xs
xsm
sm
md
lg

หน้ากากนางเอก ตอนที่ 6

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หน้ากากนางเอก ตอนที่ 6
ที่กองถ่าย ห้องแต่งตัว ช่างหน้า ผม เสื้อผ้า ป้าไก่ จับกลุ่มเมาท์กันมองดูIGแอนตี้พิมพิชชา

“แอนตี้ เมียน้อยพิมพิชชา โห!!แรง ใครทำนะเนี่ย” ช่างหน้าว่า
“นั่นสิ...จะทำทำไม? คณพิมไม่ใช่คนดัง ทำไปก็ไม่มีใครสนใจหรอก”
อรัญภัทรเดินยิ้มเข้ามา ตามด้วยคนอื่นๆในก๊วนเดียวกัน แต่ละคนยกมือไหว้ทีมงานมาตลอดทาง ป้าไก่เห็นอรัญภัทรก็ว่า ยิ้มๆ
“แต่ถ้าคนดังทำIGนี้ ก็น่าสนใจนะ”
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมองตามสายตาป้าไก่
“คุณพิมมีเรื่องกับเอี๊ยมคนเดียว...คนที่ทำIGแอนตี้ เมียน้อยพิมพิชชา ก็เป็นเอี๊ยมคนเดียวนั่นแหละ”
ทุกคนจ้องมองที่เธอเป็นตาเดียว รัเธอยิ้ม ท่าทางสดใส มีความสุขเสียเหลือเกิน

วรรษชลทำงานอยู่ในห้องตัดต่อหน้าเครียด บอกป้อมเจ้าหน้าที่อีดิท
“ป้อม...พี่ว่าเล่าเรื่องอย่างนี้ไม่ดีว่ะ เปลี่ยนเป็นเล่าแบบเดิมดีกว่า”
ป้อมมองคล้ายติง
“พี่วรรษ... วันนี้พี่วรรษตัดงานเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายรอบแล้วนะ ผมว่าพี่วรรษอาจจะเหนื่อยเกินไป พักหน่อยมั้ยฮะ”
วรรษชลนิ่ง หน้าเครียด ตามประสาคนทำงาน ป้อมบอก
“น่าพี่...พักหน่อยแล้วกัน ไม่งั้นเอางี้” ป้อมลุกขึ้นมาจับตัววรรษชลด้วยท่าทีสนิทสนมเลื่อนเก้าอี้ให้มานั่งหน้าจอมอนิเตอร์ “พี่วรรษใจเย็นๆนั่งสบายๆดู footage ไป เดี๋ยวผมมา” ป้อมยิ้มเดินออกไป
วรรษชลยิ้ม ถอนหายใจยาว ดู Footage หยิบมือถือโทร.หาอรัญถัทร ขณะนั้น เธอนั่งแต่งตัวทำผมพร้อมเล่นมือถือตามประสา สะดุ้งนิดๆ เมื่อมีสายเรียกเข้า เมื่อเห็นเป็นวรรษชล เธอก็ยิ้มกริ่มที่เขาพยายามเคลียร์ ง้อไม่เลิก แต่เอี๊ยมยังเล่นตัว ไม่รับสายซะงั้น
ป้าไก่ที่ยืนหลบมุมคอยสังเกตการณ์อยู่ อมยิ้ม กระซิบบอกคอสตูม
“นั่งยิ้มอารมณ์ดีอย่างเงี้ยะ...ต้องใช่แน่ๆ”
“ร้ายจริงๆเลย ยัยเอี๊ยม”
เธอไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะไม่รู้เรื่อง เพื่อน 2 สาวนั่งมองอยู่เหมือนกัน
เวฬุยากระซิบเขมปัญฑา
“ขยันสร้างเรื่องไม่หยุดไม่หย่อน โรคจิตหรือเปล่าเพื่อนเธอ”
“เพื่อนมะม่วงเหมือนกันนั่นแหละ” เขมปัญฑาตอบเบาๆ
“ไม่!” เวฬุยาสะบัดหน้าพรึ่บ ลุกเดินไปทางอื่นไม่สนใจ
เขมปัญฑาถอนหายใจมองอรัญภัทรอย่างเป็นห่วง
วรรษชลทำหน้าเซ็ง วางมือถือลง นั่งดูเทปต่อ

เวลาต่อมา ป้าไก่เดินยิ้มร้ายออกมาจากกองถ่าย นักข่าวรุ่นน้องวิ่งตาม
“ป้าๆ”
ป้าไก่หันขวับอารมณ์เสีย
“นี่เธอจะปีนเกลียวเรียกฉันว่าไก่ อย่างเดียว ฉันยังไม่โกรธเท่าเธอเรียกฉัน ป้าๆ อย่างนี้เลยรู้มั้ย”
“ค่ะไก่”
ป้าไก่ค้อนขวับ
“เดี๋ยวก็ตบไส้แตก มีอะไรว่ามา”
นักข่าวอยากรู้มากๆ
“จริงเหรอ ที่เอี๊ยมทำไอจีแอนตี้คุณพิม”
ป้าไก่ยิ้ม
“ไม่รู้...แค่พูดลอย...ลอย”
“อ้าว!”
“มาอ้าวอะไร?อยากรู้ก็ไปตามสืบเองสิ...เพราะฉันมีเรื่องที่จะต้องตามสืบเหมือนกัน” ป้าไก่หรี่ตาเจ้าเล่ห์เหมือนจิกไม่ปล่อย “และถ้าฉันรู้...ว่ายายเอี๊ยมแอบกินผู้ชายที่ตัวเองด่าว่าเลวกว่าหมา แซ่บแน่”

พิมพิชชาออกกำลังกายไปด้วยท่วงท่าเซ็กซี่ จงใจหว่านเสน่ห์ใส่หนุ่มๆ อีกมุม เบอร์รี่ออกกำลังกายอยู่เหมือนกัน ดวงตาของเบอร์รี่เต้นระริกเปล่งประกายแบบคนไม่เคยเห็น ทุกสิ่งทุกอย่างดูตื่นตาตื่นใจ พิมพิชชาออกกำลังกายในท่าโน้มตัวลงอ่อยหนุ่มๆ เบอร์รี่ทำตาม ไม่ว่าพิมพิชชาจะทำอะไร เบอร์รี่แอบทำตามหมดแต่แอดว๊านซ์กว่า
พิมพิชชาทำผ้าขนหนูตก ต่อหน้าหนุ่มๆ ให้หนุ่มๆเก็บ เบอร์รี่ทำตาม แต่ไม่ได้ทำผ้าขนหนูหล่น ทำเป็นมือถือโทร. ไม่ได้ แกล้งไปยืมหนุ่มๆ โทร.เข้าเบอร์ตัวเอง แล้วยิ้มหวาน พิมพิชชาแกล้งเล่นเครื่องเล่นบางเครื่องไม่เป็น แล้วถามให้หนุ่มๆสอน อ่อยอยู่ในที เบอร์รี่ทำตาม แต่ระหว่างที่หนุ่มๆสอน เบอร์รี่แกล้งเบียดหนุ่มๆหน้าตาเฉย
พิมพิชชาเดินเลี่ยงมาพักเหนื่อย ในขณะที่เบอร์รี่ยังนัวเนียกับหนุ่มๆ
พิมพิชชาเปิดดู IG เห็น IG แอนตี้พิมพิชชา เธอยิ้มดวงตาเป็นประกายพอใจ

ในอดีต พิมพิชชาอยู่ในห้องนอน หันหลังนั่งสร้าง IG แอนตี้เมียน้อยพิมพิชชา แล้วพิมพ์ข้อความด่าตัวเอง เมียน้อย หน้าด้าน สารเลว อิเปรตหน้าปลวก ปลวกหน้า หน้าสัญกรรม (จงใจเขียนผิด)#มาไกลมากเลยนะมรึง อิเหี่ยวแอ๊บแบ๊ว

พิมพิชชาถ่ายรูปลงIG ในท่าที่ตัวเองสวย หุ่นเป๊ะ ลงIG แล้วแท็กไปยังIG แอนตี้พิมพิมชา เธอยิ้มหันไปเห็นเบอร์รี่ให้ท่าหนุ่มๆ พิมพิชชาตาเขียว เรียกเบอร์รี่
“เบอร์รี่...เบอร์รี่”
เบอร์รี่ที่กำลังยิ้มกับหนุ่มๆสะดุ้ง “คะ”
“กลับได้แล้ว”
หนุ่มๆมองพิมพิชชาสลับกับยิ้มให้เบอร์รี่
“คุณป้าท่าทางจะหวงนะครับ”
เบอร์รี่แอบอมยิ้ม แต่พิมพิชชาตาเขียวปั้ด จะกรี๊ดไม่ได้ จำต้องยิ้มแหยๆ เบอร์รี่เนียนบอกหนุ่ม
“กลับก่อนนะคะ” เธอเดินมาหาพิมพิชชา กลั้นหัวเราะแทบแย่
“ตลกมากมั้ย”
“มากค่ะ..แต่พี่พิมอาจจะต้องร้องไห้หนักมาก ที่ใช้โบท็อกซ์หมดอายุ จนเป็นถึงป้าหนู”
“ใช่!! ฉันร้องไห้หนักมาก”
พูดจบพิมพิชชาก็บีบน้ำตาไหลพรากๆ ออกมา เบอร์รี่หน้าเหวอไปทันที พิมพิชชาจะเล่นอะไรกันเนี่ย

วรรษชลนั่งดูเทปอยู่ที่ห้องตัดต่อ เสียงมือถือดัง เขาคว้าหมับมารับ เพราะคิดว่าเป็นอรัญภัทร
“เอี๊ยมหายโกรธผมแล้วใช่มั้ย”
พิมพิชชาตาเขียวปั๊ดโกรธมาก แต่น้ำเสียงหวานน่าสงสาร ปนร้องไห้สะอึกสะอื้น
“นี่วรรษ รับสายแบบไม่ดูเลยเหรอคะว่าใครโทรฯมา”
วรรษชลจำเสียงพิมได้ .แต่ไม่อยากทะเลาะ
“พอดี..ผมรอสายคุณเอี๊ยมอยู่”
พิมพิชชาได้ยินชื่ออรัญภัทรก็เบ้ปากใส่ทันที แต่พูดกับวรรษชลอ้อนวอนสั่นเครือ
“รู้แล้วค่ะว่ารอสายคุณเอี๊ยม เพราะขนาดพิมร้องไห้หนักมาก วรรษยังไม่มีแก่ใจจะถามซักคำ”
เขาเบื่อหน่ายรุนแรง “พิม!”
“โอเคค่ะ พิมจะพยายามเข้าใจ ว่าเรื่องของเราจบลงไปแล้ว...แต่ถ้าคุณเอี๊ยมโทร. มาหาวรรษ วรรษช่วยบอกคุณเอี๊ยมให้เลิกระรานพิมได้แล้วนะคะ”
วรรษชลงง
“ว่าไงนะ??คุณเอี๊ยมน่ะเหรอระรานคุณ” น้ำเสียงเขาไม่เชื่ออย่างที่สุด
“ถ้าคุณไม่เชื่อ....คุณก็มาดูเองให้เห็นกับตาแล้วกันค่ะ”
วรรษชลหน้าเคร่ง พิมพิชชาวางสาย เบอร์รี่ตะลึง พิมพิชชาแอดว๊านซ์แบบตามไม่ทันกันเลย

ด้านในร้านอาหาร วรรษชลนั่งรอพิมอยู่แล้ว ด้วยท่าทางร้อนใจ ด้านนอก พิมพิชชาเดินมากับเบอร์รี่ มองท่าทางของวรรษชลอย่างไม่พอใจ เธอยื่นมือถือให้เบอร์รี่
“ตามแผน ถ้าพลาด แกได้ร้องไห้หนักมากแทนฉันแน่ เบอร์รี่”
พิมพิชชาเดินเข้าไปด้านใน เบอร์รี่มองตามด้วยใจระทึก เก็บทุกรายละเอียดของพิมพิชชา

พิมพิชชาเดินชักสีหน้าเข้าไปหาวรรษชล พอจวนตัว ก็เดินมานั่งถามวรรษเสียงสั่น รีบแอ๊บหน้าเศร้า
“นี่วรรษร้อนใจเรื่องคุณเอี๊ยม จนถึงขนาดมานั่งรอพิมเลยเหรอคะ”
วรรษชลเย็นชา กึ่งรำคาญ
“สมัยก่อน ผมก็รอคุณประจำ แต่ตั้งแต่คุณเจอท่านอานนท์ คุณก็ไม่เคยจะมาหาผมตามนัดเลย”
พิมพิชชาจับมือวรรษ
“วรรษ...อย่าโกรธพิมเลยนะคะ....พิมสำนึกผิดแล้ว พิม”
วรรษชลดึงมือออกตัดบท
“พูดธุระของเราดีกว่า”
ด้านนอก เบอร์รี่แอบถ่ายรูปวรรษชลกับพิมพิชชา ทำตาฟินเวอร์
“โอ้โห!คุณวรรษตอนเล่นบทโหดท่าจะแซ่บเวอร์”
เบอร์รี่ตาเป็นประกา ยสนใจวรรษชล พิมพิชชารีบบอกรัวเร็ว
“ ก็นี่ไงคะ....พิมกำลังเคลียร์ตัวเอง”
“ผมหมายถึงที่คุณว่า คุณเอี๊ยมระรานคุณ”
นางปั้นหน้าเศร้าจะร้องไห้ยื่นมือถือให้ดู
“ดูเอาเองแล้วกันค่ะ”
วรรษชลมองพิมพิชชางงๆ หยิบมือถือของนางมาดู เห็น IG แอนตี้พิมพิชชา ด่าพิมด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรง
“คงไม่ต้องบอกใช่มั้ยคะว่าฝีมือของใคร”
วรรษชลเครียด ที่ด้านนอกเบอร์รี่ ถ่ายภาพ พิมพิชชานั่งใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา ก่อนที่จะมองแต่วรรษชล ตาเป็นประกาย มือถือของเบอร์รี่ มีแต่วรรษ หน้าโหดๆเข้มๆ

ตอนกลางคืน ทุกคนเลิกกอง อรัญภัทรและทุกคนสวัสดีล่ำลากัน
ทุกคนบอก “แล้วเจอกันค่า”
ทีมงานขานรับ
“เจอกันค่า/ครับ เจอกัน”
เธอเดินออกมาห่างจากกลุ่ม ยิ้มละไม หยิบมือถือขึ้นมา กดไปที่เบอร์ของวรรษชล ขณะที่กำลังจะกดโทร.ออก เจ๊เต่าก็เดินแกมวิ่งเข้ามาถามหน้าตาร้อนใจ
“นี่เอี๊ยม...เอี๊ยมได้ทำรึเปล่า”
เธองงกับคำถาม
“ทำอะไรเจ๊”
“ก็ไอจีแอนตี้คุณพิมน่ะสิ” เวฬุยาบอก
“ไอจีแอนตี้ยัยพิม”
ป้าไก่ที่ยืนดูอยู่นานเดินเข้ามาบอกยิ้มๆ
“โถ!! น้องเอี๊ยมนี่เนียนจังเลยนะคะ”
เธอมองป้าไก่ เห็นท่าทางก็รู้ ไม่ได้มาดีแน่ มือที่จะกดหาวรรษชล เปลี่ยนเป็นกดอัดคลิปอย่างรวดเร็ว ขณะที่มองยิ้มเย้ยๆไม่กลัว เน้นยั่ว
“มาแบบไหน ก็ทำไปแบบนั้นล่ะค่ะ ป้าไก่”
ป้าไก่หัวเราะ
“นี่ถ้าข่าวหลุดออกไป ว่านางเอกที่แสนดี แต่ตัวจริงร้ายกาจ เที่ยวทำไอจีแอนตี้คนอื่น คนดูจะว่ายังไงน้า ...เอ้! แต่ก็คงไม่ว่า...เพราะพฤติกรรมความแรง ความถ่อยของน้องเอี๊ยม มันร่ำลือกระฉ่อนไปทั้งวงการแล้ว”
เจ๊เต่าถลันเข้ามาหายกมือทำท่าจะตบ “นังป้าไก่”
เธอจับมือเจ๊เต่า “เก็บมือไว้รับทรัพย์ดีกว่าเจ๊ ส่วนเรื่องตบคนแก่ปากหมา เอี๊ยมจัดการเอง”
ป้าไก่โกรธ “อั๊ย”
“ป้ากล้าหาเรื่องเอี๊ยมก่อน ป้าก็ต้องกล้าที่จะโดนเอี๊ยมตบ แล้วจะบอกให้เอี๊ยมไม่กลัวด้วย ถ้าป้าจะชวนพรรคพวกแบนเอี๊ยม เพราะ....” เธอชูมือถือขึ้น “เอี๊ยมอัดความกร่างของป้าไว้หมดแล้ว”
ป้าไก่หน้าซีด ไม่คาดคิดว่า นางเอกสาวจะแรงและเร็วขนาดนี้ เอี๊ยมพูดต่อ
“และประชาชนคนดูก็จะเป็นคนตัดสิน...ใครกันแน่ที่ควรถูกแบน”
ป้าไก่โกรธมาก
“งั้นก็ให้ประชาชนคนดูเป็นคนตัดสินเองแล้วกัน...ใครเป็นคนสร้างไอจีแอนตี้ คุณพิมพิชชา” ป้าไก่สะบัดหน้าเดินไปแบบโกรธจัด
เวฬุยามองตามป้าไก่ “ประสาท”
“ใช่....ประสาท สร้างไอจีแอนตี้คนไร้ค่าอย่างยัยพิมพิชชาน่ะนะ” อรัญภัทรพูดพลางส่ายหน้าระอา
เวฬุยาหมั่นไส้แล้วแขวะเพื่อนซุปตาร์
“ฉันหมายถึงเธอนั่นแหละ ประสาท ขยันสร้างข่าวร้ายๆแรง ทุบหม้อข้าวตัวเองได้ทุกวัน”
นางเอกสาวมองหน้าเพื่อนร่วมสังกัด ฉุน เวฬุยามองหมั่นไส้ เจ๊เต่ากรี๊ด
“ตบกันเลยมั้ย? ตบกันเลย จะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวซะที”
ทุกคนหน้าจ๋อย เจ๊เต่าเอ็ด
“รู้ว่าคนเค้าจับตามองกันอยู่ ยังจะทะเลาะกันอยู่ได้”
เวฬุยายิ้มกวนๆเหน็บประชด
“แต่มันก็เข้าทางเจ้ไม่ใช่เหรอ?...สร้างข่าวออกอีเวนท์ได้อีกหลายงาน”
เจ๊เต่ามองผิดหวัง “มะม่วง”
“จะคิดอะไรมากเจ้ วงการมายาดราม่าได้ทุกวัน...เอาเข้าจริง..ขนาดหนูทำงานอย่างนี้ หนูยังไม่รู้เลย อะไรจริงอะไรปลอม เพราะฉะนั้น...ถือว่าให้คนดูฝึกสมองแล้วกัน....อะไรจริง...อะไรเป็นมายา” เวฬุยาเดินออกไปแบบไม่แคร์
เจ๊เต่ามองตาม ถอนหายใจหนักหน่วงกลุ้ม เขมปัญฑาว่า
“มะม่วงก็เป็นคนแรงๆตรงๆอย่างนี้ล่ะค่ะ...ไม่มีอะไรหรอก เจ้อย่าคิดมากเลยนะ ส่วนเอี๊ยม..เขมอยากให้เคลียร์ ลองมีข่าวทางลบ ถึงไม่ใช่เรื่องจริง...คนเป็นข่าวก็ถูกมองในแง่ลบอยู่ดี”
ฟังแล้ว อรัญภัทรก็ถอนหายใจหนักหน่วง แต่ไม่แคร์
อ่านต่อหน้าที่  2 





หน้ากากนางเอก ตอนที่  6 (ต่อ)
เวลากลางคืน ป้าไก่เดินออกมาจากกองละคร พร้อมนักข่าว ป้าไก่บ่นกระฟัดกระเฟียดท่าทางเคือง

เอี๊ยมไม่หาย บอกกับนักข่าวรุ่นน้อง
“ลำพองตัวไปเถอะ...วันไหนล้ม ฉันนี่แหละจะกระทืบซ้ำ ยายเอี๊ยม อรัญภัทร!”

เวลาเดียวกัน สองคนเดินเข้าไปในบ้าน พิมพิชชาฮัมเพลงอย่างมีความสุข
“ทำเรื่องร้ายๆมา...พี่พิมยังอารมณ์ดีอีกนะคะ”
“ก็ฉันมีความสุข”
“ความสุขที่ท่านไม่อยู่ จะได้พุ่งเข้าหาชู้ได้ตามชอบใจ”
พิมพิชชามองหน้าเบอร์รี่
“พรุ่งนี้ไปซื้อกระดูกมาซักโลสองโลนะ”
“ซื้อมาทำไมคะ”
“ยัดปากเธอไง....ปากหมาอย่างนี้คงชอบกินกระดูก”
เบอร์รี่หน้าซีด ตาเขียวแต่ไม่กล้าโต้กลับ พิมพิชชาว่า
“ที่ผ่านมา ฉันเมตตาเธอมากพอแล้ว ทีหลังอย่ากำแหง ไม่งั้น..ฉันจะส่งเธอกลับไปที่ของเธอ อีเขียว”
เบอร์รี่สะอึกเมื่อถูกด่าด้วยชื่อจริง พิมพิชชาสะบัดหน้า ก่อนหันกลับมาอีกครั้ง
“แล้วหุบปากเรื่องของฉันทุกอย่าง..ปล่อยให้คนทั้งประเทศ เข้าใจว่านังเอี๊ยม มันทำไอจีแอนตี้ฉัน เข้าใจมั้ย”
“ค่ะ”
พิมพิชชาเดินไป...เบอร์รี่เบ้ปากมองตาม ดวงตามีแต่ความเกลียดชัง

นึกถึงคืนนั้น …. ในห้องของพิมพิชชา ขณะที่กำลังสร้างไอจีแอนตี้ตัวเอง เบอร์รี่เข้ามาเห็น
“ ว้าย!คุณพิมสร้างไอจีแอนตี้ ตัวเองเหรอคะ”
พิมพิชชาหลบไม่ทัน ได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่ก เบอร์รี่มองตะลึง ยิ้มแอ๊บว่า ปลื้มมาก
“คุณพิมทำอะไรที่หนูคาดไม่ถึงจริงๆเลย...หนูจะเอาคุณพิมเป็นไอดอล”
นางตั้งสติได้
“งั้นอันดับแรก หุบปากเน่าๆของแกซะก่อนนะอีเขียว”
เบอร์รี่จ๋อย
“ทำไมคุณพิม..ต้องเรียกชื่อเดิมของหนูด้วยค่ะ”
นางยิ้ม “แกจะได้จำใส่กะโหลกไว้ไง...ว่าฉันกำความลับของแกไว้ทุกอย่าง” แล้วเอามือจิ้มหน้าเบอร์รี่จนหน้าหงาย

เบอร์รี่ยืนอยู่อย่างเจ็บช้ำ ดวงตาไม่เหลือความเป็นเด็ก มีแต่ความก้าวร้าวชิงชังได้แต่ตะโกนก้องในใจ) “ต่อให้คนทั้งประเทศเชื่อว่าคุณเอี๊ยมทำ...ก็จะมีคุณวรรษคนหนึ่งล่ะที่ไม่เชื่อ” เบอร์รี่เดินไปจ้องมองกระจก ดวงตาหรี่มองราวกับเป็นหน้าพิม “แต่ฉันนี่แหละ...ที่จะทำให้คุณวรรษเชื่อในตัวฉันทุกอย่าง...แกได้เจอกับฉันแน่นังพิมพิชชา”
ดวงตาเบอร์รี่มีแต่ความแค้นพิมพิชชา เบอร์รี่หยิบมือถือขึ้นมากด เห็ฯภาพวรรษชลที่แอบถ่ายมา ดวงตาเป็นประกายปลื้ม แบบเด็กสาวแรกรักชายหนุ่มเป็นครั้งแรก ก่อนที่เบอร์รี่จะมองไปที่กระจกอีกครั้ง ภาพสะท้อนออกมาเป็นพิมพิชชา เบอร์รี่เบ้ปากใส่ มองจ้องไป ก่อนที่จะหยิบคัตเตอร์ขึ้นมา ค่อยๆกรีดไปที่หน้าพิมพิชชา ทันทีที่ปลายมีดสัมผัสที่ผิวกระจก สติเบอร์รี่ก็คืนมา เธอเพ่งมอง เห็นสิ่งที่สะท้อนออกมา เป็นหน้าตัวเองบนกระจกร้าว เบอร์รี่ได้แต่ถอนใจ น้ำตาค่อยๆไหลออกมา แบบสุดท้าย ก็ยังทำอะไรพิมพิชชาไม่ได้

วันใหม่ วรรษชลจิบกาแฟไปพลางนั่งอ่านข่าวจากไอแพด เห็นแต่คนด่านางเอกสาว “ทั้งกร่าง ทั้งกวน เมื่อไหร่จะแบนมันซักทียายเอี๊ยม” / “สติปัญญาไม่มีหรอก ได้แต่โชว์โง่ไปวันๆ” / “พ่อไม่มีเวลาสั่งสอนไง หลงแต่เมียน้อย” / “สก๊อยชัดๆเลย ยายเอี๊ยม”
วรรษชลถอนหายใจ หน้าเครียด บ่นกับตัวเอง อย่างหมั่นไส้อรัญภัทรเต็มแก่
“เตือนก็ไม่ฟัง..ไม่ยุ่งแล้วโว้ย”
แต่สีหน้าวรรษชลก็ยังเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเธออยู่ดี

ในฟิตเนส อรัญภัทรเล่นฟิตเนส ด้วยท่าทางสบายใจ
“ยังจะสบายใจได้อยู่อีก”
“ก็จะทุกข์ทำไมล่ะเจ๊”
เจ๊เต่าระอา
“คนทั้งเมืองเค้าเข้าใจผิดว่าเอี๊ยมเป็นคนทำไอจีแอนตี้คุณพิมนะ”
“แล้วไงเจ๊”
“เอี๊ยม”
เอี๊ยมจริงจัง
“เจ้...คนเกลียดเอี๊ยม ไม่ว่าเอี๊ยมจะทำยังไง เค้าก็เกลียด แต่คนที่รักเอี๊ยม เค้าย่อมรู้ว่าความจริงคืออะไร”
เธอหัวเราะขำพลางหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูไอจีแอนตี้พิมพิชชา พลางบอก
“เจ๊ดูนี่ หน้าสัญกรรม ภาษาไทยวิบัติ เขียนเป็นสก๊อยขนาดนี้ ใครคิดว่าเป็นเอี๊ยมก็บ้าแล้ว และที่สำคัญ คำด่าพวกนี้ อิเปรตหน้าปลวก อิปลวกหน้าเหี่ยว อิปลวกแอ๊บแบ๊ว ก็เป็นคำที่เอี๊ยมด่านังพิมทั้งนั้น แต่อย่าหวัง” เธอหยุดเล่นมองหน้าเจ้บอกดวงตาเป็นประกายวับ “เอี๊ยมไม่มีวันเดินตามเกมนังปลวกหน้าเหี่ยว เป็นอันขาด”
เจ๊เต่าเหนื่อยใจ
“เกมอะไร”
“ก็อยากดังไง มันพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ตัวมันเป็นข่าว ฮึ!! นี่มันคงจะคิดล่ะสิว่าเอี๊ยมจะลุกมาโวยวาย แล้วมันจะได้เป็นข่าวกับเอี๊ยม ไม่มีทางเสียล่ะ”
“เฮอะ! นับวันเอี๊ยมยิ่งเหมือนนางร้าย มากกว่านางเอก”
“ก็นี่มันคือชีวิตจริงนะเจ้....ใครยอมให้คนอื่นรังแก โดยไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้นั่นคือ คนโง่ … แน่นอนไม่ใช่เอี๊ยม” เธอส่ายหน้าไม่ยี่หระ จะไปเล่นฟิตเนสต่อ
“แต่คนฉลาดก็ไม่จำเป็นต้องพ่นทุกอย่างออกมาจากปาก เพื่อความสะใจของตัวเอง”
“พอดี...เอี๊ยมไม่ใช่คนฉลาดมากซะด้วยสิ ลยขอพ่นอะไรออกมาซักหน่อย...และเอี๊ยมก็รับรองได้ว่า......ใครที่มันหาเรื่องเอี๊ยม..ชีวิตมันได้เจอแต่ความบัดซบแน่”
เธอร้ายทั้งหน้าทั้งตาทั้งปาก และเจ๊เต่าก็รู้ หยุดอรัญภัทรไม่ได้แน่

เวลาต่อมา อรัญภัทรเดินหน้าตายิ้มแย้มสดใสเข้ามาในกองถ่าย ทักทายคนในกองอย่างอารมณ์ดีพร้อมยื่นขนมหลายถุงให้
“เอี๊ยมซื้อมาฝากค่า”
ป้าไก่ยิ้มเย้ยเดินมาบอกกวนๆ
“แหม...ยังกับน้องเอี๊ยมรู้เลยนะคะ..ว่าวันนี้กองทัพนักข่าวจะอยู่กัน..ยาว...ยาว”
เธอมองป้าไก่ ตาเขม็ง เขมปัญฑาเดินมาบอก
“นักข่าวมารอสัมภาษณ์น่ะเอี๊ยม”
“อีเวนท์ยังไม่พออีกเหรอ? ขยันสร้างข่าวได้ทุกวัน” เวฬุยาบอก
เธอยิ้มกวนเพื่อนรวมสังกัด
“ก็ไม่ตั้งใจหรอกนะ แต่เผอิญดังน่ะ ทำอะไรเลยเป็นข่าวไปหมด ไม่เหมือนมะม่วง...ขนาดพยายามสร้างคาแรกเตอร์ว่าตรง ว่าแรง ก็ไม่มีคนสนใจ”
“เพราะฉันตรง ฉันแรง แต่ฉันไม่ถ่อยมั้ง...และถ้าจะให้ทำตัวกร่าง ตัวถ่อย เพื่อเป็นข่าว ฉันก็คงไม่เอา... ฉันอายแทนพ่อแม่ อุตส่าห์เลี้ยงดูมาอย่างดี แต่ลูกดันไม่รักดี ทำให้ถูกด่า พ่อแม่ไม่สั่งสอน หมือนที่พ่อเธอโดนอยู่นี่ไง”
เอี๊ยมหน้าซีดเผือด แต่ดวงตาเต้นระริกด้วยความโมโห เวฬุยายิ้ม หมุนตัวเดินออกไป
เขมปัญฑาได้แต่ถอนหายใจ ระอาที่เพื่อนทะเลาะกัน เธอเดินหนีไปอย่างฉุนๆ เขมปัญฑาเดินตามช่างหน้า ช่างผมหัวเราะกันคิกคัก
“เมื่อไหร่จะตบกันซักทีวะ”
“ไม่กล้าหรอก...กลัวหลุดจากงานแล้วยายเขมจะเสียบทุกงาน”
“มันก็จริง...เรียบๆอย่างยายเขม เอาเข้าจริง อาจจะร้ายที่สุดก็ได้”
ทุกคนเมาท์เห็นเป็นเรื่องสนุก ป้าไก่เดินตามเข้าไปด้านใน

อรัญภัทรเดินไป เจ๊เต่าอยู่กับนักข่าว ท่าทางละเหี่ยใจ นักข่าวกรูกันเข้ามา
นักข่าว1 ถาม
“จริงหรือเปล่าคะที่น้องเอี๊ยมทำไอจีแอนตี้คุณพิมพิชชา”
เธอหัวเราะเล่นกับนักข่าว
“ถ้าเอี๊ยมทำจริงๆ เอี๊ยมจะยอมรับเหรอพี่ ถามอะไรแบบนี้ ไหวป่ะ”
นักข่าว1ฉุน
“น้องเอี๊ยมว่าพี่ถามอะไรโง่ๆอย่างนั้นน่ะเหรอคะ”
เธอยิ้มสบายอารมณ์
“เอี๊ยมไม่ได้พูดนะคะ...พี่พูดเอง”
เจ๊เต่าระอา
“เอี๊ยม เลิกต่อปากต่อคำกับพี่ๆได้แล้ว … ขอโทษนะคะขอโทษ”
ป้าไก่ยิ้มเยาะ
“น่าสงสารเจ้เต่าจังเลยนะคะ ต้องมาตามขอโทษแทนน้องเอี๊ยมทุกงาน … ครั้งก่อนก็ด่า ผู้ชายเลวกว่าหมา...ป้าถามจริงๆ...คุณพ่อไม่รักเหรอคะ ถึงได้เกลียดผู้ชายขนาดนั้น”
คนรอบข้างหัวเราะกันครืน เธอหน้าเสีย ป้าไก่ได้ทีเหน็บต่อ
“ป้าถามจริงๆหนูเอี๊ยม” ป้าไก่เลียนเสียง “ไหวป่ะ”
เธอมองหน้าป้าไก่ เริ่มจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ ป้าไก่เห็นท่าทาง ก็แหย่ต่อหวังให้เธอหลุด เธอหน้าบึ้งมองป้าไก่แบบนับหนึ่งถึงสิบ ก่อนบอก
“ไหวสิคะ เพราะเอี๊ยมไม่เคยเก็บคำพูดที่หลุดออกมาจากส้วมไว้ในหัวซักที” เธอยิ้มมองนักข่าวคนอื่นแบบไม่สนใจป้าไก่ “ตะกี้เอี๊ยมแซวเล่นจ้า เอ้าตอบจริงๆก็ได้ ทุกวันนี้แค่เล่นละคร ถ่ายแบบ เดินแบบ ออกอีเวนท์ เอี๊ยมก็ยุ่งจนไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว ที่สำคัญ...ไม่ต้องดูปากณัชชานะคะ...ดูปากเอี๊ยม เอี๊ยมไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นดัง เหมือนที่เค้าพยายามทำอยู่ เพราะฉะนั้น อย่าทำให้ชื่อเอี๊ยมเป็นข่าวกับเค้านะคะ... เอี๊ยมรังเกียจ”
ป้าไก่หัวเราะเสียงดัง
“ก็เพราะปากน้องเอี๊ยมเหมือนหลุดออกมาจากส้วมอย่างนี้ไงคะ คนเค้าถึงได้คิดว่าน้องเอี๊ยมทำไอจีแอนตี้คุณพิมพิชชา”
เธอหันขวับมามองป้าไก่เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ป้าไก่หัวเราะพอใจ
“อาไร..พูดแค่นี้..ก็ของขึ้น งั้นถ้าน้องเอี๊ยมได้ฟัง คุณพิมพิชชาแถลงข่าวว่าถูกรังแก เส้นเลือดในสมองจะไม่แตกตายหรอกเหรอคะ”
เจ๊เต่าถามรัวเร็ว
“อะไรนะป้าไก่...คุณพิมพิชชาแถลงข่าว”
“ใช่ค่าเจ้เต่า” ป้าไก่มองนาฬิกา “อีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี่แหละ.. และพวกเราก็คงจะต้องถอยทัพจากที่นี่....เพราะแว่วมาว่า ฝั่งคุณพิมพิชชาแซ่บกว่าเยอะเลย”
ป้าไก่ยิ้มเย้ย อรัญภัทรตาเขียวปั้ด นักข่าวคนอื่นถามป้าไก่หน้าตาเฉย
นักข่าว1ถาม“ใครจะไปบ้างอ่ะป้า ที่คุยๆกัน ไม่มีใครไปเลยนะ”
นักข่าว2 ถาม “นั่นสิ...คุณพิมไม่ดัง ไม่มีใครไปหรอก”
เธอมองป้าไก่ เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ส่งสายตายิ้มเยาะ เจ๊เต่าก็ยิ้มถอนหายใจโล่งอก
ป้าไก่หน้าเสีย รู้สึกหน้าแตก แก้ตัวพัลวัน
“แต่..แต่คุณพิมบอกจะแถลงข่าวว่าถูกคนใส่ร้าย แล้วก็ยังด่าคุณพิมเสียๆหายๆ...แว่วมาว่า...คนที่ทำจะเป็นนักแสดงในวงการ และคุณพิมเธอก็จะเอาเรื่อง เธอจะฟ้อง”
เธอของขึ้น
“ฟ้อง...นังหน้าด้านนั่นมันจะฟ้องเอี๊ยม”
ป้าไก่ยิ้มยวนกวน
“ก็ไม่รู้สิคะ”
“ได้...อยากฟ้องนัก..เอี๊ยมจะไปท้าให้มันฟ้องเอี๊ยมถึงที่เลย”
นักข่าวหันขวับมามองเธออย่างตื่นเต้น
อ่านต่อหน้าที่  3





หน้ากากนางเอก ตอนที่ 6 (ต่อ)
อรัญภัทรเดินพรวดๆออกมาแบบข่มอารมณ์ไม่ได้ เจ๊เต่าวิ่งตามมา คว้ามือไว้

“หยุดนะเอี๊ยม หยุด!”
“ปล่อยเจ้.” เธอพยายามผลักเจ้เต่าออก “เอี๊ยมจะไปตามล่านังตอแหล”
เจ๊เต่ากระชาก ดุ
“พอได้แล้ว ทำตัวเป็นหมาบ้าอย่างนี้ไม่รู้รึไง มันคือจุดอ่อน”
“อีเหี่ยวนั่นต่างหากคือจุดอ่อน อยากดังนักใช่มั้ย??เอี๊ยมจัดให้” เธอเดินไป
เจ๊เต่าพูดติงสติ
“ไหนบอกจะไม่เป็นข่าวกับเค้า ไหนบอก จะไม่เป็นเครื่องมือทำให้เค้าดัง”
เธอหันมามองเจ๊เต่า
“ดังมีหลายประเภทน่ะเจ้...ดังในทางที่ดี...ดังในทางที่ดับ สำหรับอีเหี่ยวนั่น มันมีอยู่ทางเดียว ดังแล้วดับ”
เธอก้าวพรวดๆเดินออกไป เจ๊เต่าได้แต่อ่อนใจ เวฬุยากับเขมปัญฑาเดินเข้ามา ท่าทางอ่อนใจ
“ทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่าเดินตามแผนยายพิมพิชชา ทำไมยายเอี๊ยมถึงได้โง่ซ้ำ โง่ซาก”
“เอี๊ยมไม่ได้โง่หรอก..แต่เอี๊ยมแพ้อารมณ์ตัวเอง”
“เอี๊ยมไม่รู้จริงๆเหรอ ว่าถ้าเอี๊ยมบุกไปกลางงานแถลงข่าว ยังไงคนที่เสียหายก็คือเอี๊ยม”
ทุกคนได้แต่ทำหน้าอ่อนใจ ระอาความเจ้าอารมณ์ของนางเอกสาว

ภายในบ้าน พิมพิชชาลัลล้าเป็นอย่างมาก มีอาหาร-เครื่องดื่มแบบค็อกเทล บรรยากาศของบ้านเหมือนงานปาร์ตี้มากกว่าการแถลงข่าว เบอร์รี่ว่า
“ดูเหมือนงานปาร์ตี้มากกว่างานแถลงข่าวอีกนะคะ”
พิมพิชชาหัวเราะ
“ก็มันเป็นงานปาร์ตี้ของฉัน”
อนงค์ที่จัดเตรียมอาหารมาวาง สีหน้าไม่สบายใจ แต่ไม่กล้าหืออือได้แต่พูดเสียงอ่อนๆ
“แต่คุณหญิงกับคุณท่าน จะคิดยังไงคะ ที่คุณแถลงข่าว..ลูกของท่าน”
พิมพิชชายิ้มหวาน
“พี่อนงค์...คุณหญิงตายไปนานแล้ว ส่วนคุณท่านก็ไม่อยู่...หรือถ้าอยู่ ท่านก็คงไม่ว่าพิมหรอก....ที่พิมจัดงานแบบนี้ ในเมื่อคุณเอี๊ยม...เป็นคนหาเรื่องพิมก่อน”
อนงค์แก้ตัวหน้าแหยๆ
“คุณเอี๊ยมไม่เคยหาเรื่องใครก่อนนะคะ”
พิมพิชชาเสียงยังหวาน แต่ตาดุมองอนงค์
“แต่พี่อนงค์พูดอย่างนี้...พี่อนงค์กำลังหาเรื่องพิม อย่าให้เราต้องมีเรื่องกันเลยนะคะ พิมเหนื่อย”
เบอร์รี่มองตาไม่กะพริบ เก็บรายละเอียดเรื่องราวไว้ทุกอย่าง อนงค์เดินหน้าจ๋อยออกไป พิมพิชชาหันมา เบอร์รี่รีบยิ้มประจบ แบบไม่มีความขุ่นข้องหมองใจอะไร พร้อมบอก
“อาหารจัดไว้เยอะแยะ แต่ทำไมเงียบกริ๊บ” เบอร์รี่มองดูนาฬิกา “ถึงเวลาแล้วนักข่าวยังไม่เห็นมีใครจะโผล่มาซักคน” ทำหน้าไร้เดียงสาถาม “หรือ..พี่พิมไม่ดังคะ”
พิมพิชชาโกรธ ตะโกนออกมา
“ฉันเป็นเซเล็บ ทำไมจะไม่ดัง นังบ้า!” นางชักสีหน้าเริ่มไม่มั่นใจ
“แต่ถ้าดัง...นักข่าวน่าจะมาเฝ้าตั้งแต่ตี5”
“นังบ้า! ใครจะมาเฝ้า ทุกคนเค้ารู้ เซเล็บทุกคนเวลาเป๊ะๆ ถึงจะมาก่อนเซเล็บก็ไม่ให้ใครเข้าพบง่ายๆย่ะ” นางมองไปทางด้านหน้า พึมพำ “ทำไมยังไม่มีใครมาซักคนวะ”
พิมพิชชาหน้าเสีย เบอร์รี่แอบอมยิ้ม ที่หน้าบ้าน นักข่าวเฮละโลเหมือนแย่งกันมา เธอยิ้มออกมาได้ “กองทัพนักข่าวมาแล้ว แอร้ย!!แกรีบไปต้อนรับนักข่าวเร็ว”
“ให้หนูดูแลพี่พิมดีกว่านะคะ...ตอนแถลงข่าว พี่พิมจะได้สวยๆ”
“ได้ๆๆ”
พิมพิชชายิ้มดีใจ รีบเดินไปเปิดกระเป๋าหยิบแป้งมาเติม ก่อนหยิบเอาน้ำตาเทียมขึ้นมาหยอด
ใส่ตาตัวเอง หลายต่อหลายหยด จนน้ำตาเทียมไหลออกมา พอให้รู้ว่าร้องไห้ เบอร์รี่ตาค้าง
“เหมือนคนร้องไห้ยัง”
“ที่สุดอ่ะ...พี่พิมคิดได้ยังไง”
“สวยไม่พอ...คนเราต้องฉลาดด้วย” นางเก็บน้ำตาเทียมใส่กระเป๋ารวดเร็วหันมาสั่ง “แกดูความเรียบร้อยให้พร้อมก่อนแล้วกัน ฉันจะออกไปรับหน้านักข่าว แล้วรีบตามไปล่ะ”
“ค่ะๆ”
พิมพิชชาเดินออกไปด้านนอก เบอร์รี่ตามหลังเบ้ปากใส่ พูดเบาๆ
“สมกับถูกคุณเอี๊ยมด่าจริงๆ ปลวกเอ้ย”
เบอร์รี่มองตามหลังพิม พอเห็นว่า พิมเดินออกไปแล้ว เบอร์รี่ก็ล้วงเอาน้ำตาเทียมขึ้นมา บีบออก จนเลอะ เหมือนจงใจให้รู้ว่า น้ำตาเทียมหลอดนี้ เพิ่งผ่านการใช้งาน ก่อนวางลงแถวนั้นวิ่งตามพิมออกไป

พิมพิชชาเดินออกไปด้วยใบหน้าเศร้าหมองเดินออกไปพร้อมด้วยหยาดน้ำตาเทียม ไปถึงก็ยกมือไหว้บอกเสียงละห้อย
“สวัสดีค่ะ พิมขอโทษพี่ๆทุกคนด้วยนะคะ ที่รบกวน”
ป้าไก่หัวขบวนยิ้ม
“รบกวนอะไรกันคะ ทางเราก็อยากทราบความรู้สึกของคุณพิมเหมือนกันที่โดน รังแก” พูดพลางหันมองพิมพิชชาอย่างมีเลศนัย
พิมพิชชาอึ้งไม่ชอบสายตาป้าไก่ แต่จำต้องแอ๊บน่าสงสาร
“ขอบคุณป้าไก่นะคะที่เข้าใจพิม..สมแล้วที่ป้าไก่ อยู่วงการมานานกว่าคนอื่น”
ป้าไก่ชะงัก รู้ดีถูกด่าว่าแก่ ขณะที่ยิ้มกับทุกคน
“เชิญเข้าข้างในดีกว่านะคะ” นางเดินนำเข้าไปด้านใน
เบอร์รี่รีบเชิญ “เชิญค่ะเชิญ”
นักข่าวเดินตามพิมพิชชาเข้าไป ป้าไก่มองตามด้วยสายตาไม่พอใจมาก

ป้อมนั่งเล่นมือถือระหว่างรอ วรรษชลสะพายกระเป๋าเดินเข้ามา
“โทษทีป้อม พี่มาช้าไปหน่อย พอดีหาข้อมูลเทปหน้าอยู่ จะทำอะไรดี”
“ไม่เป็นไรพี่วรรษ ผมกำลังนั่งอ่านอะไรเพลินๆ”
วรรษชลยิ้ม พลางวางกระเป๋าถาม
“วันนี้มีอะไรล่ะ”
“เรื่องมันๆวงการบันเทิง”
วรรษหันขวับไปมอง ป้อมบอก
“เห็นไฮโซ ที่เป็นแม่เลี้ยงคุณเอี๊ยมเค้าจะแถลงข่าวนะพี่”
“แถลงข่าวอะไร”
“ก็เรื่องที่ว่าถูกทำไอจีแอนตี้...แล้วตามข่าวว่าคุณเอี๊ยมเป็นคนทำไง”
วรรษชลหน้าเครียด ขณะที่ป้อมเมาท์ต่อขำๆ
“แต่ที่เด็ด มีคนทวิตว่า..ตอนนี้คุณเอี๊ยมกำลังจะบุกไปงานแถลงข่าว”
“อะไรนะ บุกไปงานแถลงข่าว”
“ฮื่อ!” ป้อมกลั้วหัวเราะ “ตอนแรก นักข่าวไม่มีคนไปเลยนะพี่..แต่พอทุกคนรู้ว่าคุณเอี๊ยมจะไปฉะคู่กรณีถึงที่บ้าน ตอนนี้กองทัพนักข่าวเล่นบุกถึงบ้านท่านอานนท์เลย ผมว่างานนี้แซ่บแน่”
วรรษชลหน้าเครียดเข้าไปใหญ่

ที่กองถ่าย ผกก.สุดจะหงุดหงิด ฟาดบทที่อยู่ในมือดังป้าบๆ อาละวาดว่าเจ๊เต่า
“เอี๊ยมถือดียังไงเจ๊ ถึงได้โดดกอง ทั้งที่ทีมงาน นักแสดงทุกคนรอเค้าอยู่”
เจ๊เต่าจ๋อยสนิท
“พอดี...เอี๊ยมมีธุระด่วนนะค่ะ”
“ทะเลาะกับแม่เลี้ยงจนเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างนี้น่ะเหรอธุระด่วน? เฮอะ!มันเรียกว่าเป็นอาชีพแล้วเจ้...ผมว่า...เอี๊ยมชอบการทะเลาะ การเป็นสก๊อยมากกว่าเป็นนักแสดงแล้วล่ะ”
“ขอโทษนะคะ ขอโทษ..เจ้จะเรียกเอี๊ยมกลับมาเดี๋ยวนี้ละค่ะ”
เจ้เต่าลนลานควักมือถือขึ้นมา มือไม้สั่น จะโทร. หาอรัญภัทร แต่ผกก.บอก
“ไม่ต้อง”
เจ๊เต่าหน้าแหย ผกก.บอก
“ถ้าเอี๊ยมจะมีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบอยู่ในหัวอยู่บ้าง...เอี๊ยมจะไม่ทำอย่างนี้ นี่เพราะเค้าถือว่า ค้าเป็นดาราดัง เค้าใหญ่ เค้ากร่าง เค้าเลยกล้าทำ โดยไม่สนใจทีมงานคนอื่นๆว่าจะรู้สึกยังไง”
เจ๊เต่าหน้าแหยได้แต่ยกมือไหว้ปลกๆ
“เจ๊ขอโทษค่ะเจ้ขอโทษ แต่เอี๊ยมไม่ใช่คนกร่างอะไรนะคะ...เอี๊ยมแค่ระงับตัวเองไม่อยู่”
“เอี๊ยมอายุเท่าไหร่แล้ว เอี๊ยมไม่ใช่เด็กนะเจ้ ที่จะไม่รู้ว่าอะไร ควรอะไรไม่ควร ผมว่า...เราอย่าเถียงกันเรื่องเอี๊ยมอีกเลย..เอาเป็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมจะทำงานกับเค้า... เลิกกอง”
ผกก.เดินไปแบบอารมณ์เสียสุดๆ นักแสดงคนอื่น ได้แต่ทำหน้าเซ็ง สองสาวมองเจ๊เต่า ด้วยสายตาแห่งความสงสารเห็นใจ เวฬุยาว่า
“หนูช่วยอะไรไม่ได้แล้วนะเจ้ อี๊ยมทำตัวเอง เอี๊ยมเอาแต่ตัวเอง ไม่คิดถึงคนอื่น”
เขมปัญฑาเสียงหวานเหมือนเดิม แต่น้ำเสียงบอกความไม่พอใจ
“เขมก็...ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เอี๊ยมไม่ใช่แค่ทำตัวเอง แต่เอี๊ยมยังทำร้ายคนอื่นด้วย”
เพื่อนนักแสดงทั้งสองเดินออกไปแบบหมดความอดทนกับอรัญภัทรเหมือนกัน เจ๊เต่าทำหน้ากลุ้ม
หนัก เสียงมือถือดังลั่น เจ๊เต่าได้แต่หงุดหงิด
“จะโทร. มาอะไรกันนักกันหนา คนยิ่งหงุดหงิดอยู่” เมื่อรับสาย..เปลี่ยนเสียงเป็นสุภาพอ่อนหวานน่ารักทันที “สวัสดีค่า...ติดต่อเรื่องอะไรคะ”
วรรษชลขับรถมาตามทางสีหน้าร้อนใจ
“เจ้เต่า..ผมเองนะ วรรษชล”
เจ้เต่ายังงงๆ เอ๋อๆ
“ค่ะ..ค่ะ มีอะไรคะคุณวรรษ”
“เจ้อย่าให้เอี๊ยมบุกไปอาละวาดคุณพิมนะครับ...เจ้ต้องห้ามเค้าให้ได้”
“ไม่ได้แล้วค่ะคุณวรรษ...เอี๊ยมไปหาคุณพิมแล้ว..และตอนนี้..กองถ่ายก็พังเพราะเอี๊ยมหมดแล้วค่ะ” เจ๊เต่าแทบจะปล่อยโฮ
วรรษชลอึ้งสนิท ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหัวเสีย เลี้ยวรถเพื่อไปยังบ้านอานนท์อย่างร้อนใจ จังหวะที่วรรษชลเลี้ยวรถกลับมา ด้านหน้ามีหมาถูกรถชน นอนร้องครวญครางอยู่ เขาเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ เลยรีบจอดรถลงไปช่วยน้องหมาทันที

อรัญภัทรก้าวลงจากแท็กซี่ เห็นบ้านอันเป็นที่รัก....บ้านแห่งความอบอุ่นที่เป็นแค่ความทรงจำ เธอน้ำตาคลอ ก่อนที่จะสะบัดหน้าไล่ความเจ็บปวด เปิดประตูรั้วเดินพรวดเข้าไปด้านในทันทีด้วยท่าทีแข็งกร้าวโมโหสุดขีด
เอี๊ยมเดินพรวดเข้าไปด้านใน อนงค์ที่ถือจานขนมเตรียมจัดเสิร์ฟเห็น ก็ร้องเรียกด้วยความดีใจ
“คุณเอี๊ยม”
“พี่อนงค์” อรัญภัทรเรียกเสียงสั่นเครือ
อนงค์วางจานขนมลงวิ่งมากอด น้ำหูน้ำตาร่วง
“พี่ดีใจที่สุดเลยที่คุณเอี๊ยมกลับมา” อนงค์พูดรัวเร็วเว้าวอน “คุณเอี๊ยมอย่าทิ้งท่านนะคะ...คุณเอี๊ยมกลับมาอยู่กับท่านนะคะ”
“เอี๊ยมไม่เคยคิดจะทิ้งคุณพ่อเลยค่ะพี่อนงค์” เธอเสียงสั่นเครือดูอ่อนแอเหมือนตอนเป็นเด็กเล็กๆ “แต่ที่เอี๊ยมต้องไปเพราะคุณพ่อเลือกผู้หญิงคนนั้น” เสียงนั้นกร้าวขึ้นแต่ไม่ก้าวร้าว “ที่เอี๊ยมกลับมา...พี่อนงค์คงรู้ว่าทำไม”
เธอดันร่างของอนงค์ออก ก่อนเดินเข้าไปด้านในด้วยสายตาเอาเรื่องที่สุด

ด้านในท่ามกลางกองทัพนักข่าว พิมพิชชากำลังนั่งแถลงข่าว ในมือพิมถือทะเบียนสมรสชูหรา
“นี่ค่ะ...ทะเบียนสมรสของท่านกับพิม พิมไม่ได้แย่งท่านมาจากแม่คุณเอี๊ยม และพิมก็ไม่ได้ทำร้ายคุณเอี๊ยมนะคะ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นพรหมลิขิตของพิมกับท่านจริงๆค่ะ”
ป้าไก่ถาม
“นี่ใช่มั้ยคะ? สาเหตุที่ทำให้คุณพิมถูกทำไอจีแอนตี้ เพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเมียน้อย”
พิมพิชชาบีบน้ำตาอีก
“เรื่องนี้พิมไม่ทราบจริงๆค่ะ”
ป้าไก่หน้าซีด คำตอบของพิมไม่ได้เหมือนกับที่คิดไว้ นักข่าวคนหนึ่งถาม
นักข่าว1ถาม“อ้าว!แล้วที่ว่าจะฟ้อง”
พิมพิชชางงจริงๆเพราะไม่ได้พูด ไม่ได้คิดไป ขนาดนั้น “ฟ้องอะไร ฟ้องใครคะ”
อรัญภัทรเดินเข้ามา ตามหลังด้วยอนงค์ เธอไม่ได้ฟังไม่ได้อะไรทั้งนั้น มาถึงก็ว่า
“ก็ฟ้องฉันไง”
พิมพิชชาผงะหน้าซีด ไม่คิดว่านางเอกสาวจะมาบุกถึงงาน นักข่าวถ่ายรูปกันพรึ่บพรั่บ ทีวีก็บันทึกภาพไว้ตลอด เธอว่า
“เอาเล้ยพิมพิชชาฟ้องเล้ย..! ทุกคนจะได้รู้ว่าเธอทำไอจีแอนตี้ตัวเอง”
พิมพิชชาหน้าซีด นักข่าวหันขวับมามองนางเอกสาวเป็นตาเดียว เบอร์รี่ยิ้มมองด้วยใจระทึก สีหน้าและแววตาไม่เข้าข้างใคร แต่ฉายแวว เละแน่ แซ่บแน่
“อะไรนะน้องเอี๊ยม..คุณพิมทำไอจีแอนตี้ตัวเอง” นักข่าว1ว่า
“ค่ะ เรื่องแบบนี้...ถ้าให้คนเซียนๆเก่งๆทำ เอี๊ยมอาจจะจับไม่ได้ แต่นังนี่มันโง่ โง่แล้วยังคิดว่าตัวเองฉลาด สร้างไอจีที่ไหนไม่สร้าง ดันสร้างที่นี่”




หน้ากากนางเอก ตอนที่ 6 (ต่อ)
พิมพิชชาตาค้าง เบอร์รี่ก็ตาค้าง เอี๊ยมรู้ได้ยังไง นักข่าวฮือฮา ป้าไก่ถามทันที

“เอี๊ยมรู้ได้ยังไง”
“อีกคนแล้วที่ถามโง่ๆ”
ป้าไก่สะอึก ขณะที่เธอเหยียดยิ้มดูถูก บอก
“ก็ดูโลเกชั่นสิคะป้าไก่ขา...แค่คลิกดูรูปปั๊บ ก็เห็นแล้วโลเกชั่นถูกสร้างที่ไหน แล้วดู..ดูนี่ค่ะ” เธอชูไอจีแอนตี้พิมพิชชาให้ดู “เอามือจิ้มแค่นี้...มันคือบ้านเอี๊ยมชัดๆ แล้ว เอี๊ยมถามหน่อย ใครกันที่อยู่บ้านหลังนี้ ถ้าไม่ใช่พิมพิชชา”
เธอหันมายิ้มเย้ย พิมพิชชากุมมือตัวเองแน่น ทำไม่รู้ไม่ชี้ เบอร์รี่ตาโต แกล้งเอามือเขี่ยให้หลอดน้ำตาเทียมหล่น ให้กลิ้งไปทางพิม ทุกคนได้ยิน...มีของหล่นที่พื้น หันขวับไปดู เห็นหลอดน้ำตาเทียมกลิ้งมาจนหยุดที่ด้านหน้าอรัญภัทรที่ยืนเผชิญหน้าพิมพอดี
เธอหยิบน้ำตาเทียมขึ้นมาดู
“น้ำตาเทียม....นี่ยังเปียกๆอยู่เลย... แปลว่า ก่อนหน้านี้..เธอหยอดน้ำตาเทียมหลอกนักข่าวสินะ”
พิมพิชชาเงียบ เล่นบทนางเอกไม่โต้ตอบ ทำไม่รู้ไม่ชี้ เบอร์รี่แอบยิ้ม รอจังหวะอยากขโมยซีน
เบอร์รี่รีบถลันออกมา หันหน้าไปทางนักข่าว
“น้ำตาเทียมของเบอรี่ค่ะ ไม่ใช่ของพี่พิม”
พิมพิชชามองเบอร์รี่รู้ว่าอยากออกทีวี นักข่าวฮือฮา เอี๊ยมหัวเราะ
“ถึงพวกเธอจะแท็กทีมกันเข้ามาแก้ตัว ฉันก็ไม่เชื่อ ...เพราะถ้าคนร้องไห้จริงๆ...ถูกด่าขนาดนี้...คงปล่อยโฮไปแล้ว ไม่ยืนเงียบแอ๊บแบ๊วแบบนี้หรอก”
“ของเบอร์รี่จริงๆค่ะ ขอเบอร์รี่คืนนะคะ”
เบอร์รี่เดินมาหา ดึงหลอดน้ำตาเทียมขากอรัญภัทร ส่วนพิมพิชชาเงียบ เงียบจนนักข่าวเริ่มเห็นใจ
เพราะนางเอกสาวด่าอยู่คนเดียว แต่เอี๊ยมเห็นท่าทางของพิมพิชชาที่แอ๊บแบ๊วยิ่งโมโห
“นี่ไม่ต้องมายืนเงียบเหมือนถูกรองเท้าอุดปากเลยนะนางพญาปลวก พูดสิ..พิมพิชชา...ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว...เธออยากพูดอยากเคลียร์อะไรกับฉันก็ว่ามาเลย อย่ามายืนทำหน้าเป็นปลวกแอ๊บแบ๊ว ลอบกัดฉันทีหลัง”
พิมพิชชาไม่มองอรัญภัทร แต่พูดกับนักข่าว
“พิมขอบคุณพี่ๆทุกคนนะคะที่สละเวลามางานของพิม” นางยกมือไหว้ “ขอบคุณมากค่ะ”
เธอสวนทันที
“เค้าไม่ได้มางานเพราะเธอย่ะ...เค้ามาเพราะฉัน รู้เอาไว้ด้วยนะพิมพิชชา ตอนแรกไม่มีใครมางานเธอ แต่พอรู้ว่าฉันจะมาเท่านั้น ทุกคนแห่กันมาเต็มเลย”
พิมพิชชาหน้าซีด หน้าซีดจริงๆ เพราะก็รู้ก่อนหน้านี้นักข่าวไม่มา พอหันมา
“อ้อ!แล้วหนังหน้าทั้งเหี่ยว ทั้งยาน อายุก็จะปาไปสี่สิบ เลิกเรียกนักข่าวว่าพี่ได้แล้ว ดูหน้าก็รู้...ทุกคนเป็นน้องเธอ เรียกพวกเค้าว่าพี่..ไม่อายบ้างรึไง?? นังปลวกหน้าเหี่ยว นังบ้า”
อนงค์หน้าซีด ท่าทางอย่างนี้ อรัญภัทรเป็นนางร้ายชัดๆ ขณะที่ป้าไก่รีบเสี้ยม
“โห!คุณเอี๊ยมยืนด่าขนาดนี้...ไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอคะคุณพิม”
พิมพิชชายิ้มให้นักข่าว ตัดบท
“ขอบคุณมากนะคะ...พิมขอตัว”
นางจะเดินเข้าไปด้านใน อรัญภัทรจับตัวพิมกระชากอย่างแรง จนหันมา
“จะรีบไปไหน? ตั้งใจจะฟ้องว่าฉันทำไอจีแอนตี้เธอไม่ใช่เหรอ? ฉันมาอยู่ที่นี่แล้ว..ฟ้องสิ..ฟ้องเลย”
พิมพิชชาเงียบ ได้โอกาส ที่เห็นเอี๊ยมบ้าแบบฉุดไม่อยู่ ก็เริ่มแอ๊บแบ๊วใหม่ ก้มหน้า ไม่พูด
เอี๊ยมเห็นก็ยิ่งโมโห
“ทีอย่างนี้ล่ะทำเป็นปลวกแอ๊บแบ๊ว ทุเรศ”
นักข่าว2 บอก
“แล้วตกลง..คุณพิมจะฟ้องคุณเอี๊ยมหรือเปล่าครับ”
พิมพิชชาตีหน้าซื่อ
“พิมไม่เคยคิด ไม่เคยพูด ที่เชิญพี่ๆมาวันนี้ก็แค่ชี้แจงให้ทราบว่าพิมไม่ใช่เมียน้อย พิมเป็นภรรยาของท่านอานนท์อย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นเองค่ะ”
“ตอแหล”
อนงค์มองอรัญภัทรแบบอีกแล้ว เธอคุมตัวเองไม่ได้เลย นักข่าวฮือฮาถาม
“คุณพิม ไม่คิดจะฟ้องจริงๆเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
อรัญภัทรกรีดเสียงร้องดัง “ตอแหล” แล้วถลันเข้าไปกระชากพิมพิชชาจะขย้ำ นางตกใจ “ว้าย!”
เบอร์รี่ที่รอขโมยซีนอยู่แถวถลันเข้ามาคว้าพิมพิชชา “พี่พิม!” แล้วพยายามหันหน้าเข้าหามุมที่
นักข่าวเห็นหน้าชัดที่สุด ปากก็ร้องกรี๊ดๆ น้ำหูน้ำตาไหล “พี่พิมๆๆ”
อนงค์ถลันเข้ามาดึงอรัญภัทร
“คุณเอี๊ยม!อย่าค่ะ...”
“พี่อนงค์ปล่อยเอี๊ยม..ปล่อย”
อรัญภัทรพยายามจะถลันเข้าไปตบพิมพิชชา แต่อนงค์ดึงไว้ ป้าไก่ นักข่าวก็กันทั้งคู่ออกจาก
กัน นักข่าวเห็นเธอเป็นบ้าอยู่คนเดียวก็ว่า
“แล้วที่ป้าไก่บอกว่าคุณพิมจะฟ้องน้องเอี๊ยม ป้าไก่เอามาจากไหน” นักข่าว 2 ว่า
คราวนี้ทุกคนหันขวับไปมอง ป้าไก่หน้าซีด
“ว่าไงป้า... ที่ป้าบอก วันนี้คุณพิมจะแถลงว่าใครทำไอจีแอนตี้ แล้วก็จะฟ้อง ทำไมไม่เห็นเป็นอย่างที่ป้าพูดเลยล่ะ”
“นี่ป้าไก่...พูดอย่างนั้นเหรอคะ”
ป้าไก่อึกอัก “เอ่อ”
“นี่ป้าไก่เป็นคนเสี้ยมให้คุณเอี๊ยมเกลียดพิมหรอกเหรอคะ”
ป้าไก่รีบปฏิเสธ
“เปล่าๆๆ”
“แล้วป้าไก่พูดเพื่ออะไร” นางได้โอกาสแอ๊บนางเอก บอกนักข่าว “พิมขอประกาศตรงนี้เลยนะคะ ถึงคุณเอี๊ยมจะดูถูกเหยียดหยามพิมยังไง พิมก็ไม่เคยคิดจะเอาเรื่องคุณเอี๊ยม เพราะคุณเอี๊ยมเป็นลูกสาวของท่านค่ะ”
“นังตอแหล” อรัญภัทรจะปราดเข้าไปอีก
อนงค์กระชากเอี๊ยมอย่างแรง“อย่าค่ะ”
เธอชี้หน้าพิม
“หุบปากของแกเลยนะ ต่อให้แกแอ๊บแบ๊วยังไง คนดูก็ไม่เชื่อแกหรอก รู้เอาไว้...คนดูสมัยนี้ไม่โง่แล้ว มีแต่แกนั่นแหละที่โง่ๆๆๆ”
นักข่าวถ่ายรูปนางเอกสาวกันพรึ่บพรั่บ

คืนเดียวกัน ที่คอนโดฯ เจ๊เต่าหน้าเครียด กระชากแขนอรัญภัทรเข้ามาในห้อง ตำหนิด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ใช่! คนสมัยนี้ไม่ได้โง่ เค้าเลยรู้เลย ใครเป็นนางร้ายตัวจริง ใครเป็นนางเอก”
“เจ๊หมายความว่ายังไง”
“ด่าแต่คุณพิมว่าโง่ ฉันว่าตอนนี้เธอโง่ที่สุดนะเอี๊ยม ที่เที่ยวไปอาละวาดด่าทอคุณพิม ในขณะที่คุณพิมเค้าไม่โต้ตอบอะไรเธอซักคำ” เวฬุยาว่า
เธอกรีดเสียงดัง
“ก็มันตอแหล มันเล่นละคร”
“แล้วทำไม เอี๊ยมไม่เล่นละครอย่างเค้าบ้างล่ะ เอี๊ยมเล่นไปยืนด่าเค้าขนาดนั้นไม่ใครคิดว่าเอี๊ยมถูก เอี๊ยมเป็นคนตรง เอี๊ยมเป็นนางเอกหรอกนะ” เขมปัญฑาว่า
เธอมองหน้า เจ๊เต่าว่า
“มีแต่คนด่า ว่าเอี๊ยมประสาท ไม่มีพฤติกรรมการเรียนรู้ เอาแต่ใช้อารมณ์โง่ซ้ำโง่ซาก”
“อย่าอยู่แต่ในกะลา อยู่ในกลุ่มแฟนคลับ ที่เค้าเชียร์เธอว่าตรง ว่าแรง หัดอ่านข่าวซะมั่ง เค้าทั่วประเทศเค้าด่าเธอยังไง” เวฬุยาบอก
เธอกระชากไอแพดขึ้นมาอ่าน เห็นข้อความที่คนด่าเอี๊ยมเต็มเลย

ในโรงพยาบาลรักษาสัตว์ เวลากลางคืนหมอ คุยกับวรรษชล ที่ข้างๆบนเตียงมีน้องหมาถูกทำแผลอยู่ วรรษชลถามคุณหมออ่อนโยน
“น้องปลอดภัยแล้วใช่มั้ยครับ”
หมอยิ้มใจดี
“ครับ....น้องวุ้นเส้นเค้าเก่ง ใจสู้ ตอนทำแผลไม่ร้องเลยซักคำ”
เจ้าของหมาที่เป็นป้าลูบตามเนื้อตามตัวน้องหมา พลางยกมือไหว้วรรษชล
“ป้าขอขอบคุณคุณวรรษมากเลยนะคะที่ช่วย ทั้งพาวุ้นเส้นมาหาหมอ แล้วยังออกค่ารักษาให้ด้วย”
“ยินดีครับคุณป้า ถ้าเทียบกับชีวิตของน้อง มันเป็นเรื่องนิดเดียวเอง”
ป้ามองตื้นตัน
“มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับป้าค่ะ” ป้าน้ำตารื้น “เพราะถ้าคุณวรรษไม่ช่วย ป้ากับวุ้นเส้นต้องแย่แน่ๆเลยค่ะ คนชนวุ้นเส้นใจร้ายมาก ชนแล้วหนี จะช่วยซักนิดก็ไม่มี”
คนที่พาหมามาหาหมอ ที่นั่งรอกันอยู่ เมาท์มา
“ผู้คนสมัยนี้เดาใจอะไรไม่ได้หรอก บางคนหน้าตาดี แต่ใจร้าย”
“ดูอย่างนางเอก...ยัยอะไรนะ... อ้อ!! ยัยเอี๊ยม...ดูข่าวกันมั้ย ประสาท เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ บุกไปด่าแม่เลี้ยงถึงบ้าน”
วรรษชลได้ยินก็อึ้ง ขณะที่ผู้คนเมาท์กันต่อ
“เค้าคงเกลียดแม่เลี้ยงเค้ามากมั้ง”
“รู้...แต่ตัวเองเป็นถึงนางเอก เป็นคนของประชาชน หัดอยู่นิ่งๆเป็นนางเอกสวยๆดีกว่ามั้ย?? นี่อะไร?ไปด่าเค้าถึงบ้าน ไม่มีมารยาท เสื่อม”
“ใช่ๆ ฉันได้ดูข่าวอยู่ คุณพิมน่ะยืนเงียบ มีแต่ยายเอี๊ยมไปยืนด่าเค้าฝ่ายเดียว เรื่องจริงจะเป็นยังไง ฉันไม่รู้หรอก...แต่สิ่งที่ฉันเห็น ยายเอี๊ยมถ่อยมากเลย ขอบอก”
วรรษชลได้แต่ฟังแบบอ่อนเพลียละเหี่ยใจ เจ้าของวุ้นเส้นหันมาบอกวรรษชล
“ไม่เหมือนคุณวรรษ ใจดี ทั้งนอกจอ ในจอ ขอป้ากับวุ้นเส้น ถ่ายรูปกับคุณวรรษหน่อยนะคะ”
วรรษชลยิ้ม
“ได้ครับ...ยินดีครับ”
ป้าบอกคนแถวนั้น “ถ่ายรูปให้ป้าหน่อยๆ” ป้ายื่นมือถือให้
วรรษชลเดินไปประกบป้ากอดวุ้นเส้น ผู้คนรุมถ่ายรูปวรรษชลกันเกรียว แต่เขามีแววกังวล คิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับอรัญภัทร

กลางคืนต่อเนื่องมา อรัญภัทรนั่งอ่านข่าวจากไอแพด จากเว็บต่างๆมีแต่คนด่าเธอ
… อิบ้า /ประสาท ด่าคนอื่นเหี่ยว คนอื่นแก่ ไม่ดูหนังหน้าตัวเองบ้าง / คุณพิมจะ40 ดูหน้าเด็กกว่าแกอีก อิเอี๊ยม ...
เธอนั่งสะอื้นน้ำตาคลอ มือสไลด์หน้าจอ ลึกๆแล้ว เธอเป็นคนอ่อนไหว จนเธอเจอคนแชร์ภาพวรรษชลช่วยน้องหมา หล่อทั้งหน้าหล่อทั้งใจ... ถึงกับมือไม้สั่น สไลด์ไปหน้าอื่น เหมือนไม่อยากเห็น คราวนี้เจอภาพเปรียบเทียบ ฝั่งหนึ่งเป็นรูปเธอ/อีกฝั่งหนึ่งเป็นรูปวรรษชล ฝั่งวรรษชลเขียน รักหมา...ฝั่งเธอเขียน ปากหมา เธอนั่งสะอื้น ไม่คิด ผลลัพธ์จะออกมาลบขนาดนี้

วรรษชลเดินลิ่วออกมาด้านนอกรวดเร็ว หยิบมือถือขึ้นมาทำท่าจะกดเบอร์โทรฯของอรัญภัทร แต่มีสายโทร. เข้ามาพอดี วรรษชลสะดุ้งโหยงรับสาย
“ครับ”
“วรรษ เทปมีปัญหา”
วรรษชลพูดรัวเร็วร้อนใจ
“อะไรครับพี่”
“กองเซนเซอร์เค้าตรวจเทปแล้ว มันมีประเด็นที่น่าจะกระทบต่อคนอื่น ทางสถานีไม่อยากให้มีเรื่องฟ้องร้อง รายละเอียดพี่โน้ตไว้ให้แล้ว วรรษรีบมาเอาไปแก้ไขแล้วกัน จะได้ออนแอร์”
“ครับ”
วรรษชลถอนหายใจ มองดูเบอร์อรัญภัทร แต่ตัดสินใจไม่โทร. เก็บมือถือ เดินลิ่วขึ้นรถรวดเร็ว

วรรษชลเดินเข้าไปในห้องตัดท่าทางอิดโรย ป้อมที่ทำงานอยู่หันมาทักเสียงใส
“สวัสดีคร้าบบบสุภาพบุรุษที่สุดในโลก !! สุดยอดมากเลยพี่”
วรรษชลยิ้มแบบเหนื่อยๆ ถาม “อะไร”
“ก็..นี่ไงพี่” ป้อมยื่นไอแพดให้ดู “เค้าแชร์คลิปที่พี่ไปช่วยป้ากับน้องหมาวุ้นเส้นกันเต็มเลย”
วรรษชลยิ้ม ยังไม่ทันจะพูดอะไร ป้อมก็พูดต่อทันที
“แล้วก็ด่า...คุณเอี๊ยมกันเต็มเลย”
วรรษชลหันขวับมามองป้อมอย่างสนใจ ป้อมยื่นไอแพดให้ วรรษรับมาดู เห็นคนด่าเอี๊ยมมากมาย วรรษชลได้แต่ถอนใจ

อรัญภัทรนั่งร้องไห้แบบเสียใจมาก ท่าทางของเธอดูอ่อนแอ แตกต่างจากที่ผ่านมา , วรรษชลมือจับโทรศัพท์จะโทร. ไม่โทร. , เธอพยายามตั้งสติไม่คิดมาก ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ , วรรษชล ตัดสินใจโทร.หา , เธอล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำเสียงน้ำกระทบอ่างล่างหน้า ดังจนเอี๊ยมไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากด้านนอกแต่อย่างใด
เขมปัญฑาเดินเข้ามา เห็นมือถืออรัญภัทรมีคนโทร.มา เห็นว่าเป็นวรรษชลโทร.เข้ามา เขมปัญฑามองลังเล ก่อนตัดสินใจหยิบมือถือกดตัดสาย วรรษชลผิดหวัง
“เอี๊ยม”
วรรษชลท่าทางหัวเสียเป็นอย่างมากหวิดฉุนโกรธ

เขมปัญฑาหยิบมือถือของเอี๊ยมมา กดลบเบอร์ของวรรษชลออกจากความจำเครื่อง เวฬุยาเดินเข้ามาด้านหลัง เห็นเขมปัญฑาลบเบอร์พอดี ถามทันที
“เธอทำอะไรเขม”
เขมปัญฑาสะดุ้งเฮือก หน้าซีดเผือด ตกใจ รีบวางมือถือของอรัญภัทรลงที่เดิม นางเอกสาวเปิดประตูห้องน้ำออกมา เจอเพื่อนทั้งสองมองหน้ากัน ก็ถาม
“เธอสองคนเข้ามาในห้องฉันทำไม”
เวฬุยาเชิดหน้าขึ้นตอบกวนๆ
“เห็นไม่ออกไปกินข้าว เลยอยากรู้ ว่าตายรึยัง”
เวฬุยาเดินออกไป เขมปัญฑาฉวยโอกาสนั้นเดินตามมะม่วงออกไป อรัญภัทรหน้างอ ฉุนเพื่อนได้แต่ฮึดฮัดอารมณ์เสีย หยิบมือถือขึ้นมากดดู ไม่มีเบอร์ของวรรษชลโทร.เข้ามา เธอน้ำตาคลอ คิดในใจ
“ขนาดฉันมีเรื่องขนาดนี้...คุณยังไม่คิดจะโทร.หาฉันอีก วรรษชล”
อ่านต่อตอนที่ 7




กำลังโหลดความคิดเห็น