xs
xsm
sm
md
lg

ดิแองเจิล นางฟ้าล่าผี ปี 2 ตอนที่ 7

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดิแองเจิ้ล นางฟ้าล่าผี ปี 2
EP 7 "ล่าปอบ" บทโทรทัศน์โดย ธนสร อ่อนกล่ำผล

ความเดิมตอนที่แล้ว
พระจันทร์ที่เกือบเต็มดวงบนท้องฟ้า บางสิ่งเคลื่อนตัวเข้าหาผู้ใหญ่อย่างรวดเร็ว ผู้ใหญ่หันกลับมา
...ฉืบ !!
สีหน้าผู้ใหญ่เจ็บปวดเลือดค่อย ๆออกปาก มือที่ยกขึ้นนั้นมีหัวใจของผู้ใหญ่ที่ยังเต้นอยู่ ผู้ใหญ่ขาดใจร่างร่วงหลุดไป

ปาล์มกรีดเสียงร้อง... "แอร๊ย"
พิมและแบมมองหน้ากัน
ในห้องปาล์มชันตัวตื่นขึ้นมา มองสำรวจไปรอบ ๆ พบว่าตัวเองยังอยู่ในห้องนอน
เอโกะ แอนนา ต่างเข้ามาดู
"ปาล์มเกิดอะไรขึ้น"

แบมมองอะไรบางอย่างอยู่ ขณะคุยโทรศัพท์กับเอโกะ
"เอโกะ! ผู้ใหญ่บ้าน ..... ผู้ใหญ่บ้านตายแล้ว"
สภาพศพผู้ใหญ่บ้านนอนตายตาเหลือก ที่อกเป็นรู

เชือกที่ผูกติดกับโคนไม้ต้นหนึ่งถูกมีดตัดออก ถุงตาข่ายนั้นร่วงลงมาที่พื้น ชาวบ้านกรูกันเข้าไปเปิดออก
"อีใบ้" ชาวบ้านเรียก
อีใบ้กำลังตื่นกลัว ที่ปากมีเลือดสด ๆ ติดเกรอะกรังไปหมด หมอธรรมอึกอัก เยื้องไปด้านหลังเห็นพันมองนิ่ง ๆ
"เผามัน" หมิธรรมสั่ง

ชาวบ้าน1 รับเทียนจากมือหมอธรรม ชาวบ้าน 2 เอาน้ำมันราดลงบนกองฟอน
ดาบนางเสือเริ่มสั่นอีกครั้ง พิมมองที่ดาบ
"ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นปอบ"
ชาวบ้านพากันฮืออามองหน้ากันเลิกลั่ก ดาบผ่านไปเป็นหน้าลูกศิษย์ หมอธรรม ซึ่งมีพันเยื้องไปทางด้านหลัง ดาบเป็นเริ่มสั่นน้อย ๆ ค่อย ๆ ผ่านหน้าหมอธรรมจะไปหาพัน
"แอร๊ย..."
ปาล์มจากตาที่หลับอยู่ ลืมตา พรึ่บ เผยให้เห็นว่าไม่มีตาดำ ชาวบ้าน 1 ,2 และอีก 2 คนได้สติรีบพุ่งตัวไปตะครุบตัวปาล์มไว้
อยู่ๆ ชาวบ้านชายฉกรรจ์ทั้งสี่กลับกระเด็นออกจากตัวปาล์มไปคนละทิศละทาง ทุกคนตกตะลึง พิมมองอึ้ง
ปาล์มลอยค้างอยู่กลางอากาศในท่านนอน ค่อยๆแตะลงในท่ายืนก้มหน้า เมื่อเท้าแตะเต็มพื้นแล้วปาล์มสะบัดหน้าเงยขึ้น
ชาวบ้านทุกคนฮึกฮาพากันผงะ
ปาล์มพุ่งเข้าหาหมอธรรม ลูกศิษย์และพันซึ่งอยู่ถัดพิมไปทางด้านหลัง แล้วรีบโกยวิ่งหนีเข้าป่า
ทันใดนั้นจอร์ชพุ่งเข้าชาร์ตพิมให้หลบไป ทำให้ปาล์มพลาด
พิมตั้งหลักได้ ขยับดาบจะชักขึ้นมา ดาบถูกชักออกมาแค่โคน มีแสงออร่ากระจายออกมา
ปาล์มหยุด แล้วเปลี่ยนทิศไปทางป่า วิ่งไปทางเดียวกับหมอธรรมและที่เหลือ
"ปาล์ม"
อโกะรีบวิ่งตามปาล์มไปอย่างไม่คิดชีวิต

เสียงสวบสาบและเสียงหายใจแรง ๆ ของหมอธรรม ลูกศิษย์และพันวิ่งต่อเนื่อง ทั้งสามมาหยุดอยู่กลางป่า ลูกศิษย์ทิ้งตัวลงนอนแผ่หรา หมอธรรมทรุดตัวลงนั่งกับขอนไม้ พันกลับยืนมองอาการของทั้งสองคนนิ่ง ๆ ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ
พันหันกลับไปมองด้านหลัง...ทุกอย่างเงียบสนิท
ลูกศิษย์บอก
"มันไม่น่าจะตามมาแล้วนะ"
"แน่ใจนะว่าปลอดภัย" หมอธรรมถาม
"หึ....ไหนว่าหมอธรรมล่วงรู้ทุกอย่างไม่ใช่รึ" พันว่า
หมอธรรมจี๊ดขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะพยายามกลบเกลื่อน
"เอ็งไม่เห็นรึว่าข้าเหนื่อยมาก พลังของข้าก็ต้องลดลงไปเป็นธรรมดา"
"มึงจะพูดจะจาอะไรระวังปากหน่อยสิวะ พูดแบบนี้เท่ากับลบหลู่อาจารย์นะ" ลูกศิษย์ว่า
พันแอบยิ้มหมั่นไส้ที่มุมปาก นิดหนึ่ง
"เอาละ ข้าไม่ถือสาอะไรเอ็งหรอก เดี๋ยวเอ็งนำทางพวกข้ากลับออกไปที่หมู่บ้านก็แล้วกัน เมื่อกี้ข้ามัวแต่วิ่ง ไม่ทันได้จำทาง"
พันมองนิ่ง

ท้องฟ้าเริ่มมืด....พัน เดินนำหมอธรรมและลูกศิษย์วนไปเวียนมา พันเริ่มมีอาการคล้ายคนอยากยา
มือของพันที่กำแล้วคลาย ซ้ำไปมา คล้ายจะบริหารนิ้วมือ ใบหน้าเริ่มมีเหงื่อซึม ที่ลำคอปรากฎเส้นแขนงเส้นเลือดสีดำขึ้น
หมอธรรมถาม
"เอ็งจะพาพวกข้าเดินไปถึงไหนวะ นี่เริ่มมึดแล้วยังไม่มีวี่แววของหมู่บ้านเลย"
"ป่านี้ข้าก็เข้ามาไม่กี่ครั้งหรอก"
"อ่าว....มึงเป็นคนพื้นที่ไม่ใช่เหรอวะ กูก็นึกว่าชำนาญ" ลูกศิษย์ว่า
"ข้าเองก็เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานหรอก" พันบอก
พันเม้มและแลบลิ้นเลียริมฝีปาก เบาๆอย่างหิวโหย
แขนงเส้นเลือดสีดำ ลามไล่เพิ่มขึ้นจากคอ ไปที่หน้า
"แล้วก็ไม่บอกแต่แรก นี่มึงพาพวกกูเดินหลงถึงไหนต่อไหนแล้ววะเนี่ย"
พันหยุดเดินกึก
"ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าพาพวกเอ็งหลง"
"ไม่หลงแล้วทำไมยังไม่ถึงอีกวะ" หมอธรรมบอก
พันหันควับมา แววตาของพันเปลี่ยนไปเหมือน ดวงตาของสัตว์กินเนื้อ ทุกคนต่างพากันตะลึง
เขาเข้าหาหมอธรรมอย่างรวดเร็ว
"อย่า!!!.....อ๊าก"
หมอธรรมก็กระอักเลือด พันมองมือที่ทะลุคาอยู่ที่หน้าอกของหมอธรรม แล้วบิดมือ...กระชากเอาหัวใจออกมา หมอธรรมก่อนสิ้นลม เห็นหัวใจของตัวเองยังเต้นตุบ ๆ อยู่ในมือพัน พันมองมาอย่างเหี้ยมเกรียม ยกหัวใจขึ้นมากิน
ลูกศิษย์หน้าเหวอสุดขีด ไม่ทันตั้งตัว
ร่างหมอธรรมทรุดฮวบ ล้มลงแน่นิ่งกับพื้นดิน
พันกลืนหัวใจคำสุดท้าย แล้วเอามือปาดเลือดที่ปาก ลูกศิษย์ แข้งขาอ่อนค่อยๆถอยหนีแต่ก็สะดุดขอนไม้หงายหลังล้มลงไป พันย่างสามขุมเข้ามา ลูกศิษย์ยกมือไหว้ขอชีวิต
"อย่า...อย่าทำอะไรกูเลย...กูกลัวแล้ว"
พันย่างสามขุมเข้ามาหาลูกศิษย์อย่างใจเย็น
"ทางนี้ !!" เสียงเอโกะดังเข้ามา

เสียงสวบสาบของแก๊งค์สาว ๆ แองเจิ้ล ฝ่าดงมาไม้มา พันชะงักมองไปทางต้นเสียง หันกลับมองมาที่ลูกศิษย์อย่างเสียดาย !
"แอนนา และพี่จอร์จ วิ่งออกมาจากพงไม้ด้านหนึ่ง" เอโกะว่า
"มีคนอยู่ตรงนี้" แอนนาว่า
ลูกศิษย์สดุ้งสุดตัวด้วยความหวาดกลัว สติหลุดลอย กระเถิบถอยหนีกลุ่มแอนนา ยกมือไหว้ท่วมหัว
"อย่า !! อย่าทำกู ไม่นะ"
ทุกคนอึ้งที่เห็นลูกศิษย์ดูเหมือนจะเป็นบ้าไปแล้ว ส่วนหมอธรรมนอนตายตาเหลือก มีเลือดไหลที่อกอยู่
เอโกะและแอนนามองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
ลูกศิษย์หมอธรรม มองทั้งสามอย่างหวาดกลัว แอนนาขยับตัวจะเข้าไปหา ลูกศิษย์ก็ผวาวิ่งเตลิดไป
"เดี๋ยวสิคะ พี่!" เอโกะว่า
จอร์ชจะวิ่งตาม
"ไม่ต้องตามพี่จอร์จ" แอนนาบอก
จอร์ชหยุด หันกลับมา
"เราตามคนของเราก่อน" แอนนาบอก
"เออจริงด้วยสิครับ....ผมก็ไม่รู้ว่าตามไปแล้ว จะทำอะไรต่อเหมือนกัน .... อยู่กับคุณๆดีกว่าปลอดภัย"
"กลัวขนาดนี้แล้วมาด้วยทำไมคะเนี่ย"
จอร์ชยิ้มแหย ๆ
"แหม...ตอนนั้นจอร์ชเป็นห่วงคุณปาล์มครับ ลืมไปว่ากลัว....แต่ตอนนี้ก็ยังห่วงอยู่นะครับ"

ต้นไทรใหญ่กลางป่า รอบ ๆ เป็นลานโล่ง ห่างไปไม่ไกลเป็นร่างของปาล์มนอนสลบอยู่
ที่โคนต้นไม้มีลิ่มไม้ปักอยู่ พันเดินเข้ามา ดวงตากลับเป็นปกติแต่ใบหน้ายังเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด จ้องมองร่างปาล์มที่นอนนิ่งอยู่
"มึงสื่อถึงพลังของกูได้ยังไง"

ย้อนกลับไปในดีต ดาบนางเสือสั่นน้อย ๆ ขณะที่พิมกำลังชี้ดาบไปทางชาวบ้านเพื่อหาปอปตัวจริงพันมองตะลึงนิดหนึ่งคิดหาวิธีเอาตัวรอด ทันใดนั้นพันสัมผัสพลังบางอย่างได้ หันควับไปดูปาล์ม และขณะที่พิมกำลังเลื่อนดาบมาทางพัน เขาหันกลับไปเพ่งและส่งกระแสจิตไปที่ปาล์ม
ปาล์มโดนพลังสะกดของพัน ร้องกรี๊ดเสียงดัง
พิมละความสนใจจากดาบหันกลับไปดู เห็นปาล์มล้มลงกับพื้น ทุกคนตกตะลึง
ปาล์มจากตาที่หลับอยู่ ลืมตา พรึ่บ แต่ไม่มีตาดำ
หมอธรรมบอก
"ปอบมันออกจากอีใบ้แล้ว มาเข้าร่างนังเด็กนี่แทน ทุกคนช่วยกันจับตัวไว้ เร็ว"
หมอธรรมที่สั่งชาวบ้าน พันจ้องเขม็งไปยังปาล์ม แล้วแอบยิ้มอย่างมีชัย

พันยังคงมองไปยังร่างของปาล์มที่นอนหลับไม่ได้สติ ทรุดตัวลงนั่ง มองอย่างพิจารณาแล้วยิ้มพอใจ
"หน้าตามึงนี้ก็งามไม่หยอก"
พันขยับเข้าใกล้แล้วยื่นมือแตะที่ใบหน้าของปาล์ม
ทันใดนั้นพันมีอาการราวกับไฟดูด
"อ๊ากส"
เหมือนพลังวิญญาณร้ายถูกแรงดูดให้ออกมาจากร่างของพัน เผยใบหน้าของบุญเพ็ง วิญญาณบุญเพ็งพยายามฝืนกลับเข้าไปในร่างพันอีกครั้ง
มือที่จับแก้มปาล์มถูกกระชากกลับ
"มึง ..... นี้มึงเป็นใครกันแน่"

บุญเพ็งในร่างของพันหอบถี่ เหงื่อท่วมตัว แขนงเส้นเลือดสีดำค่อยๆผุดขึ้นที่คอและใบหน้า ตาเปลี่ยนเป็นตาของสัตว์กินเนื้ออีกครั้ง .มือของพันที่กำแล้วคลายซ้ำๆ พันเม้มปาก แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปาก
มองร่างของปาล์ม
"แล้วกูจะกลับมาหาคำตอบจากมึงทีหลัง"
พันหันกลับไป แล้วรีบขยับเดินออกไป

พระจันทร์ขึ้นเต็มดวง!
รถแองเจิ้ล เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบ้านรีสอร์ต พิมลงจากรถและพยักหน้าให้อีใบ้ลงตามมา อีใบ้มองงง ๆ แต่ก็ทำตาม
"คืนนี้เธอพักอยู่ที่นี้ก่อนนะพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน"
ตั้มลงจากฝั่งคนขับมาเปิดประตูให้แบม
"เชิญคร๊าบเจ้าหญิง"
"ไม่ต้องทำแบบนี้มากได้ไหม...ไม่ชอบ"

แบมพูดทั้ง ๆ ที่มีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด
พิมมองแบมอย่างผิดสังเกตุ ทันทีที่เท้าแบมแตะพื้น เธอก็ทรุดลง ตั้มรีบเข้าไปคว้าตัวทันที
พิม/ตั้มร้องรียก "แบม"
ทั้งหมดมองแบมด้วยความเป็นห่วง แบมก็ประหลาดใจที่ตัวเองมีอาการเช่นนี้อีกแล้ว
"พาแบมเข้าไปข้างในก่อนเถอะ"
ตั้มจึงช่วยพยุงแบมเข้าไปในรีสอร์ต
พระจันทร์ยังเต็มดวงอยู่

ชาวบ้านหญิง 2-3 คนทุกคนอยู่ในชุดสีดำ ไว้ทุกข์ เดินมายังบ้านผู้ใหญ่ ศรีอยู่ในชุดไว้ทุกข์เช่นกัน
"ขอบใจมากนะที่ช่วยงานศพพี่ผู้ใหญ่ แล้วยังเดินกลับมาเป็นเพื่อนฉันแบบนี้อีก"
ชาวบ้านหญิง1บอก
"เอ่อไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่พวกเราเหอะ จะเอายังไงต่อดี"
"ไม่นึกเลยว่าอีใบ้มันจะเป็นปอบจริง ๆ ไม่อย่างนั้น …"
ศรีนึกได้ว่าไม่ควรพูดต่อ จึงเงียบไป
"ไม่อย่างนั้นทำไมเหรอ"
ศรีพยายามกลบเกลื่อน
"ไม่มีอะไรหรอก..ไม่อย่างนั้นเราจะได้ไปจัดการมันตั้งแต่แรกแล้วหนะสิ"
ชาวบ้านหญิง2บอก
"จะจัดการยังไง...ปอบมันเปลี่ยนไปสิงใครก็ได้ ขนาดหมอธรรมยังวิ่งหนีเข้าป่าไปเลย"
"ป่านนี้จะเป็นยังไงกันบ้างก็ไม่รู้" ชาวบ้านหญิง 1 บอก
ชาวบ้านหญิง2บอก
"ฉันสองคนกลับก่อนละนะ"
ชาวบ้านหญิง 1,2 เดินกลับไป ศรีมองตามพักหนึ่งแล้วหันกลับจะเข้าบ้าน
ศรีเดินผ่านรั้วไปนิดเดียวก็เจอกับพันยืนจังก้าอยู่ในเงามืด
"ตกใจหมดเลยไอ้พัน ไปยังไงมายังไงเนี่ย"
พันยืนนิ่งไม่ตอบ
"แล้วหมอธรรมล่ะ...ไม่กลับมาด้วยรึ"
"มันตายแล้ว"
พันก้าวออกมาจากเงามืดเผยให้เห็น หน้าตาที่เปลี่ยนไปของพัน

ชาวบ้าน 1,2 เดินต่อเนื่องมา แล้วหยุด
ชาวบ้านหญิง1บอก
"แกไม่น่าพูดเรื่องปอบนั้นเลย ฉันไม่กล้าจะเดินกลับบ้านแล้วหวะ"

แทนสายตาชาวบ้าน 1 เห็นทางข้างหน้ามืดและวังเวง
ชาวบ้านหญิง1 บอก
"ข้าว่านะ เราไปขอนอนค้างบ้านแม่ศรีดีกว่านะคืนนี้"
ชาวบ้านหญิง2เห็นด้วย

ศรีมองพันอย่างอึ้ง ๆ
"ไอ้พัน...นี่เอ็งเป็นอะไร"
พันยิ้มร้าย ศรีรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยค่อยๆถอยหนี
"เอ็งบอกว่าหมอธรรมตายแล้ว ตายยังไง ? ใครฆ่า...ปอบเหรอ"
"ปอบ....หึ ๆ อย่าเอากูไปเทียบกับไอ้ผีชั้นต่ำแบบนั้น"
พันพุ่งเข้าไปกระซวกอกศรี ศรีกระอักเลือด
ชาวบ้านหญิง1,2 กลับเข้ามาเห็นพอดี ทั้งสองอึ้ง แทบจะหยุดหายใจ
พันบิดมือคล้ายกับควานหาขั้วหัวใจของศรี ศรีร่างสั่นเทาทั้งหวาดกลัว ทั้งเจ็บปวด
"กูจะบอกอะไรมึง...ผัวมึงที่ตายหนะ ฝีมือกู แล้วคราวนี้ก็ตามึงแล้วล่ะ"
พันกระชากมือกลับออกมาจากอกพร้อมหัวใจที่ยังเต้น...ตุบ ๆ ศรีล้มลง พันยกหัวใจขึ้นมากินสดๆ
ชาวบ้านหญิง 1,2 กรีดร้อง
"อร๊าย...ปอบ ไอ้พันเป็นปอบบ"
ทั้งคู่กรีดร้องแล้วต่างพากันวิ่งหนีหายไปในความมืด
พันมองตามทั้งสองคนแต่ไม่ได้ให้ความสนใจ ใช้มือเช็ดลือดที่เกรอะกรังที่ปาก ตาเปลี่ยนกลับเป็นปกติ แขนงเส้นเลือดสีดำค่อย ๆ หดหายไป พันสำรวจร่างกายตัวเองและรู้สึกถึงพลังที่นิ่งขึ้น
"หึๆๆ....คราวนี้ตามึงล่ะ....คิดจะใช้ดาบนางเสือลงมือกับกู"
แววตาพันแน่วแน่ ผีบุญเพ็งซ้อนอยู่ในร่างของพัน

แบมนอนพักอยู่ที่เดย์เบด ลองขยับมือไปมาแต่ยังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่ ที่มุมหนึ่งอีใบ้นั่งอยู่ซึม ๆไม่ต่างกันนัก
ตั้มคุยโทรศัพท์
"ให้ไวเลยไอ้แห้ว ส่งไฟล์ให้ลุงเฉินเสร็จแล้วกลับมาเลย ไม่ใช่มัวแต่เล่นเกมส์อยู่ร้านเน๊ต เข้าใจไหม"
ตั้มวางสายแล้วเข้ามานั่งข้างๆแบมแล้วยื่นเครื่องดื่ม เลดี้ บู๊ทให้
"ดื่มซะหน่อยสิครับ"
"อะไรอะ"
ตั้มทำท่าล้อเลียนโฆษนา Ready Mixx
"ใหม่!!! เครื่องดื่มบำรุงกำลังสตรี เลดี้ บู๊ท"
แบมนิ่ง

"มีวิตามิน A!"
แบมมองเซ็ง
"C!"
แบมถอนใจ
"E !"
ตั้มพยายามบิ้วอัพสุด ๆ
"และใบแปะก๊วยสกัด!!!!! ……เลดี้ บู๊ท"
แบมยังคงมองตั้มแบบไร้อารมณ์
"บู๊ทไม่ขึ้นเหรอ"
"มันใช่เวลาไหมเนี่ย"
"แหะๆ.. ผมก็แค่อยากให้คุณสดชื่นขึ้นมาเท่านั้นเอง"
"ขอบใจนะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรหรอกแต่เป็นห่วงเพื่อน ๆ มากกว่า"
ตั้มอึ้ง ๆ ไป ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร ได้แต่เปิดฝา เลดีบู๊ท ส่งให้ พิมเดินเข้ามา ในมือมีโทรศัพท์อยู่
"พยายามโทร.ตามพวกนั้นแล้วนะ แต่ติดต่อไม่ได้เลย" พิมว่า
"อยู่ในป่าแบบนั้นไม่น่าจะมีสัญญาณนะครับ"
พิมหนักใจ
"แล้วเราจะเอายังไงต่อดีครับ"
"ยังไม่รู้เหมือนกัน"
แบมพยายามลุกขึ้นยืนแต่ก็ทรุดลงไป ตั้มรีบเข้ามาพยุงไว้
"ยังไงเราก็ต้องไปช่วยพวกเขา"
"ใจเย็นก่อนแบม...เธอยังไม่พร้อม อีกอย่างเราก็ไม่รู้ว่าจะไปตามพวกนั้นได้ที่ไหนตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าพวกสาวๆจะเอาตัวรอดกันได้"
แบมทิ้งตัวลงกับเดย์เบดอย่างขัดใจ

ตั้ม พิมมองหน้ากันหนักใจ

ในป่า ตอนกลางคืน เอโกะสาดส่ายเรดาห์หาพลังงาน โดยมีแอนนา และจอร์ช ที่เดินมาด้วยกัน
เรดาห์ไม่มีสัญญาณใดปรากฎ เอโกะเครียดแต่ก็ยังเดินหาสัญญาณต่อไป
แอนนาบอก
"เอโกะ….มืดมากแล้วนะ ฉันว่าเรากลับไปตั้งหลักกันก่อนดีกว่า"
"จอร์ชเห็นด้วยครับ …. อย่าว่าแต่คลื่นพลังวิญญาณเลย คลื่นโทรศัพท์ก็ไม่มี"
"แต่ฉันเป็นห่วงปาล์ม ไม่รู้ว่าตอนนี้ปาล์มจะเป็นยังไงมั่ง"
"เอโกะ…เราทุกคนก็เป็นห่วงปาล์มเหมือนกัน แต่ถ้าไม่รู้ว่าเราจะไปทิศทางไหน ยิ่งฝืนมันอาจจะยิ่งไปกันใหญ่นะ" แอนนาว่า
"ใช่ครับคุณเอโกะ…เราต้องตั้งสติครับ"

เอโกะมองตาแอนนาและจอร์จที่ยืนยันหนักแน่น
"ก็ได้"
แอนนาและจอร์จชม
"แอนนาเธอพาพี่จอร์ชกลับไปก่อน….ฉันจะตามหาปาล์มต่อเอง"
เอโกะหันหลังแล้วเดินไป
"อ้าว...เฮ้ย"
"บทจะดื้อ ก็ดื้อสะงั้น" จอร์ชว่า
"แล้วเธอจะไปทางไหน…เธอไม่คิดเหรอว่าบางทีเราอาจจะไปคนละทางกับปาล์มก็ได้ คิดดี ๆ เอโกะ…เราจะช่วยคนอื่นให้รอดได้ยังไง ถ้าเรายังอยู่ในอันตราย"
เอโกะนิ่ง
"จะให้ฉันทิ้งปาล์มให้อยู่ในป่าแบบนี้ทั้งคืนฉันทำไม่ได้หรอก"
เอโกะพูดทั้งน้ำตา แอนนาเดินเข้ามาจับไหล่เอโกะ
"เชื่อชั้น…เราทำดีที่สุดแล้ว เราจะกลับมาใหม่และปาล์มจะต้องไม่เป็นอะไร"
ปี๊บ ๆ ๆ ... เสียงเรดาห์ดังขึ้นทำลายความเงียบ เอโกะยกเรดาห์ขึ้นมาดู
"สัญญาณ"
แอนนาและจอร์ชเริ่มตื่นเต้น
"มีพลังงานอยู่แถวนี้"
เอโกะวาดเรดาห์ไปตามทิศทางที่มันบอก ปรากฎร่างของพัน อยู่ไม่ห่างไปนัก ดูน่ากลัว
"นั่น!"
"ชาวบ้านคนนั้น" แอนนาว่า
เอโกะและแอนนาขยับจะเดินเข้าไปหา พันก็ออกวิ่งเข้าป่าไป
"เฮ้ย เดี๋ยวสิ"
ทั้งหมดออกวิ่งตามพันไป พันพาวิ่ง ฝ่าดงไม่ทึบ ผ่านป่าโปร่ง ลุยลำธารตื้น ๆ แอนนา เอโกะ จอร์ช ที่ตามพันมา ขึ้นจากลำธารมองหาพัน เห็นพันหยุดยืนรอ พอสาว ๆ จะเห็นก็ออกวิ่ง ล่อให้ตามไป

พันวิ่งมาหยุดที่ลานโล่งใต้ต้นไทร ทั้งสามวิ่งตามมาถึง
"แกต้องการอะไร" เอโกะถาม
แอนนา เอโกะ เตรียมอาวุธออกมาจะสู้
"เจ๊ !"
ทั้งหมดโพล่ง "ปาล์ม"

ปาล์ม แอนนา เอโกะ วิ่งเข้ามากอดกัน ด้วยความดีใจ จอร์ชจะเข้ามาผสมโรงด้วย แต่พอรู้ตัวจึงถอยมาดีใจห่าง ๆ
"นี่มันยังไงกันแน่เนี่ย" แอนนาถาม
แอนนามองไปทางพัน ที่ยืนมองทั้งหมดอยู่
"ปาล์มขอให้เค้าช่วยเองแหละ...ตอนนี้ร่างของเขาถูกวิญญานร้ายสิงสู่"
"มันหลอกให้ฉันยกร่างให้กับมัน แล้วมันก็ขังวิญญานฉันไว้ที่นี่ จนหนูคนนี้มาที่นี่" พันบอก

ในอดีต ตอนกลางวัน ร่างของปาล์มถูกทิ้งให้นอนสลบอยู่ที่เดิม ใต้ต้นไทรเปลี่ยว มีหยดน้ำค้างหยดลงตรงหน้าปาล์ม
"หนู" พันเรียก
ปาล์มยังคงนิ่งไม่ได้สติ จนเริ่มรู้สึกตัว
"นังหนู !!!ตื่นขึ้นมา"
ปาล์มค่อย ๆลืมตาขึ้นมา
"นังหนู ตั้งสติดี ๆ มาช่วยชั้นหน่อย"
ปาล์มตื่นขึ้นมาเต็มที่แล้ว แต่ยังงง ๆ กับเหตุ
"เสียงใครอะ.... ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยัง"
"ฟื้นแล้วรึ....ช่วยฉันด้วย"
"ใคร...แกเป็นใคร"
"ไอ้คนที่สะกดหนูให้มาอยู่ที่นี้...มันคือคนที่กักขังฉันไว้"
"กักขังไว้..หมายความว่ายังไงกัน"
"ช่วยฉันก่อนเถอะ แล้วจะเล่าให้ฟัง"
ปาล์มมองไปรอบ ๆ ไม่มีใครเลย มีเพียงปาล์มยืนอยู่ตามลำพัง
"ได้โปรดเถอะ ปล่อยฉันออกไปที"
"ปล่อย? ให้ปล่อยยังไง"
"หนูเห็นมีดที่ปักอยู่ที่โคนต้นไทรนั้นไหม"
ปาล์มมองหาที่โคนต้นไทร เห็นมีดหมอปักอยู่ที่โคนต้นไทร เกือบมิดด้าม ปาล์มเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
"นั่นแหละหนู ดึงมันออกมาที วิญญาณของฉันจะได้เป็นอิสระ"
ปาล์มมองลิ่มไม้นั้นลังเล
"ได้โปรดเถอะ หนูเป็นความหวังเดียวของฉัน ได้โปรด"
ปาล์มตัดสินใจดึงมีดหมอนั้นออกมา ดึงค่อนข้างยากเพราะมีดเข้าไปลึก
"มันแน่นมาก"
"พยายามหน่อยหนู ฉันขอร้อง"

ปาล์มพยายามอีกครั้ง
เมื่อมีดหลุดติดมือปาล์มออกมา ก็เกิดลำแสงเจิดจ้าผุดขึ้นมาจากรอยมีด เมื่อแสงนั้นจางลง
ก็เห็นว่าเป็นวิญญานของพันตัวจริงยืนอยู่
ปาล์มตะลึง

พันยังคงยืนมองกลุ่มแองเจิ้ลอยู่ แอนนา เอโกะ จอร์ช มองกลับไปด้วยควมประหลาดใจ
"ปาล์มก็เลยขอให้พี่พันไปนำทางพวกพี่ ๆ มานี่แหละ"
ทุกคนยังอึ้ง ๆ งง ๆ กับเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่
"เธอไม่ได้เป็นปอบหรอกเหรอ" เอโกะถาม
"ไม่เจ๊….ไม่ได้เป็น"
"ปาล์มเธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง" แอนนาว่า
ปาล์มพยายามนึก
"ไม่…ไม่รู้….ปาล์มจำอะไรไม่ได้เลย จำได้ว่าตอนนั้นกำลัง คิดว่าจะทำยังไงถึงจะช่วยผู้หญิงใบ้คนนั้น…แล้วพอมองไปทาง….ใช่พอสบตากับพี่พัน…หมายถึงร่างของพี่พันที่ถูกสิง"

ในอดีต ปาล์มกำลังมองอีใบ้ด้วยความสงสาร หันกลับไปมองทางพิมที่กำลังใช้ดาบหาตัวปอบ
พันจ้องมาที่ปาล์ม
"มันก็เหมือน....เหมือนกับโดนไฟฟ้าช็อต แล้วก็วูบไป... รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี้แล้ว"
แอนนา เอโกะฟังแล้วพยายามคิดไปต่าง ๆ นา ๆ
"ทำไมมันถึงได้เลือกสะกดเธอนะ"
วิญญาณพันบอก
"หนูคนนี้สื่อถึงวิญญานของมันได้"
"ฉันได้ยินมันพูด ตอนที่มันสะกดให้นังหนูมาที่นี้"
"ปาล์มสื่อถึงวิญญานร้ายนั้นได้" แอนนาว่า
"แสดงว่าที่ปาล์มนิมิตเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมพวกนั้น ก็เพราะปาล์มสื่อถึงวิญญานนั่นได้"
"ใช่…แต่มันเองก็ไมรู้ว่าเพราะอะไร แต่พอมันจะเข้าใกล้นังหนูนี่ มันก็เหมือนถูกดูดพลัง นังหนูนี่ถึงได้รอดจนมาช่วยฉันออกไปได้แบบนี้ไง"
ปาล์มอึ้งไปนิดหนึ่ง
"มันเป็นไปได้ยังไงกันแน่"
"ไอ้วิญญาณตัวนี้คงไม่ธรรมดาแน่" แอนนาว่า
"ใช่ มันไม่ธรรมดา…มันเป็นวิญญานของผู้มีอาคมแข็งกล้ามาก" พันบอก

ในอดีต ป่าครึ้ม...บรรยากาศน่ากลัว พันถือเสียมเดินมาที่ต้นว่านชนิดหนึ่ง

"ฉันเองก็เป็นคนที่เรียนอาคม สะสมว่าน คืนนั้นฉันมาขุดว่านจันทร์เพื่อไปลงอาคม และได้เจอกับมัน"
พันตรวจดูใบว่านเมื่อเห็นว่าตรงตามตำราก็ยิ้มดีใจ พันหยิบสายสิญจน์ขึ้นมาพันด้ามเสียมเตรียมขุด.... บุญเพ็งเดินเข้ามา พันชะงัก
บุญเพ็งถาม
"รอยสัก สร้อยสางคำ มึงไปได้มาจากไหน"
"มึงเป็นใคร"
รอยสักที่อกของบุญเพ็ง
พันลูบรอยสักที่หน้าอกของตัวเองซึ่งเป็นลวดลายเดียวกัน
"รอยสักมึงนี้งามดี มึงรู้ไหมว่ามันมีไว้เพื่ออะไร"
พันไม่ค่อยไว้ใจ
"คงกระพันชาตรี"
บุญเพ็งยิ้มร้าย
"ไม่เลว....แล้วมึงรู้ไหมว่ามันสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น"
"มึงเป็นใคร? มาที่นี่ได้ยังไง"
"กูอาจจะเป็นโคตรของอาจารย์มึงก็เป็นได้"
บุญเพ็งคว้าใบไม้ขึ้นมากำแล้วยิ้มให้พัน เพียงชั่วครู่ก็คลายมือออก...ใบไม้ในมือสลายกลายขี้เถ้าไปในทันที พันอ้าปากหวอ....
"ถ้ามึงรักในอาคมมนต์ดำ กูจะสอนให้มึงจะเอาไหม"
พันดีใจ
"จริงรึ"

พันบอกกับทุกคน
"มันหลอกฉันว่าจะสอนอาคมชั้นครูให้ ฉันถึงได้เชื่อ"

ในอดีต พันเขียนอักขระไว้มากมายที่พื้นดินใต้ต้นไทร ดูคล้ายการเขียนยันต์อะไรบางอย่าง
พันเขียนยันต์ตัวสุดท้ายเสร็จ โดยมีบุญเพ็งนั่งวางมาดดูอยู่ที่โคนต้นไทรไม่ห่างไปนัก
"เสร็จแล้วครับ อาจารย์ปู่"
"ดี"
บุญเพ็งเดินเข้าไปใกล้ ๆ พันที่ยืนอยูตรงกลางของยันต์อักขระนั้นแล้วยื่นมือออกให้พัน
"กรีดเลือดมึงมาให้กู"
พันหยิบมีดหมอขึ้นมากรีดข้อมือจนเลือดออก ยื่นบาดแผลไปที่มือของบุญเพ็งที่ยื่นรออยู่แล้ว
เลือดหยดลงบนมือของวิญญาณบุญเพ็ง แล้วทะลุลงที่พื้นซึ่งมีอักขรยันต์เขียนอยู่ แต่ละครั้งที่เลือดผ่านมือวิญญาณบุญเพ็งลงบนพื้น ก็เกิดแสงวูบวาบ ลมพัดแรง......
บุญเพ็งจับรอยแผลที่ข้อมือของพัน พันรู้สึกเจ็บปวดจนต้องทรุดตัวลง รอยสักของบุญเพ็งเกิดควันสีดำ....บุญเพ็งยิ้มแล้วบีบมือสุดแรง พันร้องเจ็บปวด ! เลือดหยดสุดท้าย พร้อมแสงสีแดงสว่างวาบ วิญญาณของพัน เงยหน้าขึ้นมาเห็นมือที่จับไว้ ตอนนี้กลายเป็น ร่างของพันมีบุญเพ็งสิงสู่เสียแล้ว
วิญญานพันตกใจ
"นี้มันอะไรกันอาจารย์ปู่!!! หมายความว่ายังไง"
บุญเพ็งยิ้มร้ายแล้วหัวเราะอย่างมีชัย
"นี้ก็คืออีกอย่างหนึ่งที่รอยสักนี้ทำได้"
ทันใดนั้นเอง บุญเพ็งใช้มีดปักเข้าที่หน้าอกของพันแล้วดันไปที่โคนต้นไทร
"อ๊าก"
"ฮ่า ๆๆๆ"
ทันทีที่มีดปักโคนต้นไทร ร่างพันเปล่งแสงออกมา แล้วแสงนั้นถูกดูดวาบหายเข้าไปที่มีดในมือ
บุญเพ็งในร่างพันหัวเราะร่าด้วยความดีใจก่อนที่จะใช้ตีนถีบมีดให้ปักเข้าไปให้มิดด้าม

พันบอก
"ไอ้ผีชั่วนั้นมันหลอกเอาร่างฉันไปไม่พอ มันยังกักขังวิญญานฉันไว้ที่นี้อีก"

พันที่ถูกบุญเพ็งสิงสู่ มองด้ามมีดอย่างสะใจ

วิญญานพันเหม่อมองด้วยความเครียดแค้นแล้วหันกลับมาคุยกับปาล์ม
"ถ้าหนูไม่มาที่นี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะหลุดไปได้"
"ตอนนี้วิญญาณนั้นในร่างของนายได้กลายเป็น ผีปอบไล่ควักหัวใจคนออกมากิน" แอนนาบอก
"ทุกอย่างต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ถึงมันจะได้ร่างฉันไป มันก็อยู่อย่างมนุษย์ปกติไม่ได้"
"การกินหัวใจอาจจะเพื่อไม่ให้พลังมันต้องสูญสลาย" เอโกะบอก
"ยังไงก็ช่าง แต่ทำไมปาล์มถึงสื่อกับมันได้ล่ะ เจ๊ "
"สำคัญกว่านั้น คือตอนนี้มันอยู่ที่ไหน" แอนนาถาม
ทุกคนต่างขบคิด

บ้านพักรีสอร์๖ตั้งตระหง่างฯามกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืน บุญเพ็งในร่างพันเดินเข้ามายืนมองบ้านยิ้มเหี้ยมเกรียม ก่อนจะท่องคาถาร่ายมนต์แล้วเป่าไปในตัวบ้าน

ชั้นล่างของรีสอร์ต ตอนกลางคืน ดาบนางเสือในมือพิมสั่น
พิม แบม ตั้ม อีใบ้ ที่อยู่รวมกัน ต่างตื่นตัวระวังภัย

"เกิดอะไรขึ้นครับ"
"ต้องเป็นผีปอบนั่นแน่….เตรียมตัว"
"เตรียมตัว?...จะให้เตรียมยังไงครับ"

หน้าต่างกระแทกอย่างแรงจนทุกคนสะดุ้ง ไฟในบ้านก็ติด-ดับ พรึบพรับ ประตูหน้าต่างทุกบานก็ ลั่นอี๊ดอ๊าด เปิด ปิด ปึงปังลมพัดรุนแรง ดูหน้ากลัว
ตั้มกลืนความรู้สึกบางอย่างลงคอ สีหน้าหวั่นไหวสุด ๆ
"มุขคลาสสิค ชัด ๆ"
แบมพยายามลุกขึ้นแต่ก็ทรุดลงไป
ตั้มปรี่จะเข้ามาประคอง แต่ยังไม่ถึงตัว ตั้มก็กระเด็นหงายหลังไปราวกลับถูกกระชาก
พิมกระชับด้ามดาบไว้ในมือเตรียมชักออกจากฝัก
บุญเพ็งหัวเราะสะใจ
ทุกคนพยายามมองหาตัวแต่ไม่เห็น ลมยังคงพัดแรง ไฟยังติด ๆ ดับ ประตูหน้าต่าง เปิด ๆ ปิด ๆ
"มึงจำกูได้ไหม"
"แกเป็นใคร ทำไมฉันต้องจำแกได้ด้วย"
บุญเพ็งหัวเราะอีกครั้ง
ไฟในบ้านแตกไล่จนครบทุกดวง แล้วก็ลมหยุดพัด ประตู-หน้าต่างหยุดนิ่งทันที ทุกอย่างดูสงบนิ่งจนน่ากลัว พิมสอดส่องสายตามองหาว่าอันตรายจะมาจากทางไหน
ตั้มที่ถูกซัดหงายไป พยายามลุกขึ้นมา
พิมสั่งตั้ม
"พาสองคนนี้ขึ้นไปข้างบน"
ตั้มจะเข้าหาแบม แต่แล้วก็ต้องชะงัก...! อีใบ้ตาเหลือกขาวน่ากลัวส่งเสียงผู้ชายแหบพร่า
"อย่างยุ่งกับผู้หญิงของกู"
แล้วอีใบ้ก็ตบตั้มกระเด็นไป
อีใบ้หันขวับจะมาเล่นงาน พิมล้มลงแล้วจะเข้าซ้ำ แต่พิมก้มตัวหลบทัน แล้วใช้ดาบนางเสือฟาดเข้าใส่ อีใบ้วูบตัวหายไปในความมืด
พิมลุกขึ้นตั้งดาบมองฝ่าความมืด......
"เราต่างก็ไม่เคยมีเวรต่อกันอย่าได้ก่อเวรซึ่งกันและกันเลย"
"มึงผิดแล้ว...หญิงผู้ใช้ดาบนางเสือ"
พิมหันซ้าย ขวาอย่างระวังตัว
"มึงนั่นแหละ....ที่เคยก่อเวรกับกู"
อีใบ้กระโจนออกจากความมืดกระแทกพิมล้มลง...ดาบนางเสือหลุดมือ อีใบ้ขึ้นคล่อมแล้วบีบคอพิมสุดแรง
พิมพยายามแกะมืออีใบ้เปลี่ยนเป็นไปคว้าดาบนางเสือ แต่เอื้อมไม่ถึง พิมกำลังจะหมดลมหายใจ
ตั้มโถมตัวเข้าหาอีใบ้ ง้างมืออก พิมได้ทีถีบทั้งอีใบ้และตั้มออกไปสุดแรง ทั้งคู่กระเด็นหงายหลังไป
อีใบ้หมุนตัวกลับมาอีกครั้ง แต่โดนฝักของดาบนางเสือจี้เข้าที่หน้าผาก มันกรีดร้องโหยหวนแล้วล้มทั้งยืน
อาพิมและตั้มมองดูอีใบ้ที่สลบไปแล้ว เสียงประตูรีสอร์ตค่อยๆเปิดออก
ร่างพันที่มีบุญเพ็งสิงอยู่ปรากฎตัวขึ้นที่หน้าประตู ยิ้มเหี้ยมเกรียม
"แกนี่เองที่เป็นปอบ เป็นแกมาตลอดเลยใช่ไหม" ตั้มว่า
"หึ หึ พวกโง่อย่างมึงเท่านั้นแหละ ที่เรียกกูว่า ปอบ"
"ฉันเคยก่อเวร ก่อกรรมกับแก..หมายความว่ายังไง"
พันชี้ไปทางแบม
"มึงพรากวิญญาณอีนังนั่นไปจากกูไง"
พิม แบมต่างอึ้ง
"อีกเดี๋ยว พวกมึงก็จะจำกูได้"
หน้าผีบุญเพ็งค่อย ๆ ซ้อนบนหน้าพัน ชัดเจนขึ้น
"บุญเพ็ง !"
"ใช่ กูเอง"

พิมเงื้อดาบจะฟันพัน พันใช้พลังบังคับโต๊ะให้ลอยมากระแทกเข้ากับพิมจนกระเด็นไป

ตั้มเห็นพิมล้มไป ตัดสินใจสู้ตาย
"อย่านะโว้ย"
ตั้มลืมตายวิ่งเข้าชาร์ตพัน แต่ก็ทำได้แค่ทำให้เซๆไป เท่านั้น
"ไอ้ตัวน่ารำคาญ"
พันหันมาสะบัดมือเข้าที่กกหูตั้มจนกระเด็นไปติดผนังห้อง และยิ้มอย่างเหนือกว่า ย่างสามขุมเข้ามาหาแบม
แบมหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาจะใช้เป็นอาวุธเพื่อสู้ แต่เพียงแค่ออกแรง ของนั้นก็หลุดมือไป แบมพยายามเขยิบถอยหนี
"คืนนี้คืนวันเพ็ญ...ยังไงแกก็ไม่รอด....ก็เคยบอกแล้วไง"
แบมพยายามถดตัวหนีอย่างยากลำบากเพราะไม่มีแรง พันยิ้มสะใจ
"แกเป็นของฉัน...ตลอดไป"
แบมพยายามยกมือขึ้นสู้แต่ไม่เป็นผล

ปาล์มที่เดินอยู่ชะงัก อาการคล้ายคนหน้ามืด เอโกะที่เดินตามหลังปาล์มรีบเข้ามาประคอง
"ปาล์ม"
แอนนาที่เดินนำหน้าอยู่ก็หยุดหันกลับมาดูเช่นกัน
"เป็นยังไงบ้างปาล์ม...พักก่อนไหม"

จอร์ชที่ล้าหลังสุดเดินหอบเข้ามาสมทบพอดี
"นั้นสิครับ...พักก่อนดีกว่า...เหนื่อย"
ปาล์มพยายามตั้งสติ
"แย่แล้ว"
ทุกคนอึ้ง
"พี่แบม...ไอ้ผีนั้นกำลังทำร้ายพี่แบม"
"ว่าไงนะ"
"ยังไงดีล่ะครับเนี่ย"
ปาล์มพยายามทบทวนภาพในหัว
"ตอนนี้พี่แบมอยู่ที่รีสอร์ต"
แอนนาถาม
"แล้วอาพิมละ"
ปาล์มอึ้ง ๆ
"ไม่รู้...ปาล์มเห็นแค่นิดเดียว...รีบไปเถอะ"
วิญญาณพันโผล่มา
"ไปทางนี้ มีถนนอยู่ใกล้ๆ"
พูดเสร็จ พันก็ออกวิ่งไปทางที่ชี้ ทุกคนวิ่งตาม

ที่รีสอร์ต พันยังคงย่างสามขุมมาหาแบม
"อย่าทำแฟนกูนะโว้ย"
ตั้มเข้าชาร์ตพันอีกครั้ง คราวนี้ฟาดด้วยเก้าอี้จนหัก แต่พันก็ไม่สะทกสะท้าน
"มึงนี้โง่ไม่เลิก"
พันซัดตั้มกลับไปแล้วเข้าชาร์ตตั้มจะทะลวงอกของตั้ม
"ฮ๊าก"
ในจังหวะนั้นเอง พิมตวัดดาบมา พันเสียจังหวะที่จะควักอกตั้ม ต้องหลบดาบเสียก่อน
ได้จังหวะรุกไล่ไปอีก 3-4 ที แต่พันก็หลบถอยได้
พิมรีบพาแบมหนีไป ตั้มรีบพาแบมหนีอย่างทุลักทุเล
พิมตั้งดาบกันพันแล้วออกแรงโหมเข้าใส่ทันที !

แอนนา ปาล์ม เอโกะ จอร์ช ต่างรีบวิ่งตามวิญญาณพันออกมาจากป่า มาจนถึงถนน
จอร์ชพยายามวิ่งตามสาว ๆ แต่ก็หมดแรงล้มลง
ทุกคนหยุด
"พี่จอร์ช" เอโกะเรียก

จอร์ชหอบฮัก ๆ หายใจไม่ทัน
"ไหวไหมพี่จอร์ช"
"รีบไปกันเถอะครับ ทิ้งจอร์ชไว้ที่นี้แหละครับ"
สาว ๆ สบตากันลังเล
"ไปเถอะครับ จอร์ชไปด้วยก็เป็นภาระเปล่า ๆ"
พี่จอร์ช" ปาล์มเรียก
ปาล์มมองหน้าปรึกษาเอโกะ
"ไปเถอะพวกเรา....ยังไงก็ออกจากป่าได้แล้ว พี่จอร์ชไม่น่าจะเป็นอันตราย" แอนนาบอก
จอร์ชทำหน้าแบบจะทิ้งกันจริงหรือ
เสียงรถวิ่งมาตามทางพอดี ทุกคนหันมอง รถตั้มวิ่งเข้ามาจอด .ระจกรถเลื่อนลง แห้วเป็นคนขับ
"พวกคุณออกมาจากป่าแล้วเหรอครับ"
ทั้งหมดมองหน้ากัน

ทางด้านรีสอร์ต ตั้มวางแบมลงที่หลังประตู
"คุณอยู่ที่นี่นะ ผมจะไปช่วยอาพิม"
แบมมองหน้าอยากจะขอบคุณ
"นายไม่กลัวเหรอ"
"กะ...กลัว..." ตั้มรีบกลบเกลื่อน "กลัวที่ไหน อยู่ตรงนี้ก็แล้วกันอย่าเป็นอะไรไปนะ...อยู่เป็นแฟนผมก่อน"
ตั้มหันปาดเหงื่อที่หน้าผากหนึ่งทีหนึ่งทีแล้วเดินจากมา

ตั้มค่อยๆย่องลงมา เห็นพิมสลบอยู่ที่พื้นจึงรีบเข้าไปดูอาการ พิมบาดเจ็บไม่น้อย แต่ยังหายใจอยู่
ตั้มมองไปรอบๆด้วยความกลัว
"หึๆๆ มันยังไม่ตายหรอก....แค่แขนหัก"
พันเดินยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมาจากความมืด
"กูไม่รีบฆ่าพวกมึงหรอก แค่จะทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ หัวใจน่ะ....มันต้องกินตอนที่มันยังเต้นอยู่ ถึงหวานที่สุด"
พันหัวเราะชอบใจ
ตั้มตัดสินใจคว้าดาบนางเสือขึ้นมาจะฟันบุญเพ็ง...แต่มือตั้มที่จับดาบมีควันขึ้น คล้ายเนื้อโดนเผาด้วยไฟ
"อ๊าก"
ตั้มทนไม่ไหวรีบปล่อยดาบลง

"ทำไม"
"ไอ้โง่...มึงเป็นใครริจะใช้ดาบนางเสือ"
พันง้างมือต่อยตั้มจนกระเด็นสลบไป
"วันนี้เป็นวันของกู พวกมึงทำอะไรกูไม่ได้หรอก"

พันขึ้นชั้นสองไป เปิดดูทุกห้องจนมาถึงห้องสุดท้าย
ประตูห้องถูกเปิดออก ภายในห้องมืดสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่
พันเดินมองไปรอบๆ เห็นลังผ้าที่สุมไว้ มันกระชากออกเตรียมจะเล่นงานแต่ก็ไม่มีใครอยู่..
"ย๊ากส"
แบมที่ซ่อนตัวอีกมุมคว้าไม้ขึ้นสุดแรงจะฟาด
พันปัดไม้กระเด็นไปแล้วคว้าข้อมือแบมแล้วบิดอย่างแรง แขนงเส้นเลือดที่ลำคอเริ่มดำและดวงตากลับไปเป็นสัตว์ร้ายอีกครั้ง
"กูมารับมึงไปอยู่ด้วยกัน"
"ไม่...!"
"อย่านะเว้ย" เสียงตั้มดังเข้ามา
พันหันขัวบมาด้วยความตกใจ ตั้มที่เอาดาบนางเสือพันมือไว้โหนฟันสุดแรง
"อ๊ากส"
พันผงะหงายหลังไปจนมุม ตั้มได้ทีเงื้อดาบเข้าซ้ำ
พันใช้มือเปล่ารับดาบ มันกรีดร้องโหยหวนควันขึ้นเหมือนเนื้อไหม้ไฟ
"อ๊ากส"
พันพยายามฝืนแรงสู้ แบมรีบเข้าช่วยตั้มกดดาบลงไปจนถึงหน้าอกพัน มันยิ่งร้องโหยหวนแล้วออกแรงเฮือกสุดท้ายดันคนทั้งคู่กระเด็นไป แล้วลุกขึ้นจะเข้าจัดการ
"ไอ้พัน"
พันหันมาก็โดนดิ้วไฟฟ้าหวดเข้าใส่จนกระเด็นไป มันหันขวับโกรธแค้น
แอนนาตั้งท่าจะเข้าซ้ำ ในขณะที่เอโกะเล็งปืนเข้าใส่ร่างพัน ปาล์มรีบประคองอาพิมเข้ามา
พันมองอย่างโกรธแค้นแต่รู้ตัวว่าสู้ไม่ได้
"เรื่องนี้มันยังไม่จบง่ายๆหรอก" บุญเพ็งในร่างพันบอกแบม "จำไว้แกยังเป็นของฉันอยู่"
ทันใดนั้นเอง ก็เกิดแสงวาบร่างของพันกระตุกรุนแรง
รอยสักสร้อยสางคำบนร่างของพัน เกิดควันสีดำและค่อย ๆลบเลือนไปในที่สุด
ร่างของพันไหม้เกรียมทรุดฮวบลง พิมมองหน้าทุกคนอย่างไม่สบายใจ
"บุญเพ็งมันอำมหิตมาก...พอหมดประโยชน์ก็ทำลายร่างเดิมทิ้ง"
วิญญาณพันยืนมองร่างตัวเองด้วยความเศร้าแล้วเลือนหายไปในความมืด

"ชั่วร้ายที่สุด!"

เช้าวันใหม่.... จอร์ชจัดการสัมภาระของสาว ๆ เตรียมเดินทางกลับ โดยมีเอโกะกับปาล์มช่วยกำกับ
พิมมีเฝือกล๊อกมือยกกระเป๋ามา จอร์ชรีบเข้าไปช่วย
"คุณพิมพ์ครับ แขนยิ่งเจ็บ ๆ อยู่ จะยกมาเองทำไมกันครับ"
"ฉันแค่แขนเดาะเองนะ ไม่ได้หัก ได้ขาดอะไรสักหน่อย แต่ก็ขอบใจนะที่เป็นห่วง"
"ยังไงก็ช่างครับ ต่อไปนี้คุณพิมจะเอาอะไรบอกจอร์ช เดี๋ยวจอร์ชจัดให้"
จอร์ชรีบจัดแจงเอากระเป๋าของพิมไปเก็บให้
"ที่อาพิมและพี่ ๆ ต้องเดือดร้อนก็เพราะปาล์ม...ปาล์ม...ขอโทษ"
ปาล์มยกมือไหว้พิมและเอโกะ ทำหน้าจะร้องไห้ เอโกะขยี้หัว
"ทีหลังอะนะ...หัดฟังที่ผู้ใหญ่เขาเตือนซะบ้างเข้าใจไหม"
แอนนาขับมอร์เตอร์ไซค์เข้ามา
"เป็นไงทุกอย่างเรียบร้อยไหม?" พิมถาม
"เรียบร้อยคะ...มีชาวบ้าน 2 คนเป็นพยายานว่า เห็นเหตุการณ์ตอนที่ร่างของนายพันกำลังลงมือฆาตกรรม นางศรีเมียผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจทำสำนวนคดีว่านายพันเป็นคนวิกลจริต"
"น่าสงสารพี่พัน...ต้องตายไปพร้อมกับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ" ปาล์มบอก
เอโกะที่โอบปาล์มอยู่บีบไหล่ปาล์มเบา ๆ เชิงว่าให้ทำใจ
แบมเดินออกมา มีตั้มพยายามจะช่วยยกกระเป๋า
"อะไรของนาย...นักหนา ของ ๆ ฉัน ๆ จัดการเองได้"
"ก็ผมไม่อยากให้คุณลำบากนี่"
"แล้วนายไม่ลำบากเหรอไง"
ที่มือมีผ้าพันแผลแย่งกระเป๋ามาถือให้จนได้ แบมกึ่งฉุนกึ่งรำคาญจะชก ตั้มร้องเสียงหลง
"อะไรกันเนี่ยคู่นี้" แอนนาว่า
"ผมก็แค่จะดูแลแฟนผมเท่านั้นเอง"
พูดจบก็โดนแบมตบกะบาล
"พูดดี ๆใครแฟนใคร"
"ก็คุณไง"
แบมอัดเข้าที่ท้อง
"ฉันไปเป็นแฟนนายตั้งแต่เมื่อไรอย่ามามั่วนะ"
"ก็..."
แบมง้างหมัดอีก
"ก็ได้คุณไม่เป็นแฟนผมก็ได้"
แบมลดมือลง

"แต่ผมเป็นแฟนคุณนะ"
สามาชิกแองเจิ้ลต่างมองขำ แบมยิ่งปี๊ด แต่ความจริงลึก ๆ แล้วเขิน
"ไอ้..."
ตั้มเดินหนีออกมา
"แล้วนายจะเอากระเป๋าฉันไปไหน"
"เอาไปรถผมสิ....ตอนมาคุณก็มากับผม...คันนี้คนเยอะไปแล้ว"
ตั้มรีบเดินหลุดไป แบมรีบวิ่งตาม
"เฮ้ย...ทำอย่างนี้ได้ยังไง...มาคุยกันก่อน"
เหล่าสมาชิกที่เหลือมองตาม แอนนามองหน้าพิมประมาณว่า ยังไงกันนะคู่นี้


ต่อมา ลุงเฉินกำลังจ้องมองฟุตเทจ โดยมีตั้มและแห้วลุ้น ๆอยู่
"สรุปว่าไอ้ตัวที่เป็นปอบเนี่ยตาย"
"ใช่ครับ" ตั้มบอก
"ใครฆ่า"
ตั้มอึ้ง ๆ มองหน้าแห้ว
"อ่า....เป็นหมอผีจากกรุงเทพครับ"
"แล้วทำไมมึงไม่ถ่ายมา"
"เขาไม่ให้ถ่าย...ก็เลยไม่ได้ถ่าย"
ลุงเฉินมองหน้าตั้มนิ่งไม่พอใจ ตั้มพยายามกลบเกลื่อนพิรุธ
"มึงไปจัดการถ่ายมาให้กู"
"จะให้ผมไปถ่ายที่ไหน ก็เขาไปกันแล้วจะไปตามเขาที่ไหน"
"มึงก็เมคเอาสิวะ....ไปจ้างใครมาก็ได้"
"โห่ลุง"
"อ๊ะเดี๋ยว...ไม่ต้องจ้างเปลือง.....ไอ้แห้ว"
"ค..ครับ" แห้วรับคำ
"มึงเล่นเป็นหมอผี"
"ห๊า"
"ไอ้ตั้ม....มึงถ่าย"
"ลุง"
ลุงเฉินยกมือขึ้นห้ามก่อนที่ตั้มจะพูดอะไรต่อไป
"กูเคยบอกมึงไปทีแล้วใช่ไหมเรื่องที่กูมีเพื่อนทำหนัง AV"
ลุงเฉินหยุดนิดหนึ่งเช็คอาการ ตั้มกับแห้วอึ้ง ๆ เหวอ ๆ

"ตอนนี้เพื่อนกูคนนั้นมันกำลังจะทำเรื่องใหม่เป็นแนว...แบบ...ชาย...กับชาย มึงสองคนอยากไปทำหรืออยากไปเป็นนักแสดงดี"
"เดี๋ยวผมเล่นเป็นหมอผีเองครับ" แห้วบอก
"ผมจะถ่ายมันเอง" ตั้มว่า
"อ่าว...แล้วไม่อยากไปทำงานกับเพื่อนกูแล้วเหรอ"
"ไม่ครับ......ไม่" ทั้งคู่ว่า
"ดีมาก"
พูดเสร็จลุงเฉินก็เดินออกไป
"ทำไมผมต้องมาเล่นเป็นหมอผีด้วยละ แล้วพี่ลบภาพที่เห็นพวกแองเจิ้ลอะไรนั้นทำไมอะพี่"
"กูทำเพื่อแฟนกู...มึงเข้าใจนะ"
"ไม่อะ..."
ตั้มมองหน้าแห้วเคือง ๆ

ที่โบสถ์ร้างแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืน มือใครบางคนกำลังลงอักขรยันต์ที่พื้น แสงฟ้าแลบแปลบปลาบเป็นยันต์แบบเดียวกับที่พันเขียนใต้ต้นไทร
หน้าอกอันกำยำมีรอยสัก สร้อยสางคำ
"เสร็จแล้วครับพ่อปู่ครูเฒ่า" คมบอก
ร่างในเงามืด ในจังหวะที่แสงฟ้าแลบสาดเข้ามา บุญเพ็งกำลังยิ้มเจ้าเลห์

"ดี......กรีดเลือดมึงมาให้กู"
(อ่านต่อตอนที่ 8)
กำลังโหลดความคิดเห็น