xs
xsm
sm
md
lg

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่9

หลังจากทานอาหารเสร็จ ยิ่วเชียนกับหย่งชิงลุกเดินจะไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ แต่ก็เจอชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน และชายคนดังกล่าวขยับตัวเดินไปทางเดียวกับยิ่วเชียนตลอดๆ เลยกลายเป็นว่าสองคนหลบกันไปมาไม่พ้นสักที จนชายคนนั้นอารมณ์เสียใส่ยิ่วเชียน

“นี่ นายไม่มีตาหรือไง เดินไม่มองทางเลย”
ยิ่วเชียนบอกกลับสีหน้านิ่งเสียงเข้ม “ถอยไป”
ชายคนนั้นมองๆ แล้วเดินเลี่ยงไป
“ขอโทษนะครับเช็คบิล” ยิ่วเชียนบอกแคชเชียร์
หย่งชิงขำๆ
“ขำอะไร”
“นั่นคือประโยคแรกที่คุณพูดกับฉัน”
“พูดว่าไง”
“ถอยไป”
“จริงเหรอ”
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่า จะมีคนพูดแบบนี้กับฉัน”
“นั่นเพราะคุณไม่มีมารยาท”
“งั้นคุณควรขอบคุณ ที่ฉันไม่มีมารยาทในตอนนั้นนะ”
“ไปกันเถอะ”

ขณะที่อันซีเดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน พลางชะเง้อคอมองออกไปนอกบ้านอย่างหงอยๆ จนเห็นรถของยิ่วเชียนแล่นเข้ามา อันซีดีใจรีบวิ่งลงบันไดมารอ พอยิ่วเชียนเปิดประตูเข้ามา ก็ปราดเข้าไปหา
“เอ๊ะ พวกคุณกลับมาแล้ว”
“หย่งชิงตัดสินใจอยู่ต่ออีกสองสามวัน”
“เอ่อ ก็ดี เธอชอบห้องนอนแบบไหน ฉันจะพาไปดู” อันซีถาม
“ไม่ต้องลำบากหรอก ฉันกับยิ่วเชียน อยู่ห้องเดียวกันก็ได้”
อันซีอึ้ง ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าหย่งชิง หญิงสาวลอยหน้าใส่ อันซีหน้าเจื่อน
“มาแล้ว” หย่งชิงร้องบอก
ยิ่วเชียนหันไปเปิดประตูให้หย่งชิงออกไป เพราะรถของหย่งชิงมารอรับใช้อยู่
“คุณหนูหู” เฉาพูดอย่างนอบน้อม
อันซีกับพวกตามออกมา
“เธอเป็นคนของบ้านพักใช่มั้ย พาพวกเขาเอาของไปเก็บสิ” หย่งชิงสั่ง
“ได้” อันซีรับคำ
“ไม่ต้อง ผมพาขึ้นไปเอง พี่เฉา ทางนี้”
ยิ่วเชียนเดินนำไป คนของหย่งชิงเดินถือกระเป๋าข้าวของของหย่งชิงหลายใบตามยิ่วเชียนไป หย่งชิงมองพวกอันซีเหยียดๆ ก่อนเดินเข้าไปข้างใน
“ว้าว ใหญ่คับฟ้าเลยแฮะ” จื้อหลิงมองไม่อยากเชื่อ
“ลูกค้าแบบนี้ต้องรีบคว้าเอาไว้ให้แน่น หยิ่งยโสมาก” เหม่ยเหวินบอก
“จริงด้วย ยโสจริงๆ ถ้าฉันได้ใส่เสื้อผ้าแบบนั้น ฉันต้องสวยแน่ๆ”
“เธอไม่มีวาสนาแบบนั้นหรอก”
“ถ้าฉันไม่ออกไปทำงานนอกบ้าน ฉันก็ขาวแบบนั้นเหมือนกัน”
“แต่เธอต้องออกไปทำงานนอกบ้านนะ”
“ถ้าฉันได้ใช้เครื่องสำอางอย่างเขา ฉันก็สวยอย่างเขาเหมือนกัน ถ้าหาก”
“สรุปก็คือ เธอขาดอยู่อย่างเดียว”
“อะไร”
“พ่อแม่เขาไง ไปทำงาน”
เหม่ยเหวินบอกทั้งสองคน ขณะที่อันซีก้มมองเสื้อผ้าผิวพรรณของตัวเองที่เทียบกับหย่งชิงไม่ได้เลย แล้วได้แต่ทำใจ

คนของหย่งชิงขนของขึ้นไปชั้นบน ยิ่วเชียนเอ่ยขึ้นเป็นเชิงปรารภ
“อยู่ห้องเดียวกัน จะถูกเข้าใจผิดได้นะ”
“ที่นี่มีคนให้คุณแคร์ว่าจะถูกเข้าใจผิดด้วยเหรอ”
ยิ่วเชียนอึ้งไป
“ไม่มี”
“งั้นก็ดีแล้ว”
“จู่ๆ ทำเรื่องแบบนี้เหมือนไม่ใช่คุณเลยนะ”
“คุณอยู่ที่นี่ก็ไม่เหมือนตัวเองเหมือนกัน”
“คุณหนูครับ เราขอตัวก่อนนะครับ” เฉาเดินมาบอก
“ในฐานะที่เป็นแฟนของคุณ วันนี้ตอนเช้า ฉันเห็นคุณกับผู้หญิงแปลกคนนั้น วิ่งกลับมากันอย่างร่าเริง ฉันควรแกล้งทำเป็นไม่เห็นเหรอ”
“คุณสนใจด้วยเหรอ”
“เฮ่อ ไม่สนหรอก”
“งั้นก็อย่าทำเรื่องไร้สาระแบบนี้”
“ถึงฉันจะไม่มีสิทธิ์ แต่ก็น่าสนุกดีนี่”
“สามวันนี้ ผมจะนอนที่โซฟา”

หย่งชิงมองหน้ายิ่วเชียนยิ้มๆ เหมือนจับความรู้สึกเขาได้

อ่านต่อหน้า 2

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่9 (ต่อ)

ทางด้านอันซีเดินเข้ามาในร้านขายเสื้อผ้า เพื่อมาส่งอาหาร พลางเรียกหา

“น้าจิง น้าจิง ฉันมาแล้ว ไม่อยู่”
อันซีเดินรอๆ อยู่ แล้วก็เห็นราวแขวนเสื้อผ้าภายในร้าน เธอเข้าไปดูอย่างสนใจพลางหยิบชุดหนึ่งมาลองทาบตัวที่หน้ากระจก
“อื้ม ถ้าฉันได้ใส่ชุดนี้ คงสวยมากแน่ๆ ถึงจะไม่เหมาะกับฉัน แต่ฉันก็หุ่นดีเหมือนกันนะ”
ลูกชายของน้าจิงเดินออกมาเจออันซี
“ทำอะไร สาวบ้านนอกเดินแคทวอล์คเหรอ”
“ไอ้บ้าเอ๊ย เรียกฉันว่าสาวบ้านนอกทุกทีเลย ถ้าแม่นายไม่ใช่น้าจิง นายหัวแตกไปตั้งนานแล้ว”
“ตอน ม.ปลายเธอตีฉันไม่พออีกเหรอ”
“นายสมควรโดนนี่”
“ตีๆๆๆๆ ทำอะไร เอาข้าวมาส่งเหรอ”
“ใช่”
“อ่ะ”
ลูกชายส่งเงินให้ อันซีรับเงินแล้วส่งเสื้อคืน
“เอาไปแขวน ฝากขอบคุณแม่นายด้วยนะ”
“ได้ๆ”
อันซีเดินผ่านตู้เครื่องสำอาง เธอตื่นตามาก
“ว้าว เครื่องสำอางแพ็กเก็จสวยขนาดนี้เชียวเหรอ ยังมีอายแชโดว์สีนี้ด้วย เฮ่อ ถ้าฉันได้แต่งหน้าอย่างเขาล่ะก็ คงสวยมากแน่ๆ ฮิ”
“นี่อันซี ฉันว่า เธอกินยาผิดขวดหรือเปล่า ไม่เคยเห็นเธอสนใจเรื่องแบบนี้เลย”
“นายยุ่งอะไรด้วย”
“ฉันหมายถึง แม่ฉันต้องดีใจมากแน่ที่มีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกคน จริงมั้ย ถ้าเธอซื้อเป็นล่ะก็ เอ่อ ค่อยๆ ดูไปนะ”
“เฮ่อ ดูถูกฉันเหรอ สักวันฉันจะเหมาทั้งร้านเลย ถึงเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ”
อันซีนึกถึงคำพูดของเหม่ยเหวินกับจื้อหลิง
“สรุปก็คือ เธอขาดอยู่อย่างเดียว”
“อะไร”
“พ่อแม่เขาไง”
อันซีถอนหายใจ“บางทีสักวัน แม่ฉันอาจขับรถสปอร์ตมารับฉันก็ได้ เมื่อนั้น ไม่ว่าอายแชโดว์ มาสคาร่า ฉันต้องมีทุกอย่าง เฮ้อ... อยากได้จังเลย เครื่องสำอางจ๋า วันนี้ฉันพาพวกแกกลับไปไม่ได้ วันหลังค่อยมารับแกนะ”
อันซีถอนใจเดินออกจากร้าน แต่อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองเครื่องสำอางอีกครั้ง

เหม่ยเหวินกับจื้อหลิงเตรียมอาหารอยู่ที่โต๊ะ เหม่ยเหวินเปรยขึ้น
“สิ้นเปลืองอาหารของบ้านเราจริงๆ เลย”
“จริงด้วย”
อันซีเดินเข้ามา “เอ๊ะ ทำไมมีแค่เธอสองคน พวกเขาล่ะ”
“พวกเขาออกไปกินข้าวแล้ว” จื้อหลิงบอก
“ออกไปกินข้าวอีกแล้วเหรอ” อันซีตัดพ้อ
“ใช่แล้ว พอถึงตอนเที่ยง ก็ออกไปกินข้าวข้างนอก ผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปโดยไม่มองอาหารของเราเลย” เหม่ยเหวินบ่น
“ออกไปอีกแล้วเหรอ”
“ถึงเราจะทำอาหารแบบบ้านๆ แต่เราก็ทำจากวัตถุดิบที่สดและสะอาดนะ ยังไม่กินก็ไปเลย ตอนนั้นยัยติงต๊องก็เห็น”
อันซีจับผมตัวเองอย่างลืมตัว เหม่ยเหวินหันมาเห็นจื้อหลิงกำลังจ้องหน้าอันซีอยู่
“นี่ เธอทำอะไร”
จื้อหลิงทัก “เธอ ทาลิปสติกด้วยเหรอ”
“จริงด้วย เธอมีลิปสีหวานแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” เหม่ยเหวินแปลกใจ
“ไม่มีหรอก”
“อ้อ ฉันจับได้แล้ว ฉันว่าแล้วทำไมเวลากินข้าวเธอยังไม่กลับมา หนีไปซื้อลิปนี่เอง ใครกันพูดว่า ซื้อเครื่องสำอางสิ้นเปลืองมาก เวลาเช็ดหน้ามันจะหายไป ฉันดูหน่อยสิว่าเก็บไว้ตรงไหน”
จื้อหลิงพยายามค้นกระเป๋าอันซี
“นี่ๆๆ อย่ามายุ่งได้มั้ย อย่านะๆๆๆ”
“ฉันเห็นแล้ว อยู่นี่ไง”
“จื้อหลิง”
“ผู้อำนวยการเซี่ย”
จื้อหลิงแกล้งเรียก อันซีหลงกลหันไปมอง จื้อหลิงถือโอกาสแย่งลิปสติกมาจากอันซีจนได้
“เธอหนีไปซื้อลิปมายังไม่ยอมรับอีกเหรอ”
“ใครซื้อเล่า พอดีฉันผ่านร้านน้าจิง เขาพูดว่า กิจการไม่ค่อยดีฉันเลยช่วยซื้อมาแท่งนึง”
“หะ น้าจิงเหรอ เธอหมายถึงน้าจิงที่ว่าเธอแต่งตัวไม่เป็นคนนั้นเหรอ” เหม่ยเหวินแปลกใจ
“ที่ไหนล่ะ น้าจิงพูดว่า ฉันก็เป็นผู้หญิง อีกอย่างตอนนี้ลิปสีนี้ฮิตที่สุดเลย ไม่ซื้อก็เสียดายแย่”
“อ้อน้าจิงคนนี้ก็ทันสมัยดีนี่ เลือกเวลาได้จังหวะพอดี”
“ใช่แล้ว ทำให้ฉันเสียเงินเลย”
“ไม่หรอก ฉันว่าสีนี้สวยมากเลยนะ นี่อันซี ฉันขอยืมหน่อย เดี๋ยวคุณเซี่ยกลับมาฉันจะทาให้เขาดู” จื้อหลิงบอก
“อ้อ ได้สิ”
เหม่ยเหวินมองหน้าอันซีอย่างจับผิด อันซีลนๆ
“จริงสิ ฉันทาลิปไม่ได้ให้เซี่ยยิ่วเชียนดูนะ”
“โธ่เอ๊ยใครจะไม่รู้ เธอไม่ใช่แต่ฉันใช่นี่ ฮิ” จื้อหลิงยิ้มขำ
เหม่ยเหวินอ่อนใจ “อย่างเธอไม่ต้องทาแล้ว สวยจนบรรยายไม่ถูกแล้ว รีบไปซักผ้าปูเตียงเร็ว เดี๋ยวต้องไปตากที่ชั้นสองอีก”
“โธ่เอ๊ย” จื้อหลิงงอน
อันซีขัด“ไม่เป็นไร ฉันไปเอง”
“น่าแปลก อันซีไม่เหนื่อยหรือไง ปกติทำงานก็ขยันแล้ว ตอนนี้แม้แต่งานซักผ้าปูเตียงก็แย่งทำอีก บนตึกมีสมบัติอะไรเหรอ” จื้อหลิงสงสัย
“ฉันว่าตอนนี้มีแล้วล่ะ” เหม่ยเหวินเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง

อันซีตากผ้าอยู่ที่ตึกชั้นบน พลางมองไปที่บันไดตลอดเวลา แล้วได้แต่ถอนใจ ห่อเหี่ยว สักครู่เสียงหย่งชิงดังเข้ามา
“ตรงนี้ก็มีบันไดด้วยเหรอ พิเศษจังเลย”
อันซีแอบมองยิ่วเชียนเดินขึ้นบันไดไปกับหย่งชิง เธอได้แต่น้อยใจ เดินถือตะกร้าผ้าลงบันไดมาอย่างหมดอาลัยตากอยาก จื้อหลิงมองๆ
“อันซี”
“หืม”
“เธอต้องไปตากผ้าปูเตียงไม่ใช่เหรอ”
“ตากแล้วไง”
“แล้วนี่อะไร” เหม่ยเหวินชี้
“หะ แล้วเมื่อกี้ฉันทำอะไร”
“ถามใครล่ะ”
จื้อหลิงตัดบท “ช่างเถอะๆ ฉันไปตากดีกว่า”
“โธ่เอ๊ย” อันซีเซ็ง
เหม่ยเหวินเป็นห่วง “เธอเป็นอะไร เป็นไข้ใช่มั้ย ไม่นี่ตัวไม่ได้ร้อน”
“เอ่อ เปล่าน่า ฉันออกไปข้างนอกแป๊บนึง”
“เอ๊ะ อากาศร้อนอย่างนี้เธอจะไปไหน อากาศอย่างนี้ออกไปข้างนอกจะเป็นไข้ลมร้อนนะ”
เหม่ยเหวินเตือน แต่อันซีไม่สามารถอยู่ข้างในได้อีกต่อไป เธอรีบออกมาข้างนอก ถอนหายใจ โมโหตัวเองที่มีอาการหวั่นไหวแบบนี้ อันซีเดินออกนอกรั้วบ้านไปอย่างเดียวดาย

หย่งชิงนั่งอ่านนิตยสารอยู่ใกล้ๆ ยิ่วเชียน แล้วสังเกตว่าเขามองออกไปนอกหน้าต่างตลอด หย่งชิงมองตาม
“คุณมองอะไร เซี่ยยิ่วเชียน วันนี้คุณเป็นอะไร”
ยิ่วเชียนหงุดหงิด “ผมไปซื้อน้ำนะ”
“ให้พวกเขาเอามาให้ก็ได้นี่”
“คุณดื่มแต่น้ำแร่ของฝรั่งเศสไม่ใช่เหรอ ออกไปแป๊บเดียว”
“ฉันไม่หิว”
“ผมจะรีบไปรีบกลับ”
ยิ่วเชียนเดินลงไปข้างล่างได้ยินเหม่ยเหวินกับจื้อหลิงคุยกัน
“ฉันขอน้ำแก้วหนึ่งสิ” เหม่ยเหวินบอก
“พี่ทำเกินไปแล้วนะ”
“ทำไมอีกล่ะ”
“ให้ฉันนวดแล้วยังให้ไปเอาน้ำอีกเหรอ”
“ฉันเป็นพี่นะ ฉันเหนื่อยมาก”
“รังแกฉันทุกทีเลย”
ยิ่วเชียนเดินมองไปรอบๆ พึมพำ
“ไม่อยู่เหรอ”
จื้อหลิงมาเห็นเข้า “เอ๊ะ คุณเซี่ย มาคุยเล่นกับเราเหรอคะ”
“หรือว่าคุณต้องการอะไร ฉันจะไปเอาให้” เหม่ยเหวินถาม
“เอ่อ เปล่าครับ”
ยิ่วเชียนเดินออกไป จื้อหลิงมองอย่างหลงใหล
“พี่ดูสิ ผู้ชายที่ทั้งหล่อและเพอร์เฟ็คอย่างนี้ ถ้าไม่มีมือที่สามจะเป็นไปได้เหรอ”
“เป็นไปไม่ได้หรอก”
“จริงด้วย ถ้าเป็นฉันล่ะก็”
“ถ้าเป็นเธอล่ะก็ไม่เพียงแต่เป็นไปไม่ได้ แต่ยังเป็นเรื่องตลกด้วย”
“นี่ จิงเหม่ยเหวิน”
“ไปยกน้ำชามา”
“เฮอะ”

เหม่ยเหวินมองตามยิ่วเชียนไป เหมือนรู้อะไรบางอย่าง

อ่านต่อหน้า 3

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่9 (ต่อ)

ยิ่วเชียนเดินออกมาหน้าบ้าน มองไปทางทุ่งกว้าง เขาเดินไปเรื่อย จนไปถึงหน้าผาที่อันซีชอบไปตะโกนระบายความเครียด พลันก็ได้ยินเสียงอันซีตะโกน

“เฮลโล ฉันอยู่ตรงนี้”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ เดินเข้าไปใกล้หญิงสาวเรื่อยๆ ระหว่างนั้นอันซีพึมพำกับตัวเอง
“เฮ้อ แปลกแฮะ วันนี้ตะโกนยังไงในใจก็ยังรู้สึกเบื่อๆ”
“เบื่อเรื่องอะไรเหรอ”
“หะ” อันซีตกใจแต่ก็ยิ้มให้
“มานั่งตรงนี้ คุณรู้จักที่นี่ได้ไง”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ นึกถึงที่เคยมากับอันซีเมื่อสมัยเป็นนักเรียน
“เธอล่ะ มาที่นี่ทำไม”
อันซียิ้มๆ แล้วตะโกน
“มาชมวิว คุณล่ะ”
ยิ่วเชียนตะโกนบ้าง
“ฉันก็มาชมวิวเหมือนกัน”
ทั้งสองหัวเราะในการกระทำของยิ่วเชียน แล้วต่างก็ตกในภวังค์ มองตากันอย่างลึกซึ้ง อันซีนึกขึ้นได้รีบปิดปากตัวเอง

ยิ่วเชียนขำๆ อันซีก็ขำแล้วอดไม่ได้ต้องพูดก่อน
“ร้ายมาก คุณรู้ใช่มั้ยว่าฉันต้องพูดก่อนแน่ๆ”
ยิ้มเชียนยิ้มๆ ที่หญิงสาวรู้ความคิดเขา
“นี่คุณเซี่ย วันนี้ตอนเช้าคุณแพ้แล้วนะ ดังนั้นต้องคิดหัวข้อเรื่องคุย”
“ได้สิ หัวข้อเรื่องของฉันคือ ทำยังไงถึงจะผ่านไปวันหนึ่งอย่างสงบ”
“เฮ่อ หัวเรื่องแบบนี้เหรอ”
อันซีจะลุก แต่ยิ่วเชียนจับไว้
“ได้สิ ครั้งนี้คุณจะจับฉันเองนะ”
อันซีนั่งลงต่อ
“เฮ้อ ที่นี่สวยจังเลย ที่นี่เหมือนฐานหิ่งห้อยที่ฉันพาคุณไปครั้งก่อน มีแต่เจ้าถิ่นอย่างพวกเราเท่านั้นที่รู้ จริงสิ โรงเรียนของหยาลู่มีสไลล์เดอร์ที่สุดยอดมาก คราวหลังถ้าคุณอารมณ์ไม่ดีฉันจะพาไป”
“อื้ม”
ยิ่วเชียนมองหน้าอันซีพลางคิด
“เธอคนนี้ คือผู้หญิงร้ายกาจที่อยู่ในความทรงจำของฉันรึเปล่า”
อันซีเห็นยิ่วเชียนนิ่ง ได้แต่จ้องหน้าเธอก็แปลกใจ
“มีอะไร นี่ คุณมองฉันแบบนี้ไม่โอเคเลยนะ คิดหัวเรื่องคุยไม่ได้ใช่มั้ย”
ยิ่วเชียนหน้านิ่ง “ฉันได้ยินพี่เหม่ยเหวินพูดว่า วันเกิดครบรอบสิบแปดปีของเธอ เกิดเรื่องใหญ่กับเธอมากเลยเหรอ”
“นี่เหรอหัวข้อเรื่องของคุณ”
“เพราะอะไร”
ยิ่วเชียนมองหน้าหญิงสาว อยากรู้จริงๆ
“วันนั้นฉันทะเลาะกับพ่อฉัน”
“แล้วยังไงล่ะ เพราะอย่างนั้น เลยมาใส่อารมณ์กับคนอื่นอย่างงั้นเหรอ”
“เหม่ยเหวินนี่เล่าให้คนอื่นฟังทุกเรื่องเลย”
“ถ้าไม่ใช่เธอปฏิเสธฉันได้นะ”
“ใช่ พอดีว่าวันนั้น มีคนคนหนึ่งมาหาฉัน”
“แล้วไงต่อ”
“แล้วฉันก็ด่าเขาไปน่ะสิ”
“แต่ฉันได้ยินมาว่า เขามาสารภาพรักเธอนะ”
อันซีตกใจมองหน้ายิ่วเชียน
“คุณรู้ได้ไง เรื่องนี้ฉันไม่เคยพูดกับใครเลยนะ พี่เหม่ยเหวินก็ดูเหมือนจะไม่รู้”
“ฉันอาจจะฟังผิดน่ะ”
“แต่ที่คุณพูดก็ถูก เขามาสารภาพรักฉันจริงๆ”
“แล้วเพราะอะไร เพราะเธอไม่ชอบเขาเหรอ ถึงได้ต่อว่าเขาไป”
“โธ่เอ๊ย มันไม่เกี่ยวกับว่าชอบหรือเกลียดหรอก ถือว่า เขาโชคร้ายแล้วกัน”
อันซีลุกขึ้นยืน
“เธอไม่มีความรู้สึกผิดสักนิดเลยเหรอ”
“รู้สึกผิดหรือไม่จะมีความหมายอะไรล่ะ เรื่องก็ผ่านมานานมากแล้ว เปลี่ยนหัวเรื่องคุยเถอะ คุณนี่คุยยากจริงๆ”
ยิ่วเชียนลุกขึ้นมายืนจ้องหน้าอันซี พูดอย่างจริงจัง
“เธอไม่สนใจความรู้สึกเขาเลยเหรอ การชอบใครคนหนึ่งไม่ง่ายเลยนะ จะสารภาพรัก ก็ต้องมีความกล้าหาญ นอกจากนี้เขา”
“โธ่เอ๊ย เขาจะเป็นอะไรเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย นี่ คุณเห็นว่าฉันเป็นแบบนี้ เมื่อก่อนมีคนมาจีบฉันเยอะนะ ถ้าฉันต้องดูแลความรู้สึกของทุกคน ฉันก็เหนื่อยตายสิ”
“เธอไม่ได้เหนื่อยตายเพราะมีคนจีบเยอะหรอก”
“ใช่แล้ว เป็นเพราะ ฉันมีวิธีของฉันไงล่ะ”
“วิธีอะไร”
“ก็คือ ฉันพูดกับคนที่จีบฉันว่า ถ้าจะจีบฉัน ให้ไปเอาน้ำตานางฟ้า”
“แปลว่าการไปเอาน้ำตานางฟ้า เป็นแค่วิธีทดสอบของเธองั้นเหรอ”
“เฮ่อ มันก็ใช่”
“เป็นแค่เรื่องตลกของเธอเท่านั้น”
“คุณจะพูดแบบนี้ก็ได้ ไม่งั้นฉันจะเอาน้ำตานางฟ้ามาทำไม”
ยิ่วเชียนคิดในใจ “ที่แท้ ฉันไม่ได้เข้าใจเธอผิดเลย เธอไม่แคร์เลยแม้แต่น้อย”
อันซีเห็นยิ่วเชียนนิ่งอึ้งไปก็แปลกใจ
“เป็นอะไร”
“ฉันจะกลับแล้ว”
ยิ่วเชียนทนไม่ได้กับเรื่องที่ได้รับรู้ เขาเดินดิ่งออกไปทันที
“นี่ คุณจะกลับเลยเหรอ ยิ่วเชียน เซี่ยยิ่วเชียน เฮ่อ อะไรของเขา อารมณ์เสียง่ายขนาดนี้เชียว”

หย่งชิงวางนิตยสารลงอย่างไม่พอใจ พลางบ่น
“บอกว่าจะไปซื้อน้ำ หายไปไหนล่ะ”
หย่งชิงเซ็งเดินลงมาข้างล่าง เห็นเหม่ยเหวินอยู่ในครัว ก็หันเดินไปอีกทาง จื้อหลิงสวนเข้ามาพอดี
“อ้อ ฉันนึกออกแล้ว คุณคือวิเวียนที่โฆษณาเสื้อผ้าสวยๆ กับเครื่องสำอางใช่มั้ย มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ชื่อบูโลเค่อ นำเสนอเรื่องการแสวงหาความงามของผู้หญิง โดยเฉพาะของวิเวียนใช่มั้ยคะ คุณไม่รู้เลยเหรอ ฉันรอให้คุณอัพเดทแบบใหม่ๆ อยู่ทุกวัน คุณไปฝรั่งเศสก็เหมือนกับฉันไปด้วย แล้วก็แบรนเสื้อผ้าที่คุณเคยแนะนำ ฉันติดตามทุกอย่างเลยนะ แม้ความสามารถในตอนนี้ของฉันยังน้อย แต่ฉันดีใจมากนะ ที่ได้เห็นตัวจริงของคุณที่นี่ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือล่ะก็”
“ขอบคุณนะ ฉันคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเธอหรอก”
“ฉันหมายถึงสมมุติ”
“เห็นยิ่วเชียนหรือเปล่า”
“หะ”
“เธอเห็นเซี่ยยิ่วเชียนหรือเปล่า”
“อ้อฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้ เซี่ยยิ่วเชียน เซี่ยยิ่วเชียน ผู้อำนวยการเซี่ย”
เหม่ยเหวินถอนใจ “เฮ้อยัยติงต๊องคนนี้นี่ ถ้าเป็นคนมาจากต่างถิ่นจะดีมาก ทำเหมือนไม่เคยเห็นโลกภายนอกจริงๆ”

อ่านต่อหน้า 4

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่9 (ต่อ)

ยิ่วเชียนเดินลิ่วกลับมาหน้าบ้าน อันซีวิ่งตามมา

“ยิ่วเชียน คุณรอฉันด้วยสิ คุณเป็นอะไรกันแน่ ทำไมไม่พูดเลย คุณพูดบ้างสิ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ”
จื้อหลิงวิ่งเข้ามาหายิ่วเชียน แล้ววิ่งกลับไปหาหย่งชิง
“นี่ คุณเซี่ยกลับมาแล้วเหรอ คุณหู คุณเซี่ยกลับมาแล้วค่ะ”
หย่งชิงเดินออกมาหน้า
“น้ำของฉันล่ะ”
ยิ่วเชียนนิ่งๆ เหม่ยเหวินตามออกมา เห็นหยาลู่กลับมาพอดี
“เอ๊ะ หยาลู่ๆ กลับมาแล้ว”
จื้อหลิงกับอันซีรีบวิ่งไป อันซีกวิ่งเข้าไปกอดหยาลู่ ยิ่วเชียนมองตามนิ่งๆ หย่งชิงลอบสังเกตอาการของยิ่วเชียน
“กลับมาแล้วเหรอ เฮลโล ฉันช่วยลาก” อันซีจะไปลากกระเป๋า
“ฉันลากเองได้”
“ไหนฉันดูหยาเอินซิ โอ้โหยังน่ารักเหมือนเดิม เธอเป็นคนป่วยที่น่ารักที่สุดแล้ว” อันซีชม
เหม่ยเหวินกับจื้อหลิงหัวเราะ
“ไปๆๆ” อันซีบอก
ทั้งห้าคนกอดคอกันอย่างรักใคร่
“เย่จือไห่อยู่กันครบแล้ว” จื้อหลิงตะโกนอย่างดีใจ
หยาลู่เห็นหน้ายิ่วเชียนก็แปลกใจ
“อันซี เอ่อ เขา”
“อ้อ ใช่แล้ว ตั้งแต่พวกนายไม่อยู่ คุณเซี่ยก็อยู่ที่นี่ตลอด พวกนายคงไม่รู้สินะ คุณเซี่ยจ่ายหนี้ค่าบ้านพักหมดแล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นไทแล้ว นับจากนี้ไป เราไม่ต้องถูกเจียงไห่โค่ขู่อีกแล้ว”
หย่งชิงได้ฟังเรื่องนี้ก็ยิ่งสงสัย หันไปมองยิ่วเชียนอย่างพิจารณา ยิ่วเชียนยิ้มนิดๆ
“คุณเซี่ย ขอบคุณนะครับ”
“อืม”

ยิ่วเชียนเดินกลับเข้ามาในห้อง หยิบน้ำดื่ม
“คุณใจดีอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่วยคนอื่นชำระหนี้ด้วยเหรอ ก่อนหน้านี้ พี่ชายฉันพูดว่าตอนคุณอยู่โรงพยาบาลเหินเซิง ช่วยผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นโรคหัวใจ หาหมอรักษา เพราะว่าหมอของเขาไปต่างประเทศ ช่วงนี้คุณมีน้ำใจจังเลยนะ”
ยิ่วเชียนเงียบๆ
“คุณคงไม่ได้โกรธอยู่ใช่มั้ย”
“ผมโกรธไม่ได้หรือไง”
“ได้สิ เพียงแต่ไม่เคยเห็นคุณเป็นอย่างนี้มาก่อน ฉันเลยรู้สึกแปลกๆ ฉันคิดว่าคุณโกรธแล้ว จะเงียบๆ ไว้ซะอีก คุณมักจะพูดว่าตอนเราเจอกันครั้งแรกฉันไร้มารยาทไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนั้นคุณไม่ได้อารมณ์เสียซะหน่อย”
หย่งชิงนึกถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อเธอได้พบกับยิ่วเชียนครั้งแรก วันนั้นเธอและเพื่อนอีก 2 คน ไปกินอาหารในร้าน เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น
“เธอรู้มั้ยหนังเนื่องนั้นตลกมากเลยนะ เธอรู้มั้ยว่าเสี่ยวฉัง กล้าพูดว่าเป็นพี่ชายของเขาด้วย”
“เธอนี่ช่างพูดจริงๆ นี่ เธอเป็นอะไร ไม่ตลกเหรอหย่งชิง”
“ไม่ตลก”
“เฮ้อ มันก็จริง ช่วงนี้น่าเบื่อมากเลย งั้น เรามาเดิมพันกันดีมั้ย”
“ก็ดี เดิมพันอะไรเหรอ”
“เดิมพัน ผู้ชายที่อยู่ที่นี่ เลือกสักคนที่ชอบ พากลับไปเปลี่ยนแปลง ดูว่าใครจะเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ ว่าไง”
“น่าสนุกดีนะ งั้นฉันเลือก เลือกเขา”
“งั้นฉัน เลือกเขา”
“นี่ หย่งชิง เธอไม่เล่นเหรอ”
“ไม่เล่น”
“โธ่เอ๊ย”
“สนุกมากนะ เรามาเล่นด้วยกันเถอะ”
ระหว่างนั้น หย่งชิงเห็นบริกรคนหนึ่งเดินออกไปบอกยิ่วเชียนซึ่งยืนอ่านหนังสืออยู่หน้าร้าน
“ขอโทษครับตรงนี้เป็นหน้าร้านของเราช่วยไปยืนที่อื่นได้มั้ยครับ”
“ไม่ได้”
“แต่ว่าตรงนี้เป็นหน้าร้านของเรา คุณทำแบบนี้จะ”
“ตามกฎหมาย ตรงนี้เป็นที่ดินเอกชน แต่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรบนถนน คนเดินเท้ามีสิทธิ์จะใช้ ถ้าคุณเข้าใจก็ไปซะ”
บริกรทำอะไรไม่ถูก หย่งชิงมองยิ่วเชียนที่อยู่นอกร้าน แล้วหันมาบอกกับเพื่อน
“ฉันจะเล่นด้วย”
“หืม”
หย่งชิงเดินออกไปหายิ่วเชียนที่หน้าร้าน
“นี่ ฉันอยากเปลี่ยนแปลงนาย ฉันจะทำให้นายกลายเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ”
“ไปให้พ้น”
หย่งชิงรับไม่ได้ ตกใจเมื่อถูกยิ่วเชียนไล่ ไม่คิดว่าจะเจอผู้ชายแบบนี้
ยิ่วเชียนนึกถึงเรื่องนี้เช่นกัน เขาเดินมานั่งข้างๆ หย่งชิง
“ไม่คิดเลยว่าคุณจะสนใจผมมากขนาดนี้”
“นั่นเป็นเพราะว่า คุณในตอนนี้น่าสนใจมาก ถ้าคุณเป็นแบบนี้แต่แรก ก็คงดี”
“ผมดีใจที่ทำให้คุณสนุก”
หย่งชิงยิ้มให้

หยาลู่กับหยาเอินกำลังฟังจื้อหลิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนทั้งสองไม่อยู่ออกอย่างรส
“ตอนนั้นฉันวิ่งเร็วอย่างกับลมพัดลิ่วๆๆ ไปสำนักงานผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นฉันก็เห็นอันซี เลยพูดกับเขาว่า อันซี เธอไม่ต้องพูดแล้วเสียงของเธอออกอากาศไปทั่วแล้ว ทุกคนได้ยินเข้าใจผิดกันหมดแล้ว หลังจากนั้นคุณเซี่ยก็พูดว่า เขาจะบริจาคบ้านพักเป็นศูนย์กลางกิจกรรม จากนั้นอันซีก็บ้าคลั่งขึ้นมาพูดว่า คุณพูดอะไร ไอ้คนหลอกลวงๆๆ”
อันซีปิดปากปราม “นี่ๆๆ พอแล้วๆๆ จื้อหลิง ใจเย็นๆ หน่อยนะ”
“ฮิๆๆ”
“วันนี้เราจะฉลองที่หยาเอินออกโรงพยาบาลเราจะดื่มน้ำส้มด้วยกัน มาหยาเอิน รินน้ำส้มให้ทุกคนหน่อย”
หยาเอินลุกขึ้นรินน้ำส้ม จื้อหลิงเข้ามานั่งที่โต๊ะ
“ฉันเอาด้วย หยาลู่ ฉันรับรองว่าชีวิตนี้นายต้องไม่เคยเห็นอันซีบ้าคลั่งอย่างนี้แน่ ฮิๆๆ”
“เธอไม่เป็นไรนะ” หยาลู่หันไปถาม
“ฉันจะเป็นไรได้ไง ฉันคือใคร สาวน้อยอันซีที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก”
“จริงด้วย”
“นี่หยาเอิน เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยไปโรงพยาบาลครั้งนี้ ช่วยฉันมองหาหมอหนุ่มๆ รูปหล่อรึยัง” จื้อหลิงถาม
“ฉันเห็น”
หยาเอินนึกเยี่ยนเจ๋อแล้วยิ้มๆ จื้อหลิงเห็นแปลกใจ
“เฮ้ย หยาเอินหน้าแดงแล้ว ดูเธอสิ หยิบน้ำส้มไม่หยิบน้ำแข็งมาด้วย หน้าร้อนนะ เดี๋ยวหยาเอินก็ร้อนตายหรอก”
“โธ่เอ๊ยอย่าเพิ่งเอาน้ำแข็ง ไปเรียกพวกคุณเซี่ยลงมาก่อน” เหม่ยเหวินสั่ง
“พวกเขาไม่ลงมาหรอก”
อันซีลุกขึ้น “เดี๋ยวๆๆ ฉันไปเอง”
ทุกคนต่างมองท่าทางของอันซีอย่างสงสัย

อันซีมาเคาะประตูห้องยิ่วเชียน ยิ่วเชียนได้ยินเหลือบตามอง หย่งชิงแอบมองปฏิกิริยาของชายหนุ่มอยู่ช้างบน อันซียังคงเคาะประตู ยิ่วเชียนยิ้มๆ หย่งชิงยิ้มรู้ทัน ยิ่วเชียนต้องวางหนังสือลุกไปเปิดประตู
“ไฮ เราจัดปาร์ตี้ฉลองที่หยาเอินออกจากโรงพยาบาล พวกคุณมาฉลองด้วยกันมั้ย”
“ไม่เป็นไร”
หย่งชิงสวนขึ้น “ไปสิ”
หย่งชิงเดินไปเกาะแขนยิ่วเชียนอย่างสนิทสนมเพื่อให้อันซีเห็น อันซีหน้าเจื่อน
“น่าสนุกดีออก ไปสนุกด้วยกันสิ คุณแฟนขา ไปสนุกด้วยกันน้า”
อันซีมองท่าทางของทั้งสองคนแล้วหน้าเจื่อน
“ฮิ งั้น ฉันลงไปรอพวกคุณข้างล่างนะ”
ยิ่วเชียนยิ้มให้หย่งชิง รู้ทัน
“คุณทำอะไรอยู่”
“ที่นี่น่าเบื่อมากไม่ใช่เหรอ ไปสนุกกันหน่อยสิ”
“เอาเรื่องชีวิตคนอื่นมาล้อเล่น ช้าเร็วคุณต้องเสียใจแน่”
หย่งชิงเดินตามยิ่วเชียนไปอย่างไม่แคร์

พวกอันซีอยู่ที่โต๊ะอาหาร จื้อหลิงจ้อไม่หยุด
“หยาลู่ตากแดดจนตัวดำหมดแล้วเนี่ย”
“ใช่” เหม่นเหวินเห็นด้วย
อันซีสวน “จริงด้วย ทำไมดำอย่างนี้ล่ะ”
“ตอนเราไปเล่นน้ำที่เผิงหูสนุกมากเลยนะ”
ระหว่างนั้นยิ่วเชียนเดินลงมากับหย่งชิง จื้อหลิงเห็นดีใจ รีบเข้าไปต้อนรับ
“วิเวียน คิดไม่ถึงว่าคุณจะลงมาจริงๆ มา เชิญนั่ง”
“ยินดีต้อนรับ” หยาลู่พูดนำ
“ยินดีต้อนรับ เชิญนั่ง” เหม่ยเหวินพูดเป็นคนต่อมา
“ยินดีต้อนรับค่ะ” หยาเอินก็พูดเช่นกัน
อันซีร้องบอกทุกคน “กินเยอะๆ ใครจะเอาสปาเก็ตตี้อีกมั้ย กินเยอะๆ นะ เอาสปาเก็ตตี้มั้ย”
ระหว่างนั้น ยิ่วเชียนหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดตะเกียบ ถ้วยชาม ทั้งของเขาและหย่งชิงพวกอันซีต่างอึ้งมอง ยิ่วเชียนรู้ตัวว่ามีคนมองจึงพูดขึ้น
“พวกคุณไม่กินเหรอ”
“เอ่อ กินๆๆๆ นี่ จื้อหลิงอยากกินสปาเก็ตตี้ไม่ใช่เหรอ”
อันซีพูดทำลายความเงียบ แล้วตักอาหารแจกให้ทุกคน ยิ่วเชียนมองอาหารบนโต๊ะอย่างพิจารณา อันซีหันไปบอกหยาลู่
“หยาลู่ นายกินนี่หน่อยสิ ของโปรดของนาย เหม่ยเหวินไปซื้อมาให้นายแน่ะ”
“ขอบคุณ”
ยิ่วเชียนหยิบชามสลัดมาจะตักให้หย่งชิง พลางถาม
“มีน้ำสลัดที่สดชื่นกว่านี้หรือเปล่า ไม่เอาแบบฝรั่งเศส และไม่เอาซีซาร์” ยิ่วเชียนถาม
“มีซอสน้ำมันญี่ปุ่นได้มั้ย” เหม่ยเหวินถาม
“ก็ได้”
ก่อนเหม่ยเหวินจะลุกไปหยิบซอส เธอหันมาบอกอันซี
“จริงสิ อันซี กินกุ้งเยอะๆ นะ เธอทำงานหนักต้องบำรุงหน่อย พวกเธอสองคนด้วย”
“บำรุงร่างกายเหรอ” อันซีถาม
“อื้ม”
อันซีหยิบกุ้งมาแกะด้วยมือ หย่งชิงหันมาบอกยิ่วเชียน
“ฉันจะกินกุ้ง”
“คุณไม่กินอาหารทะเลไม่ใช่เหรอ”
หย่งชิงยิ้มๆ ยิ่วเชียนจึงคีบกุ้งมาใส่จานเขา แล้วใช้ช้อนแกะกุ้ง ในขณะที่อันซีแกะกุ้งเสร็จจะยื่นใส่จานยิ่วเชียน แต่หย่งชิงพูดสวนขึ้น
“ว้าว ปอกกุ้งด้วยมือมีความจริงใจเต็มร้อยจริงๆ”
อันซีชะงัก ยิ่วเชียนเห็นใจอันซี ยกจานจะรับกุ้ง แต่หยาลู่รีบบอก
“ให้ฉันเถอะ”
“ฮิ ได้ๆๆ”
อันซีหน้าเจื่อน ยิ่วเชียนเองก็สงสารหญิงสาว พลางหันมามองหย่งชิงอย่างไม่พอใจ
“มาๆๆ ซอสน้ำมันญี่ปุ่นมาแล้ว” เหม่ยเหวินบอก
“ขอบคุณครับ” ยิ่วเชียนอึกอัก
“เมื่อกี้คุณยังโกรธอยู่ไม่ใช่เหรอ” หย่งชิงพูดยิ้มๆ
“ไม่ต้องพูดแล้ว” ยิ่วเชียนปราม
อันซีรู้สึกว่าตัวเองทนนั่งต่อไปไม่ไหว หยาลู่หันมาเห็น
“เธอเป็นอะไร”
ยิ่วเชียนมองหยาลู่และอันซีอย่างไม่พอใจ เขามองอันซีตลอดเวลา หย่งชิงแอบสังเกตเห็น ยิ่งนึกสนุก อันซีอึกอัก
“เอ่อ ไม่มีอะไร เฮ่อ ฉันเป็นอะไรล่ะ เปล่านี่ ฉันลืมไปเลย วันนี้เราฉลองที่หยาเอินออกจากโรงพยาบาลนี่ มา หยาเอิน ดื่มกับพี่หนึ่งแก้วนะ”
“จ้ะ”
จื้อหลิงขัดขึ้น “ทำไมหยาเอินต้องชนแก้วกับเธอคนเดียว เขาต้องชนแก้วกับทุกคนสิ”
“ถูก ทุกคนดื่มด้วยกัน” เหม่ยเหวินบอก
“ใช่แล้ว มาๆๆ” อันซีเรียกทุกคน
หย่งชิงหันมาถามยิ่วเชียน “คุณไม่ยกแก้วเหรอ”
ทุกคนอึ้ง แต่จื้อหลิงบอกยิ้มๆ
“ไม่เป็นไร เราชินแล้วที่คุณเซี่ยไม่ดื่มร่วมกับเรา ไม่เป็นไรๆ มาๆๆ พวกเราชนแก้ว”
อันซีชนแรงไป จนน้ำส้มกระฉอก
“โอ๊ะ”
หยาลู่รีบเช็ดมือให้อันซี
“เอ๊ะ ทำไมไม่ระวังเลย”
“ขอบใจนะ”
หย่งชิงเห็นทั้งสองคน ก็นึกสนุก พูดขึ้น
“คุณสองคน เป็นแฟนกันเหรอ”
ทุกคนต่างมองหน้าหย่งชิง หยาลู่กับอันซีรีบปฏิเสธ
“เอ่อ ไม่ใช่ๆๆ”
“จะเป็นไปได้ไง ไม่มีเรื่องแบบนี้หรอก” หยาลู่ย้ำ
ยิ่วเชียนหันมาดุหย่งชิง
“คุณอย่าถามไร้สาระแบบนี้ได้มั้ย”
“อย่าถามอะไร เรื่องจับคู่ให้พวกเขาเหรอ คุณไม่คิดว่าพวกเขาเหมาะสมกันเหรอ น้องสาวเธอไม่รู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกัน”
หยาเอินอึกอัก หย่งชิงหันไปถามทุกคน
“พี่สาว ไม่รู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกันเหรอ แฟนคลับ เธอไม่รู้สึกเหรอ ผู้ชายก็อ่อนโยน ผู้หญิงก็เข้ากับคนง่าย ถ้าเธอให้โอกาสผู้ชายคนนี้สักครั้งล่ะก็ คราวหน้าถ้าฉันมาอีก พวกเธออาจแต่งงานมีลูกกันแล้วก็ได้”
อันซีหน้าเสีย ยิ่วเชียนไม่พอใจมาก ลุกขึ้น
“หูหย่งชิง”
หย่งชิงไม่สะทกสะท้าน ระหว่างนั้น เสียงต้าเหว่ยดังมาจากข้างนอก
“หูหย่งชิงออกมานะ”
“ไม่ต้องไปสนใจเขา” หย่งชิงบอก
“ได้ยินมั้ยหูหย่งชิง ออกมานะ”
อันซีทนไม่ได้ ลุกออกไป หยาลู่ เหม่ยเหวิน และจื้อหลิง ต่างเรียกไว้ แล้ววิ่งตามอันซีออกไป

อันซีออกมาเผชิญหน้ากับต้าเหว่ย
“คุณต้องการอะไร”
“เรียกหูหย่งชิงออกมาหาฉัน”
“คุณหูเป็นแขกของเรา ถ้าคุณมีธุระอะไรคุยกับฉันแทนก็ได้”
เหม่ยเหวินรีบช่วยพูด “ใช่ค่ะ มีอะไรเราคุยกันได้ อย่ามีเรื่องกันที่นี่เลยค่ะ ฉันขอร้อง”
“ฉันบอกให้เรียกหูหย่งชิงออกมา ไม่เข้าใจหรือไงหะ”
ยิ่วเชียนเดินออกมา
“เรื่องของหูหย่งชิง นายคุยกับฉันดีกว่า”
“นี่คือเรื่องระหว่างฉันกับหูหย่งชิง นายยุ่งอะไรด้วย หะ”
หย่งชิงเดินออกมาอย่างสบายใจ
“คุณมาเอะอะโวยวายอะไรกัน ฉันต้องพูดกี่ร้อยรอบถึงจะเข้าใจ เรือยอร์ช บ้านฉันไม่มีเหรอ ฟังเพลง ฉันไม่เคยฟังเหรอ กินข้าว ช็อปปิ้ง มันพิเศษสำหรับคุณขนาดนั้นเชียวเหรอ แต่สำหรับฉันแล้วคนอย่างคุณน่าเบื่อมาก”
“ผมน่าเบื่อ แล้วเขาไม่น่าเบื่อเหรอ”
“อย่าถามคำถามที่ทำให้คุณหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ ดีกว่านะ”
“ได้สิ ได้ยินว่าคนมีชื่ออย่างพวกคุณ กลัวความอับอายที่สุดนี่ อัดคลิปเอาไว้” ต้าเหว่ยหันไปบอกลูกน้อง
“ครับ”
ต้าเหว่ยก้มลงไปหยิบถังสีขึ้นมาสาดใส่หย่งชิงกับยิ่วเชียน อันซีเห็นรีบเข้าไปขวาง
“อันซี” หยาลู่ตะโกน
เหม่ยเหวินกับจื้อหลิงกรีดร้องเมื่อเห็นอันซีโดนถังสี ยิ่วเชียนรีบเข้าไปบังหย่งชิง
“แม้แต่เรื่องแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จ เฮอะ” หย่งชิงเยาะ
ต้าเหว่ยโมโหจะเข้าไปทำร้ายหย่งชิง โดยผลักอันซีออกไปให้พ้นทาง ยิ่วเชียนเข้ามาห้ามต้าเหว่ย
“นี่ อย่าให้มันมากเกินไปนะ ฉันมีกว่าร้อยวิธี จะทำให้นายดู อย่าได้คืบแล้วจะเอาศอก”
“แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร หะ”
ยิ่วเชียนหันไปมองเห็นด้านหลังของอันซีที่เสื้อหลุดลุ่ยออกมา เห็นแผลเป็นยาว เขารีบเข้าไปหาเธอด้วยความโมโหและเป็นห่วง
“อันซี”
“อื้ม”
อันซีหลับตาเพราะแสบตา
“เธอไม่กลัวหรือไง ถ้าพวกเขาสาดน้ำกรดจะทำยังไง”
อันซีไม่คิดจะโต้ตอบเพราะแสบตา หย่งชิงพูดใส่หน้าต้าเหว่ย
“คุณลืมแล้วเหรอว่าคุณมีคู่หมั้นแล้ว ทุกคนมารวมตัวกัน คุณก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คู่หมั้นของคุณจะปล่อยคุณไปเหรอ ครอบครัวของคู่หมั้นคุณจะปล่อยคุณไปเหรอ เฮ่อ คุณจะอัดคลิปไปให้ใครดู เพราะคนที่ถูกหัวเราะเยาะ ก็คือคุณ เรื่องโง่ๆ อย่างนี้คุณยังทำออกมาได้ แล้วคิดเหรอว่าฉันจะชอบคุณ เชอะ”
หย่งชิงเดินเข้าบ้านไป หยาลู่และเพื่อนรีบเข้ามาดูอันซี แล้วพาเข้าบ้านไป ยิ่วเชียนมองอันซีด้วยความเป็นห่วง ก่อนหันมามองต้าเหว่ยด้วยสายตาตำหนิ ก่อนจะเดินตามเข้าบ้านไป

ยิ่วเชียนนั่งเงียบๆ นึกถึงตอนที่ต้าเหว่ยยกถังสีสาดแล้วอันซีเข้ามาขวางไว้ นึกถึงรอยแผลเป็นของเธอ ระหว่างนั้นเหม่ยเหวินเดินเข้ามา หยาเอินรีบเข้าไปถาม
“นี่ พี่เหม่ยเหวิน อันซีเขา”
“อันซีไม่เป็นไรแล้ว พวกเธอรีบกลับไปเถอะ ทางนี้เดี๋ยวฉันเก็บเอง”
“แต่ว่า”
“ไม่เป็นไรหรอก เขาไม่ได้บาดเจ็บ พวกเธอก็รู้จักเขาดีไม่ใช่เหรอ เขากล้าหาญ ใจใหญ่มาตั้งแต่เด็ก กลับไปๆ รีบกลับไปพักผ่อนได้แล้ว”
“ไปกันเถอะ” หยาลู่ชวน
“ก็ได้” หยาเอินรับคำ
“กลับไปๆ”
“งั้นฝากด้วยนะ” จื้อหลิงเป็นห่วง
ทั้งสามเดินออกไป เหม่ยเหวินหันมาเห็นยิ่วเชียนยังนั่งอยู่ที่โซฟา
“อืม คุณยังอยู่เหรอ”
“แผลเป็นที่ด้านหลังอันซี”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“แผลเป็นนั่น ดูแล้วค่อนข้างร้ายแรงนะ”
“นั่นเป็นเพราะเจียงไห่โค่ คุณพอใจหรือยัง”
“เจียงไห่โค่เหรอ เขาทำอะไร เขาตีเธอเหรอ”
“เขาจะตีอันซีได้ยังไงล่ะ”
“งั้น เพราะอะไรเหรอครับ”

ยิ่วเชียนถามด้วยท่าทีดูสนใจเอามากๆ

อ่านต่อตอนที่ 10
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่4
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่4
ในขณะที่เยี่ยนเจ๋อเดินมาตามทางในโรงพยาบาล ได้ยินเสียงหยาเอินเล่านิทานให้เด็กหญิงคนหนึ่งฟัง “หลังจากที่เจ้าชายช่วยเจ้าหญิง พวกเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในปราสาทอย่างมีความสุข” “แล้วเจ้าชายหน้าตาเป็นยังไงคะ” “เจ้าชายหน้าตาหล่อและสูง ในมือยังถือดาบเอาไว้ด้วย” “เจ้าชายหน้าตาเหมือนเขาคนนั้นใช่มั้ยคะ เจ้าชายแต่งงานกับฉันเถอะ” เด็กน้อยชี้ไปที่เยี่ยนเจ๋อ ชายหนุ่มงงๆ ชี้ที่หน้าตัวเอง หยาเอินหันไปพูดกับเด็กน้อย “ยังแต่งไม่ได้ ต้องรอให้เจ้าชายขอแต่งงานก่อนสิ” เยี่ยนเจ๋อยิ้มๆ หันมาคุกเข่าลงตรงหน้าสองสาว “น้องสาว พี่สาวเธอพูดถูก เจ้าชายต้องขอเธอแต่งงานก่อนถึงจะแต่งได้ งั้นฉันขอยืมแหวนของเธอหน่อย เจ้าหญิงที่รักของผม คุณยินดีแต่งงานกับผมมั้ย”
กำลังโหลดความคิดเห็น