นดู พลางหัวเราะ
“ถ้าต่อไป ฉันไปหาเธอที่ภูล่านบ่อยๆ ฉันอาจจะดำก็ได้”
“คุณยินดีมาภูล่านเหรอคะ”
“ไม่ได้เหรอ”
“ได้ค่ะๆ ถ้าคุณยินดีมา ฉันจะพาไปดูสถานที่ลับของหมู่บ้านภูล่านและไปกินของอร่อยๆ ด้วย”

อันซีเข็นรถไปพูดคุยไปไม่หยุดปาก

อ่านต่อตอนที่ 32 อวสาน
กำลังโหลดความคิดเห็น