xs
xsm
sm
md
lg

โปรเจ็กต์ เอ็กซ์ แฟ้มลับเกมสยอง ตอนที่ 8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โปรเจ็กต์ เอ็กซ์ แฟ้มลับ เกมสยอง
ตอนที่ 8


เรื่องราวยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของยีนส์ ...

ยีนส์เสียใจเมื่อเห็นโจถ่ายรูปเล่นกับตุลย์ เพลงมรณะยังก้องสองหูพาไปเดินไปยังแม่น้ำอย่างเลื่อนลอย ... เท้าค่อยๆก้าวลงไปยังท่าน้ำของแม่น้ำสายนั้น ขณะนั้นโจยังคงอยู่กับตุลย์ที่ห้องโถงด้านล่าง
"เราขอโทษ ถ้าสิ่งที่เราทำลงไปมันทำให้ตุลย์รู้สึกอึดอัด … ถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน"
โจหันหลังเดินจากไป
ตุลย์ไม่รู้จะบอกโจอย่างไร เธอตัดสินใจจะบอกโจว่า … แต่แพรวก็ตะโกนขึ้นมาขัดจังหวะก่อน
"ยีนส์ … เสร็จยัง หิวแล้วนะ"
แพรวเดินไปที่มุมเตรียมอาหาร แต่ไม่เจอยีนส์
"อ้าว … หายไปไหนล่ะ เนี่ย"
ตุลย์ชักเป็นห่วง เธอเดินออกไปด้านนอก แล้วเห็น ยีนส์กำลังเดินตรงไปท่าน้ำ
"ยีนส์...ยีนส์"
ตุลย์ประหลาดใจ เธอจึงรีบเดินตามไป

ดวงตาของยีนส์เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ประหนึ่งว่า เสียใจอย่างหนักหน่วง

อีกไม่ไกล ยีนส์ก็จะถึงปลายท่าน้ำ ... แม่น้ำสายนั้นกว้างใหญ่ ระลอกคลื่นกำลังรอที่จะกลืนกินชีวิตเธอ
ตุลย์วิ่งเข้ามาจากด้านหลัง ตะโกนเรียก
"ยีนส์ เฮ้ย … ยีนส์ แกจะทำอะไร"
โจตามออกมาเห็นเข้า เขาวิ่งไปทางยีนส์ทันที โจวิ่งแซงตุลย์ไป ยีนส์หยุดอยู่ที่ปลายท่าน้ำ ใบหน้าเธอหมองเศร้า เธอก้าวเท้า ไปที่แม่น้ำ โจวิ่งเข้ามาคว้าตัวยีนส์ไว้ได้อย่างหวุดหวิด โจและยีนส์ล้มลงที่พื้น
แต่ยีนส์ยังคงร้องไห้ไม่หยุด โจดึงหูฟังเธอออก
"ยีนส์ เธอเป็นอะไรไป ทำแบบนี้ทำไม"
ยีนส์ได้สติ จากเพลงมรณะ ได้แต่สะอื้นไห้
"โจ ชั้นเป็นอะไรก็ไม่รู้ มันควบคุมอะไรไม่ได้เลย"
ตุลย์เข้ามาทางด้านหลัง เห็นโจประคองยีนส์ไว้ เธอเลยหยุดอยู่แค่ตรงนั้น

ผ่านเวลา ทั้งหมดยกเว้นโจ กำลังเป็นห่วงยีนส์ที่หน้าซีดเซียว เธอยังผวากับสิ่งที่เกิดขึ้น
"อาการที่แกบอกมาทั้งหมด มันเหมือนกับ อืม … " แพรวว่า
"จะพูดก็พูดมาเถอะ อ้ำๆอึ้งๆคนกำลังอยากรู้" เต๋าบอก
"อาการของ ยีนส์เหมือนถูกผีสิง" พราวว่า
"พูดเป็นเล่นไปน่า ผีที่ไหนมันมาสิงกันง่ายๆแบบนี้" คิวบอก
ยีนส์ขยับตัวขึ้นมา ตุลย์ช่วยประคอง
"ตอนนั้น ชั้นรู้สึกตัวเย็นไปหมด มันหวิวๆ รู้สึกเศร้า ภาพอดีตที่ชั้นเคยเจ็บปวดมันผุดขึ้นมามากมาย มันเจ็บปวดใจ จนแทบบ้า ชั้น … ชั้น"
ยีนส์ คิดถึงเรื่องตอนนั้นแล้วพูดไม่ออก มองหน้าตุลย์
"เล่าออกมาเถอะ อย่าเก็บเอาไว้เลย"
โจถือน้ำอุ่นๆเดินเข้ามาจะให้ยีนส์พอดี
"ตุลย์ ชั้นเห็นภาพแกกับโจสวีทกันมันทำให้ชั้นสับสน แกเป็นเพื่อนรักชั้น แต่ชั้นกลับอิจฉาแก ชั้นรู้สึกแย่จนไม่อยากมีชีวิตอยู่ จู่ๆชั้นก็เห็นแสงสว่างสีขาวสว่างวาบ เสียงนึง มันบอกว่าความตาย จะเยียวยาชั้นได้ ชั้นไม่รู้ตัวจริงๆว่าทำอะไรลงไป ตุลย์ชั้นกลัว"
ยีนส์กอดตุลย์และร้องไห้ออกมา
ตุลย์ได้สบตากับโจ
"ชั้นจะไม่ยอมให้แกเป็นอะไรนะ ยีนส์"
โจมองตุลย์และยีนส์ เขาเห็นภาพนั้นและรู้ว่าสองคนนั้นรักกันมากแค่ไหน

ภายในห้องโถง โจนั่งครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียว ในมือของเขามีเครื่องเล่นเพลงของแอนที่ยีนส์ฟังตอนคิดจะฆ่าตัวตาย เขานึกถึงเรื่องที่ยีนส์พูด
"ตุลย์ ชั้นเห็นภาพแกกับโจสวีทกัน มันทำให้ชั้นสับสน แกเป็นเพื่อนรักชั้น แต่ชั้นกลับอิจฉาแก ชั้นรู้สึกแย่จนไม่อยากมีชีวิตอยู่ จู่ๆชั้นก็เห็นแสงสว่างสีขาวสว่างวาบ เสียงนึง มันบอกว่าความตาย จะเยียวยาชั้นได้"
โจยังคงครุ่นคิดต่อไป
นึกถึงตอนที่เขาวิ่งเข้าไปช่วยยีนส์ เขาดึงหูฟังนั้นออก ยีนส์จึงได้สติคืนมา แล้วเขาก็มองเครื่องเล่นเพลงในมือ เขาเหมือนคิดอะไรได้

เวลาต่อเนื่องมา โจเปิดภาพจากคอมพ์ดูเหตุการณ์ที่ปูนกำลังจะโดดตึกดู เขาฟรีซภาพและขยายจนเห็นว่า ปูนกำลังสวมหูฟังอยู่ สีหน้าของปูนเหมือนถูกสะกดให้คิดฆ่าตัวตาย
โจพิจารณาเครื่องเล่นเพลงในมือของเขาอีกครั้ง

วันรุ่งขึ้น ตอนกลางวัน ณ มุมสวยแห่งหนึ่งในเมือง โจนั่งอยู่กับส้ม แฟนของปูน
"ผมสงสัยว่า การตายของทุกคนน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเพลงที่พวกเขาฟังก่อนตาย"
ส้มส่ง flashdrive ให้โจ
"พอดี ส้มใช้เมล์เดียวกับพี่ปูน นี่คะ ไฟล์เพลง ที่พี่ปูนฟังก่อนตาย ให้ส้มช่วยอะไรเพิ่มเติมก็บอกได้ส้มอยากช่วยหาความจริง"
โจรับมันไว้ ...

บริเวณห้องโถงในบ้านโจ ที่จอคอมพ์ เวฟเสียงทั้งสองเพลงถูกวางไว้คู่กัน เวฟแสดงให้เห็นว่า มันคือเพลงเดียวกันเป๊ะ !
"เพลงที่ ปูน กับแอน ฟังก่อนตายเป็นเพลงเดียวกัน"
ยีนส์ถอนใจ
"นี่หมายความว่า … เพลงที่ชั้นฟังมันเป็นเพลงที่สะกดจิตให้ไปตาย งั้นเหรอ นี่มันเพลง มรณะชัดๆ ถ้าไม่โดนเองกับตัว นี่ไม่มีทางเชื่อเลยนะ"
ตุลย์บอก
"เราเคยอ่านงานวิจัยเรื่องการใช้เสียงในการสะกดจิตมาบ้างนะ แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า มันถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฆาตกรรม"
คิวค้นหาข้อมูลเพลง Gloomy Sunday ที่เป็นเพลงแห่งความตาย
"นี่อีกตัวอย่างนึง กลูมมี่ ซันเดย์เป็นเพลงที่แต่งขึ้นโดยนักกวีชาวฮังการีชื่อว่า “วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า” ผู้ประพันธ์เพลงนี้เองก็ต้องเจอชะตากรรมอันเลวร้าย เขาจะไปคืนดีกับคนรัก แต่ในเวลาต่อมาเขาก็รู้ว่า คนรักของเขาได้กินยาพิษฆ่าตัวตายไปแล้ว ที่ข้างร่างของเธอคือ..."
เพื่อนๆทุกคน รับฟังคิวอย่างสนใจ
"แผ่นกระดาษบทเพลงกลูมมี่ซันเดย์นั่นเอง ต่อมารัฐบาลฮังการีได้สั่งห้ามไม่ให้เปิดเพลงนี้ออกอากาศ ... แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังเกิดในที่อื่นๆอีก เช่นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งทางบีบีซีก็ได้ถูกสั่งห้ามเปิดเพลงนี้เช่นกัน สรุปแล้วการฆ่าตัวตายนั้นได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพลงนี้ประมาณ 200 รายทั่วโลก"
"น่ากลัวชิบหาย อย่าเผลอไปฟังเข้าเชียว" เต๋าบอก
"เราก็เคยได้ยินเรื่องคำสาปที่อยู่ในสิ่งของต่างๆ จิตที่อาฆาตแค้นจะคอยทำลายผู้ครอบครอง" พราวว่า
"ปัญหามันอยู่ที่ว่า เราต้องรู้ว่า ใครเป็นคนส่งเพลงมรณะมาให้พวกนั้น"

ภายใน ห้องซ้อมดนตรี อ้นในสภาพโทรมยับ เขากองจมอยู่กับพื้น สายตาเขาหมดสิ้นแล้วซึ่งความหวัง เขามองเพดานด้วยใจที่เลื่อนลอย
ข้อความจากมือถืออ้นดังเข้ามา เขาค่อยๆเอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์ที่ทิ้งไว้ข้างกระป๋องเบียร์
ข้อความนั้นไม่ปรากฎชื่อผู้ส่ง
"... ส่งห่าไรมาเนี่ย"
เขากดโหลดข้อความ มันปรากฎขึ้นมาเป็นโน๊ตดนตรี อ้นมองแล้วปิ๊ง
"เฮ้ย … เจ๋งวะ ใครส่งมาวะเนี่ย"
อ้นรีบลุกไปหยิบกีต้าร์ขึ้นมาแล้วลองเล่นเพลงตามโน๊ตที่ได้รับมา เขาชอบมันมาก
"แม่ง … แล้วที่เหลือล่ะ ส่งมาแค่ท่อนเดียว"
เสียงข้อความดังขึ้นอีกครั้ง อ้นอ่านแล้วถึงกับตาค้าง

เวลากลางคืน ณ มหาวิทยาลัยสยอง บรรยากาศเงียบสงบ อาคารปิดตายหลังนั้น วังเวงชวนสยอง
อ้น เดินเข้ามาหยุดมองไปที่ด้านบนอาคาร เขาคำราม
"ไอ้ตัวไหน แม่งแกล้งกู ... จับได้จะกระทืบให้ยับเลย สัด"
เขาเดินตรงไปยังอาคาร หยุดคิด ชะงักด้วยความกังวลใจก่อนจะขึ้นไปบนอาคาร เขาก้าวเดินช้า สายตาสังเกตไปทั่วทุกมุมด้วยความหวาดระแวง
จู่ๆเขาก็ตกใจ เมื่อเสียงข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้น
"เชี่ย … ตกใจหมด"
อ้นเปิดอ่านข้อความที่เขียนว่า “ Melody ที่เหลือ รอเธออยู่ ”
"กูมาแล้ว ไม่ต้องท้า กูไม่กลัวมึงหรอก"
อ้นเดินต่อไปด้วยอารมณ์โกรธ

อ้นมาหยุดที่หน้าห้องโสตที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งาน เขาเปิดเข้าไป
"หมาตัวไหนแกล้งอำกู ออกมาเลย"
ไม่มีเสียงตอบใดๆ อ้นมองไปทั่วห้อง โซฟาร์ ข้างของ ยังวางอยู่คล้ายของเดิม เพียงจับไปด้วยฝุ่นเท่านั้น เขามองหาทั่วห้องไม่มีใครซ่อนอยู่
"กูมาแล้วไง ไหนล่ะ ทำนองที่มึงจะให้กูล่ะ เอามาสิ มึงไปหลบอยู่ที่ไหน"
จู่ๆ ภาพจากทีวีเก่าก็ติดขึ้นมาเอง เป็นภาพ อ.บิ๊กปรากฎชึ้นมา อ.บิ๊กดูเชยๆหน้าตาออกแนวเด็กเรียน
"อ้น ยังจำวันแรกที่เราพบกันได้หรือเปล่าW
อ้นผวา อุทาน
"เชี่ย"
เขาหมดเรี่ยวลงไปนั่งที่โซฟาร์
"พี่ยังจำภาพอ้นที่แสนดีได้เสมอนะครับ"
อ้นหวาดกลัว ลนลาน เขาเอามืออุดหู
ภาพอดีตของ อ้นกับอ.บิ๊ก แล่นเข้ามาในภวังค์

ภายในห้องโสตอ้นในชุดนักศึกษา เขาดูสะอาดหน้าตาสดใส อ้นเล่นกีต้าร์อย่างมีความสุข โดยมี บิ๊ก ซึ่งเป็นเพื่อนของอ้นแอบลอบมองอยู่ด้วยสายตาชื่นชม
บิ๊กเขียนโน๊ตเพลงเสร็จเขายิ้ม เอาไปให้อ้นดู อ้นมองมัน สักพักสีหน้าเขาก็ไม่พอใจ เขวี้ยงกระดาษโน๊ตนั้นใส่หน้า
บิ๊กลนลานกลัวก้มลงเก็บกระดาษที่พื้น อ้นมองบิ๊กด้วยสายตาเกลียดชัง แต่บิ๊กกลับรู้สึกเหมือนอ้อนวอน เขาดึงขาอ้นไม่ให้เดินจากไป อ้นมองบิ๊กด้วยสายตาเฉยเมย
ผ่านเวลา บิ๊กนั่งแต่งเพลงอย่างตั้งใจ ...
อ้นอ่านโน๊ตเพลงใหม่ เขาพอใจมากๆ บิ๊กดีใจปลื้ม อ้นเข้าไปโอบ บิ๊กเคลิ้มลอย
อ้นเล่นกีต้าร์ให้เพื่อนๆ ในวงฟัง มี ปูน แอน อยู่ด้วย เพื่อนๆชอบใจ อ้นวางมาดศิลปิน
ที่ดาดฟ้าอาคารเรียน อ้น โอบเอวบิ๊กอยู่ แล้วต้องสะดุ้งเมื่อเพื่อนๆในวงแอบดูอยู่ พากันหัวเราะ อ้นอาย
บิ๊ก นั่งก้มหน้าเสียใจ อ้นทำทีเข้าไปปลอบใจ หน้าตาเขามีแผนร้าย
ผ่านเวลา... ในห้องโสต อ้นเล่นกีต้าร์ที่โซฟาร์ เขามองไปที่ประตูห้อง บิ๊กก็เดินออกมาในชุดหญิงสาวสวยวิกสีชมพู บิ๊กเขินๆอายๆราวกับสาวน้อย ที่กำลังออกเดทครั้งแรก
อ้นทนไม่ไหว ระเบิดหัวเราะออกมา บิ๊กตกใจ เพื่อนๆ กรูกันเข้ามาดู ความบ้าของบิ๊ก พวกมันรุมถ่ายรูปบิ๊ก แสงแฟลชสว่างวาบ บิ๊กหวาดกลัว อับอาย ทรุดกายลงที่พื้นเหมือนคนบ้า
ณ ขณะปัจจุบัน อ้นทั้งกลัวและโมโห เขาเกลียด บิ๊ก จึงด่าไปว่า
"มึงทำชีวิตกูพัง อีตุ๊ดปัญญาอ่อน"
อ้นขว้างจอทีวีให้แตก

บรรยากาศในห้องเริ่มหลอน สักพัก ภาพทีวีอีกเครื่องติดขึ้นเองอีก อ้นผวา มันเป็นภาพชวนสยอง ...

ย้อนกลับไปในห้องอัดเสียง
อ. บิ๊ก ในชุดสาว วิกผมสีชมพู กดอัดเครื่องบันทึกเสียงแบบ reel เขาบรรจงเล่นไวโอลิน เพลงโหยเศร้า บทเพลงแห่งทุกข์ระทม บทเพลงสุดท้ายของชีวิต อ.บิ๊กเดินไปที่เก้าอี้และปีนขึ้นไป ผูกคอตาย เท้าแกว่งลอย reel ยังคงหมุนอัดเพลงมรณะ
เครื่องบันทึกเสียงเครื่องเดิมหมุนขึ้นเองอย่างประหลาด .... เสียงเพลงมรณะ ดังขึ้นท่ามกลางความสยดสยอง
อ้นสติแตก พยายามหาทางออกจากห้อง แต่ห้องถูกล็อคไว้ เขาหันกลับมาเห็น
เขามองผ่านกระจกทะลุไปยังห้องอัดเสียง เงาลางๆ ของหญิงสาวร่างใหญ่ในวิกสีชมพูก็โผล่ออกมาจากความมืด
มันคือ อ.เบิ้ม ที่มีน้ำตาไหลนอง .... ก็ปรากฎขึ้น อ้นเห็นก็หวาดกลัวสุดขีด ....
เบิ้ม เดินออกจากเงามืดมาหาอ้นด้วยอาการแค้น อ้นผวาร้องขอความช่วยเหลือ
"ไอ้สัด มึงเป็นใคร มึงอย่าเข้ามา … ช่วยด้วย ช่วยด้วย"
ภายในอาคารเรียน มีเสียงร้องของอ้นดังลอดออกมาอย่างน่าสยดสยอง

วันใหม่ คิวและเต๋า มาตามหาอ้น กับจ๊อดที่ห้องซ้อมดนตรี

"ก็ตั้งแต่ วงแตก ผมก็ไม่เห็นหน้ามันอีกเลย ค่าเช่าห้องซ้อม มันก็ยังค้างเขาอยู่ ผมต้องมาเคลียร์ให้มันอีกสุดๆ" จ๊อดบอก
เต๋าถอนใจ
"ชักไม่ค่อยดีซะแล้ว จู่ๆก็หายไปแบบนี้ เสียวว่าจะไปเป็นแบบคนอื่น ที่ … "
"เฮ้ย … อย่าเพิ่งคิดไปเอง กูว่าลองไปถามหา ตามผับที่อ้นเคยไปทำงาน ดูอีกครั้งดีกว่า" คิวบอก
"ไม่ต้องเสียเวลาหรอก … อ้นมันเพี้ยนจน ไม่มีร้านไหนให้เล่นแล้ว จะว่าไปก็น่าสงสารมันเหมือนกัน มันกดดันตัวเองว่าต้องดัง ต้องออกอัลบั๊มให้ได้ มันเพี้ยนก็เพราะไอ้เพลงฮิตในอดีตของมันแท้ๆ"
คิว บูม เริ่มเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับเพลงมรณะ

เวลาต่อมา ทีม Project X ประชุมกันอยู่ รูปถ่าย คนตาย เอกสารข้อมูลและ ไฟล์เพลง ข้อมูลต่างถูกวางไว้
"เราคงต้องกลับไปที่มหาลัยนั้นอีกครั้ง คราวนี้พวกเราจะสำรวจให้ละเอียดกว่าเดิม" โจบอก
"จากภาพที่ บูมลองรีทัชและวาดโครงหน้า เพิ่มเติม คนร้ายที่หลบในอาคารวันนั้น มันน่าจะเป็นผู้ชายนะ" ตุลย์บอก
ยีนส์บอก
"นึกถึงแล้วยังผวา อยู่เลยเนี่ย"
"ภารกิจ นี้ ค่อนข้างจะซับซ้อนและอันตราย เราจะแบ่งทีมกันทำงานใหม่นะ" โจบอก
บูมเหม่อๆ ใจลอย เขามองไปทางหนึ่ง เห็น ปอยและชายชุดดำคุยกัน

ในมุมลับตาคน บูมเดินเข้ามาตามทาง เขาเห็นปอยคุยกับชายชุดดำอยู่ ชายชุดดำหันมาเห็นบูม สายตาของมันแห้ง เยือกเย็น น่าเกรงขาม
ปอยหันมาเห็นบูม เธอตกใจ ชายชุดดำ ลุกขึ้นและเดินหายไปในความมืด บูมประหลาดใจ จะตามชายชุดดำไป
"ไม่ต้องตามไปหรอก บูม"
"ใครกันนะ ปอย … ท่าทางแปลกๆ"
"ช่างมันเหอะ …. ไม่มีอะไร หรอกบูม"
บูมหงุดหงิด
"จะไม่มีอะไรได้ไง ก็บูมเห็นมันอยู่กับปอย มันจะเอาอะไร มันข่มขู่อะไรปอย"
ปอยก้มหน้านิ่ง ไม่ตอบอะไร เธอเหมือนพยายามสะกดอารมณ์
"ปอยปิดบังอะไรอยู่ เราเคยสัญญา กันแล้วไงว่า จะไม่มีความลับต่อกัน ปอย"
ปอยกำมือแน่น สายตาเธอดูกร้าว
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร"
ใบหน้าปอยเปลี่ยนไป เป็นอารมณ์ร้าย ปอยเดินหายไป
บูม งง มันเกิดอะไรขึ้น เขาสับสน !?

โจ ตุลย์ เต๋า คิว แพรว พราว กับอุปกรณ์ถ่ายทำ พวกเขากำลังจะสำรวจพื้นที่อีกครั้ง
"เต๋า กับ พราวแพรว ไปทางด้าน โน่นนะ เรา คิว ตุลย์ จะไปทางนี้ ระวังตัวกันด้วยล่ะ" โจบอก
ทั้งหมดแยกย้ายกันสำรวจบนอาคาร ในค่ำคืนนั้น

เต๋า แพรว พราวไปทางหนึ่ง
"แพรว พราว เธอลองใช้จิตสัมผัสตรวจสอบดูหน่อยสิ แถวๆนี้ … มันมีอะไรน่ากลัวหรือเปล่า"
แพรว พราว จับมือกันไว้ เธอหลับตา
เสียงข้าวของหล่นดังมาจากห้องเรียนที่ถูกปิดทิ้งไว้
เต๋าร้อง "เฮ้ย"
แพรว พราว ค่อยๆเดินไปตามเสียงที่ดังขึ้น
"เฮ้ย … รอด้วยสิ"
บริเวณหน้าห้องเรียน แพรว พราว เต๋า มาหยุดที่หน้าห้อง ภายในนั้นถูกปล่อยรกร้าง
"เต๋า นายลองเข้าไปดูทีสิ ต้นเสียงมันมาจากห้องนี้แหล่ะ" แพรวบอก
"จะบ้าเหรอ เข้าไปด้วยกันสิ"
แพรว พราว ทำหน้าแหย่เต๋า เธอเดินเข้าไปในห้องนั้น เต๋าฉายแสงไฟฉายสาดส่อง ไปตามห้อง
เต๋าฉายไปเจอโครงกระดูกที่ใช้สำหรับเรียนวิทยาศาตร์ เขาแทบช็อก
"แม่งเอ้ย"
เต๋าทำเก๋า เอากระดูกมากวักมือเรียกแพรว พราว แถมทำเสียงลากยาวทำผีหลอกอีกต่างหาก
"แพรว พราว "
"เล่นบ้าๆ ไปหลบหลู่เขาเดี๋ยวก็เจอดีหรอก"
แพรว พราว เดินออกไป
เต๋ามองโครงกระดูกแล้วก็แหยงๆ ยกมือไหว้
"แพรว พราว …. รอด้วยสิ"
อ.เบิ้มใส่วิกสีชมพู ดูน่ากลัวโผล่ออกมาจากเงามืด...

ส่วนโจ ตุลย์ คิว กำลังเดินสำรวจเช่นกัน คิวถือเครื่องตรวจจับผีของเขา สัญญาณบ่งบอกว่า ปกติดี
จู่ๆ เสียงกระจกแตกเพล้ง ตุลย์หันไปทางเสียงนั้น สัญญาณจากเครื่อง ตรวจจับผี ในมือของคิวก็เตือนขึ้น
ตุลย์ โจ คิวเดินไปตามทางที่เกิดเสียงนั้น

ทั้งสามเดินมาหยุดที่หน้าห้องน้ำ
"ตุลย์ นี่มันห้องน้ำที่แอนมากรีดข้อมือนี่นา" โจบอก
"ใช่ … ตอนนั้น ชั้นก็ได้ยินเสียงกระจกแตกแบบนี้เหมือนกัน"
สัญญาณเครื่องจับผีดังถี่ๆ
"ในนี้แหล่ะ … แน่นอน"
ตุลย์เปิดประตูห้องน้ำไป ไฟข้างในห้องน้ำกระพริบถี่ๆ ติดดับๆ เธอมองไปทั่วๆห้อง ตุลย์เปิดห้องน้ำห้องที่เคยเจอแอนในนั้น
เปิดประตูออก เธอโล่งใจที่ด้านในไม่มีอะไร
ตุลย์หันหลังกลับเจอแอนยืนอยู่ ตุลย์ตกใจ
แอนเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมชิ้นกระจกแตกในมือ
เครื่องจับผีดังถี่จนสุดและดับลง โจไม่เห็นแอน โจสงสัยว่าตุลย์ตกใจอะไร
"ตุลย์ มีอะไร"
"แอน แอน เพิ่งเดินเข้าไป"
"ชั้นไม่เห็นอะไรเลย"
ประตูห้องน้ำปิดเองดัง ปัง !
ทุกคนสะดุ้ง ตุลย์ตัดสินใจเคาะห้องน้ำ
"แอน แอน เปิดประตู"
แพรว เข้ามาจับไหล่ตุลย์
"ไม่มีประโยชน์หรอกตุลย์ เธอไม่ได้ยินหรอก"
"หมายความว่าไง"
"วิญญาณของแอนยังวนเวียน ทำเรื่องเดิมๆที่ฝังใจอยู่น่ะ"
"ตุลย์ ที่เธอเห็นแอนได้ ก็เพราะอยากให้เธอเห็น เราไม่ได้เห็นวิญญาณกันได้เองหรอกนะ ถ้าเขาไม่ยอม"
โจ คิว มองหน้ากัน
"ชั้นเพิ่งรู้จริงๆนะเนี่ย"
ตุลย์ถาม
"แล้ว เราจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง"
"ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย ขอเพียงจิตต้องเข้มแข็ง ส่งพลังบวก แผ่เมตตาไปให้เขา" พราวบอก
พราวใช้มือวางที่ประตูห้องน้ำ เธอหลับตาทำจิต พราวเปิดประตูที่ล็อกเข้าไปได้
โจ คิว ตุลย์ อึ้ง
"อย่าหวาดกลัว ทำให้เขาเชื่อใจเรา และบอกให้พวกเขารู้ว่า เขาตายไปแล้ว ทำให้เขาสงบ
ให้เขาเดินทาง ไปสู่โลกใหม่ของเขา" แพรวบอก
พราว ยืนนิ่ง ส่งจิตพลังบวกไปให้แอน
วิญญาณแอนหยุดร้องไห้คร่ำคราญ เธอเริ่มสงบใจได้ วิญญาณแอนสลายหาย
ไปเป็นควันสีขาวสว่างวูบ...
โจ คิว ตุลย์รู้สึกเหมือนถูกลมพัดผ่านไป
แพรว จับมือกับพราว จบสิ้นการส่งวิญญาณ

ฝ่ายเต๋า ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ
"ทำไรอยู่วะ นานชะมัด"
ร่างของ อ.เบิ้มเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง มันใช้ถุงพลาสติกสวมหัวเต๋าไว้
เต๋าตาเหลือกดิ้นรน พยายามร้องเรียกให้คนช่วย
อ.เบิ้มรัดถุงแน่นจนอากาศในถุงเริ่มจะหมด ถุงฟีบติดแนบหน้าเต๋า มันลากเต๋าไปตามพื้น

แพรว พราว ตุลย์ โจ คิวอยู่ด้วยกัน โตสังเกต เริ่มถามหา
"แล้ว เต๋าล่ะ"
"รออยู่ข้างนอกแน่ะ" แพรวบอก

อ.เบิ้มลากเต๋าไปตามพื้น เต๋าพยายามดิ้น เขาถีบเปะปะ จนโต๊ะเก้าอี้หล่น เสียงดัง
ทั้งหมดได้ยินเสียงโครมครามจากด้านนอก
"เฮ้ย … ออกไปดูข้างนอกกัน" โจบอก
ทั้งหมดวิ่งออกไปด้านนอก

ทั้งหมดออกมาแต่หาเต๋าไม่เจอแล้ว ทุกคนเริ่มกังวล
ตุลย์บอก
"แยกกันหาเถอะ"
ตุลย์ รุดไป โจตามไป คิว แพรว พราว ไปอีกทาง เปิดห้องต่างๆ ก็ไม่เจอ
"เต๋า ไอ้เต๋า" คิวเรียก
แพรว พราว สีหน้าไม่สู้จะดี

เต๋าถูกอ.เบิ้ม มัดติดไว้ที่เก้าอี้ ปากเต๋าก็ถูกมัดไว้ไม่ให้ร้อง อ.เบิ้มเอาเชือกเข้ามารัด คอเต๋าไว้ ก่อนจะโยนเชือกไปบนคาน หมายจะดึงเต๋าให้ขึ้นไป เหมือนกับการแขวนคอ
เต๋าใช้พลังทั้งหมดที่มีดิ้นถีบจนตัวที่ถูกมัดกับเก้าอี้ล้มลง ดัง โครม

โจ ตุลย์ ได้ยินเสียง จึงวิ่งไปทางเสียง แพรว พราว คิวก็เช่นเดียวกัน
โจ กับ ตุลย์เปิดประตูห้องเข้ามา ทั้งคู่เห็น เต๋าถูกมัดอยู่ที่เก้าอี้ ที่คอเขามีเชือกคล้องไว้
เต๋าถูกเชือกรัดปาก ทำท่าทางจะบอกอะไร

ตุลย์เรียก "เต๋า"
ตุลย์เข้าไปช่วยแก้มัด มือกับขา เต๋าพยายามจะบอกอะไร แต่ปากพูดไม่ได้ ตุลย์แก้มัดให้เต๋าสำเร็จ
"ระวัง มันซ่อนอยู่ในห้อง"
โจ ซึ่งไม่ทันระวังตัว ถูกไม้ฟาดเข้าที่กลางหลัง เขาล้มลง อ.เบิ้ม เล่นงาน ตุลย์ เต๋า ตุลย์ ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เหนือชั้นกว่า อ.เบิ้มจึงทำอะไรเธอไม่ได้ แต่อ.เบิ้มแข็งแรงจึงไม่ล้มง่ายๆ
อ.เบิ้ม คลั่งพุ่งเข้าใส่ตุลย์ ตุลย์พลาดถูกบีบคอ เต๋าเข้าไปช่วย แต่ถูกบิดกระดูกแขนจนลั่น
ตุลย์ แทบจะขาดใจ มือใหญ่เหมือนคีม บีบกดจนเธอจะหมดอากาศหายใจ
โจ พยุงร่างขึ้นมา เขา โถมแรงเข้าใส่ อ.เบิ้มกระเด็นไปล้มที่โต๊ะหักกระจาย
แพรว พราว คิว มาสบทบ
"คิว ช่วยกูด้วย โอย … " เต๋าบอก
โจเผชิญหน้ากับอ.เบิ้มซึ่งกำลังคลั่งสุดขีด มันคว้าไม้ขาโต๊ะขึ้นมา จะฟาด โจหลบและสวนไปที่ท้องแต่มันไม่รู้สึกอะไร กลับกระแทกหมัดส่งโจไปกระแทกพื้น
"ตุลย์ พาทุกคนออกไปก่อน เร็วเข้า"
อ.เบิ้ม จ้องจะเล่นงานพวกที่เหลือ แต่โจใช้มือรวบขา อ.เบิ้มล้มลง โครม !
คิวเข้าไปประคองเต๋า ตุลย์และ แพรวพราว หลบออกจากห้องไป
เสียงในห้องดังโครมคราม ตุลย์เป็นห่วงโจ
โจหลบการจู่โจมของอ.เบิ้มได้เขารีบหลบฉากออกมานอกห้อง โจปิดประตูอย่างรวดเร็วและใช้ไม้ขัดล็อคไว้
"โจ เต๋า แขนหัก พาเต๋าไปหาหมอก่อน" ตุลย์บอก
อ.เบิ้มทุบประตูโครมคราม โจมองเต๋าที่กำลังเจ็บปวด คิวประคองเต๋าขึ้นและรีบออกจากอาคารไป

เสียงร้องคำรามสลับกับเสียงทุบประตูลั่นไปทั้งตึก

ทีม ProjectXรีบหนีออกมาจากมหาลัยสยอง โจมองเห็นปูนกำลังยืนอยู่ที่บนดาดฟ้า

"เป็นไรเหรอ โจ" ตุลย์ถาม
"เราเห็นปูนนะ"
แพรว พราว หันมามองหน้าโจ เธอเชื่อว่าโจเห็นจริงๆ
"พาเต๋า ไปโรงพยาบาลก่อนแล้วกัน" โจบอก

ภายในห้องโสต ในอาคาร อ้นในสภาพที่อิดโรยราวกับถูกทรมานมายาวนาน เขาพยายามหาทาง ออกจากห้องจนเกือบจะสำเร็จ แต่ อ.เบิ้มก็โผล่เข้ามา เขาดูบ้ามากขึ้น
อ้นหวาดกลัว
"ปล่อยผมไปเถอะ อย่าทำอะไรผมเลย"
เบิ้มเข็นรถเข็นผู้ป่วยเข้ามา และหยิบเอาคีมตัดเหล็กอันใหญ่มาถือไว้ในมือ อ้นรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาหวาดกลัวที่สุด
"อย่าทำอะไรผมเลย ได้โปรดเถอะ อย่าทำผมเลย"
เบิ้มจับขาของอ้นไว้ก่อนที่จะเอาคีมตัดเหล็กกดไปที่เอ็นข้อเท้าของอ้น ใบหน้าของเขาอำมหิต
อ้นร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกคีมตัดเอ็นข้อเท้าขาด เบิ้มยังไม่สุด คว้าขาอีกข้างของอ้นขึ้นตาตัดเอ็นอีกครั้งด้วยความโหด
เบิ้มสีหน้าน่ากลัวสุดๆ

ภายในบ้านโจ ยีนส์กำลังวาดรูปตัวการ์ตูนลงบนเฝือกที่หุ้มแขนเต๋าไว้ พร้อมบอก
"หายเร็วๆนะ เต๋า"
เต๋าโชว์มายากลเสกของออกมาให้ยีนส์
"ถ้าให้ดี เธอไปเดทกับชั้นสักครั้งนะ"
"อีบ้า ชั้นไม่หลงกลเธอง่ายๆ หรอกย่ะ"
คิวบอก
"อ้นหายตัวไปไร้ร่องรอย … ไอ้บ้าตัวร้าย นั่นก็โผล่มาจากไหนอีกก็ไม่รู้"
"เราว่าน่าจะเกี่ยวข้องกัน" ตุลย์บอก
บูมอยู่ที่คอมพ์
"คราวนี้ ชัดสุดๆ ชั้นจะปริ้นท์ให้พวกแกดู"
บูมสั่ง print ภาพจากวีดีโอที่ถ่ายไว้จากคืนก่อน
รูปที่พิมพ์ออกมาเห็นเป็นหน้า อ.เบิ้มอย่างชัดเจน โจหยิบเอามาให้ทุกคนดู
"อ.เบิ้ม คือที่ทำร้ายพวกเราเมื่อคืน"
"ให้ชั้นส่งหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจเลยดีมั๊ย" บูมบอก
"ภารกิจนี้ได้เป็นพระเอกอีกแล้วพวกเรา 555" คิวบอก

ณ มุมลับตาจากพวกเพื่อนๆ
แพรว พราว ถือเครื่องเล่นเพลงของแอนไว้ในมือ
แพรวบอก
"ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ แกว่าไง"
"ชั้นก็สงสัยเหมือนกันแหล่ะ"
แพรว พราว สวมหูฟัง และหลับตา รวมสมาธิ แพรวกดเปิดเพลงมรณะฟัง

สักพักเสียงไวโอลินก็ดังเข้ามา แพรว พราวเหมือนจะเห็นภาพบางอย่างแล้ว

ในอดีต เด็กชายสองคนกำลังเล่นกันในมุมบ้านที่ดูลับๆ เด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ อ.บิ๊ก แต่งตัวคล้ายผู้หญิงกำลังเล่นไวโอลินกัน อีกคนคือเบิ้มซึ่งเป็นพี่ของเขา นั่งมองเขาอย่างมีความสุข
พราวกับแพรวตาเบิกโพลง เหมือนถูกบางสิ่งเข้าร่าง
พ่อของอ.เบิ้มและอ.บิ๊ก เอาไวโอลินมาทุบแตก และจับตัวเด็กชายที่แต่งตัวเป็นหญิงมาเฆี่ยนตี เด็กชายที่เป็นพี่ มองเหตุการณ์ด้วยสายตาชิงชัง เขาวิ่งเข้าไปแย่งไม้จากพ่อ ด้วยอาการก้าวร้าว พ่อจึงตีทั้งเด็กทั้งสองคนอย่างรุนแรง

แพรว กับ พราวตัวสั่นเพราะกำลังต่อสู้กับบางสิ่งที่กำลังบังคับเธอ จนกระทั่งเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ เลือดกำเดาของเธอทั้งคู่ไหลออกมาเพราะกำลังต่อสู้กับพลังนั้น

ทั้งสองคนเดินไปที่ขอบสะพานเหล็กซึ่งจะตกลงน้ำ

ยีนส์ ตุลย์ เดินออกมาเห็น
ไตุลย์ สองคนนั้น มันจะทำอะไรของมันนะ"
"เฮ้ย มันกำลังฟังเพลงมรณะอยู่" ตุลย์บอก
ตุลย์กับยีนส์ รีบวิ่งไปหาทั้งคู่
อีกนิดเดียวก็จะสุดขอบปูน แพรว พราว ควบคุมตัวเองไม่ได้ กำลังจะตกน้ำ
ตุลย์และยีนส์ก็เข้ามาคว้าตัวทั้งสองไว้ทัน และเอาหูฟังออก แพรว พราว สลบไป

บูมกำลังปรับแต่งเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ของเขาอยู่ ก็รู้สึกเหมือนถูกใครจ้อง
ทันใด... ร่างใหญ่โต ของ อ.เบิ้ม ก็เงื้อเหล็กแป๊บเข้ามาหวดเขา แต่บูมหลบทัน
อ.เบิ้มดูคลั่งเมื่อพลาด เขาบุกเข้าทำร้ายบูม บูมคว้าฝาถังน้ำมันมากันไว้ทัน มันกระหน่ำตีจนบูมทรุดลงมันได้จังหวะ จะตีบูมซ้ำกะให้หัวเละ
แต่โจกระโดดเข้ามาถีบอ.เบิ้มได้ทันเวลา อ.เบิ้มล้มลงเฉียดเหล็กแหลม ได้แผลเลือดออก มันไม่รู้สึกเจ็บกลับเอามือปาดเลือดที่ไหลมาเลียอย่างเอร็ดอร่อย ....
อ.เบิ้มเข้าโจมตีโจและบูมอย่างบ้าคลั่ง ทั้งสองสู้แรงไม่ไหวเสียท่าล้มลง
ขาบูมไปติดขัดอยู่กับเหล็กที่กองที่พื้น เขาเอาขาออกไม่ได้
อ. เบิ้มฟาดโจกระเด็นล้ม โจสู้แรงของมันไม่ไหว สะบักสะบอม บูมก็ขยับออกไปช่วยโจไม่ได้
อ.เบิ้มเงื้อเหล็กกำลังจะหวดไปที่โจ แต่แล้วก็ล้มลงซะก่อน เราจึงเห็นว่า ตุลย์ใช้ปืนไฟฟ้ายิงอ.เบิ้มจากด้านหลัง
ยีนส์วิ่งเข้าไปหาโจ
"เป็นไรมากไหม โจ ดูสิ เจ็บมากมั๊ย"
ตุลย์เดินเข้าไปช่วยบูมเอาขาออกจากกองเหล็ก
"ขอบใจมาก ตุลย์ ไม่ได้แก สงสัยชั้นกับโจได้นอนยาวแน่ๆ"
ยีนส์เช็ดเลือดให้โจ แต่โจกลับลอบส่งสายตาขอบคุณมาให้ตุลย์

ผ่านเวลา ในบ้านโจ อ.เบิ้มถูกมัดไว้ที่เสา เขาสลบอยู่ แพรว พราว อาการดีขึ้นแล้ว โจโทรศัพท์อยู่
"ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากนะครับ ได้ครับ ตกลงครับ พวกผมยินดีให้ ผอ.แจ้งรายละเอียดกับ
ตำรวจทั้งหมดเองครับ ครับ สวัสดีครับ"
"ได้ความว่าไงวะ โจ" บูมถาม
โจมองไปที่แพรวกับพราว
"ถูกต้องอย่างที่แพรว พราวบอก อ.เบิ้มกับอ.บิ๊กเป็นพี่น้องกันจริงๆ อ.บิ๊กน้องแกนะ มีจิตใจเป็นหญิง
มีข่าวซุบซิบ ว่าแกกับนักศึกษา แอบชอบกัน ไม่นาน อ.บิ๊ก ผูกคอตายไม่รู้สาเหตุจากอะไร ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เกิดเรื่องราวแปลกๆ ในมหาลัยตลอด"
"เห็นมั๊ยชั้นบอกแล้ว" แพรวบอก
"ไม่ได้ชั้นช่วยไว้แกสองคน ก็คงไม่ได้มาพูดตรงนี้หรอกนะ" ยีนส์ว่า
"โจ ชั้นว่า อ้น ต้องอยู่ที่ไหนสักที่ในอาคารนั่นแหล่ะ"
โจเห็นด้วยกับตุลย์

ภายในห้องโสต ตอนกลางคืน อ้นนั่งอยู่บนวีลแชร์ เขาเหมือนเสียสติ เพลงไวโอลิน มรณะก็เปิดคลอ ทำเอาเขาคลั่ง
"มึงหยุดเล่นเพลงเหี้ย นี่สักที กูปวดหัวไปหมดแล้ว กูไม่ไหวแล้ว ปล่อยกูออกไปเหอะ"
อ้นทนไม่ไหว มันถึงขีดสุดที่จะทนต่อไปแล้ว อ้น มองไปที่เหล็กแหลมเสียบกระดาษที่วางไว้แถวโต๊ะ
เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะถลึงตาแล้ว เอาเหล็กแหลมเสียบไปที่หูของตัวเอง มันร้องโหยหวน ด้วยความเจ็บปวด เลือดสดข้นๆ ไหลจากหูของมัน

โจ ตุลย์ คิว บูม กำลังสำรวจห้องต่างๆอยู่ เขาเปิดทุกห้องเพื่อหา อ้น เสียงร้องโหยหวนของอ้นดังเข้ามา
"ทางนั้น" บูมบอก
ทั้งหมดวิ่งตามบูมไป

อ้น แทบช็อกกับภาพหลอนเมื่อเห็นว่า บิ๊กในวิกสีชมพู นั่งจ้องอยู่ที่โซฟาร์ เขาตกใจ
"พี่บิ๊ก … พี่ ๆ ช่วยผมด้วย"
บิ๊กยิ้มให้อ้น และเดินมาเข็นวีลแชร์ของเขาออกไปจากห้อง

ทั้งหมดวิ่งมาจนเห็นอ้นกำลังหมุนล้อวีลแชร์ไปทางระเบียง
"นั่นไง อ้น"
อ้นหมุน ล้อวีลแชร์ไปทั้งที่ตัวเองไม่อยากจะไป
"พี่บิ๊ก อย่าทำอะไรผมเลย ยกโทษให้ผมเถอะพี่"
บิ๊กกำลังเข็นอ้นไปทางระเบียง โจ ตุลย์ บูม สงสัยสิ่งที่อ้นพูด อ้นยันร่างที่ควบคุมตัวเองไม่ได้กระโดดลงจากตึก
โจ ตุลย์ บูม คิว เสียใจที่ช่วยอะไรไม่ทัน
ร่างของอ้น นอนบิดเบี้ยว บนพื้นปูนด้านล่าง
ทั้งหมด ได้ยินเสียงไวโอลิน เล่นท่อนสุดท้ายจนจบเพลง เสียงนั้นก็หายไป

โจ ตุลย์ บูม คิวไปที่ห้องโสต จึงรู้ว่าอ้นถูกขังอยู่ที่นี่
ตุลย์เปิดประตูเข้าไปในห้องอัดเสียง เธอได้เห็นข้าวของส่วนตัวของ อ.บิ๊ก กับอ.เบิ้ม สมุดบันทึก รูปถ่ายสมัยเด็ก ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ....
ตุลย์แอบน้ำตาไหลเมื่อเห็นภาพพี่น้องที่รักกัน
โจเดินไปที่เทปreelที่บันทึกเพลงมรณะไว้ เขาหยิบมันออกมาไว้ในมือ
"นี่ไง ต้นตอแห่งความตาย คิว บูม ฟอร์แมทคอมทิ้งทั้งหมดเลยนะ"
คิว กับ บูม ลบไฟล์ในคอมทิ้งทั้งหมดทันที

โจจุดไฟ เผาม้วนreel เพลงมรณะ และโยนมันลงไปจากดาดฟ้า โจกับตุลย์มองลูกไฟที่หล่นลงพื้น
"จบสิ้นสักที ความรัก ความอาฆาต ความพยาบาท" โจบอก
"ไม่น่าเลยนะ … เรื่องมันเกิดก็เพราะความรัก" ตุลย์บอก
โจเดินเข้าไปหาตุลย์ เขาเอามือปาดน้ำตาให้ ตุลย์หลบๆ แต่โจก็จับไหล่ไว้
"อย่าไปเกลียดไปโทษความรักเลย คนต่างหากที่ใช้ความรักเป็นเครื่องมือ ทำร้ายจิตใจคนอื่น"
ตุลย์ศอกท้องโจ
"เอ้า … พูดอะไรผิดหรือไง ทำร้ายจิตใจไม่พอ ยังทำร้ายร่างกายอีกนะ ใจร้ายจัง"
ตุลย์เขินตัดบท
"กลับบ้านเหอะ ยีนส์มันรอทำแผลให้อยู่"
โจหัวเราะชอบใจที่ตุลย์ประชด

ผ่านเวลา ที่ร้านเครื่องเสียงมือสอง เครื่องเล่นจากห้องโสต ปะปนอยู่กับเครื่องเล่นอื่นๆ แต่แล้วที่หน้าปัทม์ของเครื่องเล่นของจากห้องโสต ก็เปิดได้เอง ไฟสถานะทำงานสว่างขึ้น คล้ายกับว่า เสียงเพลงมรณะ ของ อ.บิ๊ก นั้น กำลังรอใครนำไปฟังอีกอย่างไม่มีวันจบสิ้น
อ่านต่อตอนที่ 9
กำลังโหลดความคิดเห็น