xs
xsm
sm
md
lg

นางแค้น ตอนที่ 20

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางแค้น ตอนที่ 20

ทิพย์ถือถุงช้อปปิ้งเดินมาตามทางแล้วสะดุดหยุดมองที่หน้าร้านชุดแต่งงาน

ทิพย์หยุดมอง ด้วยความใฝ่ฝัน ตาเป็นประกาย

ต่อมา พิทย์เดินเข้ามาในห้อง ภาวัชกําลังหลับอยู่บนเตียง
ทิพย์มาหยุดยืนมองภาวัชจากปลายเตียง แล้วหยิบโบรชัวร์งานแต่งงานขึ้นมาดู แล้วมองไปที่ภาวัช น้อยใจ
เสียงไลน์เด้งขึ้นมาจากมือถือภาวัชที่วางไว้หัวเตียง ทิพย์หยิบขึ้นมาอ่าน
ข้อความบนหน้าจอ “ ภาวัช แพรใกล้จะถึงบ้านแล้วนะคะ แพรซื้อของโปรดมาให้คุณด้วย
คราวนี้คุณต้องชอบแน่”
ทิพย์มองด้วยความคิดอะไรบางอย่างในหัว ....ตัดสินใจจะจัดหนักให้แพรวารู้ไปซะที

ภาวัชขยับตัวจะตื่น
ทิพย์รีบวางมือถือลงที่เดิม ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ไม่ชี้
"ทิพย์"
ทิพย์ปลดตะขอกระโปรง กระโปรงหล่นกองกับพื้น ภาวัชอึ้ง
ทิพย์ก้าวข้ามกองกระโปรงเดินเข้าไปหาภาวัช นั่งลงข้างๆ
"ไม่ต้องกลัว ยายแก่มันยังไม่กลับมาหรอก"
ทิพย์ค่อยโน้มตัวเข้าไปปลํ้าภาวัช

รถแพรวาเข้ามาจอดหน้าบ้าน
คนขับรถ มาเปิดประตูให้แพรวาเดินลงมา
แพรวาส่งถุงอาหารให้กับคนขับรถถือ แล้วเดินขึ้นบ้านไป

ภายในห้องนอนแพรวา ทิพย์เงยหน้า แกะกระดุมเสื้อให้ภาวัช

แพรวาเดินขึ้นบันไดไป

ทิพย์โยนเสื้อภาวัชออก แล้วปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกหนึ่งเม็ด แพรวาเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี มองเห็นตกตะลึง
ภาวัชเหลือบมองเห็นแพรวา ตกใจ รีบผลักทิพย์ล้มลงไปจากเตียง
" คุณแพร !"
แพรวาโกรธมาก ปรี่เข้าไปตบทิพย์อย่างแรง ทิพย์กรีดร้องเสียงดัง
แพรวาตามเข้ามาจิกผมทิพย์ขึ้นมาแล้วตบอีก ซ้ายขวา รัวๆ จนทิพย์ร้องอย่างเจ็บปวด พยามยามอ้อนวอน
"อย่า คุณแพร โอ้ย ทิพย์กลัวแล้ว อย่าค่ะ"
" กลัวแล้วทำ ทำไม ทำ ทำไม หา"
แพรวาจับทิพย์เอาหัวโขกกับขอบเตียงไม่นับ จนทิพย์เลือดอาบหน้า

"โอ้ย... ฮือ... โอ้ย"

ทั้งหมดเป็นเพียงมโนภาพของทิพย์

ความจริง ... ทิพย์นั่งอยู่ที่พื้น สะดุ้งตัวขึ้นมานิดนึง ขณะมองเห็นแพรวากำลังเดินเข้ามากลางห้อง มองภาวัชกับทิพย์ด้วยความนิ่งลึก ภาวัชสบตาแพรวา แล้วรีบแก้ตัว
"ผมไม่รู้เรื่องคุณแพร ทิพย์...ทิพย์มันปลํ้าผม"
ทิพย์ลุกขึ้นยืนเถียง
"ของแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันจะดังหรือคะ คุณก็รู้สันดานผัวคุณ...เอ๊ย ผัว...ของเราดีไม่ใช่เหรอ"
แพรวามองทิพย์นิ่ง ไม่ตอบอะไร
ทิพย์ทำออกตัวน่าสงสารใส่ แต่เหน็บแพรวาอยู่ในที
"ทิพย์พลาดเอง ทิพย์ไม่น่าตามใจคุณภาวัชเลย ไม่งั้นคุณแพรวาคงไม่ต้องมาเห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้"
แพรวาถามขึ้นเรียบนิ่ง ไม่โวยวาย
" มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ก็ตั้งแต่คุณแพรเอาทิพย์มาจากบ้านนอกนั่นแหละค่ะ คุณแพรวาคงนึกไม่ถึงสิคะว่าเด็กเมื่อวานซืนอย่างทิพย์ จะได้ใช้สามีร่วมกับคุณ"
แพรวามองนิ่ง ไม่ตอบอีก
ทิพย์เดินเข้ามาใกล้
ทิพย์ยื่นหน้าให้ตบ
"ตบสิคะ ตบเลยค่ะ"
แพรวาปรายตามองทิพย์หัวจรดเท้า ...แล้วเห็นกระดุมเสื้อทิพย์เม็ดหนึ่ง หล่นอยู่กับพื้น
แพรวาเปรยขึ้น "กระดุมเธอหลุด"
ทิพย์มองตามไปแล้วอึ้ง เหมือนนางมีออร่าอะไรบางอย่าง
แพรมองทิพย์อย่างเธอมันคนละเกรดค่ แล้วกล่าวขึ้นเรียบๆ แต่ลึก
" ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วออกไปคุยกันข้างนอก" แพรวาปรายตาไปทางภาวัช "คุณด้วย"
แพรวาเดินออกไปจากห้อง ทิพย์งงไปหมด
"นี่ เขา เขาไม่ทำอะไรฉันเลยเหรอ ไม่ว่าอะไรเลยสักคำเหรอ"
" เห็นมั้ยล่ะ ว่า คุณแพรเขาเป็นผู้ดีแค่ไหน เธอมันตํ่า"
"อย่ามาพูดอย่างนี้นะ"
ภาวัชหยิบรีโมทที่วางไว้ที่หัวเตียง ปาไปใส่ทิพย์
"หุบปากซะทีเถอะ เธอทำทุกอย่างพังหมดแล้ว รู้ตัวบ้างมั้ย!"
ทิพย์ชะงักแต่ชักสีหน้า ภาวัชส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ได้อย่างใจ อารมณ์เสีย

แพรวายืนอยู่ริมหน้าต่าง มองออกไปข้างนอก เหม่อมองอะไรบางอย่าง เห็นมดกําลังไต่ซากหนูเน่าหนอนขึ้นยั้วเยี้ย
แพรวาเรียบนิ่ง
ทิพย์แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เข็นรถเข็นภาวัชเข้ามา
"คุณแพร"
แพรวาค่อยหันมา มองทั้งสองคน
ทิพย์จะเข็นรถเข้ามาอีก แต่ภาวัชกดปุ่มบังคับรถเอง รถแล่นชิวจากมือทิพย์ไป ทิพย์มองเอือมตามไปด้วย
" คุณแพรไม่ต้องห่วงนะครับ ผมคุยกับทิพย์แล้ว มันจะไม่เกิดเหตุกาณ์แบบนี้ขึ้นอีก ผมจะไม่ยุ่งกับใครอีกแล้ว ผมจะหันหน้าเข้าวัดปฏิบัติธรรม"
" ถ้าเข้าวัดแล้วเป็นอย่างยายทิพย์ ก็อย่าไปให้เสียเวลาเลย"
"เพราะทิพย์ต้องทนเก็บความลับอยู่ไม่รู้กี่ปี ทิพย์ก็ต้องเพิ่งวัดแหละค่ะ"
" เงียบเถอะน่า ฉันพูดเองดีกว่า"
"คุณสิหุบปาก" ทิพย์บอกแพรวา "ทิพย์พูดตรงๆเลยนะ คุณแพรเลิกกับคุณภาวัชซะเถอะ ผู้ชายที่นอกใจคุณแบบนี้ มันไม่เหมาะกับคุณหรอก"
" แล้วเขาเหมาะกับใคร เธอเหรอ"
ทิพย์สะอึก พูดไม่ออก
" ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมจะอยู่กับคุณ คุณแพร ส่วนยายทิพย์ ก็ให้เงินมันสักก้อน แล้วก็ส่งกลับบ้านนอกไป"
"คุณภาวัช พูดอย่างนี้ได้ยังไง" ทิพย์ถาม
" เธอมันไม่มีค่าเท่าคุณแพรวาหรอก ....ฉันรู้นะ วันนี้เธอตั้งใจให้คุณแพรวาเขารู้ความสัมพันธ์ของเราใช่มั้ย"
"แล้วคุณล่ะ เวลาอยู่กับทิพย์ คุณบอกจะเลิกกับคุณแพรกี่ร้อยครั้งมาแล้ว"
" โธ่ ...ก็ผู้ชายมันอยากระบาย มันก็พูดได้ทั้งนั้นแหละ ทิพย์"
ทิพย์อึ้งพูดไม่ออก แพรวาพูดต่อ
"เธอเจนจัดกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ แค่นี้คงรับฟังความจริงได้ใช่มั้ย"
"ค่ะ ...สะดวกใจจะพูดแบบไหนก็แล้วแต่คุณแพรเถอะค่ะ"
"งั้นก็ดี ฉันคิดว่า ฉันมีข้อเสนอที่ดีให้กับทุกคน"
" ข้อเสนออะไรครับ ว่ามาเลย"
" ถ้าไม่มีใครอยากไปไหน ....ก็อยู่มันด้วยกันอย่างนี้แหละ ....สามคนผัวเมีย"

ภาวัช กับ ทิพย์ตาค้าง นึกไม่ถึง

คืนเดียวกัน ตั้งโอ๋เดินเข้ามาหน้าโรงเรียนร้าง ตามที่นัดหมาย มองหามดแดง

" เจ๊มดแดง ทำไมนัดมาแถวนี้" ตั้งโอ๋มองไปรอบๆ กับที่ที่เคยคุ้นเคย "โรงเรียนเก่าเรา
กลายเป็นโรงเรียนร้างไปซะแล้ว"
ตั้งโอ๋มองไปทางตัวอาคาร แล้วเห็น เงาคนวูบวาบที่หน้าต่างบานหนึ่งแล้วหายวูบไป
"เจ๊มดแดง"
ตั้งโอ๋รีบวิ่งเข้าไปในอาคาร

ตั้งโอ๋วิ่งเข้ามาตามหามดแดง
" เจ๊ ตั้งโอ๋มาตามนัดแล้วนะ เจ๊อยู่ไหนอ่ะ ตั้งโอ๋เอาเงินมาให้แล้วจ้า"
ไม่มีเสียงตอบรับ
ตั้งโอ๋เดินไล่เปิดประตูดูตามห้องเรียนต่างๆ แต่ก็ไม่เห็นใคร

ตั้งโอ๋เดินเข้ามาที่หน้าห้อง เอามือถือเปิดไฟฉายส่องที่ป้ายติดหน้าห้อง “ชมรมเชียร์ลีดเดอร์” ...ตั้งโอ๋มองอึ้ง แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง ...

ตั้งโอ๋เดินฉายไฟเข้าไปในห้อง ดูสภาพในห้อง ที่มีฝุ่นเกาะ โต๊ะ เก้าอี้ บางโต๊ะก็อยู่ครบ บางโต๊ะก็หายไป ตั้งโอ๋เดินไปที่รูปที่แขวนอยู่ข้างฝาเต็มไปหมด เป็นรูปเชียร์รุ่นต่างๆ ตั้งตรงบ้าง ห้อยบ้าง ตามกาลเวลา แล้วตั้งโอ๋มองไปที่รูปหนึ่ง ภาพนั้นทั้งสามคนกำลังโพสท่าเชียร์ ตั้งโอ๋หยิบรูปออกมาเป่าฝุ่น แล้วมองดูนึกถึงอดีต

ภาพนั้น เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนี้กลุ่มหนึ่ง เชียรลีดเดอร์ที่แต่งตัวแบบชาย คือ ต้อม ที่เรียนอยู่ในชั้น ม. 6 ส่วนตั้งโอ๋ในชุดเชียร์ลีดเดอร์หญิง เรียนอยู่ชั้น ม.4 และอีกคน ใส่หน้ากากผีเสื้อแบบครึ่งหน้า แต่งหญิงเต็มที่ ใสส่วิกผม เป็นเพื่อนของต้อม ชื่อ ศิวัช
ศิวัชเป็นเพื่อนสนิทกับต้อม ซึ่งตั้งโอ๋ก็รักชื่นชมเพื่อนของต้อมคนนี้มาแต่เด็ก
ตั้งโอ๋ นึกภาพความหลังที่เขียนรูปหัวใจ ต่อจากของเพื่อนของต้อมเสร็จพอดี ด้วยปากกาเมจิ ทางด้านหลังของรูปเชียร์ลีดเดอร์
ตั้งโอ๋หันบอกพี่ชาย "เสร็จแล้วจ้า พี่ต้อม"
ตั้งโอ๋ถอยออกมา เห็นเป็นรูปหัวใจ 3 ดวงเรียงกัน อันแรก เป็นหัวใจของศิวัช เพื่อนต้อม บนหัวใจเขียนตัวหนังสือว่า หม่อมแม่ ถัดมาเป็น หัวใจของต้อม เขียนบนหัวใจว่า หญิงใหญ่ แล้วหัวใจของตั้งโอ๋ เป็นอันที่สาม เขียนว่า หญิงเล็ก
ต้อมบอก "เรามาสาบานกันเถอะ"
ศิวัชยิ้มรับ แล้วยื่นมือออกไปพร้อมพูดขึ้น "หม่อมแม่"
ต้อมยื่นมือไปทับมือศิวัช "หญิงใหญ่"
ตั้งโอ๋ยื่นมือไปทับมือศิวัช "หญิงเล็ก"
ทั้งสามคน พูดพร้อมกัน 3 ครั้ง "เราจะเป็นเพื่อนกันไปจนตาย"

ตั้งโอ๋กําลังมอง ด้านหลังของกรอบรูปที่เขียนหัวใจ 3 ดวงเรียงกันอยู่ อย่างคิดถึง
แล้วอยู่ๆ ประตูห้องก็ได้ยินเสียงกดล๊อกกุญแจจากทางด้านนอก
ตั้งโอ๋ตกใจ หันมองไปที่ประตูแล้วรีบเดินไปจะเปิดออก แต่ปรากฏว่าประตูล๊อกเปิดไม่ออก ตั้งโอ๋พยายามจะขยับประตูเรียกให้คนเปิดประตู
"ช่วยด้วยๆ"
แต่ไม่มีใครตอบรับ ตั้งโอ๋วิ่งไปที่หน้าต่างแต่ก็เปิดออกไม่ได้ติดล๊อกเช่นกัน

เท้าเดินเข้ามาที่หน้าห้อง ช้าๆ ดูตื่นเต้น น่ากลัว
เงาที่ผนัง... ก้าวเดินผ่าน เห็นว่าในมือถือปืนอยู่ มุ่งตรงไปที่หน้าห้องเชียร์

ตั้งโอ๋ได้ยินเสียงกุกกักเหมือนมีคนพยายามจะเปิดประตูเข้ามา เธอตกใจ แล้วรีบวิ่งไปหยิบไม้พลองที่หล่นอยู่กับพื้นขึ้นมา วิ่งไปที่ข้างประตูเตรียมจะตี
บุลินยิงกุญแจประตู เปรี้ยงๆ แล้วถีบประตูเข้ามา
ตั้งโอ๋จะฟาดแล้วชะงักไว้ทัน
"หมวด"
"นี่เธอมาทำอะไรที่นี่"
" ฉันต้องถามหมวดมากกกว่า หมวดรู้ได้ไงว่าฉันอยู่นี่"
"ฉันเห็นเธอออกจากบ้านก็เลยตามมา เห็นหายเข้ามานาน ก็เลยตามมาดู"
" นี่หมวดสะกดรอยตามฉันเหรอ"
" อย่าเพิ่งกวนประสาทได้มั้ย รีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ"
บุลินหันเดินออกไป ตั้งโอ๋มองตามบ่นๆ แล้วก็ตามไป

" มาถึงก็สั่งๆๆ เดี๋ยวสิ รอด้วย"

บุลินเดินนำเข้ามาที่ประตูทางออก

ตั้งโอ๋ตามมมา บุลินจะผลักประตูออกไป แต่ก็ติดล๊อกอีก "ล๊อกอีกแล้วเหรอ"
"ต้องมีใครสักคนอยู่ที่นี่ แล้วไม่ประสงค์ดีกับเธอแน่"
" คน หรือ ผี"
แล้วปรากฏมีเสียงผู้หญิงหัวเราะเย็นๆ ดังเข้ามาแผ่วๆ
"ชัดแล้ว พี่ซินดี้ พี่ซินดี้แน่ๆ"
บุลินไม่เชื่อรีบวิ่งตามไปอย่างเร็ว
"หมวดจะไปทำไม หมวดสู้พี่ซินดี้ไม่ได้หรอก หมวดๆ บ้าเอ๊ย"
ตั้งโอ๋วิ่งตามบุลินไปด้วยความเป็นห่วง โดยไม่ทันสังเกตว่ามือถือตัวเองหล่นอยู่กับพื้นไปซะแล้ว

เสียงหัวเราะผู้หญิงยังดังแว่วเข้ามาต่อเนื่อง
บุลินวิ่งเลี้ยวมาทางหนึ่ง
ตั้งโอ๋ตามหลังมา กลับวิ่งตรงไป พลัดจากกัน

บุลินวิ่งเข้ามาที่หน้าห้องหนึ่ง มั่นใจว่ามีเสียงดังมาจากห้องนั้น
บุลินเปิดประตูเข้าไป เอาปืนเล็ง มองไปรอบๆ หาต้นเสียง บุลินมองลอดใต้พื้นไป ก็ไม่เห็นอะไร
แล้วบุลินเล็งเป้าใหม่ มองไปที่ตู้หลังห้อง ค่อนข้างแน่ใจว่าเสียงดังมาจากตู้
บุลินถือปืนค่อยๆย่องเข้าไป ใกล้เข้าไป เอามือข้างหนึ่งเปิดประตูตู้ออก แล้วเห็นว่าข้างในตู้
วางตุ๊กตาตัวตลก ที่ใส่เครื่องเล่นเสียง เป็นเสียงหัวเราะออกมา
บุลินตกใจ หันหน้าไปหาแล้วเจอไม้ฟาดศีรษะล้มสลบลงไปทันที
คนฟาด ใส่หมวกไอ้โม่งปิดหน้าปิดตา

ตั้งโอ๋วิ่งตามหาบุลิน แล้วได้ยินเสียงคนล้มลง หันขวับไปมองตามเสียง แล้วตัดสินใจรีบวิ่งไป

ตั้งโอ๋วิ่งเข้ามาที่หน้าห้อง มองเข้าไปเห็นบุลินล้มสลบอยู่กับพื้น
"หมวด"
ตั้งโอ๋วิ่งเข้าประตูไป ไอ้โม่งยืนหลบอยู่หลังประตู เอาผ้าที่มียาสลบโปะจมูกตั้งโอ๋ จนล้มสลบไปทันที
คนร้ายค่อยถอดหมวดไอ้โม่งออก เห็นว่าเป็น เภา
เภามองตั้งโอ๋ ยิ้มแสยะ

ห้องนอนแพรวา ตอนกลางคืน ต่อเนื่องมา
ภาวัชโน้มหน้าลงไปจูบแก้มแพรวาที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้ภาวัช แล้วภาวัชทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม
แพรวาที่ทำเป็นหลับเมื่อกี้ลืมตาขึ้น....แล้วเหลือบตาสายตามองไปที่ภาวัช เห็นทิพย์ขยับตัวมาซุกอกภาวัช ภาวัชหอมหน้าผากทิพย์ ยิ้มมีความสุข
แพรวาเบือนสายตากลับมาอยู่กับโลกของตัวเอง แบบปลงๆ แบบคนดี หน้าชื่นอกตรมไป
ทิพย์หลบตาลงมองตํ่า หุบยิ้มลง สายตายังไม่พึงพอใจ อยากจะได้ทั้งหมดอยู่ แต่ยิ้มหลอกภาวัชให้สบายใจ
ทั้งสามคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน มีความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป

คืนเดียวกัน เข้มวางจานผัดแอสพารากัสให้กานดา
"ผัดแอสพารากัสมาแล้วครับ"
"ฮือ หอม น่ากินมากเลย"
กานดาหยิบส้อมกําลังจะจ้วง
เข้มห้าม
"เดี๋ยวๆ รางวัลผมล่ะ"
"รางวัลอะไร"
เข้มยื่นหน้ามาให้กานดาหอม
"อะ สักหนึ่งฟอด"
"หนึ่งฟอด"
"อือ"
"ได้จัดให้" กานดาบิดหูเข้ม
"โอ้ย"
เข้มดึงตัวออกมา ต่อว่า
"อะไรอ่ะ แค่นี้ทำไมต้องทำร้ายร่างกายกันด้วย เราเป็นแฟนกันแล้วนะ"
"เหรอ อุ้ย ลืมตัวอ่ะ มันไม่ชิน"
"กวนนะเรา เดี๋ยวต้องปรับ"
เข้มทำท่าจะเข้ามาหาอีก กานดาลุกขึ้นง้างหมัดใส่
"มาสิ แบบนี้ต้องโดน"
เข้มยกมือขึ้นป้องหน้าตัวเอง
"โอ้ย"
"ยัง"
เข้มลดมือลง
"แล้วกัน ไม่ต่อยแล้วจะโดนอะไรล่ะ"
กานดาแบมือที่กํามือออก เห็นแผ่นพับที่ติดสติกเกอร์
"โดนจัดระเบียบชีวิตใหม่น่ะสิ ...ตอนนี้นายเป็นแค่แฟนฝึกหัด"
"อะไรนะ แฟนฝึกหัด"

เข้มงง

กานดาเอาตราปั๊มรูปหัวใจ ไปแสตมป์ตลับหมึกแดง

แล้วเอามากดที่ช่องตารางในแผ่บพับ เห็นเป็นรูปหัวใจสีแดง กานดายื่นแผ่นพับคืนให้เข้ม แล้วพูดขึ้น
"อะ สำหรับความดีอันแรกที่ผัดแอสพารากัสให้ฉันกิน"
เข้มรับแผ่นพับไป
"หนึ่งความดี เท่ากับหนึ่งหัวใจ ...โห ต้องเต็มแผ่นนี่เลยเหรอ"
กานดาพยักหน้า "อือ"
"เชื่อเค้าเลย ...กว่าจะได้หอมแก้มเหรอ ตายก่อนพอดี"
กานดาดึงคืน "เค งั้นเลิก"
เข้มแย่งคืนมา
"ไม่เลิกๆ ทำจ้า สะสมหัวใจจ้า ผมจะเป็นแฟนตัวจริงของหมวดให้ได้"
เข้มยิ้มให้กานดา
ต้อมวิ่งเข้าประตูมาหาทั้งสองคน ท่าทางกังวล เป็นห่วงตั้งโอ๋มาก
"มีใครเห็นตั้งโอ๋บ้าง ป่านนี้ทำไมยังไม่กลับบ้าน"

บริเวณลานเทปูน ด้านหลังโรงเรียนร้าง
ที่โม่ปูนทำงาน ... หมุนปูนไปมา ท่อปูนมีปูนซิเมนท์ไหลเทลงไปที่พื้นทวีปริมาณความสูง
แบบพอท่วมเอวของตั้งโอ๋กับบุลินแล้ว
ตั้งโอ๋ค่อยรู้สึกตัวตื่นขึ้น แล้วมองเห็นปูนที่ไต่ระดับขึ้นมา
ตั้งโอ๋ตกใจเหลียวมองรอบๆ ก็เห็นว่ามีที่โม่ปูนสองอันตั้งอยู่คนละฝั่งของคอก ปูนค่อยๆเท
ไหลลงมาที่คอกที่กั้นไว้ให้สูงเหนือหัวบุลินกับตั้งโอ๋ขึ้นมานิดนึง ทั้งสองอยู่ในลักษณะนั่ง มือไพล่หลัง โดนมัดมือมัดเท้าไว้ นั่งอยู่ข้างๆติดกัน
ตั้งโอ๋ตกใจ หวาดกลัว แล้วเรียกบุลินให้ตื่นด้วยการเอาไหล่ตัวเองชนกับไหล่บุลิน
"หมวด ตื่นๆ"
บุลินค่อยๆกระพริบตาตื่นขึ้น อึ้งไปเหมือนกัน ที่เห็นสภาพตัวเองและตั้งโอ๋เป็นแบบนี้
" ตั้งโอ๋"
"มีใครบางคนอยากให้เราตาย ตายอย่างเลือดเย็นด้วย"
" ตั้งสติ มันต้องมีทางรอด"
" อีกไม่เกิน10นาที ปูนคงมิดหัวเรา เราจะรอดได้ยังไงหมวด"
บุลินกรอกตามองขอบปูนข้างบนหัวใช้ความคิด แล้วพูดกับตั้งโอ๋
"มันก็พอมีทาง เดี๋ยวฉันจะก้มตัวลง แล้วเธอก็พยายามปีนขึ้นไปบนหลังฉันปีนออกไปให้ได้"
" แล้วหมวดล่ะ ถ้าหมวดก้มหน้าลงไปในปูน หมวดจะหายใจยังไง หมวดจะยอมตายเพื่อฉันงั้นเหรอ"
บุลินอึ้งมองดู ปูนที่มันใต่ระดับขึ้นมาถึงอกแล้ว
บุลินอึ้ง ...แล้วพูดขึ้น "ไม่หรอก ฉันไม่เป็นไร"
"อย่าโกหก"
" ตั้งโอ๋ เร็วๆ เข้า ไม่มีเวลาแล้วนะ"
บุลินทำท่าจะก้มลงไป ตั้งโอ๋ร้องห้ามเสียงลั่น
" ไม่ ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน"
บุลินอึ้ง หันมองหน้าตั้งโอ๋
" หมวด มันแย่ที่เราจะไม่ได้เจอกันอีก แต่มันก็ดีที่สุดแล้ว ที่เราได้อยู่ด้วยกัน ในนาทีสุดท้ายของชีวิต"
บุลินมองอินไปด้วย ตั้งโอ๋กล่าวต่อ
" หมวด....ขอบคุณมากที่เสียสละเพื่อฉัน แต่ฟังฉันดีกว่า"
บุลินฟัง
" นี่เป็นคำพูดของฉัน ที่ไม่มีใครมาสิง....เป็นตัวฉัน จากใจฉัน .... ฉันจะไม่ทิ้งหมวดไปไหน ฉันจะอยู่กับหมวดตลอดไป"
ทั้งสองมองหน้ากันสะเทือนใจ
ปูนค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นมาถึงคอ กําลังจะเข้าปากเข้าจมูกแล้ว

กานดา เข้ม ต้อม วิ่งเข้ามาเห็นทั้งสองคน ตะลึง ร้องตกใจ
แต่เข้าไปไม่ได้เพราะมีประตูรั้วตาข่ายเหล็กกั้นอยู่พร้อมแม่กุญแจล๊อกอยู่
"หมวด!! ตั้งโอ๋" เข้มตะโกนเรียก
"เฮ้ย ประตูล๊อก" กานดาบอก
"โอ้ย นั่น ปูนจะท่วมแล้ว ช่วยด้วย" ต้อมว่า

ปูนจะท่วมปากตั้งโอ๋ บุลินแล้ว

มุมหนึ่งในอาคาร กะเพรายื่นมือสับคัทเอ้าท์ลง พรึ่บ!

ที่โม่ปูนหยุดทำงาน ปูนหยุดไม่เพิ่มปริมาณ
ตั้งโอ๋ บุลิน อึ้ง แปลกใจ
พวกกานดา เข้ม ต้อม ตะลึงด้วย ที่ทุกคนรอด
"รอดแล้ว โอ้ย นํ้าตาจะไหล" กานดาบอก
" หมวด รอดแล้ว" ตั้งโอ๋บอก
กานดายกมือถือขึ้นกดพูดกับจ่า
"จ่า ไปดูที่คัทเอ้าท์ เร็ว"

จ่าโอ จ่ายอด วิ่งเข้ามาตรงที่คัทเอ้าท์ แล้วเล็งปืนเข้าไป
" นั่นใคร หันมาเดี๋ยวนี้"
กะเพรากําลังปิดตู้คัทเอ้าท์ลง หันไปหาจ่ายอด จ่าโอ งานนี้ กะเพราวางแผนซื้อความไว้ใจจากตั้งโอ๋และตำรวจอื่น
"อย่ายิงค่ะ หนูเอง"
สองจ่าอึ้ง
" เฮ้ย ยัยกะเพรา!"

ต้อมส่งผ้าขนหนูให้บุลิน กับ ตั้งโอ๋ เช็ดหน้าเช็ดตา หลังจากที่ล้างปูนซิเมนต์ออกจากตัวไปบ้างแล้วประมาณหนึ่ง
ต้อมยื่นผ้าให้แล้วพูดไปด้วย
"เดชะบุญนะที่เข้มมันเปิดแอป find friends ของเธอไว้ ถึงได้ตามมาถูกเนี่ย"
เข้มหันบอกกานดา "ลงแอปนี้ไว้เลยนะ หมวด ผมจะ"
"กล้าสั่งฉันเหรอ"
"ไม่ได้สั่ง แค่แสดงความห่วงใย ในฐานะคนรัก"
บุลินมองสองคน งง
"นี่เป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่เห็นบอก"
"ก็...... ไม่ใช่คำสั่งผู้บังคับบัญชา คงไม่ต้องประกาศทั่วโรงพักหรอกมั้ง"
จ่าโอ จ่ายอด เอาตัวกะเพราเข้ามาพอดี
จ่าโอบอก "มานี่เลย จับได้คาหนังคาเขา นายนี่แหละ จับได้คาตู้คัทเอ้าท์เลยฮะ"
"พี่กะเพรา!"
"เธอไปทำอะไรที่นั่น กะเพรา"
"กะเพราเข้ามาเห็นหมวดกับตั้งโอ๋กําลังจะจมบ่อปูน แต่ประตูมันล๊อกอยู่ กะเพราก็เลยวิ่งไปหาคัทเอ้าท์แล้วสับลง"
"แน่ใจนะ ว่าไม่ใช่คนวางยาพี่หมวดกะตั้งโอ๋" กานดาว่า
"กะเพราจะทำอย่างนั้นทำไมล่ะคะ"
" จริงค่ะ ถ้าพี่กะเพราเป็นคนร้ายจะมาช่วยตั้งโอ๋ทำไม" ตั้งโอ่บอก
" แล้วกะเพรามาที่นี่ถูกได้ยังไง" บุลินถาม
" พี่กะเพราเป็นคนเดียวที่รู้ว่า เจ๊มดแดงนัดฉันที่นี่น่ะสิ"
"เคลียร์มั้ยคะ" กะเพราสะบัดมือจากการจับกุมของ จ่าโอ จ่ายอด "ปล่อย อุตส่าห์มาช่วย ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ เฮอะ"
กะเพราเชิดหน้าเดินออกไป บุลินมองตาม ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

กระเพราเดินออกมาแบบเปลี่ยวๆ คนเดียวก่อน
แล้วเสียงสายเข้าจากไลน์ดังขึ้น
กระเพราชะงัก หยิบมือถือออกมาดูเห็นว่าเป็นสายของบุลินโทร . เข้ามา
กระเพราอึ้ง ไม่ยอมรับสาย ปล่อยให้เสียงสายเข้าดังอยู่อย่างนั้น
เสียงบุลินดังเข้ามา
"รับสายสิครับ !"
กะเพราทำเป็นอึ้ง แล้วหันมองไปข้างหลัง เห็นบุลินถือมือถือแนบหูพูดกับมือถือเข้ามาด้วย
" ผมอยากจะขอบคุณคุณ ที่ช่วยผมในวันนี้ ขอบคุณมาก หมาป่า"
กะเพรายิ่งตะลึง
ทุกคนวิ่งตามเข้ามาดูด้วย
"ฮึ เมื่อกี้พี่หมวดว่าอะไรนะ หมาป่าเหรอ" กานดาถาม
บุลินยกมือถือชูขึ้นให้ดู ที่รูปหมาป่า
กานดาอึ้ง
"หมาป่า! กะเพรานี่เหรอ หมาป่า"
กะเพรากดปิดสาย แล้วพูดขึ้นยอมรับ
"ครับ ผมเอง"
" ก่อนที่ฉันจะไปหาตั้งโอ๋ที่บ้าน หมาป่าส่งไลน์มาบอกก่อนแล้วว่าตั้งโอ๋จะไปหามดแดงให้ฉันตามไปจับตัวมดแดงด้วย แต่น่าเสียดายที่มดแดงไหวตัวไปเสียก่อน"
"พอดีผมมีงานด่วนเข้าที่เพลินพิมานน่ะครับ พอเสร็จงงานแล้วก็เลยรีบตามมา ไม่นึกเลยว่า จะมีคนมาทำร้ายหมวดกับตั้งโอ๋"
" อะไรกันอ่ะ ตั้งโอ๋งงไปหมดแล้ว ตกลงว่าพี่กะเพราเป็นตำรวจเหรอ!"
"เปล่าครับ เป็นเพียงสายตำรวจตัวเล็กๆ ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ ให้มาช่วยสืบคดีที่เพลินพิมาน แต่เพื่อประโยชน์ของรูปคดี ก็เลยยังไม่ได้เปิดเผยตัวให้ทุกคนทราบ" เภามอง ตั้งโอ๋ เข้ม ต้อม "ผมมั่นใจว่าพวกคุณไม่มีใครเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม แต่ก็หวังว่าทุกคนจะเก็บเป็นความลับด้วยนะครับ"

หน้าเภากล่าว

คืนเดียวกัน แม่ชีและคนอื่นๆลงจากรถตู้มาก่อน หญิง1 เดินมารับ

" คุณแม่ชีกลับมากันซะดึกเลย หนูเตรียมนํ้าปานะเอาไว้ให้แล้วค่ะ"
คุณน้าแม่ชีลงจากรถ แล้วอยู่ๆ ตะเข็บผ้านุ่งก็ขาดแคว่ก...
หญิง1 ร้องตกใจ "ว้าย ... ชุดขาดหมดเลยค่ะ"
คุณน้าแม่ชีอึ้งๆ แปลกใจ แต่ทำเป็นไม่มีอะไร "ไม่เป็นไร"

แม่ชีเปิดตู้เสื้อผ้า เอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้าชุดขาวในตู้ กระจกที่ติดในตู้ สะท้อนเงาซินดี้ชุดแดง ก้มหน้ามองจิกมาอย่างน่ากลัว สะพรึงมาก
พอแม่ชีหันไปมอง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่ชีชักสีหน้าสงสัย
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"เข้ามาได้จ้า"
หญิง1 เปิดประตูเข้ามาพร้อมชุดขาวชุดใหม่ในมือ
"ขอโทษนะคะ ในตู้มีแต่ชุดเก่า ยังไม่ได้รีดค่ะ หนูเลยเอาชุดที่รีดแล้วมาให้คุณแม่ชีเปลี่ยนค่ะ"
"ขอบใจนะ"
แม่ชีรับชุดจากหญิง 1 มาถือในมือ
หญิง 1 ทำท่าจะออกไป แม่ชีเรียกไว้
"เดี๋ยวก่อน"
"คะ"
"ตอนที่แม่ชีไม่อยู่ มีใครใช้ศาลาวัดมั้ย"
" ไม่มีค่ะ พระท่านใช้ศาลาใหม่กันหมดแล้ว ศาลาเก่าก็ปิดล๊อกไว้อย่างที่คุณแม่ชีบอก ไม่มีใครเข้าไปหรอกค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะคุณแม่ชี"
" เปล่า ...ไปนอนเถอะจ้ะ ขอบใจมาก"
หญิง1 เดินออกไป แม่ชีมองออกไป กังวลสงสัย
" ถ้าไม่มีใครเข้าไปวุ่นวาย ก็ไม่มีทางที่ปีศาจซินดี้จะออกมาได้"

แม่ชีสวมชุดใหม่ แล้วเดินเข้ามาที่หน้าศาลาวัด บรรยากาศวังเวง อึมครึม

แม่ชีเปิดประตูแอ้ด... เข้าไปในศาลา แล้วปิดประตูลง
ในศาลาไฟสลัว แม่ชีมองไปทั่วๆ เห็นว่าทุกอย่างสงบ ไม่มีอะไรผิดปกติ
แม่ชีเดินเข้าไปนั่งลง กราบพระ เสร็จแล้วแม่ชีเอื้อมมือไปหยิบที่กรวดนํ้า
พอมือแม่ชีสัมผัสโดนที่กรวดนํ้า ภาพนิมิต เหตุการณ์ที่ผ่านมาก็ปรากฏขึ้นในหัวแม่ชี

ก่อนหน้านี้ หญิง1 เปิดประตูเข้ามาในศาลา พร้อมไม้กวาด ถังนํ้า เข้ามาเช็ด ถู ปัดกวาดศาลา
แล้วหญิง 1 ก็มาเช็ดถูตรงแถวที่วางที่กรวดนํ้าเอาไว้ แล้วปัดที่กรวดนํ้าล้มลง
ควันสีขาวพุ่งออกมาไปที่หน้าหญิง1
หญิง1สะดุ้งตัวขึ้น ตาเบิกโต เห็นร่างซินดี้ซ้อนทับหญิง1 แล้วหญิง1 ยิ้มมุมปาก มีอาการเปลี่ยนไป เป็นคนละคน

หญิง 1 เปิดประตูห้องนํ้าเข้าไปตักนํ้าจากโถส้วมขึ้นมาเทใส่กระบอกฉีดนํ้า
เอากระบอกฉีดนํ้า ฉีดลงบนชุดแม่ชีที่วางบนที่รีดผ้า แล้วยิ้มพึงพอใจ

คุณน้าแม่ชีอึ้ง รับรู้แล้วว่า โดนซินดี้เล่นงาน โดยเอานํ้าสกปรกจากส้วมมาทำให้ญาณเสื่อม

ประตูศาลา เปิดผ่าง ! ออกมาได้เอง ซินดี้ก้าวเดินเข้ามาแสยะยิ้ม
หญิง1 ก้าวเข้ามา พูดเป็นเสียงซินดี้
"นึกว่าจะขังชั้นได้เหรอ"
" ซินดี้"
"กว่าจะรู้ตัว ญาณของแกมันก็เสื่อมไปแล้ว"
หญิง1หัวเราะ แล้วตัวกระตุก ล้มสลบไป แต่เสียงหัวเราะซินดี้ยังคงดังต่อเนื่องมา
คุณน้าแม่ชีเหลียวมองไปรอบๆ ตัว แต่ไม่เห็นอะไร เลยนั่งลงทำสมาธิ
ซินดี้ชุดแดงนั่งอยู่บนขื่อ
"แม่ชีเฒ่า กูรออยู่นานแล้ว มีฤทธิ์เท่าไรก็แสดงออกมา จัดมาให้หนักๆเลย ฮ่าฮ่าฮ่า"
แม่ชีไม่สนใจ นั่งสมาธิต่อไป
ซินดี้มองจิก
แล้วสักครู่ก็มีเลือดไหลออกจากตาของแม่ชี เลือดออกจากหู แล้วสุดท้ายแม่ชีก็กระอักเลือดออกมา
แม่ชีเหลือบตามองด้วยความเป็นห่วงอีก
"อย่าสร้างบาปหนักอีกเลย ไม่เช่นนั้นร่างของเธอจะเน่า แล้วสลายเป็นฝุ่นธุลีภายใน14 วันนี้"
พอขาดคำแม่ชีพูดปุ๊บ ชายผ้าแดงของซินดี้ก็ลอยเข้ามาพันรอบคอแม่ชี แล้วตวัดดึงตัวแม่ชีลอยขึ้นไปตรงหน้า
ซินดี้กวนตรีนใส่
"กลัวจังเลย!"
แล้วอยู่ๆ ผ้าก็ทิ้งตัวพรึ่บ ลงไป

แม่ชีห้อยต่องแต่ง ลืมตาโพลง ขาดใจตาย

เช้าวันใหม่

ต้อมกับเข้มกําลังช่วยกันจัดอาหารกล่องใส่ถุงอยู่
ต้อมบอก "คุณแก้ว 4 กล่อง คุณมงคล 3 กล่อง.."
ตั้งโอ๋เดินลงมาจากชั้นบนบ้าน ด้วยชุดสวยงามเตรียมไปตักบาตร
เข้มเหลือบมองเห็น ชะงัก วี้ดวิ้ว
"แม่เจ้าโว้ย คุณนายตั้งโอ๋ตื่นแต่เช้า จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม จะไปงานบวชหรือฮะ"
" เปล่า ไปเดท"
"อะไรนะ ใครตาย" ต้อมถาม
"ไม่ใช่ มันบอกว่า มันจะไป date พี่ ไม่ใช่ death" เข้มบอก
"อ้าวเหรอ ก็ใครมันจะไปนึกล่ะว่ายายตั้งโอ๋มันจะออกเดท พลุอยู่ไหน มาจุดฉลองกันหน่อย"
" จะดูถูกคุณน้องมากไปแล้วนะคะ คุณพี่"
"ก็ถ้าแกไม่ได้มโนเอาเอง ก็บอกมาว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันใคร"
" ก็.... คนนั้นแหละ อิอิอิ"
"นี่ ยิ่งกว่าลุ้นเลขท้ายสองตัวอีกนะ คนไหนของแกก็บอกมาให้มันเร็วๆ หน่อย"
" ก็...คนที่แบบ..ยอมเสียสละชีวิตเพื่อฉันเมื่อวานนี้ไง มันทำให้อคติทั้งหมดสลายไป"
"เฮ้ย เมื่อวานนี้ ...ก็จ่าโอ หรือ จ่ายอดล่ะ" เข้มแซว
"ไอ้บ้า หมวดบุลินยะ"
"ว่าไงนะ!!! แกจะไปเดทกับหมวดบุลิน!"
บุลินเดินเข้ามาพอดี
" ครับ ....ผมเอง"
ต้อมอึ้ง
"พูดตรงๆ ฉันงง เดี๋ยวทะเลาะกันเดี๋ยวดีกัน นี่มันอะไรกัน เธอสองคนเล่นอะไรกัน"
"ที่ผ่านมา ผมรู้ครับว่ามันมีอะไรที่ไม่เหมาะสม ...เราอาจะผิดจะพลาดไปบ้าง แต่ในวันนี้ ผมจะมาทำสิ่งที่ถูกต้องเสียที" บุลินยกมือไหว้ต้อม 1ที แล้วพูดต่อ "ผมขออนุญาต คบกับตั้งโอ๋นะครับ"
"ฉัน....ฉันจะเป็นลม"
ต้อมทำท่าเซ เข้มรับตัวไว้
"อ้าว โรคหัวใจกําเริบ ทันที....อย่าเพิ่งเป็นลมสิ อนุญาตเขาก่อน" เข้มบอก
ต้อมที่เซๆอยู่ ก็ยกนิ้วขึ้นมาชูว่า โอเค ให้
บุลินยิ้ม หันไปยิ้มกับตั้งโอ๋ ตั้งโอ๋ยิ้มตอบ

ที่หน้าบ้าน ตั้งโอ๋วางมือบนมือบุลิน จับมือพาเดินมาที่รถ บุลินหันมาทำท่าเหมือนชมตั้งโอ๋
"วันนี้ฟ้าสวยจัง"
" โห ใจร้ายอ่ะ ชมฉันสิไปชมฟ้าทำไม"
" ล้อเล่น เธอสวยอยู่แล้ว สวยทุกๆ วัน"
บุลินยิ้มสบายใจ
"ฉันดีใจที่เห็นหมวดยิ้มได้ ฉันอยากให้หมวดเป็นแบบนี้ทุกวัน"
" เธอก็ต้องอยู่กับฉันทุกวันสิ"
ทั้งสองยิ้มให้กัน
เข้มกับต้อมตามออกมา
"เดี๋ยวๆ ลืมถาม นี่จะไปตักบาตรอย่างเดียวหรือเปล่า กลับมาทานกลางวัน ที่บ้านไหม พี่จะจัดกับข้าวชุดใหญ่ไว้เลี้ยงฉลอง"
" ไว้วันหลังดีกว่าครับพี่ต้อม คือผมว่าผมจะพาตั้งโอ๋ไปกราบคุณน้าแม่ชีด้วย ท่านเป็นคนเลี้ยงผมมา จะเรียกว่าเป็นแม่อีกคนของผมก็ได้"
เสียงมือถือบุลินดังขึ้น เป็นกานดาโทรเข้ามา
"ว่าไง กานดา"

มุมหนึ่งในศาลาวัด กานดาพูดมือถือกับบุลิน ท่าทางยุ่งยากใจ
"พี่หมวด ...คือว่า...." กานดาพูดไม่ออก จุกคอ
กานดาเหลียวไปมอง จ่าโอ จ่ายอด ที่ยืนอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่เปล หามศพคุณน้าแม่ชีออกมา
"มีอะไรก็พูดสิ"
กานดาจะร้องไห้ "คือ..."
"เป็นอะไร ถ้าไม่พูดฉันวางสายแล้วนะ"
"ฟังก่อน ...พี่หมวด....คุณน้าแม่ชีสิ้นแล้ว"
บุลินตะลึง ปวดร้าว นํ้าตาคลอหน่วยขึ้นมา

ต่อมา บุลินวิ่งเข้ามาที่ศาลาวัด มองเข้าไป เห็นผ้าแดงที่ผูกกับขื่อ ปลิวไหวๆไปมา ดูเศร้ามาก
จ่ายอด กําลังถ่ายรูปเก็บหลักฐานกับตำรวจอีกนาย
หญิง1 นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่ข้างสามี ตำรวจอีกนายพยายามปลอบให้สงบ
จ่าโอ อ่านผลการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุให้กานดาฟังอยู่ข้างๆ
" พยานให้การว่า แม่ชีเดินทางกลับมาวัดประมาณเที่ยงคืน แล้วบอกกับพยานว่า จะเข้ามาสวดมนต์ แต่พอเช้าพยานมาตาม ก็พบแม่ชีสิ้นไปแล้ว สภาพศพไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เป็นการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอตาย"
บุลินรับฟังด้วยความปวดร้าว และไม่เชื่อ
กานดาหันมาเห็นบุลิน
"พี่หมวด!"
บุลินนิ่งสงบ มีเพียงดวงตาเศร้ามาก ไม่ตอบอะไร แล้วหันเดินออกไป
กานดาจะตาม
"พี่หมวด เดี๋ยว"
จ่าโอบอก "อย่าเพิ่งไปพูดอะไรเลยครับ ตอนนี้หัวใจหมวดกําลังสลาย ให้เวลาแกทำใจซะก่อนเถอะครับ"
จ่าโอ กานดา มองเป็นห่วง

ระหว่างทางที่บุลินเดินมา ภาพความหลังและความผูกพันระหว่างเขากับแม่ชีก็เข้ามาในคววามคิด
แม่ชีกับบุลิน ตั้งแต่เด็ก ผ่านเข้ามาเรื่อยๆ
ตอนโต ที่แม่ชีสั่งสอนบุลิน
" ทุกอย่างบนโลกนี้ มีเกิดก็ต้องมีดับ มีวันได้พบก็ต้องมีวันจากเป็นธรรมดา"

ต่อมา บุลินเดินเข้ามาถึงที่รดนํ้าศพพอดีเห็นร่างแม่ชีนอนอยู่ นํ้าตาแทบร่วง
บุลินทรุดลงนั่งด้วยความปวดร้าว... ก้มกราบแม่ชี 1 ครั้ง
บุลินค่อยเอื้อมมือไปจับมือแม่ชีมา แล้วเอาแนบกับใบหน้าตัวเอง นํ้าตาร่วง
ตั้งโอ๋เข้ามาเห็นพอดี เศร้าไปด้วย

บุลินนํ้าตาหยด

อ่านต่อตอนที่ 21
กำลังโหลดความคิดเห็น