หน้ากากนางเอก ตอนที่ 11
ผ่านเวลา จนถึงวันเปิดตัวซูเปอร์คาร์ของปราชญ์ รถเรียงรายในโชว์รูมดูอลังการมาก มีพิตตี้สาวสวย ประจำรถ นักข่าว มาทำข่าวมากมายเต็มไปหมด
มุมหนึ่ง ป้าไก่คุยกับบรรดานักข่าว
“งานวันนี้แซบซี๊ดซ๊าดแน่เลยขอบอก...หึ”
นักข่าวหันมาถาม ป้าไก่แบบงงๆ
“แซบ ยังไงเหรอป้า”
“ก็นี่เป็นครั้งแรกที่ยัยเอี๊ยมซุปตาร์ฆ่าไม่ตายได้มาออกงานเดียวกับคุณวรรษ ไฮโซหนุ่มนักอนุรักษ์ที่มีข่าวว่าคั่วกันอยู่ แต่ชีก็ยังปากแข็งออกมาบอกว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ แล้วไหนจะเรื่องน้องมะม่วงกับเสี่ยเจ้าของไร่ที่บอกว่าไม่มีอะไรไม่มีอะไร แต่ดันมีภาพหลุดออกมาแฉซะได้ หึ หึ หึ วันนี้ยังไงก็ไม่มีทางหนีพ้นเงื้อมมือของป้าไก่คนนี้ไปได้แน่...เราต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย!” ป้าไก่ทำหน้าจริงจัง
“หือ...ป้า...งานนี้คงไม่แซบธรรมดาแล้วล่ะ ต้องบอกว่าแซบที่สุดในสามโลก”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า...ยัง เรื่องแซบๆยังไม่พอ” ป้าไก่บอก
“มีอะไรอีกละป้า”
“ ก็คุณพิมแม่เลี้ยงยัยเอี๊ยมนะซิ เธอเป็นคนส่งข่าวถึงนักข่าวเองว่าวันนี้ยินดีจะตอบคำถามเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับคุณวรรษ”
“จริงเหรอป้า”
“จริงซะยิ่งกว่าจริง รับรองได้เลยว่าวันนี้มันส์ ต้องมันส์แน่ๆ...แม่เลี้ยงเคยเป็นอดีตแฟนของแฟนลูกเลี้ยง ที่ยังดูเหมือนว่าความสัมพันธ์จะยังอึมครึมๆอยู่ด้วย ฉันละอยากจะรู้นักว่าซุปตาร์ฆ่าไม่ตายอย่างยัยเอี๊ยมจะทำหน้ายังไง ถ้าได้ยินเรื่องที่คุณพิมจะออกมาพูดในวันนี้ งานนี้... Wanna be มาก เฮอะ!”
“พวกเราๆ...ไปเร็ว เหล่าเซเล็บ มากันแล้ว”
ป้าไก่หันมองตามตาลุกวาว นักข่าวรีบกรูกันออกไป
ที่ด้านหน้างาน สามสาวเดินเข้ามาในงานอย่างสง่าผ่าเผย ตามด้วยเบอรี่กับเจ๊เต่า นักข่าวกรูกันเข้าไปถ่ายรูป ทั้งหมดยิ้มให้นักข่าวอย่างเป็นกันเอง เบอร์รี่ตื่นเต้น ผสมกับความอยากดัง
3 สาวเดินเข้างานมา พร้อมเจ๊เต่า จากนั้นตามด้วยเบอรฺรี่ นักข่าวอีกส่วนหนึ่งเข้ามายืนถ่ายรูปหน้า backdrop
“ขอถ่ายรูป 3 สาวหน่อย ค่ะ... ทีนี้ขอ ผู้จัดการด้วย คะ”
เจ๊เต่าเดินเข้ามา
เบอร์รี่มอง 3 สาวถ่ายรูปกัน เกิดความรู้สึกอิจฉา ที่ตัวเองไม่ได้ถ่ายรูป
บริเวณมุมทางเข้า พิมพิชชาโผล่เข้ามาในงาน ยิ้มเหมือนตัวเองเป็น ดาราใหญ่
“พิม มาแล้วค่ะ”
นักข่าวหันมอง แต่ไม่สน หันไปถ่าย ดาราสาวทั้ง 3 และเจ๊เต่าต่อ นางยืนเด๋อด๋า เบอร์รี่ที่ยืนอยู่แถวนั้นยิ้มเยาะ นางหันมาเจอสายตาของเบอร์รี่พอดี
“โถ...นางคงอยากเกิด” เบอร์รี่คิดทำหน้าเหยียดๆ
นางแปลกใจเห็นเบอร์รี่ คาดไม่ถึง เดินเข้ามาหา เบอร์รี่พยักหน้าทักทายแบบเชิดๆ อาการน่าตบ
“สวัสดีค่ะ มาดามปลวก ที่มองอย่างนี้... เบอร์รี่สวยมากใช่มั้ยคะ”
นางมองเบอร์รี่ที่อยู่ในชุดเกาะอกสวยงาม ดูหรูหราเกินความเป็นเบอร์รี่ ความริษยาพุ่งปี๊ดขึ้นทันที
นางโกรธมากถามแบบออมเสียง
“แกมางานนี้ได้ยังไง”
เบอร์รี่ยิ้มยั่ว
“มากับพี่เอี๊ยม นะสิค่ะ”
นางตกใจ งง คาดไม่ถึง
“พี่เอี๊ยมเหรอ”
“ค่ะ...พี่เอี๊ยม ซุปตาร์ชื่อดัง”
นางมองเบอร์รี่แบบจะกินเลือดกินเนื้อ สลับกับหันไปมองอรัญภัทร
ทึกคนถ่ายรูปเสร็จ อรัญภัทรนำเดินตรงมาทางพิมพิชชา เมื่อเดินมาใกล้
“ไม่รู้เขาจะขอถ่ายรูป เซเลบ หนังหน้าเหี่ยว คนนี้ หรือเปล่าน๊า ไปเบอร์รี่ ...เข้างานกัน”
“ค่ะพี่เอี๊ยม”
เธอยิ้มเย้ยให้พิมพิชชาอีกครั้งก่อนเดินเข้าไปพร้อมทีม โดยมีเบอร์รี่รั้งท้าย จากนั้น นักข่าววิ่งตามไป ผ่านโดยไม่สนพิมพิชชา
พิมพิชชามองแบบโกรธมาก ก้าวฉับๆเดินตามจะเข้าประตู แต่เบอร์รี่เรียกพิมพิชชา
เบอร์รี่ยั่ว
“เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณนายพิม”
พิมพิชชาเสียงห้วน
“อะไร”
“คุณเข้าไม่ได้นะคะ”
“ทำไมจะเข้าไม่ได้”
เบอร์รี่ไม่ตอบ แต่ทำหน้าน่าตบ ชี้มือไปที่ประตู นางมองตาม งงๆ แล้วสายตาก็เห็นสติ๊กเกอร์ รูปหมา กากบาท แบบห้ามหมาเข้า นางหน้าซีด เบอร์รี่หัวเราะเยาะ
“ป้ายก็บอกอยู่แล้วนี่คะว่า....” เบอร์รี่มองดูนางหัวจรดเท้า... “เข้าไม่ได้”
พูดจบเบอร์รี่ก็เดินนวยนาดเข้าไปในงาน พิมพิชชาแทบกระอักเลือด
“อี...อี...อีเขียว”
นางได้แต่กำมือแน่นเดินฉับๆเข้าไปในงานโดยปราศจากคนสนใจ
ภายในงาน เห็นรถคันหรูเรียงรายอลังการ เจ๊เต่าพาสามสาวเข้าไป ดาริกาและพาทีเห็นเจ๊เต่าก็รีบเข้ามาหายกมือไหว้ปลกๆ
“สวัสดีค่ะเจ๊...ดีใจจริงๆที่เจ๊พาน้องๆมาในวันนี้ได้”
เจ้ตือบอก
“ตอนแรกเต่าเค้าก็จะไม่มาหรอกค่ะ....ต้องบังคับแทบแย่ ใช่ไม๊ เจ๊เต่า”
เจ๊เต่ารับลูกสะตอไป
“ก็ถ้าไม่ใช่เพราะเจ๊ตือ เต่าก็คงไม่พาสาวๆมากันครบทีมขนาดนี้หรอกคะ รีบเริ่มงานกันเถอะคะ จะได้เสร็จๆไป”
เขมปัญฑายิ้มหวานติงเบาๆ “เจ้”
ดาริกาหน้าเจื่อนนิดหน่อย แต่ก็หันมามองเขมปัญฑาแบบปลื้ม
“คุณเขมน่ารักจริงๆ นะคะ มิน่าคุณปราชญ์ถึงได้รีเควสต้องให้คุณเขมมาให้ได้”
เจ้ตือหลุดปากพูด
“นี่....แถมให้เตรียมดอกไม้ช่อเบ้อเริ่มเอาไว้ให้ด้วยนะคะ” นึกได้ ทำท่าปิดปาก “อุ๊บ”
เขมปัญฑาไม่ชอบใจนัก แต่ต้องทำหน้าระรื่นยิ้มไป เก็บอาการ คนอื่นๆมองหน้ากันงงว่า คืออะไ
ด้านหลัง พิมพิชชาตามเข้ามา ได้ยินป้าไก่ชง
“เห็นว่างานนี้ คุณปราชญ์พาเพื่อนสนิทมาด้วย อย่างคุณวรรษ แล้วก็คุณแทน”
อรัญภัทรรู้อยู่แล้วว่า วรรษชลมาจึงทำเป็นปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่เวฬุยานี่สิ คุ้นๆชื่อแทน ในใจคิดว่าแทนไหน
เบอร์รี่ได้ยินชื่อวรรษชล และหนุ่มๆไฮโซตาเป็นประกาย
พิมพิชชาได้ยินชื่อวรรษชล หัวใจหล่นวูบ ขณะที่ป้าไก่พูดต่ออย่างแดกดัน
“ไม่รู้ว่างานนี้เจ๊เต่าของเราจะถือโอกาสนี้ ชงหนุ่มๆให้สาวๆด้วยเลยหรือเปล่าคะเจ๊”
“โอ๊ย ไม่เอาหรอก เด็กๆอยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว...เจ๊ไม่อยากให้มีเรื่องผู้ชายเข้ามากวนใจเด็กๆน่ะคะ”
“เจ๊ไม่อยากมี แต่เด็กเจ๊อาจจะอยากมีก็ได้นะ ใครจะไปรู้”
“วันนี้เป็นวันดีของเจ้าของงาน...งดปากเสียหนึ่งวันนะคะป้า”
ป้าไก่หน้าเจื่อน อรัญภัทรไม่ไว้หน้า พาทีรีบแก้สถานการณ์
“เอ่อ...คือวันนี้เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเปิดตัวคุณปราชญ์เป็นครั้งแรก หลังจากกลับมาสานต่อกิจการของคุณท่าน คุณปราชญ์กับเพื่อนๆเลยถือโอกาสนี้มารวมตัวกันก็เท่านั้นเองครับ”
“อุ๊ย....นั่นไง...หนุ่มๆมากันแล้วคะ” เจ๊ตือว่า
ทุกคนหันไป มอง
สายตาสาวๆ เห็นแทนไท ปราชญ์และวรรษชลในชุดหล่อเท่ สมาร์ทเดินเข้ามาด้วยกัน อรัญภัทรมองวรรษชลแบบยิ้มน้อยๆก่อนจะทำน่าเนียนไม่สนใจ เขมปัญฑามองดูปราชญ์แล้วค้อนหันหน้าหนีแบบไม่ให้ใครสังเกตอาการได้ ส่วนเวฬุยามองเห็นแทนไทด้วยสีหน้าตกใจ แต่ก็รีบเก็บอาการ เจ๊เต่ามองดูหนุ่มๆอย่างยินดี เพราะไม่ได้มีกรณีอะไรกับใคร
เบอร์รี่พยายามเดินออกมาด้านหน้าขนาบสามสาว แบบแอบขโมยซีนเนียนๆ แต่ก็ไม่กล้าแนวเดียวกันมาก แบบยืนอยู่ด้านหลังนิดนึง พิมพิชชาที่อยู่อีกด้านหนึ่งมองดูวรรษชลอย่างชื่นชม ลึกๆหวังว่า เขาจะมองมาหาตน
สามหนุ่มเดินมายืนอยู่ต่อหน้าเจ๊ตือ นางเอกสาวยิ้มให้วรรษชลแบบเก็บอาการตามมารยาท วรรษชลยิ้มให้เธอแบบรู้กันและกัน เพราะกลัวว่าเธอจะตกเป็นข่าวอีก เขาไม่ได้มองพิมพิชชาเลย นางเจ็บแทบขาดใจ
“หนุ่มๆของเจ๊ทั้งสามคนหล่อกระชากใจมากๆเลยนะคะวันนี้”เจ๊ตือว่า
แทนไทบอกเจ๊ตือ “หล่อ” แต่มองตาไปหามะม่วง “แล้วรักไหมครับ”
“อุ๊ยคุณแทนก็พูดอะไร อายเค้า...มีอะไรเดี๋ยวเราไปเคลียร์กันหลังเวทีนะคะ อ๊ะ...” เจ๊ตือแนะนำให้สาวๆรู้จัก “สาวๆคะ เจ๊ขอแนะนำให้รู้จักกับคุณปราชญ์ เจ้าของงานในวันนี้คะ”
“อุ๊ย...สวัสดีคะคุณปราชญ์” เจ๊เต่าว่า
“สวัสดีครับ”
ทุกคนยกมือไหว้ เขมปัญฑาไหว้แบบทื่อๆ ปราชญ์รับไหว้
“สวัสดีครับ คุณเอี๊ยม คุณมะม่วงและ...คุณ...เขม”
ปราชญ์มองเขมด้วยสายตาแกมหยิ่งนิดแต่แอบยิ้มน้อยๆ คือเก๊กแบบเก็บอาการไม่ให้ใครสงสัย เขมเมินหน้าหนีอย่างเก็บอาการ
“ส่วนอีกสองหนุ่มหล่อเพื่อนสนิทคุณปราชญ์ คุณวรรษเจ๊คงไม่ต้องแนะนำแล้วกระมังคะ เพราะก็คงจะรู้จักกันดี ส่วนนี่ก็คุณแทนคะ ปกติจะอยู่แต่ต่างจังหวัด ถ้าไม่ใช่งานของคนสำคัญก็คงไม่ได้เห็นหน้าเห็นตากันอย่างวันนี้หรอกคะ”
เจ๊เต่าพูดทักทายอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีคะคุณวรรษ คุณแทน”
ทุกคนยกมือไหว้ตามธรรมเนียม เวฬุยาไหว้แทนไทแบบไม่อยากมองหน้า เขมปัญฑาก็เบือนหน้าหนีปราชญ์ไปทางอื่น มีแค่อรัญภัทรที่ทำตัวปกติที่สุด
วรรษชลไหว้แบบยิ้มๆเก็บอาการ แทนไทรับไหว้พร้อมกับพูดออกมาอย่างขี้เล่น
“สวัสดีครับ คุณเอี๊ยม คุณเขมและคุณ...มะม่วงสุดสวย”
แทนไทยิ้มให้เธออย่างจริงใจสไตล์หนุ่มขี้เล่น แต่เธอกลับไม่ชอบใจอย่างแรง หันหน้าหนี เจ๊เต่ามองเขมปัญฑาและเวฬุยาอย่างสงสัยว่าเป็นอะไรกัน
ป้าไก่อยู่อีกมุมหนึ่ง พยายามชะเง้อดู สังเกตปฏิกิริยาของอรัญภัทรกับวรรษชล พลางมองด้วยสายตากระหายข่าว
“เป๊ะเวอร์! ยังกับจะเปิดกล้องละครเรื่องใหม่เลย พระนาง สามคู่ สามรส”
ท่ามกลางบรรยากาศในงาน ปราชญ์ละสายตาจากเขมปัญฑาหันมาคุยกับเจ๊ตือ
“ขอบคุณเจ๊ตือมากนะครับ ที่เป็นแม่งานให้กับผมในวันนี้ และถ้าไม่ได้เจ๊ตือช่วย ผมก็คงจะไม่ได้รับเกียรติจาก...คุณ...เขม...” เขามองเขมอย่างเก๊กๆแล้วค่อยๆหันมาหาสองสาว “คุณเอี๊ยมแล้วก็คุณมะม่วงมาร่วมเปิดงานกับผมในวันนี้”
“ไม่เป็นไรคะ...เจ๊ยินดี.” เจ๊ตือดูนาฬิกา “อุ๊ยแต่เจ๊ว่าตอนนี้ให้สาวๆไปเตรียมตัวด้านหลังเวทีดีกว่าไหมคะ แล้วก็คุณปราชญ์ก็เข้าไปเตรียมตัวขึ้นเปิดงานได้แล้วคะ ใกล้ได้เวลาแล้ว” เจ๊ตือหันไปเรียกเจ้หน้าที่ “เด็กๆจ๊ะ...มาพาคุณปราชญ์กับแขกรับเชิญไปเตรียมตัวด้านหลังเวทีเร๊ว”
เจ้าหน้าที่วิ่งมาเชิญให้ปราชญ์กับสามสาวไปด้านหลังเวที สามสาวเดินตามเจ้าหน้าที่ไป เจ๊เต่ากับเบอรี่ยืนอยู่กับเจ๊ตือ
ปราชญ์กำลังจะเดินไป แทนไทรั้งแขนไว้อย่างทะเล้น
“เฮ้ยย ไอ้ปราชญ์ ฉันขอไปอยู่หลังเวทีด้วยสิวะ แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบงานอะไรที่คนเยอะๆแบบนี้”
“ได้สิ...ปะ...แล้วแกละวรรษ จะไปด้วยไหม”
“พวกแกไปกันหมดแล้วฉันจะอยู่กับใครวะ” วรรษชลบอก
“ปะ...งั้นเราไปกันเถอะ...สาวๆรออยู่” แทนไททำท่ากระดี๊กระด๊าเจ้าเล่ห์เกินเหตุ
แทนไทเดินนำหน้าเพื่อนๆไป ปราชญ์กับวรรษชลมองหน้ากันยิ้มเล็กๆให้กัน ประมาณว่ามันเป็นอะไรของมันวะ แล้วเดินตามไป
หน้ากากนางเอก ตอนที่ 11 (ต่อ)
สาวๆเดินมาจนถึงหลังเวที เจ้าหน้าที่จัดให้นั่ง อรัญภัทรนั่งตรงกลาง อีกสองสาวนั่งประกบข้างแต่ไม่ค่อยสบอารมณ์ เธอสงสัย
“เป็นอะไรกันรึเปล่า เห็นท่าทีแปลกๆตั้งแต่เมื่อกี้ละ”
เขมปัญฑารีบเก็บอาการ “ไม่มีนี่”
เวฬุยา ทำหน้าเฉยๆ “ใช่...ไม่มี .แค่อยากกลับบ้าน”
“จะรีบกลับไปทำไมละครับคุณมะม่วง งานยังไม่ทันจะเริ่มเลย” เสียงแทนไทดังเข้ามา
สามสาวหันไปตามเสียง เห็นแทนไทยืนยิ้มอยู่ เวฬุยาค้อนกลับทันที สองสาวมองอย่างสงสัย
อรัญภัทรกระซิบถาม
“เธอรู้จักคุณแทนด้วยเหรอ”
เวฬุยาตอบชัดเจนไม่เก็บเสียงหวังจะให้แทนไทได้ยิน
“ไม่...และก็ไม่อยากรู้จักด้วย”
แทนไทได้ยินก็รีบสวนกลับ เวลานั้น ปราชญ์กับวรรษชลก็เดินตามเข้ามาพอดี ปราชญ์นั่งลงข้างๆเขมปัญฑา วรรษชลนั่งถัดจากปราชญ์
“อ้าวๆๆๆนี่คุณ คนคุ้นเคยกันแท้ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ...แต่ถึงคุณจะไม่อยากรู้จักผม ก็ช่วยไม่ได้นะ เพราะผมรู้จักคุณไปแล้ว” แทนไทเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ “และผมก็อยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ด้วย” เขายิ้มหน้าทะเล้น ยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท
“นี่...ไอ้แทนแกไปรู้จักกับคุณมะม่วงตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” วรรษชลถาม
“ก็...เรื่องบังเอิญน่ะ”
เวฬุยาบ่นกับตัวเอง
“เป็นความบังเอิญที่ซวยมากที่สุดในชีวิต”
เขมปัญฑาทำท่าครุ่นคิด
“คุณแทน...ไฮโซที่ว่าชอบทำไร่”
อรัญภัทรคิดตามคำพูดเพื่อน พอนึกได้ก็หันมาถามเวฬุยา “อย่าบอกนะว่าคนที่เป็นข่าวกับเธอ...คือ...”
“โอ๊ย...อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกได้มะ...นึกถึงทีไรทำอารมณ์เสียทุกที ฉันมันซวยเองที่ได้ไปเจอไอ้มนุษย์ปากมอมคนนั้น”
“คำก็มนุษย์ปากมอม สองคำก็มนุษย์ปากมอม ก็ผมบอกไปแล้วไงว่าผมขอโทษ และภาพที่ออกมามันก็ไม่ใช่ฝีมือของผม นี่คุณจะโกรธผมไปถึงไหนเนี่ย”
วรรษชลถาม
“นี่ไอ้แทน...อย่าบอกนะว่า...ข่าวคุณมะม่วงที่ออกมาคราวนั้น”
“เออๆๆ...ไม่ต้องพูดแล้ว...แค่นี้ฉันก็ถูกด่าว่าปากมอมจนหางจะงอกอยู่แล้วเนี่ย”
ปราชญ์พูดกับเขมปัญฑา
“คุณคงถนัดเรื่องการค้นหาประวัติหนุ่มๆไฮโซสินะ ขนาดไอ้แทนเพื่อนผมไม่ค่อยออกสังคม คุณยังรู้จัก”
“ใช่คะ...ฉันชอบหนุ่มๆไฮโซทุกคน...ยกเว้นคนที่-ไม่-ให้-เกียรติ-ฉัน”
“นี่...ผมไม่ให้เกียรติคุณตรงไหน”
ทุกคนมองดูปราชญ์กับเขมแบบงงๆว่ามีอะไรกัน คุยกันเรื่องอะไร แทนไทนไม่ได้ถามขึ้น
“เห้ย...อะไรของแกวะ ปราชญ์ ฉันยังไม่เห็นว่าคุณเขมจะว่าอะไรแกเลย”
“เปล่า...ไม่มีอะไร...ฉันก็แค่เดือดร้อนแทนคนอื่น”
วรรษชลมองดูปราชญ์อย่างรู้ทัน เพราะปราชญ์ไม่เคยเป็นแบบนี้ เจ้าหน้าที่เข้ามาเชิญปราชญ์เตรียมตัวพอดี
“เดี๋ยวเชิญคุณปราชญ์ เตรียมตัวด้านข้างเวทีได้เลยคะ อีกซักครู่จะมีคิวขึ้นบนเวทีเพื่อเปิดงานคะ ส่วนคุณเอี๊ยม คุณเขมและคุณมะม่วง จะมีคิวเดินออกไปที่จุดโชว์รถนะคะ”
“ได้ครับ”
ปราชญ์เดินไปข้างเวที แต่สายตายังมองเขมปัญฑาอย่างไม่ยอม แทนไทยังมองเวฬุยายิ้มเจ้าเล่ห์ วรรษชลมองดูสองคู่อย่างสงสัย ก่อนจะหันไปมองอรัญภัทรแบบอมยิ้มเล็กๆ แล้วเดินไปด้านข้างเวที
หน้าเวที MC บอก
“สวัสดีคะ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน....ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ งาน Super car &Import car
Show ของบริษัทนำเข้ารถต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และตอนนี้ขอเชิญผู้บริหารหนุ่มหล่อไฟแรง คุณ ปราชญ์ สัตยาวาน ขึ้นพูดเพื่อเปิดงาน ด้วยคะ”
เพลงเปิดตัวยิ่งใหญ่ ไฟสาดส่อง ปราชญ์ขึ้นมาบนเวที วรรษชลกับแทนไทเดินอ้อมมาอยู่ด้านหน้าเวทีเพื่อฟังปราชญ์พูดเปิดงาน
“ผมต้องขอบคุณแขกทุกท่าน ที่ให้เกียรติมาร่วมงานในวันนี้ จุดมุ่งหมายที่ผมตั้งใจจัดงานนี้ขึ้นมา ก็เพื่อให้ทุกท่านได้ยลโฉมกับความงดงามของรถ Super Car ที่มีมูลค่า 9 หลัก กับครั้งแรกในประเทศไทย และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมขอนำทุกท่านเข้าสุ่งาน Super car &Import car Show ครับ”
บนเวทีมีดรายไอซ์และSound ดังขึ้น เวฬุยาเดินออกมาจากด้านหลังเวทีไปที่รถคันแรก เพื่อไปโพสที่ข้างรถ ผ้าคลุมรถถูกเปิดออก ตามด้วยเขมปัญฑาเดินออกมายืนโพสอยู่ข้างรถ ผ้าคลุมรถถูกเปิดออก และอรัญภัทรเดินออกมาคนสุดท้ายมายืนโพสอยู่ที่รถคันที่จอดอยู่ตรงกลาง ผ้าคลุมรถถูกเปิดออก ทั้งสามสาวยืนโพสสวยๆ
ผู้ชมปรบมือ นักข่าวถ่ายรูป ปราชญ์ วรรษชล แทนไท มองสาวๆของตัวเองอย่างปลื้ม แต่ก็ต้องเก็บอาการ เพราะอยู่ต่อหน้าสาธารณชน เจ๊เต่ามองดูเด็กตัวเองอย่างภูมิใจ เบอร์รี่มองดูสายตาหนุ่มๆที่มองไปที่ดาราทั้งสามก็รู้สึกอิจฉาเบาๆ พิมพิชชายืนมองดูวรรษชลส่งสายตาหวานใส่อรัญภัทรอย่างไม่ชอบใจ
“ตอนนี้ขอเชิญคุณปราชญ์และแขกผู้มีเกียรติถ่ายรูปร่วมกันที่แบลคดล็อปด้วยนะคะ”
ปราชญ์ถ่ายรูปร่วมกับผู้บริหารท่านอื่นๆอย่างยิ้มแย้ม วรรษชล แทนไท ยืนรออยู่ข้างๆ สามสาวถูกเจ้าหน้าที่เชิญมายืนรอถ่ายรูปอยู่ข้างๆวรรษชลกับแทนไท มเวฬุยาได้มายืนอยู่ใกล้ๆแทนไทก็ทำหน้าเมินๆแต่ก็เก็บอาการสุด แทนไทแอบลอบยิ้มให้แบบทะเล้นๆ เวฬุยาหลุดโกรธแต่ก็รีบเก็บอาการ หันมองบรรยากาศรอบๆงานไป
ป้าไก่ทั้งถ่ายรูปปราชญ์กับแขกเหรื่อและคอยสอดแนมคู่ของวรรษชลกับอรัญภัทรไปด้วย พิมพิชชาพยายามยืนเสนอหน้ากะจะให้เจ้าหน้าที่เชิญขึ้นไปถ่ายรูป แต่เจ้าหน้าที่ก็มองข้ามไปเชิญแขกท่านอื่นๆที่มีความสำคัญกว่า พิมพิชชาเจ็บใจ
เบอร์รี่มองดูพิมพิชชาอย่างเหยียดๆสะใจที่ไม่มีใครสนใจ จากนั้นเบอร์ก็มองไปที่นักข่าวกำลังรุมถ่ายรูปปราชญ์ด้วยสายตาที่มีเลศนัยอย่างมีอะไรในใจ
ระหว่างที่ปราชญ์กำลังถ่ายรูปกับผู้บริหารและแขกท่านอื่นๆอยู่ วรรษชลถือโอกาสหาจังหวะคุยกับอรัญภัทรแบบไม่ให้ผิดสังเกตุกับนักข่าว ทั้งคู่คุยแบบไม่มองหน้ากัน ทำเป็นหันไปมองทางอื่นยิ้มทางอื่นเหมือนชมบรรยากาศงาน
“วันนี้คุณสวยจังเลยนะครับ”
เธอยิ้มเล็กๆทำเป็นมองบรรยากาศ
“ก็สวยทุกวันอยู่แล้วนี่คะ”
วรรษยิ้มหัวเราะเบาๆเก็บอาการกับคำพูดเธอที่กวนวรรษชลด้วยการชมตัวเอง
“ขำอะไรคะ...หรือคุณจะเถียง”
วรรษชลยังขำแต่พูดตัดบทไปเรื่องอื่น
“นี่...ผมไม่รู้เลยนะครับ ว่าเพื่อนผมทั้งสองคนไปรู้จักกับเพื่อนๆคุณตอนไหน”
“ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกันคะ...ปกติ ไม่เคยเห็นเขมกับมะม่วงพูดคุยกับผู้ชายคนไหนเลยซักคน...แต่นี่...ทำยังกับไปมีเรื่องกันมาหลายครั้งแล้วงั้นล่ะ”
“มันก็น่าคิดนะครับ เพราะปกติเพื่อนผมสองคนนี้ ก็ถือว่าเป็นเสือสิงห์ตัวร้ายประจำกลุ่ม แต่มาวันนี้ดูไม่เป็นตัวของตัวเองเลยทั้งคู่”
เธอหันมองหน้าวรรษชลอยู่ครู่หนึ่งด้วยสีหน้าสงสัยว่าเขาหมายความว่ายังไง ก่อนจะรีบหันมองไปที่อื่นไม่ให้นักข่าวผิดสังเกต ส่วนวรรษชลยิ้มน้อยเหมือนรู้ทันเพื่อน
แทนไทเห็นเวฬุยาที่พยายามเก็บอาการโกรธไว้ก็แอบแซวแบบไม่ให้ใครผิดสังเกต
“ทำหน้าเก็บกดแบบนี้ ไม่กลัวความดันขึ้นรึไงคุณ”
“เรื่องของฉัน...ความดันก็ความดันฉัน นายไม่ต้องยุ่ง”
“อ้าว...จะไม่ให้ผมยุ่งได้ไง ก็ผมเป็น...แฟน”
เธอหันมองตาขวางกลัวคนได้ยินแล้วจะเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีก
แทนไทมองยิ้มๆแล้วรีบพูดต่อ
“...คลับ..คุณ” แทนไทยิ้มทะเล้น
เวฬุยาทนไม่ได้เกือบจะเก็บอาการไม่อยู่ “...ไอ้...”
Mcเชิญวรรษชล แทนไท และสาวสาวขึ้นถ่ายรูปกับปราชญ์พอดี มะม่วงกับแทนจึงต้องหยุดรบชั่วคราวทั้งที่ยังค้างคา ป้าไก่มองอย่างเจ้าเล่ห์ เวลาที่รอคอยมาถึงซะที นักข่าวบันเทิงอื่นๆที่รออยู่ต่างวิ่งกรูเข้ามาเพื่อเก็บภาพข่าว เพราะต่างก็รอจังหวะนี้มานานแล้ว นักข่าวทั้งทีมสังคมและบันเทิงต่างถ่ายรูปเก็บภาพกันพรึบพับๆ ปราชญ์เห็นว่าน่าจะถ่ายรูปกันพอแล้วจึงจะขอตัวพาเพื่อนและแขกเที่ยวชมรถโชว์
“โอเคกันแล้วนะครับ ขอบคุณครับ” ปราชญ์หันมองหน้าวรรษชลกับแทนไท พยักหน้าจะพาไป
ป้าไก่กับนักข่าวต่างกรูกันเข้าใกล้ล้อมไว้เพื่อขอสัมภาษณ์
“เดี๋ยวคะๆพวกเราจะขอสัมภาษณ์คุณวรรษกับคุณเอี๊ยมเรื่องภาพข่าวที่หลุดออกมา ตกลงความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่อยู่ในสถานะอะไรกันแน่คะ” ป่าไก่เริ่มต้น
นักข่าว1บอก“ใช่คะ มีภาพยืนยันว่าคุณไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่คุณเอี๊ยมยังออกมาปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แล้วคุณวรรษละคะจะว่ายังไง”
ทั้งคู่ทำท่าอึกอัก มองหน้ากันไม่ตอบ คนอื่นๆก็ตกใจไม่คิดว่าทั้งคู่จะถูกถามคำถามนี้ในงานปราชญ์ ป้าไก่มองอย่างสะใจ เจ๊เต่ามองดูอย่างเป็นห่วงกลัวว่าเอี๊ยมจะด่านักข่าว เบอร์รี่มองอย่างริษยาก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปอย่างมีแผน
พิมพิชชามองดูกลุ่มดาราที่กำลังถูกรุมสัมภาษณ์อย่างเหยียดๆ
“นังซุปตาฆ่าไม่ตาย...ถูกรุมแบบไม่ทันตั้งตัวสงสัยวันนี้แกได้จุกคำถามนักข่าวตายแน่ ...สมน้ำหน้า...หึ...ฉันอยากจะรู้จริงเชียวว่าถ้าฉันให้ข่าวเรื่องว่าเคยมีความสัมพันธ์ยังไงกับวรรษมาก่อน แกจะปั้นหน้ายังไง ที่ต้องมารับผู้ชายต่อจากแม่เลี้ยงอย่างชั้น”
พิมพิชชาทำเป็นจัดแต่งทรงผมดูเสื้อผ้าประมาณว่าถึงเวลาที่จะบอกให้นักข่าวหันมาฟังตัวเอง
“...พี่ๆคะฟังทางนี้คะ”
พิมพิชชาเรียกนักข่าวแต่ไม่มีใครสนใจหันมา นางโกรธจัดจะร้องกรี๊ดแต่พยายามเก็บอาการ นักข่าวยังสนใจอรัญภัทรไม่ลดละ
นักข่าว2 ถาม“ตกลงคุณวรรษกับคุณเอี๊ยมจะแก้ข่าวเรื่องภาพที่ออกมาว่ายังไงคะ”
นักข่าว1 บอก“คุณวรรษคงจะไม่ตอบว่าไม่มีอะไรเหมือนอย่างที่คุณเอี๊ยมเคยตอบไว้หรอกนะคะ”
ทั้งคู่ยังอึกอัก ไม่ตอบ แทนไทหาจังหวะเข้าช่วย
“เอ่อ...ผมว่า...มันคงไม่เหมาะที่จะมาถามเรื่องนี้ในงานเปิดตัวรถนะครับ เชิญพี่ๆนักข่าวทุกท่านไปดูรถสวยๆทางโน้นดีกว่านะครับ” แทนไทหันมองสาวๆและเพื่อน “ไปครับ”
เพื่อนทั้งสองจะดึงอรัญภัทรเดินออก แต่นักข่าวก็ยิงคำถามใส่เวฬุยา
“แล้วคุณมะม่วงละคะ เห็นออกมายืนยันชัดเจนว่าไม่ได้ไปหาเสี่ยเจ้าของไร่ แต่ไม่นานก็มีภาพหลุดออกมาว่าไปจริงๆ วันนี้คุณมะม่วงยังจะปฏิเสธอยู่ไหมคะว่า...ไม่ได้...ไป”
“เสี่ยเจ้าของไร่คนนั้นเป็นใครเหรอคะคุณมะม่วง”
เวฬุยามองแทนไทอย่างแค้น แทนไทสะอึกไปเลย เพราะไม่คิดว่าไม่คิดว่าตัวเองจะโดนด้วย วรรษชลมองเพื่อนอย่างเป็นห่วง อรัญภัทรกับเขมปัญฑาเป็นกังวล ปราชญ์มองอย่างชั่งใจว่าจะช่วยเพื่อนๆยังไง
“คุณมะม่วงปฏิเสธเรื่องผู้ชายมาตลอด แต่มีภาพออกมาขนาดนี้แล้ว เรื่องนี้คุณมะม่วงจะว่ายังไงคะ”
“ตกลงเสี่ยคนนั้นเป็นใครคะ”
“ผมว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่านะครับ วันนี้เป็นวันดีของผม ผมอยากจะพาทุกท่านไปดูรถสวยๆที่ผมนำเข้ามา”
“ก่อนที่จะไปดูรถ พี่ขอถามเรื่องที่ว่างานนี้มีคนเค้าเม้าท์กันมาว่าคุณปราชญ์รีเควชน้องเขมให้มาร่วมเปิดงานเป็นพิเศษ คุณปราชญ์มีความรู้สึกอะไรส่วนตัวกับน้องเขมรึเปล่าคะ หรือว่าคุณปราชญ์สนใจน้องเขมเป็นพิเศษคะ” ป้าไก่ถาม
“ก็...ไม่มีอะไรนี่ครับ..เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเหมาะสมในการทำงานมากกว่าครับ”
พิมพิชชายังมองดูนักข่าวรุมสัมภาษณ์กลุ่มวรรษชลอย่างแค้นใจ
“ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้พูดเรื่องวรรษให้แกต้องอับอายขายขี้หน้าละก็ ฉันไม่ยอมแน่ นังเอี๊ยม”
พิมพิชชาพูดจบจะเดินตรงเข้าไปหากลุ่มนักข่าว แต่สายตาก็หันไปเห็นเบอร์รี่เดินออกมายืนอยู่อีกด้าน เบอร์รี่กำลังจัดแจงชุดแบบระมัดระวังไม่ให้ผิดสังเกตเพื่อกระทำการอะไรซักอย่าง พิมพิชชามองอย่างสงสัย
“นังเขียวมันคิดจะทำอะไรของมัน” นางมองอย่างสนใจ ในใจครุ่นคิดเหมือนรู้ว่าเบอร์รี่กำลังคิดจะทำการอะไรแต่คิดไม่ออก
นักข่าวเฮ วรรษชลกับอรัญภัทรมองหน้าปราชญ์แล้วอมยิ้ม เขมปัญฑาก้มหน้า รู้สึกดีขึ้น คำตอบของปราชญ์ดูให้เกียรติ ป้าไก่ยังไม่วายแหย่ต่อ
“ไม่มีเรื่องอื่นจริงๆหรือคะ เช่นกำลังคุยกันอยู่อะไรแบบนั้น”
เขมปัญฑาอึ้ง ปราชญ์เก็บอาการ เจ๊เต่าทำหน้าแหยประมาณว่าไปกันใหญ่แล้ว เจ๊เต่าอยู่ไม่สุข เดินพล่าน
“เจ๊เต่าตาย ตาย ตายแล๊วว ฉันจะทำยังไงดี งานนี้เด็กๆของฉันตายแน่ๆ”
เจ๊เต่าวิ่งขึ้นไปหาเด็กของตัวเอง
“เอ่อ...เจ๊ว่าไว้โอกาสหน้าค่อยสัมภาษณ์เรีองนี้กันใหม่นะคะ ...ปะ...ปะ” ทำท่าจะต้อนเด็กๆไป
ป้าไก่กับนักข่าวไม่ยอมลดละ ทุกคนแย่งกันถามคำถามอย่างอึกทึก ทั้งสามสาวและสามหนุ่มต่างอึกอักทำตัวไม่ถูก นักข่าวไม่ปล่อย ทั้งหมดยังแย่งกันถาม และจังหวะนี้เองที่มีเสียงร้องดังขึ้นมาจากด้านหลังนักข่าว... “ว๊ายย!” ...ทุกคนหยุดและหันมองมาทางเสียงร้อง ทุกคนต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น...เบอร์รี่ยืนนมหกอยู่ท่ามกลางสายตาทุกคน..นักข่าวกดชัตเตอร์กันรัว
หน้ากากนางเอก ตอนที่ 11 (ต่อ)
วันรุ่งขึ้น ในสถานที่ต่างๆ คนดูเหตุการณ์เมื่อวานในอินเทอร์เนต หนังสือพิมพ์ ภาพเบอร์รี่ พร้อมบรรยาย “หลุดกลางงาน นมจากเต้า” อล่างฉ่างกลางงาน … คนอ้าปากค้าง นมจากเต้า มิลกี้ เบอร์รี่ เกิดเพราะนมฯลฯ
พิมพิชชาจ้องตาแทบถลน อ่านข่าวของเบอร์รี่ ความริษยาพุ่งออกมาแบบยั้งไม่อยู่
“นังเบอร์รี่! แกคิดว่าแกจะแจ้งเกิดได้อย่างนั้นเหรอ นังโง่”
นางหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นคลิปเบอร์รี่เหยียบชายกระโปรงตัวเองเดียว ไม่มีภาพเท้าใครๆมาร่วมเฟรม เป็นคลิปที่พิมถ่ายเอาไว้ตอนที่มองเห็นเบอร์รี่ออกมายืนจัดแจงเสื้อผ้าอย่างผิดสังเกตุ นางมองภาพ เหยียดริมฝีปากออก เหน็บ
“แผนตื้นๆของคนโง่ๆ...อย่างแก...งานนี้แกดับแน่ นังเบอร์รี่”
พิมพิชชาหยิบกุญแจรถเดินลิ่วๆออกมา
ภายในห้อง เบอร์รี่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นประหนึ่งว่าเสียใจมากๆ เขมปัญฑามองสงสาร อรัญภัทร
มองแบบระแวงสงสัย เวฬุยามองตาดุไม่เชื่อ ขณะที่เจ๊เต่าปลอบแบบสงสาร
“ไม่ร้องแล้วนะเบอร์รี่ ข้ามวันข้ามคืนยังร้องไม่หยุดอีก ...เดี๋ยวน้ำหมดตัวนะ”
เบอร์รี่แอ๊บสุดขีด ร้องไห้แบบเสียใจมากๆ
“แต่หนู...หนูอาย...หนูอายจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”
เวฬุยาบอกห้วนๆดุๆท่าทางหมั่นไส้
“ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด”
เบอร์รี่ชะงัก เหวอไปทันที ทุกคนหันขวับไปมอง
“ก็จะร้องทำไม เรื่องมันเกิดไปแล้ว ผ่านไปแล้ว สิ่งที่เธอต้องทำคือ ตั้งสติ แล้วระวัง ต่อไปจะได้ไม่เกิดเรื่องอะไรแบบนี้อีก”
เบอร์รี่ สายตาเปล่งประกายว่าโกรธไม่พอใจมะม่วง แต่จำต้องแอ๊บร้องไห้น่าสงสาร
เขมปัญฑาติงเพื่อน
“มะม่วง ไม่เอานะ มันเป็นอุบัติเหตุ เรื่องแย่ๆน่าอายแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นมาหรอก”
“มันก็ไม่แน่...” เธอยิ้มหมิ่น “เพราะคนบางประเภท ยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ทุกคนจับจ้อง แม้กระทั่ง ขายศักดิ์ศรีของตัวเอง”
เบอร์รี่แหกปากร้องไห้โฮออกมา
“ไม่นะคะ..ไม่ใช่หนู”
อรัญภัทรติง ไม่อยากให้เกิดเรื่อง
“ไม่เอามะม่วง”
เวฬุยาทำหน้าแบบเซ็งมาก
“เรื่องแค่นี้ยังดูไม่ออก กินหญ้าแทนข้าวกันรึไง”
มะม่วงพูดจบก็เดินออกไปด้านนอก เบอร์รี่ร้องไห้โฮๆ เขมปัญฑา เจ๊เต่าปลอบ อรัญภัทรเดินตาม
เวฬุยาออกไป
ทางด้านนอก เวฬุยาเดินออกไป ท่าทางฮึดฮัดไม่สบอารมณ์ อรัญภัทรเดินตาม พอมะม่วงได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินตามออกมาก็หันไป พอเห็นก็ถามทันทีแบบฉุนๆ
“เธอดูไม่ออกเหรอเอี๊ยม ว่าเป็นแผนของเด็กนั่น”
เธอครุ่นคิดก่อนบอกนิ่งๆ
“ชุดที่เบอร์รี่ใส่ ก็ชุดของฉัน ที่ผ่านมา ฉันเคยใส่ เค้าก็ตัดเย็บเรียบร้อยดี จนฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะหลุดไปได้ยังไง”
“ก็มันแกล้งทำหลุดเองนะสิ”
“แต่...มันโป๊เลยนะ คนเห็นกันทั้งประเทศ เบอร์รี่จะยอมเสี่ยงขนาดนั้นเหรอ”
“ ก็บอกแล้วไง คนที่อยากดัง ทำได้ทุกอย่าง ถ้าเธอคิดว่าคุณพิม หน้าไม่อาย ฉันก็ว่ายายเบอร์รี่นี่ ก็หน้าไม่อายเหมือนกัน”....
พอได้ยินชื่อพิมพิชชา อรัญภัทรก็หน้างอขึ้นมาทันที มะม่วงหรี่ตามอง แล้วพูดต่อแบบระแวง
“เธอลืมไปแล้วเหรอ ว่าเด็กนั่นเคยใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณพิมมาก่อน คนคุ้นเคยกันขนาดนั้น จะไม่ถอดแบบอะไรกันมาบ้างเลยหรือ”
เธอครุ่นคิด เวฬุยาพูดต่อ
“ถึงฉันจะไม่ได้รู้จักคนเยอะ แต่คนอย่างยายเบอร์รี่ฉันดูออก...ฉันว่าเด็กนั่น อัพเลเวลความร้ายกาจ เกินกว่าแม่เลี้ยงเธอเยอะเลยล่ะเอี๊ยม ไม่เชื่อเธอรอดู”
เธอนิ่ง ท่าทางยังคิดไม่ตก
เวลากลางวัน วรรษชลนั่งเขียนสคริปต์รายการที่จะไปถ่ายทำรายการ ป้อมเดินมาหาชะโงกหน้าบอก
“พี่วรรษ เทปตัดเสร็จแล้วนะพี่”
“พี่เขียนสคริปต์แป๊บ เดี๋ยวไปดู”
“ครับ”
ป้อมเดินออกไป วรรษชลง่วนกับการเขียนสคริปต์ เสียงไลน์ดังเข้ามา วรรษชลกดรับมาดู เห็นเป็นข้อความจากเบอร์รี่
“พี่วรรษหนูอาย หนูอยากตาย พี่วรรษช่วยหนูด้วย”
วรรษชลสีหน้าตกใจมาก
อรัญภัทรกับเวฬุยายืนอยู่ด้วยกัน เสียงมือถือของนางเอกสาวดัง เธอรับ
“คะคุณวรรษ”
วรรษชลน้ำเสียงตกใจ
“เบอร์รี่เป็นไงบ้าง”
“ก็เสียใจมากๆค่ะ ยังร้องไห้อยู่เลย”
เวฬุยาแอบเบ้ปาก ขณะที่อรัญภัทรถามวรรษชลต่อแบบเกรงใจ
“แล้วงานคุณปราชญ์เป็นไงบ้างคะ ต้องขอโทษจริงๆค่ะ”
“เค้าก็จัดงานกันต่อ” แต่น้ำเสียงหนักใจ “แต่ข่าวที่ออกมามีแต่ข่าวของเบอร์รี่ทั้งนั้น...น้องเค้าคงกลุ้มใจมาก เอี๊ยมดูน้องให้ดีๆนะ..ผมกลัวว่าน้องจะคิดสั้น”
เธอตกใจ “คิดสั้น”
เวฬุยามองตกใจ ... เบอร์รี่น่ะเหรอจะคิดสั้น วรรษพูดต่อ
“น้องเค้าไลน์มาบอกผม อยากฆ่าตัวตาย”
เธอฟังแล้วหันมาบอกเวฬุยา
“เบอร์รี่บอกคุณวรรษอยากฆ่าตัวตาย”
“ฆ่าตัวตาย?” เวฬุยาเสียงสูง สายตาบอกว่าไม่เชื่อ
“เอี๊ยมดูน้องให้ดีๆนะ..ผมจะรีบไป”
“ค่ะ”
อรัญภัทรวางสาย ขณะที่วรรษชลออกมาจากออฟฟิศอย่างรวดเร็ว
ภายในห้อง ที่คอนโดเจ๊เต่า เบอร์รี่ดราม่า ด้วยการลุกขึ้นมาร้องกรี๊ดๆๆลั่นห้อง
“หนูทนไม่ไหวแล้ว หนูไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว หนูอยากตาย”
เบอร์รี่ทำท่าจะวิ่งออกไปฆ่าตัวตาย เจ้เต่ากับเขมปัญฑาตกใจ ทำอะไรไม่ถูก พยายามช่วยกันดึงรั้งไว้
“อย่าเบอร์รี่ อย่า!!อย่าทำอย่างงี้”
เบอร์รี่สะบัดสะบิ้งดราม่าตามประสา
“ปล่อยหนู หนูไม่รู้จะอยู่ยังไงแล้ว หนูอยากตาย! ปล่อย ปล่อย” เบอร์รี่ดราม่าสุดๆจะผลักสองคนออก
อรัญภัทรกับเวฬุยาวิ่งเข้ามาอย่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นคะเจ๊” อรัญภัทรถาม
เบอร์รี่มองเอี๊ยม น้ำตาไหลพรากๆ
“พี่เอี๊ยม หนูอยากตายคะ หนูทนอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว หนูอาย หนูอยากตาย”
เบอร์รี่ทำท่าจะวิ่งออกจากห้อง ทุกคนพยายามดึงรั้งไว้ ยกเว้นเวฬุยาที่ยังมองอย่างดูเชิง
ทุกคนร้อง “อย่า”
เวฬุยาตะโกนแทรกขึ้น “โอ๊ย”
ทุกคนตกใจ หันขวับมาดูเวฬุยา รวมทั้งเบอร์รี่ที่ชะงักไปนิด เวฬุยาว่า
“คนเค้าอยากตาย ก็ปล่อยให้เค้าตายๆไปสิ จะไปห้ามทำไม”
“มะม่วง เรานี่ มันขวางโลกจริงๆเลย นะ” เจ๊เต่าบอก
“เจ๊สิขวาง...คนเค้าอยากตายไปห้ามเค้าทำไม” แล้วหันไปพูดกับเบอร์รี่ “เอาเลย อยู่ไปก็ขาย
ขี้หน้า อยากตาย โดดลงไปเลย แล้วไม่ต้องห่วง ถึงศพเธอไม่สวย พี่จะจ้างเมคอัพมือหนึ่งของวงการมาแต่งหน้าศพเธอให้”
ทุกคนเหวอ แต่ไม่เท่าเบอร์รี่ที่เหวอยิ่งกว่า เวฬุยาท้า
“เอาสิ...ไม่มีใครห้ามแล้ว เธออยากจะไปกระโดดตึกตายที่ไหนก็ไปเล้ย ไปสิ”
เบอร์รี่ดราม่าแทบแย่
“ค่ะ...แต่ก่อนตาย...หนูฝากบอกพี่พิมด้วยนะคะ”
อรัญภัทรถามทันที
“บอกอะไร”
“หนูขอโทษ ที่หนูมาอยู่กับพี่เอี๊ยม แต่หนูคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพี่พิมจะทำกับหนูถึงขนาดนี้”
“นังพิม มันทำอะไร”
“พี่พิม...เป็นคนเหยียบกระโปรงหนูค่ะ”
ทุกคนร้อง “หา”
ทุกคนตาเหลือก ตกตะลึงคาดไม่ถึง
เสียงมือถือเจ๊เต่าดังลั่น นางสะดุ้งโหยง
“โอ๊ย!ใครโทร. มาตอนนี้ … หนูอย่าเพิ่งฆ่าตัวตายนะ รอเจ๊รับโทรศัพท์แป๊บ จะได้มีเงินทำศพ ว้าย!!ไม่ใช่ เผื่อนักข่าวโทร. มานะหนูนะ”
เบอร์รี่ได้ยินคำว่านักข่าวตาเป็นประกาย ก่อนแอ๊บร้องไห้ต่อ โดยมีเขมปัญฑากอดเอาไว้
“ใจเย็นๆเบอร์รี่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป นิ่งเถอะนะ นิ่ง”
เวฬุยาสุดจะหมั่นไส้เบอร์รี่ อรัญภัทรมองจับอาการยังเชื่อแบบครึ่งๆกลางๆ เจ๊เต่าควานมือกดรับมือถือแบบสปีกเกอร์โฟน เสียงเจ้เต่าดังลั่น
“ว่าไงป้าไก่”
ป้าไก่ที่นั่งทำงานอยู่กับโน้ตบุ๊ก
“นี่! เบอร์รี่เป็นไงมั่ง”
เบอร์รี่หูผึ่ง นักข่าวสนใจ เจ๊เต่าเหน็บ
“มีเรื่องร้อนใจขนาดนี้ คงเต้นระบำฮูล่าฮูปอยู่หน้ากองไฟมั้ง”
ป้าไก่หัวเราะคิกคักไม่สนความเดือดร้อนของคนอื่น
“ดีแล้ว...ฉลองล่วงหน้าน่ะดีแล้วว เพราะตอนนี้คนสนใจเบอร์รี่มากๆๆๆ อ่านตามเพจ ตามเว็บต่างๆมีแต่คนสงสารเห็นใจ ....เกิด บอกได้เลย งานนี้ เบอร์รี่เกิด!!”
เบอร์รี่ตาเป็นประกายวิ๊งๆจะแอบอมยิ้มก็เจอตาของเวฬุยามะม่วงจ้องเขม็ง เธอจำต้องก้มหน้าสลด
ลงกับอกของเขมปัญฑาร้องไห้สะอึกสะอื้น เวฬุยายิ่งหมั่นไส้ เบอร์รี่แอบอมยิ้มดีใจ
“ถ้างั้นก็ช่วยไปทำให้ให้คุณพิมดับด้วยแล้วกันนะป้า” เจ๊เต่าบอก
“ทำไม”
“ก็คุณพิมเป็นคนเหยียบชายกระโปรงเบอร์รี่ จนนมหกไงล่ะ”
“หา!!” ป้าไก่ งง ตกใจ แต่ยิ้ม
พิมพิชชาจอดรถที่หน้าคอนโด นางเหยียดริมฝีปากออก เตรียมขย้ำเบอร์รี่ เสียงมือถือดัง นางรับ
“ว่าไงคะ...ป้าลิ้นสองแฉก”
ป้าไก่ที่อยู่ในห้องคุยโทรศัพท์ หัวเราะร่วน
“จะยังไงก็ดีกว่า คนที่กำลังจะ ไร้หัว”
“เรื่องอะไรมาแช่งกัน ฮึ นังไก่ปากเสีย!!”
“ไม่ได้แช่งค่ะ แต่หนูเบอร์รี่กำลังจะแฉ ว่าคนไร้หัวอย่างคุณพิมเป็นคนเหยียบชายกระโปรงหนูเบอร์รี่จนนมหก นี่ป้ายังรักและหวังดีนะคะ ถึงได้โทร.มาบอกให้คุณพิม เตรียมตัว เพราะป้ากำลังจะไปสัมภาษณ์หนูเบอร์รี่แบบเอ็กคลูซีพค่า”
พิมพิชชายิ้มเหยียด
“งั้นมาไวๆเลยนะคะ เพราะตอนนี้พิมอยู่หน้าคอนโดนังเด็กนรกนั่นแล้ว ป้าไก่มีเลนส์อะไร เอามาให้หมดเลยนะ จะได้เก็บภาพได้ทุกซอกทุกมุม เพราะฉันแฉความตอแหลของนังเบอรี่ โชว์ทุกคน”
นางวางสาย มองคอนโดฯ แบบจะกินเลือดกินเนื้อ ป้าไก่ตาโต
“ว้าว!! จัดว่าเด็ดๆๆๆ 55555”
ป้าไก่รีบออกจากห้องรวดเร็ว
หน้ากากนางเอก ตอนที่ 11 (ต่อ)
ภายในห้อง เบอร์รี่ร้องไห้สะอึกสะอื้น เจ๊เต่าปลอบ
“นี่! เดี๋ยวป้าไก่เค้าจะมาสัมภาษณ์ มีอะไรพูดให้หมดเลยนะเบอร์รี่ ไม่งั้นเดี๋ยวหนูจะถูกตกเป็นจำเลยสังคมว่าอยากดัง”
อรัญภัทรถามเบอร์รี่ แบบไม่พอใจพิมพิชชาสุดขีด
“ทำไมไม่บอกตั้งแต่เมื่อวาน พี่จะได้จัดการนังปลวกแอ๊บแบ๊วนั่นให้มันตายไปเลย”
เบอร์รี่สะอึกสะอื้น
“หนู..หนูไม่อยากมีเรื่อง”
“คนอย่างนังพิม..ถ้ามันอยากมีเรื่อง เราต้องจัดให้”
เวฬุยาปรามแบบเบื่อๆ
“นี่ๆเอี๊ยม อย่าออกตัวแรง เกิดคดีพลิก เดี๋ยวจะเงิบ”
“มันจะพลิกได้ยังไง ในเมื่อ เบอร์รี่ก็บอกอยู่หยกๆ มาดามปลวกมันจงใจ แกล้งเบอร์รี่”
เวฬุยาหัวเราะ
“มาดามปลวก อาจจะแพ้นางพญาปลวกก็ได้นะคะ เอี๊ยม”
“พี่มะม่วงพูดอย่างนี้แปลว่าอะไรคะ” เบอร์รี่ถาม
เวฬุยาจ้องเขม็ง
“ฉันไม่เชื่อเธอ เอี๊ยม...เธอคุยกับแม่เลี้ยงเธอหน่อยไป ถามให้รู้เรื่องเลย ก่อนที่จะเผลอกินสะตอจนจุก”
เบอร์รี่ดวงตาหลุกหลิก แต่สายตาแข็งกร้าวประมาณ ยังไงก็จะแถตลอด อรัญภัทรมอง
“ เร็ว...ถ้าเธอไม่โทร. เอาเบอร์ยัยพิมมา เดี๋ยวฉันโทร.เอง”
อรัญภัทรนิ่งไปนิดก่อนกดโทรศัพท์หาพิมพิชชา ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูจากใครซักคน เจ๊เต่านึกว่าป้าไก่มาจึงรีบออกไปเพื่อเปิดรับ
“อุ๊ยสงสัยยัยป้าไก่จะมาแล้ว เดี๋ยวเจ๊ไปเปิดประตูรับเค้าก่อนนะ”
เจ๊เต้าวิ่งออกจากห้องไป ทิ้งสี่สาวไว้ อรัญภัทรกำลังรอสายพิมพิชชา ไม่นานประตูห้องนอนเธอก็ถูกเปิดออกแบบทะลุทะลวงไม่เกรงใจ พิชพิชชายืนอยู่หน้าประตู ทำให้ทั้งสี่คนตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นพิม มีเสียงร้องว๊ายยๆ ของเจ๊เต่าตามหลังมาติดๆ
นางยิ้มยกมือถือขึ้น พูดกับเอี๊ยม
“ไม่ต้องโทร.แล้วค่ะคุณลูกเลี้ยง แม่เลี้ยงมาแล้ว” นางเก็บมือถือใส่กระเป๋า “มีอะไรก็พูดมาได้เลยค่ะ”
เธอเดินไปมองหน้าพิมพิชชาถาม
“เธอทำลายเด็กทำไม หรือว่าโกรธ ที่เบอร์รี่มาอยู่ข้างฉัน”
“กะอีแค่ นกสองหัว จะโกรธทำไม๊... ตัดออกไปจากชีวิตแหละดีแล้ว” นางมองเบอร์รี่ “ขนาดยังไม่ได้เข้าวงการ หน้ายังทั้งหนาทั้งทน สงสัยสงสัยเอายิปซั่มมาร้อยแทนไหม ใช่มั้ยจ้ะเบอร์รี่? ถึงได้กล้าทำนมหก โชว์เต้าตัวเอง”
ทุกคนเริ่มงงกับท่าทีของนาง เบอร์รี่หน้าซีด นางสุดจะหมั่นไส้ด่าต่อ
“ต่อให้โชว์นมทั้งยวง แต่ถ้าคนมันไม่ใช่ ก็ไม่มีคนสนใจเธอหรอก มานี่เลยแก” นางลากเบอรี่ออกไปจากห้องทันที
ฝ่ายป้าไก่วิ่งกระหืดกระหอบตามเข้ามา
“ป้าไม่ได้มาช้าไปใช่ไม๊ หนูเบอรี่ คุณเอี๊ยม คุณพิม”
พิพิชชาบอก
“มาก็ดีแล้ว...เพราะฉันกำลังจะจัดการกับนังทรยศนี่....กราบขอโทษฉันเดี่ยวนี้เลยนะนังเขียว ก่อนที่ฉันจะแฉแก”
“หนูมีอะไรให้คุณแฉ..มีแต่คุณนั่นแหละ ทำลายหนู คุณแกล้งหนู คุณเหยียบชายกระโปรงหนู จน..นมหนูหก..หนูอยากตาย! ได้ยินมั้ยคะ หนูอยากตาย”
แต่ป้าไก่ไม่ลืมสัญชาตญาณนักข่าว เอามือถือถ่ายคลิปเอาไว้ตลอด
พิมพิชชาตรงไป จะเตรียมกระชากเบอร์รี่ขึ้นมา อรัญภัทรรีบจะไปกระชากพิมพิชชา
“หยุดนะ”
“อย่ามายุ่ง”
นางเหวี่ยงสะบัด อรัญภัทรล้มไป นางรีบล็อคคอเบอรี่ไว้
“มานี่เลยนังทรยศ แกกับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน” นางกระชากลากคอเบอร์รี่ที่ร้องกรี๊ดๆขึ้นมา
“ช่วยหนูด้วยๆๆ”
เจ๊เต่ากับเขมปัญฑาจะเข้ามาช่วย
“เอาสิ...เข้ามาเลย...ฉันจะได้หักคอนังนี่โชว์ซะเลย...วันนี้ฉันบ้าแล้วโว้ย”
ทุกคนอึ้ง นางเหมือนคนบ้าจริงๆ
“มานี่นังสตอเบอร์รี่!”
นางลากเบอร์รี่ออกไป ป้าไก่ตาม ถ่ายคลิปไว้ตลอด
เป็นเวลาเดียวกับที่วรรษชลขับรถมาจอดที่คอนโดแล้วรีบลงมาอย่างรวดเร็ว แต่ต้องชะงัก ที่เห็นรถพิมพิชชา เขาขมวดคิ้ว สายตาเต็มไปด้วยคำถามสงสัย
“พิมมาทำไม”
เขารีบสาวเท้ายาวๆเข้าไปข้างในรวดเร็ว
ทุกคนตกใจทำอะไรไม่ถูก เจ๊เต่าถาม
“ตาย ตาย ตายแล๊ว มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่เนี่ย พวกเราจะทำยังไงกันดี แจ้งความกันเลยดีไหม”
“แจ้งตำรวจก็เป็นนะสิเจ๊...เอี๊ยมว่าเรารีบไปช่วยเบอร์รี่กันเถอะ”
“ไปช่วยมันทำไม” เวฬุยาถาม
“ใช่ คุณพิมน่ากลัวมากเลยนะมะม่วง” เขมปัญฑาบอก
“เด็กนั่นอยากตาย ก็ปล่อยให้ตายไปสิ “
“อร๊าย” เจ๊เต่าฟาดเพี๊ยะ “เราเนี่ยจริงๆเลย” ก่อนบอกสองสาว “ป่ะ”
เจ๊เต่ากับเขมปัญฑาประคองอรัญภัทรขึ้นมา เวฬุยาพูดตามลอยๆ
“ มันไม่ตายหรอก เชื่อฉันสิ”
พิมพิชชาล็อคคอและลากเบอร์รี่ออกมาตามทางเดิน ป้าไก่ตามถ่ายคลิป นางหันมามองตาเขียว ถามป้าไก่
“อยากถ่ายนักใช่มั้ย”
ป้าไก่ยังไม่ทันตอบ พิมพิชชาก็ใช้มือที่เหลืออีกข้างกระชากมือถือป้าไก่มาแล้วยิ้มร้ายใส่
“อย่าคิดนะว่าจะใช้คลิปที่ถ่ายเป็นหลักฐานทำลายฉันได้”
นางโยนมือถือป้าไก่ลงพื้นอย่างแรง จนแตกกระจาย ป้าไก่ตกใจ เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน
“คุณพิม!”
นางหันมาทางเบอร์รี่
“ส่วนแก..อยากเป็นนางเอกใช่ไม๊...มานี่”
พิมพิชชาลากเบอร์รี่ไปต่อ เบอร์รี่ได้แต่ร้องลั่นขอให้ปล่อย
กลุ่มของอรัญภัทรเดินออกมาด้านนอกห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่วรรษชลมาถึงวรรษ
“มีเรื่องอะไรเอี๊ยม”
“มาดามปลวกมาอาละวาดที่นี่ค่ะ”
วรรษชลตกใจตะลึง
พิมลากเบอร์รี่มาที่บันไดหนีไฟ เบอรี่ยังมองไม่เห็นบันไดว่ามีความสูงมากแค่ไหน เพราะถูกล็อคคออยู่ เบอรี่ร้องไห้ขอชีวิต
“มานี่เลย ฉันจะสงเคราะห์ให้แกได้ตายสมใจอยาก”
“พี่พิม.. หนูกลัวแล้ว พี่พิมปล่อยหนูไปเถอะนะคะ หนูขอร้อง”
นางหัวเราะ
“จะมาขอให้ฉันปล่อยแกทำไม แกอยากตายไม่ใช่เหรอนังเขียว อุ๊ย!น้องเบอร์รี่ อยากตายไม่ใช่เหรอคะ”
ดวงตาพิมพิชชาเหมือนเป็นคนบ้า นางร้ายดีๆนี่เอง นางเหยียดริมฝีปากพูด
“พี่พิมเป็นคนใจดีมีเมตตาค่ะ อยากตาย..พี่พิมจะจัดให้”
พิมกระกระชากคอเบอร์รี่ให้หันไปมองดูที่บันไดหนีไฟ เธอเอียงคอมองดูความสูงของบันไดอย่างตกใจกลัวจริงๆ
“ห๊ะ...อย่าค่ะพี่พิม อย่า..หนูกลัว”
“คนอย่างแกรู้จักกลัวกับเค้าด้วยเหรอห๊ะ เพราะถ้าแกกลัวฉันตั้งแต่แรก...แกจะไม่ทำกับฉัน
อย่างนี้..แกรู้ใช่มั้ย ถ้าฉันผลักแกลงไป แกจะมีสภาพยังไง”
“อย่านะพี่พิม...ไม่...ไม่...อย่าคะ หนูขอร้อง”
พิมเย้ยมองตาเบอร์รี่...เบอร์รี่ได้ทีบอก
“ถ้าพี่พิมทำหนู พี่พิมก็จะกลายเป็นฆาตกร”
นางหัวเราะ
“ฉันจะโง่ขนาดนั้นเชียวหรือนังเขียว เฮ้อ!ฉันไม่ฆ่าแกหรอก ฉันขอแค่ถีบแกลงไป พอให้แกเดินไม่ได้ ก่อนที่ฉันจะแฉแกก็เท่านั้นเอง รับรองว่าไม่เจ็บอะไรมากหรอกจ๊ะน้องเบอรี่”
เบอร์รี่งง
“แฉ! หนูมีอะไรให้พี่พิมแฉ”
นางหัวเราะ
“ต๊ายๆๆๆ ใสซื่อ สะอาดบริสุทธิ์เป็นน้ำแร่พลาสเจอไรซ์เชียวนะน้องเบอร์รี่ หัวสมองแกเอาไปไว้ที่นมหมดใช่มั้ย แกถึงได้โง่ขนาดใส่ร้ายว่าฉันเหยียบชายกระโปรงแก ทั้งๆที่แกเหยียบชายกระโปรงตัวเอง เพื่อตั้งใจทำนมหลุด”
เบอร์รี่มองตะลึง พิมพิชชาพูดถูกทุกอย่าง นางยิ้มเย้ย หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมา
“ไม่ต้องเชื่อฉันก็ได้ แต่ฉันมีคริปตอนแก ตอแหลแกล้งทำนมหกโว้ย...ทีนี้คนทั้งประเทศจะได้เห็น ว่าแกจงใจ เหยียบชายกระโปรงตัวเอง นังสตอเบอร์รี่”
เบอร์รี่ตาโตใจระทึก
ป้าไก่กำลังนั่งเก็บเศษมือถือที่หล่นกระจายอย่างเสียดายของ เก็บไปบ่นไป
“ยัยพิมบ้าไปแล้ว...ดูมันทำมือถือฉัน...แตกกระจายหมดเลย”
กลุ่มวรรษกับกลุ่มเจ๊เต่าวิ่งลิ่วมาทางป้าไก่
“ป้าไก่ เห็นยัยคุณพิมกับเบอรี่ไหม สองคนนั้นไปทางไหนกันแล้ว”
“จะไม่เห็นได้ยังไง ดูฝีมือนั่งคุณพิมมันทำกับมือถือฉันสิเนี่ย” ป้าไก่ยกเศษมือถือในมือให้ทุกคนดู
“หึ.. สมน้ำหน้า” เจ๊เต่าทำหน้ากวนประสาทป้าไก่
“ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่ไหนครับ” วรรษชลถาม
ป้าไก่เพิ่งนึกได้ ชี้ไป
“ทางโน้น”
ทุกคนมองตามมือป้าไก่ไปอย่างนึกเป็นห่วง วรรษชลรีบชวนทุกคนวิ่งตามไปช่วยเบอรี่
เบอร์รี่ยังคงพยายามยื้อตัวเองเอาไว้พร้อมกับร้องขอชีวิต
“อย่า!อย่าทำหนูนะคะพี่พิม...หนูขอ”
“ขอกี่ชั้นดีล่ะ ..ฮึ พี่พิมรักเบอรี่นะจ้ะ...เด็กโง่” นางพูดปุ๊บกระชากคอปั๊บ “มานี่นังงูพิษ”
เบอร์รี่เอียงคอมอง เห็นความลึกของขั้นบันไดที่ทอดลงไปยังพื้นชั้นถัดๆไปด้วยความกลัวสุดขีด ขณะที่ตาของเบอร์รี่ก็หลุกหลิกคิดแผนการ
“พี่จะทำหนูจริงๆใช่มั้ยคะ”
พิมพิชชายิ้ม ตาร้ายมีแผนการเหมือนกัน “ไม่ทำหรอก”
เบอร์รี่มองงง พิพิชชาหัวเราะว่า
“ต่อให้แกพยายามตอแหลแค่ไหน...แกก็อัพเลเวลไม่ทันฉันหรอก...แกต่างหากที่จะต้องเป็นคนร้ายกาจแทนฉัน สมกับความเลวของแก”
“พี่พิมจะทำอะไร”
“ตกบันไดแทนแกไงล่ะ”
เบอรี่ ตะลึง
“แล้วพอฉันตกบันได แกคงรู้ใช่มั้ย...คนที่ร้ายที่สุดในเกมนี้จะกลายเป็นแกทันที นังเขียว!”
พิมพิชชาหัวเราะ จากนั้นนำเบอรี่ออกจากแขน ผลักออกไป นางเผลอหัวเราะ จนโทรศัพท์หลุดมือตกลงไป ทั้งสองต่างมองโทรศัพท์ พิมพิชชาเห็นอย่างนั้น ก็หันหลังเตรียมปล่อยตัว
“อ๊าก”
ระหว่างนั้นเอง เบอร์รี่รีบวิ่งไปคว้าตัวพิมพิชชาขึ้นมา แล้วเหวี่ยงพิมพิชชาไปไม่ให้ตกบันได
“เสียใจด้วย....ข่าวใหญ่ ต้องเป็นของฉัน”
เบอร์รี่ หันหลัง ทิ้งตัวลงตกบันไดไป ฝ่ายพิมพิชชาตาโตคาดไม่ถึง
เบอร์รี่ที่หล่นลงมา นอนหงาย หันมาเจ็บก็เจ็บ แต่ยังยิ้มยั่วพิมพิชชา พร้อมกับควานมือไปหยิบมือถือมาถือเอาไว้ ยิ้มเย้ย ยัดมือถือใส่กางเกง พิมพิชชาตะลึง เบอร์รี่ร้ายกาจมาก ได้แต่ตะโกน
“นังเบอร์รี่”
วรรษชล และกลุ่มอรัญภัทรวิ่งมาเห็น เบอร์รี่นอนหงายอยู่ที่พื้น สีหน้าเจ็บหนัก ทุกคนตะลึง เบอร์รี่ครางเสียงแผ่วๆ
“ช่วยหนูด้วยค่ะ”
พิมพิชชาหลุด
“นังเด็กนรก”
พิมพิชชาปราดลงบันได แต่วรรษชลคว้าตัวเอาไว้ ดุเสียงดัง
“พอได้แล้วพิม”
วรรษชลเข้าล็อคตัวพิมพิชชาไว้ เจ๊เต่ากับเอี๊ยมรีบวิ่งไปดูเบอร์รี่ เวฬุยาและเขมปัญฑายืนดูไม่ห่าง แต่พิมไม่ยอมโกรธมาก
“ปล่อย ฉันนะวรรษ...ปล่อย”
“หยุดบ้าได้แล้วพิม แค่นี้คุณก็ทำให้เรื่องมันยุ่งมากเกินพอแล้ว รู้ตัวรึเปล่า” ??
เจ๊เต่าเงยหน้าขึ้นมาจากที่ดูเบอร์รี่
“ใช่คะ ขอให้เรื่องมันจบแค่นี้เถอะนะคะคุณพิม”
“ไม่ ปล่อยฉัน ฉันจะไปจัดการมัน แกนังเบอรี่”
“สงบสติอารมณ์หน่อยได้ไหมพิม คุณกำลังจะทำให้เรื่องมันบานปลายไปกันใหญ่นะ”
ป้าไก่เดินเข้ามาบอก กร้าว
“ ใช่...เรื่องนี้บานปลายแน่นอน”
พิมพิชชามองตาขวาง ป้าไก่พูดต่อ
“คุณทำร้ายเบอร์รี่ ตำรวจคงไม่ปล่อยคุณไว้แน่...เพราะมันเป็นการพยายามฆ่า”
พิมพิชชาหน้าโกรธจัด เพราะไม่ได้เป็นคนทำ ทุกคนจ้องมองเขม็ง เจ๊เต่ากับเอี๊ยมประคองเบอร์รี่อยู่ แอบก้มหน้าลงยิ้มเย้ยพอใจ
ท่ามกลางความมืด ในห้องนอนของอรัญภัทร เบอร์รี่นอนอยู่ ข้างๆ หันหลังให้ เธอนอนมองดูเบอร์รี่อย่างสงสาร แต่เบอร์รี่กลับนอนลืมตาโพลง ดวงตายิ้ม เป็นประกายบอกถึงความสุขใจ สาแก่ใจ
กลางคืนต่อเนื่องมา ท่ามกลางความมืด เบอร์รี่เดินขากระเผลก เข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตู เธอหยิบมือถือของพิมออกมา ก่อนจะถอดเม็มโมรี่การ์ดออก แล้วหักทิ้งโยนทิ้งในชักโครก ก่อนที่จะยืนยิ้มเจ้าเล่ห์สะใจ
อ่านต่อตอนที่ 12