xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 20

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 20

รามนรีถูกประกายฟ้ากับพวงศรีเอามือปิดปาก ทั้งลากทั้งดึงเข้ามาที่ลับตาคน
 
“ปล่อย มาจับฉันทำไม”
“แกพูดพล่อยๆ ได้ยังไง ฉันไปหลอกอะไรใคร ระวังฉันจะแจ้งความฐานหมิ่นประมาท ฉันจะเอาแกเข้าคุก”
“เหรอ งั้นก็เอาสิ เพราะฉันมั่นใจว่าสิ่งที่ฉันพูดมันเป็นเรื่องจริง แล้วหลักฐานมันก็อยู่ในนี้ทั้งภาพและเสียง”
ประกายฟ้ากับพวงศรี หันไปสบตาหน้าเหวอ แต่ทำใจดีสู้เสือ
“แก แก อีนัง”
“จะอีนังอะไรก็ช่าง รู้แต่ว่า ฉันรู้ความลับของอีนัง ทุกเรื่อง”
“อย่ามามั่ว นั่นมันเรื่องจริงที่ไหน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ก็ไม่รู้สินะ ว่าจริงหรือไม่ มันผิดไหมน้า คงต้องไปถามคุณภูมิ หรือไม่ฉันก็จะเอาไปโพสต์ถามความเห็นผู้คนในสังคมโซเชียล ให้เขาช่วยคอมเม้นท์ กดไลท์ กดแชร์ต่อๆ กันไป จะได้ดังไปทั่วโลก เข้ากับสโลแกนสังคมรู้ โลกรู้ไงจ๊ะ”
“ไหนแกลองว่ามาสิ ว่าแกรู้อะไร”
“ก็รู้ว่าคุณสองคน กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน กำลังหลอกเสี่ยแก่ๆ แล้วก็แร่มาหาจับหนุ่มๆ ที่หล่อและรวย อย่างคุณภูมิ สามีฉัน”
ประกายฟ้ากับพวงศรี หันไปสบตาหน้าเหวอกว่าเดิม เมื่อรู้ความจริงว่ารามนรีคือเดือนฉาย ก่อนหันไปมองยาย พูดพร้อมกัน
“นังเดือนฉาย”
รามนรีพยักหน้าให้ มองสองแม่ลูกยิ้มสะใจ

ภูมิกำลังจะเดินเข้าไปหาย่า เสียงโทรศัพท์ดัง เป็นสายจากไผท
“เมื่อคืนไปเพ่นพ่านที่ไหนมา ทำไมยังไม่มาทำงานอีก”
“โห มีลูกน้องที่ไหน โทรตามจิกกบาลเจ้านายบ้างวะเนี่ย”
“ก็ฉันนี่ไง เอกสารรอเซ็นบานตะไท ทำไมไม่เข้ามา”
“ไม่ไปโว้ย วันนี้มีงานสำคัญ”
“งานสำคัญอะไรของแกวะ”
“เออน่า ว่างเมื่อไหร่เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ฉันรีบ”
ภูมิไม่สนใจไผท กดสายทิ้ง
“เฮ้ย ไอ้ภูมิ ไอ้ภูมิ เดี๋ยว เฮ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ ไอ้เพื่อนเวร”
ไผทถอนใจ เครียด

พวงศรีเป็นลม นั่งพิงพนักเก้าอี้ มีประกายฟ้าคอยบีบนวดให้ รามนรีหยิบยาดมยื่นให้ประกายฟ้า
“ถึงกับสลบไปเลย นี่ ฉันเตรียมมาให้โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย”
“แกรู้ได้ยังไง ว่าแม่ฉันจะเป็นลม”
“แม่เธอก็เหมือนตัวร้ายในละคร ทำชั่วไว้ พอถูกแฉก็จะร้องกรี๊ดๆ แล้วก็เป็นลม แต่แม่เธอไม่ได้ร้อง เพราะกลัวความแตกก่อนกำหนดไงจ๊ะ”
ประกายฟ้ากำมือแน่น ยิ่งแค้นรามนรีแต่สถานการณ์เป็นรอง เลยต้องเฉยดูเชิง
“เฮ้อ เห็นแล้วก็สงสาร แล้วถ้าฉันมีข้อเสนอเธอสนใจไหม”
พวงศรีรีบงัวเงียลุกขึ้นมา
“แกมีข้อเสนออะไร”
“อ้าว หายเลยเหรอ”
“อย่ามาเล่นลิ้นกับแม่ฉัน รีบบอกมา ว่าแกต้องการอะไร”
“อย่ามาที่นี่ อย่ามายุ่งกับคุณภูมิอีก ฉันสัญญา ว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”
พวงศรีหันไปมองประกายฟ้าที่มีสีหน้าอึดอัด

“ถึงเวลาที่คุณต้องเลือก ว่าจะให้ฉันกระชากหน้ากากคุณ หรือคุณจะใส่หน้ากากแล้วเดินออกไปถอดเองอย่างสง่างาม”

ประกายฟ้าหันไปมองหน้าพวงศรี ที่กัดกรามกรอด ใช้ความคิดอย่างหนัก
 
“ถ้าไม่สนก็ไม่เป็นไร ฉันจะได้ไปโพนทะนา เพราะที่ผ่านมาฉันทนมาเยอะแล้ว”
“ก็ได้ๆ ฉันจะไป แต่แกต้องสัญญาว่าจะรักษาคำพูด”
ประกายฟ้าหันไปมองแม่ พวงศรีรีบหยิกแขนให้นิ่งไว้
“เรื่องนี้ไม่ต้องบอกฉัน กรุณาบอกตัวเอง และจำให้ขึ้นใจ ไม่งั้นพัง”
รามนรีเดินหน้าระรื่นออกไป
“แม่ ทำไมต้องยอมมัน ทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วย”
“นาทีนี้เราไม่มีทางเลือก ต้องรีบไปจากที่นี่ หนีไปตั้งหลักก่อนให้ไว ไปเร็ว”
ประกายฟ้าอ้าปากจะเถียงแต่ไม่ทัน เพราะพวงศรีดึงมือพาวิ่งออกไปที่รถ ประกายฟ้าจำใจสตาร์ทรถ แล้วขับพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว นิดมองงงๆ

ภูมิคุกเข่าต่อหน้าย่า วิงวอน ย่าเมินหน้าหนี
“คุณย่า ผมหมดหนทางที่จะง้อเขา คุณย่าต้องช่วยผม”
“ไม่เอา ไม่ช่วย”
“คุณย่าน่ะ”
“ก็กะล่อนไม่หยุดไม่หย่อนเสียที จะให้ฉันเข้าข้างแกได้ยังไง เสียผู้ใหญ่หมด”
“ไม่เสีย ผมรับรองได้ว่ายังไงก็ไม่เสีย ผมจะเป็นคนดีแล้วคุณย่า”
“ไอ้คนดีของแก ฉันได้ยินจนชินแล้ว ไม่เอา ฉันไม่อยากโดนเขาถอนหงอก”
“โห คุณย่า แค่ช่วยบอกให้เขาหายโกรธ แล้วช่วยสอนผมทำอาหาร แค่นี้ก็ทำให้หลานไม่ได้”
“ก็ฉันไม่ชอบพูดอะไรที่มันไม่จริง ฉันสงสารผู้หญิงเขา”
“ก็ไหนคุณย่าเคยบอก เคยบ่น ว่าผมทำอะไรก็ไม่เป็น ให้ผมหัดทำอะไรด้วยตัวเอง พอวันนี้ผมตั้งใจ ทำไมคุณย่าไม่ยอมช่วยผม ทำไม”
ภูมิมองย่าเซ็งๆ ก่อนเดินงอนออกไป ย่าถอนใจครุ่นคิด

รามนรีหลบมานั่งเหม่ออยู่ในสวน ย่าเดินเข้ามาหา
“มานั่งเหม่ออยู่ทำไม ทำไมไม่พูดจากันดีๆ ตะกี้เจ้าภูมิก็จะเป็นจะตาย เพิ่งมาเล่ารื่องของเราให้ย่าฟัง”
รามนรีตกใจตัวชาวาบ คิดว่าภูมิเล่าเรื่องได้เสียกัน กำมือแน่นระงับอารมณ์ ถามหยั่งเชิง
“ระ เรื่องอะไรเหรอคะคุณย่า”
“ก็เรื่องที่หนูหึงเขากับแม่ประกายฟ้า จนโกรธไม่ยอมพูดยอมจาด้วยน่ะสิ”
รามนรีเป่าปากถอนใจโล่งอก นิ่งฟังต่อ
“เขาก็เลยมาขอให้ย่าช่วยคุยกับหนูให้หายโกรธ ย่ารู้ ว่าหลานย่ามันไม่เอาไหน เรื่องเอาแต่ใจก็ที่หนึ่ง ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ เขาก็ดีขึ้นเยอะ แล้วนี่เขาตั้งใจอยากจะให้หนูช่วยสอนทำอาหารให้ ทำไมไม่สอนให้เขาบ้างล่ะลูก”
รามนรีไม่อยากอยู่ใกล้ภูมิ พยายามคิดหาคำตอบเพื่อปฏิเสธ
“เอ่อ หนูกลัวคุณนายรู้เข้า ท่านจะไม่สบายใจจะหาว่าไปทรมานลูกชายท่านค่ะ”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา ย่าจะปรามเขาให้เอง ถ้าไม่สบายใจ ก็มาสอนที่บ้านย่าก็ได้นี่”
รามนรีหมดทางเลี่ยง จำใจยอมรับ
“ก็ได้ค่ะ”
“ ดีลูกดี เป็นผัวเมียกัน หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันเถอะนะ คนเราอายุสั้นจะตาย รักกันไว้ดีกว่า เชื่อย่าเถอะ”

รามนรีฝืนยิ้มให้ย่า

ประกายฟ้าเปิดประตูและปิดประตูดังปัง
 
วิ่งร้องไห้ผ่านหน้าประกันไป ประกันตกใจหันไปมองลูก พวงศรีเดินตามเข้ามา ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา หน้าเครียด
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคุณ”
เสียงโทรศัพท์พวงศรีดัง แต่เธอไม่สนใจ ประกันหยิบมามองหน้าจอ
“คุณสราญโทรมา”
พวงศรีไม่พูดอะไร ได้แต่ส่ายหน้าไม่ยอมรับสาย
“ตกลงจะบอกผมได้ไหม ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย”
ประกันมองพวงศรี ไม่เข้าใจ

ไผทนั่งทำงานอยู่ ภูมิเปิดประตูพรวดเข้ามาหน้าเครียดด้วยความโมโห พูดฉอดๆ
“ไอ้ไท ฉันเครียดมาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในโลกนี้ยังมีคนอย่างนี้หลงเหลืออยู่”
“อะไรของแก เข้ามาก็บ่นเอา บ่นเอา ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ยวะ”
“ก็ญาติผู้ใหญ่ คุณยายของแกน่ะสิ ทำให้ฉันเสียอารมณ์แต่เช้า แถมไม่ยอมฟังอะไร ง้อก็ยาก อุตส่าห์บากหน้าไปให้คุณย่าช่วย ก็ไม่ยอมช่วยฉัน”
“แล้วเขาไปทำอะไรให้แก”
“เขาปฏิเสธฉัน ไม่รักฉัน”
ไผทมองงง ระคนขำ
“ในเมื่อไม่ได้รักกัน แล้วจะให้เขามารักแกได้ยังไง ไอ้บ้า”
ภูมิยิ่งโมโห หลุดปากพูด
“ทั้งๆ ที่เมื่อคืน เรามีอะไรกันแล้วเนี่ยนะ”
ไผทตกใจหันไปมองภูมิ ภูมินึกได้ รีบเอามือปิดปาก หันหลังเดินหนีไปอย่างเร็ว ไผทยังคงอึ้ง

ประกายฟ้าครุ่นคิดหน้าเครียด ประกันกับพวงศรีมาเคาะประตูเรียก
“ฟ้า เปิดประตูหน่อย แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“เรามีอะไรต้องคุยกันอีก ในเมื่อเราแพ้มัน เรื่องของหนูกับพี่ภูมิมันจบไปแล้วแม่”
“อย่าคิดอย่างนี้สิ เราแค่ถอยมาตั้งหลัก ไม่ได้หมายความว่าเราแพ้มาคุยกันเร็ว”
ประกายฟ้านิ่งคิดสักครู่ ก่อนเดินมาเปิดประตู
“แม่ไม่น่าเลย ตอนนี้ในหัวหนูมันมึนตื้อไปหมด หนูกลัว กลัวจะเสียพี่ภูมิไป”
“ก็ใครจะไปรู้ ว่าโลกมันจะกลม จนทำให้คนโคจรมาพบกันได้ไวขนาดนี้”
“ก็นั่นน่ะสิ ใครจะไปคิด ว่าอีเด็กปากร้าย ใส่แว่นตาหนาเตอะ มันจะกลายมาเป็นอีนังเดือนฉายเมียคุณภูมิได้ ฉันงี้ลมสว้านกิน แทบล้มทั้งยืนเลย”
“มันทำเราหมดทาง เพราะมันมีหลักฐานทั้งภาพและเสียง ยังไงเราก็เถียงไม่ขึ้น”
“นี่แหละคือโจทย์ยากที่แม่ต้องคิดให้เคลียร์ว่าจะตอบยังไง เขาถึงจะไม่สงสัยเรา นี่ยังดีนะที่อีตาเสี่ยอุดรเงียบหายไป ไม่งั้น ได้แก้ปัญหากันตายแน่”
“เอาไงดีคะ ฟ้าเครียดจะแย่อยู่แล้วเนี่ย”
ประกันหน้าเครียดก่อนดีดนิ้ว
“เฮ้ย จะไปกลัวมันทำไม ลืมไปแล้วหรือไง ว่าเรายังมีไม้เด็ดเรื่องคุณภัทร”

ประกายฟ้ากับพวงศรีหันขวับไปมองประกันเป็นตาเดียว

ภูมิเดินหน้าเหวอเข้ามาในห้องทำงาน ทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะ เอามือตบปากตัวเอง
 
ไผทเปิดประตูเดินหน้าตึงตามเข้ามา
“บอกฉันมา ว่าที่แกพูดเมื่อกี้มันเป็นเรื่องจริง หรือหลอก”
ภูมิพยักหน้าจ๋อยๆ
“จริง”
ไผทดึงคอภูมิ จะต่อย ก่อนเปลี่ยนใจ ปล่อยมือ มองหน้าเอาเรื่อง
“แกรู้ตัวบ้างไหม ว่าแกทำอะไรลงไป”
“เฮ้ย ทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย หรือว่าแกหึงฉันวะ”
“ยังจะมีหน้ามาพูด นี่แกรู้ตัวบ้างไหมว่าแกกำลังทำร้ายผู้หญิงดีๆ ถึงสองคน”
“แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใครจริงๆ นะ”
“แต่แกก็ทำ แล้วตอนนี้ คุณยายเขาอยู่ที่ไหน เขาเป็นยังไงบ้าง”
“เขาไม่เป็นอะไร แถมยังบอกให้ฉันลืมเรื่องนั้นไป เขาจะคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันพยายามที่จะรับผิดชอบ แต่เขาพูดเหมือนไม่แคร์อะไร เขาไม่สนใจฉันเลย”
“ไหนบอกสมภารไม่กินไก่วัดไง แล้วทำไมเปลี่ยนใจ กินไก่เข้าไปทั้งตัวเลยวะ”
“ก็ฉันชอบเขาเข้าแล้วจริงๆ”
“แล้วเรื่องเดือนฉาย แกจะเอายังไง”
“ฉันจะบอกเขาว่าฉันรักยาย เดือนเขาเป็นคนมีเหตุผล เขาน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก”
“แกเคยนึกถึงใจคุณเดือน ที่เขาอดทนรัก อดทนรอแกบ้างไหมวะ”
“ก็รู้ไง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ แกจะให้ฉันโกหกตัวเอง โกหกเขา ไปอีกนานเท่าไหร่”
ภูมิหยิบโทรศัพท์กดหาเบอร์โทร
“ฉันโทรไปบอกเขาเลยดีกว่า จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย คุณยายจะได้เลิกเกรงใจเขาเสียที”
ไผทรีบพุ่งไปคว้าโทรศัพท์ไว้
“อย่านะอย่า แกอย่าเพิ่งบอกเลิกเขาตอนนี้ แกควรลองคิดดูให้ดี คิดอีกทีก็ได้”
“เพื่ออะไร เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันอยากจะรักยายแค่คนเดียว ฉันไม่อยากปวดหัวเรื่องผู้หญิงอีกแล้ว ฉันเบื่อ”
“เชื่อฉันแล้วใจเย็นๆ รออีกนิดเถอะนะ ฉันขอร้อง”
“ก็ได้ แต่คืนนี้แกต้องไปปาร์ตี้แก้เครียดกับฉันนะ”
ไผทมองภูมิ จำใจพยักหน้าเนือยๆ

สราญหน้าเครียด มองหน้าจอโทรศัพท์
“นี่มันอะไรกัน ทำไมสองแม่ลูกนั่น ไม่มาตามนัดแล้วยังไม่ยอมรับสายฉัน”
สราญกดโทรออกหาภูมิ
“ว่าไงครับคุณแม่”
“ทำไมแกยังไม่ยอมไล่มันไป แสดงว่าแกเลือกมัน ไม่ใช่แม่ใช่ไหม”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมเลือกทั้งคุณแม่ ทั้งเขาครับ”
“ไม่จำเป็น”
“คุณแม่ อะไรที่ควรพูดผมก็พูดไปหมดแล้ว ฟังผมบ้างสิครับ”
“ฉันไม่ฟังและไม่คุยเรื่องนี้ ฉันโทรมาแค่อยากจะถามว่าหนูฟ้าเขาไปหาแกไหม”
“ไม่นี่ครับ”
“อ้าว แล้วเขาหายไปไหนเนี่ย”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะครับ”
“งั้นแค่นี้นะ”
“เดี๋ยวก่อนสิครับคุณแม่ ผมมีเรื่องสองแม่ลูกนั่นจะเล่าให้ฟัง”
“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ฟัง ไม่คุย”

ภูมิมองโทรศัพท์ เซ็ง

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 20 (ต่อ)

เสี่ยอุดรเดินเข้ามาในผับ ทิ้งตัวนั่งหน้าเครียด ก่อนหยิบรูปภูมิออกมาดู
 
ครุ่นคิดสักครู่ ก่อนนึกได้ว่าเคยเจอภูมิที่ร้านน้ำหอม และมีแฟนชื่อ ฟ้า เหมือนกัน
“เขาเองเหรอ ภูมิ รัตนบดินทร์”
สาวๆ ทะยอยกันเข้ามานั่งรายล้อมเสี่ยอุดร ชะเง้อมองรูป
“ต๊าย นี่คุณภูมิ รัตนบดินทร์ นี่คะ นั่นไง เขานั่งอยู่นั่นไงคะเสี่ย”
เสี่ยอุดรหันขวับไปมองภูมิที่นั่งดื่มหน้าเครียดอยู่กับไผท แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปหา
“สวัสดีครับ ผมเสี่ยอุดร ที่เราเคยเจอกันในร้านน้ำหอมไงครับ”
“เสี่ยอุดร ร้านน้ำหอม อ๋อๆ จำได้แล้วครับ สวัสดีครับพี่เสี่ย ไผทนี่พี่เสี่ยอุดร”
“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนครับ”
“ทำไมมานั่งดื่มกับชายหนุ่ม แทนที่จะเป็นคุณฟ้าแฟนคุณล่ะ”
“ผมกับภูมิเป็นเพื่อนรักกัน ไม่ใช่คู่เกย์แน่นอนครับเสี่ย”
“ต้องขอโทษที ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเลยนะครับ”
“ขออัพเดทข้อมูลใหม่ ว่าผมกับฟ้าไม่ได้เป็นแฟนกัน เพราะผมมีภรรยาแล้ว”
“อ๋อเหรอครับ”
“มาครับ เรามาดื่มด้วยกันดีกว่านะ”
“ดีครับดี เดี๋ยวผมขออนุญาตเรียกน้องๆ มาบริการให้ จะได้ไม่เหงาดีไหมครับ”
“เชิญพี่ตามสบาย ผมยังไงก็ได้”
เสี่ยอุดรส่งซิกให้สาวๆ เดินเข้ามา ดูแลคอยรินเหล้าให้ ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนยื่นโทรศัพท์ให้สาวๆ ช่วยถ่ายรูปคู่กับภูมิและไผทให้ ภูมิกับเสี่ยอุดรชนแก้วกันชื่นมื่น จนเริ่มเมา เพ้อพูดอ้อแอ้
“พี่เสี่ย เชื่อไหม ว่าตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยรักใครมากมายขนาดนี้”
“อืม แล้วคุณภูมิรักใคร”
“ก็คุณยายเมียผมไง แต่ไอ้ไท เพื่อนรักผมแท้ๆ มันกลับไม่เชื่อผม”
เสี่ยอุดรพยักหน้าเข้าใจ
“แต่ผู้ชาย ไม่ว่าจะเคยแย่แค่ไหน ผ่านอะไรมา แต่ถ้าเจอรักแท้ มันก็พร้อมที่จะหยุดได้เหมือนกันนะไท”
“ใช่ๆ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาไม่รักผม ทำไม”
“แกคงจะดีเกินไปมั้ง”
“เออ เฮ้ย เหตุผลนี้มันคลาสสิคมาก แต่ฉันสับสน”
เสี่ยอุดรแอบสังเกตภูมิกับไผท รับรู้ได้ว่าเป็นคนจริงใจ ไม่มีชั้นเชิงอะไร
“สับสนอะไร หรือว่าจะเปลี่ยนใจไปเป็นตุ๊ด”
“จะบ้าเหรอ คนอย่างฉันมันแมนโคตร ไม่ยอมให้เสียของแน่”
“ดูมันสิครับพี่ ทีพูดเรื่องจะสูญพันธุ์ สติมาปัญญาเกิด ทันทีเลย”
เสี่ยอุดรหันไปสบตาไผท ก่อนหลุดขำ พากันหันไปมองภูมิ ที่หน้าคว่ำคะมำลงไป
“เฮ้อ ก็เพิ่งจะเคยเห็นเพลย์บอยตัวพ่ออกหักรักคุดก็วันนี้”

ภูมิเมาปลิ้นสลบเหมือด

เสี่ยอุดรเดินกลับจากโต๊ะภูมิ ฝ่าวงล้อมสาวๆ เข้ามานั่งที่เก้าอี้
 
“ปล่อยให้พวกเรานั่งเหงาเสียนานเลยนะคะเสี่ยขา”
เสี่ยอุดรโอบสาวๆ เปิดกระเป๋า ควักแบงค์พันออกมาหนึ่งปึก ยื่นให้ สามสาวมองเงินตาวาว รับเงินอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ถือว่าเป็นค่าเสียเวลา ที่ปล่อยให้นั่งเหงา เอาไปแบ่งกันนะ เดี๋ยวเสี่ยขอนั่งชิลๆ คนเดียวสักครู่”
สามสาวเดินออกไปอย่างว่าง่าย
“เงินมันซื้อได้ทุกอย่าง ยกเว้นรักแท้ใช่ไหม ฉันจะจัดให้เธอชุดใหญ่แน่ ประกายฟ้า”
เสี่ยอุดรยิ้มเหี้ยม

ไผทขับรถเข้ามาจอด ก่อนเปิดประตูวิ่งลงไปประคองภูมิ ที่นั่งคอห้อยอยู่เบาะหน้า ภูมิงัวเงีย ตีโพยตีพาย ขัดขืน
“เฮ้ย อย่ายุ่ง คนจะนอน”
“จะนอนบนรถได้ยังไง ต้องไปนอนบนห้องสิ”
“ไม่เอา เขาเกลียดฉัน ฉันไม่ไป”
รามนรีเดินกลับจากบ้านย่า ได้ยินเสียงภูมิตัดพ้อ รีบเดินเข้าไปหาไผท
“ทำไมคุณภูมิเมามากอย่างนี้คะ”
“ผมก็ไม่รู้ แต่ดูท่าน่าจะอกหัก เห็นเพ้อตลอดเวลา ว่าผู้หญิงไม่รัก ไม่เข้าใจ แต่ไม่ยักกะใช่กับเดือนฉาย คุณยายรู้ไหม ว่าใคร”
รามนรียิ้มแหยส่ายหน้า หลบตาไผท
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”
รามนรีรีบกลบเกลื่อน กุลีกุจอเข้าไปช่วย
“มาค่ะ เดี๋ยวฉันช่วยนะคะ”
ไผทแอบมองรามนรี เข้ามาช่วยพาภูมิออกมาจากรถอย่างทุลักทุเล ภัทรเดินเข้ามา
“มาหนูเดือนให้พ่อช่วยดีกว่า”
รามนรีผละออกมา ไผทกับภัทรหิ้วปีกภูมิ พามานอนแผ่หราบนเตียง
“เมาแอ๋ แน่นิ่งเลย”
“ก็เล่น ดื่มเอาๆ มันจะไม่เมาได้ยังไงละครับพ่อ”
“อึม อย่าไปถือสาเลย เขาคงเครียดหลายเรื่องน่ะ”
ภัทรเดินเข้ามาโอบไหล่ไผท
“ปะ เราไปกันเถอะ”
ไผทมองรามนรี
“ฝากดูแลเพื่อนผมด้วยนะ”
ภัทรกับไผทเดินออกไป รามนรีถอดเสื้อผ้าให้ภูมิอย่างยากลำบาก ภูมิเหวี่ยงแขนเหวี่ยงขา รามนรีต้องคอยหลบไปมา กลัวโดนลูกหลง ภูมิงัวเงีย เพ้อตัดพ้อ
“ผมไม่ดีตรงไหน ทำไมคุณถึงไม่รักผม ทำไม”

ภูมิหลับไป รามนรีน้ำตารื้น เอาผ้ามาห่มให้ พยายามตัดใจ

ไผทนั่งมองรูปเดือนฉายที่หัวเตียง หน้าเศร้า เมื่อนึกถึงว่าภูมิรักรามนรี
 
“มันเกิดขึ้นแล้วนะเดือนฉาย ผมต้องทำยังไง ต้องทำอะไรก่อนดี”
ไผทหงายตึงลงไปนอน เอามือก่ายหน้าผาก คิด เครียด

ตอนเช้า รามนรีนอนหลับสนิทอยู่ด้านล่างข้างเตียง ภูมิงัวเงียบิดตัวไปมา ก่อนตกใจ มุดหัวเข้าไปในผ้าห่ม เห็นตัวเองใส่แต่กางบ๊อกเซอร์ ไม่สวมเสื้อ แต่มีผ้าห่มคลุมอยู่ ภูมิโผล่หัวออกมาจากผ้า ก่อนกวาดตามองไปเห็นรามนรี ครุ่นคิด กลอกตาไปมา ก่อนคิดอะไรได้ เริ่มโวยวาย
“นี่คุณทำอะไร ว่าคุณลักหลับผม คุณต้องเอาคืนผมแล้วแน่ๆ”
รามนรีตกใจ ตื่นลืมตา
“นี่ อย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ ใครจะกล้าไปทำบ้าๆ อย่างนั้นกับคุณ”
ภูมิเปิดผ้าโชว์ซิกแพค
“แล้วเสื้อผ้าผมไปไหน ทำไมโป๊ล่ะ”
รามนรีเบือนหน้าหนี
“ก็เมามาขนาดนั้น จะให้ฉันทำยังไง”
ภูมิหัวเราะร่า
“ขำบ้าอะไร พอได้แล้ว”
ภูมิรีบเอามือปิดปาก รามนรีคว้ากระดาษตารางเรียนทำอาหาร มายื่นให้ภูมิ
“ที่ฉันยอมก็เพราะคุณย่า และฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าคุณจะมาเรียนกับฉันทำบ้าอะไร ฉันแค่พอทำได้ ไม่ได้เก่งอะไรเลย”
“ก็ผมอยากเรียนกับคุณ อยากทำได้ ไม่ได้อยากเก่ง โห เรียนทุกวันเลย อย่างนี้ผมก็ตายสิ”
“โอเคได้ ถ้ากลัวตายก็ไม่ต้องเรียน ฉันจะไปบอกคุณย่าให้”
ภูมิรีบวิ่งไปขวาง
“คนอย่างภูมิ รัตนบดินทร์ ไม่เคยกลัวตาย พูดคำไหนคำนั้น”
“งั้นก็รีบไปอาบน้ำ แล้วตามไปที่ครัวบ้านคุณย่า”
รามนรีเดินหน้าเชิดออกไป ภูมิพึมพำ
“หือ ผู้หญิงอะไร ดุ๊ ดุ แต่ก็น่ารัก”
ภูมิยิ้มเพ้อ

วิรัชเอาชุดที่จะใส่ไปงานหมั้นระพี มาให้ป้าผ่องดู
“ชุดไปงานหมั้นเจ้าพี เขาเพิ่งเอามาให้เมื่อตะกี้ เป็นไง สวยไหมแม่ผ่อง”
“สวยค่ะสวย”
“ดีนะ ที่ฉันรีบสั่งตัดไว้ก่อน แต่คราวนี้ ฉันไปให้หมอดูเลือกสีให้ จะได้ไม่มีอุปสรรคขวากหนาม เหมือนงานยัยหนูเล็ก”
“ว่าแต่เมื่อไหร่ คุณหนูเล็กจะกลับมาเสียทีล่ะคะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน นี่ขนาดเจ้าพีกับคุณผสานช่วยกันออกตามหา ก็ยังตามกลับมาไม่ได้ ไม่รู้มันจะอะไรกันนักกันหนา หรือว่ามันไม่ชอบคนดีถึงได้หนีไป”
“ว่าแต่คุณผสาน เขาดีจริงรึเปล่าล่ะคะ”
“นี่ก็อีกคน โดนยัยหนูเล็กล้างสมองจนยอมพาเขาหนี อย่าเชื่อคนง่ายนักสิแม่ผ่อง แล้วที่ฉันเชื่อพ่อผสาน เพราะฉันเห็นด้วยตา สัมผัสได้ด้วยใจ ว่าเขาเป็นคนดีและมีน้ำใจมากจริงๆ นะ”
ป้าผ่องจำใจพยักหน้า
“ค่ะ”
“รู้ไหม ว่าหนูศจีแฟนเจ้าพีเขาเป็นคนดี มีเชื้อมีสายเป็นผู้ดีเก่า แถมยังมีคุณย่าเป็นถึงคุณหญิงเลยนะแม่ผ่อง”
“ดีค่ะ คุณพีเป็นคนดี ก็เหมาะสมแล้วที่จะได้เจอผู้หญิงดีๆ”
“ก็นั่นน่ะสิ ฉันถึงได้ยอมทุ่มสุดตัวเพื่อลูกสะใภ้คนนี้ อย่างน้อยก็พอจะทำให้ฉันหายทุกข์ใจ เรื่องยายหนูเล็กลงไปได้บ้าง”
“ค่ะ”

วิรัชมองชุด ยิ้มไม่หุบ

ภายในห้องครัวบ้านย่า รามนรีกับภูมิโพกหัว ใส่ผ้ากันเปื้อน
 
รามนรีสอนภูมิหั่น และล้างผัก ภูมิทำตามอย่างเคร่งครัด จนเสร็จ
“นี่ผักอะไรหอมจัง”
“นี่อายุเท่าไหร่ ทำไมไม่รู้จักใบกะเพรา”
“เนี่ยนะใบกะเพรา กินออกบ่อยและอร่อยมาก แต่ทำไมไม่เคยรู้เลย”
“ดัดจริตมาก”
“ก็ผมไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ดัดจริตสักหน่อย”
“ฉันจะสอนทำผัดกะเพรา ไข่ดาว ไข่เจียว
“โห เมนูโปรดผมทั้งนั้นเลย คุณช่างรู้ใจผมจริงๆ”
“ถ้าฉันรู้ใจคุณ ก็คงรู้ใจคนทั้งประเทศ เพราะเมนูนี้ใครๆ ก็กิน”
ภูมิมองค้อน เซ็ง ย่า เภา ถวิล พากันเข้ามาแอบยืนมองทั้งคู่ รามนรีเคาะไข่ใส่ถ้วยและให้ภูมิทำตามไปพร้อมๆ กัน ภูมิยังเงอะงะตอกไข่ไม่เป็น ทั้งเปลือกแตกตกลงไปทั้งในชามนอกชามเลอะเทอะ
“คุณนี่มันเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อจริงๆ”
“ก็ผมเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่พ่อครัว จะให้เก่งเหมือนตัวจริงเขาได้ยังไงล่ะครับ”
“แต่คุณเป็นนักธุรกิจที่รักสบาย ขายแต่ลายเซ็น ไม่ได้คิดเองทำเองเสียหน่อย”
ย่ายิ้มสะใจ พึมพำเบาๆ
“พูดอีกก็ถูกอีก ดีๆ ด่ามันเข้าไปมันจะได้ดีขึ้น”
เภาหันไปมองย่า ทำท่าจุ๊ปาก ย่าได้สติพยักหน้าให้ เงี่ยหูฟังต่อ
“แต่ต่อไป ผมกำลังจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่เชื่อคุณก็คอยดูไปละกัน”
“งั้นก็ตอกไข่ใส่ถ้วยให้ได้ก่อนละกัน”
ภูมิฮึดสู้ ตอกไข่มือไม้สั่น จนสำเร็จ เอาทิชชูเช็ดพื้นจนสะอาด รามนรียื่นที่ตีไข่ให้ จับมือภูมิตีไข่ให้ฟู ภูมิแอบยิ้มชอบใจที่ได้ใกล้ชิด ย่ายิ้มปลื้ม ก่อนพาทุกคนเดินออกไป รามนรีสอนภูมิทอดไข่ดาว ภูมิทำไหม้ดำปี๋ รามนรีให้ทำใหม่หลายรอบจนดีขึ้น ภูมิรู้สึกสนุก ยิ่งรู้สึกประทับใจ หันไปมองรามนรีตาเยิ้ม หญิงสาวแอบเขินจนใจสั่น

วิรัชเปิดกำปั่นหยิบสร้อยเพชรออกมา คิดถึงภรรยาเก่า
“ถ้าคุณยังอยู่ ผมรู้ ว่าคุณต้องดีใจมาก”
วิรัชยิ้มเศร้า หยิบทองออกมาวางเรียงไว้ กองแก้วเดินเข้ามา เห็นเพชรทองวางเกลื่อนก็ตาวาว วิรัชหยิบผ้ามาทำความสะอาดเพชรและทอง กองแก้วครุ่นคิดก่อนพยายามทำตัวให้เซ็กซี่ เดินเข้าไปกอดวิรัช
“อย่าบอกนะ ว่าจะเตรียมไว้ เซอร์ไพรส์แก้ว”
กองแก้วหันไปหยิบสร้อยเพชรกับทอง
“โอ้โห ทองเก่าสุกสกาว เพชรเก่าก็น้ำงามมาก เลอค่ามากๆ เลยค่ะ”
กองแก้วเอามาทาบที่คอ
“เหมาะกับแก้วไหมคะ”
“ก็เหมาะ”
กองแก้วดีใจ วิรัชหันไปหยิบของจากมือกองแก้วกลับมาวางไว้ที่เดิม
“แต่ของพวกนี้เป็นของแม่เจ้าพี ที่เขาเก็บไว้ให้ลูก ผมจะเอาไปหมั้นหนูศจี ในนี้มีของทั้งหมดสิบยี่สิบชิ้น เดี๋ยวคุณช่วยทำความสะอาด แล้วก็เอามาเก็บไว้ที่เดิมนะ”

กองแก้วเซ็ง ฝันสลาย จำใจทำความสะอาดอย่างเสียไม่ได้
 
จบตอนที่ 20


กำลังโหลดความคิดเห็น