มนต์รักอสูร ตอนที่ 13
ในขณะที่เทิดเดินออกจากห้องน้ำผึ้ง พรและชมพู่กำลังจะมาดูอาการครูสาวพอดี ทั้งสองเห็นเข้าก็ชะงัก ตกใจมากคาดไม่ถึง พรลากชมพู่ไปหลบแทบไม่ทัน
“ป้าเห็นเหมือนที่ฉันเห็นไหม”
“เห็นอะไร”
“คุณเทิดออกมาจากห้องครูน้ำผึ้ง”
“เห็นสิ ไม่ได้ตาบอด อย่าคิดไม่ดี คุณเทิดอาจจะแวะมาดูอาการครูน้ำผึ้งก็ได้”
“แต่คุณเทิดใส่เสื้อเมื่อวานนะป้า”
พรกับชมพู่อึ้งๆ งงๆ กันไป ไม่เคยเห็นเทิดทำตัวประหลาดแบบนี้
หลังมื้อเช้า น้ำผึ้งสอนหนังสือหนังโดยไม่ยอมพัก เวลานี้เขียนโจทย์เลขบนกระดาน อ้อยมองน้ำผึ้งอย่างหงุดหงิด
“นี่ครู เมื่อวานเป็นลมเป็นแล้งไป ไม่คิดจะหยุดสอนบ้างหรือไง”
“เมื่อวานฉันแค่เพลียมาก แต่ได้นอนพักแล้วก็ดีขึ้นมาก ตอนนี้สอนได้แล้ว”
“ครูนี่เห็นตัวแค่นี้ เอาแรงมาจากไหนเยอะแยะ” หอมชม
น้ำผึ้งแค่ยิ้มตอบไป หันไปสนใจโจทย์เลขบนกระดานต่อ
“เรียนกันดีกว่า ใครตอบครูได้บ้างคะว่าคำตอบของข้อนี้คืออะไร”
หอมกับอ้อยปวดหัว เพราะคิดไม่ออก
ส่วนนันท์ไม่สนใจเรียน มัวแต่มองไปนอกหน้าต่าง ดูลูกคนงานวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน เด็กชายเศร้าและเหงาที่ตัวเองไม่มีเพื่อนเล่น น้ำผึ้งเห็นว่านันท์เอาแต่เหม่อมองไปนอกหน้าต่าง ไม่สนใจเรียนก็แปลกใจ
“คุณนันท์คะ” นันท์เหม่อ ไม่ได้ยิน น้ำผึ้งเดินมาเรียกใกล้ๆ
“คุณนันท์”
นันท์สะดุ้ง
“ทำอะไรอยู่คะ ครูเรียกก็ไม่ได้ยิน ข้างนอกมีอะไรน่าสนใจเหรอคะ”
“ไม่มีครับ”
น้ำผึ้งเหลียวมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นลูกๆ คนงานวิ่งเล่นกันเป็นที่สนุกสนาน ก็พอเข้าใจ
“คุณนันท์อยากไปเล่นกับพวกเขาเหรอคะ”
นันท์ปากแข็ง “ไม่อยากเล่นครับ”
“ถ้าคุณนันท์อยากไปเล่นกับเพื่อนๆ ครูอนุญาตให้ไปเล่นสิบห้านาทีแล้วกลับมาเรียนต่อ”
หอมกับอ้อยตาโต ตกใจมาก
“ไม่ได้นะครับครู” หอมค้าน
“คุณเทิดสั่งห้ามคุณนันท์เล่นกับเด็กพวกนั้นเด็ดขาด”
น้ำผึ้งแปลกใจ “ทำไมล่ะ คุณเทิดบอกเหตุผลรึเปล่า”
อ้อยนึกไม่ออกว่าเหตุผลคืออะไร หันไปถามหอม
“ทำไมคุณเทิดถึงห้ามนะ”
หอมนึกได้ “คือคุณนันท์เคยทะเลาะกับเด็กพวกนั้นครับ”
“งั้นเหรอคะ”
“ตามนั้นแหละค่ะ ครูอย่าสร้างปัญหาให้คุณนันท์ดีกว่า แค่แก้ไอ้โจทย์เลขชีวิตคุณนันท์ก็ปัญหาเยอะพอแล้วค่ะ”
น้ำผึ้งสอนต่อ แต่ในใจยังไม่เลิกล้มความคิดที่จะทำอะไรสักอย่างให้ลูกศิษย์ตัวจ้อย
น้ำผึ้งเดินเข้ามาในครัวมองหาพรจนเจอ
“อ้าว ครู มาทำอะไรในครัวคะ”
"มาตามหาป้าแหละค่ะ คือฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
“หาป้า? งั้นเข้ามานั่งก่อนค่ะ”
พรให้น้ำผึ้งเข้ามานั่งในครัว เดินไปหยิบน้ำมาให้
“ครูมีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“คือฉันมีความคิดจะมาเสนอป้าพรค่ะ เรื่องคุณนันท์”
“ครูคิดจะทำอะไรอีกคะเนี่ย” พรกังวลเอาการ
“คือ…ฉันคิดว่าจะจัดงานวันเกิดให้คุณนันท์น่ะค่ะ”
พรแปลกใจพอๆกับตกใจ “จัดงานวันเกิดคุณนันท์”
น้ำผึ้งพยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันจำได้ว่านี่ก็ใกล้วันเกิดคุณนันท์แล้ว ยิ่งเห็นอาการคุณนันท์ตอนสอนวันนี้ด้วยแล้ว ยิ่งอยากจัดงานให้แกเลยล่ะค่ะ”
“คุณนันท์เป็นอะไรเหรอคะครู”
“น้ำผึ้งรู้สึกว่าคุณนันท์แกคงเหงาที่ไม่ได้ไปโรงเรียน แถมเด็กที่นี่ก็ไม่ได้เล่นด้วย ได้แต่อยู่ที่บ้าน ถ้าเราจัดงานแล้วเชิญเด็กๆมาร่วมด้วย น่าจะสนุกดี คุณนันท์จะได้เจอเพื่อนด้วยดีไหมคะ”
พรคิดตาม ชักเห็นด้วย
“ป้าว่าดีนะคะ ไร่เราก็ไม่ได้จัดงานรื่นเริงมาซักพักแล้ว…แต่จะติดอยู่เรื่อง”
“ติดตรงไหนคะ”
“นายไงคะ”
น้ำผึ้งถอนหายใจเฮือกใหญ่
“คุณเทิดอีกแล้วเหรอคะ”
“ค่ะ ไร่เราน่ะจะจัดอะไรก็ต้องผ่านการอนุมัติจากนายก่อนทั้งนั้น ถ้านายไม่เห็นด้วยก็คงอดล่ะค่ะ”
“แล้วจะทำยังไงล่ะคะ”
พรส่ายหัว คิดไม่ออกเหมือนกัน
ฟากพูนรีบนำข่าวมารายงานทรงยศ เรื่องสถานการณ์ในไร่เทิด ทรงยศโมโหมาก
“ทำไม่ไอ้เทิดมันถึงมีองุ่นไปส่งลูกค้าได้ มันเกิดอะไรขึ้น”
“ไอ้เก่งมันบอกว่า มีคนเข้ามาช่วยครูน้ำผึ้ง เพิ่มจากรายงานครั้งก่อนครับ”
“มันบอกรึเปล่าว่าใคร”
พูนอึกอัก “พวก…นายภูฤทธิ์แล้วก็ คุณฟ้าใสครับ”
ทรงยศได้ยินชื่อน้องสาวไปเอี่ยวก็เริ่มโกรธ
“ฟ้าใส นี่น้องฉันก็ไปช่วยไร่ไอ้เทิดมันงั้นเหรอ”
“ครับ แต่…คุณฟ้าใสก็เป็นเพื่อนครูน้ำผึ้งนี่ครับนาย”
“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว หุบปากไป”
“ครับ”
ทรงยศเครียดไม่น้อยที่ทุกอย่างผิดแผนไปหมด
“คราวนี้เราคำนวณผิดไป คิดว่ามันจะทำไม่ทัน แต่ลืมนึกว่ายังมีพวกไอ้ภูฤทธิ์อยู่”
“ถ้านายภูยังอยู่ก็คงมาช่วยแบบนี้อยู่เรื่อยๆ นะครับนาย”
“ไอ้ภูฤทธิ์น่ะมันชอบครูน้ำผึ้ง มันจะหาทางไปช่วยจนได้นั่นละ ไอ้เก่งเองก็ไม่ได้เรื่อง วางยาทั้งทียังปล่อยให้มีคนหลุดรอดมาได้”
“แล้วนายจะทำยังไงต่อครับ”
“ถ้าพวกมันเกาะกลุ่มกันอยู่แบบนี้คงทำอะไรยาก ต้องหาทางทำให้พวกมันแตกกันให้ได้ แล้วเราค่อยหาจังหวะเล่นงานมัน”
“อะไรที่จะทำให้พวกมันแตกกันได้ล่ะนาย ผมไม่เห็นทางเลย”
ทรงยศครุ่นคิดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“ยัยครูน้ำผึ้งนั่นไง”
วันถัดมาน้ำผึ้งเข้ามาพบเทิดในห้องทำงานแต่เช้า พร้อมกับยื่นเอกสารให้เทิดดู
“ฉันขออนุญาตจัดงานวันเกิดให้คุณนันท์ค่ะ”
เทิดไม่พอใจ
“งานวันเกิดคุณนันท์”
“ค่ะ ฉันทำเอกสารรายละเอียดงานมาให้คุณพิจารณาด้วย ถ้าคุณไม่ชอบตรงไหนบอกได้นะคะ ฉันจะปรับแก้ให้ถูกใจคุณที่สุดค่ะ”
เทิดรับเอกสารมาแล้วฉีกทิ้ง น้ำผึ้งตกใจ ไม่คิดว่าเทิดจะทำถึงขนาดนี้
“คุณเทิด”
เทิดตะคอกเสียงดังลั่น “ฉันสั่งแล้วใช่ไหมว่าให้เธอทำงานตามหน้าที่เท่านั้น ฉันจ้างเธอมาสอนหนังสือคุณนันท์ ไม่ใช่มาจัดงานวันเกิด”
น้ำผึ้งกลัวเพราะเทิดดุมาก แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ พยายามอธิบายให้เทิดเข้าใจ
“ฉันทราบค่ะ แล้วฉันก็พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
“เนี่ยนะพยายามของเธอ”
น้ำผึ้งยื่นสมุดรายงานผลการเรียนของนันท์ให้เทิดดู
“คุณเทิดลองดูสมุดรายงานผลการเรียนของคุณนันท์สิคะ คุณนันท์ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียนเลย ปัญหาของคุณนันท์คือการเข้าสังคม ต่อให้สอบเข้าเรียนในโรงเรียนได้ แต่เข้ากับเพื่อนๆ ไม่ได้ คุณนันท์ก็ต้องออกจากโรงเรียนเหมือนที่ผ่านมา”
เทิดยัวะ “นี่เธอว่าคุณนันท์เป็นเด็กมีปัญหาเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันแค่อยากบอกว่าคุณจะกักตัวคุณนันท์ไว้แต่ในบ้านไม่ได้ คุณนันท์ต้องมีสังคม ต้องออกไปเจอโลกกว้างเหมือนเด็กคนอื่นๆ คุณพยายามเลี่ยงปัญหา แต่วิธีของคุณสร้างปัญหาให้คุณนันท์โดยไม่รู้ตัวนะคะ”
เทิดโกรธมาก
“คุณนันท์ไม่ใช่เด็กมีปัญหา จะไม่มีงานวันเกิดหรืองานอะไรทั้งนั้น เธอมีหน้าที่สอนหนังสืออย่างเดียว เรื่องอื่นไม่ต้องยุ่ง”
น้ำผึ้งพยายามจะอธิบาย “แต่ว่า...”
“หุบปาก ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่อยากฟัง ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!”
น้ำผึ้งไม่ยอมไป เทิดโมโหที่น้ำผึ้งพูดไม่รู้เรื่อง เลยจับแขนน้ำผึ้ง ลากออกไปนอกห้อง
“ปล่อยฉันนะคุณเทิด ฉันเจ็บ”
เทิดพาน้ำผึ้งออกไปนอกห้อง
“ถ้ายังอยากทำงานที่นี่ก็ไปทำหน้าที่ของเธอซะ ไม่งั้นฉันจะหาครูคนใหม่!”
เทิดกระแทกประตูปิดใส่หน้าน้ำผึ้งอย่างแรง
น้ำผึ้งไม่ยอมแพ้ เคาะประตู
“ฉันขอร้องนะคะคุณเทิด อนุญาตให้ฉันจัดงานวันเกิดคุณนันท์เถอะค่ะ ฉันทำทุกอย่างเพื่อคุณนันท์นะคะ”
เทิดหงุดหงิดอยู่ในห้อง ไม่ยอมตอบน้ำผึ้งใดๆ
น้ำผึ้งเสียใจที่เทิดไม่เข้าใจวิธีการสอนของเธอ
เทิดหันกลับไปนั่งทำงานอยู่ในห้อง ไม่นานเสียงน้ำผึ้งดังผ่านโทรโข่งมาจากนอกบ้าน
“คุณเทิดคะ อนุญาตให้จัดงานวันเกิดคุณนันท์เถอะค่ะ ฉันขอร้องนะคะคุณเทิด”
เทิดชะงัก จำเสียงได้
“ครูน้ำผึ้ง”
เทิดหงุดหงิดมากที่น้ำผึ้งพูดไม่รู้เรื่อง
น้ำผึ้งยังคงยืนพูดผ่านโทรโข่งอยู่หน้าบ้านเทิด
“ได้โปรดทำเพื่อคุณนันท์สักครั้งนะคะคุณเทิด”
พวก ผัน พร ชมพู่ ได้ยินเสียง ต่างพากันโผล่หน้าจากคนละมุมมาสมทบกันเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“ครูน้ำผึ้งทำอะไรของเขา” พรแปลกใจ
“เห็นว่าจะจัดงานวันเกิดให้คุณนันท์ แต่นายไม่อนุญาต”
ผันหันไป เห็นเทิดเดินหน้าตึง ออกมาจากบ้าน
“นายมาโน่นแล้ว”
ทุกคนมองหน้ากัน ใจคอไม่ดี เมื่อเห็นเทิดพุ่งเข้าไปหาน้ำผึ้ง กระชากแขนสุดแรงแล้วตะคอกเสียงดัง
“มานี่ ยัยตัวดี”
ร่างน้ำผึ้งปลิวไปตามแรงลากของเทิด ครูสาวงุนงง
ทุกคนมองตาม พรหน้าเสีย
“ครูน้ำผึ้งแย่แน่ แกเอ๊ย”
สามคนได้แต่มองตาม เป็นห่วงครูน้ำผึ้ง
หอม อ้อย และนันท์มองดูเหตุการณ์ผ่านทางหน้าต่างห้องเรียน
“ครูน้ำผึ้งท่าจะบ้าไปแล้ว คุณเทิดไม่มีทางยอมให้จัดงานวันเกิดหรอก”
“แต่ครูน้ำผึ้งทำเพื่อคุณนันท์นะ”
“ถามคุณนันท์รึยังว่าอยากให้จัดรึเปล่า” อ้อยหมั่นไส้
“ว่าไงครับคุณนันท์ อยากให้จัดงานวันเกิดรึเปล่าครับ”
นันท์หน้าเศร้า “นันท์ไม่รู้…นันท์แค่อยากให้แม่อยู่ด้วยในวันเกิดนันท์”
หอมกับอ้อยสงสารนันท์ อ้อยหยิกแขนหอม หอมสะดุ้ง
“ถามอะไรก็ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลย อีพี่หอมบ้า!”
หอมรู้สึกผิด
“พี่หอมขอโทษครับคุณนันท์”
นันท์เศร้า คิดถึงแม่
อ่านต่อหน้า 2
มนต์รักอสูร ตอนที่ 13 (ต่อ)
เทิดลากน้ำผึ้งกลับเข้ามาในโถงบ้าน ตะคอกใส่เสียงดังลั่น
“ทำบ้าอะไรของเธออีก เสียงดังรบกวนคนอื่น ไม่มีงานทำหรือไง”
“นี่แหละค่ะงานของฉัน ฉันจะทำทุกอย่างจนกว่าคุณจะยอมอนุญาตให้จัดงานวันเกิดให้คุณนันท์ค่ะ”
น้ำผึ้งยื่นเอกสารให้อีก เทิดดึงเอกสารมาและจะฉีกทิ้งอีก น้ำผึ้งรีบดักคอ
“ถ้าคุณฉีกทิ้ง ฉันก็จะปรินท์มาให้ใหม่ค่ะ”
เทิดชะงักค้างไม่ได้ฉีก
“วิธีของเธอใช้กับฉันไม่ได้หรอก ถึงยังไงฉันก็ไม่อนุญาตให้จัดงานอะไรทั้งนั้น!”
เทิดจะเดินหนี น้ำผึ้งตะโกนเถียงขึ้นมาบ้าง
“คนไม่มีเหตุผล”
เทิดหยุดกึก หันมา “ว่าไงนะ”
“ฉันบอกว่าคุณไม่มีเหตุผล คุณเล่นสั่งห้ามฉันทุกเรื่อง แต่ไม่เคยให้เหตุผลเลยว่าเพราะอะไร มันกี่ครั้งแล้วคุณเทิดที่เราต้องมาเถียงกันแบบนี้”
“ฉันไม่ได้ใช้ให้เธอมาต่อปากต่อคำด้วยนี่ ฉันมีเหตุผลของฉันที่จะให้ใครทำ หรือไม่ทำอะไรก็ได้ เพราะที่นี่มันไร่ของฉัน”
“คุณน่ะใช้แต่อำนาจคอยกะเกณฑ์ทุกคนไปหมด คิดว่าตัวเองดีที่สุด ถูกที่สุด คุณเคยถามคนอื่นบ้างไหมว่าเขาคิดยังไง โดยเฉพาะคุณนันท์”
เทิดชะงัก นิ่งไปชั่วขณะ
“ไม่เห็นจำเป็นต้องถาม นันท์เป็นลูกฉัน ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเขา”
“งั้นคุณก็บอกฉันมาสิว่าดีที่คุณว่ามันคืออะไร”
เทิดตะโกนสวนขึ้นมาอย่างเหลืออด “ก็เพราะไอ้งานบ้านี่จะทำให้นันท์คิดถึงพริมไง”
คราวนี้น้ำผึ้งเป็นฝ่ายอึ้งไปบ้าง
“คุณพริม”
“เธอมันก็คิดว่าตัวเองถูกอยู่คนเดียวเหมือนกัน จริงไหมล่ะ”
น้ำผึ้งตั้งสติอีกครั้ง พูดกับเทิดแบบใจเย็นขึ้น
“ฉันว่าคุณกำลังเข้าใจเจตนาฉันผิด”
“ยังไง”
“คุณอาจจะคิดว่าฉันเป็นคนนอก มาอยู่ที่นี่ได้ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้รู้อะไรมากมาย แต่สิ่งที่ฉันได้รู้ได้สัมผัสมาคือที่นี่ไม่เคยมีบรรยากาศแห่งความสุขมานานมากแล้ว”
เทิดเจ็บปวดเหลือเกิน “คนอย่างเธอมันจะไปรู้อะไร”
“คุณเทิดคะ สิ่งที่ฉันคิดจะทำ มันเพื่อความสุขของคุณนันท์จริงๆ นะคะ ฉันไม่เคยคิดอยากไปรื้อฟื้นอดีตที่เจ็บปวดของใคร แต่ฉันคิดว่าอย่างน้อยเรายังมีโอกาสจะใช้ชีวิต เราควรนึกถึงปัจจุบันไว้มากกว่า”
เทิดไม่อยากฟังหันหลังหนีไป เพราะกลัวจะแสดงความอ่อนแอให้น้ำผึ้งเห็น
“ฉันจะไม่เสียเวลามาฟังเธออีก อยากทำอะไรก็เชิญ”
เทิดเดินหนี น้ำผึ้งตะโกนไล่หลังมา
“คุณเทิด ฟังฉันก่อน คุณจะทำให้คุณนันท์ต้องจมอยู่กับความทุกข์ตลอดไปไม่ได้นะคะ คุณควรจะสร้างความสุขให้ลูกตัวเองบ้าง คุณเทิด”
เทิดเดินลับตัวไป ไม่สนใจน้ำผึ้ง
“ถ้าคุณไม่อนุญาต ฉันจะยืนรอคุณตรงน้ำพุทั้งคืนเลย คอยดู”
น้ำผึ้งคุมแค้น จนปัญญา ไม่รู้จะพูดกับพ่อหม้ายเจ้าอารมณ์ยังไง
ค่ำนั้น น้ำผึ้งกลับไปยืนที่ลานน้ำพุหน้าบ้าน ผัน ป้าพร ชมพู่ หอมและอ้อยจับกลุ่มคุยกันอยู่ตรงระเบียงหน้าบ้าน
อ้อยเดินออกมา มองหมั่นไส้น้ำผึ้ง
“ยัยครูนั่นคิดจะอยู่ตรงนั้นทั้งคืนจริงเหรอ”
“คงจริง แกก็เห็นนี่นังอ้อย” ชมพู่ว่า
“คนอย่างน้ำผึ้ง ถ้าคิดจะทำอะไรแล้ว ไม่ล้มเลิกง่ายๆ หรอก”
พรเป็นห่วงน้ำผึ้ง
“ปล่อยไว้แบบนี้จะดีเหรอ อยู่ข้างนอกทั้งคืนน้ำค้างลงหัวจะไม่สบายเอา”
“ไปตามครูเข้าบ้านดีไหมป้า”
อ้อยแทรกขึ้น
“โอ๊ย ไม่ต้องไปอ้อนวอนเขาหรอก อยากทำอะไรก็ปล่อยไป ตอนเก็บองุ่นก็น็อกไปทีนึงแล้วไม่ยอมเข็ด ฉันว่างานนี้เหลว นายไม่มีวันยอม”
“แต่ฉันว่าครูน้ำผึ้งจะต้องทำสำเร็จ เขาเรียกวิธีนี้ว่าสันติ อหิงสาไง”
อ้อยฉุน “สงบสันติไปคนเดียวเลยไปอีพี่หอม”
“หูย นังอ้อย นังใจร้ายเสมอต้นเสมอปลาย”
อ้อยครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“เอางี้ พนันกันไหมล่ะ”
“พนันอะไรนังอ้อย” ชมพู่ถาม
“ก็พนันว่านายจะยอมยัยครูนั่นรึเปล่า ฉันลงร้อยนึงเลย ว่าไม่”
“ฉัน! ฉันเล่นข้างครูน้ำผึ้ง หมดหน้าตักเลยเอ้า”
ชมพู่เอาด้วย “ฉันด้วย”
อ้อยลงเงิน หอม ชมพู่ ลงตาม ผันกะพรส่ายหน้า
“เล่นอะไรกันไม่เข้าเรื่อง”
“สนุกๆ น่าพ่อ อย่าเครียดไปหน่อยเลย”
อ้อยยิ้มตาวาวเมื่อเห็นเงินเยอะ พรดูท่าจริงจังของน้ำผึ้งแล้วยิ่งเครียด
ฝ่ายเทิดนั่งอยู่ในห้องพริมชั้นบนของบ้าน หยิบรูปพริมขึ้นมาดู พูดกับภาพ สีหน้าเศร้า
“งานวันเกิดที่ไม่มีคุณ มันจะมีความหมายอะไร”
เทิดมองรูปภาพของพริม ทั้งรักทั้งคิดถึง
“พริม...ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก พยายามให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเขา แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไร มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย บอกผมที ผมควรทำยังไงดี”
เทิดมองเหม่อไป นึกถึงคำพูดของน้ำผึ้งเมื่อตอนบ่าย
“คุณจะทำให้คุณนันท์ต้องจมอยู่กับความทุกข์ตลอดไปไม่ได้นะคะ คุณควรจะสร้างความสุขให้ลูกตัวเองบ้าง”
เทิดคิดหนัก
น้ำผึ้งยืนกอดอก ทั้งเมื่อยและหนาว
“ไม่น่าเลยเรา น่าจะใส่เสื้อหนากว่านี้ จะกลับไปเปลี่ยนตอนนี้ก็เสียฟอร์มแย่เลย”
หอม กะ ชมพู่ เป็นห่วงน้ำผึ้ง ย่องออกมาตรงลานน้ำพุ ต่างคนต่างมาเจอกัน
“มาทำอะไรกันคะ ดึกแล้วยังไม่นอนอีกเหรอ”
“ครูก็ไปนอนเถอะ ถึงยังไงคุณเทิดก็ไม่ใจอ่อนหรอก” หอมบอก
“ไม่ค่ะ น้ำผึ้งเชื่อว่าคุณเทิดจะต้องเห็นความหวังดีของน้ำผึ้ง”
“ถ้าครูยืนยันอย่างนั้น ก็คงห้ามไม่ได้ นี่ค่ะ ชมพู่เลยเอาผ้าคลุมมาให้ค่ะ อากาศเย็นเดี๋ยวจะไม่สบาย”
ชมพู่คลุมผ้าคลุมให้น้ำผึ้ง
“ครูน้ำผึ้งยืนทั้งวันแล้วคงจะเมื่อย นั่งพักก่อนนะคะ”
“หอมไม่มีอะไรจะให้ หอมให้กำลังใจแทนนะครับ”
“ถุย พี่หอม ไม่ลงทุนเล้ย”
“ซะที่ไหนล่ะ” หอมชูกระติก “นี่ไง หอมชงโกโก้ร้อนมาให้ครูด้วย อาจจะไม่ดีระดับไอ้มาร์ค แต่ดื่มไว้ อุ่นใจกว่านะครู”
น้ำผึ้งซึ้งใจ “ขอบคุณนะคะที่มีน้ำใจกับฉัน แต่ ทุกคนกลับไปเถอะค่ะ ถ้าคุณเทิดมาเห็นเข้าจะโดนดุกัน”
“แต่ชมพู่เป็นห่วงครูนี่คะ”
“ฉันไม่เป็นไร จริงๆ นะคะ”
หอมกับชมพู่พยักหน้า จำต้องยอม
“ก็ได้ครับ ถ้ามีอะไร เรียกหอมได้ตลอดนะครับ”
“ทำเป็นพูดดี เข้าบ้านไปก็หลับเป็นตาย”
หอมยิ้มกริ่ม “แหม แกนี่รู้ทันฉันตลอดเลยนะ นังชมพู่!”
สองคนขึ้นบ้านไป
น้ำผึ้งนั่งจิบโกโก้ร้อน คลุมผ้าคลุมของชมพู่แล้วอุ่นขึ้น น้ำผึ้งเงยหน้ามองไปที่ระเบียงห้องนอนเทิด
“คนอะไรใจแข็งเหลือเกิน หัวใจทำด้วยอะไรเนี่ย”
น้ำผึ้งท้อแต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ฟากเทิดไม่สบายใจนักนึกถึงน้ำผึ้ง เมื่อออกไปยังระเบียงห้องทำงานแล้วมองลงไปตรงลานน้ำพุแล้วต้องตกใจที่เห็นน้ำผึ้งยังยืนอยู่
“ดื้อด้านจริงๆ”
เทิดกับน้ำผึ้งมองตากัน น้ำผึ้งแววตาอ้อนวอน เทิดยังใจแข็ง ไม่ยอมใจอ่อน เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
เทิดตะโกนไปว่า “เข้ามา” พลางกลับเข้าห้อง
พรเข้ามาในห้อง
“ป้าพรนี่เอง มีอะไรรึเปล่า”
“ป้าเอากาแฟมาให้ค่ะนาย”
“ขอบใจ วางไว้ก่อนเลย”
พรวางแก้วกาแฟ แล้วยืนรีๆรอๆ ยังไม่ยอมออกไปจากห้อง เทิดแปลกใจหันไปถาม
“มีอะไรอีกรึเปล่าป้า”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะนาย แค่จะมาบอกว่าคืนนี้อากาศเย็น อย่าลืมปิดประตูระเบียงด้วย เดี๋ยวลมเข้า”
“ปกติผมปิดอยู่แล้วนี่”
“อ้อ เหรอคะ ป้าก็ลืมไป แต่ว่าคืนนี้อากาศเย็นจริงๆนะคะ ถ้าออกไปยืนข้างนอกทั้งคืนนี่ สงสัยจะไม่สบายแน่ๆ”
ป้าพยายามพูดบอกเป็นนัยบางอย่าง แต่เทิดทำนิ่ง
“ไม่มีใครบ้าไปยืนข้างนอกทั้งที่อากาศแบบนี้หรอก”
“นั่นสิคะ ใครจะทำแบบนั้น ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ป้าคนนึงคงไม่ทำ”
พรยิ้มขำ เทิดปรายตาเหลือบมองผ่านระเบียงไปนอกบ้านตรงที่น้ำผึ้งยืนอยู่
น้ำผึ้งยืนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บ พวกหอม ชมพู่ อ้อย ผัน และ พร ยังคงเฝ้าดูน้ำผึ้งจากในบ้าน ทุกคนเป็นห่วงน้ำผึ้ง ยกเว้นอ้อยยิ้มร่าดีใจที่จะชนะพนันรอมร่อ
สักพักผันก็ลุกยืนขึ้น
“ทนไม่ไหวแล้วโว้ย”
อ้อยตกใจ “พ่อ จะทำอะไรน่ะ”
ผันมองดุอ้อย แล้วเดินออกไปหาน้ำผึ้ง พร ชมพู่ หอมพากันลุกตามไปหมด
“ทุกคน ไปไหนกัน ฉันไปด้วยสิ”
อ้อยรีบตามไป
อ่านต่อหน้า 3
มนต์รักอสูร ตอนที่ 13 (ต่อ)
พร ผัน ชมพู่ หอม และอ้อยเดินตามกันเป็นพรวนเข้ามาหาน้ำผึ้ง
“คุณเทิดไม่ใจอ่อนง่ายๆ หรอกน้ำผึ้ง อย่าอยู่ตรงนี้เลย เสียเวลาเปล่า” ผันบอก
“กลับเถอะค่ะครูน้ำผึ้ง ไม่มีประโยชน์หรอก” พรว่า
น้ำผึ้งเริ่มท้อสุดๆ
“ถ้าฉันลุกไปตอนนี้ฉันก็ยอมแพ้สิคะ”
ชมพู่บอกว่า “มันไม่เกี่ยวกับแพ้ชนะหรอกค่ะ แต่เราทุกคนเป็นห่วงครู”
“ฉันทนได้จริงๆ นะคะ”
อ้อยชักรำคาญ
“จะอวดเก่งไปถึงไหน จ้างให้นายก็ไม่ออกมาหรอก ไม่มี…”
หอมหันไปทางประตู เห็นเทิดเดินออกมาจากในบ้าน
“น…นาย”
เทิดออกมาจากบ้าน เดินมาหยุดตรงหน้าน้ำผึ้ง ทำเอาครูสาวอึ้งไป
“คุณเทิด”
ทุกคนต่างคาดไม่ถึง มองเทิด แล้วอึ้งไปเหมือนกัน
เทิดดุน้ำผึ้ง “กลับไปได้แล้ว นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอจะมานอนได้ กลับห้องตัวเองไปซะ”
น้ำผึ้งไม่ยอมเทิดเหมือนเดิม
“ไม่ค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมเซ็นใบอนุญาตให้ฉัน ฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“ถ้าป่วยแล้วสอนหนังสือคุณนันท์ไม่ได้ ฉันจะหักเงินเดือนเธอ!”
“ถึงจะช่วยให้คุณนันท์สอบเข้าเรียนได้ แต่กลับสอบตกเรื่องการเข้าสังคม ฉันก็ไม่มีคุณสมบัติของครูที่ดีอยู่ดีค่ะ คุณถนัดเรื่องไล่ฉันออกอยู่แล้วนี่คะ เชิญไล่ได้เลย”
เทิดระอาในความดื้อของน้ำผึ้ง แต่ลึกๆ ก็ทึ่งในความหวังดีของครูสาว โยนเอกสารลงพื้นตรงหน้าน้ำผึ้ง
“ฉันบอกให้กลับก็กลับไปซะ! เธอนี่มันพูดไม่รู้เรื่องรึไง!”
“ไม่ค่ะ จนกว่าคุณจะยอมอนุญาตให้....”
น้ำผึ้งยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็เห็นลายเซ็นเทิดในเอกสารเสียก่อน น้ำผึ้งอึ้งหนัก คิดว่าตัวเองตาฝาด
“ลายเซ็น...” น้ำผึ้งเงยหน้าถามเทิด ไม่อยากเชื่อตาตัวเอง “คุณอนุญาต”
“ฉันทำเพื่อคุณนันท์ ไม่ใช่เพราะยอมแพ้เธอ และถ้างานนี้มีปัญหาเธอต้องรับผิดชอบ!”
ทุกคนมองสลับน้ำผึ้งกับเทิดแบบงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น อ้อยหน้าเหวอ
น้ำผึ้งยิ้มออก ด้วยความดีใจจึงเผลอตัวเข้าไปจับมือเทิดเขย่า
“ขอบคุณค่ะคุณเทิด ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ”
ทุกคนตรงนั้นดีใจไปด้วย มีอ้อยคนเดียวที่ฮึดฮัดขัดใจ อยากจะกรี๊ดแต่ทำไม่ได้
“นายยอมอนุญาตจริงๆ เหรอเนี่ย ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยป้า”
พรดีใจ “ก็ไม่ได้ฝันน่ะสินังชมพู่”
“สำเร็จแล้ว ครูน้ำผึ้งทำสำเร็จแล้ว!” หอมร้องลั่น
“ไม่จริง ทำไมนายทำกับอ้อยแบบนี้! ฮือ” อ้อยกระฟัดกระเฟียดท่าทีน่าขัน
ผันส่ายหน้า เอือมระอาลูกสาววัยแซบ
“ฉันเตือนแกแล้วนังอ้อย
หอมสังเกตเห็นน้ำผึ้งจับมืออยู่กับเทิด เลยพูดขึ้นมาลอยๆ ว่า
“แต่แหม…ขนาดเราดีใจด้วย ยังไม่จับมือกันแน่นขนาดใครบางคนเลยน้อ”
น้ำผึ้ง เทิดมองที่มือตัวเอง ทำเป็นเก๊กหน้าดุ น้ำผึ้งรู้ตัวรีบปล่อยมือออก
“เอ่อ…ฉันขอโทษค่ะ”
เทิดไม่ตอบ ทำขรึมใส่พอจะเดินหนีกลับเข้าบ้าน แต่เจอสายตาของลูกน้องยกเว้นอ้อย ยิ้มมาให้เป็นเชิงล้อ อสูรจอมเหวี่ยงเลยโวยวายกลบเกลื่อน
“รีบแยกย้ายกันซักที ไม่รู้จักหลับจักนอนกันรึไง”
เทิดเดินดุ่มๆ เข้าบ้านไป ทุกคนยิ้มให้กัน ดีใจที่เรื่องจบลงด้วยดี
น้ำผึ้งรีบโทรศัพท์บอกฟ้าใสซึ่งอยู่ที่ร้านเวดดิ้งแต่เช้า ภูฤทธิ์อยู่ที่ร้านด้วย
พอได้ฟังฟ้าใสก็แปลกใจ “งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดคุณนันท์เหรอ”
“ใช่ แกต้องช่วยฉันนะ แกก็รู้ว่าฉันถนัดแต่สอน ไม่เคยจัดงานใหญ่โต มีคนเก่งๆ อย่างแกมาช่วย ฉันจะอุ่นใจขึ้นเยอะเลย”
“พอแล้ว ไม่ต้องยอ ฉันก็ต้องช่วยแกอยู่แล้ว”
“ขอบคุณมากฟ้า ฉันรักแกที่สุดเลย!”
“ว่าแต่ชวนคุณภูด้วยรึเปล่า”
“ได้สิ”
“นี่ฉันออกมาคุยกับคุณภูอยู่เลย”
“งั้นดีเลย ฝากแกชวนด้วยนะ”
ฟ้าใสหันไปบอกภูฤทธิ์
“คุณภูคะ น้ำผึ้งชวนไปงานวันเกิดคุณนันท์ คุณภูว่างมั้ยคะ”
ภูฤทธิ์ยิ้มกว้างดีใจ “ชวนผมเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ผมยินดีครับ บอกคุณน้ำผึ้งด้วยว่าผมว่างเสมอ จะให้ช่วยอะไรก็บอกได้เลย”
ฟ้าใสคุยกับน้ำผึ้งต่อ “คุณภูตกลงนะ เขาบอกด้วยว่ามีอะไรก็บอกได้เลย”
“ฝากบอกคุณภูว่าขอบคุณมาก เดี๋ยวฉันต้องไปสอนคุณนันท์แล้ว ไว้มีอะไรจะโทรไปใหม่นะ”
เห็นฟ้าใสวางสาย ภูฤทธิ์มองอยู่รีบถามทันที
“คุณน้ำผึ้งว่าไงบ้างครับ”
“เขาฝากมาขอบคุณคุณภูด้วยค่ะ แต่ว่าต้องไปสอนก่อน เลยวางไปแล้ว”
“อ้อ...ครับ”
ฟ้าใสรู้ว่าภูฤทธิ์อยากกคุยกับน้ำผึ้ง
“จะว่าไป หลังจากที่เราไปช่วยน้ำผึ้งเก็บองุ่น อะไรๆก็ดูเหมือนจะดีขึ้นนะคะ”
ภูฤทธิ์นิ่งคิดหน้าเครียด “ผมก็คิดแบบคุณฟ้า แต่ก็ยังไม่วางใจซะทีเดียว”
“ทำไมล่ะคะ”
“เราไม่มีวันรู้เลยว่าคุณเทิดวันไหนเขาจะมาดีมาร้าย คุณน้ำผึ้งอยู่ที่นั่น ผมไปหาบ่อยๆ ก็ไม่ได้ด้วย เพราะอะไรคุณก็รู้”
“ฟ้าทราบค่ะ แต่คุณภูอย่าลืมสิคะ”
“ครับ”
“น้ำผึ้งชวนเราไปงานวันเกิดคุณนันท์ได้ แสดงว่า...ยัยเพื่อนของฉันเนี่ยต้องทำอะไรสักอย่างให้คุณเทิดยอมได้แน่ๆ”
ภูฤทธิ์คิดตาม “จริงของคุณ”
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เห็นไหมคะ หรือถ้าคุณอยากเจอยัยผึ้งจริงๆ เดี๋ยววันงานคุณนันท์ก็ได้เจอ เชื่อฟ้าสิคะ”
ภูฤทธิ์ค่อยยิ้มออก ฟ้าใสยิ้มด้วย ถึงแม้ในใจจะเศร้ามากก็ตาม
น้ำผึ้งสอนหนังสือนันท์อย่างตั้งอกตั้งใจ จนได้เวลาเลิกเรียน หอมดีใจ
“เลิกเรียนแล้ว”
“อย่าลืมทำการบ้านมาส่งพรุ่งนี้นะคะ สำหรับคุณนันท์ครูมีการบ้านพิเศษให้ค่ะ”
หอม อ้อย และนันท์ แปลกใจ
“ครูอยากให้คุณนันท์ช่วยคิดธีมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดคุณนันท์ค่ะ”
“ธีมงานเหรอครับ”
อ้อยหน้าตึง ไม่พอใจที่น้ำผึ้งเจ้ากี้เจ้าการ
“ครูอยากจัดก็จัดไปคนเดียวเถอะค่ะ คุณนันท์ไม่สนุกด้วยหรอก เคยถามคุณนันท์บ้างมั้ยว่าอยากจัดงานวันเกิดที่ไม่มีคุณพริมอยู่ด้วยรึเปล่า! จริงมั้ยคะคุณนันท์”
นันท์ฟังแล้วเสียใจ วิ่งหนีออกจากห้องไป
“คุณนันท์!”
น้ำผึ้งตกใจ รีบตามนันท์ไป อ้อยจะตามไปเป่าหูอีก ถูกหอมขวางไว้
“ไม่ต้องไปยุ่งเลย ปล่อยให้ครูน้ำผึ้งคุยกับคุณนันท์เอง”
“หลีกไปนะพี่หอม”
“ไม่”
อ้อยหงุดหงิดตามไปไม่ได้ โดนหอมขวางไว้
นันท์หนีมานั่งเศร้าอยู่คนเดียวในสวนข้างบ้าน พอเห็นน้ำผึ้งเดินเข้ามาหา ก็ลุกขึ้นจะเดินหนี
“เดี๋ยวค่ะคุณนันท์ คุยกันก่อนนะคะ ถ้าเอาแต่หนีแล้วจะเข้าใจกันได้ยังไง”
“ครูจัดงานวันเกิดนันท์ทำไมครับ”
“ครูอยากให้คุณนันท์มีความสุข”
เด็กชายหน้าเศร้า “งานวันเกิดที่ไม่มีแม่ นันท์จะมีความสุขได้ยังไง”
น้ำผึ้งสงสาร อธิบายให้นันท์ฟังอย่างใจเย็น
“ถึงคุณแม่จะไม่ได้อยู่กับคุณนันท์แล้ว แต่คุณแม่ยังเฝ้าดูคุณนันท์จากบนท้องฟ้านะ คุณนันท์อยากให้คุณแม่เห็นคุณนันท์มีความสุขมั้ยคะ”
นันท์นิ่งคิดนิดหนึ่ง แล้วพยักหน้า
“แม่เคยบอกว่าถ้านันท์มีความสุข แม่ก็มีความสุข”
“เพราะฉะนั้นคุณนันท์ต้องมีความสุขให้คุณแม่เห็นนะคะ ก่อนอื่นต้องยิ้มก่อนเลย ถ้าคุณแม่เห็นคุณนันท์ร้องไห้ คุณแม่จะไม่สบายใจนะคะ”
นันท์ยิ้มออก น้ำผึ้งเช็ดน้ำตาให้ พร้อมกับลูบผมนันท์ด้วยความเอ็นดู
อ้อยตามมา พร้อมหอม
“คุณนันท์! อย่าไปฟังครูน้ำผึ้งนะคะ ยกเลิกงานวันเกิดไปเลยค่ะ!”
“นันท์เปลี่ยนใจแล้ว นันท์อยากให้ถึงงานวันเกิดเร็วๆ”
อ้อยเซ็ง “ทำไมเปลี่ยนใจง่ายนักล่ะ”
“อย่าลืมการบ้านครูนะคะ เรื่องธีมงาน”
นันท์นิ่งคิด จนนึกออก บอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “นันท์คิดออกแล้วครับ!”
นันท์กระซิบกับน้ำผึ้ง ยิ้มสนุกกันสองคน
“บอกพี่อ้อยบ้างสิคะคุณนันท์”
“ไม่บอก”
“สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆๆๆ”
อ้อยโมโหหยิกหอม
“ตลกนักเหรออีพี่หอม!”
“โอ๊ย”
อ้อยตีหอม หอมวิ่งหนี
น้ำผึ้งกับนันท์มองตามยิ้มขำ ยิ้มขำๆ อ้อยกับหอมที่ชอบทะเลาะกันได้ตลอดเวลา
อ่านต่อหน้า 4
มนต์รักอสูร ตอนที่ 13 (ต่อ)
ไม่นานต่อมา น้ำผึ้งเดินคุยกับนันท์มาตามทางในไร่
“คุณนันท์เชิญเพื่อนๆ ครบรึยังคะ”
“ครบแล้วครับ”
นันท์นิ่งไป เหมือนไม่แน่ใจที่ตัวเองพูด
“ครบแน่ๆ ใช่ไหมคะ ไม่ได้มีใครอยากให้มาเป็นพิเศษใช่ไหม”
“ไม่มี...ครับ”
น้ำผึ้งยิ้ม “จริงๆตอนนี้ที่ชวนมากมีเพื่อนคุณนันท์ไม่กี่คน จะชวนใครเพิ่มอีกก็พอได้นะคะ”
น้ำผึ้งแอบสังเกต นันท์เหมือนนึกได้ รำพึงเบาๆ ว่า “หมอนอิง”
“ว่าไงนะคะคุณนันท์”
“เพื่อนนันท์ ชื่อหมอนอิง นันท์อยากให้เขามาด้วย”
“ชื่อน้องหมอนอิง ใช่ไหมคะ”
นันท์ซึม “ครับ แต่เขาคงไม่มาหรอก”
น้ำผึ้งมองนันท์อย่างเอ็นดู คิดจะหาทางช่วย
นันท์กับน้ำผึ้งเดินมาสักพัก ก็เจอกับเด็กๆ ลูกคนงานที่วิ่งเล่นกันอยู่
“คุณนันท์ครับ พรุ่งนี้วันเกิดคุณนันท์เหรอครับ นี่ของขวัญวันเกิดครับ”
เด็ก 1 ที่เคยมีเรื่องกัน ยื่นลูกแก้วให้นันท์หนึ่งลูก เล่นเอานันท์อึ้ง
“ไม่โกรธนันท์เหรอ”
เด็ก 1 กับ พวก พากันส่ายหน้า แถมยิ้มให้ นันท์หันมาหาน้ำผึ้ง
“ครูน้ำผึ้งครับ นันท์ชวนพวกเขาไปงานวันเกิดด้วยได้มั้ย”
“ได้สิคะ คุณนันท์เป็นเจ้าของวันเกิด จะชวนใครก็ได้ทั้งนั้น”
นันท์ดีใจ หันไปชวนเด็กๆ ลูกคนงานว่า “พรุ่งนี้ไปงานวันเกิดนันท์ด้วยกันนะ ครูน้ำผึ้งบอกว่าในงานมีของเล่น มีขนม มีเพื่อนๆ เยอะแยะเลย”
บรรดาลูกคนงานต่างออกอาการตื่นเต้นดีใจ
“จริงเหรอคะ คุณนันท์ใจดีจังเลย”
“เดี๋ยวนันท์ให้พี่หอมเอาชุดมาให้ จะได้ใส่เหมือนกัน”
น้ำผึ้งมองนันท์คุยกับลูกคนงานด้วยแววตาชื่นชมที่นันท์มีน้ำใจ
พรและชมพู่ช่วยกันตากผ้าอยู่ตรงลานหลังบ้าน น้ำผึ้งเดินเข้ามาหา
“ป้าพรคะ”
“ครูน้ำผึ้ง มีอะไรคะ”
“น้ำผึ้งเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ขาดก็แต่เค้กวันเกิด ป้ารู้มั้ยคะว่าคุณนันท์ชอบทานเค้กอะไร”
พรอึ้ง
“คุณนันท์ชอบทานเค้กองุ่น แต่คงหาซื้อที่ไหนไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเป็นเค้กที่คุณพริมทำให้”
น้ำผึ้งหน้าเศร้าด้วยความผิดหวัง
“แล้วจะทำไงดีล่ะคะ”
“ลุงแซมเป็นคนสนิทของคุณพริม อาจจะพอรู้ว่าทำยังไง”
“โห รายนั้นท่าจะยาก แกไม่ค่อยสุงสิงกับใคร” ชมพู่ว่า
น้ำผึ้งคิดหนัก
ขณะที่แซมนั่งเป่าหีบเพลงอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเหงาเศร้าอยู่คนเดียวนั้น น้ำผึ้งก็ขึ้นเรือนมาหา ถือกล่องพลาสติกใส่ขนมเค้กที่ลองทำมาด้วย
“ลุงแซมคะ”
แซมแปลกใจ “ครูน้ำผึ้ง มาทำอะไรแถวนี้ครับ”
น้ำผึ้งยื่นกล่องพลาสติกใส่เค้กที่ทำเองให้แซมดู
“น้ำผึ้งลองทำเค้กองุ่นให้คุณนันท์ในงานวันเกิดพรุ่งนี้ อยากให้ลุงแซมช่วยชิมว่ารสชาติเป็นไงบ้างค่ะ”
แซมได้ยินเรื่องเค้กองุ่นก็นึกถึงพริม แล้วเจ็บปวดใจ ลุกขึ้นหนีตัดบทด้วยเสียงเย็นชา
“ดึกแล้ว ครูไปนอนเถอะ ผมก็จะนอนแล้ว”
“เดี๋ยวค่ะ”
แซมชะงัก
“น้ำผึ้งเตรียมทุกอย่างพร้อมสำหรับงานวันพรุ่งนี้ ขาดก็แต่...เค้กองุ่นที่คุณนันท์ชอบ ป้าพรบอกว่าเค้กนี้หาซื้อที่ไหนไม่ได้ น้ำผึ้งขอร้องนะคะ ลุงแซมช่วยชิมหน่อยเถอะค่ะ”
แซมไม่เข้าใจ และไม่พอ
“ครูจัดงานวันเกิดเพื่ออะไร คิดบ้างมั้ยว่ามันยิ่งตอกย้ำให้คุณนันท์คิดถึงคุณพริม”
น้ำผึ้งอึ้ง
“คุณพริมเป็นที่รักของทุกคนที่นี่ การสูญเสียคุณพริมเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด พวกเราทุกคนพยายามเลี่ยง ไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ครูกลับมารื้อฟื้น ทำแบบนี้คุณนันท์กับทุกคนยิ่งเจ็บปวด! ครูเข้าใจบ้างมั้ย”
แซมน้ำตาคลอ เจ็บปวดใจ
“คุณพริมจากไปแล้ว แต่ทุกคนที่นี่ยังมีชีวิตที่ต้องเดินหน้าต่อไป การที่เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องลืมคนที่จากไปนี่คะ ทุกคนมีความสุขได้โดยที่เก็บคุณพริมไว้ในใจเสมอ น้ำผึ้งเชื่อว่าถ้าคุณพริมรับรู้ได้ เธอคงอยากให้ทุกคนที่เธอรักมีรอยยิ้ม ไม่ใช่จมกับความทุกข์แบบนี้”
แซมพูดไม่ออก เพราะน้ำผึ้งพูดถูก
“น้ำผึ้งขอร้องนะคะ ช่วยสอนน้ำผึ้งทำเค้กองุ่นสูตรคุณพริมให้คุณนันท์ด้วยนะคะ”
แซมจ้องหน้าน้ำผึ้งเห็นแววตาเว้าวอนที่มองมาก็คิดหนัก แต่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำว่าจะช่วยหรือไม่ช่วย
อ่านต่อตอนที่ 14