มงกุฎริษยา ตอนที่ 16
ข่าวเรื่องฟ้ากับคิวรู้ไปถึงห้องเวิร์กช็อป สาวๆ ซึ่งร้อยมาลัยจวนจะเสร็จแล้ว เลยตั้งวงเม้าท์กันเรื่องนี้อย่างออกรส จอยเอ่ยขึ้นเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
“ตายแล้ว ตกลงฟ้าเป็นคนเอาเอกสารไปเหรอเนี่ย”
“ฉันว่าแล้ว เห็นหน้าซื่อๆ อย่างนั้นน่ะ ข้างในน่ะร้ายลึก” น้ำเสียงรุ้งลาวัลย์สะใจมาก
“เขาว่ามีทีมงานคอยช่วยขโมยให้นะ ที่ชื่อคิวน่ะ” ลีน่าว่า
ขนมนึกได้ “นางต้องแกล้งกลัวหนอนเพื่อออกไปสั่งงานผู้ชายชัวร์”
“อุ๊ย แล้วเขาเป็นอะไรกัน ทำไมถึงต้องช่วยกันกันโกงด้วยอ่ะ” เขียดถาม
“เป็นแฟนกันไง ไม่เห็นต้องถามเลย” ลีน่าบอก
“แล้วอย่างนี้จะโดนลงโทษยังบ้างก็ไม่รู้” ปุ้มอดสงสารไม่ได้
เมซี่โพล่งขึ้นว่า “ไล่ออกเท่านั้น ถ้าไม่โดนไล่ออก ฉันไม่ยอมด้วย”
ชมพู่ไม่พอใจ “นี่ทุกคน อย่าเพิ่งพูดกันไปดีกว่า ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างสอบสวน ฟ้าอาจจะไม่ได้ทำก็ได้นะ”
เมซี่แขวะ “Beautiful world มากกกก”
ปุ้มงง “อะไรเหรอ Beautiful world”
“ก็โลกสวยไงยะ”
ดาวดูพวงมาลัยอันสวยงาม พวงที่คิวซื้อมาให้ฟ้าก็ยิ้มพราย โดยไม่พูดอะไร
ชมพู่สังเกตเห็นรอยยิ้มนั้นของดาวพอดิบพอดี และก็ยิ่งทำให้เธอค้างคาใจ
ในขณะเดียวกัน บรรยากาศภายในห้องประชุมกองประกวดตึงเครียดถึงขีดสุด ฟ้า กับ คิว กำลังถูกพุฒิพัฒน์ ขจีนุช และเกรซสอบสวนหนัก ชัชชนม์นั่งหน้าเครียดอยู่ แนตตี้อยู่ข้างๆ
“จับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ ยังจะกล้าปฏิเสธอีกเหรอ คุณแม่ครับ ผมว่าต้องไล่ออกทั้ง 2 คนนะครับ”
“เรื่องพวงมาลัย ฟ้าก็รับสารภาพแล้ว จะหักคะแนนฟ้าเท่าไหร่ก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องเอกสาร ฟ้าไม่รู้จริงๆ ค่ะ...คิว บอกเขาไปสิ ว่าฟ้าสั่งแค่พวงมาลัย ฟ้าไม่รู้เรื่องเอกสารเลย”
“จริงๆ ครับ ผมก็ซื้อมาแต่พวงมาลัย ส่วนเอกสารนั่นมันมาอยู่ในถุงได้ยังไงก็ทราบเหมือนกันครับ”
“แล้วเอกสารของฉันมันมีขาเดินลงไปอยู่ในถุงนั่นได้เองเหรอ” เกรซโกรธจัด
ฟ้ากับคิว จนปัญญาไม่รู้จะตอบยังไง
“คิวหรือว่าเธออยากจะช่วยฉัน เลยไปขโมยเอกสารนี่มาให้ ใช่มั้ยคิว ยอมรับไปสิ”
คิวตกใจ “เปล่านะเปล่า ผมไม่ได้ขโมยมาจริงๆ”
“เอาล่ะ คิวจะขโมยหรือไม่ขโมยผมก็ไม่รู้ แต่ในเมื่อมันมาอยู่ในถุงของเขา ผมก็ขอรับผิดชอบ ผมกับคิวขอลาออกจากงานนี้ครับ”
ขจีนุชตำหนิ “ชัช เธอคิดว่าพอเธอลาออกแล้วปัญหาจะจบเหรอ นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเลยนะ”
“แล้วจะให้ผมทำยังไงครับ”
ขจีนุชหันมาหาเกรซ “คุณเกรซ ซองได้ถูกเปิดรึยังคะ”
เกรซหยิบซองมาดู พบว่าปากซองยังปิดสนิท
“ยังค่ะ”
“ในเมื่อความลับก็ยังไม่รั่วไหล หาตัวคนขโมยไม่ได้ ฉันก็ยังไม่ขอเอาผิดใครก็แล้วกัน”
“คุณแม่ครับ...” พุฒิพัฒน์แย้ง ไม่เห็นด้วย
“ฟ้า แต่เธอก็ยังมีความผิดฐานใช้คิวไปซื้อพวงมาลัย คุณเกรซคะ ตัดคะแนนฟ้าได้ตามสมควรนะคะ คิว ขอให้รู้ตัวว่าเธอมีหน้าที่อะไร อย่าได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับผู้เข้าประกวดอีก ชัช ฝากดูแลคนของเธอด้วย”
ฟ้าไหว้ “ขอบคุณค่ะ ต่อไปนี้ฟ้าจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ”
“ขอบคุณมากครับที่ให้โอกาส ต่อไปผมจะไม่ยุ่งอีกแล้วครับ” คิวรับคำหนักแน่น
พุฒิพัฒน์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เกรซเองก็ยังกังขาไม่เลิก
ขจีนุช กับเกรซเดินคุยกันมาตามทาง
เกรซท้วงติงด้วยเหตุผล “คุณขจีนุช เรื่องใหญ่แบบนี้แต่ไม่มีใครได้รับโทษเลย เราในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ปล่อยไปแบบนี้จะถูกต้องเหรอคะ”
“ในเวลาแบบนี้ นี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้วค่ะ ถ้าเราไล่ดนัยออก ชัชก็ต้องออกด้วย แล้วใครจะทำรายการให้เราคะ”
“แล้วฟ้าล่ะค่ะ ผู้เข้ารอบคนอื่นๆ จะคิดยังไง”
“ก็ในเมื่อเราไม่มีหลักฐานมัดตัว ถ้าลงโทษรุนแรงไปก็จะถูกหาว่าทำเกินกว่าเหตุอีก ที่พอทำได้ก็คือตัดคะแนนเรื่องพวงมาลัย แต่จะว่าไปแล้วคนของเราก็ผิดนะคะที่ประมาท ดีแล้วค่ะที่เกิดเรื่องต่อไปจะได้ระวังมากขึ้น ยังไงก็ฝากคุณเกรซดูด้วยนะคะ”
“ดิฉันเองก็ต้องฝากคุณขจีนุชด้วยค่ะ”
ขจีนุชงงที่ถูกย้อน “เรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องระเบียบกติกา แล้วก็ความยุติธรรมน่ะสิคะ ถ้ามันหละหลวมแล้วก็ไม่แข็งพอ เวทีของเราก็จะด้อยคุณค่าลงนะคะ แล้วก็ไม่ใช่ดิฉันคนเดียวที่รู้สึกอย่างนี้ คุณพุฒิเองก็คงไม่ค่อยพอใจเหมือนกัน”
ขจีนุชหนักใจ
ฟ้า ชัชชนม์ และคิวเดินคุยกันมา
“ชัชคะ ฟ้าขอโทษนะคะ ที่ทำให้เดือดร้อน”
“ช่างมันเถอะครับ คุณขจีนุชก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไรแล้ว”
“เฮ้ย แต่ฉันก็ยังข้องใจอยู่นะเว้ย ว่าซองนั่นมันมาอยู่ในถุงได้ยังไง”
“ฉันว่าต้องมีคนแอบเอามาใส่” ชัชชนม์มั่นใจ
“ใครมันจะเอามาใส่วะ ก็ฉันถือถุงอยู่ตลอดเวลา” ดิวนึกได้ “อ๋อ ตอนแรกฉันฝากถุงดาวให้เอาไปให้ฟ้านี่ อาจจะเป็นตอนนั้นก็ได้”
ฟ้าชะงัก “ดาว”
ชัชชนม์ท้วง “เฮ้ย มั่วแล้ว ดาวเนี่ยนะจะเป็นคนเอามาใส่”
“ฉันไม่ได้ว่าดาวทำ แต่หมายถึงดาวอาจจะวางไว้ที่ไหนแล้วใครแอบแกล้งมาใส่ไว้ก็ได้”
ฟ้าแค้นสุดๆ มั่นใจมากว่าดาวเป็นทำ
ถัดจากนั้น เกรซ แนตตี้ ทีมงาน 3 คน อยู่ในห้องประชุมใหญ่ 12 สาวนั่งเรียงหน้ากระดาน เกรซ กับแนตตี้อยู่หน้าสาวๆ พี่เลี้ยง ยืนดูข้างๆ
“หลังจากนี้ต่อไปก็ให้ขอทุกคนระวังตัวมากขึ้น และทางทีมงานก็จะเข้มงวดมากขึ้นด้วย เพราะฉันเชื่อว่าในหมู่พวเรามีผู้ไม่หวังดีที่จ้องจะแกล้งคนอื่นอยู่”
“หนูว่าไม่มีใครแกล้งหรอกค่ะ ฟ้านั่นแหละที่เป็นคนทำเอง” เมซี่ว่า
“เมซี่ เธออย่าร้อนตัวได้มั้ย คนที่ร้อนตัวส่วนมากจะเป็นคนทำนะ” ชมพู่ติง
“ฉันไม่ได้ร้อนตัว ก็ฟ้าทำให้คนอื่นถูกเพ่งเล็งไปด้วย ฉันจะยอมได้ไง”
เกรซเสียงเข้มใส่ “ไม่ต้องเถียงกัน เมซี่ พวกฉันสรุปให้เรื่องนี้จบแล้วก็เป็นอันว่าจบ ไม่ต้องมาเสนอความเห็นอะไรอีก”
เมซี่ไม่พอใจ หันไปจิกหน้าใส่ชมพู่และฟ้า
“เอาล่ะ สำหรับกิจกรรมร้อยมาลัยในวันนี้ ฉันก็ได้เลือกผลงานที่สวยที่สุดออกมาแล้ว นั่นก็คือ...”
แนตตี้หยิบพวงมาลัยสวยงามออกมาโชว์
“พวงมาลัยของดาว ปรบมือให้เพื่อนด้วยค่ะ”
ดาวลุกขึ้นไหว้ขอบคุณ ฟ้าจิกหน้าใส่ดาวเจ็บใจสุดจะประมาณ มือขยำมาลัยจนแหลก
ดาว เขียด และ ขนม เดินออกจากตึกช่อง แยกย้ายกันกลับบ้าน
“บ๊าย บายนะทุกคน”
ขนมแปลกใจที่ดาวไม่เดินออกไป “อ้าว แล้วดาวไม่กลับเหรอ”
“รอเพื่อนมารับ”
เขียด กะ ขนมโบกมือบ๊ายบาย แล้วพากันเดินออกไป
ในขณะที่ดาวยืนรอชัชชนม์มารับกลับพร้อมกัน จู่ๆ มีใครคนหนึ่ง ใช้มือข้างหนึ่งจิกหัวดาว ส่วนมืออีกข้างปิดปาก
ลากดาวออกไปอย่างรุนแรงโดยไม่ปรานีปราศรัย
อ่านต่อหน้า 2
มงกุฎริษยา ตอนที่ 16 (ต่อ)
เป็นฟ้านั่นเองที่จิกหัวกบาลดาวลากมากดไว้กับกำแพง
“อีดาว มึงใช่มั้ยที่เป็นคนแกล้งกู”
ดาวบอกอย่างสะใจ “เออ กูเก่งมั้ยล่ะ”
“อีใจสัตว์”
ฟ้าตบดาวเปรี้ยง!
“แล้วที่มึงเคยเอาผู้ชายมาข่มขืนกู เขาเรียกใจอะไร”
ดาวตบกลับเปรี้ยง ทั้ง 2 ตบกันไปมา
ชมพู่เดินออกมาเห็น รีบวิ่งเข้าไปห้าม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ หยุด”
ชมพู่แยก 2 คนออกจากกัน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย”
“ก็ดาว...”
ดาวแย่งพูด “ฟ้ามันหาว่าฉันแกล้งมัน อยู่ๆ ก็ลากฉันมาตบเลย”
“ดาวมันทำจริงๆ นะพู่ เมื่อกี้มันยอมรับมาแล้ว”
ดาวปฏิเสธ “จะบ้าเหรอฟ้า ฉันจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง แกหัดฟังคนอื่นบ้างสิ ไม่ใช่เอาแต่หวาดระแวง ขนาดเพื่อนด้วยกันก็ไม่เว้น”
ฟ้าบีบน้ำตาร้องไห้ตามถนัด พยายามอธิบาย
“พู่”
ชมพู่สวนออกมา “ฟ้า แกกลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวฉันคุยกับดาวเอง”
“พู่ นี่แกก็เข้าข้างมันเหรอ”
“ฉันไม่เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ แต่ขอให้แกกลับไปก่อน”
ฟ้าเสียใจร้องไห้หนัก ก่อนจะรีบออกไป
ชมพู่กับดาวเดินเข้ามานั่งคุยกันตรงจุดนั่งพัก ดาวเอ่ยขึ้นเป็นเชิงตัดพ้อว่า
“เกิดมาไม่เคยเห็นฟ้าเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะพู่ ทำไมเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ก็ไม่รู้”
“ดาว ฉันถามจริงเถอะ ตกลงแกทำรึเปล่า”
ดาวทำเป็นน้อยใจ “พู่ นี่แกก็สงสัยฉันเหรอ”
“ใช่ ตอนที่แกกลับจากไปส่งฟ้าที่ห้องพยาบาล ฉันเห็นแกซ่อนอะไรที่หลังโต๊ะในห้องประชุม”
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันทำเหรียญตก ฉันก็เก็บ”
“แต่ฉันเห็นเป็นเหมือนซองเอกสารนะ ฉันเดาว่าตอนที่แกกลับจากส่งฟ้าไปห้องพยาบาล แกแวะห้องน้ำแล้วบังเอิญเจอซองเอกสารเข้า แกเลยเก็บกลับมาซ่อนที่ห้องใช่มั้ย”
ดาวชะงักเพราะชมพู่เดาถูก เธอเข้าห้องน้ำแล้วเจอซองวางอยู่ แล้วเข้ามาในห้องประชมุใหญ่ เอาซองเอกสารซ่อนในซอก
ดาวรีบปฏิเสธ “พู่ นี่แกก็เป็นไปอีกคนเหรอเนี่ย”
“แล้วที่แกหายไปตอนกินข้าวเย็น เพราะแกกำลังเอาซองไปใส่ในถุงพวงมาลัยของฟ้าแล้วเอาไปให้คิว แล้วแกไปฟ้องคุณเกรซให้ตามไปดู”
ดาวเข้ามาห้องประชุมใหญ่ เอาซองเอกสารที่หยิบมาจากห้องน้ำใส่ในถุงของฟ้า จากนั้นจึงเอาถุงกระดาษมาคืนให้คิว และไปฟ้องเกรซ ว่าฟ้าแอบลักลอบพบคิว
“แล้วแกก็ให้คิวโทร.มาเรียกฟ้าออกไปเอา”
ตรงบริเวณโต๊ะกินข้าว ชมพู่ กับดาว นั่งทานข้าวกล่องอยู่ด้วยกัน ฟ้ามีโทรศัพท์เข้า จึงขอตัวไปรับ
ดาวนิ่งเงียบ
ชมพู่จ้องหน้า “ฉันเดาถูกใช่มั้ย”
ดาวรับสารภาพ “แกนี่ก็เดาเรื่องเก่งเหมือนกันนะ ...ใช่ ฉันทำเอง”
“ดาว! แกทำอย่างนั้นทำไม แกแกล้งฟ้าทำไม” ชมพู่แปลกใจ
“แกลองเดาอีกซักเรื่องสิ เดาสิ ว่าทำไมฉันถึงต้องทำแบบนี้”
ชมพู่มองเห็นแต่ความแค้นในดวงตาของดาว เลยชักหวั่นๆ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอดาว”
“แกไม่มีทางเดาถูกหรอก ว่าฟ้ามันทำอะไรไว้กับฉัน มันเลวร้ายเกินกว่าใครจะนึกได้”
ชมพู่ได้รับรู้เรื่องราวจากปากของดาว เริ่มจากตอนถูกฟ้าเอาน้ำผสมยาปลุกเซ็กซ์ให้ดาวกิน จนดาวมึนงงไม่ได้สติ จากนั้นท็อปก็เข้าปลุกปล้ำดาว จนเปรมจิตมาเห็น
สุดท้ายเป็นฉากที่เปรมจิตโยนกระเป๋าใส่หน้าดาว และไล่ตะเพิดออกจากบ้าน
ชมพู่อึ้งไม่อยากเชื่อ “ฟ้ามอมยาแก เพื่อให้คนมาข่มขืนแกเนี่ยนะ”
“นึกไม่ถึงใช่มั้ยล่ะ เพียงเพราะต้องการให้ฉันถูกไล่ออกจากบ้าน จะได้ไม่มีใครไปคอยแย่งซีนมัน”
ชมพู่เสียใจมาก “เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ทำไมเพื่อนถึงต้องมาแตกกันแบบนี้ด้วย”
“ความริษยาไงพู่ ความริษยามันไม่เลือกหรอกว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร แม้กระทั่งเพื่อน”
ฝ่ายชัชชนม์กำลังจะกลับบ้าน เขาสะพายกระเป๋าเดินคุยโทรศัพท์กับดาวไปด้วย
“ดาว รออยู่ข้างล่างนะครับ ผมกำลังลงไป”
พอวางสาย พุฒิพัฒน์เดินเข้ามาหาพูดจาแดกดันน้องชายทันที
“คนนึงยุ่งกับฟ้า อีกคนยุ่งกับดาว ถ้าข่าวนี้รู้ออกไปถึงสื่อ คงโดนโจมตีหนักแน่”
ชัชชนม์ฉุน “แกก็ยุ่งกับพู่เหมือนกัน”
“แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดกติกาเหมือนเพื่อนแก”
“คิวมันก็บอกแล้วว่ามันไม่ได้ทำ”
“ไม่มีใครเชื่อหรอก แต่ที่แก 2 คนไม่โดนไล่ออก เพราะแม่ฉันเขาพิศวาสแก”
“เหรอ การที่เขาทิ้งฉันไปตั้งแต่เล็กๆ นี่เรียกพิศวาสเหรอ ตรงกันข้าม คนที่แม่พาไปด้วย คือแกต่างหาก ตั้งแต่วันที่แม่กับแกออกจากบ้านไป ฉันคิดมาตลอดนะว่าฉันไม่ใช่ลูกแม่ แม่มีลูกคนเดียวก็คือแก”
“ไม่รู้อะไรแล้วอย่าพูดดีกว่า”
พุฒิพัฒน์โมโห ตัดสินใจเล่าความจริงเมื่ออดีตให้น้องชายฟัง
เช้าวันนั้น เมื่อ 20 ปีก่อน ขจีนุชเดินร้องไห้เข้ามาในโถงคฤหาสน์ พุฒิพัฒน์งงว่าแม่เป็นอะไร ไพศาลตามมาปลอบ สักครู่จึงเห็นสาวใช้ถือกระเป๋าขจีนุชขึ้นไปเก็บชั้นบน
“หยุดร้องไห้ได้แล้วน่า ร้องมาตลอดทางแล้วยังไม่พออีกเหรอ ในเมื่อคุณเลือกที่จะมาอยู่กับผมแล้ว คุณก็ต้องตัดใจจากครอบครัวนู้นให้ได้”
“ขอเวลาชั้นทำใจหน่อยเถอะค่ะ นั่นลูกผัวชั้นทั้งคนนะ”
พุฒิพัฒน์อยู่ตรงนั้น ได้แต่มองหน้าแม่ น้อยใจที่ตัวเองก็อยู่ตรงนี้ทั้งคนแต่ขจีนุชกลับไม่สนใจเลย
เวลาผ่านไปสักระยะ เด็กชายพุฒิพัฒน์หลบมานั่งเหงาอยู่ในสวนสวยหลังคฤหาสน์ ใช้กิ่งไม้เขี่ยดินเล่น สักครู่หนึ่งมีรถเด็กเล่นแล่นมาชนเท้าเบาๆ พุฒิพัฒน์หยิบมาดู เงยหน้าขึ้นเห็นไพศาลยืนยิ้มให้อยู่แล้ว
“ให้ผมเหรอครับ”
“ใช่ ชอบมั้ย”
“ชอบครับ ขอบคุณครับคุณลุง”
“เรียกพ่อว่าพ่อสิลูก”
“คุณลุงไม่ใช่พ่อผม พ่อผมอยู่ที่บ้านครับ”
ไพศาลเข้ามานั่งใกล้ๆ โอบไหล่เด็กชาย ทำความสนิทสนม
“ฟังนะพุฒิ พ่อตัวจริงของพุฒิคือคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ แล้วบ้านของพุฒิก็คือบ้านหลังนี้ ส่วนคนอื่นๆ พุฒิลืมไปซะเถอะ พุฒิมีครอบครัวใหม่แล้ว”
พุฒิพัฒน์คิดตาม
“แต่แม่ยังไม่ลืมใช่มั้ยครับ ถ้าชัชมาอยู่บ้านนี้แทนผม แม่คงจะไม่ร้องไห้” เด็กชายตัดพ้อด้วยความน้อยใจ
“พูดอะไรอย่างนั้นลูก ให้เวลาแม่เขาหน่อย เดี๋ยวแม่ก็ลืมบ้านนู้นเอง”
ไพศาลกอดพุฒิพัฒน์ ถ่ายทอดความรักและความจริงใจไปให้
ได้ฟังถึงตรงนี้ชัชชนม์อึ้งไปถนัดตา เขาเพิ่งรู้ว่าแม่เสียใจมากแค่ไหนที่ต้องจากเขากับพ่อไป
“แต่พ่อฉันคิดผิด ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่ไม่เคยลืมแกกับพ่อแกเลยสักวัน แล้วความรักที่แม่มีให้กับแกกับพ่อแก ก็ทำให้เกิดเรื่องจนได้”
ตอนกลางคืนวันหนึ่ง เมื่อ 8 ปีที่แล้ว
ขจีนุชคุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งอยู่ในบ้านไพศาลด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ
“ชัชเขาติดหนี้คุณอยู่เท่าไหร่ ได้ ฉันจะรีบไปใช้ให้ แต่พวกคุณห้ามทำอะไรชัชเด็ดขาดนะ รอฉันก่อน”
ไม่นานถัดมาพุฒิพัฒน์ในชุดนักศึกษาสะพายเป้ถือใบเกรดเข้าบ้านมาในห้องโถงอย่างอารมณ์ดี เห็นขจีนุชถือกระเป๋าลงบันไดมาอย่างรีบเร่ง
“แม่ครับ เกรดเทอมนี้ผมออกแล้วนะครับ” เด็กหนุ่มยื่นใบเกรดให้แม่ดู
“พุฒิ แม่กลับไปหาชัชนะ เขากำลังต้องการความช่วยเหลือด่วน”
“ทำไมต้องช่วยครับ เราตัดขาดกันแล้วไม่ใช่เหรอ”
“สงสารชัชเขานะลูก เขาตัวคนเดียว พ่อเขาก็เสียไปตั้งนานแล้ว แม่ไปไม่นานหรอก แล้วอย่าบอกให้พ่อรู้ล่ะ”
ขจีนุชเร่งรีบออกไป พุฒิพัฒน์เสียใจมากที่แม่ไม่สนใจตัวเอง มันก่อตัวเป็นความรู้สึกโกรธเกลียดต่อชัชชนม์ ไพศาลเดินตามลงมา
“พุฒิ แม่แกไปไหน”
พุฒิพัฒน์เอาแต่เงียบไม่ยอมตอบ
“บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าแม่แกไปไหน! กลับไปบ้านนู้นอีกแล้วใช่มั้ย”
พุฒิพัฒน์พยักหน้ารับ ไพศาลยิ่งโกรธหยิบกุญแจรถแล้วจะออกจากบ้านไป
“พ่อครับ ไม่ต้องไปตามหรอกครับ ถ้าแม่อยากจะอยู่กับบ้านนู้นก็ปล่อยเขาไปเถอะ”
“มันเป็นเมียฉัน มันต้องอยู่กับฉัน”
ไพศาลโลดลิ่วออกไป พลอย เด็กหญิงวัย 12 ขวบ น้องสาวพุฒิพัฒน์วิ่งตามลงมาอีกคน
“พี่พุฒิ เกิดอะไรขึ้นคะ”
“พ่อจะไปตามแม่กลับบ้าน”
“งั้นพลอยไปด้วยดีกว่า กลัวพ่อจะทำอะไรรุนแรง”
พลอยวิ่งตามออกไป
“พ่อขา รอพลอยด้วยค่ะ”
ชัชชนม์ฟังแล้วถึงกับอึ้ง นิ่งงันไปเลย
“นี่แกมีน้องสาวด้วยเหรอ”
“อืม แล้วคืนนั้น พ่อฉันขับรถเร็วมากเพื่อจะไปตามแม่กลับ เลยแหกโค้งก่อนถึงจะถึงบ้านแกแค่นิดเดียว นั่นเป็นวันสุดท้ายที่ฉันได้เห็นหน้าพวกเขา ความรักที่แม่มีให้แกมันฆ่าครอบครัวฉัน”
ชัชชนม์ตะลึงตะไล
“ทำไมฉันไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลย”
“ก็เพราะแม่ไม่อยากให้แกรู้ไง แม่ปกป้องแกจากเรื่องพวกนี้ แล้วฉันล่ะ ฉันต้องทนทุกข์อยู่กับมันมาตลอดชีวิต”
ชัชชนม์ช็อกกับเรื่องราวที่เพิ่งได้รับรู้ ชายหนุ่มใจหายสะท้อนในอก
เพราะเท่ากับว่าเขาเข้าใจขจีนุชผิดเอาแต่คิดแค้นมารดาตลอด 20 ปีมานี้
อ่านต่อหน้า 3
มงกุฎริษยา ตอนที่ 16 (ต่อ)
หลายวันต่อมา นับตั้งแต่เช้าสาวๆ เริ่มเวิร์กช็อปด้วยการแต่งหน้า ทำผม มีเกรซเป็นคนสอน โดยแนตตี้เป็นแบบสาธิต นางงามทั้ง 12 นั่งเรียนอย่างตั้งใจ
พอสาธิตเสร็จ เกรซก็ให้สาวงามจับคู่ฝึกแต่งหน้าให้กันและกัน
ชมพู่จับคู่กับเมซี่ โดยชมพู่เป็นคนแต่งให้ ขณะที่ชมพู่หันไปหยิบเครื่องสำอางที่โต๊ะ ก็เห็นสายตาพุฒิพัฒน์จากในกระจกมองจ้องมายังเธอ แถมพุฒิพัฒน์ยังยักคิ้วหลิ่วตาให้อีก ชมพู่รีบหันหน้าหนีจากกระจกมาแต่งหน้าต่อ
อีกมุม ฟ้านั่งคู่กับดาว ฟ้าหยิบอายไลเนอร์มากรีดตาให้ แต่กลับกรีดเข้าไปในดวงตา ดาวลุกขึ้นมาโวยวายใหญ่ ทีมงานเข้ามาดู ฟ้าทำเป็นขอโทษดาว ชัชชนม์รีบเข้ามาประคองดาวออกไปข้างนอก
อีกวันเป็นเวิร์กช็อปเต้นรำ สำหรับเข้างานสังคม เกรซเต้นกับพุฒิพัฒน์ให้ดูเป็นตัวอย่าง
พอถึงเวลาซ้อม ชมพู่ต้องเต้นกับพุฒิพัฒน์ นางงามที่เหลือนั่งดู เมซี่มองเขม่นด้วยความหมั่นไส้ ดาวยกมือขอเต้นเป็นคิวต่อไป ชมพู่รีบผละออกดาวเดินเข้าไปเต้นแทนที่โดยไว
สาวงามจับคู่ฝึกเต้นรำกันเอง ชมพู่เต้นคู่กับฟ้า ดาวเต้นคู่กับปุ้ม เมซี่เต้นกับนรีและอาศัยจังหวะที่จับนรีหมุนตัว แล้วผลักนรีไปชนกับชมพู่ที่เต้นอยู่จนล้มลง ชมพู่รีบลุกขึ้นมาเต้นต่อ ด้วยไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่
วันเวลาผ่านไป กองประกวดมิสเพอร์เฟ็กต์ ไทยแลนด์ ได้พาสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้าย ทำเวิร์กช็อป กิจกรรมต่างๆ ร่วมกันเป็นเวลาถึง 1 เดือนเต็มๆ
โดยในวันนี้ สาวๆ พร้อม อยู่ในห้องประชุมช่องอินฟินิตี้กันตั้งแต่เช้า โดยมีเกรซกำลังพูดคุยกับ 12 คนในโค้งสุดท้ายของการชิงมงกุฎในตำนานของแวดวงขาอ่อน
“จากการเวิร์กช็อป ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้ทุกคนก็พร้อมแล้ว ที่จะเข้าสู่ Perfect House หวังว่าทุกคนจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาทั้งหมด ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ขอให้โชคดีค่ะ”
ในตอนสายๆ 12 สาว อันประกอบด้วย ชมพูนุช ดาวิกา ฟ้ารุ่ง รุ้งลาวัลย์ จอย ลีน่า เมซี่ ปุ้ม เขียด นรี ปรางค์ และ ขนม แต่งตัวสวยงามตามท้องเรื่อง ทุกนางลากกระเป๋าสัมภาระมายืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่หน้าบ้านหลังงาม เพอร์เฟ็กต์ เฮ้าส์ แต่ละนางยิ้มหวานสวยงามตามจริตใครมัน ราวกับประชันกันอยู่บนเวที
“คัต” เสียงชัชชนม์ดังขึ้น ก่อนจะเห็นเขาลุกขึ้นจากโต๊ะมอนิเตอร์เดินเข้ามาหาผู้เข้าประกวด
“ดีแล้วครับ แต่ทีนี้ผมขอให้เพิ่มความมุ่งมั่นในการมาแข่งขัน สีหน้ามั่นใจในแบบของตัวเอง เพราะบ้านเพอร์เฟคท์ไม่เหมือนเวทีการประกวด เราต้องการเห็นตัวตนของพวกคุณ ความสมบูรณ์แบบที่มีอยู่ในชีวิตจริง ไม่ใช่แค่บนเวที ผมขออีกครั้งนะครับ”
พุฒิพัฒน์ซึ่งมาดูการถ่ายทำอยู่ด้วย เดินเข้ามาสมทบ
“พัก 10 นาทีครับ”
ชัชชนม์มองหน้าพุฒิพัฒน์ ไม่พอใจที่ถูกก้าวก่าย แต่ไม่พูดอะไร
พุฒิพัฒน์มองไปยังชมพู่ และพบว่ามีปอยผมตกลงมาปรกหน้า จึงหันไปทางช่างหน้า ช่างผม ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ช่าง เข้ามาดูหน้าผมผู้เข้าประกวดก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยถ่ายต่อ”
ช่างผมช่างหน้าแถเข้ามาในเซ็ต ดูแลสาวงามแทบไม่ทัน
พุฒิพัฒน์มองชัชชนม์อย่างท้าทาย แล้วเดินไปที่มอนิเตอร์ ชัชชนม์เดินตามพี่ชายไป
“แค่จะแก้ผมคนๆ เดียว ต้องพักทั้งกองเลย เสียเวลาแทนที่จะรีบๆ ถ่ายให้เสร็จ” เมซี่บ่นบ้า
ดาวเหล่มองชมพู่ นึกตะหงิดๆ ในใจว่าชมพู่กับพุฒิพัฒน์มีอะไรกันบางอย่าง
“หรือเธอไม่อยากพัก ถ้าไม่อยากก็ยืนหน้ามันผมฟูอยู่ตรงนี้ละกัน”
จอยว่าแล้วชวนคนอื่นๆ เดินไปหาช่างให้ช่วยดูหน้าดูผม
“เอ๊ะ”
เมซี่หงุดหงิดที่ไม่มีใครเป็นพวก สุดท้ายก็เดินไปให้ช่างดูหน้าผมด้วย
ชัชชนม์เดินตามพุฒิพัฒน์มาที่โต๊ะมอนิเตอร์
“แกไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายงานของฉัน ที่นี่ฉันเป็นผู้กำกับ”
“แต่ฉันเป็น ผอ.ช่อง”
“ก็กลับไปทำงานที่ช่องแกสิ”
“แล้วปล่อยให้แก กับคนของแกทำผิดกฎ เที่ยวเอาความลับของการประกวดไปให้ผู้เข้าแข่งได้ตามใจชอบงั้นเหรอ”
“บอกแล้วมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไอ้คิวมันไม่ได้ทำ”
“งั้นใครทำ”
ชัชชนม์อึกอักอ้ำอึ้ง บอกไม่ได้ว่าลึกๆ แล้วเขาเองก็สงสัยดาว โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงตอนได้คุยกับคิวและฟ้า
“ใครมันจะเอามาใส่วะ ก็ฉันถือถุงอยู่ตลอดเวลา” คิวบอกแล้วนึกได้ “อ๋อ ทีแรกฉันฝากดาวจะเอาไปให้ฟ้า อาจจะเป็นตอนนั้นก็ได้”
ชัชชนม์พูดไม่ออก
“แม่อาจจะยอมแก แต่ฉันไม่ยอมแน่ๆ”
พุฒิพัฒน์เดินหุนหันออกไป ชัชชนม์ได้แต่เจ็บใจ
สาวๆ แต่ละคน เตรียมตัวถ่ายทำต่อ
ชมพู่หลบมุมมาซ้อมเดินอยู่เพียงลำพัง สักครู่พุฒิพัฒน์จึงเดินเข้ามาหา พร้อมกับพูดเอ็ดเอา
“เดินให้มันสวยๆ หน่อยสิ”
“นี่คุณไม่มีงานทำเหรอ”
“ผมก็เข้ามาบรีฟผู้เข้าประกวดไง นี่ไงงานผม”
“ก็ไปบรีฟคนอื่นสิ”
“คนอื่นเขาทำดีแล้ว เหลือคุณที่ยังมีปัญหา”
“ปัญหาอะไร”
“ปัญหากับผมไง” พุฒิพัฒน์โน้มหน้าเข้าใกล้ชมพู่ในระยะประชิด “ทำไมต้องโกหกว่าเป็นแฟนกับไอ้ชัชด้วย ไอ้ชัชมันบอกผมหมดแล้ว”
“ฉันต้องไปเตรียมตัวถ่ายแล้ว”
ชมพู่เบือนหน้าหนี พุฒิพัฒน์คว้ามือไว้ ดาวเดินเข้ามาพอดี
“พู่”
ชมพู่สะบัดมือออกจากพุฒิพัฒน์โดยไว
“สวัสดีค่ะคุณพุฒิ”
“ครับ” พุฒิพัฒน์ทักตอบแกนๆ สีหน้าดูออกว่าอึดอัดมาก
“พู่ เขาเรียกแล้ว”
ชมพู่เดินหนีไปโดยไว ดาวยังคงมองจ้องหน้าพุฒิพัฒน์ด้วยความรู้สึกเสียใจน้อยใจ จากนั้นจึงเดินตามชมพู่ออกไป
พุฒิพัฒน์เครียด ลึกๆ เขาเองรู้สึกผิดต่อดาวไม่น้อย
ถัดมา การถ่ายทำรายการเรียลิตี้ มิสเพอร์เฟ็กต์ฯ เริ่มด้วยช็อตเปิดตัว 12 คนสุดท้าย ผู้เข้าประกวดเดินเรียงแถวกันมา ผ่านหน้ากล้องแล้วโพสท่า
ชัชชนม์ดูอยู่ที่หน้ามอนิเตอร์ ส่วนคิวคอยเป็นโค้ชแอ็คติ้งใช้สาวๆ อยู่หน้าเซ็ต ให้ผู้เข้าประกวดเดินไปบล็อกต่างๆ ที่วางไว้
เกรซสอนทุกคนโพส แนตตี้และลูซี่ คอยช่วยแต่ละคน
ชัชชนม์จ้องมอนิเตอร์ คอยสั่งการ พุฒิพัฒน์ยืนดูอยู่ห่างๆ วางมาดเข้มด้วยท่าทีเฉยชา 12 สาวซ้อมโพสท่าอย่างจริงจัง ด้วยความตั้งอกตั้งใจ เกรซ และ สองผู้ช่วยลูซี่และแนตตี้ ยิ้มพอใจ
มองจากมุมสูงลงมาสู้หน้าบ้านเพอร์เฟ็กต์เฮ้าส์หลังงาม สาวๆ ยืนเรียงแถวหน้ากระดานกระโดดพร้อมกับร้อง “เฮ้” พร้อมเพรียง ชัชชนม์ยิ้มพอใจ
“คัต! เรียบร้อยครับ”
ทุกคนปรบมือดีใจ เกรซเอ่ยขึ้นว่า
“เอาล่ะ เดี๋ยวใกล้เวลาถ่ายทอดสดแล้ว ทุกคนไปรวมที่สวนได้เลย”
สาวๆ เดินออกไปที่สวนสวย ทีมงานพักกอง
ชัชชนม์ถอดหูฟังกำลังจะลุกเดินออกไป ขจีนุชเดินปรบมือเข้ามาหาชัชชนม์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ดีมากเลยชัช”
ชัชชนม์ดูขัดเขินไม่น้อยหลังรู้ความจริงจากพี่ชาย “รอดูแบบที่ตัดต่อเสร็จแล้วก่อนไหมครับ แล้วค่อยชม”
“ก็ชัชเก่งจริงๆ นี่ลูก” เห็นลูกชายนิ่งงันไป ขจีนุชก็นิ่งไปพักหนึ่ง “ชัชคงไม่คุ้น เพราะแม่ไม่เคยได้อยู่ให้กำลังใจชัชมาก่อน แต่ตอนนี้แม่มีโอกาสแล้ว ให้แม่ได้ทำหน้าที่ของแม่บ้างได้ไหมชัช”
ชัชชนม์นิ่งคิดสักพัก “ผมมีเรื่องอยากถามคุณหน่อย”
ขจีนุชแปลกใจในสีหน้าท่าทางลูกชายคนเล็ก
ผู้เข้าประกวดนั่งเรียงกันอยู่รอฟังบรีฟจากคุณเกรซ
“อีกไม่กี่นาที ทุกคนจะได้เข้าไปอยู่ในบ้านเพอร์เฟค เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ ยกเว้นจะเรื่องฉุกเฉิน หรือเหตุจำเป็น โดยที่ในบ้านนั้นจะมีกล้องคอยจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของทุกคนทุกซอกทุกมุม”
เขียดหันไปหากระซิบกับเมซี่ด้วยท่าทีตื่นเต้นมาก
“ตื่นเต้นจังเลย หญิงเขียดอยากเข้าบ้านเรียลิตี้แบบนี้มานานแล้ว”
เมซี่หันมามองเหยียดใส่หญิงเขียด ที่ตื่นเต้นกับเรื่องแค่นี้
“ทางทีมงานจะคอยตัดเอาภาพที่พวกเราอยู่กันในบ้าน และช่วงทำกิจกรรม ไปออกรายการทุกวัน เพื่อให้ผู้ชมทางบ้านร่วมโหวตว่าใครเป็นหญิงไทยที่สมบูรณ์แบบ เหมาะกับการเป็นมิสเพอร์เฟ็กต์ ไทยแลนด์ 2016”
สาวๆ ออกอาการตื่นเต้น เกรซอธิบายต่อว่า
“แต่นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น คะแนนอีกส่วนจะมาจากการทำกิจกรรมในบ้าน และจากกรรมการที่คอยจับตาดูพวกเธออยู่ทุกฝีก้าว หากใครทำผิดกฎจะต้องโดนหักคะแนนทันที” ผู้จัดการกองประกวดเอ็มพีมองไปยังฟ้าเป็นเชิงตำหนิ จนฟ้าหลบตาวูบ “และแน่นอนว่าทุกคะแนนย่อมมีผลต่อตำแหน่งชนะเลิศ ทีนี้ก็มาฟังกฎของบ้านกันได้ แนตตี้ เชิญ”
แนตตี้เดินนวยนาดมาดสวยเข้ามา อธิบายกฎในบ้านเพอร์เฟ็กต์ ระหว่างนี้เกรซจับตาดูสาวๆ อย่างเข้มงวดเอาจริง
ฝ่าย ชัชชนม์ และ ขจีนุช ยืนเผชิญหน้ากันอยู่ในมุมลับตาภายในบ้านเพอร์เฟ็กต์
“มีอะไรเหรอชัช”
“พุฒิมันบอกผมว่า...”
คิวเดินเข้ามาตาม “ไอ้ชัช” แต่พอเห็นชัชชนม์อยู่กับขจีนุชก็รีบออกตัว “เอ่อ...เดี๋ยวผมค่อยมาดีกว่า”
“มีอะไรไอ้คิว”
“เดี๋ยวจะถึงเวลาออนแอร์ละ ไปที่ห้องมอนิเตอร์ได้แล้ว”
“อืม ไปสิ”
คิวเดินออกไป ชัชชนม์ลุกตามไป ขจีนุชเรียกไว้
“เดี๋ยวสิชัช แล้วเรื่องที่จะถาม”
“ผมรอมาแล้ว 20 ปี รออีกนิดหน่อยคงไม่เป็นไร”
ชัชชนม์เดินนำออกไปดื้อๆ
ขจีนุชนิ่วหน้าสงสัยว่าลูกชายคนเล็กจะพูดเรื่องอะไรกับตน
อ่านต่อหน้า 4
มงกุฎริษยา ตอนที่ 16 (ต่อ)
ภายในห้องคอนโทรลยามนี้ ทั่วทั้งห้องมีมอนิเตอร์อยู่หลายตัว แสดงภาพที่ถ่ายตามซอกมุมต่างๆ ของบ้าน คิวอยู่ที่หน้าโต๊ะมอนิเตอร์ ชัชชนม์เดินเข้ามา หยิบหูฟังมาสวมเตรียมพร้อม ขจีนุชตามเข้ามา นั่งดูอยู่ห่างๆ ทางด้านหลัง
คิวเป็นคนให้คิว “เตรียมเข้ารายการในอีก 5 4 3 2....”
โลโก้ประจำการประกวดมิสเพอร์เฟ็กต์ฉายขึ้นจอ ตามมาด้วยชื่อรายการ Miss Perfect Reality เมื่อตัดเข้ารายการ เห็นเป็นเกรซเดินเข้ามาด้วยท่วงท่าและมาดอันสง่างามกลางโถงบ้าน ทำหน้าที่พิธีกรประจำรายการ
“สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Miss Perfect Reality ค่ะ”
ทีมกล้องทำงานอย่างหนัก เกรซดำเนินรายการไปตามมุมเก๋ๆ ไก๋ ต่างๆ ทั่วบ้าน ชนิดไม่มีซ้ำ
“รายการเรียลลิตี้ที่จะมาเผยเส้นทาง ก่อนจะมาเป็น Miss Perfect Thailand ทุกอย่างที่ท่านจะได้เห็นคือเรื่องจริง ว่าเบื้องหลังภาพสวยงามบนเวทีนั้น พวกเขาต้องฟันฝ่า หรือฟาดฟันอะไรมาบ้าง เพื่อให้เข้าใกล้คำว่า Perfect
เกรซเปลี่ยนมุมอีก
“ขอเชิญพบกับสาวงามทั้ง 12 คน ว่าที่ Miss Perfect ได้เลยค่ะ”
ภายในคอนโทรล ชัชชนม์ตัดเข้า VTR ผู้เข้าแข่งขัน 12 คนสุดท้าย ก่อนจะเอาหูฟังออกอย่างเบาใจ ขจีนุชยิ้มชื่น ออกปากชมลูกชาย
“คอนเส็ปต์รายการดีมากเลยนะชัช”
“ผมเป็นคนดูมาก่อน ผมเข้าใจดีครับ ว่าคนดูเขาอยากรู้ว่าอะไรอยู่หลังฉากความสวยงาม ที่พวกนางงามพยายามปกปิดเอาไว้”
ขจีนุชชะงักงันไป มองลูกชายด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ
ในห้องโถงเพอร์เฟ็กต์เฮ้าส์ ผู้เข้าประกวดทั้ง 12 คน ยืนเรียงหน้ากระดานแล้วไหว้อย่างพร้อมเพรียงกัน เกรซเดินเข้ามาตรงกลางข้างหน้าทั้ง 12 คน
“และท่านผู้ชมก็ได้รู้จักผู้ประกวดทั้ง 12 คนแล้วนะคะ ต่อไปเราไปรู้จักกับบ้านเพอร์เฟ็กต์ไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ” เกรซหันไปหาผู้เข้าประกวด “พร้อมไหมคะสาวๆ”
“พร้อมค่ะ” 12 สาว ประสานเสียงยิ้มสู้ตาย
“ไปชมกันเลยค่ะ”
ช่วงนี้แนตตี้เป็นพิธีกรภาคสนาม
“และในระหว่างที่คุณเกรซพาสาวงามทั้ง 12 ไปทัวร์บ้านนะคะ แนตตี้จะบอกความลับให้กับท่านผู้ชมทราบค่ะ ในบ้านมีกล้องทั้งหมด”
ชัชชนม์ คิว และ ขจีนุช ดูมอนิเตอร์อยู่ในห้องคอนโทรล เห็นภาพแนตตี้กำลังดำเนินรายการอยู่
“เฮ้ยไอ้ชัช อย่างฉันเป็นพิธีกรภาคสนามได้ไหม”
“อะไรของแกวะ”
“เห็นคุณแนตตี้ทำแล้วน่าสนุกดีว่ะ” คิวว่า
“ให้คิวลองดูสิชัช” ขจีนุชบอก
“ไอ้คิวมันเพ้อเจ้อ อย่าสนใจมันเลยครับ”
“แต่แม่พูดจริง มีพิธีกรชายภาคสนามบ้าง รายการจะได้ไม่มีแต่ผู้หญิง ให้คิวมาเป็นพิธีกรดูหน่อยนะ”
พุฒิพัฒน์เดินเข้ามาได้ยินพอดี ก็ออกอาการขุ่นเคือง
“จะเอาใจกันไปถึงไหน”
ทุกคนหันไปเจอพุฒิพัฒน์ยืนหน้าบูดอยู่ที่ประตู และมองมาด้วยความไม่พอใจ
“ทำอะไรก็นึกถึงรายการบ้าง ไม่ใช่อะไรๆ ก็จะยอม เพื่อซื้อใจลูกชายสุดที่รักอย่างเดียว เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ควรจะแยกแยะนะครับ”
“คนที่ไม่แยกแยะน่ะ คือใครกันแน่พุฒิ ทุกการตัดสินใจ แม่ทำเพื่อการประกวดทั้งนั้นนะ”
“เลิกหลอกผมได้แล้ว นึกว่าผมไม่รู้เหรอ ว่าแม่อยากให้ไอ้ชัชกลับมาอยู่กับแม่ใจจะขาด ขอโทษนะที่แม่ต้องอยู่กับผม แทนที่จะอยู่กับลูกชายสุดที่รัก”
พุฒิพัฒน์เดินหงุดหงิดออกจากห้องไปเลย
ชัชชนม์ กับ ขจีนุช เครียด คิวมองสองคน และมองตามพุฒิพัฒน์อย่างงงๆ
เกรซเดินพาผู้เข้าแข่งขันกลับมาที่ห้องโถง
“ทุกห้องจะมีกล้องอยู่ ยกเว้นห้องเดียวคือ ห้องน้ำ และเป็นห้องเดียวที่ทุกคนจะถอดไมค์ออกได้ นอกนั้นต้องเปิดไมค์ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนโทรศัพท์”
เกรซชี้ไปที่โทรศัพท์ตรงโต๊ะ
“เราอนุญาตให้แต่ละคนใช้โทรศัพท์ได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 5 นาที ส่วนโทรศัพท์ส่วนตัว จะใช้อินเตอร์เนตได้เท่านั้น เพื่อรับรู้เหตุการณ์บ้านเมือง แต่เล่นได้เฉพาะช่วงพักเท่านั้น มีใครมีคำถามไหมคะ”
ผู้เข้าประกวดทุกคนส่ายหน้า
“งั้นเรามารู้จักอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ ในบ้าน นั่นก็คือ...”
เกรซดีดนิ้ว ผลคะแนนแสดงขึ้นที่โปรเจ็กเตอร์ตรงผนัง เป็นแผนภูมิแท่ง คะแนนทุกคนเท่ากันหมด สาวๆ ฮือฮา
“ผลคะแนนของทุกคนในแต่ละวัน ซึ่งเป็นผลคะแนนโหวตจากทางบ้าน รวมกับคะแนนจากกิจกรรม ส่วนคะแนนของกรรมการจะยังเป็นความลับ จนกว่าถึงรอบสุดท้าย”
ผู้เข้าประกวดมองหน้ากันอย่างตื่นเต้น
“ถ้าไม่มีคำถามอะไร ก็ขอให้ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อนได้ ส่วนใครจะนอนกับใครนั้น มีชื่อแปะไว้ที่หน้าประตูแล้วเรียบร้อย ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ”
ทุกคนไหว้เกรซ “ขอบคุณค่ะ”
เกรซยิ้มรับไหว้
จากนั้นสาวๆ ต่างกระจายตัวไปที่หน้าห้องต่างๆ เพื่อดูชื่อตัวเอง
หน้าประตูห้องเบอร์ 1 มีชื่อ ชมพู่ ดาว ปราง ลีน่า แปะอยู่
หน้าประตูห้องเบอร์ 2 มีชื่อ ฟ้า เมซี่ ปุ้ม หญิงเขียด แปะอยู่
หน้าประตูห้องเบอร์ 3 มีชื่อ รุ้ง นรี ขนม จอย แปะอยู่
ผู้เข้าประกวดวิ่งวุ่นหาชื่อตัวเอง ตื่นเต้น บ้างดีใจได้อยู่ด้วยกัน บ้างไม่พอใจ
ชมพู่พบว่าตัวเองได้อยู่ห้องเดียวกับดาวก็ดีใจ ทีมกล้องตามเข้าไปเก็บบรรยากาศทุกเม็ด
ชมพู่ ดาว ปรางค์ และ ลีน่า เข้าไปในห้องพักด้วยความตื่นเต้น
ลีน่ารีบแถเข้าไปจองเตียงก่อนใคร
“ฉันนอนเตียงนี้นะ”
ลีน่าหยุดมองที่เตียงเห็นกล่องวางอยู่ริมเตียง 4 กล่อง ชมพู่ ดาว ปรางค์ เดินตามมา
“กล่องอะไรอ่ะ” ดาวเดินไปหยิบการ์ดบนกล่องออกมาเปิดอ่าน
“ยินดีต้อนรับสาวงามทุกท่าน หวังว่าคงยังไม่เหนื่อยกัน เพราะเรายังมีภารกิจแรก รอต้อนรับทุกท่านอยู่ เชิญใส่ของขวัญที่อยู่ในกล่อง แล้วไปเจอกันที่สวน”
ปรางค์เปิดกล่องชื่อตัวเองหยิบชุดในนั้นออกมา เป็นชุดว่ายน้ำวันพีซ
ดาว ชมพู่มองไปที่ชุดอย่างอึ้งๆ ลีน่าหยิบชุดว่ายน้ำมา
“รอมานานละด่านนี้”
ลีน่าเดินออกไปด้วยความมั่นใจ
ชัชชนม์ กับ ขจีนุช ยืนอยู่ในห้องคอนโทรล อย่างเงียบๆ เบื้องหลังสองแม่ลูก เป็นมอนิเตอร์มุมต่างๆ
“แม่ขอโทษนะ ที่ต้องให้ชัชมาเจอกับเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ” ขจีนุชเอ่ยขึ้นสีหน้าหมอง
“คงเพราะผมทำผิดต่อพุฒิไว้ละมั้งครับ”
“พูดอะไรลูก”
ชัชชนม์รวบรวมความกล้าถามขึ้นมาว่า “ผมทำให้พ่อของพุฒิเขาตายใช่มั้ยครับ”
ขจีนุชตกใจ “ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนชัช”
“พุฒิบอกผมหมดแล้ว แล้วก็บอกด้วยว่า แม่ไม่ได้อยากไปอยู่บ้านนั้น ไม่ได้อยากอยู่กับครอบครัวของเขา”
ขจีนุชอึ้งไป ใบหน้าสวยเศร้า “พุฒิบอกอย่างนั้นเหรอ”
“ทำไมครับ ถ้าแม่ไม่ได้อยากไป แล้วแม่ไปทำไม” ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งเจ็บปวด “เพราะเงินของเขาแค่นั้นเหรอครับ”
ขจีนุชส่ายหน้า ไม่ยอมพูด ผินหน้าหนี ชัชชนม์ลุกเดินเข้าไปใกล้ๆ จับมือแม่ ถามสิ่งที่ค้างคาในใจ
“แล้วเพราะอะไร ทำไมแม่ต้องไปด้วย แม่ทิ้งผมไปทำไม”
ชัชชนม์อัดอั้นจนน้ำตาร่วง ขจีนุชค่อยๆ จับมือเขามากุม บีบเบาๆ แล้วจ้องหน้าลูกชายนิ่ง แววตารำลึก
ภายในห้องแต่งตัวบ้านเพอร์เฟ็กต์ ตรงมุมผนังด้านหนึ่งในห้องนั้นมีกระจกยาวสำหรับแต่งหน้าหลายๆ คน มีม่านกั้นสำหรับแต่งตัวเหมือนห้องลองชุดในเคาน์เตอร์ตามห้าง สาวๆ แต่งตัวกันอยู่หลังม่าน ชมพู่ ฟ้า ดาว และอยู่ในห้องน้ำมุมในสุดของห้อง สักครู่หนึ่งแนตตี้จึงเดินเข้ามาในนี้
“สาวๆ คะ ตอนนี้กล้องตัดภาพไปที่ส่วนอื่นของบ้านอยู่นะคะ เรามีเวลาอีกแค่ 5 นาที ให้น้องเตรียมตัว แล้วออกไปที่สวนนะ เร่งมือหน่อยนะคะ”
แนตตี้เดินออกไปเลย
จอย ปุ้ม ลีน่า เขียด นรี และปรางค์ ใส่ชุดว่ายน้ำมีผ้าบางผูกเอวคลุม แต่ละนางจัดชุดให้เรียบร้อย จอยมองแลขวา แล้วรีบโกยนมตัวเองเป็นการใหญ่ เจอทิชชู่จะคว้ามาเป็นตัวช่วย แต่ชะงักเมื่อเห็นขนมเดินออกมาพร้อมอกทรงมหึมาซะก่อน ปุ้มดึงทิชชู่เยอะมากส่งให้จอย
“สู้เขานะคะ”
มีเสียงรุ้งลาวัลย์ดังออกมาจากห้องน้ำ
“ปรางค์ แกมีขนมปังไหม”
“มาหิวไรตอนนี้เนี่ย” ปรางค์งง
“ไม่ใช่ หนมปังอ่ะ หนมปังที่ใช้วันนั้นของเดือนอ่ะ”
“ขนมปังอะไรก็กินได้ทุกวันไหม” ปรางค์ไม่เก็ต
รุ้งลาวัลย์หงุดหงิด “หมายถึงผ้าอนามัยโว้ย”
ขณะปรางค์เดินออกไปเอาผ้าอนามัย สวนกับเมซี่ที่เดินควงผ้าพันเอวออกมา โดยไม่ปิดคลุมส่วนใดของร่างกายเลย
“หูย เมซี่หุ่นดีจัง” จอยมองอย่างทึ่งๆ
“หุ่นแบบนี้เหรอดี สมัยนี้เขาต้องเป็นแบบเฮลตี้นะ ไม่ใช่แบนกระดานโต้คลื่น” ลีน่าเยาะ
รุ้งลาวัลย์เดินนวยนาดออกมา โชว์ส่วนล่างที่นูนเปล่งเพราะยัดผ้าอนามัยเข้าไปเต็มที่
“ข้างบนไม่เน้น แต่ข้างล่างโหนกนะคะ” รุ้งลาวัลย์แอ่นโชว์
“มีเคล็ดลับแบบนี้ ไม่คิดจะบอกกันบ้างเลยนะ”
รุ้งลาวัลย์ยิ้มกระหยิ่ม จนนรีกระแอม “อะแฮ่ม”
แล้วถอดผ้าออกมาสะบัด เผยให้เห็นช่วงล่างของนรีอูมนูนกว่ารุ้งลาวัลย์มากหลายเท่า
“ของแบบนี้ เขาต้องใช้เคล็ดลับตัวช่วยกันด้วยเหรอ”
รุ้งลาวัลย์ กับ จอย ก้มมองส่วนนั้นในอาการตะลึงตะไล นรีเชิดเป็นต่อ
ฝ่ายดาวเดินเร็วรี่เข้ามาตามชมพู่ในห้องน้ำ
“พู่เร็ว”
ดาวชะงัก เพราะไม่เจอชมพู่ แต่เห็นแค่ฟ้ากำลังทารองพื้นที่ขาอยู่ ฟ้าเองเห็นเป็นดาวก็รีบหยุด
“ไอ้แบบนี้มันกันน้ำด้วยเหรอ ให้ฉันขอทีมงานให้ใหม่ไหม”
“ดาว แกอย่านะ”
“อุ๊ย น่ากลัวจัง แค่แกสั่ง ฉันก็ต้องทำตามงั้นเหรอ”
“ก็ลองดูไหมล่ะ ระหว่างฉันโกหกเรื่องแผลที่ขา กับที่แกโกหกเรื่องขโมยเอกสาร ใครจะโดนหนักกว่ากัน”
“แต่ก็ไม่มีใครจับฉันได้นี่”
ฟ้าเจ็บใจที่เสียเปรียบดาว
“เงียบๆ ไปดีกว่านะแม่นางงามขาลาย แต่ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ใจร้ายแฉแกหรอก เพราะมันยังไม่ถึงเวลา”
ฟ้าทนไม่ไหว จะเข้าไปตบดาว ชมพู่เดินเข้ามาเห็นพอดี
“ทำไรกันน่ะ”
ฟ้าชะงัก ลดมือลงรีบเก็บของแล้วเดินหนีออกไปเลย โดยไม่สนชมพู่ ดาวเดินหนีออกไปอีกคน
ชมพู่ถอนใจเฮือกใหญ่ เหนื่อยใจและหนักใจเหลือเกินที่รอยร้าวระหว่างเพื่อนรักทั้งสอง ยากที่จะประสานได้แล้ว
อ่านต่อตอนที่ 16