อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่13
เยี่ยนเจ๋อเข้ามาพบหมิงเย่ในห้องทำงานตามที่อีกฝ่ายเรียกหา
“หัวหน้า เรียกผมเหรอครับ”
“นั่งสิ วันที่เธอกับหย่งชิงช่วยยิ่วเชียนพูดแก้ตัว ต้องมีเหตุผลแน่นอน ฉันอยากรู้ความจริง”
“เฮ่อ ไม่เสียแรงที่เป็นหัวหน้า ความจริง ดูเหมือนยิ่วเชียนจะมีปัญหาเรื่องความรู้สึกที่ต้องจัดการน่ะครับ”
“นี่คือเหตุผลที่เขาลางานเหรอ”
“ใช่ครับ”
“แล้วเหตุผลนี้ จะโน้มน้าวฉันได้เหรอ”
“หัวหน้า ผมก็เหมือนคุณ พอได้ยินแล้วรู้สึกตกใจ”
“แต่ว่า ในนามแล้ว เขาเป็นแฟนของหย่งชิง เขาทำอย่างนี้ เท่ากับไม่ไว้หน้าหย่งชิงเลยนะ”
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องห่วงครับ เพราะว่านี่คือการยินยอมของหย่งชิง”
“หย่งชิงเห็นด้วยเหรอ”
“เธอเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง คิดว่าเมื่อยิ่วเชียนแก้ไขความเสียใจของรักครั้งแรกได้แล้ว เขาจะกลับมาหาเธอ โดยที่เธอไม่ต้องเรียกร้อง คงใช้เวลาไม่นานมาก”
“รักแรกเหรอ หมู่บ้านภูล่าน เซี่ยยิ่วเชียนเป็นคนหมู่บ้านภูล่านเหรอ”
“ดูเหมือนเขาจะเคยพูดกับหย่งชิงอย่างนี้”
“ทำไมฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงเลย ฉันว่าเอาอย่างนี้ เยี่ยนเจ๋อ เธอหาเวลาไปหมู่บ้านภูล่าน เพื่อดูว่ายิ่วเชียนกำลังทำอะไร แต่เธอจำไว้ว่า อย่าไปในฐานะของทนายความ เพราะในเวลาเดียว บริษัทส่งคนไปถึงสองคน มันดูจะชัดเจนเกินไป”
“ครับ ผมทราบแล้ว งั้น ผมขอตัวก่อนครับ” เยี่ยนเจ๋อออกไป
หมิงเย่เดินไปที่โต๊ะทำงาน ดูแฟ้มงานที่ยิ่วเชียนทำมาให้
“ข้อมูลของเขาทำได้สมบรูณ์แบบมาก คงมีความลับอะไร อยู่ที่หมู่บ้านภูล่านแน่ๆ” หมิงเย่คิด
อันซีเดินบ่นๆ อย่างหงุดหงิดมาตามทาง
“เฮ่อ เซี่ยยิ่วเชียนคนนี้ สายตาฆ่าคนชัดๆ ทำให้ฉันเก็บสาหร่ายทั้งวันไม่กล้ากลับบ้าน ทำตัวแย่จริงๆ ฉันเป็นเจ้าของบ้านพักนะ ยังมีงานค้างตั้งมากมาย”
อันซีเดินมาถึงศาลเจ้า เธอคิดอะไรได้
“ไหว้พระดีกว่าจะได้ล้างซวย พระเจ้า ได้โปรดช่วยทำให้ลูกหยุดคิดถึงเซี่ยยิ่วเชียนด้วยเถอะค่ะ ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจลูกไปทางอื่นหน่อยได้มั้ย เซี่ยยิ่วเชียนจะทำให้ลูกบ้าตายอยู่แล้ว ได้โปรดเถอะๆ”
ระหว่างนั้นเยี่ยนเจ๋อสะพายกล้อง ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ อันซีเห็นแสงแฟลชก็ร้องขึ้น
“นี่ คุณคะ ขอโทษค่ะ ศาลเจ้าของเราถ่ายรูปไม่ได้ เอ๊ะ”
อันซีนึกถึงผู้ชายที่เธอเคยเจอที่โรงพยาบาลตอนไปเฝ้าไข้หยาเอิน เยี่ยนเจ๋อก็จำได้ว่าเธอคือผู้หญิงที่กัดเขาที่โรงพยาบาล
“คุณลิงนั่นเอง”
“คุณจำฉันได้เหรอ”
“แน่นอน และผมยังจำได้ว่า ถ้าหากผมเจอคุณอีกครั้ง ผมจะขอกัดคืน”
อันซีหัวเราะ
“เอ๊ะคุณเป็นคนหมู่บ้านภูล่านเหรอ”
“ใช่ค่ะ คุณมาหมู่บ้านเราได้ไง และวันนี้ ดูคุณแต่งตัวไม่เหมือนวันนั้นเลย พกกล้องถ่ายรูปด้วย คุณเป็นช่างภาพเหรอ”
“ใช่ คุณทายถูกแล้ว”
“งั้น เดี๋ยวคุณมีธุระมั้ย ไปสถานที่หนึ่งกับฉันได้มั้ย”
“หะ”
อันซีอ้าปากหวอ ท่าทีงุนงง
หยาเอินนั่งอยู่ในบ้าน หมุนแหวนของเล่นที่เยี่ยนเจ๋อเคยสวมให้อย่างหงุดหงิด คิดถึงชายหนุ่ม ระหว่างนั้นเสียงอันซีดังขึ้น หยาเอินรีบเก็บแหวน
“ที่นี่ก็คือบ้านพักเย่จือไห่ของฉัน เข้ามาสิ”
หยาเอินเห็นอันซีก็เข้าไปทัก
“กลับมาแล้วเหรอ”
“หยาเอิน ฉันจะขึ้นไปเอาของ เธอช่วยดูแลแขกหน่อย ฉันจะรีบลงมา รอสักครู่นะคะ”
หยาเอินเห็นเหน้าเยี่ยนเจ๋อก็จำได้ เธอทำตัวไม่ถูก เยี่ยนเจ๋อยิ้มให้
“จริงสิ ร่างกายเธอแข็งแรงดีรึยัง เธอเจอฉันครั้งนี้คงไม่สลบอีกนะ เธอรู้มั้ย หลังจากวันนั้นฉันไปส่องกระจกดูหน้าตัวเอง ว่าหน้าฉันน่ากลัวมากเหรอ ถึงทำให้สาวน่ารักคนหนึ่งตกใจจนหมดสติ ขอโทษครับ ฮิ ฉันล้อเล่นเธอน่ะ เธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”
เยี่ยนเจ๋อจับหัวหยาเอินเขย่าอย่างเอ็นดู หย่าเอินยิ้มมีความสุข ระหว่างนั้นอันซีเดินลงมาจากข้างบน
“เอ๊ะ คิดไม่ถึงว่าพวกคุณจะรู้จักกัน ฉันคิดว่าหยาเอินหมดสติ พวกคุณเลยยังไม่รู้จักกัน จริงสิ นี่ค่ะ”
อันซียื่นกระดุมเสื้อสูทที่เคยทำของเยี่ยนเจ๋อหลุดหายที่โรงพยาบาลคืนให้ เยี่ยนเจ๋อแปลกใจมาก
“คุณหาเจอแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเจอสมบัติของผมอยู่ที่หมู่บ้านภูล่าน”
ระหว่างนั้นยิ่วเชียนเดินลงมา เขาทำหน้านิ่งๆ เมื่อเห็นเยี่ยนเจ๋อ แม้ว่าเขาจะแปลกใจมาก เยี่ยนเจ๋อทำเฉยๆ ไม่กระโตกกระตาก อันซียังคงพูดไปเรื่อย
“ฮิ สมบัติอะไรกัน จริงสิ คุณกระดุม คิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นช่างภาพ ชอบถ่ายภาพไปทั่ว ถ่ายจนมาถึงหมู่บ้านของเรา โชคชะตาช่างมหัศจรรย์จริงๆ”
“คุณลิงพูดถูกครับ เพราะบางคนโชคชะตากำหนดให้เจอกันในเวลาและสถานที่ที่ไม่คาดคิด โชคชะตาน่าสนใจอย่างนี้แหละ” เยี่ยนเจ๋อเงยหน้าไปมองยิ่วเชียน
“โชคชะตาอะไร”
ยิ่วเชียนหันไปถามอันซี อันซีมองสบตาแล้วพยายามหลบตา
“ก็คือ ตอนอยู่โรงพยาบาล คุณกระดุมเคยช่วยเหลือหยาเอินไว้”
“คุณกระดุม คุณไม่มีชื่อเหรอ” ยิ่วเชียนยิ้มๆ
เยี่ยนเจ๋อยิ้มตอบ “อ้อ เรียกผมว่าเยี่ยนเจ๋อก็ได้ครับ”
“เยี่ยนเจ๋อเหรอ ชื่อเพราะดีนี่” อันซีชม
“เยี่ยนเจ๋อ คุณไม่มีแซ่เหรอ พวกคุณสนิทกันแล้วเหรอ ถึงได้เรียกชื่อกันแล้ว” ยิ่วเชียนกระแนะกระแหนอันซี
อันซีทำหน้าเบื่อหน่าย พยายามหลับตาไม่อยากสบตายิ่วเชียน
“ก่อนหน้านี้คุณก็ให้ฉันเรียกว่า”
อันซีไม่ยอมพูดต่อ หันไปมองหน้าเยี่ยนเจ๋อ
“หวัดดีค่ะ ฉันชื่ออันซี ชื่อจริงชื่อเล่นเรียกเหมือนกัน พ่อฉันตั้งชื่อนี้เพื่อให้ฉันมีเพื่อนมากๆ”
“ดีครับ งั้นคุณเรียกผมว่าเยี่ยนเจ๋อก็ได้ ถึงตอนนี้ยังไม่สนิท เรียกไปเดี๋ยวก็สนิทกันเอง”
เยี่ยนเจ๋อหันไปยิ้มยั่วยิ่วเชียน ยิ่วเชียนเริ่มไม่พอใจ กอดอกมอง อันซีพูดไปเรื่อย
“นั่นน่ะสิ ฉันว่านะเยี่ยนเจ๋อ ในเมื่อเราเป็นเพื่อนกันแล้ว ฉันขอเสียมารยาทถามคุณหน่อย คุณคิดจะอยู่หมู่บ้านภูล่านนานมั้ย”
“อื่ม คิดว่า จะอยู่ไปเรื่อยๆ”
“ดีจังเลย คุณเป็นช่างภาพเหรอ บ้านพักของเราต้องการถ่ายรูปลงเว็บไซต์พอดี จำเป็นต้องใช้รูปถ่ายบางส่วนลงในเว็บไซต์ ไม่ทราบว่า คุณยินดีช่วยเหลือมั้ย ถ้าจะให้ดีต้องลดราคาหน่อยนะ”
ยิ่วเชียนไม่พอใจหันไปเสียงดังใส่อันซี
“อันซี ฉันจะช่วยหาช่างภาพมืออาชีพ”
“ช่างภาพมืออาชีพอยู่ตรงนี้แล้วไง”
“เรื่องราคาไม่มีปัญหา” เยี่ยนเจ๋อบอก
“จริงเหรอคะ”
“อื้ม แต่บ้านพักของคุณยินดีให้ผมพักฟรีมั้ย”
“ไม่มีปัญหาค่ะ ได้เลย”
ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าอันซีอย่างไม่พอใจ ที่ตกลงให้เยี่ยนเจ๋อพัก
“ดี ตกลง”
“ตกลง”
เยี่ยนเจ๋อยื่นมือไปจับกับอันซีเมื่อตกลงกันได้
ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าเยี่ยนเจ๋ออย่างไม่พอใจ
อ่านต่อหน้า 2
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่13 (ต่อ)
เยี่ยมเจ๋อเดินออกมายังรถซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านพักของอันซี เพื่อหยิบกระเป๋า ยิ่วเชียนตามออกมา
“หัวหน้าส่งนายมาใช่มั้ย”
“อันซีคนเมื่อกี้ เป็นรักแรกของนายสินะ”
“หัวหน้ายังไม่เชื่อใจฉัน นายเลยมาจับตาดูฉันใช่มั้ย”
ยิ่วเชียนถามเครียดๆ เยี่ยนเจ๋อไม่ยอมตอบอะไร
จื้อหลิงพาเยี่ยนเจ๋อมาที่ห้องพัก อย่างอารมณ์ดี
“แถ่นๆ แต่เดิมห้องนี้คือสไตล์บ้านนอก แต่ตอนนี้การมาเยือนของคุณ ทำให้มีกลิ่นอายของหนุ่มคาวบอย เคยมีคนบอกมั้ยว่า คุณหน้าตาคุ้นๆ ฉันรู้สึกว่าคุณเหมือนเพื่อนสมัยประถมของฉันเลย”
“เธอพูดอย่างนี้อยากให้ฉันถามอายุเธอใช่มั้ย”
“เอ่อ ไม่ใช่ๆๆ ฉันอายุยังน้อยนะ”
ระหว่างนั้นหยาเอินวิ่งถือตะเกียงน้ำมันหอมระเหยร้อนๆ เข้ามาแทรกกลางระหว่างสองคน
“โอ้ยร้อนๆๆ”
“โธ่เอ๊ย ทำไมเธอจุดไฟจากชั้นล่างล่ะ รีบไปล้างมือเร็ว” จื้อหลิงดุอย่างเป็นห่วง
หยาเอินมือพอง เยี่ยนเจ๋อรีบพาเธออกไปเปิดก๊อกน้ำล้างมือ
“เด็กโง่ ทำอย่างนี้อันตรายนะ”
“ฉัน ฉันกลัวว่าคุณนอนที่นี่จะไม่คุ้นเคย น้ำมันหอมระเหยจะช่วยทำให้หลับสบาย ขอบคุณมากที่ช่วยฉันที่โรงพยาบาล”
“เล็กน้อยน่า รู้สึกดีขึ้นมั้ย”
“อื้ม”
“มา”
เยี่ยนเจ๋อหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดมือให้หยาเอิน จื้อหลิงมองแล้วพึมพำตัดพ้อ
“แม่ ทำไมแม่ต้องคลอดฉันออกมาตัวใหญ่อย่างนี้ด้วย มือก็ใหญ่ เท้าก็ใหญ่ โตจนป่านนี้แล้ว ยังไม่มีใครเห็นคุณค่าฉันเลย” จื้อหลิงเศร้า
เหม่ยเหวินกับอันซีหมุนตัวกันไปมาเมื่อได้แต่งเนื้อแต่งตัวเตรียมถ่ายรูป
“ไม่ได้แต่งตัวมานานแล้ว”
“พี่เหม่ยเหวินดูสิ เสื้อคลุมตัวนี้สวยมั้ย”
“มาหมุนให้ฉันดูหน่อย ว้าว สวยไม่มีที่ติเลยล่ะ เถ้าแก่เนี้ยบ้านพักละแวกนี้เธอสวยที่สุด”
“ฮิๆๆ แต่แถวนี้มีบ้านพักเราหลังเดียวนะ”
“เอ๊ะ จริงด้วย เดี๋ยวต้องบอกให้ช่างภาพถ่ายรูปให้เราสวยๆ นะ”
“แน่นอนสิ นานๆ จะได้ถ่ายรูปสักครั้ง”
“ใช่”
ระหว่างนั้นจื้อหลิงใส่ยาที่แผลให้หยาเอิน
“เฮ้อ โชคดีที่เป็นแค่รอยแดง เธอนี่ ทำไมถึงจุดไฟก่อนล่ะ ต้องเอาน้ำมันหอมขึ้นไปก่อนแล้วค่อยจุดไฟสิ ทำอย่างนี้ไม่เพียงเจ็บตัว แต่ยังต้องไปส่งถึงสองครั้งด้วย”
“ไม่ใช่นะ เรา”
เสียงเหม่ยเหวินดังขึ้น
“ช่างภาพมาแล้ว”
อันซีพูดสวน “ช่างภาพมาแล้ว ไฮ เยี่ยนเจ๋อ”
“ไฮ”
“เราเตรียมตัวพร้อมแล้ว” เหม่ยเหวินบอก
“ไปเถอะๆๆ” อันซีบอก
“รีบไปถ่ายกันเถอะ”
เหม่ยเหวินกับอันซีรีบออกไปกับเยี่ยนเจ๋อ จื้อหลิงหันมาบอกหยาเอิน
“ฉันหมายถึงให้ฉันขึ้นไปส่งสองครั้งมันเสียเวลา ไปๆๆ ไปถ่ายรูป”
จื้อหลิงยิ้มๆ ออกไปกับหยาเอิน
เยี่ยนเจ๋อตั้งกล้องจะถ่ายแล้วแปลกใจ เมื่อเห็นการโพสท่าของสี่สาว ราวกับจะไปเอาเรื่องใคร
“ไม่ใช่ๆๆ พวกเธอควรคิดหัวข้อของบ้านพักก่อน และท่าโพสต์ตอนนี้ของพวกเธอ ควรสอดคล้องกับหัวข้อที่จะถ่ายด้วย”
“ใช่ ตอนนี้เราให้ความร่วมมือดีแล้ว” เหม่ยเหวินบอก
“หัวข้อของบ้านพักเราคืออบอุ่น” อันซีอธิบาย
“ใช่ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี” จื้อหลิงบอก
“เป็นกันเอง” หยาเอินพูดเป็นคนสุดท้าย
“ดี งั้นพวกเธอต้องอยู่ใกล้ๆ กันหน่อย มาคุณยืนตรงนี้ แล้วมือของเธอพาดไว้ที่ไหล่ของเขา มาครับ มองกล้องนะ พาดไว้ที่ไหล่นะ ใกล้ๆ กันหน่อย ดี แบบนี้ดีแล้ว”
“ฮิๆๆ” จื้อหลิงขำ
“ดี ลองดูนะ ยัยตัวเล็กเธอไม่มีส่วนร่วมด้วยเลย มายืนตรงกลาง”
“ขอโทษค่ะ ยืนตรงกลาง” เหม่ยเหวินมายืนข้างหน้า
เยี่ยนเจ๋ออ่อนใจ “ไม่ใช่เธอ คนที่มัดแกะสองข้าง”
“หยาเอิน ไม่ใช่เธอ” จื้อหลิงว่าเหม่ยเหวิน
“เธอไง มายืนตรงนี้ มา” อันซีจับหยาเอินมายืนข้างหน้า
“เรียบร้อย ถ่ายนะ ยิ้มหน่อยครับ ยิ้มสดใส หนึ่งสองสาม ดีมาก อีกรูป อีกรูปๆๆ”
เยี่ยนเจ๋อถ่ายรูปน่ารักสดใสของทั้งสี่สาว
“อีกรูปๆๆ ดีมาก ดีมากเลย งั้นเรามาถ่ายรูปเดี่ยว”
“รูปเดี่ยว”
“เยี่ยนเจ๋อ ถ่ายฉันก่อนๆ” จื้อหลิงบอก
ระหว่างนั้นยิ่วเชียนออกมายืนมองอยู่บนระเบียง เยี่ยนเจ๋อเห็นจึงดึงมืออันซีมา
“เถ้าแก่เนี้ยก่อนดีกว่า”
“แต่ฉันยังไม่พร้อมเลย”
“ไม่มีปัญหา มาครับ”
เพื่อนให้กำลังใจอันซี
“ตรงนี้ ดี ตรงนี้”
เยี่ยนเจ๋อดึงอันซีออกมาตรงมุมที่ยิ่วเชียนเห็นได้ชัด แล้วบอกกับหญิงสาว
“คุณตื่นเต้นเกินไปแล้ว ปล่อยไหล่ผ่อนคลาย ผ่อนคลาย ดีผ่อนคลายๆๆ คอผ่อนคลายอย่าเกร็ง โอเค คางผ่อนคลาย ปากผ่อนคลาย สายตาก็ผ่อนคลาย โอเคมั้ย”
ยิ่วเชียนเห็นเยี่ยนเจ๋อถูกเนื้อต้องตัวจัดท่าให้อันซีก็ไม่พอใจ บีบหนังสือในมือแน่น
“โอเคค่ะ ฮิๆๆ”
“ลองดูนะ”
อันซีโพสต์ท่าไปเรื่อยๆ
“ดีมาก เอาล่ะ ถ่ายนะ มองที่ผม มา มองกล้อง หนึ่ง สอง สาม”
อันซียิ้มแล้วชะงักเมื่อเงยหน้าขึ้นไปเห็นยิ่วเชียนยืนมองเออยู่ อันซีพยายามหลบตา เยี่ยนเจ๋อสังเกตเห็น เขามาจับตัวอันซีจัดท่า ยิ่วเชียนมองไม่พอใจ
“มา ยิ้มสดใสหน่อยอันซี ดี ดีมาก หนึ่ง สอง สาม คุณตื่นเต้นอีกแล้ว ทำตัวผ่อนคลายๆๆ โอเค มองผม ดีมาก เปลี่ยนท่าใหม่ ดีมาก”
หลังจากนั้นเยี่ยนเจ๋อก็ถ่ายเหม่ยเหวิน จื้อหลิง จนมาถึงหยาเอิน
“หยาเอิน เงยหน้ามองฉัน ดีมาก”
อันซีเข้ามาช่วยพูด
“หยาเอิน มองมาที่พี่ทางนี้ ทางนี้ กูจีกูจี”
ทุกคนให้กำลังใจ หยาเอินจึงถ่ายรูปออกมาน่ารักมาก จากนั้นเยี่ยนเจ๋อก็มาถ่ายรูปเดี่ยวอันซีอีก
“อันซี ถ่ายนะ ถ่ายอีกหลายๆ รูป หนึ่ง สอง สาม เดี๋ยวก่อนๆ จัดหน่อย ผมยุ่งนิดหน่อย เอามาข้างหน้า ดี”
เยี่ยนเจ๋อเข้าไปจัดผมให้อันซี ยิ่วเชียนมองไม่พอใจมาก
“ขอบคุณค่ะ”
“ดีมาก สวย ดี หนึ่ง สอง สาม ไม่เลวนะอันซี ถ่ายออกมาสวยมาก”
อันซีเงยหน้าไปเห็นยิ่วเชียนอีก เขามองลงมาหาเธอเช่นกัน
“อันซี มา ยิ้มสดใสหน่อย ยิ้มสดใสนะ มองผมๆ อันซี”
อันซียังเงยหน้ามองยิ่วเชียนอยู่ ระหว่างนั้นเหม่ยเหวินเข้ามาขัดจังหวะ จัดผมให้อันซีใหม่
“ขอโทษทีค่ะฉันปรับให้หน่อย”
เหม่ยเหวินทำทีเข้ามาปรับผมให้อันซี แล้วแอบกระซิบ
“นี่ไม่ต้องมองแล้ว ชัดเจนเกินไปแล้ว”
“ไม่ใช่นะ”
“ใช่เลย”
จื้อหลิงเข้ามาจัดผม พลางกระซิบอันซี
“ผมข้างนี้ยุ่งมากฉันจัดการให้ เธอชัดเจนจนฉันยังมองออกเลยนะ”
“ไม่จริงหรอก”
เยี่ยนเจ๋อเหลือบไปมองยิ่วเชียน ยิ่วเชียนเซ็งเดินถือหนังสือจะไปจากระเบียง แต่ชะงักเมื่อได้ยินเยี่ยนเจ๋อถามขึ้น
“ทางโน้นคืออะไร”
อันซีรีบบอก “อ้อ นั่นเป็นสถานที่อาบน้ำของห่านที่เราเลี้ยงไว้”
“มีห่านด้วยเหรอ อยู่ไหน”
ยิ่วเชียนหันมามองว่าเยี่ยนเจ๋อจะทำอะไรอีก
“อยู่ข้างหลัง เยี่ยนเจ๋อคุณรอตรงนี้นะฉันจะไปไล่มาให้คุณดู ห่านจ๋า” จื้อหลิงวิ่งออกไป
เหม่ยเหวินบ่น “เยี่ยนเจ๋อ เรียกซะสนิทสนมเชียว”
เยี่ยนเจ๋อเหลือบมองยิ่วเชียนยิ้มๆ ยิ่วเชียนแปลกใจ
“ขอโทษค่ะพวกคุณถ่ายต่อเลย”
เหม่ยเหวินบอกแล้วเดินออกไป อันซีเงยหน้าขึ้นไปมองยิ่วเชียนอีก
“แล้วนั่นล่ะ” เยี่ยนเจ๋อถาม
“อ้อ อันนี้เหรอ เป็นเรือที่หยาลู่ทำ”
อันซีเดินนำไปดู ยิ่วเชียนมองตาม พลางคิดประชดเยี่ยนเจ๋อ
“รู้จักสร้างโอกาสจริงๆ นะ”
อันซีอธิบาย “หยาลู่เป็นพี่ชายของหยาเอิน เขาเป็นครูศิลปะของโรงเรียนประถมที่นี่ เขามาช่วยงานที่บ้านพักบ่อยๆ”
“ว้าว เก่งมากจริงๆ”
ยิ่วเชียนมองๆ แล้วเดินจากระเบียงเข้าห้องไป เยี่ยนเจ๋อเหลือบไปมองยิ้มๆ อันซีเหลือบไปมองบ้าง แต่ยิ่วเชียนหายไปแล้ว
เธอพยายามมองหาเขาเมื่อไม่เจอก็มีสีหน้าเศร้า
อ่านต่อหน้า 3
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่13 (ต่อ)
ยิ่วเชียนนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง เห็นเยี่ยนเจ๋อกลับเข้ามาก็รีบวางหนังสือนั่งเฉยๆ เยี่ยนเจ๋อเดินมาเห็นหนังสือวางอยู่ ก็เข้าไปหยิบมาเปิดดู
“ว้าว อ่านหนังสือเยอรมันซะด้วย”
“นายกำลังทำอะไร”
“วิธีควบคุมอารมณ์ของนายนี่แปลกจริงๆ แต่ถ้านายไม่มากินข้าวเย็นด้วยกัน น่าเสียดายแย่ พวกเขาต้อนรับฉันอย่างอบอุ่น คนที่นี่ช่างอบอุ่นจริงๆ”
“นายมาจับตาดูฉันไม่ใช่เหรอ ทำเรื่องที่นอกเหนือจากนี้ทำไม”
“นายพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก ฉันมาถึงสถานที่ลำบากอย่างนี้แล้ว ก็ต้องหาอะไรสนุกทำหน่อยสิ ฉันรู้แล้วว่าทำไมนายถึงชอบผู้หญิงชื่ออันซี เพราะว่าเธอแตกต่างกับนายมาก สิ่งที่นายสงสัยเธอก็เชื่อ สิ่งที่นายกลัว เธอก็ไม่สนใจ เธอมีชีวิตที่สบายกว่านายเยอะเลย แน่นอนว่า สบายกว่าฉันด้วย ดังนั้น ถ้ามีแฟนแบบผู้หญิงคนนี้ ถือว่าไม่เลวนะ ฉันอยากลองมีความรักสั้นๆ ในช่วงฤดูร้อนซะหน่อย”
“ห้ามแตะต้องอันซี”
“ทำไม เธอน่ารักมากนะ”
ยิ่วเชียนโมโหลุกขึ้นมองหน้าเยี่ยนเจ๋อ
“ฉันจะบอกนายนะ อย่าคิดแม้แต่จะหลอกลวงอันซี”
เยี่ยนเจ๋อยิ้มกวนๆ ให้ ยิ่วเชียนจ้องเขม็ง ก่อนจะหยิบหนังสือเดินออกไป เยี่ยนเจ๋อมองตามยิ้มๆ
“เซี่ยยิ่วเชียนวิตกกังวลเรื่องอันซีขนาดนี้ เฮ้อ หูหย่งชิง แบบนี้เธอยังไม่กังวลอีกเหรอ” เยี่ยนเจ๋อส่ายหัวขำๆ
อันซีกับเหม่ยเหวินช่วยกันเก็บจานล้าง อันซีถามขึ้น
“จื้อหลิงพาหยาเอินกลับบ้านแล้วเหรอ”
“ใช่ เฮ่อ พูดถึงยัยจื้อหลิงไอคิวต่ำ หัวใจของเขาทำงานได้เร็วมาก ช่วงก่อนยังเรียก คุณเซี่ยๆ อยู่ทุกวัน ไม่ทันไรก็เปลี่ยนมาเรียกเยี่ยนเจ๋อแล้ว เยี่ยนเจ๋อๆๆ หมั่นไส้จริงๆ”
“โธ่เอ๊ย ใช่ว่าเธอไม่รู้ ชื่นชมหนุ่มหล่อเป็นการทำงานของจื้อหลิงนี่นา”
“แต่ฉันคิดว่า เขาตั้งใจปั้นหน้ายิ้มให้ผู้ชาย ไม่รู้สมองคิดอะไรอยู่”
“จริงด้วย ไม่เคยได้ยินเขาพูดว่าเคยมีความรักกับใคร หรือว่า ความจริงแล้ว เขาก็เกลียดความรัก”
“เกลียดอะไร วันๆ ฉันได้ยินแต่เยี่ยนๆๆ จนหูอื้อไปหมดแล้ว เยี่ยนเจ๋อๆ เขาไม่มีแซ่เหรอ หมั่นไส้”
อันซีชะงัก “นี่ เยี่ยนเจ๋อ ทำไมชื่อนี้คุ้นหูมาก”
“งั้นเหรอ”
“อย่าบอกนะว่า พี่เหม่ยเหวิน ตรงนี้ฉันฝากหน่อยนะ ฉันขึ้นข้างบนก่อน”
อันซีรีบวิ่งไปเคาะประตูห้องยิ่วเชียน ชายหนุ่มนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
“ฉันเปิดประตูเข้าไปนะ”
อันซีเข้าไป ยิ่วเชียนรีบลงบันไดมา อันซีไม่ทันมองวิ่งสวนขึ้นไป แล้วชะงัก ยิ่วเชียนยิ้มๆ
“ขอโทษค่ะ ฉันขึ้นไปเอาของหน่อย ขอทางหน่อย”
“เธอขึ้นไปสิ”
ยิ่วเชียนบอกให้ขึ้น แต่เขาเดินลงมาปิดทาง อันซีขึ้นไม่ได้ ต้องถอยลงมาทีละขั้น
“นี่ เซี่ยยิ่วเชียน คุณยืนอยู่ฉันขึ้นไปไม่ได้”
“ผ่านฉันไปก็ขึ้นได้แล้ว”
“แต่ทางชันมากนะ”
“ทางชัน ฉันไม่ได้เป็นคนออกแบบให้ชันนี่”
“โธ่คุณหลบไปสิ”
ยิ่วเชียนรุกอันซีไปจนติดผนังห้อง แล้วเอามือทั้งสองกั้นไม่ให้เธอหนี พลางจ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง อันซีพยายามหลบตา
“มาคุยกับฉันให้รู้เรื่องก่อน”
“จะคุยอะไรอีกล่ะ”
“วันนี้ตอนที่ถ่ายรูป เธอกับช่างภาพใกล้กันเกินไปแล้ว เธอรู้สึกมั้ย”
“ฉันรู้สึกแต่ว่า ตอนนี้คุณเข้าใกล้ฉันมาก”
“ฉันอยากคุยเรื่องนี้กับเธอมานานแล้ว เธอรู้มั้ย กฎจราจรบนถนนมีระยะความปลอดภัยในการขับขี่ยังไง”
“ระยะความปลอดภัยอะไร”
“ความเร็วเฉลี่ยหารด้วยสอง เธอต้องรักษาระยะห่างความปลอดภัยของรถ นั่นก็คือ เมื่อเธอเร่งความเร็วต่อชั่วโมง เธอต้องรักษาระยะห่างความปลอดภัย 50 เมตร”
“แต่ว่า”
“แต่ระยะห่างนี้ยังไม่พอ เท่าที่ศึกษามา ปฏิกิริยาของมนุษย์รับรู้ประมาณ 2 วินาที คือภายใต้สถานการณ์ความเร็วต่อชั่วโมงนั่นก็คือเธอใช้เวลา 2 วินาทีในการรับรู้ เมื่อรถของเธอหยุดนิ่งแล้ว 55.6 เมตร”
“แต่ว่าปกติฉันไม่ขับรถนี่”
“ฉันอยากให้เธอรู้ว่า ทุกอย่างในโลกนี้ ควรต้องรักษาระยะความปลอดภัย โดยเฉพาะ ในหมู่มนุษย์”
ยิ่วเชียนยื่นหน้าเข้าไปใกล้อันซีมาก อันซีหลับตา กลัว
“คุณจะทำอะไร”
“ฉันอยากให้เธอรู้ว่า เมื่ออยู่ในระยะห่างแบบนี้ เธอควรระมัดระวังตัว”
อันซีไม่อยากสบตาชายหนุ่ม
“อี๊ ใครจะเข้าใกล้ฉันขนาดนี้ล่ะถอยไป”
อันซีผลัก และศอกใส่ท้องยิ่วเชียน ก่อนรีบขึ้นไปหยิบของ เป็นซองกระดาษ อันซีรีบวิ่งลงมา ยิ่วเชียนเข้าไปขวาง
“อันซี”
“ถอยไป”
อันซีชนยิ่วเชียนจนล้ม แล้ววิ่งหนีไป
“อันซี ช่างภาพคนนั้นเจ้าชู้ เธอต้องระวังเขาด้วยนะ”
“คุณน่ะสิเจ้าชู้”
“โอย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้ เธอก็ยังต่อต้านฉันเหมือนเดิม โอย”
ยิ่วเชียนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ
อันซีวิ่งหนีเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ ทำฉันตกใจหมดๆ โชคดีที่ฉันควบคุมได้ ไม่งั้นคงแย่แน่ เฮ่อ รักษาระยะห่างอะไร คนที่ควรรักษาระยะห่างคือคุณมากกว่า”
อันซีรีบเปิดจดหมายในซองมาดู เห็นชื่อลงท้ายจดหมาย
“ใช่แล้ว หูเยี่ยนเจ๋อ”
อันซีนึกถึงเรื่องในอดีตสมัยเธอเป็นนักเรียนมัธยม ผู้ใหญ่บ้านถือกล่องกระดาษมาร้องเรียก
“อันซี อันซีๆ”
“ใครนะ ผู้ใหญ่บ้าน”
“อันซี บุรุษไปรษณีย์ฝากให้ฉันเอามาให้เธอ”
“นี่คืออะไร”
“ฉันก็ไม่รู้”
“สมาคมการดูแลเด็กแห่งเอเชีย แม่ นี่เป็นของแม่ วันนี้วันเกิดอายุ 18 ของฉัน พ่อบอกว่าแม่ต้องกลับมา ต้องเป็นของขวัญที่แม่ส่งมาแน่”
อันซีรีบเปิดกล่องออกดู
“ว้าว เอ๊ะ ของขวัญเยอะมากเลย เอ๊ะ นี่คืออะไร เป็นอะไร” ผู้ใหญ่บ้านงง
อันซีอึ้ง หยิบของขวัญกล่องเล็กๆ ที่บรรจุในกล่องใหญ่มาขึ้นมาดู
“นี่เป็นของขวัญ ที่ฉันส่งไปให้แม่ทุกปี”
“ถูกตีกลับมาหมดเลยเหรอ”
อันซีหยิบจดหมายที่ใส่มาในกล่องขึ้นมาเปิดอ่าน
“ที่อยู่นี้ไม่มีคนที่เธอต้องการตามหา ตอนนี้ไม่มีใครช่วยเธอดูแลของขวัญพวกนี้แล้ว กรุณาอย่าส่งอะไรมาที่นี่อีก หูเยี่ยนเจ๋อ”
“พ่อๆ” อันซีดโกรธมาก ร้องเรียก
“อันซี”
“อันติงหยวน ๆ ออกมาเดี๋ยวนี้”
“อันซีใจเย็นๆ ก่อน”
“อันติงหยวน ๆ ๆ”
“อันซี”
“อันติงหยวน”
“ใจเย็นๆ ก่อน”
อันซีเดินไปรอบบ้าน เรียกชื่อพ่อ ผู้ใหญ่บ้านพยายามปลอบ ติงหยวนเปิดประตูบ้านเข้ามา
“อันติงหยวน เรียกทั้งแซ่และชื่อของพ่อตัวเองอย่างนี้ ไร้มารยาท”
อันซีจ้องมองติงหยวนอย่างโกรธๆ
“เป็นอะไร ไม่เคยเห็นหนุ่มหล่ออย่างนี้มาก่อนใช่มั้ย”
อันซีเมินหน้า ผู้ใหญ่บ้านใช้สายตาบอกติงหยวนให้ดูของขวัญในกล่อง ติงหยวนเดินไปดูที่อยู่หน้าซอง
“ไม่มีคนคนนี้ สมาคมที่พ่อบอกไม่มีคนชื่อนี้”
“หลายปีมานี้เธอส่งของขวัญเหล่านี้ไปให้แม่เหรอ”
“ทำไมหนูจะส่งไม่ได้ เขาเป็นแม่ของหนู ทำไมจะส่งไม่ได้”
“ลูกรัก ลูกฟังพ่อนะ”
อันซีน้ำตารื้น “ถ้าสมาคมที่พ่อบอกไม่มีคนชื่อนี้ แล้วแม่หนูอยู่ไหน แม่ที่มีอิทธิพลกับพ่ออยู่ที่ไหน แม่ที่เป็นนางฟ้า ทำแต่ความดีอยู่ที่ไหน”
ติงหยวนเศร้าไม่แพ้กัน
“หลังจากแม่คลอดลูกแล้ว เขาก็จากไป”
“แม่ไปไหน เขาไม่บอกเหรอ ทำไมพ่อไม่ถาม” อันซีเสียงดังใส่
“หลังจากแม่คลอดลูกแล้วเขาก็หายตัวไป ฉันไม่ถามเหรอ แกจะให้ฉันถามอากาศเรอะ” ติงหยวนเสียงดังใส่ลูกสาวด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเช่นกัน
อันซีเศร้า ขยำจดหมายในมือ
“พ่อหมายความว่า แม่คลอดหนูแล้ว ก็ไม่ต้องการหนูแล้ว ตอนนั้นพ่อบอกหนูว่า แม่ของหนูยิ่งใหญ่มาก เขากำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และบอกให้หนูรอเขานี่”
“ลูกพ่อ ตั้งแต่ลูกยังเด็ก พอถึงวันแม่ของทุกปี ลูกก็ถามพ่อว่าแม่อยู่ไหน ถึงวันปีใหม่ ลูกก็ถามพ่อว่า ปีนี้แม่จะกลับมากินข้าวส่งท้ายปีใหม่กับเรามั้ย เดินๆ อยู่ลูกเห็นเด็กคนอื่นจับมือแม่ไว้ก็ถามหาแม่อีก โรงเรียนเปิดเทอม งานกิจกรรม งานวันแม่ ลูกจะถามหาแม่ทุกครั้ง”
อันซีร้องไห้หนัก “เปิดเทอม งานกิจกรรมงานวันแม่ หนูคาดหวังมาก พ่อคงคิดว่าหนูโง่มากใช่มั้ย แม่หนูเหมือนนางฟ้า แม่ทำความดีมากมาย แม่จะออกทีวี ถ้านักข่าวถามเขาว่า อะไรทำให้คุณมีแรงบันดาลใจ เขาก็จะพูดว่า ฉันเห็นเด็กเหล่านี้เป็นเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง ดังนั้นฉันจึงมอบความรักให้พวกเขา ที่ฉันตั้งใจทำงาน ก็เพื่อขอบคุณเสี่ยวอันซีของฉัน พ่อได้ยินหนูพูดแบบนี้คงคิดว่าหนูโง่มากใช่มั้ย หนูหวังมากขนาดนี้ เรื่องอายุครบ 18 แม่ของหนูจะกลับมา พ่อก็โกหกหนูใช่มั้ย”
“ตอนนี้ลูกอายุ18 แล้ว ลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แม่ของลูก”
“ยังจะพูดถึงแม่อีกเหรอ ทั้งหมดนี้คือคำโกหกของพ่อใช่มั้ย คนโกหก ๆ โกหกโดยไม่รู้สึกละอายสักนิด”
อันซีโกรธจัดผลุนผลันออกไปหน้าบ้านก็เจอยิ่วเชียนยืนรออยู่ พลางส่งขวดน้ำตานางฟ้าให้
“ฉันให้เธอ”
“อะไร”
“น้ำตานางฟ้าไง”
อันซีนึกมาถึงตรงนี้ ก็มองจดหมายนั้นอีกครั้งพร้อมกับบ่นงึมงำ
“คนชื่อเยี่ยนเจ๋อ คงมีไม่มากหรอก จะเป็นเยี่ยนเจ๋อคนนี้รึเปล่านะ”
อ่านต่อหน้า 4
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่13 (ต่อ)
อันซีเดินถือจดหมายมาถึงหน้าห้องพักเยี่ยนเจ๋อ จะเคาะประตูห้องแล้วชะงัก
“ดึกมากแล้ว เขาคงหลับแล้วล่ะ เฮ่อ ถ้าไม่ได้ยืนยัน แล้วคืนนี้ฉันจะนอนหลับได้ไง ถ้าใช่เขาจริงล่ะก็ ฉันกับแม่ อาจจะติดต่อกันได้สินะ”
เยี่ยนเจ๋อเปิดประตูออกมา
“มีอะไรเหรอ”
“เอ๊ะ คุณจะออกไปเหรอ”
“ใช่ นอนไม่หลับ ว่าจะออกไปรับลม เผื่อจะจับภาพบรรยากาศโรแมนติกกลางคืนของหมู่บ้านภูล่านได้บ้าง”
“อ๋อ”
อันซีมองหน้าเยี่ยนเจ๋อไม่ละสายตา
“ผมรู้ว่าผมหน้าตาใช้ได้ แต่ถ้าคุณมองผมอย่างนี้ ผมก็กลัวเหมือนกันนะ”
“เฮ่อ ไม่ใช่ค่ะ ฉันอยากถามอะไรคุณหน่อย แต่ฟังดูอาจจะแปลกนิดหน่อย”
“แปลกกว่าเรื่องที่คุณมายืนอยู่หน้าห้องผมรึเปล่า”
“อาจเป็นไปได้”
“ถามมาสิ”
“ไม่ทราบว่า จดหมายฉบับนี้ คุณเป็นคนเขียนรึเปล่า”
เยี่ยนเจ๋อมองจดหมายด้วยความแปลกใจ
“นี่คือลายเซ็นของผมจริงด้วย”
“จริงๆ เหรอ”
“ใช่”
“ดีจังเลย”
เยี่ยนเจ๋อกับอันซีมานั่งคุยกันที่โต๊ะ
“คิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นเด็กที่ส่งของขวัญไปให้แม่”
“นั่นสิ ช่างบังเอิญมาก เดิมทีฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ว่า ในใจฉันยังแอบหวังเล็กน้อย”
“เฮ่อ คุณรู้มั้ย ผมเคยคิดว่าเด็กสาวที่ส่งของขวัญมาหน้าตาจะเป็นยังไง ไม่คิดว่าผ่านมาหลายปี จะมาเจอตัวจริง”
“ฉันอยากบอกว่า คนที่ตีกลับของขวัญของฉัน ต้องเป็นผู้ใหญ่แน่ๆ แต่ความจริงแล้วยังหนุ่มอยู่เลย”
“ตอนนั้นผมอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ดังนั้นถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว”
“แต่ตอนนั้น ฉันอยู่ม.ปลายแล้ว ไม่ใช่เด็กสาวแล้วนะ”
ทั้งสองหัวเราะ
“ดังนั้น ต่อมาคุณตามหาแม่เจอมั้ย”
อันซีส่ายหัวเศร้าๆ เยี่ยนเจ๋อมองอย่างเห็นใจ แล้วอันซีก็ชี้ไปที่กล้อง5jkpi^x
“ฉันยืมหน่อยค่ะ”
“ได้สิ อ่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
อันซีลองถ่ายรูปดู
“เอ๊ะ แปลก ทำไมดวงจันทร์มัวอย่างนี้”
“ดวงจันทร์อยู่ไกลคุณต้องปรับกล้องก่อน มาผมช่วย ดูนะ ตอนนี้คุณค่อยๆ กดชัตเตอร์ มันจะโฟกัสอัตโนมัติ”
“จริงด้วยแฮะ เฮ่อ ถ้าชีวิตคนเราสามารถโฟกัสได้ก็คงดี ไม่ว่าไกลยังไง แค่ได้เห็นคนที่เราอยากเห็น ก็คงดี”
เยี่ยนเจ๋อขรึมๆ ลง “ความจริง ที่ผมได้รับของขวัญจากคุณก็เพราะกล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายรูปนั้น พ่อให้ผมหลังจากวันเกิดไม่กี่วัน และเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายของพ่อ ก่อนท่านจะจากไป”
“ปีที่คุณส่งของขวัญกลับมาให้ฉันเหรอ”
“ใช่ ก่อนท่านจะเสีย ท่านเป็นแพทย์อาสาสมัครของสมาคมการดูแลเด็กแห่งเอเชีย วันหนึ่ง ผมไปงานศพของท่าน จากนั้นผมก็ได้รับของขวัญจากสาวแปลกหน้าจำนวนมาก”
“นั่นเป็นเพราะเขาเป็นคนดี ไม่งั้นจะมีเด็กสาวโง่คนหนึ่ง ส่งของขวัญไปให้แม่ไม่เคยขาดทั้งที่ไม่เคยเห็นและก็ไม่ได้ทำงานอยู่ที่นั่น เขากลัวเด็กสาวจะเสียใจจึงรับของขวัญเหล่านี้ไว้”
“ท่านเหรอ อาจเป็นเพราะไม่ชอบความวุ่นวาย เมื่อท่านถูกงานอาสาสมัครครอบงำเกินไป แม่ผมต้องการหย่ากับท่าน ท่านก็ยอมหย่า โดยไม่สนใจผม ท่านเป็นห่วงแต่เด็กคนอื่น แต่ไม่เคยดูแลสนใจลูกตัวเอง”
“คุณเหมือนฉันเลย แม้ว่า จะมีคนมากมายเป็นห่วง แต่บางครั้งก็รู้สึกเหงาใช่มั้ย”
เยี่ยนเจ๋อยิ้มๆ เห็นด้วยที่ทั้งสองมีโชคชะตาเดียวกัน เขาหันไปหยิบถ้วยกาแฟมา
“ชนแก้ว”
“ก็เอาสิ”
ทั้งสองชนแก้วแล้วดื่ม
“ขอโทษนะ ผมส่งของขวัญกลับให้คุณ เลยทำลายความฝันของคุณ”
อันซีนึกถึงที่เธอเคยต่อว่ายิ่วเชียนเรื่องน้ำตานางฟ้า
“ทำไมนายโง่อย่างนี้ ทำไมถึงโง่อย่างนี้หะ”
อันซีอึ้งที่เธอไม่เคยนึกถึงจิตใจของยิ่วเชียน
“เป็นอะไร”
“ไม่มีอะไร แค่คิดถึงนิสัยเสียของตัวเอง”
“เฮ่อ ในเรื่องนี้ ผมต้องยอมรับเหมือนกัน คุณรู้มั้ย ตั้งแต่ที่ถูกคุณกัด ทุกครั้งที่ผมเห็นหมาแมว ผมจะนึกถึงคุณ และรู้สึกกลัวมาก”
“ขอให้มันจริงเถอะ”
เยี่ยนเจ๋อหัวเราะ
“นี่ ฉันขอร้องอะไรคุณอย่างได้มั้ย”
“เรื่องอะไร”
“ห้ามเล่าเรื่องที่ฉันกัดคุณให้ลูกค้าข้างห้องคุณฟังนะ คนชื่อเซี่ยยิ่วเชียนน่ะ”
เยี่ยนเจ๋อนึกสนุก “ทำไมล่ะ”
“เขาไม่ชอบขี้หน้าฉันมากพอแล้ว ถ้าเขารู้ว่าฉันไปกัดคุณล่ะก็ ไม่รู้ว่าเขาจะมองหน้าฉันยังไงน่ะสิ”
“งั้น เล่าให้คนอื่นฟังได้มั้ยหรือว่าเจาะจงแค่คุณเซี่ย”
“ไม่ต้องเล่าให้ใครฟังทั้งนั้น โดยเฉพาะ”
“คุณเซี่ยใช่มั้ย”
“ใช่ๆๆๆ ห้ามบอกเขาเด็ดขาด”
“ได้ ผมรับปากคุณ นี่คือความลับระหว่างเราสองคน มา”
ทั้งสองชนแก้วกัน
ตอนเช้า เยี่ยนเจ๋อเดินเข้ามาห้องอาหาร อันซีปั่นน้ำปั่นเสร็จพอดี
“มอร์นิ่ง”
“มอร์นิ่งค่ะ ทำไมตื่นเช้าอย่างนี้ ฉันคิดว่าคุณจะตื่นสายซะอีก พอดีเลย ดื่มเครื่องดื่มเติมพลังก่อนสิ”
“อ๋อ”
เยี่ยนเจ๋อลองดมๆ ดู
“อย่าคิดว่ามันสีดำไม่น่าดื่ม ฉันใช้เห็ดหูหนูงาดำถั่วดำและน้ำตาลทรายแดง เติมน้ำร้อนปั่นให้เข้ากัน สามารถบำรุงตับไตของคุณได้อย่างดี ต่อต้านริ้วรอยป้องกันโรคกระดูกพรุนด้วย คนนอนดึกดื่มจะดีมาก”
ยิ่วเชียนเดินเข้ามา ชะงักเมื่อเห็นสองคนคุยกัน
“ว้าว สุดยอดขนาดนั้นเชียว”
“แน่นอนค่ะ ถ้าไม่ใช่คุณล่ะก็ ฉันไม่รู้จะคุยเรื่องแบบนี้กับใคร และคุณยังเข้าใจความรู้สึกของฉันด้วย”
ยิ่วเชียนคิด “พวกเขาสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ วิธีการจีบสาวของเยี่ยนเจ๋อ เก่งขนาดนี้เชียวเหรอ”
เยี่ยนเจ๋อเหลือบไปเห็นยิ่วเชียน ก็คิดแกล้ง
“รสชาติดีมั้ย” อันซีถาม
“จริงสิ เรื่องที่จะกัดคืนล่ะ”
ยิ่วเชียนหันไปมอง ไม่พอใจ
“อ้อ เรามีว่านหางจระเข้ ฉันจะเอามาให้คุณทา รับรองไม่มีรอยแผลเป็น”
“ดี ขอบคุณมาก”
“ดื่มให้หมดนะ”
ยิ่วเชียนเดินเข้ามาหน้างอ
“ขอฉันแก้วหนึ่งด้วย”
อันซีหันไปมอง ไม่กล้าสบตา
“มีแค่แก้วเดียวค่ะ”
“ปั่นให้ผมโดยเฉพาะสินะ” เยี่ยนเจ๋อแหย่
ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าอันซีไม่พอใจ อันซีอึกอัก
“ก็ได้ฉันจะทำง่ายๆ ให้คุณ” อันซีรีบเดินไป
ยิ่วเชียนไม่พอใจ “เฮ่อ ทำง่ายๆ ให้ฉันเหรอ”
เยี่ยนเจ๋อนั่งดื่มไม่สนใจ ยิ่วเชียนก้มหน้าไปกระซิบถาม
“นี่ เมื่อกี้ที่นายบอกว่า กัดคืนคืออะไรเหรอ”
“นายอยากรู้เหรอ คุณเซี่ยบอกว่าอยากรู้เรื่องกัดคืน งั้นคงต้องเริ่มเล่าตั้งแต่ผมกับเถ้าแก่เนี้ยรู้จักกันแล้วล่ะ”
อันซีรีบเข้ามา “นี่ๆๆ เมื่อคืนคุณบอกจะไม่พูดไง”
ยิ่วเชียนตกใจ “เมื่อคืน พวกเธออยู่ด้วยกันเหรอ”
ยิ่วเชียนหันไปก้มหน้าถามเยี่ยนเจ๋อ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่รู้”
“คุณเซี่ย คุณเป็นแค่ลูกค้า ทำไมต้องอยากรู้เรื่องเถ้าแก่เนี้ยด้วย”
“นี่ๆๆ เยี่ยนเจ๋อ” อันซีปราม ทำท่าให้รูดซิปปาก
“เอ่อ”
เยี่ยนเจ๋อตั้งใจจะพูดยั่วยิ่วเชียน เลยต้องทำท่ารูดซิปปาก ตามที่อันซีขอ
อ่านต่อตอนที่ 14