xs
xsm
sm
md
lg

ดิแองเจิล นางฟ้าล่าผี ปี 2 ตอนที่ 4

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดิแองเจิล นางฟ้าล่าผี ปี 2
Ep. 5 พาหะวิญญาณบทโทรทัศน์โดย ธนสร อ่อนกล่ำผล

เวลากลางคืน บริเวณสี่แยกไฟแดง
ถนนโล่งเปลี่ยวไร้รถรา สัญญาณไฟเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว รถแท็กซี่เขียวเหลืองแล่นมาแต่ไกล แต่พอถึงกลางแยกรถก็เกิดกระตุก และดับลงดื้อ ๆ
ถนนอีกด้านมีรถกะบะคันหนึ่งวิ่งมาติดไฟแดง
คนขับกระบะบอก
"แท็กซี่เป็นอะไรวะไฟเขียวทำไมไม่ไป"
"สงสัยรถจะเสีย ไม่ก็แก๊สหมด" เพื่อนคนขับบอก
ภายในรถ เห็นสติ๊กเกอร์ ที่หน้าคอลโซลรถ “แท็กซี่เปิดไฟว่าง ใครจ้างก็ต้องไป” คนขับคือ จ่าเสริมนั่งเครียดในรถ หายใจติด ๆ ขัด ๆ เหงื่อเม็ดโต ๆ ผุดขึ้นเต็มหน้า
จ่าเสริมบอก
"แยกเดิม…ดับเหมือนเดิม มันก็ต้อง…"
จ่าเสริมหันไปมองที่มุมหนึ่งของสี่แยก เห็นเด็กหญิงคนหนึ่งไม่ใส่รองเท้าในมือมีพวงมาลัยเพียงพวงเดียวในมือยืนมองเขาอยู่ จ่าเสริมแทบจะร้องไห้เมื่อเห็นเด็กหญิงคนนั้น
"เด็กคนเดิม!"
เด็กหญิงมองมาที่จ่าเสริม พร้อมพยักหน้าให้หงึก ๆ สายตาวิงวอน
"อีกแล้ว…ไม่เอา….ไม่ซื้อ"
จ่าเสริมพูดเสียงสั่นเครือพร้อมกับส่ายหัวปฎิเสธ เด็กหญิงสีหน้าหมดหวัง
ไฟเขียวเปลี่ยนเป็นไฟแดง ตรงข้ามกับอีกฝั่งที่รถกระบะจอดอยู่ แดงเปลี่ยนเป็นเขียวรถกระบะออกตัวแรง
เด็กหญิงมองหน้าจ่าเสริมราวกับตัดพ้อหนึ่งทีก่อนที่จะกระโดดเข้าหารถกระบะที่ได้ไฟเขียวนั้น “ โครม!! ”
ร่างเด็กหญิงกระเด็นมาตกด้านหน้ารถแท็กซี่ของจ่าเสริมไม่ห่างนัก แต่เห็นทุกอย่างชัดเจน รถกระบะวิ่งหายไปในความมืด ทิ้งเด็กหญิงที่ขาดใจแล้ว แต่ตาไม่ปิด ยังคงค้างมองมายังจ่าเสริมอยู่อย่างนั้น

ภายในครัว บ้านจ่าเสริม ตอนเย็น
กระทะตั้งไฟ น้ำมันร้อนได้ที่ มีเสียงคนกรนดังแว่วเข้ามา กระเทียมทุบถูกโยนลงไป เกิดเสียงฉู่ฉ่าแข่งกับเสียงกรนนั้น
เมียจ่าเสริมกำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ เธอโยนหมูและผักลงไปผัดแข่งกับเสียงกรนอันสนั่นนั้น เมียจ่ามองไปทางต้นเสียงนิดหนึ่งแล้วก็กลับมาง่วนกับการทำอาหารต่อไป
ในห้องนอน หมวกตำรวจที่แขวนอยู่ที่ฝาบ้าน เสียงกรนที่คงดังสนั่นชัดเจน และเมื่อแพนกล้องมาที่นาฬิกาปลุก ซึ่งบอกเวลา 4 โมงเย็นนาฬิกาก็ดังขึ้น ! เสียงกรนหยุดลง จ่าเสริมยื่นมือมากดหยุดเสียงนาฬิกานั้น จ่าเสริมยังคงหลับหลับต่อไม่ยอมตื่น และเริ่มส่งเสียงกรนอีกครั้ง
"พี่เสริมตื่นได้แล้ว" เสียงเมียเรียกปลุก
จ่าเสริมหยุดกรน ขยับตัวเปลี่ยนท่านอน แต่ตายังหลับอยู่แล้วกรนต่อ
"พี่ตื่น!เดี๋ยวไปเข้ากะไม่ทันนะ"
จ่าไม่ตื่น เมียจ่าเข้ามาพร้อมเรียก
"ไอ้เสริม! จะนอนให้ถึงเช้าเลยรึไง"
จ่าเสริมยังคงขี้เซา ไม่ยอมตื่นง่าย ๆ
"ตื่น !"
เมียจ่าพูดพร้อมกับยันร่างของจ่าเสริมกลิ้งตกเตียง จ่าเสริมชันตัวขึ้นมางง ๆ
จ่าเสริมปลุกดี ๆ ก็ได้ ต้องผลักกันด้วยเหรอ
"ไปอาบน้ำ !"

ผ่านเวลา ... จ่าเสริมเพิ่งอาบน้ำเสร็จในชุดผ้าขาวม้า เข้าเดินมายังที่ตู้เสื้อผ้า เปิดตู้แล้วหยิบเสื้อสีฟ้าเครื่องแบบคนขับแท็กซี่ออกมา แล้วก็ต้องชะงัก เพราะเห็นเครื่องแบบตำรวจตัวเก่า จ่ามองอึ้งอยู่นาน จนเมียจ่าเดินถือพวงมาลัยเข้ามา เธอมองผู้เป็นสามีอย่างเข้าใจ ก่อนที่จะแกล้งกลบเกลื่อนความรู้สึกนั้น
"เอา!!! ระลึกชาติพอรึยัง"
จ่าเสริมได้สติจึงหันกลับมากุลีกุจอแต่งตัว
"เดี๋ยวก็ไม่ทันกะกันพอดี เอ่านี่มาลัยที่สั่ง"
"ขอบใจจะแม่จ๋า"
"เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวนะ....อะไร!! โตเป็นควายแล้วยังต้องให้ พูดกันเป็นเด็ก ๆ อยู่อีก"
"จ๊ะแม่จ๋า"
เมียจ่าเดินออกไป จ่ามองพวงมาลัยในมือ ด้วยอาการหนักใจ

หลายชั่วโมงต่อมา ถนนก่อนถึงสี่แยก ว่างโล่ง แสงไฟจากแท็กซี่เขียวเหลืองแล่นฝ่าความมืดมาแต่ไกล พวงมาลัยของเมียจ่าแขวนอยู่ที่กระจกมองหลัง หน้าปัดแอร์ลูกบิดความแรงลมอยูที่เบอร์ 4 บอกว่าเปิดสุดกำลังของแอร์แล้ว สติ๊กเกอร์ข้อความ “แท็กซี่เปิดไฟว่าง ใครจ้างก็ต้องไป”
คนขับคือ จ่าเสริม นั่นเองสีหน้ากังวลสุด ๆ เหงื่อกาฬไหลย้อย ชายหญิงสองคนนั่งอยู่ด้านหลัง
ชาย1บอก "พี่ครับจอดข้างหน้า"
"ห๊ะ...อะไรนะครับ"
"จอดตรงนี้ครับ"
"ครับ ๆ"

แท็กซี่เข้าจอดเทียบริมทาง ผู้หญิงลงมาก่อน
"แอร์พี่หนาวมากเลยนะพี่"
ชาย 1 พูดพร้อมกับควักกระเป๋าสตางค์เตรียมจ่ายเงิน
"น้องครับช่วยไปกับพี่หน่อยได้ไหม เดี๋ยวพี่กลับรถไปฝั่งตรงข้ามแล้วน้องค่อยข้ามถนนมาฝั่งนี้"
"อะไรอะ พี่ บ้าเหรอ"
ชาย 1 มองหน้าจ่าเสริมไม่ไว้ใจ
"ไม่ต้องกลัวน้องพี่เคยเป็นตำรวจ พี่ไม่ใช่โจร"
"โหยพี่....กว่าพี่จะยูเทิร์น ต้องผ่านแยกหน้าไปอีก ไม่เอาอะ"
"เดี๋ยวพี่ลดให้ 50 บาท"
"ตลกป๊ะเนี่ยพี่"
"ตลกอะไรเห็นหน้าพี่เหมือน้าค่อมเหรอ"
"ขอบคุณมากพี่ แต่ผมจะลงแล้ว"
"เอ่อ !! น้อง !! เอางี้พี่เปิดโปรโมชั่น ถ้าน้องไปกับพี่ ตอนนี้น้องจากจะลดราคาแล้วพี่ยังแถมเงินให้น้องอีก 50 บาท"
หญิง 1 ที่ลงไปก่อนหน้านี้แล้วโพล่งมาอย่างหงุดหงิด
"พี่ทำไรอยู่ ยังไงเนี่ย เวลานู๋น้อยนะ"
"จ๊ะน้องใจเย็น ๆ นะ พี่...นี่ดึกแล้วพี่ไม่ต้องลดให้ผมหรอก เอาไปไม่ต้องทอน"
ชาย 1 ยื่นเงินให้แล้วรีบพาหญิง 1 เดินจากไป จ่าเสริมมองตามอย่างหมดหวัง
"ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ทุกวันเลยวะ"
จ่าเสริมมองพวงมาลัยนิดหนึ่งก่อนที่จะเอื้อมมือไปกดรีเซ็ตมิเตอร์ สายตาจ่าเสริมเห็นสติ๊กเกอร์ “เปิดไฟว่างแล้วไม่รับโดนจับแน่”
"กูน้อกู ขอกลับไปจับโจรเหมือนเดิมได้ไหม"
จ่าเสริมควักสร้อยพระเครื่องออกมาจบ
"หลวงพ่อทั้งหลายช่วยลูกช้างด้วย อย่าต้องเจอะต้องเจออะไร ๆ แบบเดิมอีกเลยสาธุ"
จ่าเสริมปาดเหงื่อเม็ดใหญที่หน้าแล้วกลั้นใจขับรถออกไป

บริเวณป้ายบอกจุดกลับรถอีก 100 เมตร จ่าเสริมปาดเหงื่อที่ผุดออกมาไม่หยุด พอมาถึงจุดกลับรถ ใกล้สี่แยกมีรั่วเหล็กกั้นห้ามกลับรถ
"มีที่กลับแต่ก็ไม่ให้กูกลับ"
ที่สี่แยกไฟแดงถนนโล่งเปลี่ยวไร้รถรา สัญญาณไฟเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว บรรยากาศเดิมแทบจะใช้ ภาพซ้ำได้ รถจ่าเสริมแล่นมาแต่ไกลแต่พอถึงกลางแยกรถก็เกิดกระตุก และดับลงดื้อ ๆ
"นั้นไง...เอาแล้ว ที่เก่าเวลาเดิม"
อีกด้านหนึ่งของถนน รถหกล้อคันหนึ่งวิ่งมาจอดติดไฟแดง

"ไฟเขียวแล้วไม่ไป หลับเปล่าวะนั้น"
ในรถแทกซี่จ่าเสริมพยายามบิดกุญแจสตาร์ทรถและพยายามไม่มองไปที่มุมของสี่แยก แต่ยิ่งพยายามยิ่งทำให้เผลอมอง
สายตาจ่าเสริมเห็นเด็กหญิงยืนอยู่
จ่าเสริมได้พบสบตาเมื่อเจอหน้าเธอ ครุ่นคิดวุ่นวายไม่คลายสับสน
ครั้งนี้เด็กหญิงไม่พยักหน้าเหมือนเก่า จ่าเสริมเริ่มแปลก ๆ เลิกร้องเพลง ปลอบใจตัวเอง ชุกคิดอะไรบางอย่างได้ มองที่สัญญาณไฟ แล้วมองที่รถหกล้อ
"รึว่า....เอาวะ"
จ่าเสริมเปิดประตูลงไปแล้วรีบวิ่งไปหาเด็ก
"หนูอย่านะ มา...วันนี้ลุงจะช่วย"
สายตาคนขับรถหกล้อเห็นแต่รถแท็กซี่จอดนิ่งสนิทแต่ไม่เห็นจ่าเสริมหรือเด็กหญิง
สัญญาณไฟเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว คนขับเหยียบครัชเข้าเกียร์ จ่าเสริมมาถึงตัวเด็ก
"หนูเองอย่าทำแบบเดิมอีกเลย มีอะไรก็คุยกันนะ"
ล้อรถหกล้อ ออกตัวเอี๊ยด เด็กหญิงจะกระโดดเข้าหารถ จ่าเสริมเข้าชาร์ท ดึงตัวกลับมาได้ เพียงอึดใจเด็กหญิงมองหน้าจ่าเสริมแล้วผลักจ่าเสริมไปยังพื้นถนน
จ่าเสริมลอยล่วงกลางอากาศ มีรถหกล้อวิ่งเข้ามาหา

ในเวลากลางคืน เมียจ่าเสริมที่กำลังหลับอยู่ มีเสียงเดินประมาณ 3-4 ก้าวแล้วหยุดลง ตามด้วยเสียงประตูตู้ถูกเปิดออก เมียจ่าลืมตาตื่นขึ้น พลิกตัวไปมองเห็นจ่าเสริมยืนอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้า
"ยังไม่เช้าเลยทำไมรีบกลับเล่า"
จ่าเสริมยังคงมองตู้อยู่อย่างนั้น ไม่ตอบอะไร เมียเลยพลิกตัวกลับจะนอนต่อ จ่าเสริมเรื่มตัวสั่นเทิ่มจนเกิดเสียง “กึกกึก ๆ” เมียจ่าผิดสังเกตุจึงหันกลับไปดูอีกครั้ง
"พี่เป็นอะไร"
เมียจ่าลุกจากที่นอนไปดูใกล้ ๆ เห็นว่าที่ข้อมือของจ่าเสริมมีแสงสีดำประหลาดรูปทรงคล้ายเชือก พันอยู่ที่ข้อมือ
"พี่เสริม!"
เมียจ่าขยับลุกจะไปหาเธอจึงเห็นวิญญาณเด็กหญิง มองเธออยู่จากในตู้ เมียจ่าตกใจมาก ทันใดนั้นแสงดำคล้ายเชือกนั้นเริ่มเลื้อยลามจากข้อมือเป็นพันตัวจ่าเสริม
"กล่องดำที่ลิ้นชัก...ที่ลิ้นชัก"
พูดเพียงเท่านั้นจ่าเสริมก็ลอยขึ้น มีอาการคล้ายโดนเหวียงขึ้น ทะลุหายไปบนเพดาน
"พี่เสริม!"
เมียจ่าจะขยับเดินแต่เกิดอาการตัวแข็งขยับไม่ได้ วิญญาณเด็กเหญิงที่อยู่ในตู้มองเห็นด้วยสายตาน่ากลัว

วิญญาณเด็กหญิงบอก
"ก่อนตี 4 ของพรุ่งนี้ !"
พูดเสร็จก็กระโดดมาตรงหน้าเมียจ่าแล้วกรี๊ดใส่หน้า เสียงโทรศัพท์ดัง ...
เมียจ่าสะดุ้งตื่นจากฝัน เสียงโทรศัพท์ดังต่อเนื่องอยู่ แสงเช้าส่องเข้ามาแล้ว เมื่อได้สติเธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย
"ฮัลโหล !"
เสียงตร. ถาม
"พี่ทิพย์ ... เมียจ่าเสริมใช่ไหม" เสียงตำรวจบอก
"ใช่คะ จากไหนคะ"
"ผมดาบป๊อด เพื่อนจ่าเสริมที่เคยไปกินเหล้าที่บ้านบ่อย ๆ จำได้ไหม"
"จำได้คะมีอะไรคะ"
"จ่าเสริมนอนหมดสติในรถอยู่กลางสี่แยก ตอนนี้จ่าอยู่โรงพยาบาล ยังไม่ได้สติ เป็นอะไรไม่รู้"
มือถือหล่นจากมือเมียจ่าเสริมกระแทกพื้นจนแบทหลุด
เมียจ่าอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ จึงเดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดลิ้นชัก
ในลิ้นชักพบกล่องเล็ก ๆ สีดำ
"กล่องดำ...มีจริง ๆ ด้วย"
กล่องดำถูกเปิดออก เห็นเป็นนามบัตรแองเจิ้ล

บริเวณชั้น 2 ของอู่ซ่อมรถ วิญญาณจ่าเสริมหลับอยู่ค่อยๆฟื้นจากการสลบ เขาพยายามรวมรวมสติ ทบทวนเหตุการณ์ แต่พอเขาเริ่มขยับตัว แต่กลับพบว่ามีแสงสีดำมัดตัวจ่าเสริมอยู่
"อะไรวะเนี่ย"
จ่าเสริมพยายามดิ้นรนแต่ทำอะไรไม่ได้ เขาดูตัวเองที่โดนมัดอยู่ด้วยแสงดำนั้น ไล่ไปตามเส้นแสงที่เลื้อยไปปลายเชือก ที่ปลายอีกด้านหนึ่งผูกติดกับของมือของวิญญานเด็กหญิงที่ยืนอยู่ที่ปลายเตียง เธอมองมาที่จ่าแววตาน่ากลัว
"นี่มันอะไรกัน ! …. ที่นี่ที่ไหน"
วิญญาณเด็กหญิงได้แต่ยืนมองแต่ไม่ตอบอะไร ส่วนจ่าเสริมมองไปรอบ ๆ ห้องอันอับทืบนั้น ที่เตียงมีผ้านวมกองใหญ่คุลมอะไรสักอย่าง หมอนสองสามใบวางละเกะระกะอยู่บนที่นอนนั้น ที่มุมหนึ่งของห้องมียาบำรุงสมรรถภาพที่ดื่มแล้ววางอยู่เรียงราย
วิญญาณชายและหญิงออกมา ยืนข้างวิญญาณเด็กหญิง ไม่พูดอะไร
"พวกแก….พวกแกจับฉันมาทำไม"
จ่าเสริมยิ่งพยายามดิ้นรนหนักขึ้น
"อ๊าก…..ปล่อยฉันนะ…ปล่อย"

ต่อมา ภายในห้องสมุด พิมมองหน้าป้องและเมย์ อย่างพิจารณา โดยมีปาล์มนั่งอยู่ใกล้ ๆ แอนนายืนพิงชั้นหนังสือ มองป้องและเมย์ อย่างชั่งใจเช่นกัน แล้วหันไปสบตากับอาพิมเพื่อขอความเห็น
"เรื่องราวลี้ลับที่มีผลต่อวัยรุ่น" เมย์บอก
"ครับ" ป้องรับคำ
แอนนาบอก
"หัวข้อธีสีสมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องเรื่องลี้ลับ ทำไมต้องวัยรุ่น แล้วทำไมต้องมาขอข้อมูลจากพวกเรา"
เมย์อึ้งไปมองหน้าป้อง เพื่อให้ป้องอธิบาย
"คือ...สมัยนี้เนี่ย ความรู้เรื่องเทคโนโลยีล้ำหน้าไปไกลมาก เรื่องผี ๆ สาง ๆ ที่นักวิทยาศาสตร์มองว่าเป็นความคิด ความเชื่อแบบงมงายพิสูจน์ไม่ได้ แต่ทำไมวัยรุ่นซึ่งได้รับการศึกษามาอย่างดีกลับหลงไหลในสิ่งที่วิทยาศาสตร์ปฎิเสธิ คือ...ผมคิดว่าจุดนี้แหละที่น่าศึกษา" ป้องว่า
"ใช่คะ อาจารย์"
"เรียกฉันอาพิมพ์ก็ได้ ... ฉันแค่อาจารย์พิเศษ"
"ครับอาพิมพ์"
จอร์ชเอาน้ำมาเสริฟให้ป้องและเมย์ ป้องรับมาดื่ม
"ฉันว่าเธอน่าจะทำธีสีสหัวข้อ...ระบบการศึกษาที่มีผลต่อ ระบบคิดอย่างมีเหตุผลของวัยรุ่นมากกว่านะ" แอนนาว่า
ป้องงง ๆ
"พวกเธอรู้ไหมการศึกษาไทยอยู่ในอันดับ 8 ของอาเซียน" แอนนาบอก
ป้องชงักนิดหนึ่งในคำพูดของแแอนนา จอร์ชกำลังจะออกไป เอโกะสวนเข้ามาพอดี
"พี่จอร์ช !!"
"ครับ"
"พี่จอร์ช!!! ทำไมสายคอมพิวเตอร์ของหนูมันถึงได้สลับกันวุ่นวายไปหมดคะ"
"อ่า..คือมันเป็นอุบัติเหตุครับ จอร์ขพยายามต่อกลับคืนที่เดิม แต่... จอร์ชจนปัญญา"
"พี่จอร์ช"
"จอร์ชขอโทษ"
เอโกะยั้วจอร์ชอยู่ หันไปเห็นป้องกับเมย์ จอร์ชได้โอกาสรีบชิ่ง
"นี่พวกเธอ..." เอโกะว่า
ป้องยิ้มให้ เมย์ยกมือสวัสดี
"สองคนนี้เป็นเพื่อนของปาล์ม เค้าจะมาหาข้อมูลไปทำธีสีส" พิมบอก
ปาล์มแนะนำ
"คนนี้ป้อง คนนี้เมย์ จริง ๆ ป้องแก่กว่าพวกเราอยู่ 3-4 ปี"
"จบช้าเหรอ" เอโกะถาม
"ผมจบวิศวะอุสาหการมาก่อนครับ ตอนนี้เรียนมนุษยศาสตร์ครับ" ป้องว่า
"จะอวดว่าเรียนเก่งละสิ" เอโกะบอก
"ไม่หรอกครับ เอโกะ"
"นิ่เธอ...ยังไงฉันก็อายุมากกว่าเธอนะ" เอโกะบอก
"ตอนนี้อายังไม่ได้ตกลงอะไรนะ ส่วนตัวอา...ถ้ามีคนมาขอความรู้อาก็ยินดีนะ" พิมบอก
"แต่หนูว่าจะมาเกะกะวุ่นวายสะมากกว่านะคะ อาพิม" เอโกะบอก
พิมมองหน้าเอโกะที่คัดค้าน มองปาล์มที่อยากช่วยเพื่อน และมองแอนนาที่ยังลังเลอยู่เช่นกัน
พิมถอนใจ
เอโกะมองหน้าป้องอย่างไม่ชอบขี้หน้า

ในห้องทำงาน เวลาต่อมา เอโกะพยายามโน้มน้าวแอนนาไม่ให้ตกลงรับ ป้องและเมย์ แต่ปาล์มพยายามบิ้วให้เอโกะเปลี่ยนใจ
"ฉันไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบพวกเด็กนั้น"
"ก็อาพิมเข้าไม่ได้ปฎิเสธอะไรนิ…เราจะค้านได้เหรอ" แอนนาบอก
"ถ้าป้องมันไม่จบ พ่อมันเล่นมันตายเลย" ปาล์บอก
"จบตั้งวิศวะแล้ว จะไปกลัวอะไร ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของพวกเรา"
"ขอโทษครับ" เสียงป้อมดังเข้ามากลางวงถกเถียง
ป้องเดินเข้ามาในมือมีกล่องช็อคโกแลต
เอโกะถาม
"ใครอนุญาติให้เข้ามาในห้องนี้ นี่มันห้องทำงานส่วนตัวของฉันนะ"
"ต้องขอโทษอีกทีจริง ๆ ครับ พี่ผู้ชายเขาบอกว่าเข้ามาได้ตามสบาย"
"อีพี่จอร์ช!"
"คือผมมีของเล็กน้อยจะมาให้คุณเพื่อเป็นการขอโทษ ที่เมื่อคราวก่อนผมวุ่นวายการทำงานของคุณ"
ป้องยื่นกล่องช็อคโกแลตให้ แอนนาและปาล์มสบตากัน เอโกะมองกล่องช็อคโกแล็ตนิด ท่าทีเริ่มอ่อนลง ยื่นมือไปรับช็อคโกแล็ตมา
"ขอบใจนะ....นิ่...ลำดับอวุโสหนะรู้จักไหม"
ป้องยิ้มให้ แต่ไม่ตอบ หันไปเล่นอุปกรณ์ของเอโกะแทน
"นี่มันอะไรเนี่ย เหมือนปืนในหนังเอ็มไอบีเลย"
"อย่ายุ่งของคนอื่นก่อนได้รับอนุญาติสิ"
"ดูจากการออกแบบแล้วน่าจะเป็นเครื่องยิงอะไรบางอย่าง คิดว่าน่าจะเป็นประจุไฟฟ้า มีเลเซอร์ด้วยแบบนี้ต้องเป็น ปืนยิงผี เป็นคำตอบสุดท้าย"

เอโกะอึ้งไป แอนนาซบตาปาล์มแล้วยิ้ม ๆ
"รูปร่างมันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นปืน ใคร ๆ ก็เดาได้...เอาคืนมามันยังไม่เสร็จ"
เอโกะเปิดตู้ออกมาเพื่อจะเอาปืนนั้นไปเก็บ เผยให้เห็นเชลฟ์ วางอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย ป้องหยิบอาวุธอันหนึ่งขึ้นมาลักษณะคล้ายเครื่องลบความทรงจำของ MIB
"นี่ต้องเป็นไวเบอเรเตอร์ เอาไว้สั่นผีไหม" ป้องว่า
"มั่วแล้ว....นี่คือเครื่องช็อตวิญญาณ รุ่นใหม่ของฉันจ๊ะ"
"ท่าทางจะยังทำไม่เสร็จอีกเหมือนเดิมใช่ไหม"
เอโกะหยิบทรัมไดร์ฟขึ้นมา
"เค้าเรียกว่ารุ่นทดลองต่างหาก....รู้ดีนักนะ....นี่อะไร"
"แหม่..ก็USB ไงครับ"
"ไม่ใช่"
"เฟรชไดร์ฟ"
"ไม่ใช่"
"ทรัมไดร์ฟ"
"ไม่ใช่...นี้คืออุปกรณ์ ดูดวิญญาณ"
ปาล์มมองอย่างสนใจ ป้องอึ้งไป เอโกะยิ้มเหนือ ๆ
"มีไว้สำหรับดูดวิญญาณเข้ามาเก็บไว้ในรูปแบบสนามแม่เหล็ก สามารถเก็บพลังงานของวิญญาณได้ 32 เมกะไบท์"
"ผมคงต้องขอความรู้จากเอโกะให้มากกว่านี้แล้ว"
"เรียกฉันว่าพี่...ได้ไหม...พี่เอโกะ"
เอโกะจ้องหน้าป้องจริงจัง แอนนา ปาล์มมองหน้ากันเอาไงดี
ป้องหยิบถุงมือของแบมขึ้นมาดู
"นี่มันถุงมืออะไร ทำมาจากไทเทนี่ยมหรือเปล่า"
"นี่นาย....."
แบมวิ่งเข้ามา
"พวกเรา เร็วเข้า"
"มีอะไร" แอนนาถาม
แบมกำลังจะตอบแต่เห็น ป้องกำลังถือถุงมือของเธออยู่จึงกระชากออกมา
"นี่นายอีกแล้วเหรอ"

ภายในโรงพยาบาล เครื่อง EKG บอกสัญญาณเต้นของหัวใจในระดับปกติ สายไฟที่วัดคลื่นสมอง สายออกซิเจน สายน้ำเกลือ ระโยงระยาง มาจากร่างของจ่าเสริมที่นิ่งโดยไม่ได้สติ เมียจ่ามองดูหมอท็อป ที่กำลังส่งฟิล์มสแกนสมองคนไข้อย่างใจจดจ่อ ที่ฟิล์ม ปรากฎเป็นรอยดำที่บริเวณหนึ่งของสมอง

"หมอคิดว่าอาจจะเกิดการติดเชื้อที่ก้านสมอง"
เมียจ่ายิ่งวิตกหนักขึ้น
"เป็นไปได้ยังไงคะ"
"เรื่องนี้หมอเองก็ยังอธิบายไม่ได้นะ ไปได้หลายสาเหตุครับ"
"แล้วต้องทำอะไรบ้างคะหมอ"
"ก็พอมีครับ เราคงต้องผ่าตัด เอาส่วนที่ติดเชื้อออกเพื่อไม่ให้เชื้อนั้นลามไปมากกว่านี้ แต่หมออยากจะให้ทำใจนะครับ โอกาสที่คนไข้จะกลับมาเป็นปกตินั้น....น้อยมาก"
เมียจ่าทรุดตัวลงราวจะเป็นลม
"หมอคงต้องขอให้คุณทิพย์ เป็นผู้เซ็นต์ยินยอมให้ผ่าตัดในฐานะเป็นญาติของคนไข้นะครับ"
"อย่าเพิ่งเซนต์นะคะ" เสียงแอนนาบอก
สาว ๆ แองเจิ้ลเดินเข้ามาในห้อง
"นี่พวกคุณ !! ใครอนุญาติให้คุณเข้ามา"
ป้องเดินตามเข้ามาพอดี หมอท็อปมองหน้าป้อง ป้องหลบตา หมอท็อปยังไม่ทันได้พูดอะไรกับป้อง แบมพูดขึ้นก่อน
"ภรรยาของจ่าเสริมโทร.ตามพวกเรามา"
"ว่าไงนะ"
เมียจ่าบอก
"พวกคุณคือคนที่ฉันโทร.ไปหาตามนามบัตรเมื่อเช้านี้หรือคะ"
"ใช่คะ พวกเราเอง" แบมบอก
แอนนาถาม
"คุณน้าฝันว่าจ่ามาขอให้ช่วยเหรอคะ"
"ใช่จ๊ะ...มันเหมือนจริงมาก ในฝันมีเด็กผู้หญิงท่าทางน่ากลัวด้วย พูดแต่ว่าก่อนตี 4 พรุ่งนี้"
"ฉันว่านี้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ"
"คุณทิพย์ครับอย่าไปฟังอะไรคนพวกนี้มากนักเลยนะครับ" แล้วหันไปพูดกับสาว ๆ แองเจิ้ล "ผมขอละ นี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ" หมอท็อปบอก
"ในฝัน พี่เสริมให้ฉันไปหากล่องดำที่ลิ้นชัก แล้วมันก็มีจริง ๆ ข้างในเป็นนามบัตรของพวกคุณ ฉันเลยลองโทร.หาดู"
"พวกฉันไม่ได้ล้อเล่นนะคะคุณหมอ ขอให้พวกฉันสืบสวนเรื่องนี้ก่อน ฉันเชื่อว่าไม่นานเราจะหาทางช่วยจ่าเสริมได้" แอนนาว่า
หมอท็อปบอก
"ข้อ 1 คุณไม่ใช่ตำรวจ คุณจะสืบสวนสอบสวนอะไรกัน ข้อ 2 ผมมีหน้าที่รักษาคนไข้คุณช่วยอธิบายผมด้วยหลักวิทยาศาสตร์จะได้ไหมว่า ทำไมผมจึงยังไม่สามารถทำการรักษาคนไข้ของผมได้"
แอนนาตอบ
"ข้อ 1 จ่าเสริมให้คุณน้าติดต่อพวกเรามา ส่วนเรื่องหลักวิทยาศาสตร์ เอโกะ!"
เอโกะคราง "หือ?"
"อธิบายซิ"
เอโกะรับลูกไม่ทัน "ห๊ะ!"
เอโกะอึกอักอธิบายไม่ได้
"นั่นไง ไม่เห็นมีใครอธิบายได้สักคน"
"คุณพูดเองไม่ใช่เหรอว่า คุณก็ยังไม่รู้จะทำให้จ่าเสริมหายเป็นปกติได้"
หมอท็อปอึ้งไปเหมือนกัน
"คุณน้าคะ...คุณน้าจะให้พวกเราช่วยตามที่จ่าเสริมต้องการหรือเปล่าคะ"

ทุกคนหันไปรอการตัดสินใจของเมียจ่าที่อึ้ง ๆ อยู่

ต่อมา ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นรถจ่าเสริมวิ่งเข้ามาจอดแล้วไม่ขยับไปไหน
สาว ๆ แองเจิ้ลพากันรุ่มล้อมอยู่ที่จอมอนิเตอร์
ตำรวจบอก
"ตามที่เห็นนั้นแหละครับ จ่าขับแท็กซี่มาจอดอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตี 4 แล้วก็ไม่ขยับไปไหน"
แบมย้ำ
"ตี 4 งั้นเหรอ"
ภาพในกล้องวงจรปิด เห็นรถหกล้อวิ่งมาติดไฟแดงจนได้ไฟเขียวแล้ววิ่งผ่านไป รถแท็กซี่ยังคงจอดนิ่งอยู่ที่เดิม
"กว่าจะมาเจอก็ประมาณตี 5 เพราะมีประชาชนโทรไปแจ้งที่สน."
ตำรวจยื่นแผ่น DVD ให้แอนนา
"นี่เป็นภาพย้อนหลัง 2 สัปดาห์ล่าสุดจากกล้องที่แยกนี้"
"2 สัปดาห์ ?" แอนนาย้ำ
"ถ้าหมวดอยากได้มากกว่านั้นคงต้องไปขอกับสำนักงานแล้วละครับ"
"ฉันไม่ได้เป็นตำรวจนานแล้ว เรียกแอนนาเฉย ๆ ก็ได้"
"เอ่อ...ครับ"
"ตอนนี้รถแท็กซี่นี้อยู่ไหน"

บริเวณลานเก็บรถ ข้างป้อมตำรวจ ประตูรถแท็กซี่ของจ่าเสริมถูกเปิดออก แอนนาตรวจหาร่องรอยต่าง ๆ ในรถ
"ฉันไม่คิดว่าผีที่ไหนจะมาทิ้งหลักฐานอะไร ให้เธอไปตรวจพิสุจน์หรอกนะ" แบมบอก
"รถแท็กซี่นี่เป็นเบาะแสเดียวที่เรามีตอนนี้ หรือว่าเธอมีไอเดียอะไรใหม่"
แอนนาหยิบกระดาษกาวและดินสอออกมาขูดเลขตัวถัง แบมเถียงไม่ออก แก้เขินด้วยการเดินไปดูที่ท้ายรถ ปาล์มและเอโกะได้แต่ยืนดู แบมและแอนนาทำงาน

ปาล์มถาม
"เจ๊...ผีที่ไหนจะทิ้งร่องรอยให้เราตามได้กัน…รึผีมันมีรอยนิ้วมือ ?"
"จะมีได้ไง…ผีนะ ถึงมีเราก็มองไม่เห็นหรอก" เอโกะว่า
"แล้วทำไมเจ๊ไม่ประดิษฐ์เครื่องตรวจรอยนิ้วมือวิญญาณดูละ"
"นี่เธอพูดจริงอะ"
"พูดจริง"
เอโกะถอนหายใจ
"ปาล์มว่าเจ๊เนี่ยเก่งนะ ดูเจ้าป้องมันออกจะปลื้ม ๆ เจ๊อยู่นะ"
"พูดอะไรไร้สาระหน่า"
เอโกะมองปาล์มอย่างอ่อนใจ

ภายในห้องทำงานหมอท็อปตอนกลางวัน เมย์นั่งอยู่ด้านหน้าห้อง เสียงหมอท็อปดังมาก
"ไอ้ป้อง....แก...ฉันจะฟ้องอาเจ็กคอยดู"
เมย์ตกใจ ภายในห้อง ป้องมองหน้าหมอท็อปที่กำลังโกรธ อย่างกวนประสาท
"เฮียจะฟ้องอะไรเตี่ย ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสะหน่อย"
"บอกมาสิ แกไปยุ่งกับพวกแม่มดพวกนั้นได้ยังไง"
"แองเจิ้ลเฮีย แองเจิ้ล"
"จะอะไรก็ช่าง พวกนี้มันพวก 18 มงกุฎ ชอบหากินกับความงมงายของชาวบ้าน"
"พูดแรงไปหน่อยรึปล่าว พวกสาว ๆ แองเจิ้ลเค้าก็ทำเพื่อช่วยคน ไม่ได้หลอกลวง อะไรใคร"
"แกเอาชีวิตคนไข้ของฉันไปเสี่ยง ถ้าคนไข้ฉันเป็นอะไรไปละก็ ฉันจะให้อาเจ็กจัดการแกให้หนักเลย"
"เกี่ยวอะไรวะเฮีย... คุณน้าผู้หญิงเค้าบอกเองว่า อยากให้พวกแองเจิ้ลเค้าลองดูเฉยๆ"
"แก!! ไอ้ป้อง"

ณ ลานเก็บรถข้างป้อม เวลากลางวัน ... กระโปรงท้ายรถแท็กซี่ของจ่าเสริมถูกเปิดออกมีดอกดาวเรืองและดอกรักตกอยู่แบมจะหยิบขึ้นมาดู
"เดี๋ยว…" แอนนาทัก
แอนนาใช้คีมหยิบแล้วใส่ถุงซิบล็อก
"ถ้าเราไปแตะหลักฐานเราอาจจะทำให้วัตถุพยายปนเปื้อนได้"
"แอนนาเธอไม่เป็นตำรวจแล้วนะ มัวแต่มาเก็บหลักฐานอะไรอยู่แบบนี้ แล้วเราจะไปช่วยวิญญาณจ่าเสริมได้ยังไงกัน"
"ไม่มีผลไหนเกิดขึ้นโดยปราศจาเหตุ ถ้าเราจะช่วยจ่าเสริม….เราต้องรู้สาเหตุก่อน"
แบมเซ็งตอบไม่ถูก
พอเปิดพรมท้ายรถขึ้นดูเห็นว่าเป็นพื้นสีขาวสีเดิมของรถ

"นี้เป็นสีเดิมของรถ ก่อนที่จะมาเป็นแท็กซี่" แอนนาบอก
"มันก็เป็นแบบนี้ทุกคันแหละ แท็กซี่คันไหนจะออกจากโรงงานแล้วเป็นสีแท็กซี่เลย เค้าก็ต้องมาทำสีใหม่ที่หลังกันทั้งนั้นแหละ" แบมบอก
แอนนาบอก
"เอโกะเธอช่วยเอาเลขตัวถังนี้เช็คในฐานข้อมูลรถทั้งหมดดูซิว่า มีประวัติยังไง"
"ได้ไม่มีปัญหา" เอโกะบอก
"อย่างนี้กว่าจะรู้ว่าจะช่วยจ่าเสริมยังไง มันคงจะไม่ทันแน่เลย"
"แล้วเธอจะให้ทำยังไง"
"เจ๊ก็ประดิษฐ์เครื่องติดต่อวิญญาณสิ จะได้ไม่ต้องสืบให้ยาก และเราจะได้ช่วยจ่าเสริมทัน"ปาล์มบอก
"เธอเห็นหน้าฉันเหมือนโดราเอม่อนเหรอ"

บริเวณชั้น 2 ของอู่ซ่อมรถ วิญญาณจ่าเสริมมีอาการอ่อนแรงเนื่องจากการพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากพันธนาการ บัดนี้หอบหายใจหนัก ทำได้แค่ครวญคราง ขอความเห็นใจกับดวงวิญญาณ ชาย หญิง และเด็ก
"ได้โปรดเถอะ...ปล่อยฉันออกไปที...แล้วฉันจะจัดชุดใหญ่ทำบุญไปให้นะ"
ประตูห้องถูกเปิดออก ปรากฎชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในชุดผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
"คุณช่วยผมด้วย"
ชายปริศนาเดินเข้ามาเปิดลิ้นตู้เล็ก ๆ ที่หัวเตียงออกมา ด้านในเป็นยาบำรุงสมรรถภาพทางเพศซึ่งมีเต็มตู้ไปหมด วิญญาณชายและหญิงกระโจนเข้าไปจะทำร้ายชายปริศนานั้น แต่ก็ทะลุร่างชายนั้นไป
ยังด้านหลังเห็นชายนั้น โบกมือปัดอะไรบางอย่าง คล้ายไล่แมลงที่บินวนอยู่รอบ หูและหัวของเขา
เขาหยิบยาขึ้นมาขวดหนึ่ง เปิดแล้วกิน
"คุณครับ...คุณ ได้ยินผมไหม .... ช่วยผมด้วย"
เขาไม่ได้ยินและไม่เห็นจ่าเสริมที่นอนอยู่ใกล้ ๆ
ชายปริศนาคนนั้นเดินมายังกองผ้านวม ที่อยู่บนเตียง แล้วเปิดผ้าออก เผยให้เห็นว่าภายใต้นั้นคือร่างไร้วิญญานของผู้หญิงคนหนึ่ง
จ่าเสริมมองที่วิญญาณผู้หญิงสลับกับร่างนั้น คือคน ๆ เดียวกัน
จากด้านหลังชายปริศนานั้นเปิดขวดยาบำรุงกินรวดเดียวหมด แล้วเอามือลูบไล้ที่ใบหน้าของศพผู้หญิงอย่างอ่อนโยนแล้วโน้มตัวลงไปหา
"เฮ้ย!"

รถแองเจิ้ลวิ่งมาจอดที่หน้าอู่รถ สาว ๆ แองเจิ้ลลงมาเห็นอู่รถทั้งสกปรกและเงียบสงัด

"ที่นี่เหรอ" แบมว่า
"ตามข้อมูลแจ้งว่ารถแท็กซี่ถูกดัดแปลงที่อู่นี้" เอโกะบอก
"ก็แค่อู่ทำรถ"
แอนนาบอก
"ฉันอยากเช็คว่ารถแท็กซี่คนนี้ ก่อนหน้านี้มีประวัติอย่างไร อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้จ่าเสริมเป็นแบบนั้นก็ได้"
"สาเหตุอาจจะอยู่ที่สี่แยกนั่นก็ได้นะ" เอโกะว่า
"จริง..เอโกะ...เธอลองเช็คภาพวงจรปิดที่เราได้มาดูหน่อย ฉันจะเข้าไปคนเดียว เข้าไปกันเยอะมันเอิกเกริก" แอนนาว่า
"แอนนา"
เอโกะทักแล้วยื่นดิ้วไฟฟ้าให้แอนนา แอนนารับมา กดปุ่ม เล็ก ๆ ดู ปรากฏว่ามันยืดออกมา
"กระบองยืด มีพลังไฟ 60000 โวลท์ ถ้าหวดเข้าวิญญานจัง ๆ รับลอง สลายแน่นอน" เอโกะว่า
"ขอบใจนะ แต่ฉันว่าฉันยังไม่ได้ใช้ตอนนี้หรอก"
แอนนาส่งคืนเอโกะแล้วขยับจะไปแต่แบมเดินนำไปก่อนแล้ว แอนนาถอนหายใจแล้วเดินตามแบมเข้าไป เอโกะและปาล์มมองตาม

แอนนาและแบมเข้าไปในบริเวณบ้านที่เต็มไปด้วยซากรถที่รอการซ่อมแซม บรรยากาศวังเวง แอนนาบ่น อุบอิบเบา ๆ
"ไม่รู้จักทำงานเป็นทีม"
แบมมองเหล่ ๆ ไปทางแอนนานิดหนึ่ง แล้วแกล้งทำเป็นไม่สนใจ
"โทษนะคะ…มีใครอยู่ไหม"
เงียบ ไม่มีเสียงตอบ
"ไม่เห็นมีอะไรเลย"
แอนนาไม่ได้สนใจอะไรในคำพูดของแบม เรียกหาคนในอู่ต่อ
"ขอโทษคะ…ขอรบกวนนิดนึง"
"น่าจะไม่มีคนอยู่"
แบมเดินไปที่ชั้นวางของที่อยู่ใกล้ๆ ในชั้นมีป้ายทะเบียนรถเก่าอยู่ 3-4 อัน แบมหยิบอันที่อยู่ใกล้มือขึ้นมาดู เห็นเลขป้าย “มน 2900”
"มีรถมาที่นี่ตั้งหลายคัน คนทำจะจำได้เหรอว่าเป็นรถคันไหน" แบมว่า
จู่ๆ เฮียชัย หรือชายปริศนา เจ้าของอู่โผล่มา
"มาช้าอีกนิดอู่จะปิดแล้วนะเนี่ย"
แบมรีบวางป้ายกลับคืนไว้ที่เดิม เห็นเฮียชัยยืนถือประแจอยู่
"ขอโทษนะคะที่มารบกวนตอนเย็น ๆ แบบนี้"
"ไม่เป็นไร รถเสียมันไม่เลือกเวลาหรอก"
"ไม่ได้มาซ่อมรถ มาถามข้อมูลบางอย่าง" แอนนาบอก
"ข้อมูลอะไรครับ"
เฮียชัยงง ๆ

ตอนเย็น เอโกะกำลังดูไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ ปาล์มเริ่มเซ็งๆ
"เจ๊…นี้เราดูอะไรกันเนี่ย"
"ภาพสี่แยกไง"
"แล้วนี่เราจะต้องดูภาพซ้ำ ๆ อย่างงี้ไปถึงเมื่อไหร่"
"ก็จนกว่าจะเจออะไร"
"หรือไม่เจออะไร"
"เอาน่า…อย่าบ่นเลย"
ปาล์มเปิดกระเป๋าอุปกรณ์หยิบทรัมไดร์ฟขึ้นมาดู
"นิ่ เจ๊ .... ไอ้นี่มันดูดวิญญาณได้กี่ตัวอะ"
"นั่นมันในละครแล้ว .... ฉันอำเพื่อนแกเล่น"
"อ่าว...ใครจะไปรู้ เห็นเจ๊มีของวิเศษโน่นนี่เต็มไปหมด"
ปาล์มหยิบถุงมือ จับวิญญาณออกมาดู
"ถุงมือนี้มันจับวิญญานได้นานแค่ไหน กว่าแบตเตอรี่จะหมดคะ"
เอโกะตอบโดยที่ยังมองอยู่ที่ภาพวงจรปิด
"ไม่ค่อยแน่นอนหรอก แต่มันใช้พลังงานค่อนข้างมาก"
"แล้วกระบองยืดได้นี้ มันตีได้กี่ทีอะกว่าแบ็ตจะหมด"
"มันเป็นเรื่องทางเทคนิค ซึ่งมันต้องการเวลาในการพัฒนา"
ปาล์มหยิบปากกาดูดวิญญาณขึ้นมาดู
"พี่แบม พี่แอนนาเค้ามีอุปกรณ์ประจำตัวกันทุกคนเลย ของปาล์มเป็นอะไรคะ"
" ของเธอพี่ยังไม่ได้ทำให้ เอาไว้ ว่าง ๆ จะทำให้ก็แล้วกันนะ เลิกซนได้แล้ว"
ปาล์มเปิดประตูออกไปนอกรถ
"ไปก็ได้ "
"จะไปไหน"
"ไปเดินเล่นอะ นั่งเฉย ๆ ไม่มีไรทำ"
ว่าแล้วก็เดินไป เอโกะไม่ได้สนใจกลับมาดูภาพวงจรปิดต่อ

มืดแล้ว ปาล์มเดินต่อเนื่องมายังด้านข้างของอู่ บรรยกาศวังเวงมีซากรถดที่จอดรอซ่อมบ้าง เป็นอะไหล่บ้างเรียงรายอยู่หลายคัน ปาล์มใส่อะไรบางอย่างไว้ในกระเป๋า

"ใครจะนั่งอยู่เฉย ๆ เป็นชั่วโมง ๆ ได้"

มีลมกรรโชกมาที่ปาล์มอย่างแรง วูบใหญ่
ปาล์มมองไปตามทิศทางที่ลมพัดมา เห็นเป็นตัวบ้าน ที่หน้าต่างชั้นสองเห็นเป็นวิญญาณผู้หญิง เลือดอาบหน้าโผล่ออกมา พยายามเคาะกระจกหน้าต่างเรียกปาล์ม แล้ววิญญานนั้นก็ถูกกระชากตัวหายเข้าไปในบ้าน
ปาล์มตะลึงกับภาพที่เห็น

ฝ่ายเฮียชัยคุยอยู่กับแอนนาและแบม
"อ๋อ ไอ้คันนี้ เจ้าของเอามา…."

ขณะนั้นมีเสียงแมลงวันบิน เฮียชัยใช้มือก็ปัด ๆ ที่ข้างหูและหน้าสองสามที
"ให้ผมทำเป็นแท็กซี่เมื่อสัก 4-5 วันก่อนนี้แหละ" เฮียชัยพูดต่อ
แอนนาและแบม งง ๆ ว่าเฮียปัดอะไร แต่ไม่ได้สนใจมาก
"รถตั้งเยอะตั้งแยะ เฮียซ่อมคนเดียวเลยเหรอ" แอนนาถาม
"ลูกน้องก็มีอะนะ แต่มีก็เหมือนไม่มี ขี้เกียจ อู้งาน"
เสียงแมลงวันบิน เฮียชัยปัดอีก
"ฉันละไม่อยากพูดถึงมันเลย...ไอ้สอนนี่มันร้าย เผลอหน่อยไม่ได้ พอเมียฉันเดินผ่าน มันก็เอาแต่มอง"
แอนนายิ้มอย่างรักษามารยาทเเพราะรู้สึกว่าเฮียเริ่มออกนอกประเด็น
"อ๋อ...เหรอคะ"
"นี่เมื่อกี้นะ ด่ามันนิดเดียว มันกลับเข้าห้องมันเลย บอกลูกไม่สบายต้องดูลูก นี่ต้องทำอยู่คนเดียวเนี่ย สมัยนี้นายจ้างต้องง้อลูกจ้างแล้วนะคุณ"

เสียงแมลงวันบิน เฮียชัยปัด ๆอีก
"ไอ้แมงวันบ้านี้ก็ชุมจริง !"
แบมกระซิบถามแอนนา
"แมงวันอะไร ที่ไหนอะ"
ยังไม่ทันที่เฮียชัยจะบ่นอะไรต่อ ปาล์มก็โผล่พรวดพราดเข้ามาขัดจังหวะทุกคน
"ปาล์มเห็น"
"เห็นอะไร" แบมถาม
"นี่พวกคุณมากันกี่คนเนี่ย" ชัยถาม
แอนนายังไม่ตอบ ปาล์มสวนมาก่อน

"มีคนอยู่ที่ชั้น 2 "
"อ๋อ...เมียผมเองแหละ มีอะไรไหม"
"ขอขึ้นไปดูหน่อยได้ไหม" ปาล์มว่า
"อะไรกันคุณ..ได้ยังไง"
"มีอะไรปาล์ม" แอนนาถาม
"ผู้หญิงเลือดเต็มเลย แล้วก็พยายามจะเรียกให้ช่วย อยู่บนบ้านนี้"
"นี้คุณพูดบ้าอะไรเนี่ยห๊ะ" ชัยตะโกนไปหลังบ้าน "ไอ้สอนโว้ย ไอ้สอน มึงออกมานี่หน่อยสิ"
"เอ่อ...เดี๋ยวก่อนนะคะ คงเป็นการเข้าใจผิดกันน่ะคะ" แอนนาว่า
"เข้าใจผิดอะไร...ถ้าไม่ได้มาซ่อมรถละก็เชิญพวกคุณกลับไปเลยดีกว่านะ"
"เอ่อ..."
"ไปเซ่!"
แอนนากับแบมขอโทษเฮียแล้วรีบพาปาล์มออกมา
"ผู้หญิงพวกนี้นี่อะไรกัน...ไอ้สอน!!! อยู่ไหนวะ ไอ้นี่นิ อย่างนี้ตลอด"
เฮียชัยมองตามสาวๆ อย่างไม่พอใจ มือยังปัดแมลงตามหัวหูที่ไม่มีใครมองเห็นอยู่

เวลาต่อมา แอนนา แบม ปาล์ม กลับมาที่รถ
"ใครให้เธอเข้าไปอย่างนั้นห๊ะ
"ปาล์มเห็นผู้หญิงของความช่วยเหลือที่ชั้น 2 จริง ๆนะ"
"ใช่คนหรือเปล่า" แบมถาม
"ไม่แน่ใจ แต่มีเลือดเต็มตัวเลยนะ"
"อาจเป็นวิญญาณเร่ร่อน ที่ติดอยู่ในบ้านนี้ก็ได้นะ"
"มันอาจจะเกี่ยวข้องกันก็เป็นไปได้" แอนนาบอก
เอโกะเปิดประตูรถออกมา
"พวกเธอ มาดูอะไรนี่สิ"
แอนนา แบมมองสงสัย จึงเดินไปหาเอโกะที่รถ ปาล์มเดินทิ้งระยะอยู่นิดหนึ่ง ใจนึกถึงเหตุการร์ที่เจอมาจึงหันกลับไปดูหน้าต่างบานเดิม
วิญญาณผู้หญิงโผล่ออกมาเคาะกระจกให้ช่วยเหมือนเดิม !
ปาล์มอึ้งนิดหนึ่งจึงหันจะเรียกแบมกับแอนนา แต่ทั้งสองไปถึงรถแล้ว ปาล์มคิดว่าจะเอาไงดี

เอโกะ แอนนา และแบมต่างอยู่ในรถยกเว้นปาล์มซึ่งไม่ได้อยู่ด้วย ภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพ Fast play back ของสี่แยก เห็นภาพรถแท็กซี่จ่าเสริมเข้ามาจอด
"นี้คือภาพของคืนวาน เวลา 4.00 น."
เอโกะเลื่อนภาพไปอีก 24 ช.ม.

"และนี้คือคืนก่อนหน้า"
ภาพรถแท็กซี่จ่าเสริมเข้ามาจอด อยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แม้ไฟเขียว
"เวลาเดิม ที่เดิม"
"หมายความว่า..." แบมว่า
"เวลาตี 4 ของทุกคืน จ่าเสริมจะขับรถเข้ามาจอดที่นี้เสมอ"
"เธอแน่ใจเหรอว่าเป็นรถคันเดียวกัน" แอนนาถาม
"แน่ใจที่สุด"
"เรารีบไปที่สีแยกนั้นกันเถอะ ฉันว่าแล้วเบาะแสต้องอยู่ที่สี่แยกนั้นแน่นอน"
รถแองเจิ้ลวิ่งออกไป

การจราจรในกรุงเทพหลาย ๆ สาย เห็นว่าทุก ๆ เส้นทาง รถติดมาก
"ติดขนาดนี้ อย่างนี้แล้วเมื่อไรจะถึงเนี่ย ไม่มีทางเลี่ยงเหรอ" แบมว่า
"ถนนในกรุงเทพมีไว้สำหรับรถ 1 ล้าน 6 แสนคัน แต่ตอนนี้ กรุงเทพมีรถอยู่ 7 ล้านคัน เราจะเลี่ยงไปทางไหนได้" แอนนาว่า
แบมมองหน้าแอนนานิดหนึ่ง
"ดูนี้สิ"เอโกะว่า
เอโกะให้ทุกคนดูภาพวงจรปิดในมือของเธอ
"มีอะไร"
"รถของจ่าเสริมจะมาจอดที่นี้ทุกวันตั้งแต่สามวันที่แล้ว แต่ดูวันนี้สิ"
ภาพเด็กหญิงคนหนึ่งกระเด็นออกมาจากเสาทางด่วนมาที่กลางสี่แยก ในขณะที่รถตู้คนหนึ่งวิ่งมาในระยะกระชั่นชิด เด็กหญิงเสียชีวิตทันที
"เด็กนั้นมาจากทางไหน ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้กระโดดให้รถชนอย่างนั้น"แบมถาม
"ลองย้อนกลับไปดูใหม่สิ" แอนนาว่า
ภาพเดิมถูกเล่นซ้ำอีกครั้ง
"แปลกจริง...อาการไม่เหมือนกระโดดออกมาเลย อยู่ ๆ ก็ลอยออกมาเฉย ๆ ลองดูอีกทีซิเอโกะ"
เอโกะย้อนกลับไปเล่นภาพเดิมให้แอนนาดู
"มีรถคันนึงวิ่งมาเลี้ยวตรงนี้เห็นไหม แต่ไม่ได้วิ่งเลยไป เสาต้นนี้บังพอดี" แอนนาว่า
รถวิ่งเลี้ยวไป จอดให้เสาบังกับกล้องวงจรปิดพอดีจึงไม่เห็นรถคันนั้นวิ่งต่อไป
"เห็นไหมไม่นานเด็กคนนั้นก็โผล่ออกมาจากหลังเสานี้ แล้วก็โดนรถตู้นี่ชน"
"มันไม่ใช่อุบัติเหตุ"
"มีคนโยนเด็กคนนี้จากหลังเสาร์ต้นนี้ให้รถชน" แอนนาว่า
"เอโกะย้อนกลับไปดูต้อนรถคันนั้นวิ่งมาอีกที" แบมบอก

เอโกะย้อนภาพให้
"หยุดตรงนี้"
ภาพหยุดตรงที่รถวิ่งผ่านพอดี
"ซูมเข้าไปที่ทะเบียนรถได้ไหม"
เอโกะจัดการคลิกซูมเข้าไป เห็นเป็นหมายเลขทะเบียนรถ “มน 2900”
"มน 2900 คุ้น ๆ นะ" แบมบอก
ย้อนคิด ... แบมหยิบทะเบียนรถที่อู่เฮียชัยขึ้นมาดู เห็นเลขป้าย“มน 2900”
"ทะเบียนที่อู่เฮียชัย" แอนนาบอก
"รถคันนี้กับรถแท็กซี่จ่าเสริมเป็นรถคนเดียวกัน"
โทรศัพท์ของเอโกะดังขึ้น
"ฮัลโหล"
ป้องโทร.มาจากโรงพยาบาล
"เอโกะ"
"นี่นายเอาเบอร์ฉันมาจากไหนเนี่ย"
"เฮียหมอท็อปกำลังจะผ่าตัดสมองของลุงจ่าแล้ว" ป้องบอก
"ได้ยังไงกัน แล้วน้าทิพย์ยอมเหรอ"
"ไม่รู้เฮียหมอท็อปไปกล่อมยังไงไม่รู้ตอนนี้คุณน้าผู้หญิง เซนต์ยินยอมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
"รีบมาที่โรง’บาลเร็ว ๆ เถอะ"

"ตอนนี้พวกฉันรู้สาเหตุของอาการจ่าเสริมแล้วนะ นายไปถ่วงเวลาไว้ก่อน"

ที่ ร.พ. สายถูกวางไปแล้ว เมย์ยืนอยู่ข้างๆ
"เอาไงดีคะพี่ป้อง"
"เราต้องหาทางถ่วงเวลาไว้ก่อน"

ในรถ เอโกะวางสายแล้วหันกลับมาบอกกับเพื่อน ๆ
"ตอนนี้น้าทิพย์ยอมให้หมอท็อปผ่าตัดร่างจ่าเสริมแล้ว"
แบมโพล่ง
"ว่าไงนะ!"
"เดี๋ยวนะ"
"มีอะไรหรือเอโกะ"
"ปาล์มหายไปไหน"

ทุกคนในรถต่างมองหน้ากัน

อู่รถอันเงียบสงัด บรรยากาศวังเวงเช่นเดิม ปาล์มค่อย ๆ เดิน เข้ามา ในมือมีปากาดูดวิญญานของเอโกะอยู่ในมือ

ก่อนหน้านี้ ป้องกระซิบถามเอโกะ ถึงเครื่องดูดวิญญาณ
"เอโกะ ไอ้เครื่องนี้มันอะไร"
"เป็นเครื่องดูวิญญาณ มากักขังไว้ แต่รุ่นนี้ยังเป็นรุ่นทดลองอยู่นะ"

ปาล์มหยิบทรัมไดร์ฟขึ้นมาดู ขณะอยู่ในรถกับเอโกะ
"พี่แบม พี่แอนนาเค้ามีอุปกรณ์ประจำตัวกันทุกคนเลย ของปาล์มเป็นอะไรคะ"
"ของเธอพี่ยังไม่ได้ทำให้ เอาไว้ ว่าง ๆ ก็แล้วกันนะ เลิกซนได้แล้ว"

ปาล์มค่อย ๆ เปิดประตู ออฟฟิศเฮียชัยเข้าไป อย่างเงียบกริบ

ป้องกับเมย์แอบเข้าประตูห้องช่างในโรงพยาบาลมา ในห้องไม่มีคนอยู่ ป้องตรงไปที่ตู้เบรคเกอร์ไฟฟ้า เปิดตู้ออกมาในตู้มีสวิทช์เบรคเกอร์จำนวนมาก
"สวิทช์ตัวไหนละพี่" เมย์ถาม
"ตัวใหญ่นี่แหละเป็นสวิทช์เมน ตัวเดียวดับทั้งตึก"
ป้องกำลังจะเอื้อมมือไปสับสวิทช์
"เดี๋ยวพี่" เมย์ท้วง
"อะไร"
"ถ้าไฟดับหมดแล้วคนป่วยคนอื่นละ พวกเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยชีวิตเค้าก็จะไม่ทำงานไปหมดนะ"
ป้องอึ้งไป อยู่ ๆ ช่างก็เปิดประตูเข้ามา
"เอาไงดีวะ"
ช่างถาม
"คุณ 2 คนเข้ามาทำอะไรที่นี่"
ป้องและเมย์เหวอ

ถนนที่เดิม รถแองเจิ้ลยังไม่สามารถขยับไปไหน สามสาวในรถต่างกระวนกระวาย
แอนนาบอก
"อยู่กันตั้ง 3 คนไม่มีใครทักเลยเหรอว่าปาล์มหายไป"
"ก็มัวแต่ห่วงจ่าเสริมกันอยู่" แบมบอก
"ฉันก็เช็คภาพวงจรปิดอยู่นี้ไง...เอาไงดี" เอโกะว่า
"โทรตามสิ" แบมบอก

ปาล์มกำลังจะเดินขึ้นบันไดชั้นสอง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ปาล์มลนลานปิดโทรศัพท์ทันที
"ภา จ๋า....ใครโทรมาเหรอ"
เฮียชัยเดินลงมาจากชั้นบน
"ภา"
เฮียชัยมองหาเมียไม่เจอ
"ไอ้สอน! ไอ้สอน!"
ไม่มีใครตอบ เฮียชัย ปัด ๆ ที่รอบ ๆ หูก่อนที่จะเดินออกไปหลังบ้าน ปาล์มได้โอกาสรีบวิ่งขึ้นชั้นสองไปทันที

ป้องกับเมย์ เหวออยู่เมื่อเจอกับช่างประจำโรงพยาบาล
"ว่าไงละ ห้องนี้ไม่มีกิจห้ามเข้านะ"
"คือว่าไฟที่ห้องผ่าตัดมีปัญหาครับ"
"ไม่เห็นมีแจ้งเข้ามาเลย"
"เห็นเขาแจ้งกันแล้วนะครับ..ว่าแต่พี่ไปไหนมา"
"พวกน้องเป็นใครเนี่ย"
"คือผมเป็นน้องหมอท็อปครับ ผมจบวิศวะ หมอท็อปก็เลยให้ผมขึ้นมาดู"
"หมอท็อปมีน้องด้วยเหรอ"
"ลูกพี่ลูกน้องอะคะ" เมย์ตอบ
ป้องมองตำหนิเมย์นิดหนึ่งแล้วหันมายิ้ม ๆ ให้ ช่างมองป้องอย่างไม่ไว้ใจ ป้องพยายามกลบเกลื่อน
"ตกลง..เบรคเกอร์ห้องผ่าตัดอันไหนเหรอพี่ พี่ช่วยดูให้หน่อย"
ช่างตัดสินใจเข้าไปดูที่แผงไฟฟ้า
"ก็ปรกตินี่"
"ตัวไหนเหรอพี่"
ช่างชี้ไปที่เบรคเกอร์ตัวหนึ่ง
"ตัวนี้ไง....ไม่เห็นมีอะไรเลย"
ป้องใช้ของใกล้ตัวทุบเข้าที่ท้ายทอย ช่างสลบไป

ที่เตียงผ่าตัด ร่างจ่าเสริมนอนอยู่ พยาบาลกำลังเตรียมอุปกรณ์การแพทย์รอการผ่าตัด
หมอท็อปในชุดเตรียมปฎิบัติการเดินเข้ามา ไฟดับพรึบ!
"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย"

ชั้น 2 อู่ซ่อมรถ เวลากลางคืน วิญญาณจ่าเสริม นอนอ่อนแรง อยู่ที่เดิม ไม่มีแรงจะพูดอะไรต่อพร้อมกับวิญญาณทั้งสาม ยืนมองอยู่ไม่ไปไหน
ปาล์มเปิดประตูเข้ามา
วิญญาณชายหญิงและเด็ก ต่างก็มองมาที่ปาล์มแววตาดุดัน ปาล์มตกใจแต่ก็ตั้งสติได้ รู้สึกได้ถึงกลิ่นเน่าเหม็นของซากศพ
"นี่กลิ่นอะไรเนี่ย"
"ช่วยด้วย"
"จ่าเสริม"
"หนูเห็นฉันเหรอ หนูเป็นใคร ช่วยฉันด้วย"
ปาล์มเข้าไปจะช่วยจ่าแต่ก็จับต้องไม่ได้ ทะลุตัวจ่าไป
"ฉันถูกวิญญาณพวกนี้จับตัวมา"
ปาล์มยกปากกาขึ้นมาชี้ไปทางวิญญาณทั้งสาม แต่ไม่เกิดอะไรขึ้น
"ทำไมใช้ไม่ได้อะ"
ปาล์มชี้ปากกาใส่ผีอีกครั้ง แล้วกด ๆ
"มันใช้ยังไงนี่ หรือเวอร์ชั่นนี้มันต้องมีคาถากำกับ"
ปาล์มพยายามชี้ปากกาอีก
"โอม....จงลง จงลง โอม จงมาอยู่ในนี้"
วิญญาณเลือนหายไป ปาล์มยิ้ม
"ดูดเข้าไปแล้วเหรอ"
"ภาจ๋า..."
ปาล์มตะลึง มองไปที่ประตูห้อง ประตูค่อย ๆ เปิดออก เฮียชัยเดินเข้ามา ปาล์มไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
เฮียชัยมองที่เตียงผ้านวมคุลมตัวเมียเฮียชัยอยู่ เฮียเดินไปที่ตู้เล็กเปิดตู้หยิบยาบำรุงสมรรถภาพออกมา
แล้วเดินไปหาร่างของเมีย เฮียเปิดผ้านวมออกเผยให้เห็นศพของเมียเฮียชัย
ปาล์มแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้าตะลึงกับภาพที่เห็น เฮียชัยเปิดฝายาบำรุงแล้วกระดกรวดเดียวหมด
"ภาจ๋า....งอนเฮียเหรอ พูดด้วยแล้วก็ไม่พูดตอบ.... มา มะ เฮียขอแก้ตัวนะรอบนี้เฮียจะจัดให้หนักเลย"
เฮียชัยค่อย ๆ ก้มลงหอมศพเมีย
ปาล์มเหวออยู่ในตู้ รู้สึกพอืดพอม เบือนหน้าหนี ไปเจอศพของผู้ชายในตู้ ปาล์มถึงกับลืมตัวผวาออกมานอกตู้เสื้อผ้า โดยมีศพผู้ชายร่วงลงมาด้วย เฮียชัยหันกลับมา ปาล์มช็อก เฮียตะลึง
"ไอ้สอน"

ฝ่ายป้องยกกล่องเครื่องมือช่างมาวางแล้วเปิดกล่องหยิบคีบตัดสายไฟออกมา
"พี่ป้องจะทำอะไรอะ"
"ตัดสายไฟไง...ถึงจะสับเบรคเกอร์ได้ ไฟก็จะไม่ติด ถ่วงเวลาได้อีกหน่อย"
"รอบคอบดีคะ"
"ใช่รอบคอบจริง ๆ"
หมอท็อป บุรุษพยาบาล และยามอีก 2-3 คนเข้ามาให้ห้องพอดี
"ไอ้ท็อป"
หมอท็อปสั่ง "จับตัวไว้"
ยามเข้ามารวบตัวป้องและเมย์
"นี้แกกำลังเอาชีวิตคนไข้ฉันมาเสี่ยงนะ"
"ไอ้ท็อป"
"ไม่ต้องพูดมาก ท่าทางแกจะเพี้ยนไป ช่วยเอาตัวน้องผมไปที่แผนกจิตเวชที ให้เขาจัดเสื้อ Straight jacket ให้ด้วย"
"เฮ้ยเฮีย....ทำกันขนานนี้เลยเหรอ"
"เสื้อ Straight jacket ? คืออะไรคะ" เมย์ถาม
"เสื้อรัดแขน ที่ใช้กับคนโรคจิต" หมอบอกกับยาม "ช่วยบอกที่แผนกจิตเวชด้วยนะว่า คนป่วยทำร้ายพนักงานเราไปแล้ว 1 คน และอาจมีอาการทำร้ายตัวเองหรือคนอื่นอีกได้"
"ครับ"
"เฮ้ยเฮีย เฮ้ย"
"ไม่นะคะ"
ยามเอาตัวเมย์กับป้องไป หมอท็อปมองดูที่ช่างที่สลบอยู่
"พาคนเจ็บไปดูแล แล้วเตรียมห้องผ่าตัดได้แล้ว"

เฮียชัยชี้หน้าด่าปาล์ม
"นี่พวกมึงสวมเขากูเหรอ ไอ้สอน ไอ้เลว กูเห็นมึงเป็นเหมือนคนในครอบครัวกู"
"เฮียพูดเรื่องอะไร" ปาล์มถาม
ทว่าเฮียชัย เห็นปาล์มเป็นสอน
"ลูกเต้ามึงมีปัญหา กูก็ช่วยเหลือ"
ปาล์มงง
"กินบนเรือนขี้บนหลังคา"
เฮียชัยชกเข้าที่หน้าปาล์มอย่างจัง

ย้อนกลับไปในอดีต ภาเมียเฮียชัยกำลังยั่วยวน สอนอยู่ที่ปลายเตียง สอนพยายามปัดป้อง แต่ภาก็ไม่หยุดรุก
"คุณภาจะให้ผมมาซ่อมไฟไม่ใช่เหรอ"
"ก็ไฟในอกนี่ไง"

ภาพูดพร้อมกับรุกเร้าไม่หยุด สอนพยายามถอยหนี
"เดี๋ยวเฮียรู้เขาจะไม่ไดีนะครับ"
"ฮึ ๆ เฮียหนะ ฟิวส์มันขาดมานานแล้ว จะโสมแดง ถังเฉ้า รึไวอาก้า ก็ช่วยไม่ได้"
สอนยังไม่หยุดถดหนี แต่ภายิ่งรุกกไล่
"แต่ผมมีครอบครัวแล้วนะ"
"เธอก็เมียหนีไปตั้งนานแล้วนิ .... สงสารฉันเถอะนะ"
สอนอึกอัก
"ไม่ต้องกลัวหรอกใช้โอกาสเธอให้เต็มที่ คิดให้ดีนะ ถ้าฉันให้เฮียไล่เธอกับลูกสาวเธอออก เธอจะทำยังไง"
"แต่..."
"หรือว่าเธอบ่มิไก๊เหมือนเฮีย"
สอนอึ้งไปนิดหนึ่ง จ้องตาภาอยู่อึดใจ มือสอนที่อยู่ในตำแหน่งผลักออก เปลี่ยนเป็นค่อย ๆ กอด
ภายิ้มอย่างมีชัยแล้ว จูบสอนทันทีอย่างหิวกระหาย
ทันใดนั้นเฮียชัยก็เปิดประตูออกมา ในมือมีประแจเลื่อนอันใหญ่
"ไอ้สอน"

ปาล์มถูกเหวียงไปกระแทกผนังอีกด้านหนึ่ง ในชั่วเสี้ยววินาทีที่ปาล์มดึงสติกลับมา เฮียชัยคว้าประแจเลื่อนอันใหญ่มาจากตู้เสื้อผ้าที่ซ่อนศพไว้ ไล่ตี ปาล์มหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่เฮียชัยไม่ลดละ
เฮียชัยยังเห็นปาล์มเป็นสอน

"เฮียมันไม่ใช่นะ" สอนว่า
"คาหนังคาเขาขาขนาดนี้มึงยังจะโกหกอีก"

เฮียชัยเหวียงประแจใหญ่ใส่สุดแรง ปาล์มหลบหลีกพัลวัน

"ช่วยด้วย"
เฮียชัยชงัก

"อีผู้หญิงมักมาก"

เฮียชัยซัดประแจใส่อีก ปาล์มหลบทั้งยังงง ๆ
"มึงมันไมรู้จักพอ"

ครั้งนี้เฮียชัยเห็นปาล์มเป็นภา

"ใช่สิฉันมันแก่ ฉันมันไม่มีน้ำยา ย๊าก"
เฮียชัยไล่ตีปาล์มไปร้องไห้ไป เฮียชัยเริ่มหอบเหนื่อย
"เฮียดูดี ๆ นะฉันไม่ใช่สอน ไม่ใช้เมียของเฮียนะ"
"ปาล์มถอยหนีไปที่หน้าต่าง"
"มึงตาย"

เฮียชัยรวบรวมแรงฮึดสุดท้ายโถมใส่ปาล์มสุดแรง เฮียชัยวิ่งสะดุดศพของสอนเสียหลัก ถลาไปด้านหน้า ปาล์มหลบได้อีกครั้ง ทำให้เฮียชัยยั้งไม่ทัน พุ่งทะลุกระจกหน้าต่าง ตกลงข้างล่างทันที
ปาล์มรีบลุกไปดูที่หน้าต่าง เห็นเฮียชัยแน่นิ่งเลือดนองอยู่กลับพื้นด้านล่าง
ปาล์มยังช็อกอยู่ วิญญาณทั้งสามและวิญญาณจ่าเสริมปรากฎตัวขึ้น
วิญญาณชาย หญิง และเด็กมองมาที่ปาล์ม

ย้อนอดีต ดอกดาวเรืองถูกร้อยรวมกับดอกรักกลายเป็นมาลัย เด็กหญิงคนเดียวกับวิญญาณเด็ก กำลังร้อยมาลัยอยู่ รอบ ๆ ตัวมีทั้งมาลัยที่ร้อยไว้เรียบร้อยแล้ว และดอกไม้ที่รอการร้อยขึ้นเป็นพวง
เฮียชัยเปิดประตูห้องเข้ามา ยืนจังก้ามองหน้าเด็กหญิงดุร้าย
"พ่อมึงทำกับกูไว้แสบนัก"
ที่มือของเฮียชัย เห็นประแจเลื่อนอันใหญ่ที่เปรอะเลือด

ณ ถนนสี่แยกไร้รถรา รถยนต์คันเดียวกับในภาพวงจรปิด วิ่งมายังสี่แยกเลี้ยว แล้วจอดหลังเสาทางด่วน เฮียชัยนั่งอยู่ที่ตำแหน่งคนขับ กวาดตามองไปรอบ เฮียชัยลงมาที่กระโปรงหลัง เปิดออก เผยให้เห็นร่างเด็กหญิงที่หัวมีเลือดออก เฮียชัยเข้าช้อนร่างเด็กหญิงขึ้นมาจากกระโปรงรถ
เศษพวงมาลัยตกลงที่พื้นกระโปรงหลัง
เฮียชัยอุ้มร่างเด็กหญิงมาหลบอยู่หลังที่เสาทางด่วนลอบมองซ้าย มองขวา
จากด้านหนึ่ง แสงไฟจากรถตู้วิ่งทะยานฝ่าความมืดเข้ามา เฮียชัยโยนร่างเด็กหญิงออกไป
ดวงไฟรถตู้ฟุ่งเข้ามาด้วยความแรง

ปาล์มหลุดออกจาพวังค์ มองหน้าวิญญาณเด็กด้วยความเศร้า ไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงจะเป็นเรื่องจริง หันไปมองวิญญานชายและหญิง ทั้งสองพยักหน้าให้ปาล์ม
"มึง...มึงฆ่ากู"
ผีเฮียชัยกระโดดขึ้นมายืนบนของกระจกหน้าต่างบานที่ตกลงไป มีเศษกระจกปักอยู่ที่หน้าและคอ เลือดไหลอาบ มองมาที่ปาล์มด้วยความแค้น ยกประแจขึ้นแล้วกระโดดจะฟาดปาล์ม
ทันใดนั้นร่างเฮียชัยก็แตกสลายอยู่กลางอากาศห่างจากปาล์มไปแค่ไม่กี่คืบ
ปาล์มหันกลับไปเห็นว่า เอโกะประทับปืนกระบอก MIB กระบอกใหญ่ค้างอยุ่ แอนนา และแบม พร้อมอาวุธครบมือแบบจัดเต็มบุกเข้ามา
แอนนาเห็นวิญญาณทั้งสาม จึงกดยืดกระบอกออก มีประกายไฟฟ้าวิ่งแปลบปลาบ วิ่งเข้าเตรียมจู่โจม
"พวกแก"
ปาล์มห้าม "อย่า"
แอนนาชะงัก
"อย่าทำพวกเขาทุกอย่างจบแล้ว"
สามสาวมองงง

ร่างจ่าเสริมนอนอยู่ที่เตียงผ่าตัด พยาบาลกำลังเตรียมอุปกรณ์การแพทย์รอการผ่าตัด หมอท็อปในชุดเตรียมปฎิบัติการเดินเข้ามา มองไปรอบห้อง เมื่อแน่ใจว่าไฟไม่ดับอีกแน่นอน จึงพยักหน้าให้พยาบาล
"พร้อมแล้ว"
มีดผ่าตัด กรรไกร และ คีมขนาดต่างๆ ว่างเรียงรายอยุ่ใกล้ ๆ มือพยาบาลหยิบ มีดส่งให้หมอ
หมอท็อปมองจ่าเสริม นิดหนึ่งแล้วเลื่อนมีดไปยังตำแหน่งที่เตรียมจะผ่า
ทันใดนั้น จ่าเสริมก็ไอขึ้นมา ทุกคนมองหน้ากัน งง ๆ
จ่าเสริมมองไปรอบ ๆ งง ๆ เช่นกัน เมื่อสติกลับมาเต็มที่ จ่าเสริมก็เด้งตัว พรวดขึ้นมา
"เฮ้ย! อะไรเนี่ย ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงวะเนี่ย"
หมอท็อป อึ้ง

ภายในสำนักงานแองเจิ้ล เวลากลางวัน เอโกะสั่งการให้จอร์ชต่อสายไฟหลังมอนิเตอร์ให้ถูกต้อง แล้วเดินมาที่อีกมุมหนึ่งซึ่งมีปาล์ม คุยกับพิม แอนนาและ แบม
"ทุกอย่างเกิดขึ้นในหัวเร็วมากเลยคะ" ปาล์มบอก
" ภาพเหตุการณ์ที่ปาล์มเห็นเขาเรียกว่าภาพนิมิต" พิมว่า
"ภาพนิมิต?" แบมไม่เข้าใจ
"ส่วนมากคนที่มีญานแก่กล้าเท่านั้นจะสามารถมองเห็นภาพนิมิต ทั้งในอดีตและปัจจุบันได้"
"แต่ปาล์มไม่ได้มีญานวิเศษอะไรนะคะ"
"กรณีของปาล์ม น่าจะเป็นภาพที่วิญญาณพวกนั้นทำให้เกิดขึ้น คล้ายกับการบังตาหรือการเข้าฝัน แต่นี้เป็นไปอีกแบบหนึ่ง" พิมอธิบาย
"จริง ๆ แล้วดวงวิญญาณนั้นแค่ต้องการให้ใครมาปลดปล่อยวิญญาณพวกเขา ถึงได้จับตัวจ่าเสริมไป เพราะรู้ว่าพวกเราจะต้องไปช่วยจ่าเสริมแน่นอน" แบมว่า
"แล้วทำไมไม่บอกเราดี ๆ ละ" ปาล์มว่า
"คนเราเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่ไม่เท่ากัน ดวงวิญญาณก็เหมือนกัน เขาอาจจะพูดด้วยตัวเองไม่ได้ จึงต้องมีสื่อหรือพาหะอะไรสักอย่าง เพื่อติดต่อกับคนอื่น"
อนนาเดินเข้ามา

"เป็นยังไงบ้าง จ่าเสริมกลับบ้านเรียบร้อยแล้วใช่ไหม" พิมถาม
"คะ .... พอจ่าเสริมฟื้นขึ้นมา อีตาหมองี่เง่านั้น งงเป็นไก่ตาแตกเลย สั่งตรวจสอบใหญ่เลย ทั้งเอ็กซ์เรย์ สแกนสมอง อะไรก็ก็ไม่รู้ วุ่นวายไปหมด ร่องรอยติดชง ติดเชื้ออะไรที่บอกไว้ตอนแรกหายไปหมด" แอนนาบอก
"ต่อไปนี้คงจะเชื่อเรื่องปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติขึ้นมาบ้างละนะ" แบมว่า
"เชอะ...ไม่มีทางหรอก"
"ก็ไม่แน่นะเรื่องของจ่าเสริมเนี่ย อาจจะทำให้หมอนั่นเปลี่ยนใจก็ได้ ไม่มีผลไหนเกิดขึ้นโดยปราศจาเหตุ ใช่มั้ย"
"นั้นมันคำพูดของฉันไม่ใช่เหรอแบม"
แบมยิ้มๆ
"ทีหลังอย่าได้หยิบอะไรไปโดยที่ฉันไม่อนุญาติอีกเข้าใจไหม… ปากกานั่นเพื่อนเธอทำมันเสียตั้งแต่คราวก่อนแล้ว … จะว่าไปแล้วต้องขอบใจ สองคนนั่นนะ ไม่งั้นป่านนี้จ่าเสริมคงโดนผ่าสมองเละไปแล้ว" เอโกะว่า

แผนกจิตเวช ภายในโรงพยาบาล ป้องและเมย์ ในชุดรัดแขนของคนไข้โรคจิต จิตแพทย์หยิบรูปแปลก ๆ คล้ายรูป แอ็บสแตร็กส์
"นี่คือรูปอะไรครับ"
"โธ่หมอ...ผมบอกกี่ครั้งแล้วผมปกติ ไม่ได้เป็นโรคจิตอะไร"
"ผีเสื้อคะ"
ป้องมองจิตแพทย์กับเมย์เซ็ง ๆ

หลายชัวโมงต่อมา ณ บริเวณสี่แยกไฟแดงถนนโล่งเปลี่ยวไร้รถรา สัญญาณไฟเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว รถแท็กซี่เขียวเหลืองแล่นมาแต่ไกล
รถของจ่าเสริมนั่นเอง ภายในรถ เห็นสติ๊กเกอร์ ที่หน้าคอลโซลรถ “แท็กซี่เปิดไฟว่าง ใครจ้างก็ต้องไป” ที่หน้าปัดนาฬิกา บอกเวลา 03.59 น.
"ทำไมคนชอบเรียกรถให้มาส่งแถวนี้นักนะ"
เมื่อถึงสี่แยก จ่ายิ่งลุ้น
"อย่าดับนะเว้ย ... อย่าดับ ๆ"
รถกระตุก คึก ๆ แล้วก็ดับ
นาฬิกา 04.00 จ่าเสริมหวาด ๆ ลองบิดกุญแจสตาร์ท รถก็ติดขึ้นมาได้ ไม่มีปัญหา
จ่าเสริมยิ้มโล่งใจ
"นึกว่าจะไม่ติดสะแล้ว"
ทันใดนั้นมีเด็กผู้ชายโผล่มาที่หน้าต่างข้างรถ จ่าเสริมตกใจ

"พวงมาลัยไหมน้า"
จ่าเสริมเห็นเป็นเด็กจึงค่อยยังชั่ว
"ใจหายหมดเลย ….. ขอโทษทีนะ มีแล้วนี่ไง"
จ่าเสริมชี้ไปที่พวงมาลัยของตัวเอง ที่ห้อยกระจกมองหลังอยู่

เมื่อรถแท็กซี่วิ่งออกไป แล้วเห็นว่า เด็กชายขายพวกมาลัยคนนั้น ไม่มีขา !!

(อ่านต่อ ตอน 5)
กำลังโหลดความคิดเห็น