xs
xsm
sm
md
lg

ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 2
รถตี๋ใหญ่จอดอยู่ในเงามืด เขาหันมองร่างยุทธกระตุกเฮือกๆ อยู่เป็นจังหวะ ตี๋ใหญ่หนักใจ คิดหาทางออก หันเหลียวมองถุงเงินที่เปิดอ้าอยู่ เห็นเงินสดเป็นปึกอยู่สองสามถุง เขาติดสินใจขับรถออกไป


ศพแม่ถูกเอาผ้าปิดหน้า ยกขึ้นไปบนรถมูลนิธิ บัญชาเดินเข้ามาดูสถานที่เกิดเหตุ เดินตรงไปยังรอยที่พ่นพื้นเป็นรูปแม่ กับน้องสาวไซเรนนอนตายพร้อมคราบเลือด เขาเดินไปยังตำแหน่งที่แฟรงค์กี้ยกปืนขึ้นจะยิงแม่กับน้องสาวไซเรน บัญชามองไปรอบๆ สะดุดที่จ่าแดงในชุดตำรวจยืนคุยกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิ บัญชาเดินเข้าไปไหว้ จ่าแดงตกใจรีบตะเบ๊ะ
“สบายดี จ่าแดง”
“สวัสดีครับท่าน”
“ท่านเทิ่นอะไรพี่ ไม่ได้จ่าแดง ผมกับนาย ไม่รอดมาถึงทุกวันนี้หรอก เออพี่ ไอ้เจี๊ยบบางบอนที่เราไปล้อมจับมันที่บ้านสวนแล้วที่สายเสือกเป็นหนอนล่อเราเข้าไปถูกมันล้อมซัดด้วยอาก้า ถ้าไม่ได้พี่ผมเป็นผีไปแล้ว ตอนนี้มันออกมาแล้วนะจ่า ห่า ค้ายาเป็นกิโลติดห้าหกปี แม่งออกมาเดินเล่นละ เส้นแม่งแข็งจริง”
“มันก็เป็นเรื่องปกติครับผม”
“แล้วนี่มันเรื่องอะไรจ่าแดง”
“พยานบอกว่ามีคนแต่งกายคล้ายตำรวจยิงต่อสู้ชุด รปภ. เอสจี ซิเคียวริตี้ แต่มีเด็กหญิงกับพี่ชายถูกลูกหลงนำส่งโรงพยาบาลไปแล้ว ส่วนแม่เด็กเสียชีวิตคาที่ รปภ.เสียชีวิตในห้องน้ำห้าง 1 คน โดนยิงเสียชีวิตหน้ารถ 1 คน ครับผม”
“ก็วางแผนปล้น แต่ทำไมมีเด็กกับแม่ด้วย”
“เป็นครอบครัวของดาบยุทธ หนึ่งในรปภ. ประจำรถ แต่หายตัวไป พยานบอกว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ไอ้ยุทธไปกินไอติมในห้างกับครอบครัวครับผม”
“ทำไมมีเด็กกับแม่ด้วย ผมเห็นจ่าแดงเรียกชื่อดาบยุทธ รู้จักกันเหรอครับ”
“สมัยก่อนเคยทำงานด้วยกันครับ”
“ลูกชายบาดเจ็บ เมียโดนยิงตาย ลูกสาวโดนเข้าไปอาการสาหัส แล้วเจ้าตัวหายไปไหน จ่าแดงมาช่วยผมทำคดีนี้ละกัน”
“โอย ตุลานี้ก็เกษียณแล้วครับ อย่าเลยครับ ผมไม่ได้ลงพื้นที่มาหลายปีแล้ว สู้หนุ่มๆ ไม่ได้หรอกครับ”
“เอาน่าพี่ มือดีอย่างพี่ มาช่วยผมเถอะถือว่าคดีสุดท้ายทิ้งทวนนะ ผมให้เด็กทำหนังสือขอตัวพรุ่งนี้เลย คดีนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดานะพี่ แต่ตอนนี้พี่แดงช่วยไปเก็บข้อมูลที่โรงพยาบาลให้ก่อน เดี๋ยวผมตามไป”

กลางคืน ที่ห้องพักโรงแรม แฟรงค์กี้ซึ่งยังสะพายกระเป๋ายาอยู่ตลอดเวลาทั้งที่ถอดเสื้อเห็นรอยสัก ปาร์ตี้อยูกับสาวๆ เซ็กซี่ เต้นอยู่บนโต๊ะหน้าแฟรงค์กี้ เปิดเพลงดังลั่นมีความสุข ยาเสพติดกระจายเต็มโต๊ะ เสียงเคาะประตูดังขึ้น แฟรงค์กี้ให้สาวไปเปิด ตัวเองถอยไปตั้งหลัก เอาผ้าคลุมยา แอบชักปืนออกมา พนักงานเข้ามาเสิร์ฟเหล้าให้สาวๆ สาวเดินถือถาดเหล้าเข้ามา
“ขอตังค์หน่อยดิคะ พี่แฟรงค์กี้”
“เอ้า ได้สิคะ น้องไรนะ ลูซี่”
แฟรงค์เปิดกระเป๋าแต่เงินหมด อารมณ์เสีย
“ออกไปให้พี่ก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวตอนเช้าพี่ไปเอาให้นะ”
“โห”
“ก็จ่ายให้น้องๆ ไปหมดแล้วนี่จ๊ะ”
“งี้ก็ไม่มีติ๊บ ที่บอกว่าจะสเปเชี่ยลโชว์ให้ไม่มีแล้วนะ”
“อ่ะใจเย็นๆ น่า เดี๋ยวพี่โทรหาเพื่อนแป๊บ ออกไปให้ก่อนน่านะ”
สาวๆ จำใจจ่ายค่าเหล้าไปก่อนแบบเซ็งๆ

พยาบาลประคองสวมเฝือกอ่อนรอบซี่โครงไซเรน ตัวเขาเองเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างเจ็บช้ำ พยายามกัดฟัน
“ยังดีที่แค่ร้าว ไม่ถึงกับหัก”
ไซเรนพยักหน้า พยาบาลเดินออกไป ผ่านหน้าจ่าแดง กำลังนั่งรอสอบปากคำไซเรน
“จำหน้าคนร้ายไม่ได้เลยเหรอ”
ไซเรนมึนงง
“น้อง จำหน้าคนร้ายได้มั่งเปล่า”
ไซเรนส่ายหน้า
“ผม มันเร็วมาก ผมวิ่งมาหาพ่อแล้ว”
ไซเรนพยายามหายใจ แต่ทำได้ไม่สุด เจ็บจนจุกตัวงอ
“ดีนะ ที่ไปโดนเสื้อเกราะในกระเป๋า”
ไซเรนพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น
“เสื้อเกราะของ พ่อ”
จ่าแดงส่ายหน้า “ยังไม่มีรายงาน เรื่องไอ้ยุทธหรอก มีแต่รอยเลือดในที่เกิดเหตุ”
“เลือด รู้จักพ่อด้วยเหรอครับ”
“รอผลตรวจดีเอ็นเออยู่”
“พ่อผม แม่ผม น้องผม”
“เออๆๆ ใจเย็นๆ ยุทธน่าจะไม่เป็นไรหรอก”
“รู้จักพ่อด้วยเหรอครับ ครอบครัวผม อยู่ไหน เป็นไงมั่ง”
“เฮ้ย เบาๆ เสียงดังไปทำไม”
“พ่อ แม่ น้อง อยู่ไหนอ่ะ”
ไซเรนลุกพรวด ล้มลงจากเตียง

ตี่ใหญ่ขับรถผ่านคลินิกเล็กๆ ย่านชานเมืองแห่งหนึ่ง เห็นพยาบาลกำลังดึงประตูเหล็กม้วนลงเพื่อปิดร้าน เขาครุ่นคิด แล้วจอดรถในที่ลับตา เดินประคองยุทธออกมา ฟ้ากำลังปิดคลินิคจะเดินออก ตี๋ใหญ่เข้ามา
“ขอความร่วมมือด้วยครับ”
“คะ”
ฟ้าตกใจเห็นตี๋ใหญ่อยู่ในชุดตำรวจ
“คุณตำรวจ”
“ผม ผมมีคนเจ็บ”
ฟ้ามอง ชักไม่แน่ใจ มองหาไปรอบๆ ว่าทำไมมาคนเดียว
“ห้ามเลือดให้หน่อยครับ”
ตี๋ใหญ่ชี้ไปที่แผลยุทธ ยุทธทรุดลง ทั้งคู่ช่วยกันพาเข้าคลินิก พาไปที่เตียงอย่างเงอะงะ พยายามเอาผ้าก๊อซซับเลือด แต่ไม่มีทีท่าว่าเลือดจะหยุด
“แผลใหญ่สงสัยต้องเย็บ”
“หา เย็บ ไม่เป็นค่ะ หนูๆ เป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลคะ”
“เย็บเถอะครับ”
“ไม่ได้ค่ะ หนูเคยดูแต่ไม่เคยทำ แล้วๆ พวกพี่ยังไม่มาอีกเหรอคะ เรียกพวกมูลนิธิก็ได้ ขับไปอีกนิดก็มีโรงพยาบาลแล้ว”
“ไม่มีใครมาแล้ว ช่วยเขาเถอะ เลือดออกแบบนี้ไม่ดีแน่”
ฟ้ามองตี๋ใหญ่ และมองต่อไปที่ปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอว กลัวๆ เธอตัดสินใจเย็บแผลอย่างเก้ๆ กังๆ เสียงโทรศัพท์ตี๋ใหญ่ดังขึ้น แฟรงค์กี้หลบมุมโทรศัพท์มา
“อยู่ไหน ทำไมช้าเกิ๊น”
“ไปยิงเขาทำไม บอกแล้วไง ว่าปล้นแต่ต้องไม่มีใครตาย”
“ก็ ก็มันสู้อ่ะ เอาน่ะๆ หนุกๆ น่ะพี่ตี๋ มีเรื่องใหญ่กว่า ยาเพียบ อยู่ไหนเนี่ย แล้วเงินอ่ะ”
“คลีนิก มีคนเจ็บติดมาด้วย อย่ายุ่งกับยา”
“ยิงกระบาลมันทิ้งไปก็สิ้นเรื่องพี่ตี๋ ทำเป็นพ่อพระไปได้ มันเห็นหน้าปะน่ะ เออแล้วเงินอ่ะ อยากได้ยานี่ก็จะเอาไปให้ไง เงินอะ เงินอะ ต้องใช้ด่วนเลย”
แฟรงค์กี้หันไปยิ้มให้สาวๆ

ไซเรนเดินโซซัดโซเซออกมาจากห้องพักฟื้นของตัวเอง กระย่องกระแย่งไปยังเคาน์เตอร์พยาบาล ลากเอาขาตั้งขวดน้ำเกลือมาด้วย เขาเกือบเซล้ม จ่าแดงเดินตามมา พยาบาลหันมาเห็นก็วิ่งเข้ามาประคอง
“คนไข้ออกมาแบบนี้ไม่ได้นะคะ”
“แม่ผม น้องผม ถูกส่งมารักษาที่นี่ด้วยใช่มั้ย”
พยาบาลอึกอัก ไม่อยากให้ข้อมูล
“กลับไปที่ห้องดีกว่านะคะ”
“ผมมีกันอยู่แค่นี้จริงๆ ผมขอร้อง”
จ่าแดงมองไปที่พยาบาล ตัดใจพูด
“ทั้งสองคนอยู่ที่นี่แหละ”
ไซเรนมีความหวัง พยาบาลหน้าเสีย ก่อนจะเข็นเก้าอี้รถเข็นให้ไซเรนนั่งเข้ามาในลิฟท์ เด็กหนุ่มน้ำตาคลอ

ในห้องไอซียู. น้องสาวของไซเรนนอนนิ่ง มีสายเสียบระโยงระยาง ไซเรนถูกเข็นเข้ามาในห้องนั้นแทบหมดเเรง จ่าแดงรออยู่หน้าห้อง มองผ่านช่องประตูดูไซเรน ไซเรนมองน้อง เขาทรุดตัวลงนั่ง
“ตื่นมานะ จะพาไปกินติม”
พยาบาลเดินเข้ามาดูชาร์จอาการน้อง แววตาสงสารไซเรน ไซเรนกอดน้อง พยายามปลุก จนพยาบาลต้องมาห้าม จ่าแดงเข้ามาดึงไซเรนกลับไปที่รถเข็น
“เจ็บตรงไหนบอกพี่สิ แม่ แม่ เป็นไงมั่งครับ อีกคนหนึ่ง น่าจะเข้ามาพร้อมกัน”
จ่าแดงพยักหน้าอึกอัก
“อยู่อีกแผนกหนึ่ง”
“แผนกไหนครับ”
ไซเรนหวั่นใจ

ฟ้ากำลังทำแผลที่พุงของยุทธอยู่ เธอเย็บแผล เลือดชุ่มมือ ผ้าพันแผลซับเลือดกองเต็ม ตี๋ใหญ่ยืนคุมอยู่ไม่ห่าง ถือโทรศัพท์พูดคุยงึมงำไปด้วย
“ก็ได้ๆ เอาของมา แล้วก็มาเอาเงินไป จะได้แยกกันสักพัก”
ตี๋ใหญ่กดปิดโทรศัพท์ เดินมาที่ฟ้า ซึ่งยุทธนอนครางเหมือนจะได้สติ
“เป็นไงมั่ง”
“เลือดหยุดแล้ว เจอเศษกระสุนด้วย เอาออกให้แล้ว”
“ปลอดภัยแล้วใช่มั้ย”
ฟ้าพยักหน้า ตี๋ใหญ่รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
“ขอบคุณ สักพัก เดี๋ยวผมก็ไปแล้ว”
“คุณไม่ใช่ตำรวจ”
“เครื่องแบบก็ไม่ได้การันตีว่าคนใส่จะเป็นคนดีหรือไม่ดี อีกนานมั้ยกว่าจะฟื้น”
“อีกพักหนึ่ง ไม่ได้สลบ แค่งัวเงียเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวด”
ฟ้าอาศัยจังหวะนี้พยายามวิ่งหนีไปที่ประตูหลัง ตี๋ใหญ่วิ่งไปคว้าตัวพากลับมาที่เดิม เขาจับๆ สีข้างตัวเอง ก้มมอง มีเลือดซึมออกมา ทั้งสองมองหน้ากัน
“ผมไม่ทำอะไรหรอก อย่าหนีเลย”
ฟ้ามองแผล
“ดูให้มั้ย”
“ไม่เป็นไร”
“เอาเหอะ จะได้ไปๆ ซะ”
ตี๋ใหญ่มองฟ้าอย่างชั่งใจ แล้วก็นั่งเปิดเสื้อขึ้น ฟ้าเดินมาดู
“อื้อฮือ ต้องเย็บอ่ะ ไม่งั้นเลือดไม่หยุดแน่ ไปโดนอะไรมา”
“ไม่รู้ ไม่ทันสังเกต”
“ฉีดยาชาก่อน”
ตี๋ใหญ่มองไม่ไว้ใจนัก
“ไม่เป็นไร”
“เย็บสด” ฟ้าถามงงๆ
ตี๋ใหญ่พยักหน้าพร้อมสับกุญแจมือตัวเองกับฟ้า ฟ้าหยิบอุปกรณ์ แล้วลงมือเย็บ
“หนูช่วยพี่แล้ว อย่าทำอะไรหนูนะ”
ตี๋ใหญ่กัดฟันทนความเจ็บ เข็มด้ายร้อยผ่านเนื้อหนังสดๆ เลือดฉ่ำ
“พี่ไปทำอะไรมา”
ตี๋ใหญ่กัดฟันข่มใจ เจ็บช้ำ
“ฆ่าคนตาย”
ฟ้าชะงักเข็มที่ร้อยเย็บแผลนิดหนึ่ง ก่อนจะเย็บต่อไป
“คุณก็เย็บแผลเก่งนี่ ทำไมไม่เป็นพยาบาลล่ะ”
“ก็อยากเป็นนะพี่ แต่เขารับเฉพาะคนมีวุธ จบมอสามได้ทำธุรการก็บุญแล้วพี่”
“ตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่ ถ้าคุณเลือกที่จะทำ”
ฟ้าเย็บแผลเสร็จพอดี
“แล้วพี่อ่ะ เลือกที่จะเป็นโจรเหรอ”
ตี๋ใหญ่อึ้งไป




ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 2 (ต่อ)
พยาบาลเข็นไซเรนมาตามทางเดินเงียบกริบ ไซเรนก้มหน้า น้ำตาริน จ่าแดงมองอยู่ห่างๆ

แน่ใจนะคะ”
ไซเรนพยักหน้า “ขอบคุณมากครับ”
พยาบาลเข็นรถเสียงล้อเอี๊ยดอ๊าดในความเงียบมาหยุดที่หน้าห้องดับจิต ไซเรนก้มหน้าแต่ตัวสั่นเทิ้ม พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ ศพถูกดึงออกมาจากลิ้นชัก ไซเรนก้มหน้าไม่อยากมอง แล้วทำใจ เงยหน้า เขานิ่งรอพยาบาลเปิดผ้าคลุมหน้า
“เสียใจด้วยนะคะ”
พยาบาลเปิดผ้าคลุมหน้า แม่ไซเรนนอนอยู่ เขาอึ้ง ตะลึง พุ่งไปหาศพแม่ จ่าแดงใบหน้าเรียบเฉย เพราะตัวเขาเองก็ผ่านการสูญเสียคนใกล้ชิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่มามาก จึงเข้าใจความเจ็บปวดนั้นเป็นอย่างดี มองหน้าไซเรน
“แล้วพ่อผม”
ไม่มีใครตอบอะไร ไซเรนฝืนใจลุกขึ้นยืน เนสเปิดประตูเข้ามา น้ำตาไหล กราบแม่

ไซเรนนั่งพื้นในห้องพักคนไข้ โดยมีเนสปลอบอยู่ เนสเอาน้ำให้ดื่ม
“ไซเรน”
ไซเรนเงยหน้ามองเนส แล้วก็โผกอด
“ใจเย็นๆ นะ ใจเย็น”
“ทำไมอ่ะ ทำไม มันเกิดขึ้นได้ไง แม่ไม่เคยไปทำอะไรใครเลย”
“อือ อือ”
“น้องเราอีกเนส น้องเราอยู่ไอซียู ยังไม่รู้ยังไงเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกเรน น้องเรนต้องไม่เป็นอะไร เรนต้องเข้มแข็งนะ ต้องดูแลน้องแทนแม่ด้วย”
“พ่อเราก็ไม่รู้ ไม่รู้จะเป็นไงบ้างเนส”
“ตำรวจมาช่วยตามแล้ว เดี๋ยวก็เจอพ่อ เชื่อเราสิ พ่อต้องปลอดภัย”
“ไม่มีใครเหลือแล้วอ่ะ”
“ยังไงก็ยังมีเราอยู่กับเธอ เราจะอยู่นี่แหละ พักผ่อนก่อนนะ รักษาตัวก่อน”
ไซเรนฟุบลงที่ไหล่เนส แล้วร้องไห้ออกมาอย่างทะลักทะลาย
“พรุ่งนี้จะมาคุยด้วยใหม่”
จ่าแดงเดินออกไป

ฟ้าเย็บแผลให้ตี๋ใหญ่เสร็จแล้ว เก็บเครื่องมือ ยุทธครางเหมือนจะรู้สึกตัว ตี๋ใหญ่ไขกุญแจมือออกให้
“เดี๋ยวถ้ามีคนมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่ามองหน้ามันนะ”
“ทำไม”
“มันไม่ปล่อยให้คนมาชี้ตัวหรอก”
“แต่ หน้าคุณ”
“คุณตกใจมาก จำหน้าผมไม่ได้หรอก ใช่มั้ย”
ตี๋ใหญ่ล้วงเงินฟ่อนหนึ่งยัดใส่มือ ฟ้านิ่งมองหน้าชายหนุ่ม ส่ายหน้าผลักเงินคืนไป ก้มมองเงินแล้วยอมรับในที่สุด
“ตอนเช้ามีคนอื่นมาทำงานกันกี่โมง”
“ไม่มีหรอก พรุ่งนี้วันอาทิตย์คลินิกปิด”
ยุทธฟื้นขึ้นมา
“ปล่อยผมเถอะครับ ผมจะไม่พูดอะไร”
ตี๋ใหญ่โล่งใจ ตัดสินใจ
“ไป งั้นไปเลย”
ตี๋ใหญ่ดันทั้งสองคนไปทางประตู เสียงทุบประตูดังขึ้น ตี๋ใหญ่พาทุกคนกลับมาหาที่ซ่อนให้
“อย่าออกมา จนกว่าจะไปกันหมดแล้ว”
ตี๋ใหญ่รีบสวมเสื้อปิดแผล ฟ้าพยักหน้า แล้วก็เข้าไปแอบในตู้อย่างกลัวๆ มีช่องให้เธอมองออกมา แต่ยุทธหาที่ซ่อนไม่ทันจำต้องนั่งลง แฟรงค์กี้เดินชนของร่วง ฟ้าสะดุ้งอยู่ในตู้ แฟรงค์กี้เดินเข้ามาในห้อง โยกตัวไปมาอารมณ์ดี ตบหัวยุทธแบบไร้สาระ
“เอามาทำไม”
“ถ้ามึงไม่ยิง มันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก”
“อย่าพูดมากน่า”
แฟรงค์กี้ชักปืนออกมา จะยิงยุทธทิ้ง
“เกะกะ”
ตี๋ใหญ่กระชากแฟรงค์กี้ออกมา
“ตำรวจนะ นั่นน่ะ”
“โอเค ขออนุญาตยิงทิ้ง คร้าบผม”
“พอทีเหอะ เราไปกันได้แล้ว”
“ตัวเอ๊ง เราเลิกกันเหอะ เธอดีเกินไปอ่ะ ปล่อยให้มันมาชี้ตัวเราทีหลังน่ะเหรอ”
ตี๋ใหญ่เตรียมพร้อม นิ่ง
“เป็นโจรอย่าดัดจริตให้มากนักเลยพี่ตี๋ ผมนี่ แต่ก่อนเช้าตักบาตร อ่านหนังสือให้เด็กตาบอดฟัง พาคนแก่ข้ามถนน ลุกให้คนท้องนั่งบนรถเมล์ แล้วสุดท้ายมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ สุดท้ายเราก็หนีชะตากรรมไม่พ้นหรอก”
ตี๋ใหญ่ขยับตัวบังยุทธ
“ถ้าคิดงั้น สุดท้ายเราก็ต้องตาย ทำไมไม่เลิกหายใจไปซะตอนนี้เลยล่ะ”
“ทำให้เต็มที่ ในสิ่งที่เราเป็น ผมกับพี่เรามันต่างกัน ผมรักในสิ่งที่ผมทำ ผมอยู่กับชะตากรรมของผมอย่างมีความสุข คำตอบของความสุขก็คือ คืออะไรน้า ก็เงินไง ถูกต้องครับผม เงินอยู่ไหน”
แฟรงค์กี้เอาหลังมือสะบัดตีท้องตี๋ใหญ่ โดนแผลเขาที่เพิ่งเย็บ ตี๋ใหญ่เจ็บจนตัวงุ้มกัดฟัน แฟรงค์กี้เลิกเสื้อตี๋ใหญ่ เห็นแผลที่เย็บเรียบร้อย เปิดผ้าที่คลุมยุทธ เห็นแผลที่พุงทำเเล้ว แฟรงค์กี้กระชากผ้าทำแผลออก ตี๋ใหญ่สะดุ้งเจ็บ แฟรงค์กี้ชักปืนออกมา
“เอ้า มีตัวละครเพิ่มมาก็ไม่แนะนำกันบ้าง อยู่ไหนเอ่ย”
ฟ้าสะดุ้งปิดปาก
“ใคร”
“คนที่เย็บแผลดิ อย่าบอกนะ ว่าเย็บเอง”
“ปล่อยกลับไปแล้ว”
“ปล่อยไปได้ไง มันก็รู้เรื่องหมดดิ”
“ก็รีบออกไปจากที่นี่”
“ทำอะไร รู้จักคิดมั่งมั้ยเนี่ย”
แฟรงค์กี้เข้ามากระทืบยุทธ ตี๋ใหญ่เข้ามาห้าม แฟรงค์กี้กระหน่ำต่อยท้องตรงแผล เขาทรุดเซไปโดนจุดที่ฟ้าซ่อนอยู่ ฟ้าปิดปากตัวเองแน่น แฟรงค์กี้เดินมาดึงปืนไปจากเอวตี๋ใหญ่ ตะโกนลั่น
“เงินอยู่ไหน”
ตี๋ใหญ่เจ็บ ฟ้าแอบมองอยู่ในตู้ เผลอทำเสียงดังก่อกแก่ก แฟรงค์กี้หันมองไปทางตู้ทันที ตี๋ใหญ่เจ็บ ไม่มีแรง
“เงินอยู่ที่รถ”
“รถอยู่ที่ไหน”
“ก็ตามมาสิ”
แฟรงค์กี้เดินไปยังตู้ชะงัก
“ก็แค่นั้น”
แฟรงค์กี้ทำท่าจะเดินเลยไป แต่ถีบตู้ล้ม ฟ้าร้องออกมา
“แฟรงค์กี้ บอกให้ไป”
“อย่ามาต่อรองให้มาก เดี๋ยวโดนจนได้ เราอ่ะ”
แฟรงค์กี้ข่มๆ ตี๋ใหญ่ ที่บาดเจ็บ แล้วเอามือทาบประตูตู้ ฟ้าปิดปากตัวสั่นหลับตา แฟรงค์กี้หันมองตี๋ใหญ่ เอาปืนส่องไปทางตู้ ตี๋ใหญ่ร้องห้าม
“อย่า”
แฟรงค์กี้จะยิง ฟ้าปิดปากตัวเองแน่น
“เอารึยัง เอารึยัง เอาล่ะนะ”
แฟรงค์กี้จะยิง ฟ้าผลักตู้ออกมาก้มหน้า ปิดตา
“อย่ายิง อย่ายิง”
แฟรงค์กี้หันมาบ่นกับตี๋ใหญ่
“ขี้โกหกนะเรา”
“ไปเอาเงินกันแล้วก็จบ”
“อย่ามาโลกสวยน่ะพี่ตี๋”
ฟ้าปิดตา “หนูไม่เห็นหน้าใครเลยจริงๆ นะ”
“สอนมาดีนะเนี่ย เอามือออก”
“อย่ามอง” ตี๋ใหญ่ร้องบอก
“เงยหน้าขึ้น”
ฟ้าหลับตาส่ายหน้า
“เงยหน้าขึ้น”
“ไปกันเหอะ แฟรงค์กี้”
“เงยหน้าขึ้น”
แฟรงค์กี้เอาปืนจ่อ ฟ้าจำใจเงยหน้า แต่ยังหลับตาอยู่
“พี่ หนูต้องเลี้ยงแม่ เลี้ยงน้อง”
“ลืมตา”
“ต่างคนต่างไปเหอะพี่”
“บอกให้ลืมตา”
ฟ้าจำใจลืมตาด้วยความกลัว แฟรงค์กี้หันมายิ้มกับตี๋ใหญ่
“เห็นหน้าเค้าเเล้วอ่ะ”
แฟรงค์กี้หันมา คาดว่าจะยิงฟ้าทิ้งแน่ๆ ตี๋ใหญ่ตัดสินใจพุ่งเข้าหาแฟรงค์กี้ ทั้งที่มือเปล่า แฟรงค์กี้ปืนกระเด็น เเต่ตัวเขาเป็นต่อตี๋ใหญ่ ตี๋ใหญ่กอด แฟรงค์กี้หัวเราะร่วน ต่อยแผลตี๋ใหญ่
“หนีไป หนีไป”
ตี๋ใหญ่ตะโกนลั่น แฟรงค์กี้จะเอื้อมมือหยิบปืน ฟ้าสองจิตสองใจไม่รู้จะทำอย่างไร เธอวิ่งหนีไปทางประตูที่เปิดอยู่ แฟรงค์กี้คว้าปืนได้ แต่ฟ้าวิ่งออกไปแล้ว แฟรงค์กี้ลุกขึ้นกระทืบตี๋ใหญ่
“ไง เก่งนักเหรอ ลูกพี่นักเหรอ ชอบออกคำสั่งนักใช่มั้ย”
แฟรงค์กี้เตะๆ กระทืบแผล ตี๋ใหญ่หมดทางสู้ แฟรงค์กี้ยืนหอบอยู่กลางคลินิค คิดว่าจะทำอย่างไรดี
“ฮ้าๆๆ ฮ่ะๆๆ”

พยาบาลฉีดยาเข้าที่ขวดน้ำเกลือ ไซเรนนั่งเหม่อ พยาบาลเดินมาคุยกับเนส
“ให้ยาแล้วเดี๋ยวสักพักคงหลับ”
“ขอบคุณ่”
“อยู่คนเดียวได้นะ”
ไซเรนพยักหน้า
“เรากลับก่อนนะ”
ไซเรนพยักหน้า
“พรุ่งนี้รีบนี้มาหา”
ไซเรนพยักหน้า เนสเหมือนจะเดินออกไป แต่เห็นไซเรนยังเหม่ออยู่
“หิวมั้ย กินรองท้องหน่อยนะ เดี๋ยวเราออกไปซื้อมาให้”
ไซเรนมองเนส เหมือนไม่ได้ยินว่าเนสถามอะไร เนสยกชามอาหารมาให้เพื่อนที่ลืมตาโพลงอยู่ที่เก้าอี้
“โจ๊กนี่ ถ้าพ่อเข้าเวรดึก ชอบซื้อมาฝากเราตอนเช้า”
“อือ”
“เมื่อเย็นเราพึ่งไปฉลองกะ พ่อ แม่ แล้วก็น้องมานะ เราสอบติดตำรวจ”
“กินหน่อยนะ”
“แม่ชอบใส่ไข่ให้เรา บอกต้องบำรุง กลัวเราทดสอบร่างกายไม่ผ่าน”
เนสมองไซเรนพยายามฝืนยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความสงสาร
“น้องเราก็จะวิ่งตามมาประชด หาว่าพ่อ แม่ รักเรามากกว่า”
เนสลงนั่งข้างๆ กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
“เกิดอะไรขึ้นอ่ะ มันจริงหรอ ไม่อ่ะ นี่มันฝันอ่ะ ตอนนี้ ฝันอยู่”
“นอนนะ มา เดี๋ยวตื่นมาก็ดีขึ้น”
เนสดึงไซเรนมาพิงเธอ เเล้วก็ลูบหัวไซเรนเบาๆ ไซเรนหลับตาลง
“ตื่นมา ทุกอย่างจะเหมือนเดิมใช่มั้ย”
เนสไม่ตอบ ได้แต่ถอนใจเบาๆ

บัญชานั่งกินข้าวที่อยู่ร้านข้างโรงพยาบาล จ่าแดงเดินมานั่ง
“กินข้าวก่อนพี่แดง เป็นไงบ้าง”
ยังไม่ทันที่จะตอบก็มีเสียงเอะอะขึ้น มีวัยรุ่นกลุ่มเล็กเฮวิ่งไล่ฟันกันผ่านโต๊ะไปมา โดยผลัดกันไล่กันไปมาแบบกล้าๆ กลัวๆ ผ่านหน้าจ่าแดง และบัญชาไปๆ มาๆ ทั้งสองมองตามเซ็งๆ กำลังจะลุกขึ้น ร้อยเอกหญิงน้ำผึ้งก็เข้ามาพอดี น้ำผึ้งจับตัวหัวโจกทั้งสองฝั่งที่มีมีดดาบได้ เธอสับกุญแจมืออย่างคล่องแคล่ว เพื่อนพยายามมาช่วย ก็ถูกน้ำผึ้งซัดวิ่งหนีไป จ่าแดงใช้ความเก๋าช่วยน้ำผึ้งด้วย น้ำผึ้งจับสองหัวโจกคล้องกุญแจติดกับโครงเหล็กของร้าน
“จะฟันกันเนี่ยเรื่องอะไร”
น้ำผึ้งทำความเคารพบัญชา
“ขออนุญาตสักครู่ค่ะ”
“ก็เห็นแม่งเดินตามมาตั้งแต่หัวซอยละ ผมจำหน้ามันได้ วันก่อนก็เจอตรงป้ายรถเมล์ แม่งมองหน้าผม”
“ก็กูอยู่ซอยนี้”
“กูเด็กซอยนี้ รู้จักหมดอ่ะบ้านใครหลังไหน”
น้ำผึ้งตบปากทั้งสองอย่างรวดเร็ว
“ต่อหน้าผู้ใหญ่พูดเพราะๆ หน่อย”
“กู ผมก็อยู่ท้ายซอยเนี่ย ข้างร้านแก๊สของพี่สาวกูท้ายซอย”
“อ้าว แม่กูสนิทกับพี่แก้วร้านแก็ส นั่นพี่สาวมึงดิ”
น้ำผึ้งส่งมีดให้ทั้งสองรับไป ทั้งสองหน้าแหยๆ
“เอาไง จะเล่นกันต่อมั้ย เมื่อกี้ยังไม่จบไม่ใช่เหรอ”
“จบแล้วครับพี่ จบแล้ว”
ทั้งสองวางมีดลง
“อยู่ตรงนี้แหละ จะได้รู้จักกันมากขึ้นนะ”
น้ำผึ้งหันไปสั่งข้าว บัญชายิ้ม
“อ่ะ เจอกันแล้วนี่ จ่าแดง น้ำผึ้ง น้ำผึ้ง จ่าแดง”
“สวัสดีค่ะ”
จ่าแดงมองบัญชา ตะเบ๊ะกับน้ำผึ้งเพราะยศต่ำกว่า
“เจ้านาย อย่าบอกนะ ว่า”
บัญชาพยักหน้า “หนังโรแมนติคหลายเรื่องก็เริ่มแบบนี้แหละ เป็นคู่หูต่างวัย เถียงกันมั่ง สุดท้ายก็”
บัญชายิ้ม
“ผมก็เลือกนะ” จ่าแดงบอก
“ยังไม่เกษียนอีกเหรอคะลุง”
บัญชาเริ่มจริงจัง ดูรูปที่เกิดเหตุจากไอแพด
“จ่าแดงได้อะไรบ้างมั้ย”
“เด็กยังไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร คงต้องลองพรุ่งนี้อีกทีครับ”
“ซวย อยู่ผิดที่ผิดเวลา”
น้ำผึ้งออกความเห็นกับภาพไซเรน




ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 2 (ต่อ)
แฟรงค์กี้ยังคงนอนหลับอยู่ที่คลินิก ข้างๆ มีอุปกรณ์เสพยาเต็มไปหมด ตี๋ใหญ่รู้สึกตัว แผลชุ่มเลือด ยุทธยังคงสลบอยู่ ตี๋ใหญ่ถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ เช่นเดียวกับยุทธ ตี๋ใหญ่พยายามดิ้นรน เพื่อที่จะให้หลุดจากการถูกมัดกองอยู่กับพื้น ยุทธหน้าซีดมากเพราะเสียเลือด


ไซเรนนอนนิ่งอยู่บนเตียง เขาลืมตาตื่นขึ้น มองรอบๆ เงียบกริบ
“แม่ พ่อ”
ไซเรนหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเบอร์ หน้าจอขึ้นว่าพ่อ เขานิ่งฟังสัญญาณ
“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก กรุณาฝากข้อความไว้หลังจากได้ยินเสียงสัญญาณนี้”
ไซเรนล้มตัวลงอย่างหมดแรง

กลางคืน ตี๋ใหญ่บิดข้อมือจนเลือดไหล เชือกเส้นใหญ่ ไม่มีทีท่าว่าจะขาดลงเลย เขามองแฟรงค์กี้ที่บิดตัวเหมือนจะตื่น แต่ก็หลับลงไปอีก ตี๋ใหญ่มองไปทางยุทธ เหมือนเห็นโทรศัพท์มือถือตุงอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังยุทธ เขาพยายามเอื้อมมือไป แต่สุดเอื้อม ระหว่างตี๋ใหญ่พยายามอยู่ เขาก็มองแฟรงค์กี้ไปด้วย กลัวว่าแฟรงค์กี้จะตื่นขึ้นมา
ตี๋ใหญ่เขี่ยๆ เกือบถึงโทรศัพท์อยู่แล้ว โทรศัพท์ปิดอยู่ เกือบหลุดออกมาแล้ว แต่ยุทธเกิดบิดตัวเปลี่ยนท่านอนด้วยความเจ็บปวด ตี๋ใหญ่หมดแรง
จ่าแดงยังคุยกับบัญชาและน้ำผึ้งอยู่ที่ร้านอาหาร
“เหตุการณ์มันสับสนมากเลย พยานในที่เกิดเหตุก็ไม่มี กล้องวงจรปิดก็อยู่ในมุมอับ”
“มันหักหลังกันเอง แล้วอีกคนเชิดเงินไปทั้งหมดสินะ” น้ำผึ้งสรุป
“ลืมไปแล้วเหรอว่ามีร่องรอยยาเสพติดอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย”
“ปล้นเงิน แต่ได้ยาเสพติดแถมไปด้วยอะไรงี้” น้ำผึ้งถาม
“หรือตั้งใจปล้นยา แต่ได้เงินเป็นของแถม” บัญชาตั้งข้อสังเกต
“บริษัทอะไรจะรับจ้างคุ้มครองยาเสพติด อาจเป็นยาของไอ้พวกที่มาปล้นก็ได้นะครับ”
“หรืออาจจะมีอะไรเชื่อมโยงระหว่างยาเสพติดกับบริษัทนั้น หรืออาจจะไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ลูกน้องอาจแอบทำก็ได้ แต่ที่สำคัญที่สุด เจ้าของบริษัท คือ พลตำรวจตรีอัศวิน”
“ตอ”

อัศวินกำลังดูภาพข่าว ที่นำเสนอรถขนเงินที่ถูกปล้นอยู่ในที่เกิดเหตุไปพร้อมๆ กับหั่นผักทำสลัดให้ลูกกิน จักรส่งผักให้เป็นระยะๆ บรรยากาศภายในบ้านแทบจะไม่รู้ว่าเป็นบ้านตำรวจใหญ่ มีเพียงภาพที่ฝาผนังภายในห้อง เป็นภาพอัศวินขนาดใหญ่ ในชุดนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรระดับพลตรีเท่านั้นที่เป็นเครื่องยืนยัน
อัศวินดูภาพข่าวจากโทรทัศน์ รายงานเหตุที่เกิดขึ้น ด้วยใบหน้าเรียบเฉย คุยกับจักรสบายๆ หั่นผักไปด้วย
“จักร คุณช่วยไปดูแลญาติของเจ้าหน้าที่เราที่เสียชีวิต อย่าให้ขาดตกบกพร่อง ดูแลงานศพให้เรียบร้อย ไปให้ครบทุกคืน แล้วก็ตามเรื่องของที่ถูกปล้นกับประกันที่บริษัททำไว้ด้วย”
“เมื่อกี้มีข่าวมาโทรขอสัมภาษณ์ท่าน ผมปฏิเสธไปแล้วครับ”
“อืม เอาไว้จัดแถลงข่าวทีเดียวเลย นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว”
“สามครับ เมียกับลูกพี่ยุทธ โดนลูกหลงด้วยครับ เมียเสียแล้ว ลูกสาวโคม่า ลูกชายเจ็บนิดหน่อย พี่ยุทธหายไป”
“พรุ่งนี้ผมไปเยี่ยมลูกยุทธเอง ตามเรื่องยุทธให้ด้วยนะ ช่วยส่งน้ำสลัดให้หน่อย”
“ปกติท่านไม่ทานสลัดไม่ใช่เหรอครับ”
“ช่วงนี้มิลค์ก็เอาแต่ห่วงเรื่องหุ่น เรื่องสวย เลยทำให้เขาหน่อย”
มิลค์เข้ามาพอดี จักรออกไป อัศวินยิ้มให้ลูกสาว
“ให้ทาย หนูมีอะไรเปลี่ยน”
“อะไรเหรอลูก พ่อทายไม่ถูกหรอกลูก รู้แต่ว่าลูกพ่อสวยขึ้นทุกวัน”
“คุณพ่ออ่ะ คุณพ่อว่าหนู ผอมลงหรือยังคะ”
“ลูกไม่เคยอ้วนเลยนะ มาทานสลัดกัน พ่อเห็นหนูกังวลเรื่องผอมอะไรเนี่ย ไม่เข้าท่าเลยนะลูก ผอมไปก็ไม่สวยนะ”
“แต่นี่ มันนางแบบชัดๆ เลยนะคะ”
อัศวินมองลูกสาวอย่างเป็นห่วง ทั้งสองกินสลัดด้วยกัน
”ไม่ได้ใช้ยาลดนะลูก”
“ออกกำลังกายค่ะ”
“อย่าหักโหมนักล่ะ”
“หนูพูดอะไรก็ไม่เชื่อเลย ระวังดังแล้วอย่ามาขอลายเซ็นนะ ขึ้นปกแม็กกาซีนเมื่อไหร่เหอะ”
“เอ้าๆ ทานได้แล้ว”

แฟรงค์กี้คุ้ยอาหารจากตู้เย็นของคลินิคนั่งกินอยู่ โดยมีตี๋ใหญ่นั่งมอง ส่วนยุทธรู้สึกตัวมากขึ้น
“ตกลงตอนนี้รถอยู่ไหน”
“ปล่อยเขาไป แล้วเราก็ไปที่รถกัน จบ”
“ก็พี่เป็นโจรโลกสวยเองนี่ พาคนที่เราไปปล้นไปยิงมารักษา ดวงพี่นี่ได้ขึ้นสวรรค์แน่พี่ ถามหน่อยดิ รู้อยู่แล้วปะ ว่าในรถนั่น มียาด้วยอ่ะ”
แฟรงค์กี้ลุกมาดึงตี๋ใหญ่เข้าไปใกล้ยุทธโดยไม่เจตนา ตี๋ใหญ่นิ่ง ไม่ตอบ
“แหงเลย กะฮุบไว้คนเดียว ร้ายนะเรา อุตส่าห์ไว้ใจ”
“เอาไปแต่เงินก็พอเเล้ว”
“พูดเป็นเล่น”
แฟรงค์กี้ตบหัวตี๋ใหญ่เบาๆ แบบสิ้นนับถือ
“ยาแพงกว่าเงินอีก”
ตี๋ใหญ่แอบเอื้อมมือที่ถูกมัด พยายามไปกดโทรศัพท์ให้เปิดเครื่อง
“จะหักกันใช่มั้ย”
“ให้ทาย”
แฟรงค์กี้นิ่ง ยิ้ม หยามตี๋ใหญ่ ตี๋ใหญ่พยายามถ่วงเวลา แอบเอื้อมมือเปะปะกดโทรศัพท์ในกระเป๋ายุทธจนได้
“หมดแล้ว ไม่มีแล้วตี๋ใหญ่ ไม่เหลือแล้วมาดชายกลาง ฮ่ะๆๆ มากินข้าวด้วยกันมา เดี๋ยวจะได้กินยาหลังอาหาร”
แฟรงค์กี้ลากตี๋ใหญ่ออกมาห่างยุทธ ลุกขึ้นไปกินอาหารต่อ โยนกระดูกที่เคี้ยวแล้วมาทางตี๋ใหญ่
“ไม่เอาน่า ผิดอยู่ที่ตัวบาป ไม่ใช่คนทำบาป นี่เขาตกเป็นเหยื่ออยู่นะเนี่ย”
แฟรงค์กี้ชี้ตัวเอง แล้วก็หัวเราะ

ไซเรนนั่งนิ่งมองน้องอยู่ในห้องไอซียู. อยากให้น้องตื่นขึ้นมา เขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขายกดูที่หน้าจอโทรศัพท์ แจ้งเตือนว่าเลขหมายของพ่อสามารถติดต่อได้แล้ว ไซเรนร้อนรน เขากดปุ่มโทรกลับไปทันที

แฟรงค์กี้กดปุ่มโทรศัพท์มือถือ เพลงดังออกมาจากหูฟังของเขาดังอู้อี้ เขาตะโกนคุยกับตี๋ใหญ่
“กินยาหลังอาหาร ออกฤทธิ์ได้ดี มันต้องฟังเพลงตื๊ดๆ ไม่เคยลองอ่ะดิ”
แฟรงค์กี้อัพยาไปด้วย ฟังเพลงดังลั่นออกมานอกหูฟัง เสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากกระเป๋ากางเกงยุทธ แฟรงค์กี้ไม่ได้ยิน แต่ตี๋ใหญ่ได้ยิน แฟรงค์กี้ตะโกนคุยกับตี๋ใหญ่ แข่งกับเสียงเพลงโทรศัพท์
“เสียแรงนะ อุตส่าห์เก็บมาเลี้ยงให้เป็นลูกพี่ ไอ้เราก็หวังจะฝากผีฝากไข้ ใช้ไม่ได้ อยู่ไป เลี้ยงก็เสียข้าวสุก”
แฟรงค์กี้ลากตี๋ใหญ่ออกห่างยุทธ ตี๋ใหญ่ขัดขืนก็ถูกต่อยทำให้แผลฉ่ำเลือด ตี๋ใหญ่ได้ยินเสียงโทรศัพท์กลัวแฟรงค์กี้ได้ยิน แฟรงค์กี้เมาๆ เอาเชือกเส้นใหญ่คล้องคอตี๋ใหญ่ ตะโกนเเข่งกับเสียงเพลงในหูฟังไปด้วย
ไซเรนพยายามติดต่อพ่อ แต่ไม่มีใครกดรับตอบกลับมา เขาวางโทรศัพท์ในที่สุด กดเช็คดูว่าโทรศัพท์เครื่องของพ่ออยู่ที่ไหน ไซเรนครุ่นคิดมองน้องสาว ตัดสินใจ
“พี่จะไปพาพ่อกลับมาให้เรานะ”
ไซเรนกระชากชุดคนไข้และสายน้ำเกลือออก เขาไปที่จุดที่บอกในโทรศัพท์ เเล้วก็มองรอบๆ ยังไม่รู้ว่าตำแหน่งที่แน่นอนอยู่ตรงไหน ไซเรนจ้ำๆ สุ่มๆ เดินตรงไปยังโกดัง

แฟรงค์กี้เตะบันไดเล็กๆ ที่เอาไว้ก้าวขึ้นเตียงผ่าตัด ทำให้ทั้งคู่สะดุ้ง ตี๋ใหญ่และยุทธถูกแขวนอยู่ด้วยเชือกเส้นเดียวกันที่โคมไฟผ่าตัด แฟรงค์กี้ดึงเชือกขึ้นจนทั้งคู่ต้องเขย่งจึงจะพอหายใจได้ แฟรงค์กี้ดูยูทูปเกี่ยวกับสารคดีงูพิษที่กัดคน ยิ้มๆ เข้ามาปลุกตี๋ใหญ่ให้ดู
“ดูๆ นี่ไง งูพิษกัดคนตาย เห็นมั้ย ผิดอยู่ที่พิษ ไม่ได้อยู่ที่งู พิษต่างหากที่ทำให้คนตาย ไม่ใช่งู เค้าเป็นงูผู้บริสุทธิ์ เห็นเปล่า”
ตี๋ใหญ่ถูกดึงขึ้นแขวนคออยู่ขื่อเดียวกับยุทธ ที่เริ่มรู้สึกตัวเเล้ว
“ตื่นๆๆ เฮ้ย บอกให้ตื่น”
แฟรงค์กี้ขยำพุงยุทธจนแผลแตกเลือดเปื้อนมือเขา ยุทธเจ็บจนอ้าปากร้อง
“เลิกบ้าทีเหอะ จะเอาอะไรกันแน่” ตี๋ใหญ่ตะโกน
แฟรงค์กี้เอามือที่ชุ่มเลือดยุทธป้ายหน้าตี๋ใหญ่
“เงินอยู่ไหน แบะๆๆๆ”
แฟรงค์กี้ทำล้อเลียน ตี๋ใหญ่พยายามบิดหน้าหลบมือแฟรงค์กี้ จนหน้าเขาเปื้อนเลือดเต็มไปหมด
“ก็พาออกไปดิ เดี๋ยวจะพาไปที่รถ”
“นี่ยังนึกว่าพูดเล่นอีกเหรอเนี่ย หา ดูสภาพตัวเองมั่งมั้ย เงินอยู่ไหน”
ตี๋ใหญ่ถูกแขวนคอโยงขื่อเดียวกันกับยุทธ หลังชนกัน ยุทธถูกมัดมือไขว้หลัง ส่วนตี๋ใหญ่ ถูกมัดมือไพล่ไว้หลังท้ายทอยตัวเอง ยุทธอิดโรย
“ปล่อยผมไปเหอะ ผมไม่ทำอีกแล้ว”
“เห็นมั้ย โทษของยาเสพติดมันเป็นยังไง”
แฟรงค์กี้สอนยุทธ กวนประสาทตี๋ใหญ่ ตี๋ใหญ่มองหน้าแฟรงค์กี้ จ้องตาไม่กระพริบ แฟรงค์กี้ยืนอยู่บนโต๊ะ สบตาตี๋ใหญ่แบบไม่กลัวศักดิ์ศรี
“มองๆๆ มอง ไม่เอาดิ อย่ามอง เขาอาย”
แฟรงค์กี้ยิ้มเย้า เอาผ้ามัดตาตี๋ใหญ่เอาไว้ไม่ให้เห็นเขา
“จ๊ะเอ๋ กลัวมั้ยอ่ะ ความมืด”
ตี๋ใหญ่สะบัดหน้าอย่างไรผ้าปิดตาก็ไม่หลุด
“ฮั่นแน่ๆๆๆ เดี๋ยวมา ยาหมด อย่าดิ้นนะ อย่าตายก่อนพี่กลับมาดูล่ะ”
แฟรงค์กี้เดินออกจากคลินิกไป ยุทธง่อนแง่น กลัวๆ ยืนลำบาก
“ผมมีลูก ช่วยด้วย อย่าฆ่าผมเลยนะ”
“ใจเย็นๆ อย่าดิ้น อย่าดิ้น”
ทั้งยุทธและตี๋ใหญ่ยืนเขย่งอยู่บนกระดานแผ่นคู่ที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้อย่างหมิ่นเหม่ ตี๋ใหญ่ พยายามเอามือที่ถูกมัดไผล่อยู่ตรงท้ายทอยตัวเอง แกะปมเชือกที่คอยุทธ แต่ดูไม่มีวี่แววว่าจะหลุดออกได้เลย มีเสียงก๊อกแก๊กที่ประตูหลัง
“สงสัยจะมีคนป่วยมาหาหมอ”
แฟรงค์กี้หยิบเสื้อหมอมาใส่
“หมอขอตัวไปดูคนไข้สักครู่นะครับ”
แฟรงค์กี้ปลดล็อกประตู ไซเรนเปิดเดินเข้ามาภายในคลินิก เขาระวังตัว แต่ก็ไม่ทัน แฟรงค์กี้โผล่มาจากด้านหลัง ล็อคไซเรนเอาไว้ ไซเรนพยายามต่อสู้ แต่เป็นเหมือนมวยคนละรุ่น แฟรงค์กี้ต่อยไซเรนจนจุกลงไปนอนกองกับพื้น
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
แฟรงค์กี้เอามือปิดปาก
”ใช้อะไรคิด มีศักดิ์ศรีหน่อย”
ไซเรนพยายามแกะมือออก ตะโกน
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
แฟรงค์กี้ต่อยไซเรนจนจุก ร้องไม่ออก ทั้งหน้า ทั้งท้อง ทั้งคอ แล้วแฟรงค์กี้ก็เอาผ้ามัดปากไซเรนอย่างเเน่นหนา
“เสียงดีเหลือเกินนะมึง”




ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร ตอนที่ 2 (ต่อ)
จ่าแดงเดินจิบกาแฟเข้ามาในโรงพยาบาลกับน้ำผึ้ง เดินมาตามทางมองเลขที่ห้องไปด้วย หาห้องไซเรน

“เมื่อวานไอ้เด็กคนนี้ มันไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลยเหรอ”
“เป็นใครมันก็ช็อค”
น้ำผึ้งจะเคาะประตูห้องไซเรน ปรากฏว่าประตูเปิดอยู่ไม่ได้ล็อค สองคนมองหน้ากัน ผลักประตูเดินเข้าไปข้างใน เห็นชุดสายน้ำเกลือกองอยู่
“จับไปเลย แจ้งข้อหาไม่ให้ความร่วมมือ”
“อย่าทำตัวเป็นนักเลงในคราบตำรวจ”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบมา จ่าแดง น้ำผึ้งขะเง้อมองไปยังห้องต่างๆ
“ไม่อยู่ เดี๋ยวไม่สนใจเลย คดีนี้”
“เจ้าอารมณ์นะเรา”
“ก็มันจริงนี่ ตามรายงานไอ้เด็กนี่มันไม่บอกอะไรเลย เอาแค่โทรศัพท์พ่อมันใช้กี่เครื่อง กี่เบอร์ ยังบอกไม่รู้”
“ให้เวลาเขาหน่อยน่ะ ยังเป็นเด็กอยู่ พ่อก็มาตายต่อหน้าต่อตานะ”
“แบบนี้มันหนีไปแล้วแน่”
“หรือมีคนมาพาไป”
จ่าแดงกับน้ำผึ้งมองหน้ากัน ใช้ความคิด
“ใครจะมาทำงั้นทำไม พ่อเป็นตำรวจ รับจ็อบนอก ก็ไม่มีไรซับซ้อนนี่”
“ย้ำหนที่ร้อย มียาเสพติดมาเกี่ยวด้วย อย่าลืม”
น้ำผึ้งชักคล้อยตามจ่าแดง

ไซเรนโดนแฟรงค์กี้ลากเข้ามา เขาไม่มีแรงที่จะต่อสู้ ตี๋ใหญ่ถูกมัดตาอยู่ ไม่เห็นว่าแฟรงค์กี้ลากไซเรนมา
“เอ้า ยังไม่มีใครตกอีกเหรอ ว้า งั้นขอยากอีกหน่อยนะ”
ตี๋ใหญ่พยายามแกะเชือกที่คอยุทธให้จากทางด้านหลัง แต่ไม่สามารถ เพราะยุทธดิ้นอย่างหนัก ถีบตี๋ใหญ่ จนตี๋ใหญ่ขาลอยเคว้างคว้าง เขาพยายามแกะโดยให้ยุทธยืน ไซเรนนอนแหงนมองดูพ่อ เขาพยายามเรียกแต่ถูกมัดปากอยู่ แฟรงค์กี้กระทืบจนไซเรนจุก
“ชู่ว์ เอาไงดี ลูกพี่ ชีวิตใครสำคัญกว่ากัน”
ตี๋ใหญ่จะขาดใจอยู่แล้ว เขาจำใจต้องเบียดกระแทกให้ยุทธหลุดออกไปจากแท่นที่เขย่งเหยียบ ไซเรนมองพ่อที่ขาลอยเคว้ง ตะกุยอากาศ หลังกระแทกตี๋ใหญ่ แต่ตี๋ใหญ่ไม่สามารถช่วยอะไรยุทธได้
“เอ้า ไหน คนดี ทำไมแย่งที่ยืนคนอื่นล่ะ เสียสละหน่อยมั้ย”
ไซเรนพยายามจะร้องให้ตี๋ใหญ่ช่วยพ่อเขา แต่ไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมา ไซเรนมองดูขาพ่อที่ตะกุยอากาศช้าลงเรื่อยๆ ตี๋ใหญ่ข่มใจกัดกรามนิ่ง เขาทำอะไรไม่ได้ แฟรงค์กี้สูดยาเสพติด แล้วปล่อยเชือก ร่างของยุทธกับตี๋ใหญ่กองลงกับพื้น ตี๋ใหญ่ยังคงถูกมัดอยู่ แฟรงค์กี้อังจมูกยุทธ
“ขาดใจแล้ว ใจร้ายมากเลยนะเรา”
แฟรงค์กี้จับหน้าตี๋ใหญ่ ยกให้ไซเรนเห็น
“สนุกพอยัง”
ตี๋ใหญ่คำราม
“ยัง ยังมีทีเด็ดกว่านั้นอีก แท่นแท้น”
แฟรงค์กี้ดึงผ้าปิดตาตี๋ใหญ่ออก ตี๋ใหญ่เห็นไซเรนนอนตะแคงอยู่กับพื้นน้ำตานอง มีผ้ามัดปากมองเขาอยู่ ตี๋ใหญ่อึ้ง พูดอะไรไม่ออก แฟรงค์กี้ชักปืนออกมาสองกระบอกชี้ไปทางตี๋ใหญ่กับไซเรน
“ปัง ปัง ใครก่อนดี”
แฟรงค์กี้เดินกลับมาทางไซเรน เขาวางปืนเอาไว้หนึ่งกระบอก ใช้มือข้างที่ว่างยกไซเรนขึ้นยืนกระซิบด้านหลังหูไซเรน
“มองดิ คนมันเห็นแก่ตัว มันเอาตัวรอด ทำพ่อตายเลย”
ไซเรนดิ้นรน มองหน้าตี๋ใหญ่ด้วยความแค้น ตี๋ใหญ่อยากอธิบายแก้ตัว แต่พูดไม่ออก
“อยากทำอะไร ยิง เชือด ปาดคอ แล่เนื้อ”
ไซเรนอัดอั้นส่งเสียงในลำคอ แหงนหน้ากระแทกดั้งจมูกแฟรงค์กี้ กอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับแฟรงค์กี้ ไปเตะโดนปืนกลิ้งไปทางตี๋ใหญ่ ตี๋ใหญ่เอาเท้าเขี่ยปืนได้ ถือไว้กับมือที่ถูกล็อคอยู่ด้านหลังท้ายทอย แฟรงค์กี้ซัดไซเรนจนหมดแรงไปอีก
“ฤทธิ์มากนะ โน่น ไอ้โน่น ที่ฆ่าพ่อทั้งเป็น โกรธผิดคนเเล้ว”
ตี๋ใหญ่พูดกับไซเรน
“มันเป็นกติกา”
ไซเรนน้ำตานอง กัดฟัน ฟึดฟัด ส่งเสียงตะโกนในลำคอเพราะโดนมัดปาก
“เห็นมั้ย พี่เขายังบอกเลย ว่ามันเป็นกติกา คนเเข็งแรงกว่าที่ควรจะอยู่รอด ใช่มั้ย”
ไซเรนหายใจหอบขัด
“มีอะไรจะต่อว่ามั้ย”
แฟรงค์กี้ดึงผ้าที่มัดปากไซเรนอยู่
“ไม่ยุติธรรมเลย ไม่ยุติธรรม พวกมึงมันขี้โกง”
“อ่ะ ลูกพี่ น้องเขาว่าพี่ขี้โกง พี่จะแก้ตัวว่าไง”
ตี๋ใหญ่ขยับ จงใจให้ไซเรนเห็นว่าเขาถือปืนอยู่ด้านหลัง ขณะที่แฟรงค์กี้ก้มลงไปอัพยา แฟรงค์กี้มองที่โต๊ะล้ม มองพื้นหาปืน
“ไปไหนกระบอกหนึ่งวะ”
“ถึงจะโกง ก็โกงในกติกา มันผิดอยู่ที่ลูกปืน ไม่ใช่ที่ปืน จำได้มั้ย” ตี๋ใหญ่บอก
แฟรงค์กี้เอาไซเรนบังตัวเองอยู่ ไม่ทันตั้งตัว ไซเรนก็ล้มตัวพุ่งไปข้างหน้า ตี๋ใหญ่ก้มยิงแฟรงค์กี้ เข้าแก้มตำเเหน่งเดียวกับที่น้องไซเรนโดนยิ่ง แฟรงค์กี้ตาโต กระสุนทะลุแก้มไปเลือดอาบ

เสียงเครื่องวัดหัวใจขึ้นเป็นเส้นตรง น้องไซเรนนอนนิ่งไม่ไหวติง พยาบาลวิ่งเข้ามาดู แล้วก็ตะโกนตามหมอ เสียงเครื่องวัดหัวใจยังส่งเสียงว่าหัวใจหยุดเต้นเเล้วอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เนสถือถุงอาหารเดินมายังห้องของไซเรน แล้วเธอก็พบว่าห้องเปิดอยู่
“ไซเรน ไซเรน”
เนสเข้าไปในห้อง ไม่เห็นใคร เธอหันกลับมา ก็พบว่าหน้าประตู จ่าแดงกับน้ำผึ้งยืนดักอยู่
“น้องเป็นอะไรกับไซเรนคะ”

แฟรงค์กี้ตาค้างล้มตัวลง ไซเรนมองหน้าตี๋ใหญ่ด้วยความแค้น เขาหอบหายใจไม่ออกจะขาดใจตาย พยายามล้วงยาพ่นออกมาแต่หลุดมือเสียก่อน ตี๋ใหญ่เห็นไซเรนอาการเเย่ เขาพยายามแกะเชือกให้ตัวเอง จนมือถลอก เลือดซิบ ไซเรนจะขาดใจตายจากการหายใจไม่ออกอยู่แล้ว ตี๋ใหญ่ยิ่งพยายามถูมือตัวเอง จนไม่สนใจว่าเนื้อหนังจะเป็นเลือดอย่างไร ไซเรนกำลังจะขาดใจตายอยู่ตรงหน้า
ตี๋ใหญ่แกะเชือกให้ตัวเองได้แล้ว เขาวิ่งไปหาไซเรน เอายามาฉีดพ่นให้ทันที ไซเรนปัดมือตี๋ใหญ่ แต่ตี๋ใหญ่ไม่สนใจ เขาเก็บยาพ่นมาพยายามจะพ่นให้ไซเรนให้ได้ ไซเรนกำลังจะขาดใจตาย ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากตี๋ใหญ่ เขากำคอตี๋ใหญ่ อยากบีบแต่ไม่มีแรง
“ถ้าตายตอนนี้ จะไม่มีโอกาสแก้แค้นอีกเลยนะ ดูศพพ่อสิ นั่น ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพื่อแก้แค้นเหรอ”
ไซเรนชิงชัง จ้องตาตี๋ใหญ่ เขาใจจะขาด แต่ก็ต้องยอมรับความช่วยเหลือจากตี๋ใหญ่ เขาพ่นยา เฮือก สูดลมหายใจ นอนหมดแรงแผ่หรา ตี๋ใหญ่ลุกขึ้นยืนมองไซเรน เขี่ยปืนออกให้อยู่ไกลมือไซเรน มองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็จำใจเดินออกไปจากตรงนั้น ไซเรนนอนหมดแรงหายใจหอบรวยริน มองตามตี๋ใหญ่
ทั้งน้ำตา

จ่าแดง น้ำผึ้ง นั่งคุยกับเนสอยู่ที่โรงพยาบาล
“ไหน น้องลองเล่าเรื่องราวของไซเรน ให้พี่ฟังหน่อยซิ”
เนสนิ่งมองหน้าทั้งคู่
“เรื่องของไซเรน จะให้เริ่มต้นตรงไหนดีคะ”

ไซเรนค่อยๆ ลุกขึ้นยืนด้วยแววตาคั่งแค้นชิงชัง เขาโซซัดโซเซตามตี๋ใหญ่ออกไป แต่ไม่เห็นเงาของตี๋ใหญ่แล้ว น้ำตาแห้ง เหลือแต่เเววชิงชัง
ตี๋ใหญ่วิ่งมาหลบที่ข้างรถที่จอดในซอยเปลี่ยว แกะเชือกออกและข่มอารมณ์ที่ประดังเข้ามาทั้งเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวไซเรน แค้นต่อชะตากรรม เขารวบรวมสติปลดเชือกวางไว้ข้างตัว สตาร์ทรถออกไป

อ่านต่อตอนที่ 3




กำลังโหลดความคิดเห็น